อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 8 วันที่ 30 มิ.ย. 56

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 8 วันที่ 30 มิ.ย. 56

“ภาษาอะไรกัน...” ผู้กองมองเมืองเทพกับจ้าวซันเอาสมุดบันทึกออกมาจดแล้วพึมพำกับตัวเอง “มีตัวละครเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้ว”

เย็นวันเดียวกัน ฉินเจียงในชุดสูทหรูเท่ ไปหาซูหลิงที่ร้านขายแอนทีค บอกให้เธอแต่งตัวเดี๋ยวจะไปงานคืนนี้ไม่ทัน

“ฉันจะไปเหรอ?? คุณช่วยอ่านแมสเสจที่ฉันส่งไปอีกทีนะว่าฉันตอบกลับไปว่ายังไง” ฉินเจียงไม่ตอบแต่ถามว่าตนจะรอครึ่งชั่วโมงคงแต่งตัวทันใช่ไหม “ฉันไม่มีวันไปงานเลี้ยงบ้าๆอะไรนั่นเด็ดขาด ฉันไม่อยากไปร่วมวงไพบูลย์กับพวกป่าเถื่อน บ้าสงคราม ปล่อยให้ฉันนั่งกินอาหารแช่แข็งอยู่บ้านคนเดียวยังจะดีเสียกว่า”


ซูหลิงเดินเลี่ยงจะเข้าข้างในบอกเขาว่า “ช่วยออกไป แล้วก็ล็อกประตูร้านให้ด้วย” พูดแล้วไม่ได้ยินเสียงฉินเจียง พอหันกลับมาเจอเขาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าแล้ว แหงนหน้ามองเว้าวอน...

“ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ผมสัญญา ผมจะไม่ทำ อะไรที่มันผิดกฎหมายอีก...เพื่อคุณ...เราจะมาเริ่มชีวิต ด้วยกันใหม่ ให้โอกาสผมได้ไหม” เห็นซูหลิงอึ้ง ฉินเจียง อ้อนวอน “ผมขาดคุณไม่ได้...ซูหลิง ผมจะเลิกทำทุกอย่างที่คุณไม่ชอบ ผมสัญญา แต่ว่า...คุณต้องแต่งงานกับผมก่อน”

ซูหลิงตะลึงอึ้ง น้ำตาเอ่อเต็มตา...

ooooooo

บราลีเห็นรูปและฟังฉินเจียงเป่าหูจนทั้งโกรธทั้งแค้นจ้าวซัน ถอดเครื่องประดับที่ผิงอันอุตส่าห์ช่วยติดให้ออกหมด เดินอ้าวออกไป ผิงอันตามขอร้องให้ใจเย็นๆ

“พอกันทีผิงอัน...ชาตินี้พี่จะไม่ขอยุ่งกับพี่ชายใหญ่ของเธออีกแล้ว ฝากคืนของพวกนี้ให้เขาด้วย” บราลีวางข้าวของที่เอามาไว้บนเตียง คว้ากระเป๋ามาสะพายทั้งที่ยังอยู่ในชุดประจำชาติคีรีรัฐจะออกไป ถูกผิงอันกั้นไว้ไม่ให้ออก จนอาม่าได้ยินเสียงถามว่าเอะอะอะไรกัน พอมาเห็นบราลีก็ร้อง

“อ้าว...คุณบราลีไม่ไปงานคืนนี้แล้วเหรอคะ”

“ไม่ไปแล้วอาม่า...อาม่าเห็นคุณชายจ้าวซันไหม” อาม่าถามว่าอยู่ในห้องไม่ใช่หรือ บราลีพุ่งไปที่ห้องปรากฏ ว่าไม่อยู่ อาม่ากับผิงอันตามมาอีก บราลีไม่สนใจมองลงไปเห็นอากงแหงนมองขึ้นมาพอดีเลยถาม “อากงคะ คุณชายจ้าวซันอยู่ที่ไหน” อากงบอกว่าเดี๋ยวคงกลับมาแล้ว “ออกไปข้างนอกเหรอคะ ไปที่ไหนพอจะทราบไหม”
“คุณชายน่าจะกำลังกลับมานะครับ เพราะคืนนี้มีงานเลี้ยงสำคัญต้องไป”

