อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 9 วันที่ 29 มิ.ย. 56
ครู่ต่อมา วิรงรองเข้ามาในห้องโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยภาพบรรพบุรุษของโดมทอง มองไปยังรูปภาพแต่ละรูปช้าๆพูดกับรูปเหล่านั้นเป็นทำนองตัดพ้อว่าตัวเองไม่ได้เข้าใจผิด บ้านโบราณอย่างที่แห่งนี้มักจะมีความลึกลับบางอย่างซ่อนเอาไว้ใช่ไหม รูปเหล่านั้นราวกับเมินไปทางอื่น ไม่อยากจะตอบคำถาม พลันมีเสียงกระซิบเบาๆ“ไม่มีใครเขาตอบคำถามเธอหรอก...เธอต้องอดทน”
วิรงรองสะดุ้ง หันมองตามเสียงแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ “ค่ะ...ดิฉันจะอดทนจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในโดมทอง” เธอมองเรื่อยๆ มาหยุดที่รูปท่านผู้หญิงสรรักษ์ตอนสาวๆ รูปนั้นมองตอบด้วยสีหน้าอำมหิต
“ไม่น่าขวัญอ่อนเลยนี่ เห็นตามหาผีวุ่นวายไปหมด”
วิรงรองถอยออกห่าง ตวาดแว้ดว่าตามมาทำไม อดิศวร์ไม่ชอบให้ใครเดินหนีทั้งๆที่เขายังพูดไม่ทันจบ เธอขยับจะเดินหนีอีกครั้ง เขาคว้าแขนไว้ แสงแขเข้ามาเห็นพอดีถึงกับชะงัก ส่งเสียงเอะอะทำให้อดิศวร์หยุดกึกวิรงรองฉวยโอกาสหลบออกไป เขามองแสงแขอย่างไม่ค่อยพอใจครู่หนึ่ง แล้วผละจากไป...
แสงแขเจ็บใจมากที่เห็นอดิศวร์จับมือถือแขน
วิรงรองอยู่ในห้องโถง เอาไปนินทาว่าร้ายให้อุษาฟังว่า แม่นั่นตั้งใจยั่วยวนอดิศวร์ เปิดประตูเข้าไปรออยู่ในห้องหวังจะจับเขาให้ได้ อุษาไม่เชื่อว่าวิรงรองเป็นคนแบบนั้นและที่สำคัญห้องโถงใหญ่ดูน่ากลัวเกินกว่าจะเข้าไปทำอะไรกัน จังหวะนั้น อดิศวร์อุ้มวิรงรองที่หมดสติเข้ามา ร้องเรียกอุษาให้มาช่วย แล้วรีบอุ้มเธอขึ้นข้างบนโดยมีอุษาตามไปติดๆ
“มารยา อยู่ดีๆก็วิ่งให้คุณลบตามอยู่ดีๆ ก็แกล้งเป็นลมให้คุณลบอุ้ม นังวิรงรองนังมาร” แสงแขเข่นเขี้ยว...
