อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 11 วันที่ 7 ต.ค.61

อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 11 วันที่ 7 ต.ค.61

บุษกรตอบเรียบๆแล้วกลับเข้าห้อง พฤกษ์หันมองเนมดุๆ เนมรู้ตัวรีบบอกว่าไม่ต้องไล่ตนกำลังจะไปไม่กวนเวลาของอาจารย์กับคุณป้าแล้วเจอกันที่มหาวิทยาลัย พอหันหลังเนมยิ้มอย่างมั่นใจว่าพฤกษ์กับวีนัสกำลังมีปัญหากันอยู่แน่ๆ

บุษกรถามพฤกษ์ว่ามีอะไรจะเล่าให้แม่ฟังไหม พฤกษ์รู้ว่าแม่หมายถึงอะไร บอกว่าเนมเป็นลูกศิษย์ตน

“แม่เชื่อใจพฤกษ์นะ”



“แม่เชื่อใจผมแต่คนอื่นไม่เคยเชื่อใจผมเลย” บุษกรบอกว่าถ้าหมายถึงวีนัสก็น่าจะปรับความเข้าใจกันเสีย “ไม่มีประโยชน์หรอกครับแม่ คนที่ปิดหูปิดตาไม่ยอมเปิดใจไม่ใช่ผม”

พฤกษ์พูดแค่นั้นแล้วเดินไปยืนที่หน้าต่าง บุษกรนิ่งไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของลูกมากไปกว่านี้

คณิตาก็บอกวีนัสว่าควรถามพฤกษ์ให้รู้เรื่อง จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ โมโหอยู่คนเดียว วีนัสพูดอย่างมั่นใจในสิ่งที่เห็นว่าเขาสองคนสนิทกันมาก มากจนคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก...เขาคบกันอยู่

ไอลดาบ่นพฤกษ์ว่ามีปัญญาแต่โง่ไม่ทันมารยาผู้หญิง เนมถูกอานัสเทก็เซมาหาเขาตามไปทุกที่ เกาะยิ่งกว่าเห็บหมา ถ้าตนเป็นวีนัสตนก็โมโห พฤกษ์ถามว่าแล้วเห็นไหมว่าวีนัสเป็นห่วงเอิร์ธขนาดไหน

“เขาทำประชดแกไง”

“ประชดด้วยการด่าฉันแล้วหันไปดูแลเอิร์ธ? แกบอกว่าฉันโง่ ใช่ ฉันยอมเป็นผู้ชายโง่ๆที่มีความสุขถ้ามีผู้หญิงฟังฉัน เข้าใจฉัน ไม่ใช่เอาแต่ไล่ฉัน มองฉันเหมือนของทิ้งแล้ว”

พฤกษ์ยังปากแข็ง แต่พอหันหน้าหนีจากไอลดาแววตาก็เจ็บปวดอย่างไม่อาจหลอกตัวเองได้...

ooooooo

วิกานดายังหลอกล่อบรรดา สว.สาวน้อยให้หาเงินมาลงทุนกับตนด้วยผลกำไรที่มากและเร็ว วันนี้ก็เอาสร้อยคอทองหนักหนึ่งบาทมาแจกยายๆที่มาร่วมลงทุน อี๊ดเบิกเงินที่สะสมมาทั้งชีวิตมาร่วมทุนถึงสองแสน

ม้วนก็ไปวนเวียนที่ร้านขายของชำของชวนชม ชวนชมถามแม่ว่าเม้มเงินร้านตนหรือเปล่า ม้วนเสียงสูงว่าไม่มี้...แต่พอนังแต๋วกะเทยข้างบ้านมาซื้อของและลากไปคุยเรื่องซีรีส์ใหม่ของเกาหลี บอกอปป้าหล่อวัวตายควายสะดุ้งเลยล่ะ

ม้วนเห็นชวนชมเดินไปก็ควักสร้อยทองออกมาดูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คิดหาเงินไปลงทุนอีก

ที่บ้านร่มไม้ชายคา นับแต่อ้อยลาออกวีนัสก็งานหนัก วันนี้เจ้าหน้าที่ก็วิ่งมาบอกว่ายายอี๊ดอยากกินขนมตนไปซื้อให้พอกินแล้วก็ชัก วีนัสตำหนิว่าตนเคยบอกแล้วว่ายายอี๊ดเป็นเบาหวานกินขนมหวานไม่ได้ เจ้าหน้าที่หน้าจ๋อยบอกว่าตนลืม วีนัสย้ำว่า “ดูแลคนแก่ห้ามมีคำว่าลืม!!!”

