อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 10 วันที่ 6 ต.ค.61

อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 10 วันที่ 6 ต.ค.61

ขณะทั้งสองกำลังหาคนที่หน้าตามีเค้าโตมรอยู่นั้น ก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อโตมรตวาดขึ้นอย่างโกรธจัด

“แกขโมยแท็บเล็ตฉันมาทำไม!!!”

โตมรผลักอ้อยแต่วืดแท็บเล็ตหล่นจอแตก กล่าวหาทั้งสองว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแล้วเดินฉุนเฉียวออกไปฟ้องวีนัสให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ทำผิดให้เป็นตัวอย่าง หรือจะให้ตนฟ้องกระทรวง คนระดับตนร้องเรียนกระทรวงพัฒนาสังคมไม่กล้าอยู่เฉยแน่

“คุณตาโตมรไม่ต้องฟ้องที่ไหนหรอกค่ะ อ้อยไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย อ้อยขอลาออกเองค่ะ”



ทุกคนตกใจมองอ้อยอย่างนึกไม่ถึง วีนัสขอร้องว่าอ้อยทำงานกับเรามานาน อะไรไม่ถูกใจคุณตาตนขอโทษตรงนี้เลย โตมรถามว่าขอโทษแล้วแก้ปัญหาสอดรู้สอดเห็นของสองคนนี้ได้ไหม อ้อยบอกว่าตนคนเดียวคุณตาเชาว์ไม่เกี่ยว และเหตุผลเดียวที่ตนทำก็เพราะเป็นห่วงคุณตาจริงๆ

บุษกรบอกว่าอ้อยดูแลพวกเราจากใจจริง นิ่มนวลว่าแก่แล้วให้อภัยง่ายๆมั่งสิ อี๊ดด่าว่างี่เง่าเอาแต่ใจแบบนี้ลูกหลานที่ไหนจะอยากอยู่ด้วย โตมรยังไม่ยอมบอกให้วีนัสเลือกเอาก็แล้วกันว่าตนกับแม่คนนั้น ใครสำคัญกับที่นี่มากกว่ากัน แล้วเดินไปเลย

อ้อยน้ำตาร่วง เชาว์หงุดหงิดมากบอกว่า “ผมเอง ผมจัดการเอง” แล้วเดินตามโตมรไป แต่เชาว์ก็ต้องหน้าม่อยถอยออกมาเมื่อถูกโตมรตอกหน้าว่า ถึงตนป่วยแต่ยังไม่ตาย แต่ไอ้พวกจุ้นจ้านสอดเรื่องชาวบ้านนั่นแหละจะตายก่อน

 อ้อยยืนยันจะลาออกเพราะไม่อยากให้วีนัสเดือดร้อน ครั้งนี้ตนผิดจริงๆ เพราะคุณตาไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว ฝากเชาว์ให้ช่วยดูแลคุณตาโตมรด้วยถ้าแกไม่กินข้าวช่วยชงโปรตีนเสริมให้แกกินด้วย

 อี๊ดทนไม่ได้ขอไปจัดให้สำนึกหน่อย อ้อยขอร้องอย่าให้คุณตารู้สึกผิดเลย ที่นี่เป็นบ้านของท่าน ท่านสมควรจะอยู่ด้วยความสบายใจ

ยายพิกุลเสียดายอ้อยมาก ให้เงินอ้อยไปใช้ก่อนจะหางานใหม่ได้ อ้อยขอรับแค่ความรักจากทุกคนที่นี่ ยายพิกุลกอดอ้อยน้ำตาร่วง ทุกคนมองอ้อยอย่างใจหายเสียดายที่อ้อยลาออก

ฝ่ายโตมรเมื่อได้อยู่กับตัวเอง ก็อดคิดถึงความรัก การดูแลอย่างอบอุ่นและคอยเย้าแหย่ต่อปากต่อคำกับตนไม่ได้ คิดแล้วลุกขึ้นเดินไป

อ้อยกอดลาคุณตาคุณยายร้องไห้โฮ แล้วถือกระเป๋าเดินเศร้าๆไปจนถึงประตูรั้ว เห็นโตมรก็ยกมือไหว้ลา บอกให้คุณตารักษาสุขภาพด้วย โตมรขยับทำท่าจะตามแต่ใจทิฐิเกินกว่าจะเอ่ยปากเรียกอ้อยไว้...

