อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 12 วันที่ 31 ต.ค.61

อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 12 วันที่ 31 ต.ค.61

ปราการควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จในฐานะรักษาการประธานใหญ่เหมทองกรุ๊ป เหล่าพนักงานต่างพากันหวาดกลัวเพราะความเด็ดขาดของปราการ แต่ก็มีบางส่วนไม่พอใจเพราะถูกตัดสวัสดิการ

องุ่นกับเกรียง แม่บ้านช่างเม้าท์และศิษย์เอกของเหมันต์ได้รับผลกระทบมากกว่าใครเพราะถูกตัดสวัสดิการอาหารกลางวันและน้ำดื่มที่เคยมีให้ฟรี

สมัยเหมทองเป็นประธาน หริทธ์แอบได้ยินสองพนักงานนินทาปราการก็ออกตัวแรงปกป้องเต็มที่ แถมขู่ให้ลาออกถ้าอยู่ไม่ไหว



อุดมรักตัวกลัวตายประจบประแจงเอาหน้าหริทธ์สุดฤทธิ์ ต่างจากเกรียงที่เป็นสายให้เหมันต์ มองหริทธ์ด้วยแววตาผิดหวัง หริทธ์ไม่ชอบใจและหมั่นไส้คว้าคอเสื้อเกรียงมาขู่

“อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกคิดปลุกระดมคนงาน...แกตายแน่!”

องุ่นเห็นท่าไม่ดีออกโรงช่วยพูดให้เกรียง

“มันทั้งโง่ทั้งเซ่อ ปลุกระดมใครไม่เป็นหรอกผู้จัดการ”

หริทธ์ฮึดฮัดแล้วผละไป เกรียงรอจนผู้จัดการคนใหม่ลับตาจึงหันไปกระซิบกับองุ่น

“พี่เคยอยู่ข้างเดียวกับเสี่ยสองไม่ใช่หรือ แล้วช่วยผมทำไม”

“แผนกแม่บ้านโดนตัดเงินสวัสดิการ ฉันจะทนเฉยได้ไง ใครทำให้เรากินอิ่มนอนหลับฉันก็อยู่ข้างนั้นแหละ”

ปราการไม่ได้สนใจความระส่ำระสายภายในบริษัท วุ่นวายกับการแก้ต่างในคดีที่ถูกเหมันต์ฟ้องร้อง แล้วก็ได้เรื่องเมื่อกมลแจ้งว่าต๋องพยานปากเอกเคยรู้จักกับเหมันต์...ซึ่งทำให้เป็นพยานไม่มีน้ำหนัก

บรรจงทนายฝั่งเหมันต์หนักใจเมื่อรู้ว่าต๋องเป็นพยานที่ไม่มีน้ำหนักเพราะรู้จักกับเหมันต์มาก่อน ทิมปลอบให้ใจเย็นเพราะผาณิตามีไม้เด็ดคือพยานคนใหม่!

เหมันต์เอะใจว่าจะเป็นพยานเท็จเพราะไม่รู้เรื่องมาก่อน แล้วก็ตามคาดเมื่อเขาไปถึงโรงพักทันก่อนที่ผาณิตาจะให้หญิงชาวบ้านที่จ้างมาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผาณิตาไม่พอใจที่เหมันต์ตามมาขวาง แถมลากเธอไปคุยนอกโรงพัก

“จ้างพยานเท็จมันมีความผิดนะครับ อย่าทำแบบนี้อีก”

“แต่อาสองจ้างคนไปฆ่าพยาน เขาเล่นวิธีสกปรกก่อน สู้กับคนใจคอโหดเหี้ยมใช้วิธีตรงไปตรงมาก็ไม่มีวันชนะ”

“คุณเคยได้ยินไหม...ถ้าเราต่อสู้กับปีศาจเราต้องระวังอย่าให้กลายเป็นปีศาจไปซะเอง”

“แล้วจะให้ฉันอยู่เฉยๆยอมแพ้ไปง่ายๆหรือ”

“ผมรู้ว่าในงานของคุณการแพ้ชนะในเรื่องธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันหมายถึงไม่กำไรก็เจ๊ง แต่การต่อสู้กับความถูกผิดเป้าหมายมันไม่ใช่การเป็นผู้ชนะ แต่สิ่งสำคัญคือเราจะยืนหยัดในมโนธรรมของเราได้หรือเปล่า”

คำพูดเตือนสติของเหมันต์ทำให้ผาณิตาคิดได้ สารภาพเสียงอ่อย

“ฉันยอมรับว่าใจร้อนไปหน่อย ต่อไปถ้าคิดจะทำอะไรฉันจะปรึกษานายก่อน”

เหมันต์พยักหน้ารับแกนๆ โล่งใจที่ระงับทุกอย่างทันเวลา ผาณิตาถอนใจยาวอดบ่นไม่ได้

“แต่ฉันก็ยังเสียดายอยู่ดี เราเกือบจะเอาเสี่ยสองเข้าคุกได้อยู่แล้ว”

