อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 1-2 วันที่ 5 มิ.ย. 56


อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 1

หลังวางสายจากปราง สุรภีรีบ โทร.แจ้งอดิศวร์ทันทีว่าได้คนดูแลท่านผู้หญิงสรรักษ์แล้ว เขาขอบคุณเธอมาก และรับรองจะดูแลหลานของเธอเป็นอย่างดี สุรภีจะส่งรูปหลานสาวไปให้เขาดูเผื่อจะได้ตัดสินใจอีกที

“ไม่เป็นไรครับ ผมไว้ใจคุณอา...คุณอาบอกว่าดี ผมก็ว่าดี”

“อาจะส่งรูปไปให้ดู ไม่ได้ลำบากยากเย็นอะไรเลยนี่ รอรับก็แล้วกัน” สุรภีพักสาย แล้วค้นหารูปในมือถือจนได้รูปวิรงรองตามต้องการ จากนั้นก็กดส่ง สักพัก รูปไปปรากฏบนหน้าจอมือถือของอดิศวร์ ซึ่งจ้องรูปนั้นด้วยความประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่า เธอคือพลับพลึงที่เขาได้ยินพิชญ์เรียกที่ร้านอาหาร คิดหาทางทำอะไรสักอย่าง...


ค่ำวันเดียวกัน พิชญ์พยายามขอร้องคุณหญิงวัชรีแม่ของเขาให้ล้มเลิกการหมั้นระหว่างเขากับพิณทอง เพราะเขามีคนรักอยู่แล้ว และพลับพลึงกับเขารักกันมาก

“ก็แค่ดอกพลับพลึง ดอกไม้ไม่มีราคา”

“เธอเป็นคนดีนะครับ คุณแม่เห็นแล้วจะต้องชอบ”

คุณหญิงวัชรีไม่คิดจะชอบผู้หญิงคนไหนนอกจากพิณทองเท่านั้น ขอร้องให้พิชญ์เห็นแก่หน้าพ่อกับแม่ ขืนไปยกเลิกการหมั้นหมายมีหวังทางโน้นได้ตามมาถอนหงอกเธอแน่ พิชญ์ยืนยันคำเดิม และขอร้องแม่ให้เห็นแก่เขาบ้าง เพราะนี่คือทั้งชีวิตของเขา คุณหญิงวัชรีคิดแผนการบางอย่างออก ทำทีรับปากจะไปพบพลับพลึงเพื่อทำความรู้จักตามที่ลูกต้องการ พิชญ์ยิ้มโล่งใจ

ooooooo

เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่พิชญ์หวัง คุณหญิงวัชรีมาหาวิรงรอง หรือที่พิชญ์เรียกว่าพลับพลึง เพราะวิรงรองแปลว่าดอกพลับพลึงแต่เช้า เธอไม่ได้มาเพื่อจะทำความรู้จักคนรักของลูกอย่างที่รับปากเขาไว้ แต่มาเพื่อจะบอกให้วิรงรองเลิกติดต่อกับลูกชายของเธอ หญิงสาวถึงกับอึ้ง คุณหญิงวัชรีได้ทีใส่ไม่ยั้ง

“เขาเป็นลูกชายคนเดียวของฉัน ฉันจึงต้องการให้เขาได้สิ่งที่ดีที่สุด และหนูพิณทองก็คือผู้หญิงที่ดีที่สุดคู่ควรกับพิชญ์ที่สุด เธอก็หน้าตาสะสวย น่าจะหาผู้ชายมาเป็นแฟนได้ไม่ยาก แต่ต้องระวังหน่อย อย่าหลับหูหลับตาไปคว้าเอาคนที่เขามีคู่หมั้นคู่หมายอีกก็แล้วกัน หวังว่าเธอคงเข้าใจทั้งหมดที่ฉันพูดมานี่”