ฝ่ายอดิศวร์อุ้มวิรงรองมาวางบนเตียงในห้องพักของเธอ สั่งให้อุษาไปหาผ้าชุบน้ำมาให้ แสงแขแสร้งเป็นห่วงเป็นใยเข้ามาถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง อดิศวร์ยังไม่ทันจะว่าอะไรอุษาถือผ้าชุบน้ำหมาดๆมาให้เสียก่อน ยัยตัวแสบประจำบ้านชิงคว้าผ้าตัดหน้า อาสาจะเช็ดตัวให้วิรงรองเอง อดิศวร์ดึงกลับ แล้วไล่เธอไปหายาดมมาให้
แสงแขจำต้องออกจากห้องด้วยความแค้นใจ อดิศวร์เช็ดหน้าเช็ดตาให้วิรงรองอย่างเบามือ สักพัก เธอเริ่มรู้สึกตัว เขารีบส่งผ้าขนหนูให้อุษา สั่งให้ดูแลเธอด้วย แล้วรีบออกจากห้องเป็นจังหวะเดียวกับวิรงรองลืมตาขึ้นมองอย่างงงๆถามอุษาว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณวิเป็นลมน่ะค่ะ เมื่อคืนก็เป็น ยังไม่ทันหาย ดีเลยก็ออกไปข้างนอกแล้ว” อุษาตำหนิกลายๆ
วิรงรองขยับจะลุก แต่แล้วเวียนหัวต้องล้มลงนอน อย่างเดิม อุษาชะเง้อมองไม่เห็นแสงแขเอายาดมมาให้สักที บอกเธอให้อยู่คนเดียวไปก่อน ตนจะไปเอายาดม กับข้าวต้มร้อนๆมาให้ เพราะตั้งแต่เช้าเธอยังไม่ได้กินอะไร วิรงรองรับคำ พยายามทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นจำได้เพียงว่ามีปากเสียงกับอดิศวร์อีกครั้ง คราวนี้ เขาหาว่าเธอหงุดหงิดที่รู้ว่าเขาไปเชิญครอบครัวพิชญ์กับพิณทองกลับมาที่นี่เพราะคุณย่าจะจัดงานฉลองให้ทั้งคู่
“ต่อให้คุณเชิญคนทั้งโลกมาฉลองฉันก็ไม่สน
ว่าแต่คุณต้องไปถามพิชญ์ดูว่าเขาลืมฉันได้หรือยัง”
อดิศวร์ไม่พอใจมากเห็นเธอจะเดินหนีกระชากกลับมา “จะบอกให้ว่า ฉันคิดอย่างไร หลานของฉันเหมือน ดอกกล้วยไม้มีราคาหายาก ส่วนเธอมันก็แค่ดอกพลับพลึงธรรมดาดาษดื่น ราคาก็ไม่น่าจะแพงนัก... ความจริงเธอควรจะดีใจนะ ที่ฉันเวทนาชวนแต่งงานด้วย แม่ดอกพลับพลึง”
วิรงรองเจ็บช้ำใจน้ำตาคลอเบ้า ก่อนหมดสติไปเนื่องจากพักผ่อนน้อยเพราะมัวแต่คอยเฝ้าผีอยู่ทั้งคืน
ooooooo
ยัยตัวแสบประจำบ้านเห็นวิรงรองอยู่ในห้อง
คนเดียวเข้ามาด่าว่าสารพัดและยังแช่งให้ตายเร็วๆโชคดีที่อุษาเข้ามาเสียก่อน แสงแขถึงได้ล่าถอยกลับไป อุษาขอร้องวิรงรองว่าอย่าไปถือสาคนปากไม่ดีพรรค์นั้น
“คุณแสงแขพูดถูกนะคะ ทำไมวิถึงไม่ตายสักทีก็ไม่รู้” วิรงรองน้ำตาคลอเบ้า อุษาขอร้องอย่าพูดแบบนั้นอีก แล้วยกชามข้าวต้มมาวางให้ คะยั้นคะยอให้กิน อะไรบ้างจะได้กินยา...
แสงแขรู้แก่ใจดีว่าขืนปล่อยให้อดิศวร์ได้ใกล้ชิดวิรงรองอยู่แบบนี้ย่อมไม่เป็นการดีกับตัวเอง ต้องเร่งให้ถึงวันงานเร็วๆจึงเข้าไปบอกท่านผู้หญิงสรรักษ์ว่าจะไปตัดเสื้อผ้าสำหรับใส่วันงานเลี้ยง ท่านเห็นดีด้วย สั่งให้ไปเบิกเงินกับอุษา แล้วย้ำว่าวันงานเลี้ยงแสงแขจะต้องแต่งตัวให้สวยเต็มที่ให้สมกับเป็นว่าที่คู่หมั้นของอดิศวร์...
อุษาไม่เห็นด้วยเท่าใดนักเมื่อแสงแขมาขอเบิกเงินไปตัดชุดตามคำสั่งคุณย่า ยังไม่ทันรู้เลยว่าจะมีงานเมื่อไหร่ทำไมถึงต้องเร่งรีบด้วย แสงแขมั่นใจอย่างไรเสียงานเลี้ยงจะต้องมีขึ้นแน่นอน
“ว่าแต่พี่อุษาเถอะ ห้ามทรยศไปบอกคุณลบเด็ดขาดว่าคุณย่าจะทำอะไร ไม่อย่างนั้น ท่านจะคิดว่าพี่อุษาเนรคุณ” แสงแขยิ้มสะใจ...
