อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 11 วันที่ 26 ต.ค.61
ผาณิตาขอร้องเหมันต์ไม่สำเร็จ เขายังโกรธที่ถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือของเหมทอง ปราการฉวยจังหวะนี้ปลอมแปลงเอกสารมอบอำนาจประกาศต่อหน้าบอร์ดบริหารว่าตัวเองจะขึ้นรักษาการแทนพ่อบุญธรรมเหล่าคณะกรรมการในบอร์ดบริหารลังเลเพราะคำแถลงล่าสุดของเหมทองคือมอบหมายให้เหมันต์เป็นทายาทคนต่อไป ผการ้อนใจเมื่อได้ยินว่าปราการจะยึดอำนาจคะยั้นคะยอให้สามีไปทวงสิทธิ์ ประกิตเมาและกลัวจะสู้กับใครบ่ายเบี่ยงแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อภรรยาบอกว่าปราการแอบเรียกประชุมบอร์ดโดยพลการ
ปราการเกลี้ยกล่อมบอร์ดบริหารเกือบสำเร็จ ประกิตเข้ามาขวางพร้อมผกา ยืนกรานไม่เห็นด้วยจะให้น้องชายบุญธรรมรักษาการตำแหน่งประธานแทนเหมทอง
“น้องวัตส่งลูกชายเขามาทวงคืนแล้ว เมื่อคืนน้องวัตมาเข้าฝันพี่ เขาจะฆ่าพี่ เขาจะแก้แค้นพวกเรา”
“พี่เมาแล้ว ผมว่าพี่ผกาพาพี่หนึ่งกลับบ้านไปก่อนดีกว่า สร่างเมาแล้วค่อยมาคุยกัน”
“ไม่...พี่ไม่ได้เมา! พี่จำได้ทุกอย่างว่าพวกเราทำอะไรไว้กับเหมวัตบ้าง ถึงเวลาที่ต้องชดใช้ให้เขาแล้ว”
ผกาหน้าเจื่อนเมื่อเห็นสภาพสามี พยายามยื้อยุดและทวงอำนาจให้ผาณิตาลูกสาวคนเดียว แต่ไม่มีใครสนใจฟังแถมถูกกมลผู้ช่วยคนใหม่ของปราการจับออกมาสงบสติอารมณ์หน้าห้องประชุม
“ผมว่าคุณงัดข้อกับเสี่ยสองมีแต่เสียนะครับ อยู่นิ่งๆรอรับเงินปันผลสบายๆน่าจะดีกว่า”
“อ๋อ...ต้องเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสี เป็นหมาเปลี่ยนปลอกคอเหมือนแกสินะ...เขาจ่ายให้เท่าไหร่ล่ะ”
กมลไม่ตอบ ผกาจะเอาเรื่องแต่เหมันต์ก็โผล่มาเสียก่อนเพื่อซักไซ้กมลเรื่องชาญ ประกิตที่ยังเมาแอ๋สร่างทันทีเมื่อเห็นหน้าเหมันต์ ถลาหาและขอความเห็นใจ
“เหมันต์...ลุงขอโทษนะ ลุงไม่ได้อยากใส่ร้ายเหมวัต ลุงโดนพวกมันยุแหย่”
เหมันต์ไม่รู้ความนัยและไม่มีเวลาสะระตะ กมลรีบโพล่งแทรกไม่รู้เรื่องและสั่ง รปภ.ให้ควบคุมคนทั้งสามให้ดี อย่าให้เข้าห้องประชุมเด็ดขาด ผกากลุ้มใจมากปรี่หาเหมันต์
“เธอหายไปไหนมา ตอนนี้ลุงสองของเธอยึดอำนาจในบริษัทไปแล้ว ต่อไปก็ต้องยึดมรดกไปทั้งหมด เธอต้องกลับมา ฉันกับยัยตาลช่วยเธอแย่งบริษัทคืนมาได้นะ”
“แย่งกันแล้วได้อะไร สิ่งที่ผมเห็นก็คือความโกรธ เกลียด ความเห็นแก่ตัวที่พี่น้องลูกหลานในตระกูลนี้แสดงต่อกัน ผมไม่อยากเป็นเหมือนพวกคุณ!”
