อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 2-3 วันที่ 21 มิ.ย. 56

อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 2

“รถจอดอยู่ข้างบน ไปทางบันไดนะ”

ไอริณพยักหน้าเซ็งๆ มองเพื่อนสาวว่าหวาดระแวงเกินเหตุ แถมณัฐชายังหยิบปืนที่ซ่อนไว้ตรงข้อเท้าส่งให้ไอริณอีกด้วย บอกเพื่อนให้พกติดตัวไว้ จากนั้นเธอเดินนำลิ่วไปที่ลานจอดรถ

“เดินช้าๆก็ได้ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรหรอก”

“เธอยังไม่รู้จักไอ้มาวิน ต่อให้มันเป็นหมาก็ไม่ เหมือนหมาตัวอื่น ถ้าเห่าเสร็จเมื่อไหร่ มันกัดเมื่อนั้น”


“แต่ฉันว่า...” ไอริณชะงักเมื่อเหลือบเห็นอะไรบางอย่าง ณัฐชามองตามไปจึงเห็นชายฉกรรจ์สวมไอ้โม่งคลุมหน้าโผล่มาจากที่ซ่อนตามจุดต่างๆจนล้อมกรอบทั่วทิศทาง พวกมันถือมีดไม้ครบมือ

“ไปที่รถไอริณ...ไปเร็ว” ณัฐชาตะโกนลั่น...ไอริณเลิ่กลั่กอยู่ชั่วครู่ก่อนวิ่งไปตามคำสั่ง

ณัฐชาคุ้มกันให้ไอริณวิ่งหนีไปถึงรถที่จอดบนชั้น 3 แต่พวกไอ้แหลมก็ตามเธอไม่ลดละ ขนาดเธอหลบเข้ารถได้แล้วพวกมันก็ยังพยายามทุบกระจกจะเอาตัวเธอออกมาให้ได้

ไอริณกลัวมาก แม้กระจกรถเป็นชนิดกันกระสุนแต่ตอนนี้ก็ถูกมันทุบจนร้าวแล้ว ส่วนณัฐชาก็ยังต่อสู้อยู่กับสมุนของมาวินอีกทาง

ในขณะสองสาวตกอยู่ในภาวะคับขัน ฤทธิ์เข้ามาช่วยเหลืออย่างเก่งกล้าและสามารถทำให้สมุนของไอ้แหลมแตกกระเจิงกันไปในที่สุด ส่วนไอ้แหลมที่วิ่งหางจุกตูดไปทีหลังจำหน้าฤทธิ์ได้ถึงกับร้องลั่นว่าผีหลอก เพราะเข้าใจว่าฤทธิ์ตายแล้วด้วยฝีมือแก๊งเฮียปาร์ก

เสียงปืนสงบลง ณัฐชาวิ่งขึ้นมายังลานจอดรถชั้น 3 เห็นผู้ชายยืนหันอยู่กับไอริณก็รีบเอาปืนจ่อโดยไม่สนว่าเขาเป็นใคร “ยกมือขึ้น แกถูกจับแล้วไอ้พวกมาเฟีย”

ฤทธิ์ชูมือขึ้นอย่างใจเย็น ไอริณรีบอธิบายกับเพื่อนสาวว่า เขาช่วยตนเอาไว้ เขาคือคุณโทมัสที่เราเจอในฟิตเนส ณัฐชาชะงักเล็กน้อย มองหน้าเขาชัดๆก่อนอุทานออกมาอย่างมั่นใจ

“ฉันจำแกได้แล้ว แกคือแฟนของใจทิพย์”

ทั้งฤทธิ์และไอริณต่างนิ่งอึ้งตะลึงงัน!

ooooooo

อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 3

วันเดียวกันที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ จ่าไมตรีกับหมู่ปรีดาหารือกันอย่างเคร่งเครียด ขณะที่ผู้กองราเมศเพิ่งมาถึง พอรู้ว่าศพหายก็แปลกใจ สั่งลูกน้องไปค้นหา ส่วนตัวเองรีบเช็กภาพจากกล้องวงจรปิดเผื่อจะเห็นว่าใครมาลักศพไปกลางวันแสกๆ

