อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 4 วันที่ 28 ต.ค.61

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 4 วันที่ 28 ต.ค.61

สินในสภาพบอบช้ำกลับมานั่งที่แคร่หน้าห้องครัวให้เอื้อยประคบให้ เอื้อยประคบไปบ่นไปว่าเจ็บแล้วจำบ้างเถิด เจ็บตัวเพื่อพิกุลแต่เขาไม่ไยดีเลยด่าว่า “พี่มันไม่ผิดคนโง่”

“ข้ายอมให้เอ็งเรียกไอ้โง่ ขอแต่ข้าได้ดูแลพิกุล ข้ายอมทั้งนั้น”

“โง่เอ๊ย!!!” เอื้อยกระแทกลูกประคบ แล้วลุกไปเลย สินมองถาดลูกประคบที่เอื้อยหามาให้ พึมพำอย่างรู้สึกถึงความหวังดีของเอื้อยที่มีให้ตน...



“ข้าไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรักเอ็งไม่ได้ นังเอื้อยเอ๊ย...”

ฝ่ายคุณหญิงเกสรถือเรื่องเจ้าคุณดื่มชาแล้วล้มตึงเป็นโอกาสโจมตีสารภีว่าวางยาเจ้าคุณ จะให้สร้อยไปจัดการนังลูกเจ๊ก สร้อยติงให้ตรองว่าถ้าแม่นั่นวางยาเจ้าคุณจริง คุณยศกับมันก็ต้องพลอยมีอันเป็นไปด้วย

คุณหญิงจึงให้สร้อยอยู่ดูท่านเจ้าคุณแล้วรีบขึ้นรถไปเลย สร้อยพึมพำสยองราวกับรู้ว่าคุณหญิงจะไปไหน ไปทำอะไร

“เรื่องถึงหูคุณหญิงพิศอย่างนี้ นังสารภีมันได้อยู่ไม่เป็นสุขแน่”

ที่บูรพาเคหาสน์...สารภีเล่าให้จีนพ้งฟัง บอกว่าคุณหญิงเกสรชังน้ำหน้าตนขนาดคิดว่าตนวางยาท่านเจ้าคุณ จีนพ้งชี้แนะว่าสารภีต้องไปหาเจ้าคุณให้เร็วที่สุดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ สารภีถามว่าแล้วเตี่ยจะเตือนคนของเตี่ยยังไงเรื่องที่ทำให้คุณหญิงเข้าใจตนผิด

จีนพ้งบอกว่าเรื่องเล็กน้อย สารภีติงว่ามันทำให้คุณยศพลอยระแวงตนไปด้วยเตี่ยจะว่ากระไร ก็พอดีชบาเข้ามาบอกว่ามีแขกมาหาคุณสารภี สารภีสงสัยว่าเป็นใคร

หลวงราชมาหาสารภีเจอนิ่มจึงทักทายกัน นิ่มเล่าเรื่องที่คุยกับคุณหญิงเกสรและคุยถึงคุณสารภีด้วย หลวงราชถามว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ตนต้องรู้หรือไม่ นิ่มไม่ทันตอบสารภีออกมาเห็นหลวงราชคุยกับนิ่มก็มองอย่างระแวง พุดกรองเห็นสารภีก็หลบไปอยู่หลังแม่ ซึ่งคุณหลวงก็จับสังเกตได้ทัน

สารภีมองสองแม่ลูกไล่ด้วยสายตา นิ่มจึงพาพุดกรองออกไป หลวงราชมาขอโทษเรื่องที่แม่ตนกล่าวหาสารภีเมื่อวาน สารภียิ้มกว้างนึกว่าหลวงราชมีใจให้ตน บอกว่าตนไม่ถือสา แต่เมื่อคุณยศตั้งใจมาเพื่อการนี้ตนก็ยินดีเหลือเกินแล้ว ฉอเลาะว่า