พอรถพยาบาลมารับยายอี๊ดไปโรงพยาบาลก็มีเรื่องนิ่มนวลที่ขี้หลงขี้ลืมเอะอะว่ามีคนขโมยผ้าพันคอผืนสวยของตนไป วีนัสถามว่าผ้าพันคอยายมีตำหนิอะไรไหม นิ่มนวลบอกว่าตนเขียนชื่อไว้ แต่พอเอาผ้าพันคอมาดูปรากฏว่าเป็นชื่อคนอื่น นิ่มนวลก็ยังแก้เกี้ยวตะแบงว่ามันเหมือนๆกัน หามาคืนให้ตนก็แล้วกัน

วีนัสอ่อนใจกับปัญหามากมายที่เกิดขึ้น คิดถึงอ้อยจับใจ ไม่รู้ว่าอ้อยจัดการปัญหาทุกอย่างในแต่ละวันได้อย่างไร คณิตาบอกว่าเหนื่อยนักก็หาเจ้าหน้าที่เพิ่ม วีนัสบอกว่าประกาศลงเพจบ้านร่มไม้ฯไปแล้ว

“ไม่ลองปรึกษาอาจารย์พฤกษ์ล่ะ” คณิตาเสนอ วีนัสลุกพรวดมองดุๆ คณิตาเลยเดินเข้าครัวไม่กล้าเซ้าซี้อีก พอพ้นสายตาคณิตาแววตาวีนัสก็เปลี่ยนเป็นน้อยใจเรื่องพฤกษ์ขึ้นมาอีก

ooooooo

เนมหาข้ออ้างเรื่องให้พฤกษ์ช่วยติวให้ไม่พอยังมาวุ่นวายที่สวนกล้วยไม้อีก พฤกษ์บอกว่าเอาเวลาไปอ่านหนังสือเตรียมสอบดีกว่า เนมบอกว่าอยากลบล้างความผิดที่เคยทำกับที่นี่

“คุณไม่ต้องชดใช้อะไร ผมบอกแล้ว จบก็คือจบ” พฤกษ์หันเดินไป เนมวิ่งตาม “วิ่งตามคนที่ไม่มีใจให้ มันเสียเวลากับชีวิตมากรู้ไหม” พฤกษ์หันบอกแล้วเดินอ้าวไปเลย

“วันนี้ไม่มีใจ ก็ยังมีพรุ่งนี้ มีวันอื่นๆอีก ต้องมีสักวันสิที่อาจารย์จะสนใจเนม” เนมจิกตาไม่ยอมแพ้

ที่บ้านร่มไม้ฯนับแต่อ้อยไม่อยู่ก็มีปัญหาแทบไม่เว้นวัน ชาญชัยที่พยายามใกล้ชิดและชวนโตมรทำโน่นนี่เพื่อให้หายเครียด วันนี้ก็มาชวนไปหาของอร่อยกินกันจะได้มีเรี่ยวแรงขึ้น และชวนไปลองบริหารกล้ามเนื้อยืดข้อกันที่สระน้ำเพื่อสุขภาพ โตมรกลับมองว่ามาหลอกขายคอร์ส

พอดีวีนัสเดินมาก็ถามว่าที่นี่มีเจ้าหน้าที่ที่พูดกันรู้เรื่องบ้างไหม ถ้าไม่มีตนจะได้เสิร์ชหาบ้านพักที่อื่น แล้วเดินไปเลย ชาญชัยพูดให้วีนัสสบายใจว่า คุณโตเขาเครียดอย่าถือสาเลยยังไงเขาก็คงไม่ไปจากที่นี่หรอก

อานัสรุกวีนัสอย่างต่อเนื่อง วันนี้ก็มาเสนอเรื่องปรับปรุงบ้านร่มไม้ฯว่าเราน่าจะสร้างสระว่ายน้ำให้คุณตาคุณยายออกกำลัง อาสาจะสร้างให้เอง พฤกษ์มาได้ยินประชดว่าไม่รู้ว่าที่นี่ต้องการผู้บริจาครายใหญ่

