อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 4 วันที่ 30 ต.ค.61
พิกุลเห็นหลวงราชมีรอยช้ำทั้งตัวก็เอาผ้าคลุมไหล่เช็ดรอยเปื้อนให้ ความใกล้ชิดและหอมกลิ่นผมของพิกุลที่เคลียหน้าทำให้หลวงราชยิ้มออกมาทั้งที่ยังเจ็บ พิกุลถามว่าคุณหลวงไปทำอะไรมา“ฉันต้องทำภารกิจที่ฉันไม่อาจเลี่ยงและบอกใครไม่ได้ ฉันขอให้หล่อนเข้าใจในเรื่องนี้ได้หรือไม่”
“เจ้าค่ะ”
“หากเกิดอะไรเช่นนี้ขึ้นอีก ฉันจะรักษาชีวิตเพื่อกลับมาหาหล่อน กลับมาเห็นหน้าหล่อนทั้งที่ไม่รู้ว่าโชคชะตาจะเข้าข้างฉันอีกหรือไม่”
ทั้งสองตกอยู่ในอารมณ์เคลิ้ม มีเงาดำปรากฏขึ้นโดยทั้งสองไม่รู้ตัว
สินออกตามหาพิกุล ทั้งที่ไปยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองแต่สินกลับมองไม่เห็นอะไรจึงเดินไปทางอื่น
หลวงราชกับพิกุลต่างมองกันอย่างลึกซึ้ง จนเมื่อพิกุลจะกลับ หลวงราชบอกว่า
“ฉันสัญญากับหล่อนว่าเสร็จจากหน้าที่การงานเมื่อไร ฉันจะทำตามหัวใจตัวเองทันที...รอฉันนะพิกุล”
“รอหรือเจ้าคะ” พิกุลใจสะท้อนเมื่อนึกถึงท่านจันแต่ก็ตอบรับ “เจ้าค่ะ”
หลวงราชไปส่งพิกุล เมื่อพิกุลถือตะเกียงขึ้นเรือนก็ตกใจเมื่อเห็นทุกคนนั่งรอตนอยู่อย่างกังวล สินกับเอื้อยถามว่าหายไปไหนมา พิกุลปดว่าตนเวียนหัวจนเดินไม่ไหวเลยหยุดพักกลางทางครู่หนึ่ง
จางวางถามว่าหยุดพักตรงไหนทำไมถึงคลาดสายตาสินไปได้ทั้งที่ออกตามหาอยู่นาน นึกว่าถูกงูขบไม่มีใครเห็น เพียรบอกสุดให้หาน้ำอุ่นมา ตนจะผสมยาหอมให้พิกุล พิกุลจำต้องปดต่ออีกว่าตนพักดีขึ้นแล้ว และกราบพ่อกับแม่อย่างรู้สึกผิดที่ตนทำให้เป็นห่วง
เอื้อยยังแคลงใจซักไซ้เวลาที่พิกุลเดินกลับและเวียนหัวนั่งพักครู่เดียว แต่เวลาที่หายไปเนิ่นนานกว่า “ครู่หนึ่ง” ที่พิกุลบอก เมื่อพิกุลยืนยันหน้าตายเช่นนั้น เอื้อยนิ่งคิดตัดบทว่า
“เอาเถอะ ไม่ถูกผีพาไปซ่อนก็ดีแล้ว”
“ที่นี่มันบางกอกนะเอื้อย ใช่ป่าดงที่ไหนจะมีผีพาไปซ่อน” พิกุลบอกเอื้อยเช่นนั้น แต่ตัวเองก็แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พิกุลไม่ทันเห็นว่าที่ปี่ท่านจันบนหัวนอน มีเงาจากม่านหน้าต่างวูบไหวเบาๆตามแรงลมไปทาบทับอยู่ แต่เงานั้นไม่ไหวตามอย่างที่ควรเป็น
ooooooo
รุ่งขึ้นสารภีออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปดูว่าคุณหญิงเกสรชอบน้ำปรุงที่ตนให้คนของห้างส่งไปให้หรือไม่ จีนพ้งเรียกปิงคนสนิทมาเตือนว่าทำอะไรอย่าให้สารภีรู้ เดี๋ยวจะหาว่าตนไม่ไว้ใจ
