อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 12 วันที่ 11 มิ.ย. 56


อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 12 วันที่ 11 มิ.ย. 56

เมื่อไอศูรย์เปิดทางขนาดนี้มีหรืออิ่มจะปฏิเสธ ฝ่ายบุปผาก็ดีใจจนยิ้มไม่หุบ ที่บุญหล่นทับโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว...

บุปผาดีใจจนเนื้อเต้นที่จู่ๆตัวเองกลายเป็นคุณหนูแห่งบ้านเทพบริบาลอีกคน ขณะที่ผกาก็เริงร่าเช่นกันที่ได้เงินจากนายพลเทพมาไม่น้อย

“ทีแรกแม่ก็กลั๊วกลัว...ไม่รู้ว่าท่านนายพลมาคาดคั้นถามเรื่องที่แม่รับแกมาเลี้ยงทำไมนักหนา ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้เอง”

“แต่ฉันก็ต้องขอบคุณแม่นะที่แม่ไหวพริบดีบอกท่านไปว่าแม่ส่งฉันไปให้พ่อแม่ไอ้สินเลี้ยงที่บ้านนอกน่ะ ไม่อย่างนั้นท่านก็คงทำใจรับฉันเป็นลูกลำบากอยู่เหมือนกัน ถ้าท่านรู้ว่าฉันเคยเป็นผู้หญิงขายตัวอยู่ที่หอโคมแดงมาก่อน”


“แกก็โชคดีด้วยละ ที่ไอ้สินมันเป็นอัมพาตนอนแบ็บอยู่อย่างนั้น ไม่อย่างนั้นแม่ก็คงจะหาทางออกเรื่องนี้ไปไม่ได้เหมือนกัน”

“แม่จ๋า...ตอนนี้ฉันได้ดิบได้ดีแล้ว ฉันยังไม่ลืมคำพูดของตัวเองหรอกนะที่ฉันเคยบอกแม่ว่าวันไหนที่ฉันได้ดีขึ้นมาฉันจะไม่มีวันลืมแม่ แต่แม่ต้องรอหน่อยนะ เพราะตอนนี้ฉันเพิ่งได้เป็นคุณหนูคนใหม่ของบ้านเทพ–บริบาล ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทำตัวยังไง”

“เอาเถอะ แม่เห็นแกได้ดิบได้ดีอย่างนี้แล้วก็สบายใจ แล้วเงินที่ท่านให้แม่เป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูแกมาก็ไม่ใช่น้อย แม่คงอยู่สบายไปได้อีกนาน”

“แม่จะเลิกหอโคมแดงมั้ย”

“แม่เลิกแน่ เพราะแม่ไม่เคยอยากอยู่บนเส้นทางสายโลกีย์นี้หรอก แต่ตอนที่แม่ยังเด็กมีความรู้น้อย แม่ไม่รู้ว่าจะทำมาหากินอะไรได้นอกจากขายตัว แต่เงินที่ท่านให้แม่มานี่มันก็มากพอที่แม่จะขยับขยายหาทางทำมาหากินอย่างอื่นได้ แม่จะเลิกหอโคมแดงทันทีที่แม่ส่งเด็กๆที่นั่นไปมีชีวิตใหม่กันเรียบร้อย แล้วแม่ก็จะตั้งต้นชีวิตใหม่เสียที”

“ฉันก็จะตั้งต้นชีวิตใหม่ในฐานะใหม่เหมือนกันจ้ะแม่ ฉันจะเป็นคุณหนูของตระกูลเทพบริบาลที่ได้แต่งงานกับหมอไอศูรย์” บุปผาแววตาเป็นประกายฝันหวาน...

อีกมุมหนึ่งในบ้าน ไอศูรย์คุยอยู่กับมัทนา ทั้งคู่ไม่นึกไม่ฝันกับเหตุการณ์ที่เหมือนนิยายน้ำเน่า ซึ่งมัทนายอมรับว่าดีใจที่มีน้องสาวแต่ก็ห่วงความรู้สึกของแม่ ไอศูรย์เองก็เห็นใจคุณหญิงมณี คิดว่าท่านต้องใช้เวลาทำใจอีกสักพัก

แต่ดูเหมือนไอศูรย์จะคิดผิดเสียแล้ว...คุณหญิงมณีไม่มีทางทำใจยอมรับใครหน้าไหนทั้งนั้นที่จะมาเป็นลูกของนายพลเทพ เธอเชื่อในคำทำนายของคุณชไม ที่ผ่านมาถึงใช้สร้อยไปจัดการอุ่นกับลูก และเมื่อรู้วันนี้ว่าสร้อยทำงานไม่สำเร็จ คุณหญิงมณีทั้งตบตีและด่าทอสร้อยอย่างโกรธจัด

