อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 10
ผาณิตารู้สึกผิดมากที่ทรยศความไว้วางใจของเหมันต์ ได้แต่ร่ำร้องขอคำสัญญาว่าจะไม่เกลียดกันแลกกับจูบแรกในชีวิตสาวที่ทำให้เขาหัวใจพองโตอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครชาญตัดสินใจออกจากชีวิตเหมันต์เพื่ออนาคตของอีกฝ่ายจึงร่วมมือกับเหมทองและผาณิตาสร้างเรื่องโกหก
“พ่ออยู่ไปก็เป็นภาระของแก ถึงพ่อจะเลี้ยงแกมาแต่แกก็ลำบากเพราะพ่อคนนี้มาโดยตลอด มีสิ่งนี้ที่พ่อจะทำให้กับแกได้...พ่อรักแกที่สุดนะเหมันต์”
เหมทองรับหน้าที่จัดฉากให้ชาญกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทิ้งไว้แค่จดหมายบอกลาลูกชาย “เหมันต์...พ่อขอโทษที่หนีแกมา พ่อไม่อยากอยู่เป็นภาระให้แกต้องลำบากอีกแล้ว เมื่อพ่อตายไปแกไม่ต้องเสียใจหรือโทษตัวเอง...”
ผาณิตารับไม้ต่อจากเหมทองด้วยการพาตัวเหมันต์กลับกรุงเทพฯเพื่อรับศพชาญที่ริมแม่น้ำ เหมันต์ช็อกหนัก หัวใจแทบสลายเมื่อเห็นรถเข็นของพ่อซึ่งหริทธ์เก็บเงินซื้อเป็นของขวัญ เขามั่นใจว่าเป็นรถของพ่อเพราะที่พนักนั่งมีรอยขูดเป็นตัวอักษรชื่อพ่อกับเบอร์โทรศัพท์ของสองพี่น้อง
เหมันต์ร้องไห้อย่างหนักเป็นที่น่าเวทนาของผู้พบเห็น ผาณิตาปวดแปลบในอกที่ร่วมมือกับปู่หลอกลวงเขาขนาดนี้ เหมทองไม่เพียงทิ้งจดหมายลาของชาญแต่ยังจ้างหญิงชาวบ้านละแวกนั้นให้เป็นพยานรู้เห็นการตายของชาญด้วย
ผาณิตาไม่รู้เรื่องจดหมายลาและหญิงชาวบ้านมาก่อน แต่ดูออกว่าเป็นแผนของปู่เพราะเห็นพิรุธหลายอย่าง โชคดีที่เหมันต์มัวโศกเศร้ากับจดหมายของชาญจนไม่ได้สนใจอาการแปลกๆของเธอ
เหมันต์กำจดหมายแน่น น้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจสุดขีดเมื่อนึกถึงคำสั่งเสียของพ่อ...
“พ่อไม่ได้รู้สึกมีความทุกข์เลย พ่อจากไปอย่างมีความสุขจริงๆไม่มีความทรมานเหลืออยู่อีกแล้ว พ่อมาคิดดูแล้ว คุณเหมทองเขาคงอยากจะช่วยพ่อด้วยใจจริง ถ้าเขานึกเอ็นดูแก เมตตาแก แกก็ทำงานอยู่กับเขาต่อไปเถอะ พ่อจะได้หมดห่วงนอนตายตาหลับ สิ่งสุดท้ายที่พ่อจะขอจากแกก็คือ...ขอให้แกดูแลหริทธิ์เหมือนน้องแท้ๆ อย่าทอดทิ้งกัน ขอบใจมากที่มาเป็นลูกพ่อ...รัก...พ่อชาญ”
หริทธ์ยังไม่รู้เรื่องชาญ มุ่งมั่นทำตามคำแนะนำของมิตรคือเอาคืนทศนาถด้วยการหลอกให้เขาเล่นพนันในบ่อนจนหมดตัว ต้องเป็นหนี้ก้อนโตเพราะความโง่และความโลภ
ปุ๊ไม่ห้ามหริทธ์แถมร่วมด้วยช่วยกันจนทศนาถกลายเป็นหนี้บ่อนหลายล้านโดยไม่รู้ตัว หริทธ์ย่ามใจมากและยิ่งลำพองใจเมื่อลาวัลย์ขอนัดพบ แต่เมื่อได้เจอกลับหน้าหงิกเพราะลาวัลย์อยากเจอเขาเพื่อถามถึงเหมันต์!