“บ่ายนี้สารภีจะไปเยี่ยมท่านเจ้าคุณอยู่พอดีเจ้าค่ะ” แล้วเอามาลัยดอกปีบให้บอกว่า “สารภีเตรียมไว้จะส่งให้ที่กระทรวงเจ้าค่ะ”

หลวงราชรับมาลัยสารภีไม่ยอมปล่อยมือมองมาลัยด้วยแววตาลึกซึ้ง หลวงราชนึกรู้ว่าสารภีตายใจแล้ว

ฝ่ายพิกุลขอร้องสินว่าอย่าทำอย่างนี้อีกเลย สินบอกว่าอย่าห้ามเลย ตนจะดูดายมองพิกุลซับน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างไร พูดอย่างน้อยใจว่าไม่เห็นว่าพี่ห่วง

ก็ไม่กระไร พิกุลบอกว่าไม่เพียงตนห่วงเขา เอื้อยก็ห่วงเขาไม่แพ้ตน แต่สินเห็นว่าห่วงอย่างเอื้อยมีแต่จะซ้ำให้ตนเจ็บกว่าเดิม ประคบไปด่าไปพานจะตีกันอีกรอบ ตนซึ้งใจที่เอื้อยเป็นห่วงแต่มันก็เป็นได้แค่น้องเท่านั้น สินอธิบายเพื่อให้พิกุลใจอ่อนว่า

“พี่กันไม่ให้คุณหลวงมากล้ำกรายกับพิกุลก็ใช่จะฉวยโอกาสแทนที่ พี่รู้แก่ใจว่าไม่อาจเทียมเขาได้ อย่างน้อยขอให้พี่ได้ปกป้องพิกุลเถิด”

“ซึ้งใจหรือยังพี่สิน” เอื้อยถามแทรกขึ้น ถือตลับยาหม่องมาจะนวดให้สิน “เข้าใจหัวอกของฉันหรือยัง หัวอกของคนที่ทำไม่ได้แม้แต่ห่วงใย...อกไหม้ไส้ขมถึงเพียงไหนก็ต้องทน”

สินบอกว่าจะสมน้ำหน้าตนยังไงก็เอาเลย เอื้อยบอกว่าตนเตือนสติ ไม่ได้สมน้ำหน้า

“เอ็งมันปากไม่ตรงกับใจ” สินโพล่ง เอื้อยโกรธขว้างตลับยาหม่องใส่แต่สินหลบทัน ดุเอื้อย “นังเอื้อย!! ถ้าโดนพิกุลขึ้นมาเอ็งจะว่ากระไร”

เอื้อยยิ่งน้อยใจ พิกุลเรียกเอื้อยให้ฟังตนก่อน เอื้อยย้อนถามเสียงสะท้านว่า

“ยังต้องฟังอะไรอีก...จำไว้นะ ถึงวันที่หล่อนออกเรือนกับพี่สิน อย่าหวังจะเห็นเงาของอีเอื้อยในวันแต่งงานของหล่อน”

“มันจะไม่มีวันนั้น เอื้อย!! ถ้าไม่เชื่อจะไปสาบานที่วัดไหนก็ได้”

สินกล้ำกลืนข่มความผิดหวังทั้งที่รู้ตัวก่อน บอกเอื้อยว่าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่นักเลย

“คิดว่าฉันไม่กล้ารึ” เอื้อยจ้องพิกุลอย่างท้าทาย

ooooooo

สารภีชงชาให้หลวงราชดื่ม หลวงราชดื่มจนหมด สารภีบอกว่าได้เวลาคุณยศต้องกลับกระทรวงแล้ว บอกว่าตนไม่ได้ไล่ แต่ตนทำถูกต้องตามธรรมเนียมใช่ไหม เมื่อแขกดื่มน้ำชาหมดแสดงว่าไม่ต้องการรับชาอีก

