อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 10

อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 10

“งั้นเต้ยจอดให้เราลงตรงนี้...ก็ถ้าเต้ยไม่ไปกับเราเราก็ไปของเราคนเดียวได้”

สุดท้ายเต้ยก็ต้องวกรถไปออฟฟิศของกฤตย์

ตามความต้องการของถุงแป้ง โดยไม่รู้เลยว่าเวลาเดียวกันนั่นเอง กฤตย์กำลังสับสนเพราะเหตุการณ์ที่เกิดกับลินจันทร์ นัทธมนลอบยิ้มร้ายก่อนตีหน้านิ่งเหมือนเคย

“คุณกฤตย์ไม่เข้าใจอะไรหรือคะ”



“สิ่งที่ผมเชื่อทั้งชีวิตจะมาพังทลายลงในวันนี้หรือไง ผมมั่นใจมาตลอดว่าเรื่องกลับชาติมาเกิดไม่มีจริง แต่วันนี้...”

“ลินจันทร์ทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดใหม่อย่างงั้นใช่ไหมคะ”

“ใช่! คุณคิดดูสิ เด็กที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมแบบลินจันทร์ จะแกล้งพูดเสียงผาณิตได้ยังไง นอกจากว่าจะเป็นเสียง ของผาณิตเมื่อชาติปางก่อนจริงๆเท่านั้น”

“แล้วคนที่ชื่อผาณิตเนี่ย...เขาเป็นใครเหรอคะ”

นัทธมนแกล้งถามทั้งที่รู้แก่ใจว่าผาณิตคือน้องสาวคนละแม่ของวรดา กฤตย์อึกอักอย่างเห็นได้ชัด

“เขา...เป็นเพื่อนสนิทของแกมแก้วน่ะ รั้วบ้านอยู่ติดกันด้วย”

“แล้วทำไมผาณิตเขาถึงอยากขอขมาต่อวรดานักล่ะคะ ผาณิตเขาเคยทำอะไรผิดกับวรดาไว้เหรอคะ”

“คุณจะถามไปทำไม”

“จู่ๆมีใครก็ไม่รู้จากชาติปางก่อนมากราบเท้า ขอขมาดิฉัน คุณจะไม่ให้ดิฉันสงสัยหรือถามอะไรเลยเหรอคะ”

กฤตย์ถอนใจเหนื่อยหน่าย ตัดบทดื้อๆ “ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขาเคยมีอะไรติดค้างกันไว้ ผมสนิทกับผาณิตอย่างพี่น้องบ้านเรือนเคียงกัน ไม่ได้สนิทสนมขนาดจะรู้เรื่องของเขาทุกเรื่อง”

นัทธมนไม่ยอมจบจะถามถึงผาณิตต่อ กฤตย์โพล่งอย่างเหลืออด

“นี่คุณหยุดถามผมซะทีได้ไหมนัทธมน แค่เห็นสิ่งที่เกิดกับลินจันทร์วันนี้ ผมก็หัวหมุนสับสนไปหมดแล้ว”

“ตกลงตอนนี้คุณเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดแล้วใช่ไหมคะ”

“ก็ไม่เชิงนะ แต่ผมยังหาคำอธิบายมาหักล้างสิ่งที่ เกิดขึ้นกับลินจันทร์ไม่ได้น่ะ จะเรียกว่า...เริ่มจะเชื่อก็พอได้มั้ง”

“ถ้าคุณ...เริ่มจะเชื่อเรื่องนี้ แล้วคุณเชื่อไหมคะว่าเมื่อชาติก่อนดิฉันก็คือ...วรดา”

กฤตย์ชะงัก แววตาของเลขาฯสาวทำให้เขาสงสัย แกล้งเออออ

“ผมก็อยากที่จะเชื่อแบบนั้นและอยากให้เป็นแบบนั้น”

“เพราะอะไรเหรอคะ”

“ก็เพราะว่า...ผมจะได้มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้งเพื่อที่จะลบความรู้สึกผิดในใจของผมเอง”