“ฉันตัดขาดกับเขาแล้ว ไม่คิดจะกลับไปที่บ้านสับปะรังเคนั่นอีก”
ลาวัลย์จะถามต่อแต่ไม่ทันอ้าปาก เอมก็โทร.แจ้งข่าว หริทธ์ว่าชาญตายแล้ว!
ooooooo
นอกจากกำจัดชาญให้พ้นทาง เหมทองยังให้กมลเซ็นเช็คให้อาคมปิดปากเรื่องอดีต ไม่อยากให้เหมันต์รับรู้หรือระแคะระคายความเลวร้ายของตนที่เคยทำกับเหมวัตและอุษา
ผาณิตาไม่รู้เรื่องอาคมแต่คาใจเรื่องชาญจนต้องไปขอความจริงจากเหมทอง
“คุณปู่คะ...ตาลอยากรู้ความจริงเรื่องนายชาญ มันยังไงกันแน่ ทำไมคุณปู่ถึงไม่อยากให้เหมันต์เจอพ่อเขา”
เหมทองบ่ายเบี่ยงไม่เล่า “บอกพ่อแกว่าอย่าสร้างปัญหาอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ให้อภัยมันอีกเป็นครั้งที่สอง”
“คุณปู่ไม่อยากให้นายชาญอยู่เป็นภาระกับเหมันต์ก็เลยลักพาตัวเขาไปแล้วหลอกให้เหมันต์มาทำงานรับใช้คุณปู่ แต่ที่ตาลยังไม่อยากเชื่อก็คือคุณปู่สั่งฆ่าเขาหรือเขาฆ่าตัวตายจริงๆ”
“แกนี่มันฉลาด ไม่เสียทีที่ฉันสอนแกมา”
“คุณปู่ฆ่าเขาหรือคะ ต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วยหรือคะ”
“ฉันไม่โง่ให้มือตัวเองเปื้อนเลือด เขาไม่อยากอยู่เป็นภาระของเหมันต์เอง แกจะเชื่อหรือไม่ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบาย...แกอาจจะคิดว่าปู่ใจร้ายแต่ปู่ทำเพื่อบุญญาฉัตรพงษ์ เพื่อย่าของแกแล้วก็เพื่อแกด้วย”
“ตาลไม่เข้าใจ”
“ไม่ช้าหรอกแกจะเข้าใจ แกแค่ไปอยู่ข้างๆ เขา เป็นกำลังใจให้เขา เสร็จงานศพแล้วพาเขากลับมาทำงานทันที”
ผาณิตารับคำสั่งแบบเสียไม่ได้ เช่นเดียวกับกมลที่ไม่สบายใจเรื่องอาคมและเรื่องทนายที่เหมทองเรียกมาสั่งงานเป็นการส่วนตัว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะประธานใหญ่ เหมทองกรุ๊ปมักมีเรื่องเกินความคาดหมายเสมอ...
อาคมไม่รับเช็คแต่แอบหนีจากที่คุมขัง กมลให้คนตามจับแต่ไม่พบแม้แต่เงา ไม่ต่างจากเหมันต์ที่ไม่เจอหริทธ์ที่วัดซึ่งจัดงานศพให้พ่อจนกระทั่งสวดจบน้องชายคนเดียวของเขาจึงปรากฏตัว
เหมันต์ดีใจมากเมื่อเห็นหน้าน้องชาย จะโผกอดแต่หริทธ์เบี่ยงตัวหลบ
“เพราะพี่ เพราะพี่คนเดียว ถ้าพี่ไม่เข้าไปทำงานในบริษัทนังปีศาจพ่อก็คงไม่หนีไป ถ้าพ่อไม่หนีไป
พ่อก็คงไม่ตาย พี่มันเป็นลูกอกตัญญู เอาพ่อผมคืนมา เอาพ่อผมคืนมา”
หริทธ์กระชากคอเสื้อพี่ชายโกรธๆ อู๋ทนไม่ไหวเข้ามาห้าม
“ปล่อยพี่เขา มันไม่เกี่ยวอะไรกับเหมันต์เลย เหมันต์ไปทำงานบริษัทนั้นก็เพื่อหาเงินช่วยผ่าตัดให้พ่อเธอ”
“ด้วยการเกาะผู้หญิงกิน เอาเงินสกปรกเงินไร้ศักดิ์ศรีมารักษาพ่อหรือครับ พ่อไม่มีวันเอา เขาถึงต้องหนีไปไง”
ผาณิตาที่แวะมาร่วมงานศพของชาญโผล่มาพอดี หริทธ์ร้องทักเสียงหยัน
“นั่นไง...คนที่มันทำให้พี่ชายผมแปลงร่างเป็นแมงดาปีกทอง”
คำพูดถากถางของหริทธ์ทำให้ผาณิตาเหลืออดตอกไม่ไว้หน้า
“เธอมันก็เห็นแก่ตัว เขายอมเสียสละเพื่อพ่อเพื่อน้องชายทุกอย่างแต่เธอไม่เคยมองเห็น หรือเพราะเห็นพี่ชายตัวเองได้ดีกว่าก็เลยทนไม่ได้ เงินจากบ่อนพนันที่เธอได้มามันก็สกปรกพอๆกับใจของเธอนั่นแหละ”
ผาณิตาจี้แทงใจดำ หริทธ์โมโหจะทำร้ายเธอ เหมันต์ร้องห้าม
“อย่านะริท...อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป เริ่มกันใหม่เถอะ อย่าทำให้วิญญาณพ่อเสียใจไปมากกว่านี้”
“พี่เลิกเสแสร้งได้แล้ว เขาไม่ใช่พ่อพี่ ผมก็ไม่ใช่น้องพี่ เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแม้แต่นิดเดียว ไม่จำเป็นต้องมานับญาติกันอีก!”
