อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 12 วันที่ 11 ต.ค.61

อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 12 วันที่ 11 ต.ค.61

วันนี้พฤกษ์ไปโรงพยาบาลเจอโตมรไปหาหมอเช่นกัน แต่ทั้งสองต่างปดว่ามาเยี่ยมญาติ มาเยี่ยมเพื่อน แล้วรีบแยกกันไป

ไอลดาถามพฤกษ์ว่าไปโรงพยาบาลทำไม พฤกษ์ปดว่าไปเยี่ยมลูกศิษย์ ไอลดาบอกว่าถ้าเขาสงสัยว่าคุณตาไม่สบายต้องรีบบอกวีนัส พฤกษ์ให้เธอไปบอกแทนตนไม่อยากเจอวีนัสอีกแล้ว

“อย่าบอกนะว่าแกไม่ได้รักวีนัสแล้ว”



“รักหรือไม่รักมันไม่สำคัญ ตอนนี้วีนัสมีเอิร์ธคอยดูแลอยู่แล้ว” ไอลดาบอกว่าวีนัสดีกับเขาทุกอย่าง เขาเป็นคนหาเรื่องเอง ตนด่าว่าโง่ยังน้อยไป “เออ...ฉันยอมโง่ อนาคตของวีนัสไม่ควรอยู่ที่ฉัน”

ไอลดาเตือนว่าคิดให้ดี ถ้าเขาไม่บอกวีนัสแล้วคุณตาโตมรป่วยหนักเป็นอะไรขึ้นมาเขาไม่ได้เสียใจคนเดียว แต่เขาก็รู้ว่าวีนัสผูกพันกับคุณตาคุณยายที่บ้านร่มไม้ฯแค่ไหน

ได้ผล...กลางวันวันนี้พฤกษ์ไปที่บ้านวีนัสถูกคณิตา ตอกหน้าว่า “ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ”

“ผมมีเรื่องสำคัญต้องบอกวีนัส” ถูกคณิตาไล่ ก็พอดียายพิกุลออกมา พฤกษ์ยกมือไหว้ “ผมกราบขอโทษที่ทำให้คุณยายเสียใจ แต่ผมทำลงไปเพราะเหตุผลเดียว ผมไม่อยากให้วีนัสลำบากไปกับผม”

ยายบอกว่าไม่เคยสอนให้วีนัสกลัวความลำบาก แต่ถ้าเขาตัดสินใจด้วยสติ ไตร่ตรองดีแล้ว ตนก็รับฟัง คณิตาสนับสนุนว่าดีแล้ว ให้วีนัสเสียใจตอนนี้ดีกว่าต้องแต่งงานกับผู้ชายกลับไปกลับมา

พฤกษ์เห็นว่าทุกคนปฏิเสธตน จึงไหว้ยายพิกุลถอยไป

เป็นเวลาที่ชาญชัยให้อานัสไปรับวีนัสมาที่บ้าน เพื่อจะให้กำลังใจเธอให้มองไปข้างหน้าเพราะอดีตเราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ถามว่าเอิร์ธคุยหรือยังว่าถ้าเปิดคราวหน้าตนจะขอเป็นหุ้นด้วย แต่คำตอบของวีนัสที่ว่าตนตั้งใจจะไม่ทำบ้านร่มไม้ฯอีก ตนตั้งใจจะไม่เสี่ยงกับชีวิตใครอีก ทั้งชาญชัยและอานัสอึ้งไปอย่างคิดไม่ถึง

เมื่อนิ่มนวลรู้ก็บ่นกับชาญชัยว่าตนอยากเจอ

อยากคุยกับทุกคนที่บ้านร่มไม้ฯจะแย่อยู่แล้ว ชาญชัยบอกว่าตนก็ไม่รู้จะเปลี่ยนใจหนูวีนัสได้ยังไง

“หรือว่าหนูวีนัสจะเสียใจเรื่องอาจารย์พฤกษ์

จนหมดอาลัยตายอยาก แหม ก็คนรักกันออกขนาดนั้น เออ...แล้วทำไมเขาเลิกกัน คุณรู้ไหม รู้ก็เล่ามานะ

