อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 6 วันที่ 18 มิ.ย. 56
วิรงรองต้องการสืบเรื่องคุณพลับพลึงให้กระจ่าง ตามไปขอกุญแจห้องเก็บของจากอุไรซึ่งเตือนไม่ให้ไปข้องแวะที่นั่นเพราะผีดุ วิรงรองไม่สนใจเรื่องผีจะเอากุญแจให้ได้ อุไรไม่ได้เป็นคนเก็บ ถ้าเธออยากได้ต้องไปขอจากท่านผู้หญิงสรรักษ์เอาเอง วิรงรองถึงกับกุมขมับ“เวรกรรม...แล้วกุญแจประตูเหล็กที่บันไดจะขึ้นไปยอดโดมล่ะ วิอยากไปดูว่ามีอะไรอยู่ข้างบนนั้น ยิ่งตอนนี้คู่จิ้นเขาไม่อยู่ด้วย” วิรงรองเห็นอุไรทำหน้างงๆ จึงอธิบายว่า “แหม คุณอดิศวร์กับคุณแสงแขไง ก็ท่านผู้หญิงท่านอยากจะให้ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน...โอกาสเป็นของเราแล้ว”
เสียทีที่ทำฮึดฮัดขัดขืน พอเอาเข้าจริง อุไรกลับพาวิรงรองมายังหน้าห้องเก็บของที่ทั้งมืดและเหม็นอับมีเพียงแสงสว่างเล็กน้อยที่ส่องผ่านกระจกสีขุ่นที่ผนังเหนือช่องหน้าต่างเข้ามาได้ ฝุ่นละอองทำให้วิรงรองจามเป็นระยะๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องห้องหนึ่งซึ่งใส่กุญแจแน่นหนา อุไรจัดแจงหันหลังจะกลับ วิรงรองคว้าแขนไว้ไม่ยอมให้ไป ต้องอยู่ช่วยเธอหาทางเข้าไปในห้องให้ได้เสียก่อน อุไรอ้างว่าไม่มีลูกกุญแจจะเข้าไปได้อย่างไร
“เข้าทางประตูไม่ได้ เราก็ต้องดูหน้าต่าง...เร็วๆ สิจ๊ะ ช่วยกันดูว่าพอจะมีทางไหนเข้าไปได้บ้าง” วิรงรองพูดจบเริ่มเดินสำรวจไปรอบๆ โดยมีอุไรตามติดด้วยสีหน้าหวาดหวั่น...
ขณะที่วิรงรองทำตัวเป็นนักสืบคดีคนหายอยู่หน้าห้องเก็บของ โอบเดินถือจดหมายที่บุรุษไปรษณีย์เพิ่งมาส่งเข้ามาในตัวตึก พลางหยิบซองจดหมายสีน้ำตาลขนาดใหญ่ขึ้นมาดู ยิ้มพอใจ เพราะจำลายมือพี่ชายซึ่งจ่าหน้าซองถึงอดิศวร์ได้ โอบรู้ดีว่าเป็นซองใส่รูปถ่ายที่อ๊อดแอบถ่ายวิรงรองกับอุษาตอนไปเที่ยวตลาดนัด...
วิรงรองหมดหวังจะเข้าไปในห้องเก็บของ ประตูหน้าต่างทุกบานปิดสนิทแน่นหนา เธอแนบหน้าตรงรอยแยกเล็กๆที่ข้างฝา แสงสว่างที่เล็ดรอดเข้าไปพอจะทำให้เห็นข้าวของที่อยู่ด้านในได้ พลันสายตาของวิรงรองเห็นเงาตะคุ่มๆของใครบางคนอยู่ตรงมุมมืดของห้อง อุไรชักใจไม่ดีดึงแขนเธอให้รีบออกไป แต่วิรงรองไม่ยอมขยับกลับส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ข้างใน แต่พอมองไปอีกทีร่างนั้นหายไปแล้ว อุไรถึงกับตาเหลือก
“คุณวิ...เชื่อป้าอุไร...ป้าขอร้อง...ไปกันเถอะค่ะ ได้โปรด” อุไรทำท่าจะร้องไห้ให้ได้ รีบลากวิรงรองกลับ
สักพัก อุไรลากแขนวิรงรองมาถึงห้องครัว ตั้งข้อสังเกตว่าประตูหน้าต่างห้องเก็บของปิดสนิทขนาดนั้นแล้วจะมีใครเข้าไปอยู่ได้อย่างไร วิรงรองสรุปถ้าไม่ใช่คุณพลับพลึงก็ต้องเป็นคุณผี ทันใดนั้นมีเสียงเอะอะดังขึ้น
“ผีเผออะไรที่ไหน ที่นี่ไม่มีผี กรุณาอย่ามาทำให้คนอื่นเขาสับสน” โอบยืนเท้าเอวว่าฉอดๆ วิรงรองไม่สนใจเสียงนกเสียงกา หันไปหัวเราะคิกคักกับอุไรก่อนจะพากันออกจากครัว โอบโกรธมาก หมายหัวไว้ให้ระวังตัวกันให้ดี จะเจอหัวเราะทีหลังดังกว่า วิรงรองชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ยี่หระแล้วเดินต่อไป...