“พี่ไม่ให้แกกลับไปทำงานชั่วๆอย่างนั้นอีกแล้ว ...มากับพี่”
เหมันต์จะลากน้องชายกลับบ้านแต่หริทธ์สะบัดตัวออกและต่อยเขาเต็มแรง เอมตะลึงแหวลั่น
“แกบ้าหรือไง ทำร้ายพี่เหมันต์ทำไม เขาเป็นพี่แกนะ”
“ก็เพราะฉันมันเลวไง แต่เขาเป็นคนดี เป็นคนดีที่ทำให้พ่อตาย!”
ooooooo
หริทธ์ผลุนผลันออกจากวัด เหมันต์สะเทือนใจหมดแรงจะตาม ผาณิตาต้องคอยปลอบแต่ไม่วายสมเพช เพราะไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายยอมให้น้องชายกดดันขนาดนี้
“นายยอมเสียสละเพื่อเขาทุกอย่างทั้งๆที่...แล้วยังนายชาญที่ไม่ใช่พ่อแท้ๆ นายมันบ้า!”
เหมันต์นิ่งไม่ตอบโต้ ผาณิตายิ่งสะท้อนใจเมื่อคิดถึงครอบครัวตัวเอง
“บ้านฉันก็ไม่ใช่คนที่มาจากสายเลือดเดียวกัน พวกเราถึงจะอยู่กันอย่างครอบครัวเดียวกันแต่กลับใส่หน้ากากหากันตลอดเวลา ใครมีโอกาสก็คอยจ้องซ้ำเติม แม้แต่ฉันเองก็ไม่เคยมีความหวังดีกับพวกเขา เลย แล้วนายทำได้ยังไงกัน...เสียสละเพื่อพ่อกับน้องที่ไม่ใช่สายเลือดกันเลย”
“มันเริ่มจากการให้...”
เรื่องราวในอดีตผุดในหัวเหมันต์อีกครั้ง เขาเล่าให้ผาณิตาฟังถึงความเป็นมาที่ทำให้เหมวัตพ่อแท้ๆ ของเขารู้จักชาญ ทั้งสองช่วยเหลือกันตั้งแต่ชาญประสบอุบัติเหตุจนพิการเดินไม่ได้ เหมวัตสอนเย็บรองเท้าให้ชาญใช้เป็นวิชาเลี้ยงชีพและส่งเสียเหมันต์กับหริทธ์
ถึงวันนี้
เหมันต์ร่ำไห้เมื่อคิดถึงพ่อทั้งสอง “เขาต่างให้ซึ่งกันและกัน และการให้นั้นก็ส่งต่อมาที่ผม...การให้ทำให้พวกเรากลายเป็นครอบครัวเดียวกัน ผมเชื่อว่า
ทุกคนทำให้บ้านกลายเป็นครอบครัวได้ด้วยวิธีนี้”
ผาณิตาน้ำตาซึมเริ่มเข้าใจความรักของคนในครอบครัวแม้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเจอกับตัวเองเมื่อไหร่...
เหมทองปล่อยเหมันต์ให้อยู่กับงานศพชาญจนกว่าจะพอใจ โดยส่งผาณิตาประกบและให้ปราการรักษาการตำแหน่งในบริษัทจนกว่าเหมันต์จะพร้อมกลับมาทำงานอีกครั้ง
ปราการลำพองใจมากเมื่อคิดว่าเหมทองจะแถลงโครงสร้างผู้บริหารใหม่ในอีกไม่กี่วัน และความฝันก็ใกล้เป็นจริงขึ้นอีกนิดเมื่อหลักฐานที่เขาส่งให้ตำรวจสำแดงฤทธิ์เดชทันใจ!