ooooooo
เมื่อไม่มีใครคอยขวาง ปราการก็ทำสำเร็จ
ได้มติเอกฉันท์จากที่ประชุมบอร์ดบริหารได้รักษาการตำแหน่งประธานของเหมทอง กมลยินดีด้วยแต่
ไม่วายเตือนให้เจ้านายคนใหม่จัดการเสี้ยนหนาม
คนสำคัญอย่างผาณิตา
ปราการไม่รอช้าทำสิ่งที่คิดมานาน ปลดผาณิตาจากฝ่ายการตลาดและให้คนของตนสวมตำแหน่งแทน ผาณิตาบุกเอาเรื่องทันทีเพราะเชื่อว่าตำแหน่งของตนไม่มีใครเปลี่ยนได้นอกจากเหมทองผู้เป็นปู่
“หลานทำงานเพื่อบริษัทมามาก คุณปู่เองก็ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล อาห่วงว่าหลานจะเหนื่อยต้องวิ่งไปวิ่งมาเลยอยากให้หลานพักเรื่องงานไว้ก่อน จะได้มีเวลาไปดูแลคุณปู่ได้เต็มที่ไง”
“ตาลขอดูคำสั่งแต่งตั้งของคุณปู่หน่อยค่ะ”
ความดื้อดึงของผาณิตาทำให้ปราการใช้มาตรการเด็ดขาด ตัดบทเสียงเหี้ยม “กรรมการบอร์ดตรวจสอบแล้ว ตาลก็ไม่จำเป็นต้องดูหรอก พาคุณน้ำตาลออกไป ถ้าไม่มีคำสั่งฉันห้ามให้เข้ามาในบริษัทอีก!”
ลูกน้องของกมลจะทำตามคำสั่ง ผาณิตาเบี่ยงตัวหลบและตะโกนไล่หลังปราการ “คนที่จะยืนในตำแหน่งคุณปู่มีอยู่คนเดียวคือทายาทที่แท้จริง...สายเลือดของบุญญาฉัตรพงษ์ และจะไม่มีใครมาเปลี่ยนความจริงนี้ไปได้”
ปราการหงุดหงิดสั่งกมลทันทีให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเข้าพบเพื่อกักบริเวณเหมทอง!
นอกจากสั่งกักบริเวณเหมทอง จำกัดคนเข้าเยี่ยมและไม่ให้ใครเข้าพบหากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา ปราการยังสั่งยุบแผนกรองเท้าชายโดยให้เหล่าพนักงานย้ายสังกัดไปเป็นจับกังในโกดัง
ลาวัลย์รู้เรื่องโดยบังเอิญเพราะแวะหาเหมันต์
ที่แผนกแต่ไม่พบจึงผละไปคาดคั้นความจริงจากพ่อ
“ถ้าคุณปู่หายเมื่อไหร่คุณปู่ก็ต้องยึดอำนาจคืน วัลย์มีวิธีจะช่วยให้คุณพ่อได้ยึดครองบริษัทนี้ตลอดไปค่ะ”
“พ่อดีใจนะที่ลูกฉลาดคิดเพื่อพ่อ ไหนลองเล่ามาสิ”
“เหมันต์เป็นหลานที่แท้จริงของคุณปู่ ทำไม
คุณพ่อไม่ให้วัลย์แต่งงานกับเขาล่ะคะ เขาจะได้มาเป็นพวกเดียวกับเรา ถ้าคุณพ่อปล่อยให้เขาไปแต่งกับพี่ตาลบริษัทนี้ก็จะตกเป็นของพี่ตาลกับลุงหนึ่งนะคะ”
ปราการแสร้งนิ่งฟังลูกสาวอย่างสงบ ก่อนเอื้อมมือไปบีบบ่าบาง
“ฟังพ่อให้ดีนะ...ความเป็นทายาทของเหมันต์คือสิ่งอันตรายที่สุด พ่อไม่มีทางใช้วิธีเสี่ยงๆแบบนี้แน่”
“วัลย์เชื่อว่าวัลย์จะกล่อมเขาได้”
“เลิกยุ่งกับเหมันต์อีก ถ้าขัดคำสั่งพ่อ พ่อจะฆ่ามันทิ้งซะ!”