ขณะที่แสงแขสั่งห้ามอุษาและวิรงรองบอกเรื่องที่คุณย่าจะประกาศกลางงานเลี้ยงว่าอดิศวร์กับเธอจะหมั้นกัน ตัวเองกลับเอาไปคุยอวดที่ร้านตัดเสื้อว่าเธอกำลังจะเป็นว่าที่เจ้าสาวของอดิศวร์ บังเอิญลานนาอยู่ในร้านด้วย ได้ยินเต็มสองหู รีบโทร.ไปบอกเพื่อนรักทันที แต่ต้องผิดหวังที่วิรงรองไม่ตื่นเต้นด้วยเพราะรู้อยู่ก่อนแล้ว ลานนาต่อว่าว่ารู้แล้วทำไมไม่บอกกล่าวกันบ้าง น่าเสียดายคุณอดิศวร์ควรจะได้ผู้หญิงที่เหมาะสมกว่านี้
“เขาก็เหมาะสมกันออก...แค่นี้ก่อนนะจ๊ะลานนา วิไม่ค่อยสบาย ปวดหัวน่ะ” วิรงรองรีบตัดบท วางสายแล้วเอนตัวลงนอนนํ้าตาคลอเบ้าด้วยความสะเทือนใจ...
ลานนาเอาเรื่องที่แสงแขคุยอวดมาขยายต่อให้พันธ์สูรย์กับภูไทฟัง สองหนุ่มมีความรู้สึกแตกต่างกันไป ภูไทออกแนวดีใจเพราะหมดคู่แข่ง ขณะที่พันธ์สูรย์ท่าทางไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะถ้าแสงแขได้แต่งงานกับอดิศวร์จริงๆที่โดมทองก็จะเหลืออุษาเป็นสาวทึนทึกก้มหน้าก้มตารับใช้ทุกคนในบ้านไปจนตาย
“นั่นเป็นวิถีชีวิตที่คุณอุษาเลือกแล้ว นายทำอะไรไม่ได้หรอก” ภูไทปลอบ
พันธ์สูรย์ตั้งใจจะหาทางช่วยอุษาให้ได้ และรับรองกับภูไทว่าจะไม่ให้เดือดร้อนมาถึงเขาเด็ดขาด...
ด้านอดิศวร์อดเป็นห่วงวิรงรองไม่ได้ เข้าไปดูที่ห้องเห็นเธอนอนหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลีย เขาลูบผมเธอเบาๆอย่างทะนุถนอม วิรงรองขยับตัวเล็กน้อย แล้วกลับนอนนิ่งด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย...
แต่แล้วความผ่อนคลายกลับอยู่ไม่นาน วิรงรองฝันเห็นตัวเองกำลังเดินตามเสียงเพลงนางครวญขึ้นบันได ไปยังยอดโดม ประตูเหล็กที่ปิดล็อกแน่นหนา ซึ่งกั้นทางขึ้นไปบนนั้นกลับเปิดออกอย่างง่ายดาย เธอก้าวขึ้นบันไดราวกับถูกต้องมนต์สะกด ยิ่งใกล้ห้องใต้โดมเสียงเพลงเยือกเย็นยิ่งดังกระหึ่ม ในที่สุดวิรงรองมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องนั้น ก่อนจะค่อยๆก้าวไปยังประตูซึ่งถูกไม้หน้าสามตีปิดตายไว้ แต่ยังมีรอยแตกเล็กๆให้เห็น
หญิงสาวส่องดูที่รอยแตก เห็นคุณพลับพลึงนั่งเล่นซอสามสาย ท่ามกลางวงมโหรี เธอถึงกับตะลึงด้วยความตื่นเต้น เสียงเพลงหยุดกึก ทุกคนในนั้นเหมือนจะรู้ตัวว่ามีคนแอบมอง ต่างจ้องมาที่รอยแตกเป็นตาเดียวกัน ใบหน้าที่สวยงามของคุณพลับพลึงค่อยๆยิ้มแสยะ แล้วเปลี่ยนเป็นเขียวคลํ้ากลายเป็นศพ
วิรงรองถึงกับผงะกรีดร้องลั่น สะดุ้งตื่นเหงื่อท่วมตัว ลุกขึ้นจะไปเข้าห้องนํ้า แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นดอกพลับพลึงวางอยู่ ทั้งพิศวงทั้งหวาดหวั่นปนกัน ตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาโทร.หารัฐมนตรีพจน์ซึ่งกำลังเซ็นเอกสารอยู่ที่กระทรวง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง...
