อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 4-5 วันที่ 13 มิ.ย. 56

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 4

ขณะที่วิรงรองกำลังหลับสบายอยู่บนเตียง มีเสียงเพลงบรรเลงที่ฟังแล้วชวนขนหัวลุกดังขึ้น เธอรู้สึกตัวมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นดวงจันทร์วันเพ็ญส่องสว่าง พึมพำกับตัวเองว่านี่เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เสียงฝีเท้าม้าดังใกล้เข้ามาทุกที วิรงรองพุ่งไปที่หน้าต่าง ค่อยๆ มองลงไปเบื้องล่าง

รถม้าลึกลับคันเดิม เคลื่อนมาหยุดใต้หน้าต่าง ชายในชุดเสื้อคลุมดำสวมหมวก ค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆ แสงจันทร์ไร้เมฆบดบังสาดมาตรงใบหน้านั้นพอดี วิรงรองถึงกับตะลึง

“คุณอดิศวร์...นี่มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเรามาอยู่ในบ้านพวกโรคจิต จะเอาอย่างไรดี...อยากรู้นักว่าถ้าจับได้ คาหนังคาเขา เขาจะทำอย่างไร” คิดได้ดังนั้น เธอคว้าไฟฉายออกจากห้อง สาวเท้ายาวๆอย่างระมัดระวังไปยังจุดที่รถม้าจอดอยู่ กลับพบแต่ความว่างเปล่า เงยหน้าดูห้องใต้ยอดโดมก็มืดสนิท ทันใดนั้นมีเสียงพูดดังขึ้น


“จะออกมาจับผีบ้านฉันหรือ”

วิรงรองสะดุ้งโหยงไฟฉายหลุดจากมือกลิ้งไปอยู่แทบเท้าอดิศวร์ซึ่งก้มเก็บมันคืนให้ แล้วถามว่าเจอผีหรือเปล่า เธอไม่เจอผีที่ไหนเจอแต่คนโรคจิต อดิศวร์ไม่พอใจ โต้ว่าที่นี่ไม่เคยมีคนโรคจิต

“อย่าคิดนะว่าฉันรู้ไม่เท่าทันคุณ ถึงคุณจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วมากก็เถอะ...เอารถม้าไปแอบไว้ที่ไหน”

อดิศวร์งงไม่รู้ว่าวิรงรองพูดเรื่องอะไร เธอต่อว่าเขา ฉอดๆว่าทำไมต้องแต่งตัวเป็นท่านเคาต์ขับรถม้ามาอยู่ใต้หน้าต่างห้องเธอ อดิศวร์ยังไม่ทันจะอ้าปากพูด วิรงรองชิงพูด ขึ้นเสียก่อนว่าอย่าปฏิเสธเพราะเธอเห็นกับตาตัวเอง เขายกมือจะแตะหน้าผากดูว่าเธอตัวร้อนหรือเปล่า หญิงสาวถอยกรูด ยืนยันว่าเห็นเขาจริงๆไม่ได้บ้า คิดไปเอง

อดิศวร์บอกให้เธอเข้าบ้าน แล้วกึ่งดึงกึ่งลากมาหยุดหน้าห้องพักของเธอ สั่งให้เข้านอนได้แล้ว

วิรงรองยังคงยืนยันว่าเห็นเขาจริงๆแล้วพาไปดูตรงจุดที่เห็นเขากับรถม้า อดิศวร์หาว่าเธอสร้างเรื่องนี้ ขึ้นมาเพื่อต้องการให้เขาเข้ามาในห้อง วิรงรองโกรธจัดที่ถูกดูหมิ่น ไล่ตะเพิดเขาออกจากห้อง อดิศวร์มองเธอด้วยแววตาเย้ยหยัน ก่อนจะออกไป วิรงรองรีบตามมาปิดประตูล็อกกลอน น้ำตาไหลพรากด้วยความแค้นใจ...