คดีของบูรณ์ถูกตรวจสอบและสืบสวนอย่างหนักจนสาวถึงตัวผู้ต้องสงสัยอย่างทัศนัยเพราะมีเสื้อที่เขาใส่ในวันเกิดเหตุเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ดาบหลงบุกถึงบริษัทเหมทองเพื่อจับกุมตัวทัศนัย เหมทองช็อกมาก ตัดสินใจไล่ทัศนัยกับทศนาถออกและจะจัดแถลงโครงสร้างผู้บริหารใหม่ทันที
ooooooo
ระหว่างที่เหมทองวุ่นวายกับการปรับเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ของเหมทองกรุ๊ป รวมถึงเร่งกมลให้ตามอาคมที่ยังหลบหนี ผาณิตาต้องรับมือลาวัลย์ซึ่งตามทวงสัญญาที่เธอแฉคลิปสารภาพของทศนาถเพื่อช่วยเหมันต์
“หายหน้าไปเลยนะคะพี่ หรือคิดจะหลบหน้าวัลย์เพราะกลัวว่าวัลย์จะมาทวงสัญญา”
“คุณปู่กำลังไม่พอใจพ่อพี่ อาสามก็พัวพันคดีฆาตกรรม ขืนพี่เอาเรื่องถอนหมั้นไปบอกคุณปู่จะเครียดหนักขึ้น”
“พี่ตาลอย่ามาลีลาดีกว่า”
“พี่ไม่ได้รักเหมันต์ ที่แต่งเพราะเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆ”
ผาณิตากัดฟันบอกเพราะตั้งใจถอนหมั้นเหมันต์อยู่แล้ว ลาวัลย์มัวดีใจจนไม่ทันสังเกตลูกพี่ลูกน้องสาวที่กลั้นน้ำตาสุดความสามารถที่ต้องหักหาญหัวใจตัวเอง
“คิดหรือว่าพี่จะเลือกช่างซ่อมรองเท้ากระจอกๆ
มาเป็นสามี เธอวางใจเถอะ เราไม่สามารถลงเอยกันได้หรอก ...ไม่ช้าเขาก็จะเกลียดพี่เข้ากระดูกดำ...”
ทัศนัยมีแผนหนีออกนอกประเทศโดยมีเป้า
คนสนิทช่วยเบิกทาง ปราการรู้ดีว่าน้องชายบุญธรรมคงไม่กล้ากลับบ้านแต่ก็ไม่ไว้ใจหลอกล่อสมรน้องสะใภ้หัวอ่อนให้เป็นหูเป็นตาอีกแรง...หากกลับมาจะฆ่าให้ตาย!
ในที่สุดงานแถลงโครงสร้างผู้บริหารใหม่ของ
เหมทองกรุ๊ปก็มาถึง มนตรามาร่วมงานโดยมีเหมันต์กับผาณิตานั่งประกบ เหมทองในฐานะประธานก็รับหน้าที่กล่าวนำต่อหน้าคณะกรรมการผู้บริหาร
เหมทองร่ายยาวถึงผลประกอบการปีที่ผ่านมาเพื่อปูทางเปิดตัวเหมันต์ทายาทตัวจริงของเหมทองกรุ๊ป แต่เหมันต์ยังไม่รู้ตัวและปลีกตัวไปพบอาคมตามคำบอกเล่า ของเกรียงศิษย์เอกที่บังเอิญช่วยอดีตช่างซ่อมรองเท้าไว้
อาคมไม่รอช้าเล่าเรื่องตั้งแต่ถูกเหมทองจับตัวจากวัดที่ไปซ่อนตัวและเรื่องอดีตทั้งหมดโดยเฉพาะเรื่องเหมวัตกับอุษาพ่อแม่แท้ๆของเหมันต์ที่ต้องตกระกำลำบากเพราะแรงเกลียดชังของปู่แท้ๆอย่างเหมทอง
เหมันต์โกรธจัด เหมทองไม่เพียงทำร้ายจิตใจลูกชายอย่างเหมวัตยังโกหกหน้าตายเรื่องจับตัวอาคมและชาญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว อาคมนัดแนะเหมันต์ให้ไปเจอกันอีกในป่าช้าข้างวัดเพราะอยากเล่าเรื่องพวกเสี่ยที่ใส่ร้ายเหมวัตอย่างเลือดเย็นเพื่อสมบัติ เหมันต์ยอมเพราะตัวเองต้องกลับไปร่วมงานแถลงโครงสร้างผู้บริหารใหม่ของบริษัท
เหมทองไม่รู้ตัวว่าความจริงถูกอาคมแฉเรียบร้อย เล่าอย่างหมดเปลือกให้คณะกรรมการเข้าใจเรื่องปรับเปลี่ยนตัวผู้บริหารกะทันหันโดยเฉพาะตำแหน่งทายาทเหมทองกรุ๊ปที่ต้องเป็นของหลานชายแท้ๆ
“เขาคือเหมันต์ บุญญาฉัตรพงษ์...ลูกของเหมวัตและอุษา เขาจะเป็นทายาทของเหมทองกรุ๊ปคนต่อไป”
เหมันต์กลับมาทันร่วมงาน ยืนนิ่งงันมองหน้าทุกคนด้วยอารมณ์ซังกะตาย เหมทองคิดว่าหลานชายคงตื่นเต้น กระซิบสั่งข้างหู “เธออาจจะช็อกอยู่แต่เดี๋ยวเรา ค่อยกลับไปคุยที่บ้าน กล่าวขอบคุณทุกคนสั้นๆก็พอ”
ปราการรับไม่ได้ ไม่อยากเชื่อหูทั้งเรื่องเหมันต์เป็นทายาทตัวจริงและตัวเองจะพลาดตำแหน่งบริหารที่รอคอย เหมทองไม่ยี่หระเรียกให้เหมันต์ตอบรับตำแหน่งแต่หลานชายหมาดๆกลับทำตรงข้าม
“ผมไม่กล้ารับนามสกุลอันยิ่งใหญ่ของประธานเหม หรอกครับ...พ่อของผมมีชื่อว่าชาญศักดิ์ ช่ำชองกิจ เป็นช่างซ่อมรองเท้าข้างถนน ขาพิการเดินไม่ได้ และถูกผู้ชายคนนี้ลักพาตัวไป...ทำให้พ่อผมต้องตายอย่างน่าอนาถ!”