วิรงรองทนเก็บเรื่องตื่นเต้นไว้คนเดียวไม่ไหว รีบโทร.ไปเล่าให้อนิรุทธิ์ฟัง เขาหาว่าเธอตาฝาด ห้องปิดตายแบบนั้นจะมีใครเข้าไปอยู่ได้อย่างไร วิรงรองยืนยันว่าเห็นการเคลื่อนไหวจริงๆ และต้องสืบรู้ให้ได้ว่าเป็นใครโดยไม่สนใจคำทัดทานของอนิรุทธิ์
ooooooo
แสงแขร้องไห้ฟูมฟายเข้ามาหาท่านผู้หญิงสรรักษ์ทั้งๆที่น่าจะมีความสุขเพราะเพิ่งกลับจากไปเที่ยว เธอฟ้องท่านว่าอดิศวร์ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ใกล้ชิด แถมพิณทองและพิชญ์คอยเป็นก้างขวางคออยู่ตลอด ท่านน่าจะบังคับให้หลานชายแต่งงานกับเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เขารักท่านมากไม่เคยขัดใจอะไรอยู่แล้ว
“ยกเว้นเรื่องนี้...หยุดร้องไห้ได้แล้ว ฉันเกลียดน้ำตาเพราะมันแสดงถึงความอ่อนแอ”
หญิงสาวผู้อ่อนวัยกว่าเข้ามากอดขาขอร้องให้ช่วยให้เธอสมหวังด้วย ท่านผู้หญิงก้มลงมากระซิบข้างหูแนะให้เธอหัดใช้มารยาหญิงเสียบ้าง แล้วกำชับว่าจะทำอะไรต้องให้แนบเนียน อย่าให้ใครจับได้...
เมื่ออดิศวร์ได้เห็นรูปถ่ายของวิรงรอง อุษา พันธ์สูรย์และภูไทจากผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย เขาสั่งให้อุไรไปตามตัววิรงรองมาพบที่ห้องทำงาน แล้วเล่นงานเธอยกใหญ่ที่เจ้ากี้เจ้าการเรื่องอุษากับพันธ์สูรย์ ทั้งสองคนมีปากเสียงกันรุนแรง วิรงรองต่อว่าเขากลับว่าจงใจสร้างเรื่องผีขึ้นมา อุตส่าห์ลงทุนแต่งตัวเป็นไฮโซสมัยโบราณนั่งรถม้ามาหยุดใต้หน้าต่างห้องเธอเพื่อให้เธอดูเหมือนคนบ้า
“คนอย่างฉันไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น เลิกนอกเรื่องเสียที ต่อไปนี้ฉันขอห้ามไม่ให้เธอยุ่งเกี่ยวกับอุษา ตัวเองอยากจะจับเจ้าภูไทก็ทำไป อย่าเอาอุษาไปบังหน้า” สิ้นเสียงเย้ยหยัน วิรงรองซึ่งโกรธจัดเงื้อมือจะตบอดิศวร์คว้าข้อมือไว้ทันแล้วรวบตัวเธอเข้ามากอด หญิงสาวสั่งให้ปล่อยเสียงสั่น
“คงนึกว่าฉันอยากจะกอด อยากจะจูบเธอนักล่ะสิ เข้าใจเสียใหม่ว่าฉันไม่ได้พิศวาสเธอเลยสักนิด” อดิศวร์ปล่อยวิรงรองอย่างไม่มีเยื่อใย “ไปได้แล้ว และก็อย่าทำอย่างนี้อีกเด็ดขาด”
วิรงรองน้ำตาคลอเบ้าทั้งโกรธทั้งอับอาย เดินหน้าเชิดคอตั้งออกไป...