ooooooo

เมื่อเนมเปลี่ยนเป้าหมายมาจับอาจารย์พฤกษ์ก็หาข้ออ้างง่ายให้ช่วยติวให้ พฤกษ์บอกว่าตนไม่ว่าง เนมตีหน้าเศร้าบอกว่างั้นปีนี้ตนก็ต้องตกแน่ๆ ตนอยากเรียนแต่ต้องทำงานหาค่าใช้จ่ายช่วยทางบ้าน

“พ่อทิ้งเราไปตั้งนานแล้ว เนมปล่อยให้คุณแม่ทำงานคนเดียวไม่ได้หรอกค่ะ อยากมาเรียนแค่ไหนเนมก็ต้องเลือกงานที่พอจะมีรายได้จุนเจือครอบครัวไว้ก่อน” พฤกษ์มองเนมที่กำลังดราม่า เนมได้ทียิ่งทำตัวน่าสงสาร “เนมเข้าใจค่ะ อาจารย์ก็ยุ่งมาก ทั้งสอนทั้งงานที่นี่ เนมไม่กวนอาจารย์ก็ได้ค่ะ ตกวิชานี้จบช้าไปอีกปีก็ได้ค่ะ”

พฤกษ์ฟังแล้วพูดไม่ออก เย็นนี้จึงยอมติวให้เนมที่บ้าน เนมทำเป็นสนใจมากยื่นหน้าเข้าไปจนใกล้บอกว่าไม่เข้าใจตรงนั้นตรงนี้

ไอลดามาเห็นเข้าพอดี ของขึ้นทันที ตรงไปดึงเนมออกห่างพฤกษ์อย่างแรง แล้วทำหน้าตกใจบอกว่านึกว่าสตรีมีนอที่ไหนมาอ่อยเพื่อนตน พฤกษ์บอกว่าตนกำลังติวหนังสือให้เนม ไอลดาถามประชดว่าเพื่อนไม่มีหรือถึงไม่มีคนติวให้ เนมเลยลากลับ

“คราวหน้าถ้าไม่มีฉัน แกห้ามอยู่กับเนมสองต่อสอง” พฤกษ์ว่าคิดอกุศล “ฉันรู้ว่าแกไม่คิดแต่เห็นมั่งไหมเนมมองแกตาเยิ้มขนาดไหน ปล้ำแกได้คงปล้ำไปแล้ว”

พฤกษ์บอกให้พูดถึงเนมดีๆหน่อย ไอลดาดักคอว่ามีออกรับ เถียงแทน ชอบเขาแล้วหรือไง

“จะโวยอะไรนักเนี่ย ฉันมีจรรยาบรรณนะ ฉันติวให้เนมเขาจะได้สอบผ่าน ชีวิตเขาน่าสงสารนะ”

“แทนที่แกจะมานั่งสงสารลูกศิษย์คิดไม่ซื่อ แกควรจะไปสงสารวีนัสมากกว่า คุณพัตไลน์มาบอกฉันพี่อ้อยออกจากบ้านร่มไม้ฯแล้ว”

พฤกษ์ตกใจ คืนนี้จึงไปหาวีนัสที่บ้านร่มไม้ฯ เห็นเธอคร่ำเคร่งกับงานก็ทักว่าดึกแล้วควรจะพักผ่อนแล้ว วีนัสพูดเสียงเป็นการเป็นงานว่างานยังไม่เสร็จ ถามว่ามาเยี่ยมคุณป้าบุษกรหรือ ควรมาเร็วกว่านี้เพราะตอนนี้คุณป้าพักผ่อนแล้ว

ถูกไล่ทางอ้อม พฤกษ์บอกว่าเธอก็ควรพักผ่อนพรุ่งนี้ต้องทำงานดูแลคนอื่นแต่เช้า

“คงไม่ต้องให้คนมาคอยเตือนว่าฉันต้องทำอะไร ฉันรู้หน้าที่ตัวเอง ที่จริงตอนนี้หมดเวลาเยี่ยมแล้ว เราจะปิดประตูแล้วค่ะ”