แต่หัวหน้า รปภ.ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ บริเวณนั้นมีคนของตนเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง ถ้ามีคนร้ายบุกเข้าไปขโมยศพจริงๆก็ต้องมีคนเห็น

ผู้กองราเมศไม่สนใจ กรอเทปดูต่อไปเรื่อยๆจน สะดุดตาเข้ากับสามคนร้ายที่ถูกฤทธิ์ฆ่าตาย มันทยอยกันเดินโงนเงนโซเซออกจากห้องดับจิต สภาพไม่ต่างจากผีดิบ!

แล้วครู่ต่อมา จ่าไมตรีกับหมู่ปรีดาที่ไปตามหาศพตามคำสั่งผู้กองราเมศก็เจอผีดิบทั้งสามนี้ เข้าจังๆ ทั้งคู่โกยแน่บกลับมาหาผู้กอง รายงานปากคอสั่นว่าคนร้ายฟื้นขึ้นมาและกลายเป็นผีดิบ

พูดไม่ทันขาดคำ ศพทั้งสามเดินตรงมา ผู้กอง ตัดสินใจยิงปืนใส่พวกมันหลายนัดแต่ก็ไม่ระคายผิว ศพทั้งสามยังเดินเข้าใส่จนตำรวจต้องหลบหลีกกันจ้าละหวั่น แล้วผู้กองราเมศก็ลองใหม่อีกครั้ง เปลี่ยนเป้าหมายมาเล็งที่หัวของพวกมัน ลั่นไกสามนัดซ้อน ผีดิบทั้งสามถึงกับร่วงผล็อย

เวลาเดียวกันที่ออฟฟิศกอง ปราบ ณัฐชาเพิ่งสั่งงานตำรวจในเครื่องแบบรายหนึ่งและกำลังจะกลับไปที่ห้องสอบสวน แต่แล้วไอริณที่นั่งรออยู่ก็รีบเข้ามาสอบถาม

“นี่เธอจะทำอะไรกันแน่ณัฐชา ผู้ชายคนนั้นเขาช่วยฉันเอาไว้นะ”

“ฉันรู้แต่ฉันจำไม่ผิดแน่ เขาคือคนรักของใจทิพย์ คนที่ทำให้ใจทิพย์หายสาบสูญไป”

“แล้วเธอจะทำอะไรเขา”

“ฉันจะเค้นความจริงจากเขา ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจทิพย์”

ฤทธิ์ นั่งรออยู่ภายในห้องสอบสวน ณัฐชาเข้ามาพร้อมแก้วน้ำ ส่งให้เขาพร้อมกับเรียกชื่อผู้หมวดฤทธิ์ ราวี แต่ฤทธิ์ไม่หลงกลตอบรับ ยืนยันว่าตนชื่อโทมัส เป็นหลานชายของมาดามหลิว

“ให้การเท็จมีโทษหนักนะผู้หมวด ไม่ว่าคุณจะโกหกยังไงแต่ลายนิ้วมือคุณมันไม่มีทางโกหกเหมือนคุณแน่”

ฤทธิ์พยักหน้ารับทราบ แต่แล้วชะงักเมื่อเธอจู่โจมจับข้อมือเขาพร้อมกับยิงคำถามอยากรู้ว่าใจทิพย์หายไปไหน ฤทธิ์ไม่ตอบแต่มองที่มือเธอ

“นี่อะไร เครื่องจับเท็จเหรอ”

“ชีพจรคนเราส่วนใหญ่เต้นถี่ขึ้นเสมอ เวลาพูดโกหก”

“คุณตำรวจ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดถึงใคร แต่ที่แน่ๆ ผมไม่ใช่ฤทธิ์ ราวี”