เรื่องราวที่ได้ยินจากวิรงรองทำให้รัฐมนตรีพจน์ตัดสินใจบอกให้คุณหญิงแก้วตอบรับคำเชิญไปงานเลี้ยงที่ท่านผู้หญิงสรรักษ์จะให้ขึ้นในคืนนั้นเลย แล้วเขาโทร.แจ้งวิรงรองว่าเขากับครอบครัวจะไปถึงที่นั่นวันศุกร์ตอนคํ่า
“งั้นงานก็อาจจะเป็นคํ่าๆวันเสาร์ คุณลุงอย่าลืมพูดกับคุณอดิศวร์นะคะ”
รัฐมนตรีพจน์รับรองว่าไม่ลืมแน่นอนและจะไม่ลืมด้วยว่าห้ามเอ่ยชื่อวิรงรองเด็ดขาด แล้วแนะนำว่าระหว่างนี้เธอควรหาเวลาไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นด้วย วิรงรองขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำเพราะตัวเองไม่ได้นึกถึงมาก่อน พรุ่งนี้เธอจะไปจัดการให้เรียบร้อย แล้ววางสาย
ไม่กี่อึดใจถัดมา พันธ์สูรย์โทร.มาหา อยากจะขอให้วิรงรองช่วยพาอุษามาพบเขาอีกสักครั้ง เขาเป็นห่วงเธอมาก วิรงรองไม่รับปากว่าจะสำเร็จ แต่จะพยายามสุดความสามารถ
ooooooo
เป็นอย่างที่วิรงรองคาดไว้ พอท่านผู้หญิงสรรักษ์ ทราบว่าครอบครัวของคุณหญิงแก้วจะมาถึงโดมทองคํ่าวันศุกร์สั่งให้จัดงานในคืนวันเสาร์ทันที อดิศวร์เห็นอุษากับวิรงรองยังไม่มีชุดใส่วันงาน วานอุษาช่วยพาเธอเข้าเมืองไปตัดชุดแล้วนึกขึ้นได้ถ้าสั่งตัดอาจจะไม่ทันกาล เปลี่ยนใจให้ไปซื้อชุดสำเร็จรูปแทนและให้พาแสงแขไปด้วย
“แสงแขไปสั่งตัดเรียบร้อยแล้วค่ะ”
อดิศวร์ติงว่าทำไมแสงแขไม่ชวนอุษากับวิรงรองไปด้วย แล้วสั่งให้ขึ้นไปตามวิรงรองทันที...
ทางฝ่ายวิรงรองไม่ยอมไปซื้อชุด ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใครโดยเฉพาะอดิศวร์ และอีกอย่างหนึ่งเธอนัดลานนาไว้แล้วว่าจะไปทำบุญกัน อดิศวร์เข้ามาทันได้ยินพอดี ไม่สนใจว่าวิรงรองจะนัดกับใคร จะเอาเธอไปซื้อ เสื้อผ้าให้ได้ แล้วคว้ามือเธอกึ่งดึงกึ่งลากออกจากห้อง เธอขืนตัวสุดฤทธิ์ อ้างจะต้องไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณทุกดวงที่ยังวนเวียนอยู่ที่โดมทอง แล้วสะบัดมือเขาออก เดินเชิดหน้าออกไป อดิศวร์ได้แต่ยืนอึ้ง...