บราลีพยักหน้าแล้วเดินออกไป ผิงอันยังตามวอแว ถามว่าจะไปไหนตนจะไปด้วย ถูกอาม่าตามมารั้งไว้ บราลีเลยเดินออกไป อาม่ากับอากงหันมองหน้ากันแบบไม่รู้จะทำอย่างไร

เมืองเทพหรือภูสินทรขับรถพาจ้าวซันกลับมาถึงหน้าบ้านสี่ฤดู เมืองเทพนั่งพูดในรถกับจ้าวซัน...

“เรายังมีเรื่องสำคัญกว่ารออยู่ข้างหน้า คืนนี้ก็ยังไม่รู้ว่า องค์รัชทายาทจะทรงปลอดภัยหรือไม่ ส่วนเรื่องคนสนิทของฝ่าบาท ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภูสินทรคนนี้จัดการหาตัวคนร้ายเอง ไม่ต้องทรงเป็นห่วง”

“ขอบใจมาก ส่วนเรื่องงานคืนนี้...” จ้าวซันชะงักกึกเมื่อประตูเปิดผัวะแล้วบราลีก็เดินอ้าวออกมา จ้าวซันรีบลงจากรถไปถาม “บรี...จะไปไหน”

“ไปบ่อน...ที่มาเก๊า” บราลีกระชากเสียง จ้องหน้าจ้าวซัน แค้นจนตบหน้าเขาฉาดใหญ่ จ้าวซันหน้าหันแต่ไม่ว่าอะไร เมืองเทพพรวดเข้ามาจ้าวซันยกมือห้ามและชี้ให้ไปก่อน บราลีเอามือถือขึ้นมาเปิดรูปสัญญาที่ฉินเจียงส่งมาให้ดู พูดประชด “งง...งงเหรอ อ่านซะ แล้วช่วยบอกหน่อยว่าคุณทำแบบนี้กับพ่อฉันได้ยังไง...คุณหลอกให้พ่อฉันมาที่นี่ หลอกให้ท่านเล่นการพนัน แล้วก็ปล่อยให้ท่านมีหนี้สินมากมาย เพราะคุณมีเป้าหมายใช่ไหม?!”

จ้าวซันอึ้งเมื่อเห็นรูปสัญญายอมรับการหนี้บ่อน ที่มีลายเซ็นของสุริยะชัดเจน บราลีตะคอกถามว่าทีนี้จะแก้ตัวว่ายังไง จ้าวซันบอกว่าเธอเข้าใจผิด บราลียิ่งโมโห ตะโกนใส่หน้า

“ใช่...ฉันเข้าใจผิด เข้าใจผิดว่าคุณเป็นคนดี ฉันไม่น่าหลงเชื่อคุณเลย ที่แท้คุณมันก็พวกคนโรคจิต ทำทุกอย่างได้เพื่อสนองตัณหาตัวเอง”

จ้าวซันถามงงๆ ว่าตัณหาอะไร บราลีสาธยายความชั่ว ของเขาว่า เป็นพวกโรคจิตทำทุกอย่างเพื่อสนองตัณหาของตัวเอง หลอกให้พ่อตนเล่นการพนันจนเป็นหนี้มหาศาลเพื่อบีบพ่อให้ยกตนให้เขา จ้าวซันยืนยันว่าสุริยะเป็นนักพนันจริงๆ บราลีไม่เชื่อหาว่าเขาใส่ร้ายป้ายสีพ่อ เขาหลอกทำดีกับตนหลอกพ่อให้ตกเป็นทาสเขาพร้อมๆกัน ประณามว่า

“ช่างเป็นแผนซื้อใจผู้หญิงที่เนียนมากเลยนะ”