“ไม่...พ่อไม่กล้าทำอย่างงั้นหรอก”
“ไม่กล้าเหรอ สำหรับพ่อ...เนื้อตรงไหนร้ายพ่อตัดเนื้อนั้นทิ้งได้อยู่แล้ว...แม้แต่คนที่พ่อรักที่สุดอย่างแม่ของลูก”
คำสารภาพอย่างไม่รู้สึกผิดของพ่อทำให้ลาวัลย์อ้าปากค้าง พึมพำเสียงเบา
“พ่อบอกวัลย์ว่าแม่หัวใจวาย”
“ใช่...แม่แกเป็นโรคหัวใจ ถ้าวันนั้นเขายอมเปิดปากบอกชื่อชู้รักพ่อจะให้ยาเขากินแล้วจะอภัยให้ทุกอย่าง”
“ไม่...ไม่จริง พ่อไม่ทำกับแม่อย่างงั้น วัลย์ไม่เชื่อ”
“งั้นแกก็ลองขัดใจพ่อดู แล้วแกก็จะได้รู้ว่าพ่อพูดจริงไหม...”
ooooooo
ไม่ใช่แค่ลาวัลย์ที่หุนหันพลันแล่นต่อรองกับพ่อ หริทธ์ก็ทำไม่ต่างกัน ทันทีที่เอมส่งข่าวเรื่องชาญยังไม่ตายก็กลับบ้านมาดักรอคาดคั้นความจริงจากเหมันต์
เหมันต์ดีใจได้เห็นหน้าน้องชาย แต่เมื่ออีกฝ่ายบอกจะไปเอาเรื่องเหมทองก็รีบรั้งตัวไว้
“พี่เป็นหลานมันคิดจะปกป้องมันล่ะสิ ทายาทของเหมทองกรุ๊ปหรือ...มิน่าถึงยอมทิ้งพ่อตัวเองตั้งแต่แรก”
“พ่อชาญคือพระในหัวใจพี่ นายจะด่าพี่เป็นหมูเป็นหมายังไงก็ได้แต่อย่าดูถูกความรักที่พี่มีให้กับพ่อคนนี้ จะกี่ประธานเหมก็เทียบกับพ่อชาญไม่ได้”
หริทธ์ไม่พอใจผลุนผลันออกจากบ้านไปหามิตรเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ถูกปฏิเสธเพราะมิตรต้องช่วยทัศนัยกับทศนาถหนีออกนอกประเทศก่อน...
ความเจ็บป่วยของเหมทองสร้างความระส่ำระสาย ไม่เพียงเหมันต์กับหริทธ์ที่แทบหมดหวังเรื่องชาญ ทัศนัยกับทศนาถต้องหนีออกนอกประเทศ ผาณิตาก็ถูกลิดรอนอำนาจและปลดจากตำแหน่งแบบไม่ทันตั้งตัว
ผกาเป็นเดือดเป็นร้อนแทนผาณิตามาก เมื่อบีบบังคับสามีให้ทวงสิทธิ์ตัวเองไม่สำเร็จก็เปลี่ยนมากดดันลูกสาวให้กล่อมเหมันต์ทายาทแท้จริงของเหมทองกรุ๊ปกลับเข้ามารับตำแหน่ง
“แม่รังเกียจเขานักไม่ใช่หรือคะ”
“ก็ใครจะไปรู้ว่าเขาเป็นลูกของคุณเหมวัต ลูกช่วยเขาแย่งบริษัทแล้วก็แต่งงานกับเขา เราก็จะได้ครอบครองทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ แผนนี้ไอ้อาสองของแกมันคิดไม่ถึงแน่”
“ตาลจะไม่ใช้เขาเป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ของใครทั้งนั้น ตาลจะพึ่งตัวเองเพื่อช่วยคุณปู่เอง”
พูดจบก็ผละหนี ผกากระทืบเท้าเร่าๆด้วยความขัดใจ ตะโกนไล่หลังลูกสาว
“แกจะแคร์ทำไม เหยียบหัวใครได้ก็เหยียบไปเลย!”
ผาณิตาหนักใจมาก อยากไปหาเหมันต์เพื่อระบายความอึดอัดใจแต่เขาคงมองเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เธอตัดสินใจแวะหาปู่ที่โรงพยาบาลแต่ต้องอึ้งเมื่อมีคำสั่งจากปราการห้ามเยี่ยมนอกจากจะได้รับอนุญาต!
