อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 7 วันที่ 6 ต.ค.61

อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 7 วันที่ 6 ต.ค.61

“คุณเคยชอบแม่วรดา ผ่านมายี่สิบปีถึงวันนี้คุณก็ยังแอบมาหานัทธมนที่หน้าตาเหมือนวรดาแทบไม่ผิดเพี้ยน”

“นัทธมนเป็นเพื่อนของถุงแป้งลูกสาวผม ผมจะไปคิดแบบนั้นได้ยังไง”

น้ำเสียงเข้มของปิติไม่ได้ทำให้แกมแก้วหวาดหวั่น กลับยิ่งอยากเอาชนะ “คนเจ้าชู้อย่างคุณแคร์เรื่องนี้ด้วยเหรอ พอพลาดจากคนในอดีตก็เลยอยากจะแก้มือกับคนในปัจจุบันที่หน้าตาเหมือนกันแบบนั้นใช่ไหม”



“คุณหยุดพูดเหลวไหลใส่ร้ายผมซะทีได้ไหมแก้ว”

แกมแก้วจะย้อนแต่เปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มแทนเมื่อเห็นนัทธมนเดินมา

“ตกลงฉันคงไม่ได้พูดเหลวไหลสินะ”

ปิติหน้าเจื่อนแก้ตัวแกนๆ “แค่มีธุระคุยกันนิดหน่อยน่ะ”

“ธุระนิดหน่อยอย่างนั้นหรือคะ...งั้นก็ตามสบาย...คนเราโตๆกันแล้วก็ควรจะรู้จักผิดชอบชั่วดีนะ”

ooooooo

คำพูดทิ้งท้ายของแกมแก้วทำให้ปิติเสียวสันหลังวาบ แม้ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับนัทธมนแต่ก็อดกังวลไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์เดชของอีกฝ่ายดีว่าชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน

นัทธมนก็มีท่าทีหนักใจเพราะไม่ทันคิดว่าการมาเจอปิติอาจสร้างความร้าวฉานในบ้านเพื่อนรักอย่างถุงแป้ง แต่ก่อนจะได้รู้ผลว่าจริงหรือไม่เธอคงต้องรับมือกฤตย์ที่เดินตรงมาทางเธอกับปิติเสียก่อน

“นี่คุณปิติจะพาเลขาของผมไปไหนเหรอครับ”

แววตาจับผิดของกฤตย์ทำให้ปิติสะบัดร้อนสะบัดหนาวแต่ทำใจดีสู้เสือ

“ก็แค่ทานข้าว...คุยธุระกันน่ะ คุณกฤตย์สนใจไปด้วยกันไหมครับ”

“ถ้าคนที่นั่งในรถอยากให้ผมไปด้วย เขาก็คงเอ่ยปากชวนไปแล้ว”

กฤตย์ปรายตามองนัทธมนดุๆก่อนถามถึงถุงแป้งหลานรัก

ปิติอ้ำๆอึ้งๆ “เอ่อ...แค่คุยกันนิดๆหน่อยๆ ไม่รู้จะนัดให้เอิกเกริกทำไม”

“แล้วพี่เกตุ...พี่สาวผมรู้ไหมว่าคุณจะไปกินข้าวกับเลขาผมเนี่ย”

“ก็แค่กินข้าว จะอะไรนักหนา คุณไปกับผมเลยไหมล่ะถ้าจะถามอะไรเยอะแยะแบบนี้”

“ไม่ล่ะครับ...ก็ถ้าคุณยืนยันว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ผมก็จะเชื่อคุณ”

“งั้นก็ดี...วันนี้ผมคงไม่ต้องโดนคุณชกหน้าอย่างวันก่อนโน้นใช่ไหม”

นัทธมนนิ่วหน้าแต่กฤตย์ไม่ทันสังเกต ยอมอ่อนท่าทีกับพี่เขย

“เรื่องมันผ่านไปร่วมยี่สิบปีแล้ว คุณยังไม่ลืมอีกเหรอ”

“อันที่จริงผมก็ลืมไปนานแล้วล่ะถ้าคุณจะไม่ทำให้ผมต้องนึกถึงแบบนี้...ผมขอตัวก่อนนะ”

คำพูดมีนัยของปิติทำให้นัทธมนสงสัยแต่จำต้องเก็บไว้เพราะปิติมีอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