“ความรู้สึกผิดในใจ...งั้นก็หมายความว่าคุณกฤตย์เคยทำผิดไว้กับวรดาอย่างนั้นเหรอคะ”

นัทธมนตะล่อมถาม กฤตย์เห็นว่าเรื่องจะไปกันใหญ่เฉไฉถามถึงเรื่องโต๊ะที่ห้องเก็บของ เลขาฯสาวได้แต่ลอบถอนใจเซ็งๆแต่ก็ไม่ขัดเพราะคิดว่าคงถึงเวลาชำระแค้นให้วรดาแล้ว

ooooooo

ท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่องของนัทธมนอยู่ในสายตา

กฤตย์ตลอด ทันทีที่เธอพาเขาถึงห้องเก็บของก็เปิดฉากถาม

“เอาล่ะนัทธมน...ผมเข้ามาอยู่ในห้องนี้ตามที่คุณต้องการแล้วนะ”

นัทธมนผงะ ทำไขสือเหมือนไม่รู้เรื่องแต่กฤตย์ไม่เชื่อ มั่นใจว่าเธอมีบางอย่างต้องเคลียร์กับเขาในฐานะวรดา

“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้จะมาเอาโต๊ะตัวเล็กอะไรนั่นหรอก คุณแค่อยากให้ผมมาที่นี่...มาอยู่ในห้องเก็บของนี้”

“คุณกฤตย์นี่ฉลาดแล้วก็รู้ทันไปหมดเลยนะคะ”

“แต่ผมยังไม่รู้นะว่าคุณอยากให้ผมมาที่นี่ทำไม...หรือว่า...คุณรู้ตัวมาตลอดใช่ไหมว่าคุณก็คือวรดา”

“ค่ะ...เมื่อยี่สิบปีก่อนดิฉันเคยมีชีวิตเป็นวรดา”

“วรดา...คุณคือวรดาจริงๆ”

สีหน้าตื่นๆของกฤตย์ทำให้นัทธมนปวดแปลบในอก ยิ่งคิดชะตากรรมของวรดายิ่งเศร้า

“ใช่ค่ะ...และดิฉันก็ยังต้องทนทุกข์ทรมานกับฝันร้าย ทุกความรู้สึกเจ็บปวดที่วรดาถูกกระทำทั้งทางกายและใจ”

กฤตย์สะเทือนใจ พร่ำเรียกชื่อวรดาราวกับกลัวว่าเธอจะหาย นัทธมนหน้าตึงเมื่อเห็นเขาดีใจมากกว่าสำนึกผิด

“จะเรียกหาวรดาไปทำไมคะ ผู้หญิงที่อ่อนแอคนนั้นได้ตายไปนานแล้วเพราะถูกขังให้ทนทุกข์ทรมานให้ตายทั้งเป็นอย่างช้าๆ ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา เคยมี

สักครั้งไหมที่คุณจะนึกย้อนว่าผู้หญิงที่ถูกขังตายในหลุมหลบภัยเก่าๆแคบๆนั้นเขารู้สึกยังไง...คุณไม่เคยรู้สึกรู้สาในขณะที่ดิฉันต้องทนรับรู้ทุกความรู้สึกของวรดา”

ภาพหลอนตอนวรดาทุกข์ทรมานในหลุมหลบภัยเก่าๆผุดในหัว นัทธมนเจ็บแค้นแทนวรดามาก

“วรดาต้องทนอยู่ในหลุมหลบภัยเก่าที่ทั้งมืด หนาว เหม็นอับ เธอต้องใช้สองมือตะกุยดินตะกุยไม้

จนเล็บฉีก ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจนคอแห้งเป็นผง แล้วคุณเคยสงสัยบ้างไหมว่าหลายวันก่อนจะตายเธอกินอะไร”

คราบตะไคร่น้ำบนมือของวรดาติดตานัทธมนมาตลอด “คุณรู้ไหมว่าความรู้สึกหิวจวนจะอดตายจนต้องกอบเศษตะไคร่ชื้นๆมาดูดมากินนั้นมันทั้งสกปรกและน่าอเนจอนาถขนาดไหน”

สีหน้าเจ็บปวดของนัทธมนทิ่มแทงหัวใจกฤตย์มาก ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจที่เขาปกป้องวรดา...