หริทธ์เป็นอีกคนที่บุกโรงพยาบาลคืนเดียวกันนี้เพื่อคาดคั้นเหมทองเรื่องชาญ แต่นอกจากจะทำไม่สำเร็จยังถูกลูกน้องกมลจับไปส่งปราการเพื่อรับโทษ
ปราการสมเพชความแค้นระหว่างพี่น้อง...
หริทธ์กับเหมันต์ต้องแตกกันเพราะลาวัลย์ลูกสาวตน แต่ไม่ยี่หระสั่งลูกน้องลากตัวไปทิ้ง หริทธ์จึงฉวยโอกาสนี้เรียกร้องประโยชน์ให้ตัวเองแลกกับข้อมูลเกี่ยวกับทัศนัยกับทศนาถ!
ooooooo
หริทธ์ยอมแลกข้อมูลของทัศนัยกับปราการเพื่อให้ได้ล้างแค้นทศนาถ ส่วนผาณิตาก็ทำทุกอย่างจนหาทางเยี่ยมเหมทองสำเร็จจึงได้รู้ว่าเอกสารที่ปู่เตรียมพร้อมกับทนายคือเอกสารมอบอำนาจในบริษัทให้เหมันต์
ผาณิตาคิดกู้สถานการณ์รีบไปสำนักงานทนายความแต่ต้องผิดหวังเมื่อเห็นป้ายสำนักงานปิดชั่วคราว ทัศนัยกับทศนาถก็ต้องพลาดท่าเสียทีให้ปราการเมื่อแผนการหนีโดยมีพวกมิตรนำทางพังไม่เป็นท่าเพราะถูกตำรวจ
ดักจับ!
ปราการได้ข้อมูลทัศนัยกับทศนาถจากหริทธ์
จึงติดสินบนหมวดอาทก้อนใหญ่ให้ตามจับสองพ่อลูก ทัศนัยเจ็บใจมากที่เสียรู้พี่ชายบุญธรรมเพราะนอกจากตัวเองต้องติดคุก ทศนาถลูกชายคนเดียวก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือ
หริทธ์ยื่นข้อเสนอกับปราการด้วยอยากล้างแค้นทศนาถที่เคยกดหัว ปราการรับปากเพราะไม่เคยเห็นหัวหลานชายนอกไส้อยู่แล้ว ทั้งบงการและหลอกใช้สมรประกันตัวทศนาถออกมาทำงานในฐานะคนงานของโรงงานรองเท้า!
นอกจากจะหลอกใช้สมรเป็นเครื่องมือให้ทศนาถถูกย่ำยี ปราการยังล้วงความลับเกี่ยวกับเอกสารมอบอำนาจของเหมทองที่อาจถูกซ่อนในห้องนอนของมนตรา
ปราการปรี่ไปรื้อห้องนอนแม่บุญธรรม มนตราเข้ามาเห็นร้องทักเหมือนเขายังเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ
“ลูกสอง...ทำไมไม่ใส่ผ้าพันคอที่แม่ถักให้ล่ะ ระวังเป็นหวัดนะลูก ทำงานเหนื่อยหรือลูก”
“แม่เป็นห่วงผมด้วยหรือครับ”
“ทำไมพูดอย่างนั้น ลูกเป็นลูกรักของแม่นะ”
คำตอบแสดงความห่วงใยของมนตราทำให้ปราการหัวใจพองโต พลันหล่นวูบเมื่อได้ยินประโยคต่อมา
“หรือว่าลูกกลัวแม่จะฟ้องคุณพ่อ แม่ไม่บอกหรอกว่าใครเป็นคนทำกล่องดนตรีพัง”
ความจริงจากเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนที่ว่าเขาเขวี้ยงกล่องดนตรีจากชั้นบนจนแตกกระจายทำให้ปราการผงะ มนตราเห็นดังนั้นก็ถลากอดปลอบ
“แม่รู้ว่าลูกน้อยใจคุณพ่อ น้อยใจแม่ แต่อย่าเกลียดน้องเลยนะ”
ท่าทางอ่อนโยนของมนตราไม่อาจปลอบประโลมหัวใจเจ็บช้ำของปราการ เขาสะบัดตัวออกอย่างแรง
“ผมนึกว่าคุณแม่จะห่วงผมซะอีก ที่แท้แม่ก็ยังรักเหมวัต ห่วงเขามากกว่าผมอยู่ดี”
ถึงคราวมนตราชะงัก ไม่เคยเห็นท่าทางแข็งกร้าวของปราการ...ลูกชายผู้อ่อนน้อมและใจเย็นมาตลอด
“ปากก็บอกว่ารักแต่การกระทำมันไม่ใช่ พวกผมต้องใช้ของเหลือเดนจากไอ้เหมวัต ทั้งเสื้อผ้า ของเล่น แม้แต่โรงเรียนก็ยังต้องแบ่งแยก คุณมันลำเอียง จำใจเลี้ยงพวกผมเพราะไม่รู้จะไปโยนทิ้งที่ไหนมากกว่า!”