“แกทำงานผิดพลาดขนาดนี้ได้ยังไง ไหนแกว่านังอุ่นกับลูกมันตายโหงไปหมดแล้วไง ฉันรึอุตส่าห์หลงไว้ใจแก ได้นอนตาหลับมานานเกือบ 20 ปี แล้วจู่ๆลูกอีอุ่นมันก็โผล่มา แล้วท่านนายพลก็ยอมรับให้มันเป็นคนหนึ่งในตระกูลเทพบริบาล เป็นน้องสาวยายมัท”

“คุณหญิงขา...สร้อยไม่รู้จริงๆว่าตอนนั้นลูกของนังอุ่นมันไม่ตาย แต่ถึงมันจะไม่ตายตอนนั้น แต่มันก็อาจจะตายเร็วๆนี้ก็ได้นี่คะ”

“ใช่! ตอนนั้นอีบุปผามันดวงแข็งนัก รอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่มันจะไม่โชคดีอย่างนั้นตลอดไปหรอก” คุณหญิงมณีสีหน้าเคียดแค้น ไม่มีวันปล่อยบุปผาลอยนวลอย่างแน่นอน!

ooooooo

เหตุการณ์วันนี้ที่บ้านเทพบริบาลทำให้ใครหลายคนตกอกตกใจ ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงแจ่มจันทร์กับโฉมที่ทราบเรื่องจากไอศูรย์ อีกทั้งเพ็ญที่รู้จากผกา แล้วยังบรรดาคนรับใช้ในบ้านเทพบริบาลที่ต่างก็ต้องปรับตัวกันใหม่ จะจิกเรียกบุปผาอย่างเก่าไม่ได้แล้ว

สร้อยหมั่นไส้และรับไม่ได้กับสถานะ ใหม่ของบุปผา แต่อยู่ต่อหน้าท่านนายพลก็ไม่กล้าออกอาการ ส่วนบุปผามีความสุขมากที่บิดาและพี่สาวพากันเอาใจ แต่ไม่ว่ามัทนาจะทำดีด้วยแค่ไหน บุปผาก็ยังไม่ล้มเลิกเรื่องที่จะช่วงชิงหมอไอศูรย์มาครอบครอง

คุณหญิงมณี เจ็บแค้นใจนายพลเทพจนไม่อยากนอนร่วมห้อง เธอหอบเครื่องนอนของเขาออกมาเพื่อไล่ไปนอนที่อื่น แต่พอได้ยินเขาประกาศว่า ถ้าเธอทำเช่นนั้นเขาจะไปนอนที่อื่นตลอดไป คุณหญิงมณีก็ไม่กล้า เพราะกลัวจะเสียผัวอย่างถาวร

ฝ่ายบุปผาเมื่อได้รับความเอ็นดูจากนายพลเทพ และมัทนาก็ยิ่งได้ใจ เธอไม่คิดแย่งแค่ไอศูรย์ แต่ตั้งใจแย่งห้องนอนของมัทนา ด้วยการอ้อนขอซึ่งหน้าจนมัทนาปฏิเสธไม่ออก ยอมยกห้องที่อยู่มาแต่เด็กให้น้องสาวต่างมารดา พอคุณหญิงมณีรู้เข้าก็เดือดดาลเป็นที่สุด พยายามขัดขวางแต่ไม่เป็นผล เพราะมัทนาใจดีเกินไป

คุณหญิงมณีทั้งเครียดทั้งคับแค้นใจจนเลือดกำเดาไหล สร้อยเข้ามาดูแลเจ้านายด้วยความเป็นห่วง

“แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก ยังไงฉันก็ไม่ยอมตายจนกว่าจะได้เห็นอีบุปผามันหายนะด้วยตาฉันเองเสียก่อน”

“ไม่ว่าคุณหญิงคิดจะทำอะไร สร้อยช่วยเต็มที่ค่ะ เพราะสร้อยไม่มีวันลืมว่าที่ไอ้แสงต้องกระเด็นออกไปจากที่นี่ก็เพราะอีบุปผาคนเดียว”

ขณะที่ทั้งคู่เคียดแค้นกันแทบตาย...บุปผากำลังกรีดกรายอย่างอารมณ์ดีอยู่ในห้องนายสิน เกริ่นให้พี่ชายนอกไส้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“ฉัน ไม่นึกเลยนะว่าบุญจะหล่นทับฉันอย่างนี้ จากอีบุปผาดาราค่าตัวแพงแห่งหอโคมแดง จู่ๆก็ได้กลายมาเป็นคุณหนูคนใหม่ของตระกูลเทพบริบาล ส่วนแกก็กลายเป็นพี่ชายบุญธรรมของฉัน...ฉันไปละนะ จะต้องไปเก็บของ ย้ายขึ้นไปอยู่บนตึกใหญ่แล้ว”

บุปผาหัวเราะชอบใจแล้วนวยนาดออกไป ทิ้งนายสินนอนลืมตาโพลงด้วยความสงสัย...