อานัสประชดว่าตนอยากทำตัวให้มีประโยชน์ไม่ใช่แค่ออกความเห็นไปวันๆ อะไรที่ทำให้คุณปู่และวีนัสได้ตนทำทันที แล้วพูดกับวีนัสว่าอย่าไปสนใจคนแบกโลกไว้ตลอดเวลาเลย แค่ดูแลงานที่นี่เธอก็เหนื่อยมากแล้ว น่าจะหาเวลารีแลกซ์ให้ตัวเองบ้าง

บุษกรดูปัญหาออก บอกพฤกษ์ว่าตั้งแต่อ้อยไม่อยู่หนูวีนัสเจอแต่ปัญหา หนูวีนัสเคยเล่าให้ฟังบ้างไหม พฤกษ์บอกว่าเปล่า

“ไม่ได้คุยกันเลยใช่ไหม...อย่ามัวเข้าใจผิดถือเขาถือเรา จนเสียเวลาจะทำดีต่อกันนะลูก”

พฤกษ์ฟังแม่แล้วคิด แต่เมื่อเขาเดินไปที่วงเวียนบ้านร่มไม้ฯเจอวีนัสก็กลับพูดประชดว่าแต่ก่อนเกลียดแต่เดี๋ยวนี้วิ่งเข้าใส่ แทนที่จะได้พูดกันดีๆเลยกลายเป็นทิฐิใส่กัน พฤกษ์ถามว่า

“วีนัสที่หยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเองอยู่ไหน ผมมองคุณผิดจริงๆ คุณมันก็แค่ผู้หญิงทาสเงิน มีผู้ชายรวยๆมาเขวี้ยงเงินใส่ก็วิ่งโร่ตามเขาไป”

วีนัสตบหน้าเขาฉาดใหญ่ทันที พฤกษ์ถามว่าตบเพราะโกรธที่ตนพูดความจริงใช่ไหม ทั้งสองต่างมีอารมณ์ใส่กันจากความเข้าใจของตัวเอง ในที่สุดวีนัสตัดบทว่า

“ถ้าคุณเห็นฉันเป็นผู้หญิงหน้าเงิน เราก็ไม่มีอะไรต้องพูดกัน”

 แล้วทั้งสองก็แยกกันด้วยความทิฐิ จะเอาชนะกัน

ooooooo

หลังประกาศรับสมัครพนักงานไม่นาน น้อยก็มาสมัครแต่เปลี่ยนชื่อเป็นหนุงหนิง วีนัสสัมภาษณ์และขอทดสอบว่าเคยดูแลคุณตาคุณยายยังไง

“ได้เลยค่ะ อาบน้ำ ป้อนข้าว แต่งตัว ทำกายภาพ หนุงหนิงทำได้หมดค่ะ”

พอดีเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาขอลาออกเพราะทนคุณตาโตมรไม่ไหว น้อยจึงได้ทำงานที่นี่

ปัญหาที่บ้านร่มไม้ฯไม่เพียงมีเรื่องที่ต้องแก้กันเป็นประจำวัน ยังมีคลื่นใต้น้ำมาก่อกวน เมื่อวิกานดามาหลอกล่อชักชวนให้นิ่มนวล อี๊ด เอี้ยง และม้วนลงทุนเงินก้อนโตในธุรกิจที่มีผลตอบแทนเร็วและสูง ยายๆ ทั้งสี่ต่างตื่นเต้นเมื่อได้เงินครั้งแรกห้าพ้น ต่อมาได้สร้อยทองหนึ่งบาทจึงหาเงินมาลงทุนเพิ่มทั้งเอาเงินสะสมของตัวเอง ม้วนไม่มีเงินก็จิ๊กเอาจากร้านของชวนชม

 วิกานดาให้อ๊อดลาออกจากงานปดแม่ว่าตนทำงานดี  นายเลยย้ายให้ไปทำยอดให้บริษัทที่ต่างจังหวัด ส่วนวิกานดาคราวนี้ได้เงินเพิ่มจากยายๆอีกคนละสามหมื่น ห้าหมื่น อี๊ดหนักกว่าเพื่อนเพิ่มเป็นสองแสนห้า นิ่มนวลถามว่างวดนี้คงได้เงินปันผลเยอะ วิกานดาบอกว่าระดับนี้ได้ทอง 10 บาทแน่