เหมทองตาเหลือก ไม่พอใจมากแต่เหมันต์
ไม่สนประกาศกร้าว “ผมต้องการแค่พ่อผมคืน ไม่ได้ต้องการสมบัติบ้าบออะไรของท่านสักนิด เหมือนที่ลูกชาย ของท่านก็ไม่ต้องการมรดกอะไรนอกจากให้ท่านเข้าใจความรักของเขาเท่านั้น ท่านเป็นต้นเหตุให้ลูกชายต้องตาย เป็นคนฆ่าพ่อชาญของผม คนที่เห็นแก่ตัวอย่างท่านจะเป็นปู่ของผมได้ยังไง!”
จบคำเหมันต์ก็เดินลงเวที สวนกับผาณิตาที่ทำท่าเหมือนอยากขอโทษเต็มแก่แต่เขาไม่เปิดโอกาส
“เพราะเหตุนี้ใช่ไหมคุณถึงขอให้ผม...อย่าเกลียดคุณ”
เหมันต์พรวดพราดออกจากงาน ทิ้งผาณิตาให้มองตามทั้งน้ำตา...รู้สึกผิดกับเขาเหลือเกิน
ooooooo
คำประกาศกร้าวของเหมันต์ปฏิเสธตำแหน่งทายาทเหมทองกรุ๊ปและความเป็นหลานทำให้
เหมทองช็อกเกร็งทั้งตัว ผาณิตาตกใจมากถลาประคองจึงทันได้ยินประโยคสุดท้ายจากปู่ว่าชาญยังไม่ตาย!
เหมทองถูกนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนหลังจากนั้น กมลจะตามไปดูแลแต่ต้องชะงักเมื่อลูกน้องมารายงานเรื่องพบตัวอาคม ปราการแอบได้ยินทุกอย่าง กลัวความลับ ในอดีตถูกแฉเลยตัดหน้าปิดปากอาคม
อาคมรู้ตัวว่าปราการคงไม่ปล่อยให้ตนรอด
แต่กระนั้นก็ไม่ยอมทำผิดอีก
“เหมันต์เป็นหลานข้า เป็นลูกเหมวัต เป็นทายาทตัวจริงของเหมทอง ข้าเคยเห็นแก่เงินทำผิดกับคุณหนูเหมวัต ข้าจะไม่ยอมผิดซ้ำสองอีก แกอย่าคิดจะเอาเงินมาปิดปากข้าอีกไม่งั้นข้าจะเปิดโปงความเลวของแกให้ชาวบ้านรู้ให้หมด”
คำขู่ของหมาจนตรอกอย่างอาคมทำให้ปราการบันดาลโทสะ คว้าก้อนหินใกล้มือทำร้ายอาคมจนตาย
“ไอ้ไพร่! กูไม่มีวันให้พวกมึงแย่งทุกอย่างไปจากกู เหมทองต้องเป็นของกู...ของกู!”