ถูกไล่อีกครั้งด้วยท่าทีมึนตึง ตั้งกำแพงไม่ยอมคุยด้วย พฤกษ์จึงค่อยๆถอยไป วีนัสนั่งหันหลังให้ ไม่แม้แต่จะห้าม ทำให้พฤกษ์ยิ่งน้อยใจเดินออกไป วีนัสเหลือบมองด้วยแววตาเสียใจ

ooooooo

ชาญชัยกลับมา พอรู้ว่าอ้อยลาออกก็บ่นเสียดายว่าถ้าตนอยู่ก็พอจะรั้งหนูอ้อยไว้ได้บ้าง ถามว่าแล้วคุณโตมรว่ายังไง วีนัสบอกว่ายิ่งเก็บตัวเงียบ ชาญชัยเดาว่าคงรู้สึกผิดเหมือนกัน เลยไม่อยากเจอใคร

“หนูเป็นห่วงคุณตาโตมรจริงๆนะคะ ยิ่งออกห่างจากทุกคน ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ท่านจะยิ่งว้าเหว่”

ชาญชัยจึงไปหาโตมรที่ห้อง พอโตมรเห็นก็พูดดักไว้ก่อนว่าห้ามพูดเรื่องตนไม่สบายเด็ดขาด

“ผมไปแพร่มา ผ้าม่อฮ้อมย้อมครามเขาสวยมาก เห็นแล้วคิดถึงเลยซื้อมาฝากครับ”

“ขอบคุณ ไปเสียหลายวัน”

“ไปงานศพเพื่อนแล้วก็เลยเที่ยวต่อกับตาต้นน่ะครับ” โตมรเปรยว่าดีจังมีหลานคอยเอาใจใส่ “ได้ออกไปเที่ยวบ้างก็เพลินดีนะครับ สมัยมีแรงทางเหนือเนี่ยผมหลับตาขับรถได้เลย ทะลุปรุโปร่งหมด”

เชาว์แทรกว่าแต่ทางใต้ไม่มีใครเกินตน ถูกโตมรขัดคอว่าเรื่องโม้ล่ะไม่มีใครเกิน แต่ตัวเองก็คุยว่าเรื่องเมืองไทยนี่ไม่อยากคุย ตอนเป็นอธิบดีตนไปมาหมดแล้ว ตารางนิ้วไหนที่เขาว่าลำบากตนไปมาหมดแล้ว ขึ้นเขาลงห้วยนี่ลูกน้องตามไม่ทันสักคน

ชาญชัยถามว่าแล้วตอนนี้ล่ะ โตมรพูดปลงๆขำๆว่าหอยทากคลานยังเร็วกว่า สองตาเลยหัวเราะกัน เชาว์เห็นโตมรสีหน้าสดชื่นขึ้นเมื่อได้พูดถึงอดีต

ชาญชัยยอมรับว่าเรื่องเที่ยวนี่ตนคงต้องยอมแพ้คุณโต โตมรคุยเขื่องว่าไม่ได้จะข่ม ตนน่ะตัวจริง

ชาญชัยหัวเราะบอกว่าตนต้องไปนึกเรื่องมาเอาชนะคุณโตให้ได้ โตมรแซวว่านึกเร็วๆตนรอจะแพ้ไม่ไหวแล้ว เลยได้หัวเราะกันครื้นเครง เชาว์ดีใจที่เห็นโตมรยิ้ม หัวเราะ ที่ได้คุยอย่างถูกคอกับชาญชัย

แต่พอชาญชัยออกจากห้องเห็นไม่มีใครแล้วก็ล้วงยาในกระเป๋าที่แอบหยิบออกมาดู สงสัยว่าโตมรกินยาอะไร

เมื่อเจอต้นตอนเย็นเอาให้ดูถามว่ายาอะไร ต้นบอกว่ายาแก้ปวดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ชาญชัยตกใจสีหน้ากังวลมาก กำชับต้นอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร

ooooooo

ในยามที่โตมรปลีกตัวออกจากเพื่อน สว.เพราะอาการป่วยกำเริบ ก็ยังมีพอเพียงที่ตามแจ วันนี้โตมรออกจากห้องจะไปนั่งรับลม พอเปิดประตูก็เห็นพอเพียงหมอบคอยอยู่แล้ว โตมรเอ่ยอย่างสะเทือนใจ