“พอเถอะ...หยุดพูด แล้วก็หยุดจินตนาการด้วย” พูดแล้วตรงเข้าจับแขนบราลีลากหัวทิ่มหัวตำเข้าบ้านไป พูดอย่างกดดันว่า “ความจริง...มันเหนือจริง...มากกว่าที่คุณคิดมากนัก”

“จะทำอะไรน่ะ...ปล่อยนะ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย” บราลีทั้งดิ้นทั้งร้องแต่ก็ถูกจ้าวซันลากเข้าไปจนได้

ผิงอันตกใจวิ่งมาขอร้องพี่ชายอย่าทำอะไรบราลี ทั้งอากง อาม่า และเมืองเทพต่างมองด้วยความเป็นห่วง จ้าวซันห้ามทุกคนอย่ามายุ่ง เรื่องนี้ตนจัดการเองได้ สั่งเมืองเทพให้รีบไปที่งานเดี๋ยวนี้ ส่วนบราลีก็ยังโวยวายไม่หยุด ตะโกนบอกให้ใครก็ได้ช่วยแจ้งตำรวจที แต่ไม่มีใครขยับ

ooooooo

จ้าวซันลากบราลีเหวี่ยงเข้าห้องแล้วรีบปิดประตูล็อกทันที บราลีตกใจมองตะลึงไม่เคยเห็นเขาดุดันเช่นนี้

“เอาล่ะ ทีนี้ตั้งสติ แล้วฟัง” จ้าวซันสั่ง บราลียังโวยวาย เลยถูกจับสองไหล่เขย่าอย่างแรง “หยุด!! บอกให้หยุด หยุดบ้าได้แล้วม่านฟ้า พี่ไม่ทำอะไรเธอหรอก ถ้าจะมีใครทำร้ายเธอ พี่คือคนสุดท้าย จงจำใส่ใจไว้ว่า เจ้าพี่ของเธอ คือคนที่รักเธอที่สุด”

บราลีมองหน้าจ้าวซันทำตาปริบๆพึมพำ “ม่านฟ้าเหรอ...เจ้าพี่เหรอ...” จ้าวซันมองหน้าบราลีเอ่ยแววตาเศร้า

“พี่ไม่รู้ว่า ระหว่างให้เธอไม่รู้ความจริง กับให้เธอรู้ทุกอย่าง อะไรที่จะทำให้เธอเกลียดพี่มากกว่ากัน...” เห็นบราลี สงบลง จ้าวซันบอกความจริงเธอสั้นๆแต่กระจ่างชัด “คุณแม่ผู้ให้กำเนิดเธอ เคยเป็นนางกำนัลคนสนิทของแม่ของพี่... พระเทวีศุลีมาน...ท่านชื่อจันทร์แรม ส่วนคุณพ่อเธอ เป็นราชองครักษ์ของเจ้าหลวงพีริยเทพ...เจ้าพ่อของพี่ ท่านชื่ออินปง”

บราลีตะลึงงันกับความจริงที่เธอเฝ้าสอบถามค้นหามาแสนนาน มันคือสายใยที่ทำให้เธอรู้ถึงชาติกำเนิดของตัวเอง

ooooooo

เหม่ยอิงในชุดราตรีดำโก้หรู สวมเครื่องเพชรของจ้าวไทไท รองเท้าส้นสูง เดินลงจากชั้นบนห้องเสริมสวยหรู มีพนักงานถือกระเป๋าใบใหญ่และถุงต่างๆตามมา

คุณนายหวังที่นั่งให้พนักงานปัดขนตาอยู่เหลือบมองอุทานว่างามสง่าราวกับราชินีแห่งอาณาจักรอะไรสักแห่ง คืนนี้ต่อให้มีเจ้าชายเจ้าหญิงมากันสักกี่องค์ ก็คงต้องพ่ายจ้าวเหม่ยอิงคนนี้แน่ เหม่ยอิงชมกลับไปว่า คุณนายหวังเองแต่งชุดนี้ก็ดูสูงศักดิ์ขึ้นมา ราวกับฮองเฮาของจักรพรรดิสักองค์ทีเดียว