อดิศวร์หมดหนทางจะบังคับวิรงรอง จึงโทร.ไปขอร้องพิณทองให้ช่วยเลือกซื้อชุดสวยจากกรุงเทพฯมาให้เธอแทน พิณทองน่าจะกะขนาดตัวเธอได้ถูกต้อง เพราะเป็นผู้หญิงด้วยกัน หลานสาวกระเซ้าว่าถ้าให้ซื้อชุดสวยๆ
ไปให้วิรงรอง พิชญ์อาจจะไม่แลเธอเลยก็ได้ อดิศวร์รับรองว่าหลังจากงานนี้สามีของพิณทองจะไม่มองวิรงรองอีกเลย และขอให้เธอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับห้ามแพร่งพรายให้ใครรู้เด็ดขาด...
หลังจากทำบุญกันแล้ว วิรงรอง ลานนา ภูไทและพันธ์สูรย์ต่างไปทำทานปล่อยนกปล่อยปลา วิรงรองนึกขึ้นได้ว่าน่าจะพาอุษามาพบพันธ์สูรย์ในวันที่โดมทองจัดงานเลี้ยงเป็นเกียรติแก่พิณทองและพิชญ์ พันธ์สูรย์แปลกใจ ทั้งคู่เพิ่งกลับไปไม่ใช่หรือ แล้วทำไมไม่จัดงานให้ตั้งแต่ตอนนั้นเลย เขามั่นใจว่าท่านผู้หญิงสรรักษ์ต้องมีอะไรลับลมคมในแน่ๆ เตือนวิรงรองให้ระวังตัว...
ไม่ใช่ท่านผู้หญิงสรรักษ์เท่านั้นที่มีแผนการอยู่ในใจ อดิศวร์เองก็วางแผนบางอย่างไว้เช่นกัน โดยแสร้งทำดีกับแสงแขจนฝ่ายนั้นปลื้มแล้วปลื้มอีก เพราะคิดว่าเขามีใจให้ เอาไปคุยอวดกับโอบว่าในที่สุดเธอก็ชนะใจอดิศวร์จนได้ โอบพลอยปลื้มใจไปกับเจ้านายสาวด้วย
ooooooo
อนิรุทธิ์โทร.มาหาวิรงรองแต่เช้า บอกว่าตอนนี้เขากำลังเช็กอินอยู่ที่โรงแรมในเมือง อีกสักครู่จะไปรับ วิรงรองไม่รอขออนุญาตอดิศวร์ให้เมื่อยปาก รีบแต่งตัวออกมารออนิรุทธิ์ที่หน้าประตูรั้ว ฝากนายสมช่วยบอกอดิศวร์ให้ด้วยว่าเธอออกไปกับเพื่อน ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถอนิรุทธิ์ที่แล่นเข้ามาจอดแล้วพากันออกไป...
เมื่ออดิศวร์รู้จากอุษาว่าวิรงรองแอบออกไปกับเพื่อนโดยไม่ได้ขออนุญาตใคร แค่ฝากบอกนายสมไว้เท่านั้น แม้ปากจะบอกว่าไม่โกรธ แต่หน้าตาอดิศวร์กลับตรงกันข้ามจนอุษาอดหวั่นใจแทนวิรงรองไม่ได้...
ตั้งแต่อดิศวร์กำหนดวันจัดงานเลี้ยงที่แน่นอนแล้ว ท่านผู้หญิงสรรักษ์ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เรียกอุษาให้เข้ามาช่วยเลือกเครื่องประดับสำหรับใส่ไปงาน เธอแนะให้ท่านสวมชุดเครื่องเพชร ท่านผู้หญิงสรรักษ์หยิบสร้อยเพชรมาดูด้วยความพอใจ อุไรสาระแนทันที แล้วท่านจะสวมชุดอะไรให้เข้ากับเครื่องเพชรท่านผู้หญิงตาเป็นประกายวาว “เสื้อผ้าสวยๆ
ของฉันอยู่ในห้องเก็บของ ฉันพับเก็บทุกชุดกับมือ”