“คุณคิดว่าเสี่ยสองจะหยุดทำชั่วหรือ เขามีแต่จะย่ามใจสร้างเวรสร้างกรรมไปเรื่อยๆ เราก็แค่รอวันที่เขาพลาด”

ผาณิตาทำหน้าเหมือนไม่เชื่อถือ พลันต้องเบิกตาโพลงเมื่อเกรียงแวะมาหาเหมันต์ถึงบ้าน

“นายเกรียง...นายมาได้ยังไง”

เกรียงไม่ทันอ้าปาก เหมันต์ก็ตอบแทน

“ผมให้เขาคอยส่งข่าวเรื่องราวในโรงงานให้ผมรู้น่ะครับ...มีอะไรหรือเกรียง”

“คุณทศครับ...เขามีท่าทีแปลกๆ วันก่อนผมก็เห็นพกมีดปอกผลไม้ วันนี้ก็เข้าห้องเก็บของหาของบางอย่าง...”

ooooooo

ข่าวจากเกรียงทำให้เหมันต์นั่งไม่ติด เช่นเดียวกับผาณิตารุดไปยับยั้งทศนาถที่มีแนวโน้มจะก่อเหตุใหญ่แบบไม่คาดฝัน แล้วก็จริงดังคาด...ทศนาถก่อเพลิงขนาดใหญ่ในห้องเก็บหนังของโรงงาน!

ทศนาถคับแค้นใจที่ถูกปราการดัดหลังและกดให้ตกต่ำที่สุดในชีวิต ตัดสินใจราดน้ำมันบนกองหนังและจุดไฟเผาให้สิ้นซากเหมือนความแค้นในใจ แต่สารเคมีในห้องก็ทำให้เกิดแรงระเบิดขนาดย่อม เพลิงลุกลามและทศนาถก็หนีไม่ทัน แพ้ภัยตัวเองนอนสลบเหมือดโดยไม่มีใครรู้เห็น

อุดมกับเหล่าคนงานกลัวไฟจะหนี เหมันต์กับผาณิตามาถึงพอดีจึงได้รู้ว่าสารเคมีอื่นๆในโรงงานจะทำให้กองเพลิงยิ่งโหมแรง เหมันต์เป็นห่วงผาณิตาสั่งเกรียงพาไปรอข้างนอก ส่วนตัวเองไปตามหาทศนาถ

เหมันต์ช่วยทศนาถออกมาจนได้แต่ตัวเองยังไม่ยอมออกจากห้องเก็บหนัง พยายามดับไฟไม่ให้ติดสารเคมีและเกิดระเบิด ผาณิตาร้องไห้ปิ่มว่าขาดใจ โวยวายกับทศนาถที่รอดมาได้อย่างสะบักสะบอม

“ถ้าเหมันต์เป็นอะไรไป ตาลจะไม่ให้อภัยพี่ทศตลอดชีวิต”

“เธอไม่มีวันเข้าใจพี่หรอก ไอ้ลุงสองมันยุให้ลูกน้องมันรังแกพี่ เหยียดหยามพี่”

“พี่ก็เคยทำแบบนี้กับใครต่อใครไม่ใช่หรือ กรรมกำลังสนองพี่อยู่ พี่ก็ก้มหน้ารับกรรมไปไม่ใช่เผาโรงงานที่ปู่สร้างมาเพื่อเอาคืนอาสองด้วยวิธีโง่ๆแบบนี้”

อุดมกับเหล่าคนงานได้ยินแล้วผงะ ผาณิตาไม่ยี่หระเพราะเห็นเหมันต์ออกจากกองเพลิงพอดี เธอโถมตัวไปหาอย่างไม่อายใคร ทิ้งทศนาถให้มองตามอึ้งๆ...ละอายแก่ใจเกินกว่าจะสบตาเหมันต์

ปราการกับหริทธ์มาถึงโรงงานหลังจากนั้นไม่นาน แจ้งความจับทศนาถทันทีในฐานะผู้ต้องหาวางเพลิง!

“หลานผมเป็นคนวางเพลิงโรงงาน ผมเองก็ไม่อยากเอาเรื่อง แต่คนงานเกือบต้องตายเพราะเขา ผมก็อยากให้เขาได้รับบทเรียนบ้าง หมวดนำตัวมาได้เลยครับ”

หมวดอาทรับทำคดีนี้ให้ปราการเหมือนเคย ตั้งท่าจะจับทศนาถแต่เหมันต์ห้ามไว้

“เขาไม่ได้เป็นคนวางเพลิง มันเป็นอุบัติเหตุผมเป็นคนเข้าไปดับไฟ ตัวเขานอนสลบอยู่ ผมเป็นพยานได้”

ปราการไม่ยอม สบตาคาดคั้นอุดมอดีตผู้จัดการโรงงาน

“คุณอุดม...บอกตำรวจไปว่าคุณเห็นสองคนนี้ร่วมมือกันวางเพลิง คนหนึ่งเป็นสาย อีกคนก็แอบลักลอบเข้ามา”

อุดมอึกอักเพราะไม่เป็นความจริง ผาณิตาจะเถียงแต่ช้ากว่าปราการที่รีบสำทับกับหมวดอาท