อดีตชาติของเธอไม่ได้

“ตลอดเวลายี่สิบปีนี้มีสักวินาทีนึงไหมที่คุณจะนึกถึงเสียงร้องโหยหวนขอชีวิตเหมือนสัตว์จนตรอกที่นอนรอความตายอยู่ในหลุมโสโครกนั่น...ยี่สิบปีที่คุณได้มีชีวิตสุขสบาย มีบ้าน มีบริษัท มีหน้ามีตาในสังคม...เคยมีสักครั้งไหมที่คุณจะนึกถึงผู้หญิงที่คุณยัดเยียดให้ตายทั้งเป็นในหลุมหลบภัยเก่านั่น...คุณเคยนึกบ้างไหม!”

“ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมไม่เคยลืมวรดา ไม่มี

วันไหนที่ผมจะไม่คิดถึงเธอ”

นัทธมนไม่เชื่อ “หยุดเรียกวรดาทีเถอะ เธอตายไปแล้วเพราะหลงใหลกับความรักปลอมๆที่คุณมีให้ แต่สุดท้ายคุณมันก็แค่ผู้ชายเลวๆที่พอได้เธอแล้วก็เขี่ยทิ้งเพื่อไปมองหาผู้หญิงที่มีฐานะหน้าตาทัดเทียมคุณ”

กฤตย์ส่ายหน้าสวนทันควัน “ไม่จริง...ผมไม่เคยรักใครนอกจากวรดา หรือถ้าจะมีอีกสักคนที่ใกล้เคียงคำว่ารักก็อาจจะมีแค่อีกหนึ่งคนก็คือคุณนั่นแหละนัทธมน”

ชื่อตัวเองทำให้นัทธมนวูบไหวในอก ตื้นตันเหลือจะกล่าว แต่แวบเดียวก็ดึงความแค้นมากลบ “เสียใจด้วยนะที่ดิฉันไม่ใช่วรดา แต่นี่ดิฉัน...นัทธมน และดิฉันคนปัจจุบันนี้จะไม่มีวันใจอ่อนหลงกับคำรักคำลวงหลอกของคุณ”

กฤตย์ขยับตัวหา “นัทธมน...ฟังผมก่อน”

“อย่าเข้ามานะ ดิฉันจะถามคุณอีกคำเดียว...

หัวจิตหัวใจคุณทำด้วยอะไร ทำไมถึงต้องฆ่าวรดา!”

นัทธมนบันดาลโทสะก่อให้เกิดพลังพิเศษข้าวของลอยคว้าง กฤตย์ช็อกมาก พึมพำเสียงสั่น

“นัทธมน...นี่คุณมีพลังพิเศษจริงๆ”

ooooooo

เต้ยกับถุงแป้งมาถึงออฟฟิศกฤตย์ก็ตามหาสองเจ้านายหนุ่มกับเลขาฯสาว นัทธมนไม่ได้ยี่หระว่าใครจะขัดขวางเพราะมั่นใจจะจัดการกฤตย์ได้ในอีกไม่กี่อึดใจ

กฤตย์อึ้งกับพลังพิเศษของนัทธมน พยายามตั้งสติอ้อนวอนให้เธอฟังความจริงจากฝั่งเขา แต่เธอไม่สน

“ชาติก่อน ดิฉันอาจซื่อเกินไปไม่ทันคุณ แต่ชาตินี้ดิฉันไม่ใช่คนแบบที่คุณจะโกหกหลอกลวงกันได้ง่ายๆอีกแล้ว”

“คุณเข้าใจผมผิดแล้ว...ฟังผมก่อน”

“บอกให้หยุดอยู่ตรงนั้น! ถ้ายังก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว คุณจะต้องเสียใจ”