“ฟังนะไอ้ตัวแสบ อีกเดี๋ยวคนของฉันจะโทร.เข้ามาในห้องนี้ทันทีที่เขารู้ผลการพิสูจน์ลายนิ้ว มือว่านายเป็นใครกันแน่ ถึงตอนนั้นแกเตรียมตัวเจอข้อหาฆาตกรรมได้เลย”

“ต่อให้ผมเป็นฤทธิ์ ราวี คุณก็ไม่มีสิทธิ์ดำเนินคดีกับผมในเมื่อคุณยังไม่มีหลักฐานด้วยซ้ำว่าใจทิพย์ตายจริงรึเปล่า”

ณัฐชาจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจ ทันใดโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น เธอกดรับแล้วหน้าเจื่อน เพราะปลายสายคือลูกน้องผู้กองราเมศที่แจ้งเข้ามาว่าผู้ชายคนที่เธอจับมาคือ มิสเตอร์โทมัส หลานชายของมาดามหลิว เจ้าของบริษัทผลิตยาบลูฟินิกซ์ฟาร์ม่า

ที่แท้ โซเฟียมาพบผู้กองราเมศอยู่อีกห้อง ราเมศเพิ่งกลับจากโรงพยาบาลตำรวจพร้อมจ่าไมตรีกับหมู่ปรีดา หลังเผชิญหน้ากับผีดิบมาด้วยกัน ซึ่งผู้กองกำชับลูกน้องห้ามพูดเรื่องนี้กับใคร เพราะกลัวคนจะหาว่าพวกตนเพี้ยน

หลังจากโซเฟียมาเจรจาผู้กองราเมศก็สั่ง ณัฐชาปล่อยโทมัสไป แล้วเอ็ดลูกน้องสาวว่าสติดีอยู่หรือเปล่า ผู้ชายคนนั้นช่วยไอริณไว้แต่เธอดันไปปรักปรำเขาเป็นคนร้าย

“ก็เขาหน้าเหมือนคนร้ายจริงๆนี่คะผู้กอง”

“ผู้หมวดฤทธิ์ ราวี ผมเคยเห็นรูปเขาแล้ว หมอนั่นมีแผลเป็นที่หน้า”

“นายโทมัสอาจจะทำศัลยกรรมมาก็ได้นี่คะ”

“แต่เราไม่มีข้อมูลเรื่องนั้น ที่สำคัญผลการพิสูจน์ลายนิ้วมือก็ออกมาแล้วว่าเขาเป็นใคร มาดามหลิวรวยมากนะ ทีมทนายของเขาน่ะใหญ่กว่าทีมฟุตบอลซะอีก”

“แล้วผู้กองจะให้ฉันทำยังไงคะ”

“ผมอยากให้คุณไปขอขมาเขา”

ณัฐชาหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที...ขณะ เดียวกัน โซเฟียกับชาญพาฤทธิ์กลับถึงบริษัทมาดามหลิวแล้ว ฤทธิ์ตั้งท่าจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่มาดามหลิวชิงพูดเสียก่อนว่า

“ณัฐชากับไอริณเป็นเพื่อนรักของใจทิพย์ ชาญบอกฉันหมดแล้ว ความผูกพันจะทำให้เธอยุ่งยากนะโทมัส เชื่อฉันเถอะ”

“สองคนนั่นไม่เกี่ยวกับภารกิจของเรา ผมก็แค่ อยากรู้เรื่องของใจทิพย์จากพวกเขา”

“แล้วถ้าฉันบอกว่าเกี่ยวล่ะ”

“มาดามได้เบาะแสมาว่าบางทีท่านนำชัยอาจเป็นสมาชิกของพรายพิฆาต”

ข้อมูลของชาญทำให้ฤทธิ์ถึงกับอึ้งไป เพราะทราบดีว่าไอริณเป็นลูกสาวของนายนำชัยนักการเมืองใหญ่...