เหมันต์สะเทือนใจกับความจริงจากปากเหมทอง มุ่งหน้าไปหาเหมวัตที่ที่เก็บกระดูกในวัด
“ที่พ่อไม่เคยเล่าให้พ่อชาญรู้เพราะพ่อก็คง
ไม่อยากให้ผมกลับไปหาเขาเหมือนกันใช่ไหมครับ เมื่อเขาตัดขาดกับเราสองพ่อลูกไปแล้วเราก็อย่าไปข้องเกี่ยวกับเขาอีกเลย พ่อคงไม่โกรธผมใช่ไหมครับที่ผมตัดสินใจอย่างนี้”
ข่าวการเปิดตัวเหมันต์เป็นทายาทเหมทองกรุ๊ปคนใหม่กลายเป็นข่าวดังในชั่วข้ามคืน ชาวบ้านละแวกบ้านชาญตื่นเต้นมาก ต่างจากเหมันต์ที่มองข่าวอย่างเฉยชาเพราะไม่คิดจะรับตำแหน่ง
อู๋ซึ่งรู้ที่มาที่ไปของชาญกับเหมวัตหรือสราวุธ
พ่อของเหมันต์อดเปรยไม่ได้
“ใครมันจะไปรู้วะว่าไอ้วุธมันจะเป็นลูกเศรษฐี มันก็ปากหนักจริงๆไม่เคยคิดจะปริปากเล่าให้ฟังสักคำ เสียดายแกไม่ได้อยู่ดีใจกับไอ้เหมันต์มัน มันจะสบายแล้ว แกก็ไม่ต้องบ่นอีกว่าทำให้มันต้องเหนื่อยต้องลำบาก
ลำบนเพราะแก”
“ประธานเหมเป็นคนลักพาตัวพ่อชาญไป เขาทำให้พ่อตายนะครับอา ผมไม่มีวันยอมรับเขาได้หรอก”
เหมันต์ยืนยันความตั้งใจคือไม่รับตำแหน่งทายาทเหมทองกรุ๊ป รวมถึงยอมรับเหมทองเป็นปู่ เหมทองยังไม่รู้ตัวเพราะช็อกต้องผ่าตัดด่วน แม้จะพ้นขีดอันตรายแต่มนตราก็ไม่วางใจรีบมาเฝ้า
“กล่องดนตรีมันเสียแล้วค่ะ คุณจำได้ไหมว่า
เหมวัตซื้อให้ฉันในวันเกิด แต่วันหนึ่งใครก็ไม่รู้เขวี้ยงมันลงมาจากระเบียงชั้นบนจนพัง คุณก็เลยเอาไปนั่งซ่อมอยู่ทั้งคืนจนมันใช้ได้”
มนตราน้ำตาไหลพร้อมความทรงจำที่ค่อยๆกลับคืน “คุณบอกฉันว่ามันคือความสุขของฉัน คือเงินที่อดออมของลูก มันจึงมีความหมายกับเราสามคน คุณก็ต้องตื่นมาซ่อมมันให้ฉันนะคะ”
ooooooo
ความเครียดทำให้เหมทองเป็นอัมพาต ทุกคน
ในครอบครัวตะลึงมาก ไม่เว้นแม้แต่กมลผู้ช่วยหนุ่มที่ทำตัวไม่ถูกจนปราการจับทางได้และฉวยโอกาสยื่นข้อเสนอ
“ตอนนี้ไม่มีใครบอกได้เลยว่าคุณพ่อจะฟื้น
เมื่อไหร่ ฉันเองก็กังวลไม่น้อยว่าบริษัทจะเป็นยังไง
นายเองก็คงกำลังกลัวว่าจะหมดที่พึ่งไม่รู้จะไปทางไหนต่อเหมือนกันสินะ” กมลพูดไม่ออกเพราะปราการจี้ถูกจุด “เราต่างก็เหมือนผึ้งแตกรัง จะทิ้งรังให้ใครมาชุบมือเปิบขโมยน้ำหวานไปได้ยังไง...สู้รวมพลังกันไม่ดีกว่าหรือ”
“ผมทำงานให้ท่านประธานด้วยความซื่อสัตย์ จะฟังก็แต่คำสั่งของท่านคนเดียว”
“อย่ามาทำเป็นจงรักภักดี เรามันก็คนแบบเดียวกัน”
ขาดคำปราการก็โยนแฟ้มหลักฐานทุจริตของผู้ช่วยหนุ่ม
“แค่ฉันเอาสำเนาเช็คพวกนี้ที่นายปลอมลายเซ็น
พ่อฉันไปส่งให้ตำรวจอนาคตนายก็จบ”
กมลอึกอัก ลังเลจะร่วมมือ ปราการยกมือถือมากด ผู้ช่วยหนุ่มร้องห้ามเสียงหลง
“อย่า! เราตกลงกันได้”
“งั้นก็บอกสิ่งที่นายรู้มา”
“ก่อนหน้านี้ท่านประธานเรียกทนายประพันธ์มาที่บริษัทเพื่อทำเอกสารการโอนหุ้น แต่ผมไม่รู้ว่าโอนให้กับใคร แต่พอท่านประกาศทายาทผมก็มั่นใจว่าต้องโอนให้เหมันต์แน่นอน!”