นัทธมนใช้พลังพิเศษทำลายข้าวของ หลายอย่างกระแทกตามลำตัวของกฤตย์แทบลุกไม่ขึ้น กระนั้นสถาปนิกหนุ่มก็ไม่ท้อ ร้องขออธิบายเรื่องทุกอย่าง นัทธมนส่ายหน้าไม่ฟังจนเขาอ่อนใจมาก

“ต่อให้ผมอธิบายยังไงก็คงเปลี่ยนใจคุณไม่ได้ใช่ไหมนัทธมน”

“คุณจะสร้างเรื่องโกหกอะไรขึ้นมาอีกล่ะ หรือว่าจู่ๆก็รักตัวกลัวตายอยากหาเรื่องเอาตัวรอดขึ้นมา”

“ผมไม่ได้โกหก...ใช่! ผมรู้สึกผิดที่ปกป้องวรดาไม่ได้ ผมรู้สึกผิดที่ดูแลวรดาได้ไม่ดีพอ แต่ผมไม่ได้ฆ่าวรดา”

“ยังมีหน้ามาโกหกอีก ในฝันดิฉันมองเห็นอย่างที่วรดามองเห็นและภาพสุดท้ายก่อนตายก็คือใบหน้าของคุณ!”

ขาดคำนัทธมนก็บันดาลให้ข้าวของหมุนวนในอากาศราวพายุหมุน กฤตย์ตะลึงมาก

“คุณทำแบบนี้ได้ยังไงนัทธมน คุณมีพลังแบบนี้ได้ยังไง”

“ก็ด้วยแรงอธิษฐานยังไงล่ะ แรงปรารถนาที่ตั้งมั่นก่อนลมหายใจสุดท้ายที่วรดาได้ขอพลังอำนาจเพื่อจะได้ตอบแทนสิ่งที่เธอถูกกระทำมา และคำอธิษฐานนั้นส่งต่อมาดังคำสาปแช่งเพื่อให้ดิฉันมาเอาคืนตามคำสาบาน!”

สิ้นเสียงของนัทธมนข้าวของบนอากาศก็หล่นทับกฤตย์จนไม่น่ามีชีวิตรอด สถาปนิกหนุ่มนอนนิ่ง นัทธมนยืนมองด้วยความสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก พึมพำเสียงเบา

“ฉันทวงหนี้ให้ตามคำอธิษฐานของเธอแล้วนะวรดา”

นัทธมนอยากรู้สึกสะใจแต่กลับเศร้ากว่าที่คิดเมื่อไม่ได้ยินสัญญาณชีวิตจากกฤตย์ “ดิฉันกับคุณไม่ได้มีความโกรธแค้นอะไรแต่เป็นกรรมคุณเองที่ต้องชดใช้ให้วรดา ต่อไปนี้ระหว่างเรา...คงหมดเวรหมดกรรมกันเสียที”

กล่าวคำอาลัยทิ้งท้ายจบก็จะผละจากห้อง พลันก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินเสียงกฤตย์เรียกชื่อเธอแผ่วเบา กฤตย์ปวดร้าวไปทั้งตัวแต่ยังมีสติจะถามถึงวีรกรรมของเธอที่ถูกปณิตากับบงกชกล่าวหาว่ามีพลังปีศาจ นัทธมนยอมรับอย่างไม่แคร์ว่าเธอเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมด รวมทั้งครั้งล่าสุดที่ทำให้ปณิตาบาดเจ็บ

“คุณคงมองดิฉันเป็นปีศาจล่ะสิ แต่จะบอกความจริงให้นะคะ...คุณปณิตานี่แหละที่จ้างคนมาดักทำร้ายดิฉันกับแม่...ดิฉันถูกฉุดเกือบเอาตัวไม่รอด ส่วนแม่ก็แขนหักเข้าโรงพยาบาล ทีนี้คุณคิดว่าใครกันล่ะที่เป็นปีศาจตัวจริง”

“แล้วบงกชล่ะ คุณทำร้ายเขาทำไม”

“ก็เพราะพี่บงกชรู้เห็นเป็นใจกับคุณปณิตาน่ะสิคะ ในเมื่อเขาสมคบคิดกันทำให้แม่ดิฉันแขนหัก ถ้าดิฉันจะหักแขนเขาคืนบ้างมันก็ยุติธรรมแล้วนี่”