“ค่ะ แล้วก็ขอให้ท่านเข้าใจเหมือนกันว่า ถ้าหนูจะดื้อดึงยึดพิชญ์ไว้ก็ไม่น่าจะยาก แต่เพื่อเห็นแก่ท่าน ซึ่งอุตส่าห์ดั้นด้นมาจนถึงที่นี่ หนูก็จะปล่อยพิชญ์เอาบุญ...เชิญค่ะ หนูจะออกไปส่ง” วิรงรองตอกกลับอย่างเจ็บแสบ คุณหญิงวัชรีเจ็บใจมาก ไม่ต้องการให้เธอออกไปส่ง ตนกลับเองได้แล้วเชิดหน้าคอตั้งจากไป

วิรงรองถึงกับเข่าอ่อน พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล มีเสียงสายเรียกเข้ามือถือของเธอ ที่หน้าจอโชว์เบอร์ของพิชญ์ เธอตัดสินใจกดปิดเครื่องทันที...

ทั้งสุรภีและปรางต่างใจร้อนอยากให้วิรงรองไปให้พ้นจากพิชญ์ในเร็ววัน สุรภีจึงโทร.ถามอดิศวร์ว่าจะให้หลานของเธอไปคฤหาสน์โดมทองเมื่อไหร่ เขายกให้เป็นการตัดสินใจของหลานเธอเอง พร้อมเมื่อไหร่ให้ไปได้เลย แต่ต้องบอกล่วงหน้าเพื่อจะได้จัดการเรื่องการเดินทางให้

“ถ้าอย่างนั้นอาจะให้แกโทร.หาคุณลบเองก็แล้วกัน”

อดิศวร์ตกลงตามสุรภีว่า แล้วขอตัวก่อนจะรีบเดินทางกลับโดมทอง สุรภีวางสายแล้วหันบอกปรางว่า ทุกอย่างเรียบร้อย ตอนนี้ขึ้นอยู่กับวิรงรองแล้วว่าจะเอาอย่างไร...

วิรงรองไม่มีอิดเอื้อนตกลงใจจะเดินทางไปคฤหาสน์ โดมทองในวันพรุ่งนี้เลยถ้าทางนั้นไม่ขัดข้อง สุรภีิยืนยันว่า อดิศวร์ยินดี เพราะอยากได้คนดีๆไปดูแลคุณย่าของเขา ปรางเตือนวิรงรองว่า อย่าทำให้เสียชื่อป้าสุรภีที่อุตส่าห์ให้คำรับรองตัวเธอเป็นอย่างดี สุรภีเชื่อว่าหลานรักไม่มีวันทำให้อย่างนั้นแน่นอน

“หนูเองก็ต้องใช้ความอดทนสูงเหมือนกัน ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไกรณรงค์คุณย่าของคุณลบน่ะ เอาใจยาก อยู่เหมือนกัน ป้าต้องบอกความจริงกับหนูว่าคนที่ป้าส่งไปที่แล้วอยู่ได้เดือนเดียวก็ออก ท่านผู้หญิงท่านอารมณ์ร้าย” สุรภีเตือน ปรางเริ่มเป็นกังวล เกรงลูกจะอยู่ที่นั่นไม่ได้

“คุณไม่ต้องห่วงค่ะ ยังไงที่นั่นก็คงจะดีกว่ากรุงเทพฯ แน่นอน หนูจะพยายามอดทน”

จากนั้น วิรงรองโทร.เข้ามือถือของอดิศวร์ตามเบอร์ที่สุรภีให้มา หลังจากแนะนำตัวเองเรียบร้อย เธอแจ้งว่าพรุ่งนี้พร้อมเดินทางไปคฤหาสน์โดมทอง อดิศวร์สั่งให้เธอไปที่นั่นด้วยรถไฟ วิรงรองแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ถามซ้ำว่าเมื่อครู่เขาพูดว่าอะไร อดิศวร์ยืนยันคำเดิมว่าให้เธอไปรถไฟดีที่สุด...

ปรางประหลาดใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าทางนายจ้างให้ลูกของเธอนั่งรถไฟไปยังคฤหาสน์โดมทอง แทนที่จะให้ขึ้นเครื่องบิน วิรงรองเองก็ถามเขาเช่นกันทำไมถึงไปเครื่องบินไม่ได้ เขากลับทำเสียงเหมือนเธอโง่เง่า สงสัยว่าคนที่ร้ายกาจไม่ได้มีเพียงท่านผู้หญิงสรรักษ์ หลานชายของท่านอาจจะร้ายยิ่งกว่า

“แม่หนูยังเปลี่ยนใจทันนะลูก”

“ไม่ค่ะ หนูตั้งใจแน่นอนแล้ว อีกอย่างหนูไป พยาบาลคุณย่าเขาไม่ใช่ไปพยาบาลเขา คิดในแง่ดีเขาอาจอยากให้หนูได้ชื่นชมทิวทัศน์สองข้างทางก็ได้หรือไม่ก็งกจัดไม่อยากเสียค่าเครื่องบิน” วิรงรองยิ้มอารมณ์ดี พลอยทำให้ปรางคลายความกังวลลง...

ตกดึกคืนนั้น วิรงรองฝันประหลาด ฝันว่าเดินตามทางจนถึงหน้าประตูรั้วของคฤหาสน์แห่งหนึ่งโดยไม่รู้ว่าที่นั่นคือโดมทอง มีหมอกจางๆลอยอ้อยอิ่งอยู่ทั่วบริเวณ อยู่ๆประตูรั้วเปิดออก เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะก้าวเข้าไป พลันมีใครบางคนร้องเพลง “นางครวญ” ดังฝ่าความเงียบ หญิงสาวหยุดกึกเหลียวหาที่มาของเสียง

“ใครน่ะ...ใครร้องเพลง”

ไม่มีเสียงตอบ วิรงรองตัดสินใจเดินตามไปยังต้นเสียงจนกระทั่งถึงทุ่งดอกพลับพลึงอันเวิ้งว้าง เสียงร้องเพลงยังคงดังไม่ขาดสาย แต่คราวนี้มีเสียงสะอื้นปนด้วย ลมพัดวูบหอบความหนาวยะเยือกเข้ามาปะทะ หญิงสาวต้องกอดอกเพื่อให้ตัวเองอบอุ่น เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังใกล้เข้ามาทุกที วิรงรองเริ่มหวาดกลัว เหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นทางออก ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ท้องฟ้าครืนๆอย่างไม่มีเค้ามาก่อนจากนั้นฝนเทกระหน่ำ

“พิชญ์...ช่วยพลับพลึงด้วย”

วิรงรองวิ่งหาทางออกท่ามกลางพายุฝนแต่ไม่เจอ เหนื่อยอ่อนแทบสิ้นเรี่ยวแรง เธอสะดุดเท้าตัวเองหกล้มด้วยความหวาดกลัวและเหนื่อยล้าเธอฟุบหน้ากับพื้นร้องไห้ มีใครบางคนเข้ามาช้อนตัวเธอขึ้นมากอด

“พลับพลึง...พลับพลึงยอดรัก”

หญิงสาวปรือตาขึ้นมอง พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของชายในชุดเสื้อคลุมยาวสีดำสวมหมวกหลุบต่ำเนื่องจากความมืดประกอบกับมีพายุพัด ทำให้เห็นใบหน้าเขาไม่ชัด วิรงรองสะดุ้งเฮือกตกใจตื่น เสียงฟ้าร้องครืนๆและฝนตกหนักอยู่ข้างนอก ช่างเหมือนในความฝันน่ากลัวเมื่อครู่ไม่มีผิดเพี้ยน

ooooooo

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 2


เช้าวันรุ่งขึ้น อนิรุทธิ์อาสาเป็นสารถีมารอรับวิรงรองจะพาไปส่งสถานีรถไฟ ปรางดึงลูกมากอด อวยพรขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพและเตือนโน่นเตือนนี่ราวกับว่าเธอเป็นเด็กๆ ไม่เคยเดินทางไปไหนมาก่อน ทั้งๆที่เธอผ่านเมืองนอกมาแล้ว อนิรุทธิ์เห็นว่า ใกล้เวลารถไฟออก เร่งวิรงรองให้ไปได้แล้ว เกิดรถติดขึ้นมาจะไม่ทัน