เช้าเดียวกันเจ้าคุณต่วนฟังหลวงราชเล่าเรื่องเมื่อคืนแล้วก็เป็นกังวลว่าจีนพ้งจะรู้ว่าเราจับตาดูอยู่แต่หลวงราชไม่หวั่นบอกว่าตนต้องหาหลักฐานมามัดตัวจีนพ้งแล้วส่งตัวขึ้นศาลรับอาญาแผ่นดิน
เจ้าคุณต่วนถามว่าหลวงราชยังเอาใจสารภีเพื่อหาหลักฐานอยู่หรือ หลวงราชบอกว่าตนจะพยายามอย่างที่สุดจนกว่าแม่สารภีจะเอะใจ เจ้าคุณเปรยว่าสารภีคงโกรธอย่างมากเมื่อรู้ความจริง คุณหลวงเลือดเย็นกว่าที่ตนคิด
“เพื่อหน้าที่กระผมทำได้ขอรับ”
“เช่นนั้นก็จงเร่งมือเถิด...ฉันมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ต้องไหว้วานคุณหลวง เรื่องที่เกินกว่าจะไหว้วานจากใครได้อีกแล้ว”
หลวงราชมองเจ้าคุณต่วนอย่างสงสัยว่าหมายถึงเรื่องอะไร
สารภีไปถึงบ้านเจ้าคุณพิชัยแต่เช้า มุดให้ไปรอที่ห้องรับรอง คุณหญิงลงมาจากชั้นบนไม่ทันเห็นมุดพาสารภีเข้าไปในห้องรับรอง เอ่ยกับสร้อยอย่างปลื้มกลิ่นน้ำปรุงใหม่ บอกสร้อยว่าจะฉีดให้หอมฟุ้งไปทั่วบ้าน หญิงดาวกับหญิงเดือนจะได้เห็นว่าตนปลื้มแค่ไหน
มุดออกจากห้องรับรองบอกคุณหญิงว่าสารภีมาขอพบ สร้อยยุว่ามันมาท้าทายคุณหญิงแน่ๆ
“มิได้นะเจ้าคะ” สารภีปรากฏตัวพร้อมเสียง ไหว้คุณหญิงอย่างนอบน้อม ได้กลิ่นน้ำปรุงจากคุณหญิงก็เอ่ยปลื้มว่า “ดูท่าคุณหญิงจะโปรดน้ำปรุงฝรั่งกลิ่นนี้นะเจ้าคะ...สารภีปลื้มที่คุณหญิงใช้น้ำปรุงที่สารภีเลือกให้”
คุณหญิงว่าเป็นน้ำปรุงที่หญิงดาวกับหญิงเดือนส่งมาให้ต่างหาก สารภีบอกว่าตนส่งมาให้ตั้งแต่เมื่อคืนวานคนของห้างส่งมาให้หมายจะให้คุณหญิงได้ใช้เช้านี้
พอคุณหญิงรู้ว่าเป็นน้ำปรุงที่สารภีส่งมาให้ก็เจ็บใจสั่งให้สร้อยไปหยิบมาเดี๋ยวนี้
คุณหญิงให้สร้อยเอาขวดน้ำปรุงคืนให้สารภี สารภีนั่งรถกลับออกไป สั่งชบาให้โยนทิ้งเสีย ชบาจึงโยนขวดน้ำปรุงทิ้งที่กอหญ้าข้างทางอย่างเสียดาย
ooooooo
วันนี้ขณะจางวางกำลังจะให้ลูกวงซ้อมดนตรี เจ้าคุณพิชัยก็เข้ามาบอกว่าเจ้าคุณต่วนให้ตนพาวงพ่อจางวางเข้าวังในอีกไม่กี่วันนี้ บอกว่านี่เป็นงานครั้งสำคัญของตนกับของจางวางทีเดียว
เจ้าคุณพิชัยให้ช่างเสื้อมาวัดตัวเพื่อตัดชุดเตรียมเข้าวังเพราะนี่เป็นหน้าตาของกระทรวง พิกุลกับเอื้อยตื่นเต้นดีใจที่จะได้ตัดเสื้อออกงานอย่างผู้ดี เอื้อยบอกว่าพิกุลต้องออกปากขอบน้ำใจคุณยศแล้วกระมัง
“เอื้อยอยากจะขอบใจเขาเมื่อไร ฉันก็ฝากไปด้วยแล้วกัน” พิกุลยิ้มน้อยๆอย่างมีความสุขไปด้วย