“คุณ...ไปเอาพลังนี้มาจากไหน”

“จะว่าไปจุดเริ่มต้นมันก็มาจากคุณนั่นแหละ...เพราะสิ่งที่คุณทำกับวรดามันทำให้เธอตั้งจิตอธิษฐานก่อนหมดลมหายใจสุดท้าย จนกลายเป็นพลังที่ส่งมาถึงดิฉันในชาตินี้ยังไงล่ะคะ”

กฤตย์อ้าปากค้าง “คุณคือวรดาเมื่อชาติก่อนจริงๆ”

นัทธมนพยักหน้ายอมรับ “ใช่ค่ะ! ดิฉันต้องทนทุกข์ทรมานรองรับทุกความรู้สึกเจ็บปวดที่วรดาส่งผ่านมา ดิฉันเลยจำเป็นต้องจัดการคุณตามแรงอธิษฐานของวรดา”

“นี่คุณเชื่อว่าผมฆ่าวรดาจริงๆเหรอ”

“คุณยังจะมีหน้ามาแก้ตัวอีกเหรอ”

“ผมไม่ได้ฆ่า!”

“พอเถอะค่ะ นอกจากจะมีพลังพิเศษแล้ว ชาตินี้ดิฉันยังมีสมอง ไม่โง่ไม่หูเบาไม่เชื่อคำโกหกของคุณง่ายๆอีก”

“ผมไม่ได้โกหก”

“ก่อนที่วรดาจะถูกขังให้ตายทั้งเป็นในหลุมหลบภัย คุณเองไม่ใช่เหรอที่นัดให้วรดาไปยืนรอคุณอยู่ตรงนั้น”

“ใช่! ผมนัดวรดาไว้ที่นั่นแต่ผมไม่ได้ฆ่าวรดา”

“พอได้แล้ว! หยุดแก้ตัวซะที ถ้าคุณยังมีความเป็นลูกผู้ชายหลงเหลือก็ก้มหน้ายอมรับโทษทัณฑ์ซะดีกว่า”

“คุณจะทำอะไรผมนัทธมน”

“ก็ทำแบบที่คุณทำกับวรดาน่ะสิคะ ดิฉันจะขังคุณและทิ้งคุณไว้ให้ตายอย่างช้าๆในห้องนี้...ลาก่อนนะคะ”

ooooooo

กฤตย์พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายกล่อมให้นัทธมนฟังความจริง แต่นอกจากจะไม่ฟังเหมือนเดิมเธอยังใช้พลังทำให้เขาขาหักลุกไม่ขึ้นและจะขังไว้ในห้องเก็บของ เมื่อเต้ยกับถุงแป้งมาตามก็ถูกเธอขู่ไม่ให้ส่งเสียง

“ถ้าคุณส่งเสียงดังคุณคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“ผมไม่คิดจะร้องขอความช่วยเหลืออะไรทั้งนั้น ถ้านี่เป็นชะตากรรมของผมในชาตินี้ผมก็พร้อมจะรับมัน”

“งั้นก็ดี...อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้เป็นแค่คนน่าสมเพชคนนึง”

ถุงแป้งกับเต้ยตัดสินใจไปรอกฤตย์ที่ห้องทำงาน นัทธมนแสยะยิ้มก่อนหันมาทางเจ้านายหนุ่ม

“คุณกฤตย์...มีอะไรจะสั่งเสียกับดิฉันอีกไหมคะ”

“ต่อให้ผมจะอธิบายความจริงยังไงคุณก็ไม่เชื่อผมอยู่ดี งั้นก็เอาสิ...ลงมือฆ่าผมซะตอนนี้เลยก็ได้”

“ไม่ค่ะ...ดิฉันอยากให้คุณค่อยๆตายในที่แคบๆมืดๆนี้ คุณจะได้รับรู้ความทุกข์ทรมานเหมือนที่วรดาเคยได้รับ”