ค่ำนั้นเอง นำชัยมาพบบอสที่อาคารร้างแห่งเดิมตามลำพัง นำชัยท่าทีหงุดหงิดไม่พอใจเรื่องไอริณถูกมาเฟียคุกคาม

“ไหนคุณบอกว่าพรายพิฆาตจะปกป้องสมาชิกขององค์กรเหมือนพี่น้อง ไอ้มาเฟียนั่นมันรังแกลูกสาวผม ทำไมคุณไม่จัดการกับมัน”

“ใจเย็นๆคุณนำชัย ตำรวจกำลังจัดการเรื่องนี้ ถ้าเราเข้าไปยุ่งคนอื่นอาจสงสัยเบื้องหลังของคุณก็ได้ แล้วที่สำคัญเรากำลังเจอปัญหาใหญ่ ทั้งเรื่องการทดลองคืนชีพที่ล้มเหลว และเรื่องมือสังหารที่ใช้ดาบคู่เป็นอาวุธ”

“มือสังหาร ตกลงมันมีจริงเหรอ”

“มันอยู่ใกล้เรามากกว่าที่คิด แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะให้คนของผมติดตามคุณ เชื่อว่าเขาจะต้องรับมือ กับมันได้”

นำชัยท่าทีผ่อนคลายลง แต่แล้วต้องตกใจจู่ๆบอสก็หายตัวไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว...

คืนเดียวกัน ณัฐชานำกำลังตำรวจบุกจู่โจมภัตตาคารดอกบัวแล้วจับนักเที่ยวตรวจปัสสาวะหาสาร เสพติด แถมเธอยังระห่ำบุกเข้าถึงห้องทำงานของมาวิน ใช้ปืนฟาดหัวมันจนคว่ำ แล้วสำทับเสียงเขียว

“ถึงไม่มีหลักฐานแต่ฉันก็รู้ว่าเป็นแก ไอ้มาวิน ฟังให้ดีนะ ถ้าแกยุ่งกับไอริณอีกล่ะก็ ฉันเอาแกตายแน่”

“รักเพื่อนเหลือเกินคุณตำรวจ แต่ข่มขู่กันแบบนี้ มันผิดกฎหมายนะ”

“ฉันรู้ แต่เดนมนุษย์อย่างแก มันต้องพูดกันด้วยวิธีนี้” ณัฐชาเอาจริง มาวินมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความแค้น

ooooooo

องค์กรพรายพิฆาตส่งกรณ์มาเป็นบอดี้การ์ดให้นำชัยและไอริณก่อนจะพากันไปร่วมงานเลี้ยงครบรอบ 30 ปีของบริษัทบลูฟินิกซ์ฟาร์ม่าของมาดามหลิว สองพ่อลูกไม่รู้ข้อมูลอื่นใดของกรณ์นอกจากเป็นอดีตนายทหารจากหน่วยรบพิเศษ

กรณ์เป็นอดีตเพื่อนสนิทของฤทธิ์แต่ปัจจุบันกลายเป็นศัตรูกันเพียงเพราะฤทธิ์ไม่ยอมร่วมมือกับพวกพรายพิฆาต และกรณ์นี่เองที่อยู่เบื้องหลังการตายของใจทิพย์แฟนสาวของฤทธิ์

ค่ำคืนงานเลี้ยงที่บริษัทมาดามหลิว ณัฐชามาพร้อมกับคณะของท่านนำชัย เธอใส่ชุดราตรีสวยหวานสลัดคราบตำรวจหญิงแกร่งจนหมดสิ้น หลายคนเห็นแล้วตะลึง โดยเฉพาะจ่าไมตรีกับหมู่ปรีดาถึงกับแซวเธอไม่หยุด

ด้านมาวินรู้จากแหลมว่าฤทธิ์เป็นศัตรูของพรายพิฆาต ดังนั้นงานเลี้ยงคืนนี้เขาจึงวางแผนแยบยลส่งคนไปป่วนในงานแล้วตั้งใจโยนความผิดให้พรายพิฆาต มาดามหลิวเองก็มีแผนปิดบังตัวตนแท้จริงของฤทธิ์ ราวี โดยเธอแนะนำเขาในนามโทมัสหลานชายบุญธรรม
ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของบริษัท

นำชัยแปลกใจเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่ามาดามหลิวมีหลานชาย ขณะที่ไอริณออกอาการปลื้มโทมัสออกนอกหน้าหลังจากได้รับการช่วยเหลือจากเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ส่วนกรณ์จับสังเกตโทมัสอย่างหนัก ไม่ค่อยเชื่อนักว่าเขาคือหลานชายของมาดามหลิวจริงๆ

ในงานเลี้ยง มาดามหลิวแอบกระซิบเตือนฤทธิ์ว่ามีแขกหลายคนสงสัยว่าเขาเป็นพรายพิฆาต ดังนั้นเขาอาจจะได้เจอกับศัตรูเก่าบางคน แต่งานนี้สิ่งที่เราต้องการคือสอดแนมไม่ใช่ล้างแค้น เธออยากให้เขาอดทนเข้าไว้ ฤทธิ์ทำตามคำเตือนของเธอด้วยการหลบออกมายืนสงบสติอารมณ์แค้นที่มีต่อกรณ์ ช่วงนี้เองไอริณตามมาชวนคุย ฤทธิ์ทำกรุ้มกริ่มใส่หญิงสาวพร้อมกับสานสัมพันธ์ระหว่างกัน แต่จู่ๆณัฐชาก็เข้ามาขัดจังหวะ บอกว่าผู้กองราเมศให้ตนมาคุยธุระกับโทมัส ไอริณเลยต้องเปิดทาง

เมื่ออยู่กันตามลำพัง ณัฐชาจำใจขอโทษชายหนุ่มตามคำสั่งของราเมศเรื่องที่เธอวู่วามปรักปรำเขาเป็นคนร้ายทั้งที่เขาช่วยไอริณเอาไว้

“คุณขอโทษ...แต่คุณไม่เชื่อว่าผมคือผู้บริสุทธิ์?”

“ใช่ ฉันไม่เชื่อคุณ ฉันมั่นใจว่าคุณต้องรู้จักกับใจทิพย์ และคุณก็ไม่ใช่คนดี”

“คุณมีหลักฐานอะไร นอกจากหน้าผมที่เหมือนกับคนชื่อฤทธิ์”

“ฉันเป็นตำรวจ สัญชาตญาณมันบอกฉัน ขอเตือนคุณไว้ก่อน อยู่ห่างๆไอริณเข้าไว้ ฉันเสียใจทิพย์ไปคนนึงแล้ว และฉันจะไม่ยอมเสียไอริณไปอีกคนแน่”

ท่าทางเอาจริงของณัฐชากลับทำให้ฤทธิ์รู้สึกประทับใจว่าหญิงสาวคนนี้แกร่งกล้ากว่าที่คิด เขายิ้มและชูแก้วเครื่องดื่มในมือก่อนดื่มให้กับความห้าวของเธอ มาดของเขายียวนกวนประสาทหญิงสาวอย่างที่สุด

เวลานั้นเอง แผนป่วนงานเลี้ยงโดยลูกน้องของมาวินเริ่มขึ้นแล้ว พวกมันยกโขยงมาด้วยมอเตอร์ไซค์ ทำให้ทีม รปภ.บริษัทมาดามหลิววุ่นวายสกัดไม่ไหวต้องเรียกกำลังเสริมมาจัดการกับเหตุฉุกเฉิน โดยโซเฟียให้ชาญลงไปควบคุมด้วยตัวเอง แต่แล้วคนของมาวินสองคนก็หลุดรอดขึ้นมาถึงในงานพร้อมกล่องของขวัญ พอเปิดกล่องออกต่อหน้าแขกเหรื่อ ทั้งสองคนก็หยิบปืนกลเล็กออกมากราดยิงพร้อมกับประกาศก้อง

“พรายพิฆาตจงเจริญ!”