ยายๆต่างดีใจที่ตัวเลขงามมาก วิกานดาให้ความหวังในอากาศแต่หอบเงินของจริงไปเต็มกระเป๋า  อ๊อดไม่สบายใจที่หลอกแม่ ถามวิกานดาว่าจะดีหรือ พอถูกเอ็ดว่าอยากอยู่กอดแม่ก็เชิญ ตนจะไปรวยคนเดียว อ๊อดหันมองบ้านร่มไม้ฯอีกครั้งก่อนตัดใจตามเมียไป

น้อยมาทำงานที่บ้านร่มไม้ฯ พอยกของว่างไปให้บุษกรที่ห้องก็สะอึก เมื่อจำบุษกรได้ว่าตนเคยเอาส้มยัดปากและถูกพฤกษ์ไล่ออกจากบ้าน จึงพยายามหลบๆหน้ากลัวบุษกรจำได้

ฝ่ายโตมรที่ปกปิดอาการเจ็บป่วยของตนวันนี้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล ได้ยาแล้วประคองตัวออกมาแต่อาการกำเริบจนล้มหมดสติกลางโรงพยาบาล ดีที่พยาบาลที่อยู่ใกล้ช้อนหัวไว้ทันก่อนกระแทกพื้น

เมื่อฟื้นขึ้นมาถามหมอว่าตนยังไม่ตายหรือ บอกหมอว่าตนปวด ทรมาน ให้หมอสงเคราะห์ฉีดยาให้ตายไปเลยได้ไหม โตมรน้ำตาไหลอย่างทรมานทั้งกายและว้าเหว่ใจ

ฝ่ายพฤกษ์กับวีนัสต่างยังทิฐิจะเอาชนะกันด้วยอารมณ์ที่สะสม จนวันนี้วีนัสอยู่ที่ศาลาริมน้ำ พฤกษ์ตามไปถามว่าเธอยั่วโมโหตนทำไม

“ฉันยั่วโมโหคุณแค่นี้คุณเจ็บ แล้วที่คุณทำลับหลังฉัน...”

“ผมไม่เคยทำอะไรลับหลังคุณ” วีนัสถามว่ายังจะกล้าพูดอีกหรือ “ผมกล้าพูด ผมไม่ได้โกหกคุณ วีนัส...เรารักกันไม่ใช่เหรอ”

“ฉันไม่ได้รักคุณ”

 “คุณรักอานัส...บอกมาตรงๆเลยว่าคุณรักอานัส”

“ใช่ ฉันจะรักใครก็ได้ นอกจากคุณ”

พฤกษ์ได้ยินก็แทบหมดแรง ต่างสบตากันอย่างเจ็บปวดเสียใจ พฤกษ์หันหลังเดินออกไปด้วยหัวใจสลาย พอเดินไปถึงหน้าบ้านเห็นเนมยืนรออยู่ เนมเห็นพฤกษ์สีหน้าไม่ดีก็รีบเดินมาหาถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

โผกอดขอให้บอกตนตนยินดีรับฟังทุกอย่าง

พฤกษ์เจ็บปวดที่วีนัสบอกว่าตนจะรักใครก็ได้นอกจากเขา อารมณ์อ่อนไหวทำให้กอดตอบเนม เนมได้ทีซุกหน้ากับอกเขาแนบแน่น เนมยังตามพฤกษ์ไป

ที่บ้านกอดพฤกษ์ออดอ้อนว่าตนอยู่ข้างๆให้ตนช่วยได้ ถูกไอลดาพูดใส่หน้าว่า “ไอ้พฤกษ์มันไม่ต้องการใครมาแทนที่วีนัส”