อย่าเก็บไว้คนเดียว” ชาญชัยไม่ตอบแต่คิด ไม่สบายใจที่วีนัสกับพฤกษ์ยังตัดกันไม่ขาด

เชาว์บอกโตมรว่าชาญชัยไลน์มาบอกว่าหนูวีนัสไม่เปิดบ้านร่มไม้ฯแล้ว โตมรคาดว่าคงเพราะขาดทุนแต่เชาว์ว่าคงเป็นเพราะหนูวีนัสโดนวิกฤติกระหน่ำ

รับไม่ไหวมากกว่า แล้วยิ่งเจอพฤกษ์ล่มงานหมั้น ถึงจะ

สตรองแค่ไหนก็ต้องเสียศูนย์

ooooooo

แต่วันนี้ขณะวีนัสกำลังเดินดูบริเวณบ้านร่มไม้ฯ คิดถึงเสียงหัวเราะหยอกล้อกันของคุณตาคุณยายนั้น เห็นพฤกษ์ยืนมองอยู่ก็บอกทันทีว่าที่นี่ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา

พฤกษ์ขอร้องอย่าเพิ่งไล่ ตนแค่จะมาบอกเรื่องคุณตาโตมร แต่พอวีนัสถามว่าคุณตาเป็นอะไร พฤกษ์บอกว่าไม่รู้ เธอก็ฉุนชี้ประตูบอกว่าถ้ามาหาเรื่องกวนโมโห นั่น...ประตู! พฤกษ์บอกว่าตนไม่ได้อยากมาชวนทะเลาะ ที่มาเพราะเป็นห่วง พอเห็นวีนัสทำเชิดก็บอกว่า

“ไม่ได้ห่วงคุณ...แต่ผมห่วงคุณตาคุณยายที่นี่ คนที่ผมถือว่าเป็นเพื่อนๆของแม่ผม ถ้าทำอะไรเพื่อท่านได้บ้างผมก็อยากรีบทำ”

พฤกษ์มองวีนัสอย่างเย็นชา พอเธอเมินไปอย่างไม่อยากสบตาด้วยพฤกษ์ก็แววตาอ่อนลง แต่พอวีนัสหันมา เขาก็ทำคอแข็งเหมือนเดิม

ไตรทศมาหาพฤกษ์ที่สวนกล้วยไม้ ดักคอเพื่อนว่าอ้างเรื่องคุณตาโตมรเพราะยังรักวีนัสอยู่ พฤกษ์บอกว่าตนแค่เป็นห่วงคุณตาโตมร ลำพังวีนัสไม่อาจทำให้คุณตาโตมรยอมรับได้หรอก อะไรที่ทำได้ตนจะรีบทำ ไตรทศหัวเราะหยอกว่าพูดอย่างกับคนใกล้ตาย

“มีอีกเรื่องที่ฉันต้องรู้ ใครทำให้พ่อฉันตาย”

“ฉันกำลังตามผู้หญิงคนนึง เราอาจจะได้คลิปที่เห็นหน้าคนขับรถอีกคันจากผู้หญิงคนนี้”

พฤกษ์มองหน้าเพื่อนอย่างสนใจ ไตรทศคิดถึงงานที่ตนทำก่อนหน้านี้...ที่เข้าไปรู้จัก ตีสนิท จนแลกไลน์กันกับอุ้ม บอกพฤกษ์ว่ารออีกนิด ให้ตนได้หลักฐานครบทุกอย่างก่อน พฤกษ์เร่งว่าเร็วหน่อยตนอาจจะมีเวลาไม่มาก ไตรทศทำเสียงล้อว่าพูดเหมือนจะรีบตาย เห็นพฤกษ์นิ่งไปก็เอะใจ

“ไอ้พฤกษ์ แกอย่าบอกนะ แกเป็นไรป่าวเนี่ย?”