ไม่ได้มีเพียงวิรงรองเท่านั้นที่โดนเล่นงาน อุษาก็โดนอดิศวร์ตำหนิอย่างหนักไม่แพ้กัน และยังกำชับว่าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เพราะจะทำให้เขาเสียใจมาก...
ฝ่ายแสงแขรู้ข่าวว่าวิรงรองถูกอดิศวร์เล่นงาน มาดักรอเยาะเย้ยถึงหน้าห้องพักของฝ่ายหลัง แต่กลับถูกวิรงรองด่าสวน จนเผ่นกลับไปแทบไม่ทัน...
คู่ของพิณทองกับพิชญ์กลัวจะน้อยหน้าคนอื่น คุยเล่นหัวกันอยู่ดีๆ เกิดมีปากเสียงกันขึ้นมา ประเด็นที่ถกเถียงกันหนีไม่พ้นเรื่องของวิรงรอง พิชญ์หมดความอดทนยกเลิกฮันนีมูน พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพฯจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราว พิณทองถึงกับน้ำตาร่วง วิ่งหนีเข้าตัวตึกสวนกับแสงแขซึ่งสบช่องใส่ความศัตรูหัวใจของตัวเองทันที
“นังวิรงรองเป็นต้นเหตุใช่ไหมคะ นังคนนี้จิตใจมันเป็นอย่างไรถึงได้ตั้งหน้าตั้งตาจะแย่งคนรักของคนอื่นเสียจริง มันจับปลาสองมือ อ่อยทั้งคุณลบแล้วก็คุณพิชญ์”
พิณทองฟังต่อไปไม่ไหวจ้ำพรวดๆจากไป แสงแขมองตาม ในสมองคิดแผนชั่วขึ้นมาได้ หรือว่าจะยุให้วิรงรองกลับไปจับคู่กับพิชญ์เพื่อให้อดิศวร์เป็นอิสระ...
ครู่ต่อมาพิณทองเข้าไปหาอดิศวร์ที่ห้องทำงาน บอกทั้งน้ำตาว่าพรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพฯ จะไปทำเรื่องหย่าขาดจากพิชญ์ อดิศวร์ถึงกับหน้าเครียด...
ทันทีที่รู้ข่าวพิณทองกับพิชญ์ คุณหญิงแก้วโทร.นัดคุณหญิงวัชรีมาปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี คุณหญิงวัชรีแนะให้ตามไปถล่มนังหน้าด้านนั่นถึงโดมทองกันเลยดีกว่า คุณหญิงแก้วเห็นดีด้วย รีบโทร.แจ้งอดิศวร์ว่าพรุ่งนี้จะไปที่นั่นให้เขาช่วยจัดเตรียมที่พักไว้ให้และให้จัดรถมารับที่สนามบินด้วย...