พฤกษ์ได้สติผละจากเนม หย่าศึกสองสาวที่เหน็บแนมกันอย่างเจ็บแสบ บอกว่าตนผิดเอง

“ใช่ แกผิดที่ใจอ่อนกอดเขา แต่เธอก็ผิดที่มาคอยวนเวียนกับเพื่อนฉัน...พอพลาดจากผู้ชายเลวๆ ผู้ชายดีๆ มันก็มีความหมายขึ้นมาทันที แต่คนที่จะได้ผู้ชายดีๆมันก็ต้องมีศีลเสมอกันด้วยไม่ใช่มีแค่เปลือกสวยๆ หลอกตามล่าเหยื่อไปวันๆ”

เนมบอกว่าตนเคยโง่เคยคบผู้ชายไม่ดี แต่ตนไม่ได้ฆ่าใครทำไมต้องด่าถึงขนาดนี้ด้วย ไอลดาบอกว่าจะด่าแรงกว่านี้ถ้ามันทำให้เธอสำนึกว่าทำตัวไร้คุณค่าขนาดไหน พฤกษ์ไล่ไอลดาให้เข้าบ้านและบอกเนมให้กลับบ้านไปก่อน

ก่อนไปเนมยังบอกพฤกษ์น้ำตานองแก้มว่า ตนจริงใจกับเขา ไม่ว่าจะถูกด่าอีกกี่ครั้งก็ยืนยันว่าตนเป็นห่วงอาจารย์จากใจจริง ฝ่ายไอลดาก็บอกพฤกษ์ว่า

“แกจะด่าฉันก็ได้ แต่ฉันบอกไว้เลยนะพฤกษ์ผู้หญิงที่รักแก รักแม่แก คือวีนัส ถ้าแกไม่พยายามทำอะไรเพื่อดึงวีนัสกลับมา คนที่ต้องเสียใจไปจนตายคือแก!!”

พูดแล้วไอลดาเดินออกไปเลย ปล่อยให้พฤกษ์ยืนคิดเครียดอยู่ตรงนั้น

ooooooo

ม้วนนั่งลูบคลำสร้อยที่วิกานดาให้อย่างปลื้มอกปลื้มใจที่มีสร้อยทองใส่ ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อชวนชมแว้ด

“แม่ เงินฉันหายไปไหนสองหมื่น”

ม้วนกำสร้อยลุกเดินหนี ชวนชมถามว่าสร้อยใคร เอามาจากไหน ม้วนตกใจหลุดปากว่าสร้อยหนูวิ ชวนชมถามว่าวิไหน ม้วนตกใจมั่วว่าวิม้วน ชวนชมเข้าแย่งสร้อยหาว่าแม่ขโมยเงินตนไปซื้อสร้อย แม่ลูกเลยแย่งสร้อยกันวุ่นวาย

ฝ่ายนิ่มนวลวันนี้ก็โวยว่าสร้อยหาย ยืนยันกับดวงใจว่าสร้อยที่หนูวิสะใภ้ของดวงใจให้หายไปจริงๆ ดวงใจงง ซักไซ้กันไปมา อี๊ดยืนยันว่าเป็นสร้อยที่หนูวิคืนกำไรแจกให้พวกเรา

ชวนชมกับนังแต๋วเดินอ้าวเข้ามาถามว่าไอ้อีหน้าไหนมันหลอกแม่ตน ส่วนนังแต๋วก็ป่าวร้องลั่น

“เจ้าข้าเอ๊ย...มาดูคนบ้านร่มไม้ฯ หน้าฉากสุดหรูแต่ที่จริงคือมิจฉาชีพ หลอกคนแก่จ้า...”

ทุกคนในบ้านร่มไม้ฯตกใจออกจากศาลามาดู ม้วนบอกให้ชวนชมหยุดอายเขา ชวนชมกับนังแต๋วยิ่งตะโกนเสียงดังว่า บ้านร่มไม้ฯหลอกคนรวยไม่พอยังมาหลอกคนจนอีก

“มากไปแล้วนะ ถ้าดูถูกบ้านร่มไม้ฯอีกคำ ฉันจะแจ้งความ” เสียงวีนัสโพล่งแทรกขึ้นเฉียบขาด

แทนที่ชวนชมจะกลัวกลับท้าว่าให้ไปเอาตำรวจมาเลย หน้าไหนมันหลอกแม่ตนไปลงทุนบ้าบอแลกกับทองปลอมเส้นนี้ พลางชูสร้อยทองให้ทุกคนดู บรรดาสว.สาวน้อยทั้งนิ่มนวล อี๊ดและเอี้ยง ต่างตะลึงบอกว่าไม่เชื่อ ชวนชมยืนยันว่าตนเอาไปให้ร้านทองดูแล้ว