กฤตย์ถึงกับน้ำตาซึม ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมเดียวกับวรดา นัทธมนก็เจ็บปวดแต่ทำเหมือนไม่รู้สา

“ลาก่อนค่ะคุณกฤตย์...จบสิ้นกันทีกับฝันร้ายที่ยาวนานของดิฉันและจบเวรจบกรรมระหว่างเรา หรือถ้าคุณไม่อยากจบดิฉันก็ไม่ห้าม ถ้าคุณอยากจะอธิษฐานกลับมาแก้แค้นดิฉันในชาติหน้า ดิฉันก็จะรอให้ถึงวันนั้นอย่างเต็มใจค่ะ”

นัทธมนจะออกจากห้องเก็บของแต่กฤตย์รั้งไว้

“นึกออกแล้วเหรอคะว่าจะสั่งเสียอะไร”

“ผมไม่เคยคิดร้ายกับวรดา ตรงกันข้าม...ผมรักและนับถือหัวใจวรดาเช่นเดียวกับที่ผมรู้สึกกับคุณ...นัทธมน”

คำพูดทิ้งท้ายของกฤตย์สะเทือนถึงหัวใจของนัทธมน เลขาฯสาวน้ำตาไหลแต่ยังแข็งใจล็อกประตู ความรู้สึกบางอย่างพลุ่งพล่านในอกจนเธอต้องยกมือกุมไว้พลางอธิษฐานในใจ

“ฉันขออธิษฐานให้ชาติหน้าเราไม่ต้องมาทำร้ายกันอีก...ขอให้เราได้รักกันเหมือนกับความรู้สึกในใจที่เรามี”

กว่าจะตั้งสติกลับมาเก็บของที่ห้องทำงานได้นัทธมนก็ร้องไห้จนตาบวม ถุงแป้งเห็นหน้าเพื่อนสาวก็ถามถึงน้าชายทันที นัทธมนสะดุ้งก่อนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ท่าทางไขสือตีมึนของเธอทำให้ถุงแป้งฉุนขาด

“นัท...ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อน ช่วยบอกฉันทีได้ไหมว่าน้ากฤตย์อยู่ไหน”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้”

พูดจบก็สะพายกระเป๋าจะกลับ ถุงแป้งตามไปรั้งตัวไว้ “เดี๋ยว! นั่นเธอจะไปไหน”

“ก็กลับบ้านน่ะสิ แม่ฉันรออยู่ หลีกทางให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

“ทำไม...ถ้าฉันไม่หลีกเธอจะใช้พลังจิตของเธอมาจัดการฉันหรือไง”

“ก็ถ้าเธอยังเอาแต่ตะคอกฉันแบบนี้ก็ไม่แน่”

“เธอว่าไงนะ...ก็เอาสิ...คิดว่าฉันกลัวหรือไงมาสิ...มีพลังอะไรก็จัดมาเลย!”

นัทธมนทั้งร้อนตัวและหงุดหงิดตั้งท่าจะใช้พลังจริงๆ เต้ยเห็นท่าไม่ดีถลาไปขวาง หลีกทางให้นัทธมนแต่ไม่วายเตือนสติทิ้งท้าย “นัท...เลิกคิดเรื่องแก้แค้นซะ มันไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการให้อภัย การแก้แค้นมันอาจจะหอมหวาน สะใจ ช่วยบรรเทาฝันร้ายของเธอ แต่มันก็มาพร้อมบาปกรรมครั้งใหม่ที่จะฝังติดอยู่ในใจเธอ...ตลอดไป”

ooooooo

อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 10

ละครเรื่อง บทประพันธ์โดย: กิ่งฉัตร
ละครเรื่อง บทโทรทัศน์โดย ทองเอก-ญาลิล-ณกดแก้ว
ละครเรื่อง กำกับการแสดงโดย ผิน เกรียงไกรสกุล
ละครเรื่อง ผลิตโดย บริษัท กัทส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง นักแสดงนำ เจษฎาภรณ์ ผลดี,นิษฐา จิรยั่งยืน
ที่มา ไทยรัฐ