ดึกคืนเดียวกัน วิรงรองหมกมุ่นอยู่กับเรื่องห้องเก็บของจนเก็บเอาไปฝันว่าได้เข้าไปในนั้น เห็นมีผ้าดำคลุมอะไรบางอย่างลักษณะคล้ายกรอบรูปขนาดใหญ่เธอเอื้อมมือไปจับผ้าจะกระชากออกดู แต่มีมือผอมเกร็งมีเพียงหนังหุ้มกระดูกมาจับไหล่เธอไว้ วิรงรองหันขวับไปมอง ต้องตกใจกรีดร้องลั่นเมื่อเห็นผีพิศยืนแสยะยิ้มน่ากลัวอยู่ด้านหลัง เธอสะดุ้งเฮือกตกใจตื่น เหงื่อแตกพลั่ก มองไปรอบๆพบว่าตัวเองแค่ฝันไปเท่านั้น
“ป้าคนนั้นอีกแล้ว...แกเป็นใครกันแน่” วิรงรองพึมพำสีหน้าครุ่นคิด
ooooooo
อุไรถูกท่านผู้หญิงสรรักษ์เรียกตัวไปพบแต่เช้า เพราะแสงแขใส่ไฟว่าเดี๋ยวนี้เธอชอบไปสุมหัวอยู่กับนังพลับพลึง และยุให้ท่านไล่เธอออก ท่านผู้หญิงสรรักษ์ยังไม่ทันจะอ้าปากไล่อุไร
อดิศวร์เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน ถามว่ามีเรื่องอะไรกัน ได้ความว่าคุณย่ากำลังเล่นงานอุไรที่ไปข้องแวะกับนังพลับพลึงที่เขาพามา อดิศวร์ถอนใจเหนื่อยใจ ท่านผู้หญิงสรรักษ์เห็นพอดี ตัดพ้อด้วยความน้อยใจ
“นั่นลบรำคาญย่าหรือ”
“ถ้าตราบใดที่คุณย่ายังหมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องคุณย่าน้อย ตราบนั้นคุณย่าจะไม่มีความสุขเลย”
ท่านผู้หญิงสรรักษ์ปล่อยโฮ แก้ตัวว่าไม่ได้หมกมุ่น นังนั่นต่างหากที่มาคอยรังควานเธอ มันไม่ยอมปล่อย ให้เธอเป็นอิสระ มันจะแก้แค้นเธอ อดิศวร์หันไป พยักพเยิดเป็นทำนองให้อุไรกับแสงแขออกไปก่อน แล้วเดินมานั่งบนเตียง โอบกอดท่านไว้เพื่อปลอบใจ...
ด้านโอบซึ่งรอฟังข่าวดีอยู่หน้าห้องท่านผู้หญิงสรรักษ์แต่ต้องผิดหวังที่อุไรรอดจากการถูกไล่ออก...
อดิศวร์เป็นห่วงคุณย่ามากที่เอาแต่หมกหมุ่นอยู่กับอดีต พยายามเกลี้ยกล่อมให้ออกไปเที่ยวบ้าง ถ้าไม่อยากไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนาจะให้พาไปเที่ยวในตัวเมืองก็ได้ หรือจะให้เขาเข็นรถรถเข็นชมวิวในอาณาเขตโดมทองเผื่อท่านจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
“ขอบใจลูก ขอบใจที่จะพาย่าไปโน่นไปนี่ แต่ย่า เหมือนคนถูกสาปให้ติดอยู่ในนี้ ในโลกของย่า...ย่าเหนื่อยเหลือเกิน อยากจะนอนพัก ลบช่วยไปบอกอุษาให้เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนย่าหน่อย”
“ได้ครับ” อดิศวร์รับคำแล้วขยับหมอนให้เข้าที่ก่อนจะประคองคุณย่าลงนอน ท่านมองหน้าหลานชายกลับเห็นภาพซ้อนของท่านเจ้าคุณสรรักษ์ผู้เป็นสามีซ้อนขึ้นมาแทนที่
“เจ้าคุณพี่ ทำไมเจ้าคุณพี่ทรยศดิฉัน เสียแรง... ที่ดิฉันเฝ้าจงรักภักดี”ท่านผู้หญิงสรรักษ์เจ็บแค้นใจน้ำตาไหลพราก อดิศวร์ต้องเรียกท่านเพื่อเตือนสติว่านี่คือ หลานชายของท่านไม่ใช่เจ้าคุณปู่ ท่านผู้หญิงสรรักษ์ หลับตาลงแล้วโบกมือเชิงให้ออกไป อดิศวร์ดึงผ้าแพรมาห่มให้ รอจนคุณย่าสงบแล้ว จึงออกจากห้อง เจอโอบนั่งรออยู่กับแสงแข สั่งให้ไปตามอุษามาเฝ้าคุณย่า แสงแข อดถามไม่ได้ ว่าคุณย่าสั่งให้ไล่อุษาออกหรือเปล่า
“จะไม่มีการไล่ใครออกไปทั้งนั้น โดยเฉพาะคน เก่าคนแก่ของคุณแม่พี่อย่างอุไร”อดิศวร์ว่าแล้วผละจากไป แสงแขขบกรามแน่นที่แผนกำจัดอุไรพังไม่เป็นท่า ทางด้านอดิศวร์เดินสวนกับอุษาที่กำลังจะมาเฝ้าคุณย่า สั่งการให้เธอเพิ่มอาหารเย็นอีกสองถึงสามที่และช่วยจัดห้องพักทางปีกด้านโน้นเพิ่มอีกสองห้องด้วย...