ฝ่ายคุณหญิงหัวเสียแต่เช้าเมื่อรู้ว่าน้ำปรุงที่ชื่นชอบนั้นสารภีเป็นคนหามาให้ ขณะกำลังจะออกจากบ้าน ก็พอดีหญิงดาวกับหญิงเดือนนั่งรถมาหา สร้อยสั่งบ่าวให้ตั้งสำรับเลยเพราะดูท่าคุณหญิงกับสองหญิงต้องคุยกันอีกยาวเป็นแน่
เย็นนี้เองหลวงราชก็ไปที่เรือนพักจางวาง อ้างว่ามาบอกกล่าวเรื่องงานที่กระทรวง จะฝากใครมาก็เกรงจะเป็นเด็กไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ จางวางฟังอย่างไม่สบอารมณ์แต่ต้องข่มไว้
พิกุลออกมาได้ยินเสียงหลวงราชจึงแอบดูว่ามาคุยเรื่องอะไรกับพ่อ หลวงราชมาบอกกล่าวเรื่องงานว่ามีแต่แขกฝรั่งกิริยาท่าทีคงไม่นอบน้อมอย่างคนบางกอก ตนจึงมาบอกกล่าวให้จางวางรู้แต่เนิ่นๆ จางวางถามว่ามีธุระเท่านี้หรือเหมือนไล่ในที ก็พอดีเพียรเอาน้ำกับจานข้าวต้มมัดมาบอกว่า
“เห็นเอื้อยมันว่าคุณหลวงถูกใจข้าวต้มมัดชาววัง อิฉันเลยหามาให้เจ้าค่ะ”
หลวงราชถามว่าหากตนกินหมดจานนี้แม่เพียรคงไม่ว่ากระไร เพียรบอกว่าจะว่ากระไรได้มีแต่จะปลื้มเสียด้วยซ้ำ จางวางเห็นเพียรกับหลวงราชเออออกันอย่างถูกคอก็มองอย่างไม่พอใจ ขณะหลวงราชกินข้าวต้มมัดมองไปเห็นพิกุลแอบดูอยู่จึงยิ้มให้ พิกุลรีบหลบแล้วแอบดูอีก หลวงราชรู้แต่ทำเป็นไม่เห็น พิกุลรู้สึกดีที่หลวงราชเออออกับแม่อย่างดี
กลับถึงบ้านตอนเย็นหลวงราชถูกคุณหญิงแม่ต่อว่าที่ไม่เชิญไปร่วมงานที่กระทรวง หลวงราชปะเหลาะว่าตนจะลืมคุณหญิงเกสรได้อย่างไร ท่านเจ้าคุณต่วนอยากจัดวันนี้พรุ่งนี้ด้วยซ้ำ แต่ตนเกรงคุณแม่จะตัดชุดไม่ทันจึงขอให้ทอดเวลาออกไปอีกสักหน่อย
คุณหญิงฟังแล้วคลายเคือง บอกว่าช่างเขา รู้เพียงแต่ให้สร้อยบอกว่าแม่จะตัดชุดออกงานช่างก็หาแบบหาผ้าให้เขารู้ว่าแม่เกสรน่ะต้องใช้ผ้าดีมีราคาจากยุโรปเท่านั้น แล้วบอกหลวงราชว่า เชิญแม่แล้วก็ต้องเชิญหญิงดาวกับหญิงเดือนด้วย หลวงราชรับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ในใจคิดอะไรบางอย่าง
ooooooo
แล้วจู่ๆมุดก็ไปบอกเพียรว่าช่างวัดตัวตัดชุดทำผิดพลาด ช่างจึงให้ตนมารับพิกุลไปวัดตัวใหม่ บอกว่าช่างเกรงท่านเจ้าคุณจึงให้ตนมารับแทน รถรออยู่หน้าประตูใหญ่ อ้อนวอนขอให้เห็นใจเถิด เสร็จแล้วจะรีบพาพิกุลกับมาส่ง เพียรใจอ่อนบอกให้รอประเดี๋ยว
พิกุลถูกพาตัวมาในห้องวัดตัวที่มีม่านกั้นให้ช่างวัดตัวงงๆ พอวัดตัวเสร็จช่างเปิดม่านออกไป พิกุลมองเงาในกระจกตกใจมากเมื่อเห็นหลวงราชนั่งรออยู่ที่โซฟา หลวงราชยิ้มให้บอกว่าอย่าเพิ่งโมโห ตนเพียงแต่หาวิธีที่จะทำให้เราอยู่ด้วยกันตามลำพังเท่านั้นแล้วเดินไปรูดม่านปิด