หลวงราชลุกขึ้นเหมือนจะลืมมาลัยดอกปีบ สารภีจะหยิบให้พอดีหลวงราชกลับมาหยิบ มือกับมือสัมผัสกันเต็มๆ สารภียิ้มเขิน บอกว่าหากลืม ตนก็จะส่งให้ถึงกระทรวงเลย หลวงราชหยิบมาลัยแล้วออกไป

ส่งหลวงราชแล้วสารภีกลับเข้ามาเจอนิ่มถือถาดส้มไปทางห้องบูชา สารภีชักสีหน้าปรามว่าตนเตือนแล้วว่าหล่อนมีหน้าที่มาเก็บกวาดเท่านั้นอย่าเสนอหน้าเอาอะไรมาบูชาบรรพบุรุษตระกูลตน ไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือ นิ่มถามว่าจะให้ตนขัดคำสั่งเจ้าสัวหรือ สารภีปรามว่าไม่ต้องอ้างเตี่ย หยิบส้มลูกหนึ่งจากถาดบอกว่าลูกนี้มันเน่าในให้ไปเอามาใหม่ตนจะรออยู่ที่ห้องป้าย อย่าให้รอนาน

พิกุลกับเอื้อยเข้าไปในโบสถ์ เอื้อยถามว่าคุณหลวงทำให้พิกุลแน่ใจแล้วหรือถึงได้กล้าตัดสัมพันธ์สินเช่นนี้ พิกุลไม่ตอบแต่เร่งให้รีบสาบานจะได้กลับ เอื้อยบอกไม่ต้องสาบาน ตนอยากรู้เรื่องหล่อนกับคุณหลวงเท่านั้น พิกุลบอกว่าถ้าไม่สาบานตนก็จะกลับ แต่ไม่ทันที่ทั้งสองจะกลับ คุณหญิงเกสรกับคุณหญิงพิศพิลาศก็เข้ามา พิกุลดึงเอื้อยไปหลบหลังพระประธาน จึงได้ยินสองคุณหญิงคุยกันทุกถ้อยคำ

คุณหญิงเกสรปรารภว่าตนไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อเจ้าคุณถือหางสารภีอยู่ ตนเกรงว่าท่านเจ้าคุณยุทธนาจะเห็นว่าเป็นเรื่องของเด็กๆแล้วปล่อยเลยตามเลย

คุณหญิงพิศพิลาศบอกว่าอย่าได้เกรงใจเลย ตนเห็นคุณหญิงร้อนใจเรื่องลูกดาวกับลูกเดือนแล้วจะนิ่งเฉยได้อย่างไร ตนขอสาบานต่อหน้าพระประธานว่า

“จะทำทุกทางเพื่อกำจัดขวากหนามให้พ้นทาง อย่างไรลูกสาวของอิฉันต้องได้เป็นหนึ่งในหัวใจของตายศ จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้”

พิกุลได้ยินคำสาบานถึงกับหน้าเสีย เอื้อยปลอบว่าถ้าคุณหลวงมีใจให้หล่อนไม่ว่าใครก็ไม่มีวันทำให้คุณหลวงเปลี่ยนใจได้ พิกุลติงว่ารักอย่างเดียวจะเทียบยศศักดิ์ได้อย่างไร เอื้อยจึงให้อธิษฐานขอพระท่านดลใจให้ท่านเจ้าคุณกับคุณหญิงเกสรใจอ่อนฟังคุณหลวงบ้าง พิกุลอึ้งจนเอื้อยถามว่านิ่งอยู่ทำไม

“ฉันซาบซึ้งน้ำใจของเอื้อยเหลือเกิน”

“ค่อยซาบซึ้งตอนหล่อนออกเรือนไปกับคุณหลวงเถิด” เอื้อยบอกแล้วส่งธูปให้ พิกุลรับธูปปักด้วยความซาบซึ้งน้ำใจของเอื้อย

ooooooo

สินรู้ว่าอ้นมีใจให้เอื้อยอยู่แต่ไม่กล้าทำอะไรให้เอื้อยรู้ สินถามว่าอย่างนี้เมื่อไหร่เอื้อยจะมีใจให้เล่า อ้นถามว่าสินไม่หวงหรือ สินส่ายหน้าบอกว่าตนกับเอื้อยไม่มีวันได้คู่กันดอก สงสารที่เอื้อยหวังลมๆ แล้งๆกับตน