สายวันเดียวกัน วิรงรองเห็นอดิศวร์กับหลานสาว และหลานเขยพากันขึ้นรถออกจากบ้าน ถือโอกาส โทร.ตามลานนาให้มารับไปเที่ยวที่บ้านของเธอ ลานนาทักว่าถ้าเกิดเจ้านายของเพื่อนรักรู้เข้าจะไม่โดนว่าหรือ
“เขาไม่มีสิทธิ์”วิรงรองเสียงเข้ม
“งั้นอีกสักครึ่งชั่งโมงออกมาเจอกันข้างนอกนะขี้เกียจเข้าไป คนที่นั่นหน้าตาไร้ชีวิตจิตใจยังกับผีดิบ”
ooooooo
ครู่ต่อมา วิรงรองในชุดกางเกงขาสั้นทะมัด ทะแมงเข้าไปบอกอุษาที่กำลังเตรียมอาหารให้ท่าน ผู้หญิงสรรักษ์อยู่ในครัวว่าจะไปบ้านลานนา ยังไม่ทันได้ อนุญาตอดิศวร์เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอยากไป ก็เลยมาขออนุญาตเธอแทน อุษาอึกอักลำบากใจ กลัวจะเกิดเรื่อง
“ไม่เป็นไรค่ะ วิจะบอกว่าวิไปเอง...ขากลับคงมี คนฝากดอกไม้สวยๆมาให้พี่อุษา” วิรงรองยิ้มหน้าทะเล้น ก่อนจะวิ่งปรู๊ดออกไป อุษาตะโกนไล่หลังว่าไม่ต้องเอามาให้ เธอทำเป็นหูทวนลม เร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเพราะใกล้ถึงเวลานัด ขณะกำลังจะออกจากคฤหาสน์ แสงแขเดินสวนมาพอดี เห็นวิรงรองนุ่งกางเกงขาสั้นกุดแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้ จิกกัดตามนิสัย คนอย่างวิรงรองไม่ยอมให้ถูก กระทำฝ่ายเดียวด่ากลับไปบ้าง เธอถึงกับเต้นผาง...
ที่หน้าประตูรั้วของคฤหาสน์ ลานนากับภูไทมา จอดรถรอได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่ไม่เห็นวิรงรองออกมาสักที หญิงสาวชะเง้อมองเข้าไปในบ้านที่มีแต่ต้นไม้ใหญ่ดูวังเวงชอบกล อดแขวะไม่ได้ว่าเหมือนปราสาทแดร็กคิวล่าอย่างที่เพื่อนรักของเธอว่าไว้จริงๆ จังหวะนั้น วิรงรองก้าวฉับๆตรงมาทางประตูรั้ว โดยมีนายสาม ตามมาเปิดประตูให้ ลานนาแอบนินทากับพี่ชายว่าคน ที่ตามมาเปิดประตูให้วิรงรองก็หน้าตาราวกับคนเฝ้าสุสาน ภูไทเอ็ดน้องสาวเบาๆว่าอย่าเสียมารยาท จากนั้นทั้งสาม คนก็พากันขึ้นรถออกไป...
ไม่นานนัก ภูไท ลานนาและวิรงรองมาถึงคุ้มภูไท พันธ์สูรย์ซึ่งนั่งจิบกาแฟรออยู่ รีบออกมาต้อนรับวิรงรอง แซวว่ามารอฟังข่าวพี่อุษาหรือเปล่า เขาถึงกับเขินหน้าแดง พูดอะไรไม่ออก
ลานนาหน้าสลดเพราะแอบมีใจให้พันธ์สูรย์ ภูไทเข้ามาโอบไหล่น้องสาวเป็นเชิงปลอบใจโดยที่วิรงรองไม่ทันสังเกตเห็น เพราะมัวแต่หันไปสนใจบัวคำคนรับ ใช้จอมซุ่มซ่ามประจำคุ้มที่ถือถาดใส่น้ำออกมาต้อนรับแขกแต่กลับสะดุดขาตัวเองถาดกับแก้วใส่น้ำกระเด็นไปคนละทิศละทาง ภูไทส่ายหน้าอย่างเอือมระอา...