พิกุลบอกว่าได้เวลาต้องกลับเพราะตนมานานแล้ว หลวงราชทำเป็นน้อยใจถามว่าไม่อยากอยู่กับตนตามลำพังหรือ ตนขอให้มาก็มีแต่ความหวังดี
ไม่ทันไรเสียงหญิงเดือนจากนอกห้องก็ดังเข้ามาว่า “ห้องนี้มีใครลองอยู่รึ” ทั้งหลวงราชและพิกุลตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร หลวงราชจึงดึงพิกุลถอยไปจนติดกระจก
หญิงเดือนไม่ได้ยินเสียงตอบจากข้างในจึงเปิดม่าน หลวงราชออกไปรับหน้าถามว่าหญิงเดือนมาทำอะไรที่นี่ แล้วแม่ดาวล่ะ
หญิงเดือนบอกว่าตนหลบมาคนเดียว เพราะถ้าพี่ดาวมาคงไม่พ้นลอกแบบตน บอกว่าตนไม่อยากใส่ชุดซ้ำแบบพี่ดาว ถามว่าพี่ยศลองเสื้อเสร็จแล้วหรือ หลวงราชเอาตัวบังๆไว้บอกว่าเสร็จแล้วกำลังจะกลับกระทรวง หญิงเดือนพยายามดึงม่านออกบอกว่าอยากรู้ว่าพี่ยศตัดชุดอะไร จะได้เลือกผ้าเลือกแบบให้เข้ากัน
หญิงเดือนหลอกล่อจนเปิดม่านออกได้ หลวงราชตกใจแต่หญิงเดือนกลับไม่เห็นอะไรหันบอกหลวงราชว่าไม่เห็นมีอะไรสักหน่อย หลวงราชเลยผสมโรงว่าช่างรับไปแก้แล้ว
หญิงเดือนจึงควงหลวงราชกลับ ท่ามกลางความโล่งอกและแปลกใจของหลวงราช
ครู่หนึ่งพิกุลออกจากห้องลองเสื้อด้วยความแปลกใจว่าทำไมหญิงเดือนไม่เห็นตน หันมองกระจกอีกที เห็นเงาดำร่างหนึ่งซ้อนอยู่ด้านหลังตนและสลายตัวไปอย่างเร็ว
ooooooo
หญิงเดือนออกมาเลือกผ้ากับเจ้าของร้านที่เป็นชายจีน บอกว่าตนจะเอาผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสเท่านั้นผิดจากนี้ไม่เอา แล้วชี้ผ้าพับหนึ่งบอกว่าจะเอาพับนี้แล้วห้ามเอาไปตัดให้คนอื่นอีก เข้าใจไหม
เจ้าของร้านบอกว่าเห็นทีจะไม่ได้ พับนี้มีผู้หมายตาไว้แล้วและคงไม่พอตัดให้ใครอีก หญิงเดือนวางอำนาจ อวดรวย บอกว่าตนจะซื้อยกพับจะให้จ่ายเพิ่มสักกี่เท่า เจ้าของร้านบอกกี่เท่าก็ไม่ได้
หญิงเดือนคาดคั้นถามว่าใครกันที่มันหมายตาผ้าพับนี้ถึงยอมให้ตนไม่ได้ เจ้าของร้านบอกว่า
“คุณหญิงเกสรขอรับ”
หญิงเดือนหน้าเจื่อน พาลดุเจ้าของร้านว่าแล้วทำไมไม่บอกแต่แรก แล้วออดอ้อนหลวงราชว่า
“อย่าว่าเดือนนะเจ้าคะ ที่เดือนอยากได้ชุดสวยๆไปออกงานก็เพราะไม่อยากให้พี่ยศเสียเกียรติเจ้าค่ะ”
หลวงราชติงว่าแต่น้องเดือนก็ควรนึกถึงเกียรติของเจ้าของร้านด้วย มิใช่เอาแต่จะข่มเยี่ยงนี้ หญิงเดือนบอกว่ามิได้เจ้าค่ะ หลวงราชตัดบทว่าเลิกต่อความเถิด หญิงเดือนจึงบอกเจ้าของร้านว่าเลือกผ้าให้ด้วยก็แล้วกันแต่โน้มตัวกระซิบปรามกับเจ้าของร้านว่า
“อย่าให้ฉันเห็นว่าเอาไปตัดให้ใครอื่น นอกเสียจากคุณหญิงเกสรล่ะ!”