 “แล้วที่เอ็งหวังลมๆแล้งๆกับแม่พิกุลไม่สงสารตัวเองดอกรึ” อ้นถามตรงจนอ่ำติงว่าพูดแทงใจดำพี่สิน สินเลยลุกขึ้นไล่เตะอ้น พอดีเพียรเข้ามาขัดจังหวะบอกให้สินไปตัดใบตองให้ทีแล้วใช้อ่ำกับอ้นไปดูพ่อจางวางทีเผื่อมีอะไรจะใช้เพราะไม่รู้ว่าพิกุลกับเอื้อยหายหัวไปไหน

 ที่แท้เพียรหลอกให้สินไปในป่ากล้วยเพื่อถามว่ารู้เรื่องที่จางวางหมายพิกุลให้เขาหรือไม่ สินพยักหน้ายิ้มปลื้ม เพียรถามว่าแล้วสินไม่สงสารนังเอื้อยหรือ

เพียรซักถามจนรู้ว่าสินรักเอื้อยเหมือนน้อง เพียรบอกว่าแต่พิกุลก็ไม่มีใจให้เขา สินหน้าสลดหันไปฟันก้านกล้วยข่มอารมณ์ “โธ่...ไอ้สินเอ๊ย...” เพียรมองสินอย่างเห็นใจ

ooooooo

กลางวันวันนี้ สุดเตรียมทำข้าวต้มมัดสูตรวังคุณพระสรรพ์หวังอวดคนบ้านเจ้าคุณพิชัยโดยเฉพาะคุณหญิงเกสร เอื้อยบอกว่าคุณหญิงเขาเลี้ยงแขกด้วยขนมอบอย่างฝรั่ง แม่คิดหรือว่าคุณหญิงจะแลขนมอย่างนี้

สุดเชื่อว่าข้าวต้มมัดสูตรเด็ดนี้ไม่มีใครปฏิเสธ เอื้อยบอกว่ารอคุณหญิงกลับมาแม่ก็จะรู้เองว่าอะไรเป็นอะไร

ทำข้าวต้มมัดเสร็จเอื้อยเอาใส่ถาด สร้อยมาเห็นพูดประชดกับบ่าวว่า เป็นบุญปากของพวกเอ็งที่จะได้กินข้าวต้มมัดชาววัง พิกุลตัดบทไม่ให้มีเรื่องกันว่าตนเตรียมมาให้ท่านเจ้าคุณกับคุณหญิงด้วย สร้อยหางตาใส่พูดลอยๆว่าใส่อะไรลงไปบ้างก็ไม่รู้

เอื้อยโพล่งไปว่าอยากกินก็กิน ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน สร้อยจิกใส่ “นังนี่” พิกุลขอร้องอย่ามีเรื่องกันเลยถ้าท่านไม่อยากกินก็ไม่เป็นไร จัดเสร็จแล้วขอตัวดึงเอื้อยออกไปและจะคว้าตะกร้าข้าวต้มมัด

สร้อยถามว่าอยากให้คุณหญิงรับข้าวต้มมัดไม่ใช่หรือ ถ้าเช่นนั้นก็ตามมา สั่งบ่าวให้จัดสำรับของว่างให้ท่านรับกับน้ำชาตอนบ่ายด้วย แล้วบอกพิกุลให้ตามมา...