ปราการตะโกนเรียกสร้อยให้พามนตราออกไป ส่วนตัวเองรื้อห้องนอนแม่บุญธรรมอย่างเร่งรีบเพื่อหาเอกสารมอบอำนาจแต่ไม่พบ ผาณิตาแวะมาหาเอกสารในห้องทำงานปู่พอดี ปราการจึงรั้งตัวไว้ สั่งลูกน้องกุมตัวหลานสาว
“ทำร้ายร่างกาย...โทษไม่น้อยนะคะ”
ผาณิตาไม่กลัวขู่กลับ ปราการจึงสวนด้วยการคว้าแจกันใกล้มือปาทิ้ง
“บุกรุก ทำลายข้าวของเสียหายก็โทษไม่น้อยเหมือนกัน”
ปราการสะใจเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของหลานสาว ผาณิตาแค้นใจมากตอกเสียงเข้ม
“เหมันต์คือทายาทที่แท้จริง ตาลจะพิสูจน์ให้ทุกคนรู้ อาสองปลอมลายเซ็นคุณปู่ไม่มีทางรอดหรอก!”
ooooooo
ไม่ใช่แค่เหมทองที่ถูกปราการสั่งกักบริเวณ มนตราก็ถูกจำกัดที่ทางในบ้านโดยมีลูกน้องกมลจับตาสร้อยคนดูแลไม่ให้คลาดสายตา ผาณิตาเจ็บใจแต่ไม่ยอมแพ้ต้องหาทางพิสูจน์ความจริงเรื่องปราการโกงบริษัทให้ได้
ข้อเสนอของหริทธ์แลกกับข้อมูลของทัศนัยคือได้แก้แค้นทศนาถ อุดมผู้จัดการโรงงานคนเดิมจึงถูกปราการสั่งปลดและให้หริทธ์รับตำแหน่งแทน เมื่อลาวัลย์รู้ก็ไม่พอใจ หริทธ์ตามไปดักหน้า
“ฉันมาทำงานที่นี่ก็เพราะเธอ...รู้ไว้ซะด้วย!”
ลาวัลย์ไม่ยี่หระเบี่ยงตัวหนี “อย่ามาล้ำเส้น ไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณพ่อ”
“ฟ้องเลย...พ่อเธอไม่คิดจะขัดขวางเราอีกแล้ว ไม่งั้นเขาจะให้เธอมาเป็นเลขาฉันหรือ...”
กมลเตือนลาวัลย์ด้วยความหวังดีไม่ให้ขัดคำสั่งปราการเพราะเหมันต์จะถูกกำจัด ประกิตกับผกาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะปราการสั่งกักบริเวณแถมตัดค่าใช้จ่ายในบ้านจนแทบไม่มีกิน
ปราการไม่สะทกสะท้านว่าจะถูกใครประณาม มุ่งหน้าไปเย้ยเหมทองที่ถูกสั่งห้ามเยี่ยม เหมทองถูกปลุกอย่างหยาบคาย เมื่อตื่นมาพบลูกชายทรพีก็ส่งสายตาขู่ ปราการยักไหล่ไม่แคร์
“ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้นอนเพราะคุณพ่อยังมีเวลานอนอีกยาว คุณพ่อเอาใบโอนหุ้นไปซ่อนไว้เพื่อให้ไอ้เหมันต์ขึ้นมาขี่บนหัวผม...คิดว่าผมจะหาไม่เจอหรือ”
เหมทองตาเหลือก ปราการเห็นดังนั้นก็มั่นใจว่ามาถูกทาง
“ทำไม...ตกใจที่ผมรู้หรือ พ่อทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง!”
