อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 13 วันที่ 12 ต.ค.61
วีนัสบอกว่าคุณตาโตมรจะมาอยู่ที่นี่เป็นแขกพิเศษของตน ชาญชัยไม่ยอมบอกว่าตนก็จะมาอยู่เหมือนกัน อานัสได้ทีเสนอวีนัสให้เปิดบ้านร่มไม้ฯ ชาญชัยจึงขอเป็นหุ้นส่วนด้วย บอกว่าตนจะไม่ยุ่งวุ่นวายแต่จะฝากคนงานใหม่ให้ช่วยหัดงานคนนึง วีนัสทำหน้างง อานัสรีบบอกว่าตนเอง ตนขอฝึกงานกับเธอ โตมรถามว่าตนหูฝาดไปหรือเปล่า“ไม่ฝาด เอิร์ธจะขอทำงานกับหนูวีนัสที่บ้านร่มไม้ฯ จริงๆ” ชาญชัยยืนยัน
อานัสยืนยันกับวีนัสว่าตนตั้งใจจริงๆ ตนอยากดูแลคุณตาคุณยาย เล่าแผนการของตนอย่างจริงจังว่า
“ผมจะทำให้ที่นี่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง จะเป็นอารยสถาปัตย์ ออกแบบเพื่อความสะดวกของผู้สูงอายุ คนป่วย มีหมอ พยาบาล นักจิตวิทยา นักกายภาพดีที่สุด ส่วนคุณจะเป็นรอยยิ้ม เป็นความสุขความสดใสของคุณตาคุณยาย มีเราสองคนช่วยกัน บ้านร่มไม้ฯจะต้องสมบูรณ์ขึ้น”
โตมรสงสัยว่าความเอาการเอางานของอานัสในจังหวะที่วีนัสโดนพฤกษ์ล่มงานหมั้นช่างลงตัวจนเหลือเชื่อ ชาญชัยกินปูนร้อนท้อง บอกว่าอานัสคิดเองเลือกเอง พอคณิตารู้ก็เตือนวีนัสคิดให้ดี เราไม่ได้ลำบากจนต้องขอความช่วยเหลือจากอานัส แต่ยายพิกุลเชื่อว่าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ ดูพฤกษ์สิ ดีแสนดีสุดท้ายก็ดีแตก วีนัสบอกคณิตาว่าไม่ต้องห่วงตนไม่เชื่อใครง่ายๆอีกแล้ว
ไตรทศผิดสังเกตว่าช่วงนี้พฤกษ์เร่งงานทุกอย่างถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า พฤกษ์บอกว่าตนก็แค่กำลังใช้ชีวิตให้เหมือนวันสุดท้ายเท่านั้น ซ้ำเตือนไตรทศว่าอย่าประมาทกับชีวิต อยากทำอะไรก็ทำเสียก่อนที่จะ
ไม่เหลือเวลา
ยิ่งเมื่อพฤกษ์ไปหาหมอเอกซเรย์สมองแล้วเขาตกใจถามหมอว่าตนกำลังจะตายหรือ! จากนั้นเขาทุ่มเทเวลาให้กับสวนกล้วยไม้จนไอลดาถามว่าจะเลิกเป็นอาจารย์แล้วหรือ เขาบอกว่ามหาวิทยาลัยปิดเทอม
ไอลดาถามว่าอยากรู้เรื่องวีนัสไหม ทำไมไม่โทร.หรือไม่ก็ไปที่บ้านเลย ถามว่าไปไหมตนจะไปเป็นเพื่อน พฤกษ์ทำเป็นไม่สนใจบอกว่าไม่ว่าง งานยุ่ง ไอลดาหมั่นไส้ถามจี้ใจดำว่า
“แกคงไม่อยากรู้ล่ะสิ วีนัสเขาตัดสินใจยังไง เรื่องเอิร์ธขอเป็นหุ้นบ้านร่มไม้ฯ”
ได้ผล...พฤกษ์มองขวับทันที ไอลดาแซะต่ออีกว่า พัตบอกว่าวีนัสน่าจะยอมเป็นหุ้นกับเอิร์ธ เอารูปที่
อานัสตามตื๊อและทำทุกอย่างที่วีนัสสั่งให้ดู พฤกษ์หงุดหงิดจนเดินแยกไป ไอลดายิ้มพอใจที่ตนยุได้ผล พึมพำ...
“หึงก็รีบไปห้ามเลย”
ไอลดายังตามไปแซะต่ออีก แต่พฤกษ์บอกว่าถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว คุณตาชาญชัยคงอยากให้เป็นแบบนี้ ไอลดาถามว่าเขาไม่หวงวีนัสเลยหรือ พฤกษ์บอกว่าวีนัสจะได้มีอนาคตที่ดีที่ตนให้ไม่ได้ ตนก็ต้องถอย พอถูก ไอลดาซักมากเข้า พฤกษ์ก็ตัดบทว่า
“แกไม่ต้องรู้ทุกเรื่องของฉันตอนนี้...วันนึงแก
ก็จะรู้เหตุผลของฉัน ฉันทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว
เพื่อคนที่ฉันรัก”
ooooooo
พอนิ่มนวลรู้เรื่องนี้จากโตมรก็ค้านหัวชนฝาว่ายอมให้หลานคุณชาญชัยมาเป็นเจ้าของที่นี่ไม่ได้ ตนเดาได้ล้านเปอร์เซ็นต์ว่าคุณชาญชัยกำลังจะให้หนูวีนัสเป็นหลานสะใภ้ ประกาศว่า
“ไม่ได้เลยนะ หนูวีนัสเขาดี เหมาะกับคุณพฤกษ์ไม่ใช่หลานคุณชาญชัย งานนี้ฉันไม่ยอม!!!”
แล้วนิ่มนวลก็ชวนยายพิกุลกับโตมรให้วีนัส
พาไปทำบุญ วีนัสรับพาไปด้วยความยินดี เย็นวันเดียวกัน ไอลดาก็บอกพฤกษ์ว่าคุณตาโตมรไลน์มาชวนไปทำบุญให้บุษกรกัน บอกแกมบังคับว่าห้ามตอบว่าไม่ไป คุณตาอุตส่าห์ไลน์มาชวนแล้ว อย่าให้ผิดหวัง
ที่วัดในวันรุ่งขึ้น วีนัสเห็นพฤกษ์มาด้วยก็จ้องกันอย่างไม่พอใจ วีนัสถึงกับพูดลอยๆว่าถ้ารู้ว่ามีคน
ไม่ได้เชิญมาด้วย ตนก็จะไม่มา พฤกษ์ก็ใช่ย่อยสวนไป ทันทีว่า
“เสียใจด้วยนะที่คุณไล่ผมไม่ได้ คุณตาโตมรชวนผมมา”
“อยู่ในเขตอภัยทาน ทำใจให้สงบ สว่างกันดีกว่านะครับ” ธนพัตเบรกทั้งสองคน
ขณะบรรยากาศกำลังระอุนั่นเอง กลุ่ม สว.มีโตมร นิ่มนวล ม้วนกับยายพิกุลก็เดินมา ทุกคนพยักพเยิดไปที่วีนัสกับพฤกษ์ลุ้นๆ แต่แล้ววงแทบแตกเมื่ออี๊ดส่งเสียงแจ๋เข้ามา โตมรถามว่าใครไลน์เรียกยายอี๊ดมาเนี่ย
“เอ้า...ฉันก็ชวนลงไปในไลน์กลุ่มบ้านร่มไม้ฯไง” นิ่มนวลบอก
“ปัดโธ่...คุณนิ่ม ไหนบอกว่ามากันเงียบๆ จบ ...จบเห่”
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อชาญชัยอ่านไลน์กลุ่มก็บอกอานัสว่าหนูวีนัสเขาพาคุณนิ่มนวลไปทำบุญ
ที่วัดนี่เองวีนัสกับพฤกษ์ต่างทำมึนตึงแต่ก็ตัดพ้อต่อว่ากัน พฤกษ์อดประชดเรื่องอานัสมาถือหุ้นในบ้านร่มไม้ฯไม่ได้ วีนัสโต้ทันทีว่า เขาไม่ควรว่าใครเพราะสิ่งที่เขาทำกับตนมันก็ไม่ดีไปกว่าที่อานัสเคยทำ
จู่ๆพฤกษ์ก็เกร็งเหมือนจะวูบ รีบเกาะเสาไว้ วีนัสตกใจดึงเขาไว้ไม่ให้ล้ม พฤกษ์ตะแบงว่าตนชะโงก
ดูปลาต่างหาก
นิ่มนวลที่เป็นตัวการมองวีนัสกับพฤกษ์บอกยายพิกุลว่าสองคนนั้นกำลังคุยกันหนุงหนิง
ไอลดาถามธนพัตที่กำลังเสี่ยงเซียมซีว่าได้เบอร์อะไร พอธนพัตบอกว่าเซียมซีบอกว่าไร้คู่ ไอลดาก็ให้ขยำทิ้งแล้วเขย่าใหม่ กลุ่ม สว.ได้ยินก็หัวเราะกันคิกคักที่ไอลดาช่างกล้า
ขณะบรรยากาศกำลังจะดีนั้น อานัสก็เดินเท่
เข้ามาบอกว่าตนจองโต๊ะอาหารไว้ให้คุณตาคุณยายแล้วเดี๋ยวออกจากวัดเราแวะกินข้าวกันก่อน แล้วไปเที่ยวตลาดน้ำไหว้พระต่อที่อยุธยา ทริปนี้ตนดูแลทุกอย่างเอง
วีนัสบอกว่าตนขอถามคุณตาคุณยายก่อน อานัส
บอกว่าตนถามหมดแล้ว ตอนนี้ทุกคนรออยู่ที่รถตู้แล้วหันชวนพฤกษ์ไปด้วยกันไหม
“ขอตัว” พฤกษ์เสียงกระด้างแล้วเดินผ่านหน้าวีนัสกับอานัสไปเลย
วีนัสมองตามพฤกษ์ อานัสเร่งว่าคุณตาคุณยายรออยู่ แอบยิ้มอย่างผู้ชนะที่มาขวางพฤกษ์กับวีนัสได้ทัน
ooooooo
พฤกษ์กลับบ้านก็ถูกไตรทศกับไอลดาบ่นว่า
ยอมแพ้ทำไม มันพาวีนัสไปไหนก็ต้องตามไปด้วย พฤกษ์บอกว่าเรื่องของตนกับวีนัสจบไปแล้ว
ไตรทศกับไอลดาพยายามให้พฤกษ์เปิดใจ
พูดความจริงแต่เขาก็ไม่พูด บอกว่าตนอยากอยู่คนเดียว พออยู่คนเดียวเขาก็เดินไปหน้ารูปครอบครัวบอกพ่อกับแม่ว่า
“ผมทำดีที่สุดแล้วครับ ความสุขของวีนัสไม่ควรฝากไว้กับชีวิตที่เหลือของผม”
นิ่มนวลบ่นว่าแผนถ่านไฟเก่าของตนพังหมด
อี๊ดท้าพนันกันว่าวีนัสจะเลือกใคร อี๊ดถือข้างอานัส แต่นิ่มนวลกับม้วนถือข้างพฤกษ์ โตมรนิ่ง สุดท้ายก็บอกว่า
“ไม่รู้สินะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เอ๊ะ...หรือจะไม่เกิดดี ฉันจะได้คอยดูพวกคนหน้าแตก”
คณิตาที่ไม่ชอบหน้าอานัสอยู่แล้วบ่นกับวีนัสว่าอานัสเร่งทำคะแนนเต็มที่ คงอยากเป็นหุ้นบ้านร่มไม้ฯเต็มที วีนัสบอกว่าตนยังไม่ตัดสินใจอะไรทั้งนั้น
“จะยื้อได้นานแค่ไหน อย่าลืมนะว่าเอิร์ธมีคุณตาชาญชัยคอยเชียร์อยู่”
วันต่อมาชาญชัยให้วีนัสไปหาที่บ้าน บอกว่าตนไม่ได้เร่งอะไรแต่ก็พร้อมเสมอ วีนัสอยากให้เอิร์ธทำอะไรเขายินดีทำทันที วีนัสทำหน้าอึดอัด ชาญชัยดูออกว่า
คงไม่ง่ายนักที่วีนัสจะยอมให้ถือหุ้นบ้านร่มไม้ฯ
อินทิราเห็นวีนัสคุยกับชาญชัยมีอานัสนั่งหน้าบานอยู่ด้วย พอวีนัสจะกลับอานัสจะไปส่ง วีนัสขอเข้าห้องน้ำก่อน ถูกอินทิราไปดักทำพูดดีด้วยแต่เหน็บว่าเป็นแขกประจำของบ้านนี้ไปแล้วนะ ปิดบ้านร่มไม้ฯแล้วมาวนเวียนที่บ้านตนเอาใจพ่อตน ปั่นหัวจนเอิร์ธเป็นบ้าหลงเธอไปอีกคน ดูถูกว่า
“เข้าล็อกตามแผนปิดบ้านร่มไม้ฯแล้ววิ่งโร่มาออดอ้อนเอาใจพ่อฉันกับว่าที่สามีถึงนี่ ได้ไปกี่ล้านแล้วล่ะ”
“ฉันยังได้น้อยไปค่ะ ถ้าลงทุนทำอย่างที่คุณพูดฉันต้องได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้กับโรงแรมของ
คุณตาชาญชัยได้” วีนัสยั่วจนอินทิราด่าว่าเธอมันร้าย “ก็ถ้าเจอคนที่ร้ายขนาดคุณ กดหัวดูถูกคนอื่นได้ ฉันก็คงไม่ยืนยิ้ม รับคำด่าอยู่ฝ่ายเดียว”
“ก็ลองดูวีนัส อยากเป็นสะใภ้บ้านนี้ ไม่ใช่แค่ฉันหรอกที่จะดูถูกเธอ แม้แต่ไอ้เอิร์ธ วงศาคณาญาติทั้งหมดจะไม่มีวันยอมรับคนระดับเธอ!”
เมื่อกลับไปเจออานัส วีนัสบอกว่าตนจะกลับเอง ทำเอาอานัสงง สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
ooooooo
พฤกษ์บอกเนมว่าตนตัดสินใจแล้วว่าจะทำสวนกล้วยไม้ของพ่อ เนมเกาะแขนพฤกษ์ขอเหตุผลสัญญาว่าจะไม่บอกใครเหมือนที่เคยสัญญาว่าเห็นอาจารย์ล้ม
วีนัสถูกอินทิราดูถูกและด่าก็มาหาพฤกษ์ เจอเนมกำลังเกาะแขนพฤกษ์ก็ชะงัก เนมกับพฤกษ์ก็เห็นวีนัสพอดี เนมเห็นสายตาของพฤกษ์กับวีนัสที่มองกัน
ก็พูดขึ้นลอยๆว่า
“เลิกกันแล้ว แต่ยังมาหาถึงบ้าน”
วีนัสทำท่าจะถอย พฤกษ์บอกว่าอย่าเพิ่งไปแล้วมองหน้าเนม เนมรู้ตัวบอกว่าไม่ต้องไล่ตนได้รับคำตอบแล้ว เนมเดินผ่านวีนัสไป พฤกษ์รีบลงมาหาวีนัสถามว่า “คุณมีเรื่องมาใช่ไหม”
“ค่ะ...ฉันไม่รู้จะปรึกษาใคร แต่ถ้าอาจารย์กำลังมีธุระ...” วีนัสทำท่าจะถอยไป พฤกษ์รีบคว้ามือไว้
วีนัสบอกว่าตนไม่อยากเปิดบ้านร่มไม้ชายคา แต่คุณตาชาญชัยอยากให้ทำ พฤกษ์บอกว่าบางทีเราก็ต้องทำในสิ่งที่เป็นความฝันของคนอื่น เพราะเราจะอยู่คนเดียวไม่ได้ ชี้ให้เห็นว่า
“คุณตาคุณยายรักบ้านร่มไม้ฯ ท่านได้เจอเพื่อน มีความผูกพัน มีอิสระที่นั่น คุณคือคนทำให้บ้านร่มไม้ฯมีชีวิตชีวาสำหรับคุณตาคุณยายทุกคน”
วีนัสสังเกตเห็นอาการไม่ปกติของพฤกษ์ถามว่าไม่สบายหรือเปล่า พฤกษ์บอกว่าตนสบายดี
“บอกฉันเถอะค่ะ บอกความจริงฉัน อาจารย์เป็นอะไร บอกฉันนะคะ ให้ฉันดูแลอาจารย์ อย่าทนอยู่คนเดียวนะคะ อาจารย์ยังมีคนที่...รักอาจารย์”
พฤกษ์ซึ้งใจจนกอดวีนัสไว้แน่น วีนัสพยายามไม่กอดตอบ แต่แล้วก็แพ้ใจตัวเอง กอดพฤกษ์ไว้แนบแน่น กำแพงที่กีดกั้นความรู้สึกกันเพราะทิฐิมลายหายสิ้น...
มีแต่ความรักความห่วงใยจากหัวใจที่มีให้กัน...
ooooooo
เนมยุแหย่อานัสว่ารู้ไหมว่าตนเจอใครที่บ้านอาจารย์พฤกษ์ อานัสสังหรณ์ใจว่าเป็นวีนัส ถามว่าเธอไปทำไม เขาคุยอะไรกัน เนมปรามาสว่าหมดน้ำยาแล้วหรือ พอเจอผู้หญิงที่ไม่แคร์ความรวยเข้าก็ถึงกับไปไม่เป็น
อานัสบอกว่าวีนัสแค่ไปหาเพื่อนเก่า เนมเย้ยว่าถ้าหลอกตัวเองแล้วสบายใจก็ตามใจ แต่ตอกย้ำว่า
“รู้ไว้ด้วยนะ อาจารย์พฤกษ์ลาออกแล้ว เขากำลังจะทำสวนกล้วยไม้จริงจัง คนเก่ง ทำธุรกิจเป็น อีกไม่นานอาจารย์ก็รวยแน่ ถึงตอนนั้นอาจารย์เขามีครบ หล่อ เก่ง รวย มีอะไรที่วีนัสจะกลับมาหาไม่ได้”
อานัสถูกเย้ยโมโหจะเข้าไปบีบคอเนม เนมปัดออกด่าต่ออย่างสะใจ
“แทนที่จะทำตัวเหมือนหมาบ้า เอาสมองน้อยๆไปคิดดีกว่าว่าจะดึงวีนัสกลับมาได้ยังไง แล้วไม่ต้องมาหลอกใช้ฉันด้วยนะ เพราะฉันเข้าใกล้อาจารย์พฤกษ์ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องพึ่งคนอย่างแก!”
เนมด่ายิ้มเยาะแล้วเชิดไปเลย อานัสได้แต่กำหมัดกัดฟันจิกตาแค้น
ooooooo
คืนนี้...อานัสแค้น ถือไม้บุกเข้าไปในเรือนกล้วยไม้บ้านร่มไม้ชายคา ฟาดกระถางแตกกระจายเหมือนคนคลั่ง โตมรแอบดูเห็นอารมณ์คลั่งของอานัสก็หลบไปเงียบๆ กลัวอานัสเห็นแล้วจะมาทำร้ายเอา
รุ่งเช้าวีนัสมาดูเรือนกล้วยไม้เก็บดอกกล้วยไม้ขึ้นมาถาม
“ใคร...ใครมันทำขนาดนี้”
“หมาอันธพาลนอกรั้ว มันคงลอบเข้ามา”
โตมรบอก เห็นวีนัสมองกล้วยไม้อย่างเสียดาย ถามว่า “หนูวีนัสพอจะไปหากล้วยไม้สวยๆมาใหม่ได้ไหม”
วีนัสมองดอกกล้วยไม้ในมือนิ่ง...
อานัสไม่เพียงอาละวาดที่บ้านร่มไม้ฯ หากยัง
ไปที่สวนกล้วยไม้ของพฤกษ์ พุ่งเข้าชกพฤกษ์ที่กำลังดูการมัดกล้วยไม้ไม่ทันรู้ตัวจนกระเด็น ลุงเพชรร้องบอกให้คนงานช่วยพฤกษ์ก็ถูกอานัสเหวี่ยงใส่จนแตกฮือ แล้วพุ่งไปบีบคอพฤกษ์ ชกซ้ำจนพฤกษ์ลุกไม่ไหว ตะโกนคลั่ง
“มึง...มึงยุ่งกับวีนัสของกู”
อานัสจับหัวพฤกษ์โขกพื้นอย่างแรงแล้วเตะซ้ำ พลันก็ถูกกระชากออกมา อานัสหันขวับเงื้อหมัดจะชกแต่แล้วก็ชะงักค้างเมื่อเห็นเป็นวีนัส วีนัสตบอย่างแรง
ด่าทันที
“ฉันนึกว่ามิตรภาพจะเปลี่ยนคุณได้ แต่สุดท้ายคุณมันก็เลวยิ่งกว่าเดิม” อานัสโทษว่าเพราะพฤกษ์ “ไม่ใช่อาจารย์ เพราะตัวคุณ คุณไม่เคยยับยั้งชั่งใจ ไม่เคยเห็นแก่คนอื่น คุณทำลายทุกอย่างเพราะเห็นแก่ตัว”
วีนัสคว้าไม้ที่พื้นฟาดอานัสอย่างแรง พฤกษ์ตกใจดึงไม้จากวีนัสแล้วไล่อานัสอย่างดุดัน
“ออกไป ถ้าแกแตะวีนัสอีก ฉันจะฆ่าแก”
อานัสเห็นคนงานที่ล้อมเข้ามาก็ถอย วีนัสช่วยปัดดินที่เลอะหน้าพฤกษ์ เขามองเธอด้วยความรักยิ่งขึ้น
อานัสกลับบ้านเจออินทิราถามเย้ยว่าไปฟัดกับหมาที่ไหนมาอีก ถูกอานัสด่าก็เย้ยว่าน้ำหน้าอย่างนี้ ผู้หญิงฉลาดๆมีแต่จะสูบเงินแล้วเหยียบหัวเป็นบันไดก้าวขึ้นที่สูงเท่านั้น
อานัสเลือดขึ้นหน้าพุ่งเข้าตบอินทิราจนหน้าหงาย ชาญชัยเข้ามาพอดีเอาไม้เท้าขวางก่อนที่อานัสจะพุ่งเข้าไปซ้ำ อานัสคำรามคลั่ง
อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 13 วันที่ 12 ต.ค.61
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทประพันธ์โดย ธุวดาราละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทโทรทัศน์โดย เป่ากุ้ย
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ กำกับการแสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ฝึกสอนการแสดงโดย อริศรา วงศ์ชาลี
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ผลิตโดย บริษัท เป่าจินจง จำกัด
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ควบคุมการผลิตโดย นพพล โกมารชุน
ที่มา ไทยรัฐ