กมลมั่นใจว่าเหมทองจะเก็บเอกสารโอนทุกอย่างไว้ในตู้เซฟห้องทำงาน รีบให้คนมางัดแต่ไม่เจอเอกสารใดๆ นอกจากภาพถ่ายครอบครัวระหว่างเหมทอง มนตราและเหมวัต
ศพของอาคมถูกค้นพบในป่าช้า เหมันต์ไม่ได้ชี้ตัวเพราะตำรวจต้องนำศพไปชันสูตรหาความจริงก่อน เหมันต์สะเทือนใจมาก มั่นใจว่าฆาตกรต้องเป็นพวกเหมทองซึ่งเคยจับตัวอาคมไปขังเพื่อปิดปากเรื่องพ่อ...
ทศนาถไม่ได้หนีไปกับพ่อแต่ติดหนี้พนันก้อนโตจึงมาเยี่ยมเหมทองที่โรงพยาบาลเพื่อเยาะเย้ย
“ได้นอนนิ่งๆอย่างนี้รู้สึกสบายดีไหมครับคุณปู่ พอรู้ข่าวผมล่ะเป็นห่วงคุณปู่แทบแย่ต้องรีบแจ้นมาดูว่าคุณปู่น่ะ...ตายหรือยัง ไม่ลืมตาขึ้นมามองหน้าผมหน่อยหรือครับ”
เหมทองได้ยินเสียงคุ้นหูก็กะพริบตาพยายามมอง ทศนาถเห็นดังนั้นก็เหยียดยิ้ม
“อ้าว...ยังมีชีวิตนี่ จำผมได้ไหมครับ หลานรักของคุณปู่ไง หลานที่คุณปู่เฉดหัวทิ้งแล้วเอาไอ้หน้าเกือกมาแทนที่ผม มันคือทายาทสายเลือดคุณปู่หรือ แล้วเป็นไง ...แกก็โดนมันทิ้งให้นอนเป็นผักเหมือนกัน สมน้ำหน้า!”
ถ้อยคำถากถางของหลานชายทำให้เหมทองช้ำแทบกระอักแต่ทำอะไรไม่ได้ ทศนาถสะใจมากโพล่งท้าทาย
“ทำไมเงียบไปล่ะ...เห็นทุกทีจิกด่าเหยียดหยามกูเก่งนักไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ลุกขึ้นมาด่ากูอีกล่ะ อ๋อลืมไป ...นอนเดี้ยงเป็นอัมพาตจะทำอะไรกูได้อีก!”
อารมณ์หงุดหงิดเพราะมีหนี้พนันและถูกไล่ออกจากบริษัททำให้ทศนาถขาดสติ หวิดทำร้ายร่างกายปู่เพื่อระบายความคับแค้นใจ โชคดีที่ผาณิตาโผล่มาทันเวลาและกดปุ่มเรียกพยาบาล
“ถ้าคุณปู่เป็นอะไรไปตาลจะไม่ให้อภัยพี่เลย”
“พ่อของตาลกับพ่อของพี่ไม่ใช่ลูกเขา...จะสนทำไม”
“แล้วใครที่เลี้ยงพวกเขามา ชีวิตเราจะเป็นยังไงถ้าพ่อโตขึ้นมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พี่จะมีเงินให้ผลาญอย่างทุกวันนี้ไหม ถ้ายังคิดไม่ได้ก็อย่ามาเยี่ยมคุณปู่อีก”
“เดี๋ยวๆตาล...ความจริงพี่ตั้งใจมาหาตาลนะ พี่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ตาลพอมีเงินให้พี่ยืมบ้างไหม... แค่ห้าแสนเอง ถ้าพี่ติดต่อพ่อได้แล้วพี่จะรีบใช้คืน”
“ตอนนี้ตาลไม่มีเงินสดติดตัวเยอะขนาดนี้หรอกค่ะ พี่ต้องรอให้ตาลไปบริษัทก่อน”
ผาณิตาบอกปัด ทศนาถไม่ยอมเห็นแหวนหมั้นก็รูดจากมือเธอทันที
“เอาไอ้นี่มาก่อนก็ได้...ขอบใจนะ”
ooooooo
สถานการณ์ทุกคนเข้าขั้นลำบาก ทัศนัยต้องหนีคดีออกนอกประเทศ ทศนาถเป็นหนี้พนันหัวโต เหมทองเป็นอัมพาตพูดไม่ได้แต่อยากเจอเหมันต์เพื่อปรับความเข้าใจ ผาณิตารับหน้าที่ไปตามโดยไม่รู้เลยว่าปราการกำลังคิดแผนร้ายกีดกันทุกคนจากเหมทองเพื่อยึดอำนาจ!
