อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 6 วันที่ 8 ต.ค.61
ทศนาถแผลงฤทธิ์เต็มที่ ประกาศศักดาให้รู้ทั่วโรงงานในฐานะทายาทคนต่อไปของเหมทองกรุ๊ปแต่กลับไม่ยอมทำงานตามหน้าที่หรือที่เหมทองกับผาณิตามอบหมาย โยนให้อุดมหรือคนงานอื่นๆทำแทนผาณิตาบ้างานเหมือนเคยแต่ไม่ได้ละเลยนัดลองชุด เธอโทร.ตามทศนาถแต่อีกฝ่ายตัดสายเพราะมัวเมา
กับรสสวาทของซินดี้ที่ตามมายั่วถึงโรงงาน เหมันต์
ผ่านมาเห็นสองหนุ่มสาวนัวเนียก็พยายามช่วยกันผาณิตา ไม่ให้เห็นด้วยการอ้างส่งๆให้เธอช่วยพาไปเลือกหนังที่โรงงานผลิต
เหตุผลเรื่องงานทำให้ผาณิตาปฏิเสธเหมันต์ไม่ได้จำต้องหอบหิ้วเขาไปลองชุดแต่งงานด้วยกัน หญิงสาวพอใจทุกอย่างยกเว้นรองเท้า เหมันต์เลยตัดสินใจซ่อมให้โดยไม่บอกให้เธอรู้
กว่าธุระลองชุดแต่งงานจะเสร็จก็กินเวลาหลายชั่วโมง ผาณิตาไม่รีรอพาเหมันต์ไปโรงงานผลิตหนัง
แต่สภาพการจราจรติดขัดก็ทำให้เธอเหนื่อย เหมันต์เป็นห่วงยื่นแซนด์วิชที่พกมาให้
“ผมซื้อไว้เมื่อเช้า กินรองท้องไปก่อนนะครับ”
“นายกำลังจะด่าฉันทางอ้อมว่าพักเที่ยงแล้วยังโทร.ไปวีนลูกน้องไม่ปล่อยให้เขากินข้าวอย่างสบายใจใช่ไหม”
“ผมว่าคุณน่าจะไปเขียนนิยายมากกว่าเป็น
นักธุรกิจนะครับ ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลย คุณก็มโนไปซะ ผมแค่เห็นคุณทำงานตลอดเวลาก็เลยเป็นห่วงว่าจะหิว”
ผาณิตารับมากินอย่างหิวโหยก่อนหันไปถามเขาบ้าง “แล้วของนายล่ะ”
“มันมีแค่อันเดียวครับ ไม่เป็นไรหรอก...ผมอิ่มทิพย์”
“ในลิ้นชักด้านหน้ามีอัลมอนด์กระป๋องอยู่ เคี้ยวเล่นไปก่อนแล้วกัน รถคงจะติดนาน”
เหมันต์หยิบกระป๋องอัลมอนด์มากินอย่างว่าง่ายพลางชำเลืองมองเธอ...ที่จริงผาณิตาก็มีน้ำใจดีเหมือนกัน
ooooooo
หริทธ์มาทำงานที่บ่อนของมิตรได้ระยะหนึ่งแล้วแต่ไม่ยอมบอกพ่อกับพี่ชาย ปุ๊รับหน้าที่พี่เลี้ยงคอยดูแลตามคำสั่งทำให้หริทธ์ได้รู้ว่ามิตรมีนัดคุยธุรกิจกับทัศนัยหรือเสี่ยสามแห่งเหมทองกรุ๊ป
ชื่อเหมทองกรุ๊ปทำให้หริทธ์คิดถึงลาวัลย์จนต้องไปแอบดักรอที่หน้าวิทยาลัย เขาขอให้เพื่อนในแก๊งอาชีวะช่วยล่อพรคนขับรถของลาวัลย์ไปอีกทางเพื่อที่เขาจะได้พาเธอหนี
ลาวัลย์ตกใจเมื่อเห็นหริทธ์ ขืนตัวไว้ไม่ยอมไปด้วยเหมือนเคย
“ฉันหางานได้แล้วเจ้านายก็ใจดี ฉันจะช่วยหาที่อยู่ให้เธอเอง”
“ฉันเคยบอกแล้วไงว่าฉันไม่คิดจะคบเธอเป็นเพื่อนจริงหรอก”
“ฉันรู้ว่าเธอไล่ฉันเพราะกลัวพ่อ ฉันจะเป็นคนช่วยเธอเอง”
หริทธ์ออกแรงฉุดให้เดินแต่ลาวัลย์กระชากออก โกหกหน้าตายอีกครั้ง “ฉันจะทิ้งพ่อไปได้ยังไง พ่อสั่งให้ฉันไปทำงานที่บริษัทเพื่อเอาใจคุณปู่ ถ้าฉันไม่ทำ พ่อฉันก็ต้องเดือดร้อน เธอไปซะอย่ามายุ่งกับฉันอีก!”
