อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 5 วันที่ 31 ต.ค.61
“ปี่ท่านจันกับแม่พิกุลเหมือนจะแยกกันไม่ออกไปเสียแล้วใช่รึไม่ล่ะคุณหลวง”“กระผมออกจะอิจฉาท่านเจ้าคุณและคุณยศนักขอรับ ที่ได้รับสุนทรีย์จากเสียงปี่ของแม่พิกุลทุกเมื่อเชื่อวัน...เป็นกระผมคงสับสนว่าหลงเสียงปี่หรือคนปี่กันแน่” หลวงบำรุงแซวหยอดท้าย
พอดีปี่พาทย์บรรเลงจบลง เสียงปรบมือฮือฮาทั้งงาน เจ้าคุณเห็นแล้วยิ้มปลื้มที่แขกพอใจมาก
เจ้าคุณต่วนพอใจมากจนขอให้คนปี่เดี่ยวอีกสักเพลงเพื่อความเพลิดเพลินจำเริญใจของแขกเรา เรียกบ่าวมาส่งถุงเงินให้บอกว่า “ฉันฝากให้คุณหลวงไปมอบให้จางวางกับแม่พิกุลที”
หลวงราชเอาถุงเงินไปให้จางวางพ่วงแล้วไปหยุดที่พิกุลหยิบถุงเงินให้ บอกว่าเจ้านายตนให้เป็นสินน้ำใจ พิกุลไหว้รับถุงเงินแต่หลวงราชยังไม่ปล่อยมือบอกว่า
“วันนี้มีแต่คนชื่นชมฝีมือหล่อนนะ...ก็มีแต่ฉันที่ไม่เห็นอย่างคนอื่น” พิกุลหน้าเจื่อนบอกว่าตนจะตั้งใจมากกว่านี้ “ฉันไม่เห็นว่าหล่อนเป่าปี่เพราะคืนนี้หล่อนงามจนฉันแทบไม่ได้ฟังปี่ของหล่อนต่างหาก แม่พิกุล”
จางวางพ่วงเห็นหลวงราชยังอยู่หน้าเวทีก็ไม่พอใจ สั่งพิกุลว่าเริ่มได้แล้ว หลวงราชรู้ว่าถูกไล่จึงผละไป พิกุลเตรียมตัวจะเริ่มเดี่ยวปี่ แต่ดอกปีบที่ทัดอยู่ร่วงลงมาที่ตัก ไม่ทันที่พิกุลจะหยิบหลวงราชก็หยิบเสียก่อน
“อย่าเก็บไปแซมผมอีกเลย หล่อนจะหมดสวยเพราะปีบโรยดอกนี้...ให้ฉันเป็นธุระเก็บไว้เองเถิด” แล้วหลวงราชก็เก็บดอกปีบนั้นเดินออกไป สารภีจับตาดูหลวงราชตลอดเวลาเห็นหลวงราชเอาดอกปีบเหน็บกระเป๋าเสื้อก็รู้ว่าดอกปีบมีความหมายกับหลวงราชอย่างไร ยิ่งไม่พอใจ
ส่วนคุณหญิงนอกจากตัวเองจะเจ็บใจเรื่องผ้าตัดชุดแล้ว เมื่อถูกหญิงดาวกับหญิงเดือนเป่าหูยุยงว่าพิกุลหยามน้ำหน้าคุณป้าและคุณหลวงก็มีใจให้มันก็ยิ่งแค้น
ขณะที่พิกุลจะเข้าห้องรับรองนั่นเองสร้อยก็มาบอกว่าคุณหญิงให้มาตามท่านจะตกรางวัลให้รีบตามมา
