อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 2 วันที่ 11 มิ.ย. 56


อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 2 วันที่ 11 มิ.ย. 56

เป็นความจริงที่เหมือนฝันร้ายมาตลอดชีวิต... จ้าวซันจำฝังใจว่า เคยได้ยินมาทยาธรพี่ชายของพิริยเทพ

พ่อตนคุยกันเกี่ยวกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นน้องอายุน้อยกว่าแต่ได้เป็นเจ้าหลวงว่า

ที่พิริยเทพได้เป็นเจ้าหลวงเพราะโชคดีเกิดมาเป็นราชบุตรของพระเทวีเอก แต่ตนเกิดมาเป็นโอรสของ พระเทวีรองเลยไม่มีสิทธิ์ เยินยอว่าในความเป็นจริงพิริยเทพก็เก่งกว่าตนทุกอย่างเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าหลวงคีรีรัฐทุกประการ

“หม่อมฉันทำงานปกครองคีรีรัฐของเราได้ลุล่วง ทุกวันนี้ ก็เพราะมีเจ้าพี่ทรงประคับประคอง หม่อมฉันไม่สนใจ ถ้อยคำผู้ใดมากกว่าความรักของเราพี่น้อง” พิริยเทพเอ่ย


“ใช่แล้วๆ ความรักของเรายิ่งใหญ่กว่าอะไรทั้งหมดเราทุกคนคือพี่น้องกัน”

คำว่า “เราทุกคนคือพี่น้องกัน” ยังฝังใจน่านปิงในวัยเยาว์ และบาดลึกเป็นแผลใจตราบจนมาเป็นจ้าวซันวันนี้!

ส่วนศิขรนโรดมลูกชายของมาทยาธรนั้น เติบโตมาด้วยกันกับน่านปิง ทั้งสองรักและดูแลกัน จนวันหนึ่งชวนกันไปดูน้องสาว ลูกของอินปงกับจันทร์แรมราชองครักษ์ จันทร์แรมขอให้น่านปิงตั้งชื่อให้ลูกสาว น่านปิงจึงตั้งให้ว่า “ม่านฟ้า”และจันทร์แรมก็ถวายม่านฟ้าเป็นข้ารองพระบาทน่านปิงแต่นั้นมา

ทั้งน่านปิงและศิขรนโรดมเรียนมวยอยู่กับครูเฒ่า เช้าวันหนึ่ง ศิขรนโรดมวิ่งมาบอกครูเฒ่าว่าเจ้าหลวงเสด็จสวรรคตด้วยพระหทัยวายกะทันหัน ครูเฒ่าตอบด้วยเสียงแห้งโหยว่า “กระหม่อมทราบแล้ว” ศิขรนโรดมถามว่า

“ส่วนเจ้าพี่กับเสด็จน้าก็ถูกลักพาตัวไปด้วยจริงหรือเปล่าท่านครู” ครูเฒ่าพูดเนิบๆ ว่านั่นเป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างศิขรนโรดมกระวนกระวายใจ เป็นห่วงเจ้าพี่และเสด็จน้า เขาวิ่งไปตะโกนที่หน้าผา “น่านปิงนรเทพพพ พี่อยู่หนายยยยย”

อสุนีลูกชายของราชิดเป็นองครักษ์ของศิขรนโรดม ราชิดสืบการเคลื่อนไหวของน่านปิงจากอสุนี เมื่ออสุนี กลับมาก็ถามว่า วันนี้เสด็จไปไหนบ้าง? พวกเขาคุยเรื่องอะไรกันบ้างไหม? แต่อสุนีเลี่ยงไม่ตอบ บอกพ่อตรงๆว่า

“คุยหลายเรื่องแต่ลูกไม่ได้ยิน อีกอย่างลูกเป็น องครักษ์ ก่อนเป็นก็ดื่มน้ำสาบานแล้ว ความในไม่ให้นำออก ความนอกไม่ให้นำเข้า พ่ออย่ามาให้ลูกเสียสัตย์ไปด้วยเลย”

ราชิดด่าอสุนีว่าบังอาจสั่งสอนตน ถามว่าคิดว่าตนทำทุกอย่างนี่เพื่อใคร อสุนีตอบอย่างไม่ยี่หระว่า

“ขออย่าต้องทำเพื่อลูกเลย บ้านเมืองเราก็เจริญรุ่งเรืองดีอยู่แล้ว จะต้องให้มีการเลือดตกยางออกอีกทำไม องค์ชายก็เป็นคนดี”

อสุนีติงราชิดว่าสิ่งที่พ่อคิดนั้นถือเป็นกบฏ ราชิด

ท้าว่าใช่! ให้ไปตะโกนบอกใครๆเลย บ้านนี้มีแต่คนภักดีต่อตน ปรามว่า “อสุนี...เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังว่ามีลูกโง่”

“ลูกยอมโง่ดีกว่าทรยศต่อแผ่นดิน ลูกผู้ชายสาบานไปแล้วว่าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พ่อจะหาว่าลูกอกตัญญูก็ยอม”

ราชิดโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ลูกไม่ได้ดั่งใจ

ทั้งหมดนี้ ถิมิลาน้องสาวของอสุนีแอบฟังอยู่ เธอตกใจมากทำตัวลีบเล็กหลบอยู่หลังรูปปั้นแทบไม่กล้าหายใจ...

ooooooo

จ้าวซันซื้อบริษัทซื่อฉวนแฟชั่นที่กำลังจะล้มละลายไว้ เพราะครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของเต้ก่อนที่ฉินเจียงจะเกิดด้วยซ้ำ มันคือบริษัทที่เต้เคยใช้เป็นที่ก่อร่างสร้างตัวตอนหนุ่มๆ จ้าวซันไม่อยากให้มันถูกชำแหละเป็นเสี่ยงๆ จึงซื้อไว้

แต่ฉินเจียงไม่เห็นด้วยหาว่าจ้าวซันเอาเงินของฉินเย่ว์–กรุ๊ปไปซื้อจะทำให้บริษัทล่มจม และที่สำคัญหาว่าจ้าวซันไม่เคยปรึกษาตนเลย จ้าวซันยืนยันว่าตนแจ้งเรื่องนี้แก่ฉินเจียงทุกขั้นตอนด้วยช่องทางต่างๆ แต่ฉินเจียงไม่เคยสนใจที่จะรับรู้เองต่างหาก พอเอาหลักฐานมายืนยัน ฉินเจียงก็เถียงไม่ออก พาพรรคพวกพรวดพราดออกไป

ขณะนั้นเอง เต๋อเป่าก็มาพูดเบาๆว่า “เรื่องคุณชายฉินเจียง...ตอนนี้สายรายงานมาว่า...” เต๋อเป่าเข้าไปกระซิบเบามาก แต่จ้าวซันฟังหน้าเครียด รีบออกไปทันที

เวลาเดียวกัน บราลีอยากรู้ว่าจ้าวซันทำอาชีพอะไร เธอดั้นด้นไปหาจนเจอบริษัทฉินเย่ว์กรุ๊ป แต่พอเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ว่าจ้าวซันอยู่ชั้นไหน เจ้าหน้าที่เช็กแล้วบอกว่า “เลขาของท่านบอกว่าคุณไม่ได้นัดไว้”

“ค่ะ ไม่ได้นัดไว้ แค่อยากรู้ว่าคุณจ้าวซันนั่นทำงานอะไร เอ๊ย...ทำอยู่ชั้นไหน”

เจ้าหน้าที่มองอย่างระแวงแล้วหันไปกระซิบเป็นภาษาจีนกับเจ้าหน้าที่อีกคน ครู่เดียวบราลีก็ถูกยามมาเชิญออกไปจากตึก บราลีอารมณ์เสีย ทำให้ยิ่งอยากรู้ว่าจ้าวซันเป็นใคร ทำงานอะไร เดินไปที่ลานจอดรถเพื่อหารถของจ้าวซัน อาหลี่จำได้เข้ามาทัก บอกว่าวันนี้มาสเตอร์จ้าวซันเอารถคันนี้มาแต่เจ้าตัวไม่อยู่

บราลีทำเฉไฉบอกว่าที่มาก็แค่อยากมาเยี่ยมชมที่ทำงานของท่าน อยากเห็นท่านเวลาทำงานบ้าง แล้วอำว่า “เมื่อวานคุณชายจ้าวซันบอกฉันแล้วนะ เรื่องตำแหน่งงานของท่านแต่ฉันลืม ท่านทำอะไรที่นี่หรือจ๊ะ”

“ที่นี่เป็นตึกฉินเย่ว์กรุ๊ป ท่านเป็นกรรมการอยู่ใน เกือบทุกบริษัทบนตึกนี้ล่ะครับ”

บราลีตะล่อมถามอีกว่าแล้วตอนนี้ท่านไปไหน? อาหลี่บอกว่าไปโบสถ์ ก็ถามอีกว่าโบสถ์ไหน? พอรู้ว่าไปโบสถ์เซนท์สตีเว่น บราลีออกมาเรียกแท็กซี่ไปที่นั่นทันที

ooooooo

ที่สนามบาสเกตบอลอินดอร์....ฉินเจียงนัดขายอาวุธให้กับโกศินตัวแทนของพลเอกราชิดเพื่อเตรียมก่อกบฏ ถูกผู้กองเหลียงนำกำลังมาจับ แต่ทุกคนก็หนีรอดไปได้หมด

จ้าวซันยืนดูเหตุการณ์อยู่มุมหนึ่งบนสเตเดียมอย่างเศร้าใจ แล้วค่อยๆหลบออกไป เขาไปหาหลวงพ่อโจเซฟที่โบสถ์เซนท์สตีเว่น หลวงพ่อโจเซฟออกมารับและพาไปที่หลังโบสถ์

บราลีมาถึงโบสถ์พอดี มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครเลยเดินหาไปเรื่อยๆ...