เสียงปืนทำให้เกิดความโกลาหลทันที ผู้คนกรีดร้องวิ่งหนีตาย ผู้กองราเมศสั่งจ่าไมตรีกับหมู่ปรีดาคุ้มกันท่านนำชัยกับไอริณ ส่วนกรณ์ก็ปักหลักช่วยราเมศยิงคุ้มกันและยืนยันว่าการกระทำครั้งนี้ไม่ใช่พรายพิฆาต มันเป็นตัวปลอม

“คุณรู้ได้ยังไง” ราเมศซัก

“พวกมันกราดยิงเปะปะ แสดงว่าต้องการแค่ก่อกวน คุณคิดว่าพรายพิฆาตจะเสียเวลามาทำเรื่องแบบนี้เหรอ”

ราเมศชะงักอย่างเอะใจตามคำพูดกรณ์ เห็นคนร้ายมีเจตนากราดยิงแบบไม่หวังชีวิตใคร...ฝ่ายฤทธิ์กับณัฐชาเพิ่งกลับเข้ามาในงานและเห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ฤทธิ์สั่งโซเฟียพามาดามหลิวหลบขึ้นข้างบน เขาจะจัดการกับพวกนี้เอง แต่โซเฟียท้วงว่ามันไม่ใช่พรายพิฆาต ควรปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจ

ฤทธิ์สบตามาดามหลิวเหมือนจะเชื่อฟังแต่อึดใจต่อมาเขาก็ผละจากไปโดยที่ใครก็ห้ามไม่ทัน ฤทธิ์ในคราบของนักสู้มหากาฬใส่หน้ากากพรางใบหน้าตามมาช่วยณัฐชาที่บ้าระห่ำขับรถตามแก๊งมอเตอร์ไซค์ลูกน้องมาวินออกไป เธอเกือบเอาชีวิตมาทิ้งถ้าไม่ได้เขาช่วยไว้อย่างทันท่วงที

ณัฐชาอยู่ในสภาพหมดสติ ส่วนแก๊งมอเตอร์ไซค์เผ่นหนีนักสู้มหากาฬอุตลุด บางคนได้รับบาดเจ็บและส่วนใหญ่ถึงตาย แต่มาวินก็สะใจเมื่อไอ้แหลมกลับมารายงานผลว่าป่วนในงานเลี้ยงสำเร็จ

“ฮ่าๆๆ สุดยอดโว้ยไอ้แหลม เอ็งนี่มันแน่จริงๆ สั่งอะไรได้ตามนั้นทุกอย่าง งานนี้พวกเราลอยชายส่วนพรายพิฆาตกลายเป็นแพะรับบาป”

“ระดับผมไม่เคยพลาดอยู่แล้วครับคุณมาวิน เอ่อ แต่ว่ามันจะดีเหรอครับ ที่พวกเราสวมรอยเป็นพรายพิฆาตแบบนี้ ถ้าเกิดพวกมันเอาเรื่องขึ้นมา”

“เฮ้ย...เหลวไหล พรายพิฆาตมีจริงที่ไหนกันวะ มันก็แค่นิทานหลอกเด็กเท่านั้นเอง เอ็งอย่าปอดแหกไปหน่อยเลย” เขาพูดไม่ทันขาดคำระบบไฟในภัตตาคารก็ดับวูบลง ก่อนที่ไฟฉุกเฉินจะทำงานพร้อมกับเสียงหัวเราะของบอส

“ฮ่าๆๆ นิทานหลอกเด็กส่วนใหญ่ก็มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง ไม่เคยรู้หรือไงคุณมาวิน”

“ใครวะ นั่นใคร”

“พรายพิฆาต ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะของผู้มาเยือนสั่นสะเทือนราวกับภูติผี ไอ้แหลมถึงกับร้องลั่นว่าพวกเราซวยแล้ว แต่มาวินยังไม่เชื่อ ร้องท้าให้โผล่หัวออกมา