แหวจบก็ผละไปขึ้นรถรอพรกลับมาพาไปบริษัท หัวใจพองฟูเต็มที่เมื่อคิดว่าจะได้เจอเหมันต์ แต่พลันก็ต้องหน้าเสียเมื่อปราการมาดักรอที่โรงงานและยึดรองเท้าฟองน้ำประดับดอกไม้ของเธอไปโยนทิ้ง
“พ่อให้ลูกไปเย็บรองเท้าหนังผู้ชายไม่ใช่
ไอ้รองเท้าแบกะดินนี่ ปู่กำลังจะเข็นแผนกนี้ให้มันเติบโตขึ้นมาถึงได้ให้ทศนาถไปคุมแล้วให้น้ำตาลเป็นที่ปรึกษา พ่อถึงส่งลูกมาทำ”
“แต่นี่มันก็รองเท้าเหมือนกันนี่คะ คุณปู่อาจจะชอบก็ได้”
ลาวัลย์แถเพราะอยากได้รองเท้าคืนแต่ปราการไม่คืนแถมยกมือจับศีรษะของเธอเหมือนขู่ให้คิดถึงตอนกล้อนผม
“พ่อบอกว่าไม่ก็คือไม่ สิ่งที่พ่อทำทุกวันนี้ก็เพื่อลูก เพราะฉะนั้นลูกต้องทำให้คุณปู่มองเห็นความสามารถของลูกให้ได้ ไม่อย่างนั้นลูกกับพ่อก็จะกลายเป็นแค่เศษหนังเก่าๆในเหมทองที่ไม่มีค่าอะไรในสายตาคุณปู่เลย...เข้าใจไหมลูก”
พูดพลางลูบวิกผมของลูกสาวเบาๆ ลาวัลย์ขนลุกเกรียว ละล่ำละลักรับปาก
“วัลย์...วัลย์จะทำให้ได้ค่ะ”
“ฝึกเย็บเสร็จแล้วก็ไปหาพ่อที่ห้องจะได้กลับบ้านพร้อมกัน”
ปราการผละไปทำงานต่อ ทิ้งลาวัลย์ให้มองซากรองเท้าฟองน้ำประดับดอกไม้หน้าเศร้า เหมันต์ที่บังเอิญผ่านมาเห็นและได้ยินทุกอย่างสงสารจึงอาสาซ่อมรองเท้าให้
“อย่าเลยค่ะ...พ่อบอกว่าไม่สวย คุณปู่ไม่ชอบหรอก”
เหมันต์ส่ายหน้าก่อนเสนอไอเดีย “รองเท้าหนังมีตั้งหลายแบบนะ รองเท้าหนังสำหรับผู้หญิงก็มี สนใจจะเย็บไหมล่ะ ถ้าคุณวัลย์ทำได้ดี เราช่วยกันผลักดันให้มีการผลิตขายก็น่าสนใจดี”
“วัลย์ไม่อยากทำแล้ว ทำไมวัลย์ต้องมานั่งเอาใจคุณปู่ด้วย ไม่เห็นอยากจะได้ไอ้บริษัทบ้าๆนี่เลยสักนิด”
“คุณวัลย์ก็คิดว่าทำเพื่อตัวเองสิครับ เราจะเข้มแข็งยืนหยัดในความฝันตัวเองได้ยังไงถ้าเราทำอะไรไม่เป็นเลย”
“ความฝัน...วัลย์ไม่เคยมีความฝัน”
“งั้นก็เริ่มคิดได้แล้ว เรามาลองเย็บกันดูนะเผื่อคุณวัลย์จะชอบ”
ooooooo
ในที่สุดงานหมั้นระหว่างทศนาถกับผาณิตาก็มาถึง เหมันต์ตัดสินใจไม่ไปร่วมงานแต่ก็ต้องโผล่ไปจนได้เมื่อทิมใช้ให้เขาเอาเครื่องประดับของผาณิตาไปให้ที่งานเพราะตัวเองไม่อยากไป
ลาวัลย์เห็นเหมันต์ก็มารับหน้าและอาสา
เอากล่องเครื่องประดับที่ผาณิตาดันลืมไว้ที่บริษัท
ไปให้แทน ทิ้งเหมันต์ในชุดทำงานเรียบๆให้กลายเป็นจุดสนใจของแขกในงานที่ต่างก็มีหน้ามีตาในสังคม
เหมันต์ไม่อยากอยู่เฉยๆอาสาช่วยงานแต่ก็เป็นเรื่องจนได้เมื่อจู่ๆมนตราก็โผล่มาเห็นเขาและเข้ามาทักเพราะคิดว่าเขาคือเหมวัตลูกชายที่ออกจากบ้านเมื่อหลายปีก่อน
มนตราดื้อดึงไม่ยอมปล่อยมือ เหมันต์เลยต้องพาไปส่งหน้างานเพราะใกล้พิธีแล้ว
“คุณป้าครับ...ผมมาส่งคุณป้าแค่นี้นะครับผมต้องรีบกลับแล้ว”
“ไม่ได้นะ...ไม่ได้ อย่าทิ้งแม่ไปอีกนะลูก ไม่เอา...แม่ไม่ยอม!”