ผาณิตาสงสารปู่บากหน้าไปหาเหมันต์ เขาไม่ยอมพูดด้วยก็ตามไปดักหน้า
“คุยกันดีๆไม่ได้เลยหรือ”
“คุยกันแบบไหน แบบคนหน้าไหว้หลังหลอกอย่างที่คุณทำผมคงทำไม่เป็น”
“นายอยากด่าอะไรฉันก็ด่ามาเถอะ ถ้ามันจะทำให้นายหายโกรธและรู้สึกดีขึ้น”
“ผมต้องดีขึ้นแน่ถ้าคุณจะกรุณาไม่มาให้ผมเห็นหน้าอีก ผมจะลืมว่าปู่คุณลักพาตัวพ่อผมไป ลืมว่าคุณสมรู้ร่วมคิดกันทำให้พ่อผมตาย ผมจะลืมมันไปให้หมด”
ความจริงที่ถูกปาใส่หน้าทำให้ผาณิตาปวดแปลบในอก อึกๆอักๆแก้ตัว “ฉันก็เพิ่งรู้ ฉัน...”
“จะบอกว่าเป็นคำสั่งคุณปู่เหมือนที่คุณชอบเอามาอ้างทุกครั้งใช่ไหม คืนนั้นที่โรงแรมคุณถามผมว่าถ้ามีคนที่ผมไว้ใจจับตัวพ่อชาญไปผมจะทำยังไงกับเขา ที่แท้คุณรู้อยู่เต็มอกถึงแผนชั่วๆนี่”
“ฉันขอโทษ”
“แต่คุณก็เลือกที่จะหลอกผม ที่ผ่านมามันคงไม่มีอะไรจริงสักอย่าง คำพูดของคุณ ความรู้สึกของคุณมีแต่ผมเท่านั้นที่คิดบ้าบอไปเอง ตัวตนของคุณจริงๆมันเป็นยังไงกันแน่ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้เลย”
เหมันต์เสียใจหมุนตัวหนี ผาณิตารั้งไว้และบอกความจริงที่เพิ่งรู้จากเหมทอง “พ่อนาย...เขายังไม่ตาย”
ผาณิตาร้องไห้ รู้สึกผิดมากแต่จำต้องรับสมอ้างแผนการทุกอย่างเพื่อปกป้องปู่
“ฉันเป็นคนจ้างป้าคนนั้นให้โกหกนายว่านายชาญฆ่าตัวตาย ปู่ฉันแค่ลักพาตัวพ่อนายแต่เขาไม่ได้คิดร้ายกับนายชาญ เรื่องอื่นๆฉันทำเองหมด ถ้านายจะโกรธก็โกรธฉันคนเดียว อย่าเกลียด อย่าตัดขาดกับคุณปู่เลย”
“พ่อผมอยู่ที่ไหน”
“ถ้านายอยากรู้ก็ต้องไปเยี่ยมปู่ฉันก่อน แล้วฉันจะบอก”
เหมันต์ยอมทำตามเงื่อนไขสดๆร้อนๆของผาณิตาเพื่อที่อยู่ของพ่อ แต่เมื่อไปถึงกลับต้องผิดหวังเพราะเหมทองเป็นอัมพาตพูดไม่ได้ เหมันต์ทั้งสงสารทั้งโกรธจนทนมองหน้าไม่ไหวต้องผละหนี ผาณิตาวิ่งตามไปเกลี้ยกล่อม
“คุณหมอบอกว่าคุณปู่มีโอกาสกลับมาเป็นปกติได้ ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าทำกายภาพบำบัดท่านก็จะดีขึ้น เวลานี้ท่านต้องการกำลังใจจากนายที่สุด”
“คุณตั้งใจหลอกผมยังมีหน้ามาขอร้องผมอีกหรือ คุณมันก็เห็นแก่ตัว ห่วงแต่ปู่คุณ แล้วพ่อผมล่ะ คุณคิดจะบอกผมบ้างไหมว่าพ่อผมอยู่ไหน!”
“ฉัน...ฉันก็ไม่รู้ คนที่รู้มีแค่คุณปู่คนเดียว ถ้านายมาดูแลท่าน ท่านอาจดีขึ้นและบอกนายได้”
“ผมไม่คิดจะเชื่อคุณอีก ไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้าเขา รวมทั้งไม่อยากเห็นการตีสองหน้าของคุณด้วย”
“นายให้อภัยกับน้องชายนายตลอดแต่ทำไมให้อภัยคุณปู่ไม่ได้”
“ความโกรธก็เหมือนมาร ผมคงแพ้มัน”
“แล้วฉันล่ะ ไหนนายสัญญาว่าจะไม่มีวันเกลียดฉัน”
“คุณจะคิดว่าผมผิดคำพูดก็ได้”
ooooooo
อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 10
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทประพันธ์โดย รจเรขละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทโทรทัศน์โดย กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ กำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ผลิตโดย บริษัท ดีวัน ทีวี จำกัด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรั