อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 13[อวสาน] วันที่ 15 ต.ค.61
เนมเห็นพฤกษ์โกรธจนเหมือนคลั่งก็รีบบอกว่าตนจะมาคุยกับวีนัส ถูกพฤกษ์ไล่ไปให้พ้นอย่ามาทำให้วีนัสไม่สบายใจอีกแล้วเดินออกไป เนมรีบรับปาก มองอานัสที่กำลังลุกขึ้นอย่างสะบักสะบอม เนมบอกตนไม่ยุ่งด้วยแล้วรีบออกไปอานัสด่าเนมว่าพึ่งอะไรไม่เคยได้ สงสัยว่าพฤกษ์บ้าอะไรขึ้นมา ฉุกระแวงว่าหรือว่าเรื่องพ่อมัน อานัสหยิบโทรศัพท์โทร.นัดวีรกิจมาพบกัน ถามทันทีว่าลบคลิปที่ตนขับรถชนไปแล้วใช่ไหม วีรกิจบอกว่าลบแล้วตามข้อตกลง ลบจากมือถือแต่ไม่แน่ใจว่ามีเก็บไว้ที่ไหนอีกหรือเปล่า แต่ไม่ต้องกลัวเพราะคดีปิดไปแล้ว
วีรกิจยังกั๊กไว้ขู่เอาเงินจากอานัส แต่ถูกอานัสขู่กลับว่า
“แกไปรับเงินที่โรงแรมฉัน ฉันมีกล้องวงจรปิดเห็นหน้าแก ฉันบอกแกก่อนนะว่า...ชัด” แล้วสั่งวีรกิจให้จัดการเรื่องคลิปให้แน่ใจว่าไม่มีใครได้มันไป ลบให้หมด ขู่ว่า “ถ้าฉันเดือดร้อน แกก็อยู่ไม่เป็นสุขเหมือนกัน”
อานัสเสียงแข็งไม่ยอมลงให้วีรกิจเหมือนทุกครั้ง กลับถึงบ้านก็ตรงไปถามสิริมาว่าเรื่องตนขับรถชน แม่จัดการเรียบร้อยแน่นะ สิริมาบอกว่าเรียบร้อยแต่หากมีเรื่องอะไรแดงขึ้นมาก็เพราะเขานั่นแหละ
ชาญชัยเดินผ่านมาหยุดฟัง สงสัยว่าสองแม่ลูกมีอะไรปิดบังกันอยู่ นึกถึงพฤกษ์ที่มาถามหาอานัสก็สงสัยว่าจะมีเรื่องเกี่ยวกับพฤกษ์ด้วย
ชาญชัยเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆแล้วถามพฤกษ์ว่า กับอานัสนอกจากเรื่องวีนัสแล้วยังมีเรื่องอื่นไหม พฤกษ์นึกถึงคำเตือนของไตรทศที่ว่าถ้าชาญชัยรู้เรื่องอานัสอาจถึงกับช็อก จึงบอกชาญชัยว่า...ไม่มี
อุ้มยืนกระสับกระส่ายรอไตรทศอยู่หน้าร้านขายขนมเปี๊ยะของนิ่มนวล ได้ยินเสียงคนเดินมาข้างหลัง เธอทัก “คุณทศ...” แต่กลับกลายเป็นวีรกิจ เขาถามว่ามารอใคร ทศไหน คาดคั้นถามว่าไปเอาเงินแม่ตนไปเข้าบ่อนอีกใช่ไหมแล้วเงื้อมือจะตบ ถูกไตรทศจับมือค้างไว้ พอเห็นหน้ากันก็จำได้ว่าเป็นตำรวจทำงานที่เดียวกัน
อุ้มตกใจเมื่อรู้ว่าไตรทศเป็นตำรวจ ถามว่าแสดงว่าเป็นตำรวจแล้วมาหลอกตน
พฤกษ์เล่าเรื่องอานัสให้วีนัสฟัง บอกว่าตนตามหามาตลอดว่าใครขับรถตัดหน้าจนพ่อรถคว่ำแล้วคดีก็ถูกปิดลงง่ายๆ เพราะเงินมันเปลี่ยนดำเป็นขาวได้
ปรากฏว่าชาญชัยมาได้ยินสิ่งที่พฤกษ์พูดทั้งหมดถึงกับเข่าอ่อน ดีแต่วีนัสเห็นเข้าประคองไว้ทัน
“หลานผม ทำให้พ่อคุณตายหรือพฤกษ์...” ชาญชัยถามเสียงแผ่วโผย...อ่อนล้า แล้วช็อกไป
ฝ่ายวีรกิจซักไซ้อุ้มจนรู้ว่าเมียตัวเองเอาคลิปลับไปให้ไตรทศก็จะทำร้ายอุ้ม อุ้มถอยห่างบอกว่าตน
ไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยว วีรกิจก็ยืนยันกับไตรทศว่าคดีอานัส
ขับรถชนตนไม่เกี่ยว ท้าว่าหรือมีหลักฐานว่าตนเกี่ยว
“ถ้าผมไม่มีหลักฐานผมคงไม่กล้ามายืนเผชิญหน้าแล้วเตือนพี่ว่า พี่กำลังทำผิด พี่กำลังทำให้ศักดิ์ศรีตำรวจดีๆ ตั้งใจทำงาน ต้องมัวหมองเพราะคนที่เงินซื้อศักดิ์ศรีได้อย่างพี่”
ไตรทศจ้องวีรกิจจนเขาต้องหลบตา อุ้มเลิ่กลั่กรู้ตัวว่าซวยแล้ว
ฝ่ายบรรดาลูกๆก็โทษว่าพฤกษ์ทำให้พ่อล้มป่วย ถ้าเป็นอะไรจะให้ตำรวจจับ พฤกษ์บอกว่าตนก็อยากเจอตำรวจ สุจิตราด่าว่าตีฝีปาก ถามว่ารู้ไหมว่ากำลังพูดกับใคร
“ผมไม่สนหรอกครับว่าคุณเป็นใคร ผมสนใจ
แต่ว่าพวกคุณทำอะไรลงไป” พฤกษ์ไม่สะทกสะท้าน
ฝ่ายเอกภพกับเอกวิทย์ก็ไม่ได้สนใจอาการของพ่อเลย เถียงกันแต่เรื่องใครจะได้อะไรจากกองมรดก จนเอกยุทธถามว่าทำไมไม่ห่วงอาการของคุณพ่อ เถียงแต่เรื่องสมบัติกันอยู่ได้ เอกภพถามสิริมาว่าเอิร์ธไปไหน สิริมาบอกว่าพอคุณพ่อฟื้นขึ้นมาก็เรียกเอิร์ธเข้าไปหา เอกวิทย์ไม่พอใจที่พ่อเรียกเอิร์ธเข้าไปหาตัดหน้าทุกคน
ชาญชัยเรียกเอิร์ธเข้าไปหาบอกว่าวันนี้ตนต้องเสียใจที่สุด ตนควรสั่งสอนเขาให้มากกว่านี้ อานัสถามว่าพอปู่ฟื้นก็เรียกตนมาด่า ด่าตนทำไม
“เพราะแกกำลังหนีความจริง แกเป็นคนทำให้พ่อคุณพฤกษ์ตาย” อานัสตกใจถามว่าคุณปู่รู้ได้ยังไง “ถ้าแกเป็นลูกผู้ชายแกต้องรับผิดชอบความเลวที่แกทำลายครอบครัวคุณพฤกษ์...เอิร์ธ ถ้าแกเป็นหลานฉัน แกต้องเป็นลูกผู้ชาย ยอมรับความผิดที่ก่อไว้”
“คุณปู่จะยอมเห็นหลานชายตัวเองเข้าคุกใช่ไหม”
ชาญชัยสะเทือนใจจนน้ำตารื้นกับคำถามของอานัส และเมื่อออกมาเจอทั้งพ่อ แม่ วีนัสและพฤกษ์ที่ประกาศว่าจะต้องเอาอานัสเข้าคุกเพราะเป็นคนทำให้พ่อตนตาย ทีแรกสิริมาก็แข็งกร้าว แต่พอพฤกษ์บอกว่าตนมีหลักฐาน ก็เสียงอ่อน ขอร้องค่อยๆคุยกันได้ไหม พฤกษ์ยืนยันว่ายังไงก็ต้องทำให้อานัสรับโทษในคุกให้ได้
พออานัสถูกกลุ่มญาติรุมถามว่าเป็นความจริงใช่ไหม ทำให้ชื่อเสียงตระกูลป่นปี้หมด ทำให้คุณพ่อตรอมใจด่า “ไอ้หลานทรพี เกิดมาทำไม”
“คนอย่างกู ใครก็ลากกูเข้าคุกไม่ได้ กูไม่มีวันไปอยู่ในคุก” อานัสตะโกนตวัดตามอง ทุกคนต่างตกใจ
พฤกษ์แค้นประกาศจะเอาอานัสมารับโทษให้ได้ วีนัสติงว่าเราอยู่กับความโกรธแค้น แต่คุณตาชาญชัยกำลังอยู่กับความทุกข์ ความทรมานใจในสิ่งที่ท่านไม่ได้รู้เห็นเลย บอกพฤกษ์ว่า ตนรู้ว่าเขาเสียใจแต่อย่าให้ความเสียใจทำลายอนาคตที่เราจะเดินต่อ คุณพ่อคุณแม่เขาคงไม่อยากเห็นเขาอยู่กับความแค้น เตือนว่า
“ถ้าอานัสจะต้องรับโทษเมื่อสำนึกผิดก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย สิ่งที่เราต้องทะนุถนอมคือจิตใจคุณตาชาญชัยกับคุณยายนิ่มนวล ไม่สมควรที่ท่านจะถูกกระทบ กระเทือนจากเรื่องที่ลูกหลานทำ อย่าเอาความโกรธเกลียดไปทำร้ายท่านทางอ้อมเลยนะคะ” พฤกษ์ฟังแต่ยังทำใจไม่ได้
วีรกิจโมโหอุ้มมาก ตะคอกใส่ว่ารู้ไหมคลิปที่เธอให้ไตรทศไปมันกำลังจะทำให้ผัวตัวเองติดคุก อุ้มด่าว่าตนมีผัวโง่ ท้าให้หย่ากันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ด่าแล้วเดินหนี วีรกิจเดินตามไปบอกว่าไม่หย่า
“แม่เจอแล้ว...แม่เจอแล้ว” เสียงนิ่มนวลดีใจมากแทรกมาพร้อมกับกล่องใส่ทองแท่งหนัก 1 กิโลกรัม “นี่ไงทองที่แม่เตรียมไว้ให้ลูก” เปิดกล่องให้เห็นทองคำ 4 แท่งเหลืองอร่ามเรียงราย
วีรกิจและพาฝันรุมกันเข้าไปหยิบถามว่าอันนี้เป็นของตนใช่ไหม วีรกิจบอกว่าตนจะลาออกจากตำรวจไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศ อุ้มจะไปด้วยทันที วีรกิจบอกว่าไม่ เพราะเราแยกทางกันตรงนี้แล้ว ได้ทองแล้วลาแม่เลยบอกว่าถ้าจะไปเมืองนอกเมื่อไหร่จะโทร.บอก
ลูกๆหยิบทองไปคนละแท่ง กอดจูบลูบคลำด้วยความดีใจแต่ไม่มีใครสนใจแม่ที่นั่งหงอยอยู่เลย
อานัสกลัวติดคุกไม่ยอมรับความผิดจนชาญชัยสั่งให้แต่งตัวแล้วพาไปขอโทษพฤกษ์ที่บ้านร่มไม้ฯ บอกพฤกษ์ว่าตนเสียใจอยากมากราบขอโทษด้วยตัวเองแต่ก็ไม่มีโอกาส ตนจึงต้องมาขอพบเขาเพื่อกราบขอโทษ และขออโหสิกรรม ยกโทษให้หลานตนด้วย อานัสก็สำนึกผิดบอกพฤกษ์ว่าไม่ยกโทษให้ตนก็ได้แต่อย่าโกรธเกลียดคุณปู่ เพราะตนผิดคนเดียว ตนขอโทษ แล้วก้มกราบพฤกษ์
พฤกษ์บอกว่าพ่อกับแม่คงไม่อยากให้ตนอาฆาตแค้นอานัสไปจนตาย เพื่อให้พ่อแม่ตนใจสงบ เพื่อความสุขของคุณตาชาญชัย บอกอานัสอย่าทำชั่วอีกใช้โอกาสนี้ทำเพื่อคนอื่นล้างบาปที่ทำกับครอบครัวตน บอกว่า “ฉันอโหสิให้” ทุกคนดีใจที่พฤกษ์ยกโทษให้อานัส ชาญชัยถึงกับน้ำตาไหล
แม้อานัสจะได้รับอโหสิจากพฤกษ์ แต่ก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย เขาก้มกราบปู่ทั้งกุญแจมือสัญญาว่า
“คุณปู่รอผมนะครับ คุณปู่รอผม ผมจะเป็นคนดีของคุณปู่ให้ได้”
ส่วนที่บ้านนิ่มนวล วีรกิจขายทองแล้วบินไปนอกเลย อุ้มแค้นประกาศว่าจะหาผัวใหม่ให้หล่อและรวยกว่าวีรกิจด้วย ประกาศจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกเลย
ในที่สุดที่บ้านก็เหลือแต่พาฝันกับนิ่มนวล นิ่มนวลเรียกพาฝันมาถักเปียให้ ระลึกความหลังว่าพาฝันเป็นลูกที่ดีที่สุดของแม่ ยอมเสียสละออกจากโรงเรียนมาช่วยแม่ขายขนมเพื่อให้พี่กับน้องได้เรียนสูงๆ พาฝันกอดแม่ไว้ด้วยความรัก นิ่มนวลก็กอดพาฝันไว้เหมือนสมัยเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดแม่
หนึ่งธิดาหรือเนมขอเดินไปตามความทะเยอ–ทะยานของตน อวยพรให้อาจารย์พฤกษ์โชคดี
ส่วนพฤกษ์ก็เสนอให้วีนัสเปิดบ้านร่มไม้ฯ เราสองแรงแข็งขันจะช่วยกันทำให้บ้านร่มไม้ฯกลับมาให้คุณตาคุณยายได้มีความสุขกันอีกครั้ง
เย็นนี้...ที่ศาลาสุขใจบางปู บรรดาผู้เกี่ยวข้องกับบ้านร่มไม้ชายคาจัดกินข้าวสังสรรค์ มีการจับคู่เต้นรำกัน
คณิตาเต้นกับไตรทศ ไอลดาเต้นกับธนพัตเป็นเสมือนการเปิดตัวกับทุกคน
วีนัสเต้นรำกับพฤกษ์เป็นคู่เด่นอยู่กลางฟลอร์ มองกันด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ชาญชัยเอ่ยอย่างมีความสุขว่า
“ชีวิตคนถ้ามีใครสักคนจับมือเราไว้ ไม่ว่าจะยากลำบาก ต้องข้ามน้ำข้ามทะเล ข้ามเขา เราก็พร้อมจะข้ามไปให้ถึงความฝันทั้งนั้นแหละครับ”
**********อวสาน*********
อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 13[อวสาน] วันที่ 15 ต.ค.61
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทประพันธ์โดย ธุวดาราละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทโทรทัศน์โดย เป่ากุ้ย
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ กำกับการแสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ฝึกสอนการแสดงโดย อริศรา วงศ์ชาลี
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ผลิตโดย บริษัท เป่าจินจง จำกัด
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ควบคุมการผลิตโดย นพพล โกมารชุน
ที่มา ไทยรัฐ