“คุณก็รู้ว่าเหมันต์แจ้งความกล่าวหาว่าผมฆ่าพ่อเขา แต่พอไม่มีหลักฐานก็เลยคิดแผนแก้แค้นเผาโรงงาน”

หมวดอาทรับสมอ้างทันทีว่าเป็นแรงจูงใจที่ฟังขึ้นแต่พวกคนงาน เกรียงและองุ่นก็ช่วยเป็นพยานช่วยเหมันต์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวางเพลิงโรงงานครั้งนี้

“พวกผมเป็นพยานได้ว่าอาจารย์เหมันต์มาเยี่ยมพวกผม ไม่ได้ลักลอบเข้ามา พออาจารย์เห็นควันไฟก็เลยช่วยดับไฟ อาจารย์ช่วยเสี่ยน้อย...ช่วยโรงงานของเราไว้”

เสียงฮือฮาตอบรับของเหล่าคนงานทำให้อุดมตกที่นั่งลำบากเพราะถูกกดดันจากปราการ กระนั้นอดีตผู้จัดการโรงงานก็ไม่อยากโกหกจึงเลือกให้การแบบเลี่ยงๆ

ปราการโกรธจัดประกาศกร้าวจะไล่ออกหากใครเป็นพยานให้ทศนาถกับเหมันต์พ้นผิด เหมันต์ไม่หวั่นโพล่งขึ้น

“ถ้าไล่คนงานทั้งหมดออกต้องจ่ายค่าชดเชยหนักเลยนะครับ”

ผาณิตาได้ทีสำทับแฟนหนุ่ม “หรือถ้าจะรับคนงานใหม่ก็คงต้องใช้เวลา แล้วรองเท้าอาสองล่ะคะ”

ปราการกำหมัดแน่น จำต้องถอยเมื่อหมวดอาทกระซิบว่าพยานหลายปากคงกักตัวไว้ไม่ได้

“ไพ่เกมนี้ถือว่าฉันยอมหมอบให้ก่อนก็แล้วกัน”

พูดพลางส่งสายตาท้าทายเหมันต์ซึ่งสวนทันควัน

“ผมไม่เล่นสิ่งผิดกฎหมายแต่ผมเอาคนผิดกฎหมายเข้าคุกได้!”

ooooooo

ปราการแค้นใจมากที่ทำอะไรเหมันต์กับทศนาถไม่ได้ แถมเหล่าคนงานยังลุกฮือเหมือนจะประท้วงที่เขาตัดสวัสดิการ เบี้ยเลี้ยง เงินเดือนและไล่คนออกเป็นว่าเล่น เหมันต์เป็นห่วงหริทธ์อยากให้ลาออกแต่อีกฝ่ายไม่สนใจ ทั้งผลักไสและทำท่ารังเกียจจนเขาอ่อนใจมาก

ผาณิตาปลื้มใจในความกล้าหาญของเหมันต์และอยากให้ทศนาถสำนึกบุญคุณข้อนี้ด้วย

“พี่ไม่คิดจะขอบใจเขาสักคำหรือ จะคิดจะแค้นเขาไปถึงไหน”

“พี่ไม่เชื่อว่ามันจะหวังดีกับพี่จริงๆ มันคงทำไปเพราะอยากได้บริษัทเหมทองก็เลยคิดจะดึงพี่เป็นพวก”

“เหมันต์ต้องการช่วยพี่จริงๆ เขาเสี่ยงเข้าไปช่วยทั้งๆที่รู้ว่าถ้าพลาดก็ต้องตายไปด้วย”

“เธอชอบมันถึงได้เข้าข้างมัน”

ทศนาถยังอคติเพราะระแวง เหมันต์เดินมาทันได้ยินประโยคสุดท้าย

“ที่ผมช่วยคุณเพราะเราเป็นพี่น้องกัน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน”

“ใครอยากเป็นพี่น้องกับแก”

“โอเค...งั้นเราก็มาพูดเรื่องผลประโยชน์กัน ที่คุณคิดเผาโรงงานก็เพราะไม่อยากให้เสี่ยสองได้บริษัทเหมทองไปไม่ใช่หรือ แล้วทำไมไม่มาร่วมมือกันแย่งบริษัทคืนมาด้วยวิธีใสสะอาด คนงานก็ไม่เดือดร้อนคุณเองก็ได้ตำแหน่งคืน”

ข้อเสนอของเหมันต์เย้ายวนใจมาก ทศนาถยิ่งกว่าสนใจแต่ทิฐิเลยทำเป็นไม่แคร์ โพล่งลั่น

“ฉันไม่มีวันจับมือกับแกเพราะฉันเกลียดแก!”

ทศนาถไม่ไว้ใจปราการแต่ไม่กล้าหือต่อหน้า เมื่อกลับถึงบ้านจึงรีบขอโทษและแก้ตัว

อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 12 วันที่ 31 ต.ค.61

ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทประพันธ์โดย รจเรข
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทโทรทัศน์โดย กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ กำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ผลิตโดย บริษัท ดีวัน ทีวี จำกัด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