ในระหว่างที่วิรงรองกำลังเที่ยวเล่นอยู่ที่คุ้มภูไทอย่างมีความสุข คุณหญิงวัชรี คุณหญิงแก้วและรัฐมนตรีพจน์ เดินทางมาถึงโดมทอง อากาศเย็นสบายและวิวทิวทัศน์ ที่สวยงามของที่นี่ทำให้แขกผู้มาเยือนเป็นปลื้มมาก จากนั้น พิณทองพาพ่อกับแม่ไปยังห้องพักที่จัดเตรียมไว้ คุยให้ฟังว่าที่นี่อากาศดีตลอดปีจึงไม่จำเป็นต้องติดแอร์ คุณหญิงแก้วทักท้วงว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง
“คุณย่าท่านรักที่นี่มากจนไม่ยอมให้อะไรมาเปลี่ยน แปลง ท่านต้องการจะหยุดเวลาในโดมทองไว้ ให้เหมือน เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นสาว เห็นไหมล่ะว่านอกจากไม่มีแอร์แล้ว ยังไม่มีทีวี โทรศัพท์หรือแม้กระทั่งนาฬิกา”
รัฐมนตรีพจน์ทักท้วงแล้วท่านไม่สังเกตเลยหรือว่าตัวเองแก่ลงทุกวันนั่นเท่ากับเวลาไม่ได้หยุดตามที่ท่านต้องการ คุณหญิงแก้วมองสามีอย่างหมั่นไส้ แนะให้ไปถามท่านเองก็แล้วกัน พิณทองบ่นว่าน่ากลัวจะตายไป
“นั่นน่ะสิ ตกกลางคืนคงวังเวงพิลึก”รัฐมนตรีพจน์เออออไปด้วยคิดว่าลูกหมายถึงสถานที่
“พิณหมายถึงคุณทวดค่ะ บ้านน่ากลัวก็จริงแต่ยัง มีมุมสวยๆมุมรื่นรมย์ แต่คุณทวด...พิณบอกไม่ถูก รู้แต่ว่า มีอะไรบางอย่างน่าที่น่ากลัวมาก”พิณทองสีหน้าหวาดๆจนคุณหญิงแก้วกับรัฐมนตรีพจน์อดแปลกใจไม่ได้...
ทางฝ่ายพิชญ์พาแม่ของเขาไปที่ห้องพักเช่นกัน ทันทีที่ประตูห้องปิด คุณหญิงวัชรีเล่นงานลูกชายอุตลุดฐานทำให้พิณทองเสียใจช้ำใจที่อุตส่าห์มาฮันนีมูนถึงนี่กลับโชคร้ายเจอแม่ดอกไม้ไร้ค่าตามมาเป็นมารอีก พิชญ์ยอมรับว่ายังตัดสินใจจากพลับพลึงหรือวิรงรองไม่ขาด อยู่ดีๆกลับมาพบเธอที่นี่โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
“แกก็เลยรื้อฟื้นความสัมพันธ์”
“ผมก็อยากจะทำอย่างนั้น แต่พลับพลึงเธอมีศักดิ์ศรีพอที่ไม่ยอมยุ่งกับผม”
“ก็เพราะมันมีที่หมายใหม่แล้วล่ะสิ อย่าโง่ไปหน่อย เลยพิชญ์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องศักดิ์ศรีอะไรหรอก แต่มันกำลังจะจับคุณลบ ลูกไม่เห็นหรือว่าคุณลบรวยขนาดไหน”คุณหญิงวัชรีใส่ร้ายวิรงรองหน้าตาเฉย พิชญ์ไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง เราสองคนคบกันมาหลายปี เธอไม่ใช่คนแบบนั้น...
คุณหญิงวัชรีไม่ได้เป็นคนเดียวที่ต้องการเหยียบย่ำวิรงรองให้จมดิน แสงแขก็กำลังใส่ไฟเธอให้อดิศวร์ฟังว่าพอเห็นเขาไม่อยู่ วิรงรองนุ่งกางเกงขาสั้นกุดออก ไป เที่ยวข้างนอกโดยไม่บอกกล่าว ทั้งๆที่ควรจะขออนุญาตเขาก่อน เธอเตือนด้วยความหวังดีกลับถูกด่าว่า อดิศวร์ขอบใจแสงแข มากที่มาบอก แล้วผลุนผลันออกจากบ้าน
ooooooo
อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 6 วันที่ 18 มิ.ย. 56
ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภาละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