ขาดคำก็หยิบหมอนมาวางบนท้องพ่อบุญธรรมแล้วทุบอย่างแรง เหมทองเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
“เจ็บใช่ไหม...แต่ผมเจ็บยิ่งกว่า พ่อไม่เคยรักใครจริง เอาพวกผมมาเลี้ยงเป็นทาส ผมทำงานหามรุ่งหามค่ำทุ่มเทเพื่อบริษัทมาตลอดแต่พ่อก็ยังเก็บตำแหน่งผู้อำนวยการไว้รอไอ้เหมวัตกลับมา อย่าคิดว่าผมไม่รู้... พ่อไม่เคยเห็นพวกผมเป็นลูก ผมถึงต้องตอบแทนพ่อด้วยการขโมยเงินแล้วใส่ร้ายไอ้เหมวัต”
ความจริงจากปากลูกชายทรพีทำให้เหมทองเบิกตาโพลง ปราการสะใจสำทับ
“ไม่ใช่แค่นั้น...ผมยังจ้างไอ้อาคมสร้างสถานการณ์ว่าลูกรักของพ่อตายไปแล้ว ผมรอมานาน...รอวันนี้...รอวันที่แกต้องชดใช้บาปที่ทำไว้กับฉัน คิดว่าจะกลับมาเดินได้อีกหรือ อย่าหวัง...แกต้องนอนคาเตียงไปจนกว่าจะตาย!”
ooooooo
นับวันปราการก็ยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในบ้านและบริษัท ผกาทนไม่ไหวยุให้ประกิตไปเกลี้ยกล่อมเหมันต์อีกครั้งเพื่อส่วนแบ่งมรดกของเหมทอง
ประกิตไม่มีทางเลือก ไม่อยากตกอับ บากหน้าไปหาเหมันต์ที่บ้านแต่ดันพบคู่กรณีสาว พยานปากเอกในคดีที่เขาขับรถชนคนแล้วหนีเมื่อหลายปีก่อน!
รุ่งอรุณนั่นเองเป็นพยานปากสำคัญตอนประกิตขับรถชนชาญจนพิการตลอดชีวิต การเผชิญหน้าอีกครั้งทำให้รุ่งอรุณโพล่งความอึดอัดใจที่ต้องปกปิดความจริงมาหลายปี
“ฉันจะเอาเงินคืนคุณ จะผ่อนใช้ให้ครบทุกบาท ฉันไม่อยากรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต เราทำผิดเราก็ต้องชดใช้”
“เขาวิ่งออกมาชนรถฉันเอง ฉันไม่ได้ชน”
“แกชนเขาจนพิการแกยังไม่สำนึกผิดอีกหรือ”
คำถามของรุ่งอรุณยังไม่ได้คำตอบ เหมันต์ก็กลับมาพร้อมผาณิตาที่มาตามพ่อ ความจริงที่บังเอิญได้ยินทำให้เหมันต์ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าประกิตคือคนขับรถชนชาญจนพิการ!
ประกิตหน้าเสีย รุ่งอรุณก็อาการไม่ต่างกันถลาไปแก้ตัวกับเหมันต์
“พอเขารู้ว่าเจ๊เห็นเหตุการณ์เขาก็เอาเงินมาปิดปากเจ๊ ตอนนั้นร้านคาราโอเกะกำลังจะเจ๊งเจ๊ก็เลยต้องเอา เจ๊ขอโทษนะเหมันต์ เจ๊คิดถึงแต่ตัวเอง เจ๊ไม่คิดจริงๆว่าพี่ชาญจะพิการ”
ผาณิตาก็ไม่อยากเชื่อหู หันหาพ่อ “พ่อชนแล้วหนีจริงหรือคะ”
“มันใส่ร้ายพ่อ พ่อไม่เคยชนใคร ไม่เคยให้เงินปิดปากมัน”
ประกิตโวยวายกลบเกลื่อน เหมันต์ยิ่งโมโห
“วันนั้นถ้าคุณช่วยพาพ่อผมส่งโรงพยาบาลพ่อคงไม่พิการ!”