พิกุลถูกหลอกไปในมุมลับตา ถูกหญิงดาวกับสร้อยจับตัวไว้แล้วฉีกแขนเสื้อพิกุลออก บอกว่าผ้าพับนี้ต้องเป็นของคุณหญิงป้ากับตนเท่านั้น แล้วจะฉีกเสื้อพิกุลอีก คุณหญิงเข้ามาห้ามว่าเท่านี้มันก็อายพอแล้ว แล้วไล่พิกุลไปให้พ้น
แต่พอพิกุลเดินกลับก็ถูกเคล้าส์ที่เมามายกับลูกน้องดักจะทำมิดีมิร้าย พิกุลตกใจตบหน้าเคล้าส์ป้องกันตัวแล้ววิ่งหนี ถูกลูกน้องเคล้าส์ดักหน้าดักหลังและจับตัวไว้ พิกุลร้องขอความช่วยเหลือดิ้นรนสุดแรง
ทันใดนั้นสินพุ่งเข้ากระชากลูกน้องเคล้าส์ออกมาชกจนมันคว่ำ พิกุลวิ่งหนี เคล้าส์จะตามไปก็ถูกหลวงราชขวางชกเคล้าส์ล้มแล้วกอดปลอบพิกุล
“ฉันอยู่ตรงนี้แล้วพิกุล ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัว”
พิกุลกอดหลวงราชไว้แน่นด้วยความกลัว หญิงดาวกับหญิงเดือนมาเห็นแผดเสียง
“พี่ยศ!!!”
หลวงราชได้ยินแต่ไม่สนใจ ยังคงกอดปลอบพิกุลอยู่อย่างนั้น
เรื่องถึงเจ้าคุณต่วน เคล้าส์โวยวายว่าตนสงสารที่เสื้อผ้าพิกุลขาดแต่กลับถูกตบหน้า คุณหญิงเกสรมาผสมโรงว่าพิกุลสมยอมฝรั่งดั้งขอ เคล้าส์ก็ว่าพิกุลมีใจให้ตนกระทั่งส่งดอกไม้ให้ พิกุลบอกว่าตนถูกใส่ความ หลวงราชทนฟังไม่ได้ชกเคล้าส์จนหงายหลัง บอกทุกคนว่า
“กระผมขอปกป้องศักดิ์ศรีของพิกุลด้วยวิธีนี้ขอรับ” แล้วกระหนาบสารภีว่า “เป็นหน้าที่ของหล่อนที่ต้องดูแลไอ้ฝรั่งขี้เมาให้ได้สตินะสารภี”
เจ้าคุณต่วนสั่งหลวงราชให้ตามตนไป เรามีเรื่องต้องคุยกัน สารภีจับตามองพิกุลคิดอะไรบางอย่าง
ooooooo
จากเหตุการณ์คืนนี้ เอื้อยบอกว่าถ้าไม่ได้คุณหลวงช่วยจะเป็นอย่างไร เพียรบอกให้คิดเสียว่าคุณหลวงทำอย่างเจ้านายกับลูกน้อง เอื้อยว่าแม่เพียรอย่าทำไม่รู้ไม่ชี้เลยเห็นอยู่ว่าพิกุลกับคุณหลวงมีใจให้กัน
“แล้วจะให้ข้าทำอย่างไร ตรองดูให้รอบด้านเถอะนังเอื้อย เอ็งกล้าหักกับพ่อจางวางรึ”
สินมาแอบฟังอยู่ใต้ถุนตรงหน้าต่าง จางวางมาเจอสินคุกเข่าลงทันที จางวางบอกสินว่าถ้าเป็นห่วงพิกุลก็ไม่สมควรมาอยู่ตรงนี้ สินน้อยใจบอกว่าตนคงไม่มีหน้าไปปลอบพิกุล ตนดูแลพิกุลไม่ได้อย่างคุณหลวง
“ไม่ใช่เวลาที่เอ็งจะยอมแพ้...ไม่มีใครคู่ควรกับเอ็งเท่าพิกุลอีกแล้ว จำไว้”