เจ้าของร้านรับคำอย่างนอบน้อม พอหญิงเดือนเดินออกไป เจ้าของร้านกับหลวงราชลอบสบตายิ้มให้อย่างรู้กัน
หลวงราชออกมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ ครู่หนึ่งจึงเห็นมุดพาพิกุลออกมา หลวงราชถามพิกุลว่าแม่เดือนไม่เห็นหล่อนจริงหรือ พิกุลบอกว่าไม่เห็นทั้งที่ตัวเองยังแปลกใจอยู่ เร่งหลวงราชให้รีบพาตนกลับเถิดได้เวลาต้องกลับไปซ้อมแล้ว
“วันนั้น...จะต้องมีแต่คนพูดถึงหล่อนเป็นแน่” หลวงราชบอกยิ้มๆ
พิกุลมองแปลกใจถามว่าคุณหลวงหมายถึงเรื่องอะไร หลวงราชโน้มตัวเข้าไปจะบอกแต่พิกุลหลบเสียก่อนเร่งให้รีบกลับเถิด หลวงราชจึงส่งสายตาให้มุดที่ยืนรออยู่ข้างนอกมาขับรถ
ooooooo
หลวงราชไปส่งพิกุลที่บ้านแล้วจึงขับรถออกไปเอง ไม่รู้ว่าคุณหญิงเกสรจิกตามองอยู่อย่างชิงชัง พอพิกุลจะไปที่เรือนจางวางก็ถูกคุณหญิงจิกเรียก “นังพิกุล!!!”
พอพิกุลหยุดหันไหว้ คุณหญิงก็ด่าสาด ว่ามารยาสาไถยหลอกลูกชายตนให้พาขึ้นรถคงไม่พ้นทำเรื่องบัดสีแน่ ครั้นพิกุลชี้แจงก็ถูกด่าอีไพร่ ไม่เจียมตัว อยากจะจับตายศให้อยู่หมัดแล้วขึ้นเป็นเมียเอก ฝันไปเถอะ
พิกุลอดกลั้นอย่างที่สุดขอให้คุณหญิงฟังตนบ้าง ถ้าไม่ฟังตนก็ถามจากคุณหลวงดูได้ คุณหลวงคงไม่ปด
“หุบปาก!!” คุณหญิงตวาดแล้วขุดคำจิกด่าอย่างสะใจ
พิกุลกลั้นน้ำตาเดินเข้าห้องนอน หยิบกล่องปี่มาเปิด ทันทีที่เปิดกล่องน้ำตาก็หยดลงที่ปี่ พิกุลหยิบปี่ขึ้นมาเช็ด ทันทีที่มือสัมผัสปี่ ลมอ่อนๆก็พัดเข้ามา พิกุลรู้สึกถึงความอบอุ่นอย่างประหลาด กอดปี่ไว้กับตัว ทันใดก็รู้สึกมีมือมาแตะที่ไหล่รูปลักษณ์คือมือของท่านจัน แต่พอหันมองเห็นเป็นเพียร
เพียรบอกว่านึกว่าจะกลับมาไม่ทันซ้อม จะหาเรื่องอ้างกับพ่อจางวางอยู่พอดี เพียรถามว่าคนของคุณหลวงทำอะไรหรือเปล่า พิกุลส่ายหน้า บอกแม่ว่าตนเพียงแต่ว้าวุ่นใจที่จะได้ออกงานของท่านเจ้าคุณเท่านั้น
“ไม่ได้ปิดแม่นะ”
“จ้ะ พิกุลเกรงว่าพวกฝรั่งจะไม่ชอบวงปี่พาทย์ของเรา แล้วท่านเจ้าคุณจะเสียหน้าไปด้วย”
“เอ็งนี่มันกลัวไม่เข้าเรื่อง มีปี่ท่านจันอยู่กับมือแล้วจะเกรงอะไรอีกล่ะ”
“จ้ะ มีปี่ท่านจันในมือ พิกุลจะไม่เกรงอะไรแล้ว”