ร้านทองบอกว่าปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์

เอี้ยงสั่นไปทั้งตัวเซแซดๆทำท่าจะเป็นลม นิ่มนวลเอามือทาบอก หายใจหอบ แต่ยังเถียงเสียงสั่นว่า

“ไม่จริง...นี่มันทองแท้ ไม่ใช่ทองปลอม”

ทองปลอมกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที วีนัสถามว่าไปเอาทองปลอมมาจากไหน อี๊ดลุกพรวดบอกว่าลูกสะใภ้ดวงใจน่ะสิ สว.สาวน้อยทั้งสี่ไม่สนใจสร้อยทองแล้ว ทุกคนลุกขึ้นมาทวงเงินคืนจากดวงใจ ดวงใจบอกว่าตนไม่เกี่ยวลูกชายตนก็ไม่เกี่ยว

อี๊ดทวงเงินสองแสนคืน ม้วนทวงห้าหมื่น ชวนชมตาลุกถามว่าแม่ขโมยเงินตนไปตั้งห้าหมื่นหรือ ม้วนทำหน้ามึนบอกว่าเปล่า เป็นเงินเก็บของตน

ชวนชมถามวีนัสว่าเจ้าของบ้านร่มไม้ฯไม่มีปัญญาทำอะไรเลยหรือ ปล่อยให้เขาหลอกเอาเงินคนแก่ หรือว่ารู้เห็นเป็นใจด้วย วีนัสบอกว่าตนก็รู้พร้อมกันนี่แหละ

นังแต๋วแจ๋ว่าต้องร้องเรียน ร้องกระทรวง ร้องให้ถึงนายกฯเลย

“ฉันจะเอาเรื่อง เอาให้พังกันไปข้างนึงเลย” ชวนชมประกาศลั่น วีนัสตกใจกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงนี้

เชาว์กับชาญชัยเป็นเดือดเป็นแค้นที่มาหลอกเงินคนแก่ สี่ สว.ผู้เสียหายจ้องดวงใจที่วางมือถือลงบอกว่าติดต่ออ๊อดไม่ได้ อี๊ดว่าป่านนี้มันเชิดเงินหนีไปแล้ว นิ่มนวลให้วีนัสโทร.หาวีรกิจลูกชายตนให้จับลูกชายกับลูกสะใภ้ดวงใจ ดวงใจบอกว่าลูกอ๊อดไม่เกี่ยว

“ถ้าตามตัวลูกชายลูกสะใภ้คุณดวงใจไม่ได้  เราต้องแจ้งความ เรื่องต้องถึงตำรวจ” โตมรเสนอ

“ยังไม่ต้องถึงขนาดนั้นมั้งคะ เดี๋ยวหนูจัดการเรื่องนี้เองค่ะ ทุกคนต้องได้เงินคืน”

วีนัสยืนยันหนักแน่นแล้วเดินออกไป ทุกคนมองตามไม่มั่นใจ

ooooooo

วีนัสกลับบ้านพักโทร.หาอ๊อดก็มีแต่ให้ฝากข้อความ จึงฝากข้อความว่า “ตอนนี้ป้าดวงใจไม่สบายมาก รีบโทร.กลับฉันด่วนเลยนะคะ” ฝากข้อความแล้วภาวนาให้อ๊อดรีบโทร.กลับ รำพึงอย่างเหนื่อยล้าว่า

“ทำไมมันมีแต่เรื่อง...”