“แกมารอฉันหรือพอเพียง ก็คงมีแต่แกสินะ ลูกหลานยังไม่เห็นรอฉันสักคน”

พอโตมรก้าวเดินพอเพียงก็ก้าวตาม โตมรแกล้งหยุดพอเพียงก็หยุดไม่ก้าวไปก่อน โตมรยิ้มกับความฉลาดน่ารักของพอเพียง โตมรเดินไปหยุดดูพระอาทิตย์ที่อ่อนแสงลง พอเพียงก็หมอบเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ

วันนี้ชาญชัยมาหาโตมรแต่เช้า เคาะประตูเรียกไม่มีเสียงตอบจากข้างใน ชาญชัยจึงเดินกลับไป

ที่แท้โตมรนอนบิดตัวอย่างเจ็บปวดจนเหงื่อเต็มหน้าอยู่ในห้อง เขากัดผ้าเช็ดหน้าไม่ให้มีเสียงร้องออกมาให้ใครได้ยิน

ฝ่ายเนมเมื่อเปลี่ยนเป้าหมายจากอานัสเป็นพฤกษ์แล้วก็เพียรตามติดแจ วันนี้ก็ไปที่สวนกล้วยไม้ถามลุงเพชรว่าอาจารย์ไปไหน บอกไว้หรือเปล่า

พฤกษ์อยู่กับบุษกรที่บ้านร่มไม้ฯ บุษกรบอกว่าตนวางนิยายไว้แถวนี้แต่หาไม่เจอ สงสัยจะลืมไว้ที่โต๊ะกินข้าว พฤกษ์บอกจะไปดูให้ บุษกรบอกว่าให้ไปถามวีนัสเผื่อเขาเก็บไว้ให้

วีนัสกำลังยกถังขยะจะไปทิ้ง อานัสที่หมายมั่นปั้นมือจะแย่งวีนัสจากพฤกษ์ให้ได้ก็พยายามใกล้ชิดวีนัส มาเห็นเธอยกถังขยะก็เข้าช่วยโอบจากข้างหลังมือทาบไปบนมือวีนัส มองจากข้างหลังจึงเหมือนกำลังกอดวีนัสอยู่

พฤกษ์เดินมาเห็นพอดี เลือดขึ้นหน้าพุ่งเข้ากระชากอานัสออกตวาด “ฉันบอกแล้ว อย่าเข้าใกล้วีนัส” อานัสโดนกระชากก็สวนหมัดไปทันทีแต่พฤกษ์หลบทันเลยวืดถูกพฤกษ์จับเหวี่ยงกระเด็นล้มกลิ้ง พฤกษ์ตามไป

“หยุด คุณพฤกษ์หยุด” วีนัสตะโกน แต่พฤกษ์เตะเข้าไปแล้ว วีนัสโมโหผลักพฤกษ์อย่างแรงตวาด “อย่ามาทำตัวถ่อยแถวนี้”

พฤกษ์อึ้งที่ถูกตวาดว่าทำตัวถ่อย สองคนจ้องหน้ากันเขม็ง อานัสได้ทีทำเป็นร้องครางอย่างเจ็บปวด ทั้งสองยังคงโต้เถียงกัน พฤกษ์บอกว่าเห็นอานัสลวนลามเธอ แต่วีนัสบอกว่าอานัสมาช่วยตนทำงานต่างหาก

พฤกษ์นิ่งไปฉุกคิดถามว่าหรือไม่ใช่ฉวยโอกาสแต่เต็มใจ วีนัสประชดไปทันทีว่าใช่ ถ้าตนเต็มใจมันก็เรื่องของตน อานัสได้ทีลุกขึ้นมาปรามพฤกษ์ว่าเป็นสุภาพบุรุษหน่อยอย่าใจสกปรก สั่งให้พฤกษ์ขอโทษวีนัส เมื่อพฤกษ์เฉยถูกอานัสชกจนหน้าสะบัด เนมเดินมาถึงพอดีรีบเข้าไปยืนข้างพฤกษ์ถามว่านี่มันเรื่องอะไรกัน