ต่างปากหวานป้อยอกันแล้ว คุณนายหวังเห็นเครื่องเพชรที่เหม่ยอิงใส่ ทักว่านั่นมันเครื่องเพชรของจ้าวไทไทไม่ใช่หรือ มันคือเครื่องเพชรในตำนานที่คนฮ่องกงไม่ได้เห็นกับตามานานแล้ว งามจริงๆ ล้ำค่าที่สุด

“พี่ชายใหญ่ยกให้ฉัน” เหม่ยอิงปดหน้าตาเฉย คุณนาย หวังตาโตถามว่าจริงหรือ พูดอย่างผู้รู้ตำนานเพชรชุดนี้ว่า

“ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง เพราะมันหมายความว่า คุณชายจ้าวซันขอคุณแต่งงานแล้วนะคะ” เหม่ยอิงถามงงๆ ว่าอะไรนะ คุณนายหวังเล่าว่า “จ้าวฉินเย่ว์ขอจ้าวไทไทแต่งงานด้วยเครื่องเพชรชุดนี้ มันไม่ใช่ของพี่ให้น้องหรือของที่ใครจะยกให้ใครง่ายๆ นอกจาก...เขาจะยกเธอขึ้นเป็นไทไทของเขาน่ะสิคะ”

“โอ๊ว...นั่นมันของแน่อยู่แล้วล่ะ” เหม่ยอิงทำเป็นยิ้มในหน้าทั้งที่ตัวเองขโมยมาใส่แท้ๆ ขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เธอดูเบอร์แล้วชะงัก แต่ทำเป็นตื่นเต้นบอกคุณนายหวังว่า “ขอโทษนะคะ พี่ชายใหญ่โทร.มาเร่งฉันแล้ว” พูดแล้วรีบเดินห่างออกไป ทันทีที่กดรับสายเธอถามหน้าเครียด “เกาเฟย...ว่าไง”

เกาเฟยโทร.มารายงานว่า ตนนึกว่าเต๋อเป่าตายแล้ว แต่ที่จริงยังไม่ตาย ตอนนี้นอนเป็นผักเหี่ยวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ตนได้ริบโทรศัพท์ที่ถ่ายรูปเราไว้แล้ว

“บัดซบ! ถ้างานนี้ไม่จบ แกอย่าหวังว่าจะได้เงินก้อนสุดท้าย แค่นี้นะ” เหม่ยอิงกดปิดโทรศัพท์หน้าเครียด พอดีคุณนายหวังดี๊ด๊ามาบอกว่า ตนเสร็จแล้วชวนรีบไปงานกัน เห็นเหม่ยอิงหน้าเครียดถามว่ามีอะไรหรือ เหม่ยอิงฉีกยิ้มพูดอย่างอวดโอ่ว่า “พี่ชายใหญ่น่ะสิคะ งอน...หาว่าฉันไม่ยอม ไปงานพร้อมเธอ บ้าจริงๆพวกผู้ชายนี่ประสาทที่สุด เขาหึง... ถ้าฉันจะไปปรากฏตัวในงานก่อน แล้วจะไปโปรยเสน่ห์ใส่พวกผู้ชายที่นั่น” พูดแล้วทำเชิดระเหิดระหง ราวกับนางพญา

“แหม...คุณชายจ้าวซันนี่...น่ารักจริงๆนะคะ” คุณนายหวังหัวเราะคิกคัก เหม่ยอิงหัวเราะผสมโรงแต่แอบเครียด

ooooooo

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 8 วันที่ 30 มิ.ย. 56

โดย บทประพันธ์โดย วราภา จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ปราณศักดิ์สวัสดิ์
กำกับการแสดงโดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ควบคุมการผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด
โดยผู้จัด : ธงชัย ประสงค์สันติ/มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ออกอากาศเริ่มตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย. 2556
ที่มา ไทยรัฐ