“มีเรื่องที่ทำให้ช็อก” จ้าวซันเอ่ยกับหลวงพ่อ “ไม่ทราบว่าผมโชคดีหรือโชคร้าย ผมรู้ตัวพ่อค้าฮ่องกงคนที่ขายอาวุธให้พวกกบฏคีรีรัฐแล้วคือฉินเจียงน้องรองของผมเอง คนที่จะขายอาวุธให้พวกคนชั่วช้าไปใช้ก่อกบฏน้องชายของผมที่คีรีรัฐ ก็คือน้องชายของผมอีกคนที่ฮ่องกง!”

หลวงพ่อตบบ่าจ้าวซันเบาๆ อย่างเห็นใจ

ในโบสถ์ บราลีพยายามมองหาจ้าวซันแต่ไม่เห็น จึงเดินบ่นออกมา

“อีตาจ้าวซันหายตัวเพราะคงจะเข้าไปสารภาพบาปกับพระบาทหลวงแหงๆ สงสัยจะนานเพราะบาปเยอะ หึๆ” บราลีหัวเราะขำๆ แล้วนั่งรอที่มุมกระถางเชื่อว่าจ้าวซันต้องออกมาทางนี้แน่

ครู่เดียวก็เห็นจ้าวซันเดินออกมากับหลวงพ่อโจเซฟ บราลีรีบหลบ พอเห็นเขาเดินออกไปนอกกำแพงก็รีบวิ่งตามแต่ไม่เห็นเขาแล้ว จึงหยิบโทรศัพท์ออกมากดเรียกแท็กซี่ ระหว่างนั้นเอง มีขี้ยาสองคนเดินมาขอสตางค์

บราลีเดินหนี มันตามประกบหน้าประกบหลังอย่างมาดร้าย บราลีเห็นท่าไม่ดีผลักคนที่ดักหน้าแล้ววิ่งหนีสุดฝีเท้า

ขณะบราลีถูกขี้ยาไล่ทันจับเอามีดจี้นั่นเอง จ้าวซันนั่งรถผ่านมาเขาลงไปกระโดดเตะขี้ยาหงายหลังแล้วพาบราลีขึ้นรถหนีไป พอขึ้นรถเห็นหน้ากันชัดๆต่างอุทาน “คุณ!”

จ้าวซันดุบราลีว่ามาตามตนใช่ไหม? ตามทำไม? อยากรู้อะไรทำไมไม่ถาม? บราลีย้อนถามว่าถ้าตนถาม แล้วจะบอกไหม ถามว่าเขาไม่ใช่คนไทย แล้วมายุ่งกับตน มากมายต้องการอะไรจากตน คาดคั้นให้ตอบ จ้าวซันบอกว่า

“ผมตอบแน่แต่ไม่ใช่ตอนนี้เพราะมันยังไม่ถึงเวลา”

บราลีถามว่าเวลาอะไร? เมื่อไร? กี่โมง? เธอถามกวนจนจ้าวซันดุว่า

“นี่เมย..อย่ากวนประสาทให้มันมากนักถ้าโดนเข้าสักทีแล้วอย่าหาว่าพี่ร้าย...”จ้าวซันเผลออีกแล้ว! เลยถูกบราลีรุก ถามว่าใครคือเมย และเมื่อครู่นี้เขาก็เรียกตัวเองว่าพี่ ถามว่าเขาต้องการเล่นสงครามจิตวิทยากับตนใช่ไหม ลามปามไปถึงว่าเขาจะมาซื้อตนจากพ่อ ปรามาสว่าอย่าหวังเลย พ่อตนรวยมาก พ่อไม่สนเงินของเขาแน่

บราลีว่าเอา..ว่าเอา จนจ้าวซันฉุน จับตัวกดให้คว่ำลงแล้วตีก้นเพี้ยะๆสองที บราลีกระชากตัวออกด่าเขาว่าโรคจิตลามก แต่พอถูกจ้าวซันชี้หน้าสั่งให้หยุด ปรามว่าหรืออยากโดนอีก บราลีเลยนิ่งอึด จ้องเขาเป๋งสะบัดหน้านั่งคอแข็งเชิดหยิ่ง

จ้าวซันเห็นอากัปกิริยาเฮี้ยวๆนี้แล้วก็นึกขำ มองด้วยแววตาอ่อนลง

พอถึงโรงแรมเธอเปิดประตูรถวิ่งอ้าวเข้าโรงแรมไปเลย จ้าวซันนั่งมองจากในรถถอนใจเบาๆ

กลับเข้าห้องพักในโรงแรมแล้ว บราลีคลำสะโพก ที่ถูกจ้าวซันตบเมื่อครู่ ความทรงจำสมัยเด็กที่เคยถูกพี่น่านปิงตีก้นและดุแบบนี้ แวบขึ้นเลาๆทำให้เธอสับสนจนนอนไม่เป็นสุข

ooooooo

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 2 วันที่ 11 มิ.ย. 56

โดย บทประพันธ์โดย วราภา จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ปราณศักดิ์สวัสดิ์
กำกับการแสดงโดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ควบคุมการผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด
โดยผู้จัด : ธงชัย ประสงค์สันติ/มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ออกอากาศเริ่มตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย. 2556
ที่มา ไทยรัฐ