พิกุลมองปี่ในมือรู้สึกถึงกระแสอบอุ่นที่ไม่อาจอธิบายได้
ooooooo
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...ที่กระทรวงต่างประเทศมีบรรยากาศจัดงานเลี้ยงหรูหราแบบไทยผสมฝรั่ง
จางวางพ่วงกำชับลูกวงให้สำแดงฝีมือให้เห็นว่าดนตรีปี่พาทย์ของไทยไม่น้อยหน้ากว่าแตรวงฝรั่งเลย
เอื้อยชะเง้อชะแง้คอยช่างเอาเสื้อผ้า จนเพียรถามว่าใส่ชุดนี้แล้วเล่นไม่เป็นหรือไง ครู่หนึ่งช่างเดินนำลูกน้องนำเสื้อผ้ามาส่งให้เพียร เอื้อยปราดเข้าไปดู ถามว่าทำไมของพิกุลไม่เหมือนของคนอื่น?
ที่สวนด้านนอกกระทรวงต่างประเทศ คุณหญิงเกสรให้สร้อยไปดูว่าหญิงดาวหญิงเดือนท่านอยู่ที่ไหนอยากเห็นว่างามแค่ไหน เจ้าคุณว่าออกงานฝรั่งคงไม่พ้นแต่งอย่างฝรั่ง ดีที่คุณหญิงไม่คิดจะแต่งอย่างฝรั่งด้วย
“ถ้านังลูกเจ๊กได้รับเชิญมาด้วย อิฉันก็คงไม่พ้นได้เห็นนางงิ้วมาป้วนเปี้ยนในงานฝรั่งเหมือนกันเจ้าค่ะ”
หลวงบำรุงเข้ามาไหว้ท่านเจ้าคุณ คืนนี้คุณหญิงเลยยกท่านเจ้าคุณให้คุณหลวงเพราะดูเข้าขากันดี
“กระผมห่างเหินจากเสียงปี่ของแม่พิกุลเสียนาน คืนนี้จะได้สมใจนะขอรับ” หลวงบำรุงเอ่ย
“จางวางพ่วงท่านซ้อมลูกวงทุกวัน คุณหลวงคงจะสมใจแน่ล่ะ”
หญิงเดือนหญิงดาวในชุดแบบฝรั่งเห็นคุณหญิงเกสรก็รีบเข้ามาไหว้ทักทาย หญิงเดือนเห็นผ้าตัดเสื้อของคุณหญิงก็นึกออกว่าเป็นผ้าพับเดียวกับที่เห็นในร้าน ดีที่ช่างบอกว่าผ้าพับนี้ไว้ตัดชุดให้คุณหญิงป้าเท่านั้น
ขณะคุณหญิงกับหญิงดาวหญิงเดือนกำลังทักทายกับแขกตามธรรมเนียมฝรั่งนั้น ข้าราชการผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นว่านั่นคุณสารภีควงมากับท่านเจ้าของห้างเสียด้วย ทั้งคุณหญิงและหญิงดาวกับหญิงเดือนมองขวับ เห็นสารภีในชุดฝรั่ง เข้ามากับฝรั่งที่แต่งตัวภูมิฐานดูมีตำแหน่งใหญ่โตก็ชักสีหน้าใส่
ข้าราชการผู้นั้นบอกว่าควงมากับเจ้าของห้างด้วย หญิงดาวเยาะเย้ยว่าคืนนี้คงได้คุยกันเมื่อยมือแน่
สารภีเข้ามาไหว้คุณหญิงและแนะนำฝรั่งให้รู้จักกับคุณหญิง คุณหญิงอึ้งไปนิดหนึ่งจึงยื่นมือไปเชกแฮนด์และยิ้มให้ฝรั่งตามมารยาท
หญิงดาวกับหญิงเดือนดูถูกสารีว่าพูดได้คำสองคำก็แค่นจะอวด แต่พอเห็นสารภีคุยกับฝรั่งคล่องก็ชักสีหน้าหมั่นไส้