กฤตย์ได้แต่มองตามรถของปิติด้วยแววตานิ่งเฉยทั้งที่ในใจพลุ่งพล่านด้วยความร้อนรนและหึงหวง แต่เขาคงไม่ออกอาการหนักเท่าแกมแก้วที่แล่นมาคาดคั้นความจริงเรื่องปิติกับนัทธมน

“อืม...พี่เห็นแล้วว่าเขาออกไปด้วยกัน”

“ทำไมทุกคนรู้กันหมด เมื่อกี้แก้วโทร.ไปฟ้องพี่เกตุ พี่เกตุก็บอกว่ารู้แล้ว”

“แก้วโทร.ไปฟ้องเหรอ...ไม่กลัวพี่เกตุเขาจะทะเลาะกันใหญ่โตหรือไง”

“ถ้าทะเลาะก็ไม่ใช่ความผิดแก้วแล้วล่ะค่ะ พี่เกตุเขารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว”

“แล้วพี่เกตุเขาว่าไงบ้างเหรอ”

“พี่เกตุเขาก็เสียใจสิคะ เห็นพี่เกตุบอกว่าเหนื่อยแล้ว...บางที...อาจจะต้องคิดเรื่องแยกทางกับอีตาปิติซะ”

“ว่าไงนะ พี่เกตุพูดแบบนั้นจริงๆเหรอ”

“ค่ะ...พี่เกตุบอกว่าอยากจะหย่าเต็มทีแล้ว”

ooooooo

การตัดสินใจของเกตุมณีจะขอหย่าปิติทำให้กฤตย์กับแกมแก้วใจไม่ดี แต่ปิติยังไม่รู้ตัวมัวทำตัวเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีของนัทธมนเกี่ยวกับเรื่องราวหลังการเสียชีวิตของวรดา

“หลังการตายของวรดาบ้านท่านประพจน์ก็เหมือนถูกสาป ทุกคนมีแต่ความเศร้า ความรู้สึกผิดบาปที่ต่างได้เคยล่วงเกินทั้งวาจาทั้งการกระทำกับวรดาไว้”

“แล้วคนอื่นๆรอบตัววรดาเขาเป็นยังไงกันบ้างคะ”

“ท่านพลโทประพจน์ก็ลาออกจากราชการไปบวชเป็นพระธุดงค์และไม่สึกอีกเลยจนชราเสียชีวิตไป ส่วนคุณผาณิตก็ย้ายไปอยู่หอพักของทางมหาวิทยาลัย ต้องรอจนปิดเทอมถึงจะกลับมาสักครั้ง”

“แล้วคุณแม่ของคุณผาณิตล่ะคะ”

“คุณหญิงผกาท่านก็อยู่บ้านคนเดียวเงียบๆ เหมือนเป็นบ้านร้างเพราะบรรดาแม่บ้าน คนใช้ก็ออกไปหมด หลังจากนั้นปีนึงตอนคุณหญิงผกาขับรถไปรับคุณผาณิตกลับบ้านก็ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ...เสียชีวิตทั้งคู่”

ชะตาชีวิตของครอบครัวประพจน์สลดหดหู่กว่าที่นัทธมนคิดไว้มาก แต่เธอก็ยังไม่หยุดและถามถึงกฤตย์

“กฤตย์เขาก็ไปเรียนต่อต่างประเทศเกือบจะในทันทีที่เสร็จพิธีศพของวรดา”

“คุณกฤตย์เขารีบหนีไปขนาดนั้นเลยเหรอคะ”

“จะเรียกว่าหนีหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนะ แต่น้าก็พอเข้าใจได้ วรดาเสียชีวิตในรั้วบ้านติดกัน ถ้ากฤตย์ยังขืนอยู่ที่นั่นก็คงจะยิ่งเศร้ายิ่งทำใจได้ยาก”

“คุณกฤตย์เขาเศร้ามากหรือคะช่วงนั้น”

“ต้องเศร้าแน่ๆสิ ถ้าจะถามว่าใครสนิทกับวรดามากที่สุดก็ต้องบอกว่ากฤตย์นี่แหละ”

“แต่เราก็เห็นในข่าวทีวีออกบ่อยนะคะที่ฆาตกรตัวจริงกลายเป็นคนสนิทของเหยื่อซะเอง”

“พูดเหมือนนัทสงสัยกฤตย์เขาอย่างงั้นแหละ”

“เปล่านะคะ นัทเป็นเลขาจะไปสงสัยเจ้านายแบบนั้นได้ไง”