ครู่ต่อมา อุษากับอุไรเข็นรถเข็นพาท่านผู้หญิงสรรักษ์มาที่ห้องเก็บของ ท่านหยิบกุญแจที่ซ่อนอยู่ในชายพกส่งให้หลานสาวไขประตู เธอเห็นในห้องเต็มไปด้วยฝุ่น อาสาจะไปหยิบชุดที่ท่านต้องการมาให้ แต่ท่านจะเข้าไปเลือกเอง แล้วชี้ไปยังหีบใบใหญ่ตรงมุมห้อง อุษาเข็นรถพาท่านผู้หญิงสรรักษ์ไปที่นั่นแล้วไขกุญแจเปิดหีบออกภายในมีชุดลูกไม้ห่อผ้าวางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ พลันมีลมจากไหนไม่รู้พัดวูบเข้ามา
มีเพียงอุษาคนเดียวเท่านั้นที่หนาวสะท้านจับขั้วหัวใจ หันไปมองที่ผ้าสีดำซึ่งคลุมกรอบรูปถูกลมพัดปลิวขึ้นเผยให้เห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่ง เธอถึงกับตะลึง เสียงเรียกของท่านผู้หญิงสรรักษ์ทำให้อุษาตื่นจากภวังค์
“นังอุษา มัวแต่เป็นบื้อเป็นใบ้ ฉันถามว่าเสื้อของฉันสวยไหม”
“สวยค่ะ สวยมาก แต่ออกจะ เอ่อ...เก่าไปสักนิด”
ท่านผู้หญิงสรรักษ์หาว่าอุษาตาต่ำ ผ้าลูกไม้ชุดนี้ท่านเจ้าคุณซื้อมาฝากจากฝรั่งเศส ถ้าไม่มีนังพลับพลึงเข้ามาแทรก ป่านนี้เราสองคนคงจะอยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านผู้หญิงสรรักษ์หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาแล้วสั่งให้พากลับห้อง โดยไม่ลืมให้อุษาล็อกกุญแจไว้อย่างเดิม...
ด้านอุษาเห็นชุดของคุณย่าเก่าเกินกว่าจะใส่ไปงานฉลอง รีบแจ้งอดิศวร์ให้มาช่วยจัดการ...
เมื่อได้อยู่คนเดียวในห้อง ท่านผู้หญิงสรรักษ์หยิบผ้าลูกไม้ชุดนั้นขึ้นมาทาบกับตัว แล้วหลับตาลง หวนรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต ตอนนั้น ท่านผู้หญิงสรรักษ์ในวัยกลางคนสวมผ้าลูกไม้สวยชุดนี้เตรียมจะไปงาน แต่ท่านเจ้าคุณสรรักษ์กลับเอาแต่นอนซมอยู่บนเตียง ไม่ยอมลุกขึ้นแต่งตัว อ้างว่าไม่สบาย เธอรู้ดีว่าเขาป่วยใจไม่ได้ป่วยกาย
เพราะโศกเศร้าที่นังพลับพลึงหายตัวไป ต่อว่าต่อขานเขาให้เลิกอาลัยอาวรณ์นังนั่นได้แล้ว มันหนีตามผู้ชายไปเป็นสิบๆปีแล้ว ป่านนี้คงมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง
“พลับพลึงยังอยู่...ตอนดึกๆฉันยังได้ยินเสียงเธอร้องเพลง...เพลงนางครวญ บางทีเธอก็เข้ามาหาฉันในห้องนี้...อีกไม่นานพลับพลึงจะมารับฉัน” ท่านเจ้าคุณคร่ำครวญ ท่านผู้หญิงสรรักษ์มองสามีด้วยแววตาอำมหิต
“ไม่มีวัน คุณพี่จะไม่มีวันได้พบกับนังพลับพลึงอีก ไม่ว่าภพนี้หรือภพไหนๆ ฉันจะตามขัดขวางตลอดไป”
เสียงเรียกของอดิศวร์ปลุกท่านผู้หญิงสรรักษ์ให้ตื่นจากภวังค์ เขาชมชุดในมือท่านว่าสวย แต่ไม่พอสำหรับใส่ไปงาน และยังเกลี้ยกล่อมจนท่านยอมให้เอาเสื้อตัวนี้ไปเป็นแบบสำหรับตัดชุดใหม่ อดิศวร์รีบนำชุดออกมาให้แสงแขช่วยเอาไปที่ร้านตัดเสื้อ สั่งให้ทางนั้นช่วยหาลูกไม้ที่ลายคล้ายกับชุดนี้และตัดตามแบบเดิมทุกอย่าง
“คุณลบคะ ถ้าเผื่อเขาตัดไม่ทันวันศุกร์หน้า...”