เสียงเอะอะของมนตราเรียกความสนใจของคนทั้งงาน เหมทองตกใจที่เห็นสภาพมนตราพยายามดึงตัวออกแต่เธอก็ยื้อสุดกำลังจะอยู่กับเหมันต์เพราะคิดว่าเป็นลูกชาย ประกิต ปราการและทัศนัยช่วยกันจับตัวเหมันต์ไว้และจะพาออกจากงานแต่ก็ต้องชะงักเมื่อจู่ๆความทรงจำของมนตราก็กลับคืนมา...
“ลูกเป็นพี่น้องกันทำไมถึงไม่รักกัน เหมวัตเป็นน้องของลูกนะ แม่เลี้ยงพวกเธอมา แม่รักเหมือนลูกในไส้ แม่ไม่เคยลำเอียง รักพวกเธอเท่าๆกัน เหมวัต ลูกของแม่ได้กินอะไร พวกลูกๆก็ได้กินเหมือนกันทุกอย่าง”
มนตรายังไม่รู้ตัวว่าหลุดความในใจเก่าๆ ถลาไปดึงตัวเหมันต์มายืนข้างหลัง บรรดาแขกเหรื่อพากันหน้าเสีย ทัศนัยหรือเสี่ยสามจะเข้าไปดึงตัวเหมันต์แต่ถูกมนตราจับมือไว้
“ลูกสาม...แม่จำได้ ตอนลูกเล็กๆ ลูกจะนอนไม่หลับเลยถ้าแม่ไม่คอยกุมมือน้อยๆของลูกไว้แล้ว อ้อนให้แม่เล่านิทานเรื่องหนูกับราชสีห์ ลูกฟังแล้วฟังอีกไม่รู้กี่ร้อยรอบก็ไม่เคยเบื่อ”
ทัศนัยอายมากเมื่อคิดถึงตอนเด็กๆ แต่มนตราไม่ได้มองหันไปหาประกิตหรือเสี่ยหนึ่ง
“ลูกหนึ่ง...ตอนลูกเข้าเรียนวันแรกลูกงอแงมากแม่ต้องไปยืนเฝ้ามองอยู่ที่รั้วโรงเรียนตั้งแต่เช้าถึงเย็นกลัวลูกจะไม่ยอมกินข้าว กลัวจะถูกเพื่อนรังแกลูกเป็นลูกที่แม่เป็นห่วงที่สุด”
ประกิตหน้าแหย เช่นเดียวกับผกาที่ยกมือปิดหน้าด้วยความอับอาย มนตราไม่สนใจหันหาปราการหรือเสี่ยสอง
“ลูกสอง...ลูกว่าง่ายไม่ดื้อไม่ซน ชอบเสียสละให้พี่น้อง ลูกเป็นภูมิแพ้ไม่สบายบ่อยๆ แม่เลยถักผ้าพันคอให้ลูก ลูกพันไว้ตลอด ร้อนก็ไม่ยอมถอดเพราะกลัวแม่เสียใจ แม่ดีใจมาก...จำได้ไหม”
อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 6 วันที่ 8 ต.ค.61
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทประพันธ์โดย รจเรขละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทโทรทัศน์โดย กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ กำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ผลิตโดย บริษัท ดีวัน ทีวี จำกัด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