ความเจ็บแค้นแทนพ่อทำให้เหมันต์จะชกประกิต ผาณิตาดึงตัวไว้
“นายเป็นคนชอบใช้ความรุนแรงตั้งแต่เมื่อไหร่”
“พาพ่อคุณกลับไป มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะชนพ่อผมหรือไม่ ถึงรู้ไปก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้”
เหมันต์พูดอย่างเจ็บช้ำแต่ประกิตก็ไม่สำนึก “ถูก...เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว คดีมันก็หมดอายุความตั้งแต่ปีมะโว้ จะไปจับมือใครดมได้ อุบัติเหตุมันก็เกิดขึ้นได้ทุกวินาทีแหละ มันเป็นเรื่องของดวง”
ผาณิตานิ่วหน้าไม่ชอบใจ อยากท้วงพ่อแต่ช้ากว่าเหมันต์ที่โพล่งลั่น
“เพราะคุณสอนลูกให้คิดเห็นแก่ตัวแบบนี้ไง ลูกคุณถึงโดดเดี่ยวไม่มีเพื่อน เก็บกดจนต้องไปอาเจียนอยู่ในโรงหนังทุกครั้งที่เครียดเรื่องพ่อแม่ คุณชนคนแล้วหนีไม่ยอมรับผิดชอบเหมือนที่คุณก็ไม่รับผิดชอบครอบครัวและลูกตัวเอง!”
ooooooo
เหมันต์ยังทำใจให้อภัยใครไม่ได้ทั้งประกิตและรุ่งอรุณจึงไล่กลับบ้านทั้งคู่ ประกิตสะเทือนใจมากแต่รู้สึกผิดกับผาณิตามากกว่าที่ไม่เคยไยดีความรู้สึกเธอเลย
ผกาไม่ยี่หระอาการลูกสาวมากไปกว่าสงสัยว่าตั้งท้อง ผาณิตาต้องสวนอย่างเหลืออด
“ชาตินี้หนูไม่มีวันมีลูกหรอกค่ะ หนูไม่อยากให้ลูกเกิดมาทุกข์ทรมานเหมือนหนู”
“แปลว่าอะไร แกทุกข์อะไรนักหนา แกเกิดมามีทุกอย่าง ทั้งสวยทั้งเก่ง ผู้หญิงในโลกนี้อิจฉาแกทั้งนั้น”
“ใช่ค่ะ...หนูมีทุกอย่างแต่ขาดอย่างเดียว...คนที่หนูรักแล้วเขาก็รักหนูอย่างจริงใจ ผู้หญิงอย่างหนูเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจแล้วก็น่าเวทนาที่สุดในโลก แม้แต่หนูยังขยะแขยงตัวเองเลย”
ผาณิตาร้องไห้โฮ ประกิตหน้าเสีย สงสารลูกสาว
“ตาล...ตาลรักเหมันต์เหรอ...พ่อขอโทษ พ่อไม่ได้ตั้งใจจะขับรถชนพ่อเลี้ยงของเหมันต์นะ”
ผกาผงะเมื่อได้ยินว่าลูกสาวคนเดียวรักเหมันต์ แต่ที่ตกใจกว่าคือเรื่องคดีเก่าของสามี
“อะไรนะ! แสดงว่าไอ้คนที่คุณชนแล้วหนีเมื่อหลายปีก่อนคือ...โอ๊ย...อย่างนี้เหมันต์จะยอมร่วมมือกับเราหรือ”
ประกิตสุดจะทนตวาดภรรยา “ในหัวของคุณก็คิดแต่เรื่องมรดก การแย่งชิงเอาชนะ ลูกจะทุกข์ทรมานใจยังไงคุณไม่เคยสน ไม่ถามสักคำ ผู้หญิงอย่างคุณไม่เหมาะจะเป็นแม่ใคร”
“นี่คุณกล้าขึ้นเสียงกับฉันหรือ แล้วคุณล่ะเป็นพ่อดีเด่นักหรือ วันๆก็ดีแต่วิ่งแร่ไปกินของโสมมนอกบ้าน”
“ก็เพราะผมเบื่อคุณ คุณดีแต่สั่งๆ บังคับผม กดดันลูก คุณลืมไปหรือเปล่าว่าคุณเป็นเมียผมไม่ใช่แม่!”
อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 11 วันที่ 26 ต.ค.61
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทประพันธ์โดย รจเรขละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทโทรทัศน์โดย กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ กำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ผลิตโดย บริษัท ดีวัน ทีวี จำกัด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