“ไม่เป็นไร พี่ลืมบอกไปว่าคุณพิณขอเลื่อนเป็นวันศุกร์ต้นเดือน เธอช่วยขอร้องเขาตัดให้ทันก็แล้วกัน”
แสงแขรับคำ สีหน้าผิดหวังที่งานเลี้ยงต้องเลื่อนออกไป เท่ากับความหวังที่เธอจะได้แต่งงานกับอดิศวร์ก็ต้องเลื่อนออกไปเช่นกัน...
ทางด้านอุษาเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงใบหน้าใต้ผ้าคลุมสีดำที่ถูกลมพัดตอนที่เข้าไปในห้องเก็บของ แต่แล้วเธอสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นทิ้ง ตำหนิตัวเองที่ฟังวิรงรองพูดถึงเรื่องประหลาดมากเกินไปจนตาฝาดไปเอง
ooooooo
ในเวลาไล่เลี่ยกันที่ออฟฟิศของภูไท ขณะที่พันธ์สูรย์บ่ายเบี่ยงไม่ยอมพูดถึงสาเหตุว่าทำไมอดิศวร์ถึงได้เกลียดขี้หน้าตนเองหนักหนา อดิศวร์โทร.มาหาภูไทจะสั่งดอกกล้วยไม้มาประดับภายในงานฉลองหมั้นที่จะจัดขึ้นภายในโดมทอง เขาจะมาดูสถานที่ก่อนก็ได้
“งานจะมีขึ้นในวันศุกร์ต้นเดือน ผมขอเชิญทั้งเจ้าและก็เจ้าลานนามาเป็นเกียรติด้วย”
“ขอบคุณมากครับ” ภูไทวางสายแล้วหันไปบอกพันธ์สูรย์ที่รอฟังอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจว่าอดิศวร์สั่งดอกไม้ของคุ้มเราไปตกแต่งในงานหมั้น พันธ์สูรย์สรุปทันที ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แสดงว่าเรื่องที่ลานนาได้ยินแสงแขคุยอวดในร้านตัดเสื้อก็เป็นความจริง...
แม้อนิรุทธิ์จะขอร้องวิรงรองว่าจะให้พาไปที่ไหนก็ได้ยกเว้นคุ้มภูไทเพราะไม่อยากเจอลานนา แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง ลานนา โทร.มาตามวิรงรองไปพบ
มีเรื่องจะคุยด้วย ลานนากับอนิรุทธิ์เจอกันไม่กี่นาทีก็มีปากเสียงเถียงกันอุตลุด วิรงรองทนฟังไม่ไหวต้องลุกขึ้นมาห้ามศึก ลานนาไม่พอใจเดินหนี วิรงรองไล่อนิรุทธิ์ให้ตามไปขอโทษ แทนที่เธอจะให้อภัยกลับเปิดศึกน้ำลายกับเขาอีกรอบ อนิรุทธิ์ได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ...
ระหว่างทางกลับโดมทอง อนิรุทธิ์เห็นวิรงรองนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ถามหยั่งเชิงว่าอยากจะกลับกรุงเทพฯไหม เขาจะไปส่งให้ทันที เธอยังกลับตอนนี้ไม่ได้ มีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จก่อน
“ฟังดูลึกลับจังแฮะ”
“ถ้าหากรุทธิ์ว่าง วันงานที่โดมทอง วิอยากให้มาด้วย มาอยู่เป็นเพื่อนวิ”
“เอาเป็นว่าถ้าว่าง ผมจะมาก็แล้วกัน”
ไม่นานนัก อนิรุทธิ์ขับรถมาจอดหน้าประตูรั้วของคฤหาสน์โดมทอง วิรงรองไม่วายเชียร์ให้เขาจีบลานนาอีกครั้ง อนิรุทธิ์ทนไม่ไหวโพล่งขึ้นทันทีว่าเธอไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งทำไม่รู้ว่าเขาหลงรักเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว วิรงรองถึงกับอึ้ง รอยยิ้มเมื่อครู่มลายไปสิ้น
อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 9 วันที่ 29 มิ.ย. 56
ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภาละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