พูดแล้วจางวางออกไปเลย ทิ้งให้สินอยู่กับความมืดและสิ้นหวังอยู่ตรงนั้น
รุ่งเช้าสร้อยกับบ่าวสองคนก็ไปคุยกันที่ข้างห้องครัวเรือนจางวางอย่างจงใจให้ทุกคนได้ยิน ด่ากระทบพิกุลว่าลักกินขโมยกิน ทำเป็นซักไซ้กันว่าใครแล้วเอ่ยดังๆว่า “ก็นังคนปี่บ้านนอกนั่นไง”
เอื้อยทนไม่ไหวเอาน้ำสาดใส่ทั้งสามถูกเพียรดุก็เถียงว่าพวกนั้นมันด่าพิกุลก่อน เพียรบอกว่าให้ทำหูทวนลมเสียบ้าง
ฝ่ายจีนพ้งถามเรื่องราวจากสารภีแล้วบอกให้สารภีไปหาท่านเจ้าคุณแก้ตัวเรื่องคู่ควงตัวเองเสียก่อนที่ท่านจะเรียกถาม สารภีรับคำแล้วไปที่บ้านคุณหลวงพิชัย ปรากฏว่าหลวงราชยังไม่กลับ เจ้าคุณพิชัยถาม สารภีว่าคิดอย่างไรที่เจ้ายศปกป้องพิกุลต่อหน้าหล่อน
“สารภีเข้าใจหัวอกของคุณยศว่าต้องปกป้องคนของเราเสียก่อนเท่านั้น มิได้คิดเป็นอื่นเจ้าค่ะ”
เจ้าคุณชมว่าสารภีช่างใจกว้างไม่แพ้เตี่ยหล่อนเลย พอดีหลวงราชกลับมา เจ้าคุณถามว่าเจ้าคุณต่วนว่าอย่างไรบ้าง หลวงราชยิ้มเจื่อนบอกว่า
“กระผมถูกปลดจากราชการแล้วขอรับ”
เจ้าคุณพิชัยกับสารภีต่างตกตะลึงกับข่าวนี้!
พอคุณหญิงรู้ก็ไปด่าพิกุลว่านังกาลกิณี เป็นเหตุให้หลวงราชถูกปลดจากราชการ พุ่งเข้าตบพิกุลฉาดใหญ่แต่เพียรปราดเข้าปกป้องพิกุลเลยโดนตบแทน พอคุณหญิงจะตบซ้ำถูกจางวางพ่วงยกไม้เท้ากั้นไว้
คุณหญิงตวาดว่าอย่าคิดว่าเจ้าคุณจะเข้าข้างไปตลอด คราวนี้ไม่ปล่อยแน่เตรียมเก็บข้าวของกลับบ้านได้เลย เพียรบอกว่าตนก็ไม่อยากอยู่หรอก พอดีเจ้าคุณเข้ามาปรามคุณหญิงให้พอได้แล้ว คุณหญิงไม่ยอมจนกว่าพวกนี้จะไป เจ้าคุณบอกว่าตนเป็นคนให้จางวางมาใครก็ไม่มีสิทธิ์ไล่ บอกคุณหญิงว่า
“ถ้าตำตาคุณหญิงนัก ก็ไปให้พ้นเสียเองเถิด”
คุณหญิงเจ็บใจมาก ด่าว่าจนเจ้าคุณสั่งให้สร้อยพาคุณหญิงกลับตึกใหญ่เดี๋ยวนี้
เพียรตัดสินใจจะกลับบ้าน จางวางก็บอกเจ้าคุณว่าตนพยายามอดกลั้นเพราะเห็นว่าเจ้าคุณเป็นผู้มีพระคุณแต่คุณหญิงย่ามใจลงมือกับลูกต่อหน้าแม่จะวางใจได้หรือว่าจะไม่เกิดเรื่องชั่วช้ายิ่งกว่านี้