วัน ต่อมา นายพลเทพให้เงินมัทนาพาบุปผาไปซื้อเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ พลอยเห็นทั้งคู่โดยบังเอิญ พอเข้ามาทักมัทนาก็แนะนำว่าบุปผาคือน้องสาว พลอยอึ้งไปอย่างไม่คาดคิด หลังจากนั้นก็กลับไปเล่าให้พี่ชายของตนฟัง เผอิญเพชรอยู่กับกำพล เมื่อได้ยินชื่อบุปผา กำพลถึงกับหูผึ่ง นึกถึงครั้งหนึ่งที่บุปผาอ้อนให้สอนขับรถแล้วขับไปถึงหน้าบ้านเทพบริบาล

เมื่อ รู้เช่นนี้แล้วกำพลจึงขับรถไปซุ่มละแวกบ้านนายพลเทพ แล้วก็ได้เห็นบุปผาตัวเป็นๆ นั่งรถกลับมาพร้อมมัทนาหลังจากแวะไปรับป้าอิ่มที่บ้านไอศูรย์
“ใช่บุปผาจริงๆ เธอหนีฉันไม่พ้นแล้ว” กำพลยิ้มย่อง ค่อยๆเคลื่อนรถออกไปอย่างใจเย็น

ooooooo

มัทนา ตั้งใจให้อิ่มขึ้นไปอยู่บนตึกเพราะยังมีห้องว่าง แต่อิ่มเต็มใจที่จะอยู่เรือนคนใช้มากกว่า ขออยู่ห้องเก่าของบุปผา สร้อยมาป้วนเปี้ยนสังเกตการณ์ พออิ่มเหลือบเห็นก็นึกหวั่นหวาด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าสร้อยร้ายกาจขนาดไหน แต่ถึงยังไงอิ่มก็จะระมัดระวังและดูแลปกป้องบุปผาไม่ให้สร้อยทำร้ายได้อีก ครั้ง
มัทนาช่วยขนข้าวของของบุปผาที่เพิ่งซื้อมาไปส่งให้ถึงห้อง เสร็จแล้วก็ให้บุปผาเรียกบ่าวมาเอาเสื้อผ้าไปซัก บุปผายิ้มย่อง แล้วพอมัทนาคล้อยหลังหล่อนก็ออกลายทันที ใช้สวิงไปเอาน้ำมาให้กิน และโยนเสื้อผ้าใส่หน้าสร้อยให้เอาไปซัก

“อีบุปผา!” สร้อยคำรามด้วยความโมโห

“โอ๊ะ! เรียกใครไอ้อีกันจ๊ะนังสร้อย แกลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนี้แกต้องเรียกฉันว่าคุณหนู”

“ฉันไม่มีวันเรียกแกว่าคุณหนูหรอก คุณหนูแห่งตระกูลเทพบริบาลมีคนเดียวคือคุณหนูมัทนา ส่วนแกน่ะโตมาจากข้างถนน สักวันแกก็ต้องกลับไปอยู่ข้างถนนอย่างเดิม”

“ไม่มีวันเสียหรอก ถ้าจะมีใครต้องไปอยู่ข้างถนนล่ะก็ มันต้องเป็นแก ไม่ใช่ฉัน ฉันทำให้ลูกชายแกกระเด็นออกจากบ้านนี้ไปได้คนหนึ่งแล้ว ทำไมฉันจะทำให้แกกระเด็นออกจากบ้านนี้ไปอีกคนไม่ได้”

บุปผามองสร้อยอย่าง เย้ยหยันและเป็นต่อ สร้อยแค้นใจแต่ทำอะไรไม่ได้ จำต้องคว้าเสื้อผ้าของบุปผาเดินปึงปังออกไป แต่ไม่ทันลงมือซักก็เหลือบไปเห็นแสงป้วนเปี้ยนอยู่นอกรั้วบ้าน สร้อยเลยออกมาปรับทุกข์ให้ลูกชายฟังด้วยความเจ็บใจ แสงเองก็แค้นแสนแค้นเพราะต้องหน้าบากด้วยฝีมือบุปผา ถึงกับลั่นวาจาไม่ว่าบุปผาจะเป็นใคร ยังไงเขาก็จะทำให้มันหน้าบากยิ่งกว่าหน้าของตน!

อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 12 วันที่ 11 มิ.ย. 56

ละครเรื่อง ไฟหวน บทประพันธ์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ละครเรื่อง ไฟหวน บทโทรทัศน์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ละครเรื่อง ไฟหวน กำกับการแสดงโดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน ผลิตโดย บริษัท มาสเคอเรด จำกัด โดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน เป็นละครแนว ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟหวน ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