วีนัสหงุดหงิดเหวี่ยงมือปัดกระถางแต่ถูกลวดเกี่ยวมือเป็นแผลยาวเลือดออก ทันใดก็มีมือมากุมมือที่ถูกลวดเกี่ยว หันมองจึงเห็นอานัสพูดอย่างห่วงใยว่า

“ลวดบาดมือคุณ...ผมเพิ่งมาจากบ้านร่มไม้ฯ ได้ยินเรื่องหลอกเอาเงินคนแก่”

อานัสกุมมือวีนัสขยับเข้าใกล้ปลอบโยน วีนัสน้ำตาคลอตำหนิว่าตนแย่เอง ในภาวะที่วีนัสสับสนอ่อนแอ อานัสดึงเธอเข้าซบที่ไหล่ตัวเอง วีนัสซบไหล่อานัสร้องไห้หนัก

พฤกษ์เดินเข้ามาพอดี เขาพุ่งเข้าไปพูดอย่างโกรธจัดว่ากลางวันแสกๆจะนัวเนียกันไม่อายคนอื่นบ้างหรือ

อานัสปรามว่าพูดจาให้เกียรติวีนัสด้วย

“ไม่ต้องไปบอกเขาหรอกค่ะ เขาจะคิดทุเรศยังไงก็เรื่องของเขา ความจริงคือเรื่องของเราไม่จำเป็นต้องเล่าให้คนนอกฟัง” พูดแล้วเดินมาพูดใส่หน้าพฤกษ์ “แล้ววันหลังไม่ต้องเข้ามานะคะ ที่นี่ฉันอนุญาตเฉพาะคนสนิท ที่ของคุณมีแค่ตรงโน้น...บ้านร่มไม้ฯ เชิญออกไปค่ะ”

“บ้านร่มไม้ฯกำลังวิกฤติ แต่ตอนนี้สปอนเซอร์คุณคงพร้อมจ่ายเงินแก้ปัญหาให้อยู่แล้ว อ้อ...เงินคงจะจ่ายหนัก เลยซับน้ำตาจนแห้งซื้อยิ้มหวานเรี่ยราดได้ ขอโทษที่ผมดันมาขัดจังหวะ” พูดจบพฤกษ์เดินไปทันที

วีนัสโกรธจนพูดไม่ออก อานัสกุมมือวีนัสบอกให้ไปล้างแผลก่อน พฤกษ์หันกลับมาเห็นพอดีเลยยิ่งโกรธเดินลิ่วไป พอดีคณิตาไปตัดใบตองกลับมาเห็นอานัสจับมือวีนัสอยู่ อารมณ์ปรี๊ดทันทีวางใบตองตะคอก

“ปล่อยมือจากเพื่อนฉัน”

คณิตาตรงเข้าไปดึงมือวีนัสออก วีนัสแก้ต่างให้อานัสว่าเขามาช่วยตนอย่าเพิ่งหลับหูหลับตาโวยอีกคน น่ารำคาญ ว่าแล้วเดินขึ้นบ้านไป คณิตาหันตาเขียวไล่อานัส “กลับไปได้แล้ว ตรงนี้เขตหวงห้าม”

อานัสเคืองแต่ไม่กล้าหือ จำต้องถอยไป

ในที่สุดบุษกรก็จำน้อยได้ว่าเป็นคนที่จับตนมัด น้อยไม่ยอมรับบอกว่าตนชื่อหนุงหนิง แต่เดินเข้าคุกคามบุษกรจนบุษกรถอยไปติดประตู น้อยยกมือบีบคอบุษกรตะคอกเหี้ยม“ถ้าพูดมากฉันจะวางยาคนแก่ที่นี่ให้มันตายกันให้หมด!!!”

บุษกรตกใจมาก เตือนนิ่มนวลที่มาเล่าเรื่องถูกหลอกเอาเงินไปว่า เราต้องระวังเจ้าหน้าที่คนใหม่ คนนี้อันตรายมาก แต่ขณะกำลังจะเล่าน้อยก็ผลักประตูถือถาดผลไม้เข้ามา บุษกรจึงเงียบ นิ่มนวลไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถามว่าเจ้าหน้าที่คนไหน

น้อยจ้องบุษกร หยิบมีดมาปอกผลไม้แววตาร้าย แม้นิ่มนวลจะถามอีกแต่บุษกรไม่กล้าพูด

อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 11 วันที่ 7 ต.ค.61

ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทประพันธ์โดย ธุวดารา
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทโทรทัศน์โดย เป่ากุ้ย
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ กำกับการแสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ฝึกสอนการแสดงโดย อริศรา วงศ์ชาลี
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ผลิตโดย บริษัท เป่าจินจง จำกัด
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ควบคุมการผลิตโดย นพพล โกมารชุน
ที่มา ไทยรัฐ