“เปล่า...ฉันแค่ใม่อยากรอนานกว่านี้ ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนไง” พฤกษ์ยิ้มปิดบังอาการป่วยของตน

ooooooo

อานัสร้อนใจรบเร้าชาญชัยว่าเราต้องทำให้วีนัสเปลี่ยนใจยอมเปิดบ้านร่มไม้ชายคาอีก ตนรักวีนัส วีนัสรักบ้านร่มไม้ฯแต่พฤกษ์ทำให้วีนัสคิดมากและเสียความมั่นใจ และวีนัสไม่ได้รักพฤกษ์แล้ว ตนมั่นใจว่าเข้าไปนั่งอยู่ในใจวีนัสได้แน่

“ผู้หญิงอย่างหนูวีนัสไม่ตาโตกับเงินของแกหรอกนะ ความจริงใจ ความดีเท่านั้นที่แกต้องมี แกถึงจะได้ความรักจากหนูวีนัส” ชาญชัยเตือนแล้วเดินไป อานัสแววตากล้าอย่างเอาจริง

เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปหาวีนัสที่บ้าน คณิตาบอกว่าไม่อยู่ ไม่ได้บอกว่าไปไหนกับใคร อยากรู้ก็โทร.ไป อานัสโทร.ไปทันที วีนัสบอกว่าตนมีธุระ พลันก็ต้องเบรกกะทันหันจนหัวโขกกระจก ตัดสายกับอานัสแล้วถามคนขับคู่กรณีว่าขับรถแบบนี้ซื้อใบขับขี่มาหรือไง

ปรากฏว่าคู่กรณีคือพฤกษ์ เขานั่งหน้านิ่งเหมือนไม่รู้ไม่ชี้

วีนัสนั่งรถพฤกษ์เพื่อไปหาโตมร แต่หลงทาง พฤกษ์ลงไปถามร้านแถวนั้น แต่เกิดปวดหัวรุนแรงจนต้องหยุดเดิน วีนัสรีบจับไว้ แต่ต่างก็ไว้เชิง พอรู้ตัวก็รีบปล่อย ส่วนพฤกษ์ก็ปกปิดอาการของตัวเองทำเป็นแข็งแรง

ในที่สุดก็หาบ้านที่เชาว์เช่าอยู่กับโตมรเจอ พูดคุยหยอกเย้ากันแล้วโตมรถามเรื่องหมั้นของทั้งสองว่าแพ็กคู่มาด้วยกัน เรื่องหมั้นช่างมันงั้นหรือ เชาว์รีบเบรกชวนโตมรกินส้มแต่ทำท่าจะเอาทั้งลูกยัดปาก

โตมรขอบใจทั้งสองที่อุตส่าห์มาหา ถามถึงพอเพียง ว่ามีใครเล่นด้วยหรือเปล่า วีนัสบอกว่าคิดถึงก็ไปหา ตนมารับไปก็ได้ โตมรบอกว่าไม่ถึงกับต้องให้คนอื่นลำบากหรอก วีนัสจึงขอมาหาอีก โตมรบอกว่าอยากมาก็มาให้เอาพอเพียงใส่รถมาด้วยก็แล้วกัน

พฤกษ์ลอบมองวีนัสที่คุยกับโตมรด้วยสายตาอ่อนโยน

ชาญชัยกับนิ่มนวลไปที่บ้านวีนัส บอกยายพิกุลว่าร้อนใจจะถามเรื่องเปิดบ้านร่มไม้ชายคา ยายพิกุลบอกว่าตนก็ไม่รู้ว่าจะบังคับหลานยังไง นิ่มนวลเสนอให้พฤกษ์ช่วยพูด ชาญชัยบอกว่าเขาเลิกกันแล้ว นิ่มนวลถามว่าเลิกทำไม สองคนรักกันจะตาย เลิกไม่ได้ บอกว่าเราต้องช่วยให้คนรักกันสมหวัง เขาจะได้เปิดบ้านร่มไม้ฯอีก

“ที่จริงหลานผมเขาก็สนิทสนมกับหนูวีนัส คงคุยกันได้” ชาญชัยเสียบหลานตนเองเนียนๆ

“หลานชายคุณน่ะเหรอ ไม่เอาหรอก ไม่เหมาะกับหนูวีนัสสักนิด ดีแต่หล่อ ที่เหลือไม่ได้เรื่อง”

นิ่มนวลพูดตรงจนชาญชัยหน้าเจื่อน

ฝ่ายวีนัสกับพฤกษ์เมื่อออกมาแล้ว วีนัสบอกว่าท่าทางคุณตาโตมรก็สบายดี พฤกษ์บอกว่าไม่มีใครยอมรับ หรอกว่าตนเองป่วย

“อาจารย์ก็เหมือนคุณตาโตมรใช่ไหม...ถ้าอาจารย์ป่วย อาจารย์ก็จะไม่บอกใคร?”