สารภีพามิสเตอร์เคล้าส์ไปแนะนำแก่เจ้าคุณต่วนว่าเป็นนายห้างจากสิงคโปร์กำลังหาลู่ทางมาเปิดสาขาใหม่ในพระนคร เคล้าส์ฝากเนื้อฝากตัวเป็นภาษาไทย เจ้าคุณหยอกว่าคงได้ครูดีจึงเจรจาได้คล่องเช่นนี้
เคล้าส์ชื่นชมกับหลวงราชว่างานนี้ถูกตาต้องใจตนเสียทั้งนั้น ทำให้ตนรู้ว่าเป็นโอกาสใหม่ทางการค้า หวังว่ากิจการของตนจะได้รับการสนับสนุนจากท่านหลวงราชยิ้มรับตามมารยาท ว่าตนยินดีช่วยเต็มกำลังเท่าที่ทำได้ เคล้าส์ยกแก้วเชิญหลวงราชกับเจ้าคุณต่วนดื่ม
เสียงปี่พาทย์เริ่มบรรเลงทุกคนหันมองไปที่เวทีพิกุลถูกจัดให้นั่งในที่โดดเด่น งามทั้งเสื้อผ้าหน้าผม มีดอกปีบทัดดูเด่น
ตอนเย็นก่อนงานจะเริ่ม สร้อยเห็นพิกุลใส่เสื้อลูกไม้ก็หัวเราะเยาะบอกให้คุณหญิงว่าเอาขี้ริ้วมาตัดชุดแต่เห็นชุดของคุณหญิงแล้วใบ้กินสนิท หญิงเดือนมองชุดของพิกุลแล้วโวยว่าเป็นผ้าพับนั้นที่ช่างบอกว่าสำหรับชุดของคุณหญิงเท่านั้น เอะใจว่า “หรือว่าเป็นเพราะพี่ยศ!!”
คุณหญิงถามว่าตายศเกี่ยวอะไรด้วย หญิงเดือนเล่าอย่างเจ็บใจว่า
“เดือนพบพี่ยศที่ร้านนั้น นี่ไม่ได้หมายความว่าพี่ยศเป็นธุระเรื่องนี้ให้แม่นั่นนะเจ้าคะ”
คุณหญิงทบทวนถึงวันนั้นที่เห็นพิกุลลงจากรถคุยกับหลวงราชพักหนึ่งหลวงราชจึงขับรถออกไป พึมพำเครียด “วันนั้นตายศพามันไปตัดเสื้อรึ” มองไปเห็นหลวงราชมองพิกุลอย่างชื่นชม ถึงกับคำราม “ตายศ!!!”
ทั้งคุณหญิง หญิงดาว หญิงเดือน เห็นหลวงราชมองพิกุลอย่างชื่นชม ต่างโกรธจัด
เคล้าส์สนใจพิกุลเป็นพิเศษ เอ่ยอย่างชื่นชมว่าสตรีสยามมิได้งดงามแต่รูปเท่านั้น หากยังทัดเทียมชายอย่างน่าอัศจรรย์กระทั่งทำเรื่องยากๆเช่นนี้ สารภีนึกขวาง ยิ่งเห็นหลวงราชใจจดจ่ออยู่กับพิกุลก็ยิ่งโกรธ
ผิดกับเจ้าคุณพิชัยและหลวงบำรุงต่างชื่นชมเสียงปี่ของพิกุล เจ้าคุณเอ่ยว่า
“ปี่ท่านจันกับแม่พิกุลเหมือนจะแยกกันไม่ออกไปเสียแล้วใช่รึไม่ล่ะคุณหลวง”
อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 4 วันที่ 30 ต.ค.61
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุนละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