บอสไม่ปรากฏตัว มีแต่เสียงหัวเราะที่ดังกึกก้อง ทำเอามาวินชักหนาว สั่งไอ้แหลมกับสมุนคอยเฝ้าข้างล่าง ส่วนตนจะไปตั้งหลักที่ออฟฟิศเพราะไม่อยากเสี่ยง แต่แล้วมาวินก็หนีไม่พ้น บอสปรากฏตัวในสภาพพรางหน้าตาพร้อมวางอำนาจข่มขู่ด้วยดาบคมกริบจนมาวิน
กลัวหงอร้องขอชีวิตตัวเนื้อสั่น

“พรายพิฆาตไม่เคยไว้ชีวิตใครนอกจากสาวกกับสหาย”

“ได้ๆ ฉันเป็น...เป็นได้ทุกอย่าง เป็นเพื่อนเป็นสาวก เป็นทาสของพวกแกก็ได้ แต่อย่าฆ่าฉันเลย”

“ฉันมีข้อเสนอที่ดีกว่านั้น ถ้าแกยอมรับ แกจะได้ทุกอย่างแม้แต่ความเป็นนายใหญ่ในองค์กรของแก”

มาวินกลอกตามองผู้ทรงอำนาจภายใต้เสื้อแจ็กเกตที่มีฮู้ดคลุมศีรษะนั้น ดวงตาของเขาเรืองแสงวาววับอยู่ในความมืดราวกับปีศาจ!

ด้านคณะของผู้กองราเมศที่ออกมาเคลียร์พื้นที่หลังเกิดเหตุนักสู้มหากาฬปะทะกับแก๊งมอเตอร์ไซค์ ผู้กองกวาดตามองที่เกิดเหตุอย่างเคร่งเครียด ก่อนที่หมู่กับจ่าจะเข้ามารายงานว่าพวกคนร้ายตายเกลี้ยงแต่ไม่พบเบาะแสของหมวดณัฐชา โทรศัพท์มือถือก็เช็กตำแหน่งไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะปิดเครื่อง

ราเมศเป็นห่วงลูกน้องสาว โดยไม่รู้ว่าเวลานี้เธอนอนอยู่ที่ห้องพักภายในคอนโดฯ โดยมีนักสู้มหากาฬนั่งเฝ้าข้างเตียง...ทันทีที่เธอปรือตาเห็นเขาก็ตกใจรีบพุ่งไปคว้าปืน แต่ทว่ากลับคว้าไม่ถึงเพราะข้อมืออีกข้างของเธอถูกกุญแจมือล่ามไว้กับเตียง แถมซิมการ์ดก็ถูกถอดออกจากเครื่องวางอยู่บนโต๊ะ

“นี่คุณ ฉันเป็นตำรวจ หน้าที่ของฉันคือการจับคนร้าย ปล่อยฉันนะ”

“ผมช่วยชีวิตคุณ พรายพิฆาตต่างหากที่เป็นคนร้าย”

“นายต้องการอะไรกันแน่”

“แนวร่วม ใครสักคนที่มีความสามารถ ใครสักคนที่ผมไว้ใจ คนที่ยอมช่วยผมกวาดล้างพวกมัน”

“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันไว้ใจได้”

“ผมรู้จักคุณ ผมเคยได้ยินเรื่องของคุณมาก่อน”

“จากไหน”

“คุณไม่จำเป็นต้องรู้” พูดจบเขาเดินมาหยิบซิมการ์ดใส่โทรศัพท์ของเธอตามเดิมแล้วกดปุ่มเปิดเครื่องก่อนส่งคืนให้ “ผมเมมเบอร์ไว้ในเครื่องของคุณ ติดต่อผมทันทีที่พร้อม แต่จำไว้ ห้ามบอกตำรวจคนอื่นเด็ดขาด”

“ทำไม”

“พรายพิฆาตมีอยู่ทุกที่ ยิ่งรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัย”

อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 2-3 วันที่ 21 มิ.ย. 56

บทประพันธ์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
บทโทรทัศน์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
กำกับการแสดงโดย : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