สร้อยพาไปที่ศาลาในสวน คุณหญิงกำลังคุมบ่าวตวงเหล้าเตรียมทำน้ำปรุง สร้อยเห็นเหล้าก็เปรี้ยวปากขอที่เหลือก้นไหสักจิบสองจิบ ถูกคุณหญิงว่าเห็นเหล้าเป็นไม่ได้เชียว

คุณหญิงเห็นข้าวต้มมัดก็ถามเสียงกระด้างว่าเอาข้าวต้มผัดใส่สำรับมาทำไม พิเรนทร์ สร้อยบอกว่าคนปี่พาทย์มีน้ำใจอยากให้คุณหญิงลองข้าวต้มชาววัง ตนไม่รู้จะขัดอย่างไรก็เลยต้องเลยตามเลย

“ของแบบนี้ฉันไม่กิน ใส่อะไรบ้างก็ไม่รู้ ทำกันยังไงก็ไม่เห็น สกปรก!!!” คุณหญิงหยิบจานออกจากสำรับไสไปอย่างรังเกียจ

สร้อยทำเป็นบ่นว่าตนเลยพลอยโดนด่าไปด้วย ไม่น่าหวังดีเลย เอื้อยถามว่าหวังดีจริงหรือ สร้อยปรามว่าอยู่ต่อหน้าคุณหญิงอย่าพูดพล่อยๆ แล้วบอกบ่าวให้พาสองคนออกไป เอื้อยบอกว่ามาเองก็กลับเองได้

คุณหญิงโกรธถามว่า “พ่อแม่พวกหล่อนไม่อบรมสั่งสอนรึไง” พิกุลไหว้บอกว่าตนสองคนกราบขอโทษ

คุณหญิงเหยียดว่าสั่งสอนกันมาอย่างนี้มันถึงไม่มีวันเจริญ ลำเลิกว่ามาอยู่ที่นี่ก็คงไม่สำนึกบุญคุณสักวันคงกินบนเรือนขี้รดหลังคา

“พ่อจางวางกับอิฉันแทนคุณหญิงได้แต่ทางมโหรีพี่ปี่พาทย์ หากไม่สมกับที่คุณหญิงหวังจะได้ ก็เกินปัญญาที่พิกุลตอบแทนเจ้าค่ะ”

“ต่อปากต่อคำนัก ตบปากสั่งสอนมันที” คุณหญิงสั่งบ่าว สร้อยกับบ่าวรี่เข้าหาพิกุลกับเอื้อยทันที

เอื้อยส่งจานข้าวต้มมัดให้พิกุลถือ ตัวเองสะอึกออกไปขวางไม่ให้เข้าถึงพิกุล ท้าเหยง

“เข้ามาเลย เดี๋ยวอีเอื้อยจะสนองคุณให้ดูต่อหน้านี่ละ”

พวกบ่าวเห็นเอื้อยเอาจริงก็ไม่กล้าเข้าไป เอื้อยท้าไปก็หาทางหลบพ้นจากการถูกล้อมกรอบจนได้

ooooooo

แต่พิกุลถอยไปชนหลวงราชที่กำลังเดินเข้ามา ทั้งสองมองหน้ากันนิ่ง แล้วหลวงราชก็หยิบข้าวต้มมัดในจานถามว่าฝีมือหล่อนรึ เอื้อยชิงตอบว่าข้าวต้มมัดฝีมือแม่พิกุล

ฟังแล้วหลวงราชก็จงใจแกะห่อข้าวต้มมัดกินให้คุณหญิงเห็น คุณหญิงโวยวายให้วางลงเดี๋ยวนี้มันใส่อะไรเข้าไปด้วย ผ่านมือใครต่อใครมาบ้างก็ไม่รู้ เดี๋ยวเสาะท้อง ถ้าลูกอยากกินแม่จะสั่งบ่าวทำให้

“เช่นนั้นกระผมต้องเสาะท้องมีอันเป็นไปเสียตั้งแต่อยู่เมืองสุพรรณแล้วขอรับ” หลวงราชแกล้งยั่ว แล้วบอกพิกุลว่า “ฉันจะตามไปที่เรือนนะ ยังพอมีให้ฉันใช่ไหม”

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 4 วันที่ 28 ต.ค.61

ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุน
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