“จริงด้วยสินะ ถ้าคิดว่าเจ้านายเป็นฆาตกรแล้วเรายังจะเสี่ยงเป็นเลขาส่วนตัวเขาทำไม นอกซะจากว่าเราอยู่ใกล้ๆเพื่อหาโอกาสจัดการเขา”

ข้อสันนิษฐานขำๆของปิติทำให้นัทธมนเสียวสันหลังวาบก่อนเปลี่ยนเรื่องถามถึงเหตุการณ์ชกต่อยระหว่างเขากับกฤตย์เมื่อหลายปีก่อน ปิติมีสีหน้าอึดอัดแต่ก็ยอมเล่าว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด วันเกิดเหตุเขาอาสาช่วยงานวรดาที่ป่วยหนักเลยถูกกฤตย์เข้าใจผิดเพราะดันมาเห็นตอนเขาอุ้มวรดาที่เป็นลมไปนอนพัก

กฤตย์เห็นภาพนั้นตำตาและคิดว่าปิติฉวยโอกาสลวนลามวรดาจึงถลาไปต่อย ปิติในวัยนั้นก็เลือดร้อน ทั้งรักและปรารถนาในตัววรดาแต่ต้องผิดหวัง เมื่อถูกเข้าใจผิดเลยยิ่งเตลิด กว่าเหตุการณ์จะสงบ วรดา ผาณิตและแกมแก้วก็ต้องรั้งกันสุดตัวเพราะแรงผู้ชายสองคนนั้นไม่ธรรมดาเลย

“นึกย้อนไปทีไร...ทั้งกฤตย์ทั้งตัวน้าเองก็อดสมเพชตัวเองกันไม่ได้ เรายังหนุ่มยังเลือดร้อนแล้วก็ยังโง่อยู่มากๆ”

“สรุปที่ทะเลาะชกต่อยนั่นก็เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน”

“ใช่...พอย้อนกลับไปมองตอนนั้นเราสองคนก็ยังขำกัน แต่พวกผู้ใหญ่กลับไม่ขำด้วย หลังจากวันนั้นกฤตย์เขายิ่งโดนสั่งห้ามไปเหยียบที่บ้านท่านนายพลอย่างเด็ดขาด”

“งั้นก็แปลว่า...หลังจากวันนั้นคุณกฤตย์ก็ไม่ได้เจอหน้ากับวรดาอีกแล้ว”

“เขาก็คงแอบเจอกันบ้างจนได้แหละมั้ง หนุ่มสาวรักกันสวรรค์นรกก็ยังขวางไม่ได้นะ”

“โอ้โห...ขนาดนั้นเลยเหรอคะ แล้วตัวคุณน้าเองล่ะคะ ได้เจอกับวรดาอีกบ้างไหม”

“ก็ได้เจออีกแค่ครั้งสองครั้ง หลังจากนั้นน้าก็มาสนิทสนมกับคุณเกตุที่เป็นแม่ของถุงแป้งตอนนี้ แล้วจากนั้นน้าก็เริ่มห่างๆบ้านนี้ไป น้าลาออกจากการเป็นทอสอของท่านประพจน์แล้วย้ายไปประจำที่เพชรบูรณ์น่ะ”

“ถ้างั้น...เหตุการณ์หลังจากวันนี้คุณน้าก็จะไม่ค่อยรู้แล้วสิคะ”

“ใช่...คงจะช่วยตอบคำถามนัทไม่ค่อยได้แล้วล่ะ อ้อ! นัทถามน้ามาตลอด งั้นน้าจะขอถามกลับบ้างได้ไหม”

“คุณน้าจะถามว่าอะไรเหรอคะ”

“นัทจะอยากรู้เรื่องทั้งหมดนี่ไปทำไม นัทคิดอะไรอยู่กันแน่”

อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 7 วันที่ 6 ต.ค.61

ละครเรื่อง บทประพันธ์โดย: กิ่งฉัตร
ละครเรื่อง บทโทรทัศน์โดย ทองเอก-ญาลิล-ณกดแก้ว
ละครเรื่อง กำกับการแสดงโดย ผิน เกรียงไกรสกุล
ละครเรื่อง ผลิตโดย บริษัท กัทส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง นักแสดงนำ เจษฎาภรณ์ ผลดี,นิษฐา จิรยั่งยืน
ที่มา ไทยรัฐ