“พอถึงโดมทองแล้วรีบโทร.บอกคุณทันที อ้อ...ตอนที่ยังไม่ถึงก็ต้องโทร.เป็นระยะๆด้วย”

วิ รงรองโผกอดแม่อีกครั้ง ก่อนไปขึ้นรถ ขณะอนิรุทธิ์ขับรถมาถึงปากซอยบ้านวิรงรอง ต้องแปลกใจที่เห็นเพื่อนสนิทเลื่อนตัวหลบ แทบจะลงไปกองอยู่ที่พื้นรถ ร้องถามว่าเป็นอะไรไป

“รถพิชญ์กำลังจะเลี้ยวเข้าไป”

อนิรุทธิ์หันไป เห็นพิชญ์ขับรถสวนเข้ามาในซอยโดยไม่ทันสังเกตเห็นรถของเขา พออนิรุทธิ์เลี้ยวรถขึ้นถนนใหญ่ วิรงรองเลื่อนตัวขึ้นมานั่งอย่างเดิม ถามอย่างร้อนใจว่า พิชญ์เห็นเขาหรือเปล่า ชายหนุ่มส่ายหน้า ถ้าพิชญ์เห็นคงขับรถชนเขาแล้ว วิรงรองถอนใจ สีหน้าหม่นหมอง

“ถ้ารักเขา มากขนาดนี้ แล้วจะหนีไปทำไม” อนิรุทธิ์ เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปสนใจถนนเบื้องหน้า วิรงรองไม่ตอบ หลับตาเพื่อซ่อนน้ำตาที่กำลังเอ่อขึ้นมา...

ทางด้านพิชญ์เสียใจไม่แพ้วิ รงรองเช่นกันเมื่อรู้ข่าวจากปรางว่าหญิงที่เขารักสุดหัวใจไม่ได้อยู่ที่บ้าน หลังนี้แล้ว และขอร้องให้เขาเลิกติดต่อกับเธอ ให้คิดเสียว่าไม่ใช่เนื้อคู่กัน ถึงต้องแคล้วคลาดกันไป อีกไม่นานพิชญ์จะต้องแต่งงานและมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ เขาควรลบวิรงรองให้หมดไปจากใจ

“อ้อ...แม่หนูเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ แล้ว อย่าพยายามโทร.ถึงเธอเลย”ปรางทิ้งท้าย พิชญ์ถึงกับอึ้งเดินคอตกมาขึ้นรถ ระหว่างทางกลับบ้าน เขายังไม่ละความพยายาม โทร.ขอความช่วยเหลือจากวัฒน์เพื่อนของเขาให้ช่วยเช็กสายการบินภายในประเทศ ทุกสายให้ด้วยว่ามีผู้โดยสารชื่อวิรงรอง นกุล หรือเปล่า แต่แล้วพิชญ์ต้องผิดหวังเมื่อผ่านไปพักใหญ่ วัฒน์โทร.มาแจ้งว่าไม่มีชื่อวิรงรองอยู่ในรายชื่อผู้โดยสารไม่ว่าจะสายการ บินไหน...

ในเวลาต่อมา อนิรุทธิ์หิ้วกระเป๋าเดินทางมาส่งวิรงรองถึงตู้โดยสารรถไฟชั้นหนึ่ง กำชับว่าห้ามเปิดประตูรับใครเด็ดขาดไม่ว่าใครจะมาเคาะ แล้วโบกมือลาเธอพลางถอยหลังจะลงจากตู้โดยสารรถไฟไม่ดูตาม้าตาเรือชนเข้ากับ พันธ์สูรย์ซึ่งกำลังเดินขึ้นมา อนิรุทธิ์ขอโทษเขาก่อนจะลงจากรถอย่างเขินๆวิรงรองอดขำกับท่าทีของเพื่อนสนิท ไม่ได้ ส่วนพันธ์สูรย์สะดุดตากับความสดใสและน่ารักของเธอทันที

ooooooo

ถึง เวลาอาหารค่ำ พันธ์สูรย์ได้พบวิรงรองอีกครั้งหนึ่งที่ห้องอาหารบนรถไฟ เนื่องจากมีคนมาใช้ บริการมาก ทำให้โต๊ะเต็ม พันธ์สูรย์จึงเชิญให้วิรงรองนั่งโต๊ะเดียวกัน เธอเห็นท่าทีสุภาพและจริง ใจของเขาจึงยอมร่วมโต๊ะด้วย หลังจากกินอาหารกันเงียบๆ พักใหญ่ พันธ์สูรย์ถามเธอว่ากำลังจะกลับบ้านหรือ วิรงรองลังเลครู่หนึ่ง

“เอ่อ...คุณเคยได้ยินชื่อบ้านโดมทองหรือเปล่าคะ”

พันธ์ สูรย์ชะงัก สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เตือนเธอว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าไปที่นั่น แต่พอรู้ว่าเธอมีธุระ จำเป็นต้องไป เขาอวยพรขอให้โชคดี วิรงรองมอง พันธ์สูรย์ราวกับจะค้นหาความจริง

“คุณทำหน้าเหมือนฉันกำลังจะไปปราสาทผีดิบ”

“...เอ่อ... ผมขอตัวก่อน” พันธ์สูรย์ตัดบท ยกมือเรียกบริกรมาเก็บเงิน และให้คิดรวมกับของวิรงรองด้วย “ขออนุญาตเถอะครับ ไม่แน่ เราอาจจะได้พบกันอีก” เขาจ่ายเงินแล้วลุกออกไป วิรงรองมองตามงงๆ...

กว่า วิรงรองจะมาถึงสถานีรถไฟตามนัดก็ดึกมากแล้ว พันธ์สูรย์มีนํ้าใจช่วยถือกระเป๋าลงมาให้เพราะตัวเองลงสถานีนี้เช่นกัน พอเห็นนายสมคนของคฤหาสน์โดมทองเดินตรงมาหาวิรงรอง พันธ์สูรย์รีบคว้าหมวกขึ้นมาสวม แล้วขอตัวออกไปทันที วิรงรองร้องเรียกแต่ไม่ทัน เขาเดินหายไปในความมืดเสียก่อน

ครู่ต่อมา นายสมหิ้วกระเป๋าและข้าวของของวิรงรองมายังรถสีดำที่จอดอยู่มุมหนึ่งของสถานีรถไฟ แล้วเปิดประตูหลังให้วิรงรองขึ้นไปนั่ง เธอยังไม่ทันจะก้าวขึ้นรถมีเสียงของแสงแขดังขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ

“ไปนั่งข้างหน้า...ปล่อยให้รอตั้งนาน”

วิรงรองชะงัก ถอยออกมาแทบไม่ทัน รู้สึกได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งข้อรังเกียจตนตั้งแต่ยังไม่ทันจะรู้จัก กันด้วยซํ้า แถมยังแดกดันเธอว่าจะต้องขนเสื้อผ้ามามากมายทำไม ไม่เห็นมีใครอยู่ได้เกินหนึ่งเดือนสักคน...

ผ่านไปไม่นานนัก นายสมขับรถมาจอดหน้าประตูรั้วคฤหาสน์โดมทอง วิรงรองถึงกับตกตะลึง สถานที่แห่งนี้ช่างเหมือนกับที่เธอฝันเห็นเมื่อคืนไม่มีผิดเพี้ยน แสงแขเห็นท่าทางตื่นเต้นของผู้มาใหม่ถึงกับยิ้มเยาะ ดักคอว่าอย่าได้คิดจะครอบครองที่นี่เด็ดขาด วิรงรองโต้ไม่ยอมแพ้ว่าไม่บังอาจขนาดนั้น...

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 1-2 วันที่ 5 มิ.ย. 56

ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภา
ละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