พฤกษ์ถูกชกมุมปากแตกเลือดออก เนมเห็นรีบเอาผ้าเช็ดหน้าซับเลือดให้ พฤกษ์เบี่ยงตัวหลบ อานัสเสียดสีเนมว่าทำหน้าที่ลูกศิษย์คนสนิทติวตัวต่อตัวที่มหาวิทยาลัยไม่พอยังตามมาติวกันต่อถึงที่นี่

เนมบอกพฤกษ์ว่า อย่าเสียเวลาพูดกับพวกชอบใช้กำลังเลย ไปด้านโน้นดีกว่าตนจะทำแผลให้ พฤกษ์ไม่สนใจจ้องหน้ากับวีนัส วีนัสเลยประชดด้วยการถามอานัสว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า พฤกษ์ฉุนขาดหันเดินออกไปเลย อานัสได้ทีเป่าหูวีนัสว่า

“เนมกับพฤกษ์คงนัดมาเจอกันที่นี่ ตัวติดกันขนาดนี้ คงข้ามเส้นอาจารย์กับลูกศิษย์ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” วีนัสสะบัดหน้าไปอย่างไม่อยากฟัง อานัสยิ้มร้ายที่ทุกอย่างช่วยให้วีนัสเกลียดพฤกษ์มากขึ้น

ฝ่ายเนมก็เป่าหูพฤกษ์ว่าตนเคยคบกับพี่เอิร์ธรู้จักนิสัยเขาดีอะไรที่เขาอยากได้ไม่เคยรอดมือเขาเลย

พฤกษ์ฟังแล้วยิ่งแค้น ซ้ำเมื่อเดินกลับพฤกษ์ยังเห็นวีนัสจับแขนดูแผลให้อานัสทนดูไม่ได้เดินผ่านไปทันที วีนัสมองตามอย่างน้อยใจ ฝ่ายอานัสก็มารยาออดอ้อนวีนัสว่าตนขอโทษจริงๆ ขอโทษจากใจเลย

พอดีชาญชัยเดินมาจากห้องครัวเห็นอานัสยิ้มอยู่กับวีนัส แต่วีนัสเดินเลี่ยงไปอีกทาง ชาญชัยมองอย่างไม่สบายใจ เตือนว่าวีนัสชอบอยู่กับพฤกษ์ห้ามแย่ง อานัสก็อ้างว่าเขามีรอยร้าวกันอยู่แล้วตนก็เป็นคนที่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อวีนัสเท่านั้นเอง แล้วยกมือไหว้ลาเลย ชาญชัยได้แต่มองตามอย่างหนักใจ

ooooooo

พฤกษ์กลับไปที่หน้าห้องบุษกร เนมตามแจจนพฤกษ์บอกว่าไม่ต้องตามมา ก็จะขอเข้าไปไหว้คุณป้า พฤกษ์บอกว่าแม่กำลังหลับก็ทำอ้อยอิ่งขอเช็ดเลือดที่ปากให้ก่อน พอดีบุษกรเปิดประตูออกมาเห็น

เนมทำเป็นอุทานเก็บผ้าเช็ดหน้าไหว้บุษกรอย่างอ่อนช้อย บุษกรรับไหว้แล้วถามพฤกษ์ว่าได้หนังสือแม่ไหม พฤกษ์บอกว่าไม่เจอ เนมก็รีบชี้แจงเรียกความสนใจว่าตนมาปรึกษาอาจารย์เรื่องวิชาที่จะต้องลงเรียนใหม่

“ตามสบาย”

บุษกรตอบเรียบๆแล้วกลับเข้าห้อง พฤกษ์หันมองเนมดุๆ เนมรู้ตัวรีบบอกว่าไม่ต้องไล่ตนกำลังจะไปไม่กวนเวลาของอาจารย์กับคุณป้าแล้วเจอกันที่มหาวิทยาลัย พอหันหลังเนมยิ้มอย่างมั่นใจว่าพฤกษ์กับวีนัสกำลังมีปัญหากันอยู่แน่ๆ

อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 10 วันที่ 6 ต.ค.61

ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทประพันธ์โดย ธุวดารา
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทโทรทัศน์โดย เป่ากุ้ย
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ กำกับการแสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ฝึกสอนการแสดงโดย อริศรา วงศ์ชาลี
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ผลิตโดย บริษัท เป่าจินจง จำกัด
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ควบคุมการผลิตโดย นพพล โกมารชุน
ที่มา ไทยรัฐ