คืนนั้นวิรงรองฝันเห็นชายชุดดำหน้าเหมือนอดิศวร์มาคว้าตัวเธอไปจากพิชญ์ เธอพยายามดิ้นหนี เขายิ่งกอดไว้แน่น เธอร้องเรียกพิชญ์ลั่น ก่อนจะสะดุ้งตื่น รีบดึงผ้าห่มที่พันตัวออกโทษผ้าห่มเจ้ากรรมที่ทำให้ฝันร้าย...

ไม่ใช่วิรงรองเท่านั้นที่ฝันร้าย ท่านผู้หญิงสรรักษ์ ก็ฝันร้ายเช่นกัน ในฝันเห็นมือปีศาจมาเคาะหน้าต่างเรียกให้ท่านเปิดรับ ท่านรีบลุกไปล็อกกลอน มือนั้นพยายามจะดันหน้าต่างให้เปิด ท่านผู้หญิงสรรักษ์กรีดร้องลั่นให้คนช่วย ก่อนจะสะดุ้งตกใจตื่นสีหน้าหวาดกลัว อุไร

พลอยตื่นไปด้วย รีบเข้าไปปลอบท่านว่าแค่ฝันร้ายเท่านั้น

“มันเป็นความจริง สมน้ำหน้ามัน กี่สิบปีแล้วล่ะที่มันต้องล่องลอยอยู่ข้างนอก คนทรยศต้องถูกลงโทษ” ท่านผู้หญิงตาวาวโรจน์ด้วยความแค้น ทั้งๆที่เมื่อครู่ยังกลัวตัวสั่น อุไรเหนื่อยใจกับอารมณ์ขึ้นๆลงๆของท่าน

ooooooo

แสงแขอาการหนักเข้าขั้น อดิศวร์ยังไม่ทันตกปากรับคำจะแต่งงานด้วย เธอกลับยกตัวเองว่าเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเขา เห็นอุษาจะเข้าไปพบอดิศวร์ ปราดเข้าไปขวางหน้าประตู ถามว่ามีธุระอะไร

“มากไปไหม แสงแข” อุษาเสียงเขียว

“ไม่...แขเป็นคู่หมายของคุณลบ ใครจะเข้าพบ ต้องผ่านแขก่อน”

อุษาส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะเคาะประตูห้องทำงานอดิศวร์แล้วเปิดเข้าไป แสงแขรีบตามไปติดๆอดิศวร์เงยหน้าจากกองเอกสารถามแสงแขว่าเข้ามาทำไม เธอจะมาถามว่ากลางวันนี้เขาอยากจะกินอะไร เขาทักท้วงว่า นั่นมันหน้าที่อุษาไม่ใช่หรือ หน้าที่เธอคือดูแลคุณย่า ไม่ควรทิ้งท่านมาอย่างนี้ แสงแขอ้างว่า คุณย่าสั่งให้เธอคอยดูแลเขา อดิศวร์ไม่ต้องการคนดูแล ไล่เธอกลับไปหาคุณย่า แล้วหันไปสั่งการกับอุษา

“เย็นนี้ไม่ต้องเตรียมอาหารให้พี่กับแขกที่จะมาพักเพราะพี่จะพาเข้าไปกินในเมือง”

อุษารับคำ แล้วออกจากห้อง ขณะที่อดิศวร์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้สีหน้าครุ่นคิด...

ทางฝ่ายวิรงรองไม่รอช้า โทร.เล่าเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้อนิรุทธิ์ฟัง ยืนยันว่าชายลึกลับบนรถม้าคืออดิศวร์ เพราะหน้าเหมือนกันราวกับแกะ แต่ถ้าชายคนนั้นไม่ใช่เขาก็ต้องเป็นผี อนิรุทธิ์ขำกลิ้ง วิรงรองเตือนว่า อย่าเพิ่งทำเป็นหัวเราะ บ้านหลังนี้มีอะไรแปลกๆหลายอย่าง เธอกำลังคิดว่าน่าจะมีใครบางคนถูกขังบนยอดโดม และผู้ที่ต้องสงสัยมากที่สุดน่าจะเป็นอดิศวร์ ส่วนสาเหตุที่ทำตอนนี้เธอยังไม่รู้ แต่จะสืบให้รู้ให้ได้...

แสงแขยังบ้าไม่เลิก คาดคั้นให้อุษาบอกมาว่า เมื่อครู่นี้คุยอะไรกับอดิศวร์ อุษาว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เขาแค่บอกว่าหลานสาวของเขาที่เพิ่งแต่งงานจะมาพักที่นี่เร็วกว่ากำหนดเดิม แสงแขตัดพ้อทำไมไม่มีใครบอกเรื่องนี้ ในเมื่อเธอเป็นคู่หมั้นเจ้าของบ้าน เธอควรจะรู้ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ อุษาหาว่าเธอคิดไปเองคนเดียว น่าจะถามอดิศวร์เสียก่อนว่าเห็นเธอเป็นคู่หมั้นด้วยหรือเปล่า

“แขจะไปถามคุณลบ พี่อุษาจะได้เลิกข้องใจเสียที” แสงแขพูดจบบ่ายหน้าไปยังห้องทำงานของอดิศวร์...

ในระหว่างที่วิรงรองกำลังจะเข้าไปหาอดิศวร์ตามที่ถูกเรียกตัวให้มาพบ เจอแสงแขตรงหน้าห้องพอดี เธอถามเสียงเขียวจะเข้าไปทำไม วิรงรองอ้างว่าอดิศวร์เรียกมาพบ แสงแขไม่เชื่อ เธอท้าให้เข้าไปถามเขาเอาเอง

“ไม่ต้องมาท้า จำใส่กะลาหัวไว้นะ ฉันเป็นคู่หมั้นคู่หมายของคุณลบ เพราะฉะนั้นเขาไม่มีสายตาจะมองใคร ได้อีก ถึงจะเล่นๆกับผู้หญิงใจง่ายก็ตาม เขารักฉันมาก”

วิรงรองรำคาญรีบตัดบท “ฉันจะเข้าไปได้หรือยัง หรือว่าคุณจะเข้าไปด้วย”

แสงแขคุยโม้ว่า ไม่จำเป็นต้องเข้าไป เพราะอดิศวร์ต้องเล่าให้ฟังอยู่แล้ว...

ทันทีที่วิรงรองเปิดประตูห้องทำงานเข้าไป อดิศวร์ต่อว่า ว่าทำไมมาช้านัก เธอช้าเพราะมัวแต่ตอบคำถามคู่หมั้นของเขาอยู่ อดิศวร์นิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะแจ้งว่า แขกพิเศษของเขาจะมาถึงเย็นนี้ แต่เขาจะพาไปกินข้าวในเมือง คงจะกลับดึกหน่อย เธอไม่ต้องอดหลับอดนอนรอ ให้ไปพบแขกของเขาเช้าวันรุ่งขึ้นเลย...

อดิศวร์หมดความอดทนอดกลั้นกับแสงเข เรียกเข้ามาเคลียร์เรื่องที่คุณย่าจะให้เขาแต่งงานกับเธอ เขาไม่เคยคิดกับเธอเป็นอื่นนอกจากน้องสาว แม้เราสองคนจะเป็นพี่น้องที่ห่างกันมาก แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องกันอยู่ดี เขาคงแต่งงานกับเธอไม่ได้ ที่คุณย่าพูดเพราะเห็นว่าเราสองคนโสดด้วยกันทั้งคู่ แสงแขทนฟังไม่ไหว วิ่งหนีไปทั้งน้ำตา อดิศวร์ได้แต่ถอนใจ หนักใจ...

ครู่ต่อมา แสงแขเข้ามาหาฟ้องท่านผู้หญิงสรรักษ์ด้วยน้ำตานองหน้าว่า อดิศวร์เพิ่งบอกว่าไม่ได้รักเธอและจะไม่แต่งงานกับเธอ แทนที่จะเห็นใจท่านกลับสมน้ำหน้าที่เธอสาระแนไปประกาศปาวๆว่าเป็นคู่หมั้นของเขา ต่อไปต้องเก็บปากเก็บคำอยู่เงียบๆ ปล่อยให้ท่านจัดการเอง ในเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์เราก็ต้องเอาด้วยกล

ooooooo

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 5

เสร็จจากมื้อค่ำแสนอร่อยที่ร้านอาหารในเมือง อดิศวร์พาพิณทองและพิชญ์มาที่คฤหาสน์โดมทอง โดยมีแสงแขกับอุษารอต้อนรับอยู่ด้วยไมตรีจิตอันดี จากนั้นอุษาพาคู่ฮันนีมูนไปยังห้องพัก ซึ่งอยู่ปีกเดียวกับห้องพักของวิรงรอง พิณทองตะลึงกับความโอ่อ่ากว้างขวางของสถานที่ ถามว่ามีคนอยู่ครบทุกห้องไหม

“มีสามห้องค่ะ ดิฉันอยู่ห้องนั้น ห้องถัดจากห้องดิฉันไปเป็นห้องแสงแข ส่วนห้องติดๆกับคุณนี่ เป็นห้องของคนที่มาช่วยดูแลคุณย่า แล้วก็จะช่วยดูแลคุณทั้งสองคนด้วย พรุ่งนี้เช้าคงได้พบกัน” อุษาแจกแจง

พิณทองกับพิชญ์ต่างพยักหน้ารับรู้ พากันเข้าห้องพักแล้วปิดประตูตามหลัง เป็นจังหวะเดียวกับวิรงรองเปิดประตูห้องตัวเองออกมาคลาดกันเส้นยาแดงผ่าแปด เธอเหลือบมองไปยังห้องพักแขกก่อนจะกระซิบกับอุษาว่า มากันแล้วหรือ มีอะไรจะให้ช่วยก็บอกมาได้เลย อุษาส่งคู่ฮันนีมูนเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เชิญเธอไปพักผ่อนได้ พรุ่งนี้คงต้องเหนื่อยกับการรับแขกทั้งวันแน่นอน แสงแขเข้ามาเห็นทั้งคู่กระซิบกระซาบกันอยู่ ถามเสียงเขียวว่ากำลังนินทาอะไร อุษาออกตัวว่าไม่มีอะไร วิรงรองแค่ออกมาถามว่าจะให้ช่วยอะไรหรือเปล่า

“คนมีน้ำใจจริงไม่เห็นจะต้องถาม มันต้องอย่างฉันนี่” แสงแขแดกดันจบเดินไปเคาะประตูห้องพักแขก

วิรงรองตัดรำคาญเดินหนีเข้าห้องทันทีที่ปิดประตูลงกลอน พิชญ์เปิดประตูห้องตัวเองออกมา ทำให้คู่รักเก่าคลาดกันอีกครั้งหนึ่ง แสงแขถามเสียงหวานว่า ต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า

“ไม่ครับ ขอบคุณมาก” พิชญ์ค้อมหัวนิดๆแล้วปิดประตูตามหลัง แสงแขยิ้มพอใจก่อนจะหันมาทางอุษา

“พรุ่งนี้แขจะเป็นคนดูแลพาแขกพิเศษเที่ยวเอง ช่วยบอกแม่วิรงรองด้วยว่า ไม่ต้องเสนอหน้า แม่คนนั้นเพิ่งมาอยู่โดมทองได้ไม่เท่าไหร่จะชำนาญสถานที่เท่ากับเจ้าของบ้าน อย่างแขได้อย่างไร”

“เธอไปพูดกับคุณลบเองก็แล้วกัน”

“แขน่ะไม่ต้องพูดหรอก มีคนพูดให้แล้ว” แสงแขพูดจบเดินเชิดเข้าห้องตัวเอง อุษามองตามส่ายหน้าอย่างระอาใจ แล้วเข้าไปแจ้งเรื่องนี้ให้วิรงรองรับรู้ เสียใจด้วยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เจ้าตัวกลับยิ้มหน้าชื่น ในเมื่อพรุ่งนี้ไม่ต้องดูแลแขกพิเศษของอดิศวร์ เธอจะได้ไปหาลานนาที่บ้านแทน...

ด้านท่านผู้หญิงสรรักษ์ยังไม่ละความพยายามที่จะยัดเยียดแสงแขให้หลานชาย อ้างว่าเธอคอยปรนนิบัติ ท่านทั้งวันทั้งคืนไม่ได้ไปไหน จึงอยากให้เธอได้ไปเปิดหู เปิดตาบ้าง ขอร้องเขาถ้าจะไปไหนให้พาแสงแขไปด้วย

“ครับ...คุณย่าพักผ่อนเถิดครับ นอนหลับฝันดีนะครับ”

“ขอบใจ แต่ย่าน่ะไม่เคยฝันดีมานานแล้ว นับตั้งแต่รู้ว่าปู่ของลบนอกใจ ย่าก็ฝันร้ายมาตลอด มันทรมานใจแสนสาหัสที่จับได้ว่าผู้ชายที่หลงคิดว่ารักเราคนเดียวกลับปันใจให้คนอื่น แล้วคนคนนั้นก็เป็นน้องในไส้ที่เรารักมาก” ท่านผู้หญิงสรรักษ์รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกคอหอยจนต้องหยุดพูด

“ผมคิดว่าคุณปู่ก็รักคุณย่ามาก” อดิศวร์ปลอบ

“หลอกลวงทั้งเพ...ลบหน้าตาเหมือนคุณปู่มากเหลือเกิน เหมือนราวกับเป็นคนคนเดียวกัน เพราะฉะนั้นลบอย่าทำให้ย่าเสียใจซ้ำแล้วซ้ำอีกนะลูก”

อดิศวร์ได้ยินคุณย่าพูดบ่อยๆว่า เขาหน้าเหมือนคุณปู่มาก แต่เขาไม่เคยเห็นรูปท่านเลย ในห้องเก็บของก็ไม่มี หรือว่าอยู่ในห้องใต้ยอดโดม ท่านผู้หญิงสรรักษ์ถึงกับสะดุ้งเฮือกสั่งห้ามหลานชายขึ้นไปบนนั้นเด็ดขาดที่นั่นเป็นที่ต้องคำสาป ย้ำแล้วย้ำอีกว่าอย่าขึ้นไป ยิ่งห้ามยิ่งทำให้เขาสงสัยข้างบนนั้นมีอะไรกันแน่...

พอสบโอกาส อดิศวร์ลองสอบถามนายสมซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ว่าบนห้องใต้ยอดโดมเป็นที่เก็บข้าวของบรรพบุรุษของเขาหรือเปล่า กลับไม่ได้ความอะไร นายสมอ้างว่ารู้เห็นแค่สิ่งที่เจ้านายอยากให้รู้เท่านั้น

ooooooo

วิรงรองแต่งตัวลงมาที่ห้องอาหารตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง อุษาอดสงสัยไม่ได้ทำไมถึงจะไปตั้งแต่ยังไม่ทัน 6 โมงเช้าเช่นนี้ เธออยากรีบไปแต่ไก่โห่จะได้ไม่วุ่นวายกับใคร อุษาเตือนว่าจะไปทั้งทีควรจะขออนุญาตอดิศวร์ก่อน วิรงรองกลับเห็นว่าไม่จำเป็นเพราะวันนี้เขาคงมัวแต่ยุ่งกับแขกคนพิเศษจนไม่ได้สนใจเธอด้วยซ้ำ

“แล้วนี่จะไปยังไงคะ ป้าจะไปปลุกพี่สมให้” อุไรเสนอตัว

“ไม่ต้องจ้ะ เจ้าภูไทเขามารับ ถ้าป้าจะช่วยล่ะก็ไปขอกุญแจลุงสมมาเปิดประตูให้หน่อยก็แล้วกัน”

อุษามองวิรงรองที่เดินตามอุไรออกไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก หวั่นใจจะมีเรื่องกับอดิศวร์อีก...

กว่าพิชญ์และพิณทองจะลงมาที่โต๊ะอาหารก็ใกล้เวลาเสิร์ฟอาหารเช้าของที่นี่ เจออดิศวร์นั่งรอท่าอยู่ก่อนแล้ว เขาเร่งสองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันให้รีบกินอาหารจะได้ไปชมวิวทิวทัศน์ของที่นี่กัน แล้วหันไปมองอุษาราวกับจะถามว่าวิรงรองหายไปไหน อุษาอ่านสายตาอดิศวร์ออกรายงานว่าเธอไปบ้านภูไทตั้งแต่ยังไม่ไก่โห่ อดิศวร์นัยต์ตากร้าวแวบหนึ่ง ก่อนจะปรับเป็นปกติ พิณทองอดสงสัยไม่ได้ว่าน้าชายเธอพูดถึงใคร

“เด็กที่น้าจ้างมาดูแลคุณทวดน่ะ ทีแรกว่าจะให้ช่วยพาคุณพิณกับคุณพิชญ์เที่ยว แต่แสงแขเธออาสาพาไปเอง” ประโยคแสดงความสนิทสนมของอดิศวร์ทำให้แสงแขเงยหน้ามองเขาพลางส่งตาหวานไปให้ พิณทองสังเกตเห็น สะกิดให้พิชญ์ดูแล้วมองหน้ากันยิ้มๆ ขณะที่อุษากลับรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ...

ทัวร์เที่ยวพิเศษของอดิศวร์ออกจากคฤหาสน์โดมทองโดยพิชญ์ พิณทองและแสงแขนั่งรถกอล์ฟ ส่วนอดิศวร์ขี่ม้าเหยาะๆตามไปไม่ห่าง เขาชวนลูกทัวร์แวะที่เที่ยวแห่งแรกที่ชายหาดส่วนตัวของอาณาจักรโดมทอง พิณทองตื่นเต้นกับหาดสวยน้ำใส บ่นเสียดายที่ไม่ได้เอาชุดว่ายน้ำมาด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามขอแตะน้ำทะเลสักนิดก็ยังดีแล้ววิ่งลงชายหาดไปอย่างเริงร่าโดยมีพิชญ์วิ่งตามไปติดๆ

แสงแขลงจากรถมายืนข้างๆอดิศวร์ชวนคุยโน่นคุยนี่แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเธอแม้แต่น้อย สายตาคอยจับจ้องไปที่คู่ฮันนีมูน ดีใจที่เห็นหลานรักมีความสุข อดิศวร์เดินทอดน่องไปทางที่ซากเรือเกยตื้นอยู่ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนักโดยไม่ชวนแสงแขสักคำ เธอรีบ ตามไปเดินเคียงข้าง มองเผินๆคิดว่าทั้งคู่กำลังคุยกันกะหนุงกะหนิง พิณทองสะกิดให้พิชญ์ดูอีกครั้ง แอบนินทาน้าตัวเองว่าสงสัยจะเป็นแฟนกับแสงแข

“ผมดูแวบเดียวก็รู้ว่าคุณแสงแขอยากเป็นแฟนกับน้าลบมากกว่า แต่น้าลบคงไม่ และคุณอุษาก็ไม่อีกเช่นกัน” พิชญ์สีหน้ามั่นใจ พิณทองเสียดายที่น้าชายของเธอเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติและคุณสมบัติ แต่ทำไมไม่ยอมมีแฟนสักที เธออยากให้เขามีความสุข

“น้าลบของพิณอาจจะมีความสุขที่อยู่คนเดียวก็ได้...ระวังแมงกะพรุน”

พิณทองตกใจโดดกอดพิชญ์ซึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนได้ทันท่วงที...

ขณะที่คู่สามีภรรยาหมาดๆกำลังเดินเล่นริมหาดอย่างมีความสุข ลานนาพาวิรงรองเที่ยวชมกล้วยไม้ที่ออกดอกสะพรั่ง เธอชื่นชมไม่หยุดปากว่าสวยงามมาก ลานนาเหน็บว่า พูดราวกับที่โดมทองไม่มีดอกไม้สวยๆ

“สวย...แต่สวยแบบซังกะตาย ที่นั่นดูลึกลับไร้ชีวิตแล้ว...มีผีด้วย”

วิรงรองเห็นเพื่อนรักหน้าตาตื่น รีบแก้คำพูดเสียใหม่ว่าอาจจะเป็นแค่พวกโรคจิต จังหวะนั้นสองสาวเดินชมสวนมาใกล้จะถึงโต๊ะสนามหน้าบ้าน เห็นภูไทกำลังคุยงาน อยู่กับใครบางคน แต่พอเขาหันหน้ามา วิรงรองเบิกตา กว้าง ทั้งดีใจและตกใจคาดไม่ถึงที่เห็นพันธ์สูรย์อยู่ที่นั่น...

ครู่ต่อมา พันธ์สูรย์รับหน้าที่พาวิรงรองชมสวนดอกไม้นานาพันธุ์แทนลานนา หญิงสาวผู้มาเยือนอดถามไม่ได้ว่าเธอทราบจากลานนาว่าอดิศวร์ห้ามเขาเข้าไปในโดมทองจริงหรือเปล่า พันธ์สูรย์ไม่ตอบ กลับย้อนถามเธอว่าอยากได้ดอกกุหลาบบ้างไหมเดี๋ยวจะให้คนงานตัดมาให้ วิรงรองไม่ยอมแพ้คาดคั้นให้เขาบอก สาเหตุที่อดิศวร์ไม่ยอมให้เขาไปที่นั่น ในที่สุดพันธ์สูรย์ยอมบอกว่าเป็นเพราะเขาไม่เจียมกะลาหัวเผยอไปหลงรักอุษา

“ฉันมั่นใจว่าคุณอุษาก็รักคุณ”

“ถึงอย่างไรเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ คุณอุษาต้อง เชื่อฟังพี่ชายของเธออยู่ดี...กลับกันเถอะครับ ป่านนี้อาหารเช้าคงเสร็จแล้ว” พันธ์สูรย์เลี่ยงที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก วิรงรองอาสาจะช่วยเขาเอง เขาขอบคุณในความหวังดี แต่ไม่มีประโยชน์อะไร ถึงอย่างไรอดิศวร์ก็คงไม่ยอม ให้น้องสาวมายุ่งเกี่ยวกับเขา

“ต้องมีค่ะ คอยดูกันไปก็แล้วกัน” สีหน้าของวิรงรองมุ่งมั่นจะทำอย่างที่พูดให้ได้...

ขณะที่ลานนากำลังเชียร์ให้พี่ชายซึ่งแอบมีใจเอนเอียงให้วิรงรองจีบเธอให้รู้แล้วรู้รอดไป เจ้าตัวกับพันธ์สูรย์กลับมาพอดี ภูไทรีบบอกน้องสาวให้หยุด
พูดเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วขยับเก้าอี้ให้วิรงรองนั่ง ก่อนจะหันไปถามพันธ์สูรย์ ว่าจัดดอกไม้ไว้ให้แขกผู้มาเยือนแล้วหรือยัง ได้ความว่าเขาสั่งคนงานไว้เรียบร้อยแล้ว

“ขอบคุณค่ะ แย่จังเลย มากินข้าวแล้วยังจะหอบ ดอกไม้สวยๆกลับไปอีก”

“โอ๊ย ไม่ต้องเกรงใจ พี่ชายฉันอยากจะยกให้ หมดทั้งไร่ด้วยซ้ำ” ลานนากระเซ้า ภูไทถึงกับเขินหน้าแดง

ooooooo

พิชญ์ทั้งทึ่งทั้งตะลึงเมื่อเห็นทุ่งพลับพลึงชูช่อขาวสะพรั่งไกลสุดลูกหูลูกตา พิณทองมองอย่างตื่นตาตื่นใจ เพราะไม่เคยเห็นดอกพลับพลึงมากมายขนาดนี้มาก่อน อดิศวร์กระเซ้าพิชญ์ว่าถึงกับอึ้งเลยหรือ

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 4-5 วันที่ 13 มิ.ย. 56

ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภา
ละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