วีนัสมองหน้าพูดดักคอ พฤกษ์หลบตากลัววีนัสจะสงสัยอาการป่วยของตน

ooooooo

พฤกษ์ปฏิเสธเสียงแข็งว่าตนไม่ป่วยและไม่ใช่คุณตาโตมรด้วย เกทับว่าดูเธอจะสนเรื่องตนเป็นพิเศษ

ได้ผล...วีนัสบอกว่าเปล่าเลย ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย หลงตัวเองตลอด แล้วทำเป็นไม่สนใจเขาอีกเลย

เมื่อมาถึงบ้านร่มไม้ชายคา วีนัสถามว่าถ้าเราตามไปที่โรงพยาบาลจะเจอคุณตาโตมรไหม พฤกษ์รีบบอกว่าไปที่บ้านดีแล้ว อย่าเพิ่งทำให้คุณตารู้ตัวว่าเราสงสัย แล้วตัดบทชวนกลับบ้านเลยอ้างว่าคุณยายคงรอแล้ว

ไม่ทันที่ทั้งสองจะทำอะไร อานัสก็เดินรี่เข้ามาถามว่า

“แกพาวีนัสของฉันไปไหนมา” แล้วก้าวไปยืนข้างวีนัสทันที ด่าพฤกษ์ว่า “เพิ่งรู้ว่าชอบลักกินขโมยกิน แกจะหลอกอะไรวีนัสอีก”

“ฉันไม่ได้หลอกแล้วก็ไม่ได้ทำเลวๆอย่างที่แกพ่นออกมาตามนิสัยของแกด้วย ฉันไปทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ต้องระแวงหรอกเอิร์ธ วีนัสเขาฉลาดพอที่จะเจ็บแล้วจำ”

พูดจบพฤกษ์หันหลังพยายามเดินตัวตรงออกไป วีนัสบอกอานัสว่าตนมีชีวิตของตน  อย่าหวังดีเกินหน้าที่เพื่อน อานัสรีบขอโทษ บอกว่าตนทนไม่ได้ถ้าต้องเห็นเธอร้องไห้เพราะพฤกษ์อีก

“ขอบคุณค่ะ” วีนัสเอ่ยเรียบๆ

พฤกษ์หลบอยู่มุมหนึ่งเห็นอานัสกุมมือวีนัสก็

ยิ่งเศร้าเมื่อนึกถึงตัวเองว่านับวันยิ่งอายุสั้นลง...

คืนนี้...พฤกษ์อาเจียนจนทำแก้วน้ำตกแตก เขายืนโงนเงน บ้านหมุนหายใจหอบแรง เขามองรูปครอบครัว บอกพ่อกับแม่ว่า...

“ผมคิดถึงพ่อกับแม่มากนะครับ อีกไม่นานเราจะได้เจอกันแล้ว...”

ooooooo

เช้านี้โตมรไปที่บ้านร่มไม้ชายคา เจอพอเพียงต่างดีใจมากที่ได้เจอกัน ครู่เดียววีนัสมาเจอเห็นพอเพียง นอนอยู่บนตักโตมร วีนัสถามพอเพียงว่าดีใจไหมคุณตามาเยี่ยม พอเพียงไถหัวกับตักโตมรไปมา

“หนูวีนัส...ถ้าฉันจะขอกลับมาอยู่ที่นี่”

“คุณตาขา...หนูไม่อยากเปิดบ้านร่มไม้ฯอีกแล้วค่ะ” วีนัสหน้าสลดลงเมื่อนึกถึงการตายของพ่อแม่และบุษกร โตมรดูออก ถามพอเพียงว่า

“นายแกเป็นคนขี้แพ้ตั้งแต่เมื่อไหร่...รู้ไหม คนที่ล้มแล้วล้มเลย ไม่ยอมลุก คือคนที่จะไม่เจอความสำเร็จ”

วีนัสนึกถึงคำพูดของพฤกษ์ที่ว่าคุณโตมรกำลังไม่สบาย แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร บอกโตมรว่าถ้าคุณตาอยากอยู่ที่นี่คุณตาก็ไม่ต้องกลับไปหรอก...คุณตาจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนก็ได้ตนไม่คิดสตางค์ โตมรบอกว่าตนมีจ่าย วีนัสเลยเกทับว่า

“ถ้าอย่างนั้นคุณตาต้องจ่ายแพงกว่าเดิมนะคะ เพราะคุณตาต้องจ่ายค่าดูแลบ้านร่มไม้ฯเป็นรอยยิ้ม เป็นเสียงหัวเราะของคุณตาค่ะ ไม่ต้องให้หนูก็ได้ แต่คุณตา ต้องให้พอเพียงค่ะ”

เช้าวันเดียวกันอานัสก็อ้อนปู่ชาญชัยว่า มีแต่ปู่คนเดียวที่จะช่วยตนได้ ตนอยากขอร้องให้ปู่เปิดบ้านร่มไม้ฯให้ตนบริหาร สัญญาว่าตนจะทำให้ดีที่สุด สารภาพว่า

“คือ...ผมอยากแต่งงานกับวีนัส”

เช้าเดียวกันนี้พฤกษ์ไปมหาวิทยาลัย ขณะกำลังจะขึ้นบันไดเลื่อนเกิดมึนหัว ตาพร่ากะระยะผิด

เนมดีใจที่เห็นพฤกษ์กำลังลิ่วมาหาเห็นเขาหงายหลังตึงก็รีบเข้าประคอง พฤกษ์พยายามลุกขึ้น

บอกว่าตนไม่เป็นอะไรแล้ว ประคองตัวเองไปจนเห็นไม่มีใครก็เกาะเสา พิงเสาอย่างอ่อนเพลีย เนมยังตามไป พฤกษ์ขอร้องว่าอย่าพูดเรื่องนี้กับใคร

“ค่ะ เนมจะไม่บอกใคร อาจารย์ไปโรงพยาบาลไหมคะ เนมไปเป็นเพื่อน” พฤกษ์ส่ายหน้า เนมเดินเข้าใกล้อย่างเป็นห่วง เอ่ยอย่างซึ้งใจ “อาจารย์เป็นคนทำให้เนมรู้ว่า การมีใครสักคนที่ไม่ใช่พ่อแม่ กล้าเตือนเราด้วยคำพูดตรงๆกระแทกหน้าเรา มันคือความหวังดีที่หายากจริงๆ...อาจารย์ทำงานหนัก ทั้งสอน ทั้งทำสวนกล้วยไม้ พักผ่อนบ้างนะคะ”

เนมยิ้มให้แล้วเดินจากไปไม่เซ้าซี้วอแวเหมือนทุกครั้ง พฤกษ์มองตามอย่างชื่นชมเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงของเนม

ooooooo

จู่ๆชาญชัยก็มาที่บ้านร่มไม้ชายคากับอานัส ถามว่าหนูวีนัสจะเปิดบ้านร่มไม้ฯหรือยัง โตมรถามแทรกว่าทำไม หรือว่าเหงา ชาญชัยทักว่าแอบมาหาหนูวีนัสก่อนตนได้ไง โตมรบอกว่าไม่ได้แอบและจะไม่กลับง่ายๆด้วย

วีนัสบอกว่าคุณตาโตมรจะมาอยู่ที่นี่เป็นแขกพิเศษของตน ชาญชัยไม่ยอมบอกว่าตนก็จะมาอยู่เหมือนกัน อานัสได้ทีเสนอวีนัสให้เปิดบ้านร่มไม้ฯ ชาญชัยจึงขอเป็นหุ้นส่วนด้วย บอกว่าตนจะไม่ยุ่งวุ่นวายแต่จะฝากคนงานใหม่ให้ช่วยหัดงานคนนึง วีนัสทำหน้างง อานัสรีบบอกว่าตนเอง ตนขอฝึกงานกับเธอ โตมรถามว่าตนหูฝาดไปหรือเปล่า

อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 12 วันที่ 11 ต.ค.61

ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทประพันธ์โดย ธุวดารา
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทโทรทัศน์โดย เป่ากุ้ย
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ กำกับการแสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ฝึกสอนการแสดงโดย อริศรา วงศ์ชาลี
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ผลิตโดย บริษัท เป่าจินจง จำกัด
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ควบคุมการผลิตโดย นพพล โกมารชุน
ที่มา ไทยรัฐ