เจ้าคุณรับว่าตนผิดเองที่ไม่ทันห้ามคนของตัวเอง พิกุลแทรกขึ้นอย่างอัดอั้นว่าตนก็ผิดที่ทำให้คุณหลวงถูกปลดจากราชการเพราะปกป้องตน ก็ไม่พ้นเป็นคนเนรคุณเช่นกัน ถ้าเรากลับไปก็เท่ากับหนีเอาตัวรอด เราหนีได้แต่ผิดนั้นจะตามทิ่มแทงไปตลอดมีแต่จะทรมานเท่านั้น
“หล่อนดีกับเจ้ายศเหลือเกินแม่พิกุล” เจ้าคุณเอ่ยอย่างซึ้งใจ จางวางฟังแล้วยิ่งคิดมาก
หลวงราชกลับห้องนอนก็ครุ่นคิดถึงเรื่องที่คุยกันที่ห้องทำงานเจ้าคุณต่วนเมื่อคืน มีหลวงบริบาลกับหมอฝรั่งร่วมคุยด้วย หลวงราชถามว่าผลการชันสูตรเป็นอย่างไร
หมอฝรั่งกับหลวงบริบาลบอกว่าบาดแผลที่ถูกแทงมีสองลักษณะคือแผลจากของแหลมอย่างกรรไกรขาเดียวอีกแผลที่แทงตื้นกว่าแต่ตรงจุดสำคัญที่ทำให้ถึงตาย ลักษณะของแผลเป็นอาวุธที่เทียบเหมือนแผลที่เกิดจากการแทงของลิ่ม
หลวงราชจึงเสนอเจ้าคุณต่วนว่าขอให้ตนออกจากราชการให้คนเข้าใจว่าตนตัดขาดจากคดีที่กำลังสืบอยู่เพื่อหลอกจีนพ้งกับสารภี เจ้าคุณต่วนเห็นดีถ้าจะทำให้คุณหลวงทำงานง่ายขึ้น ถามหยอกว่า
“ไม่อยากให้แม่พิกุลไขว้เขวไปกว่านี้ใช่หรือไม่”
“ขอรับท่านเจ้าคุณ” หลวงราชยิ้มรับ แต่เมื่อกลับมาคิดก็ภาวนาให้พิกุลอย่าเพิ่งน้อยใจไปนักเลย...
ooooooo
คุณหญิงเกสรชักสีหน้าเมื่อถูกเจ้าคุณพิชัยตำหนิ โดยมีหญิงดาวกับหญิงเดือนซุบซิบกับสร้อยอยู่มุมหนึ่ง
“ลูกยศถูกปลดจากราชการเพราะนังคนปี่ของคุณพี่ อิฉันก็ต้องสั่งสอนเท่านั้นยังไม่สาสมด้วยซ้ำ”
“คุณหญิงจะสั่งสอนใครก็ต้องไถ่ถามกันเสียก่อน มิใช่ลงมือเพราะโทสะ อย่างนี้ไม่พ้นรังแกเด็ก”
คุณหญิงหาว่าพิกุลระริกระรี้เข้าหาฝรั่ง หาเรื่องใส่ตัวจนเดือดร้อนถึงตายศ คุณพี่ต้องเลิกปกป้องและไล่พวกมันกลับสุพรรณเสีย เจ้าคุณถามว่าคุณหญิงรู้ได้อย่างไรว่าพิกุลเข้าหาฝรั่ง เห็นรึ?
“แล้วคุณพี่คิดว่าฝรั่งหน้าที่การงานใหญ่โตเยี่ยงนั้น จะลดตัวลงมาหาคนของคุณพี่หรือเจ้าคะ ถ้าไม่ให้ท่า ที่ไหนเขาจะปรายตามองมัน”
เจ้าคุณโมโหพูดอย่างเหลืออดว่าอย่าดูถูกแม่พิกุลอย่างนั้น คุณหญิงยิ่งโมโห โต้อย่างไม่เกรงใจว่า
“มันไม่ได้สูงส่งมาจากไหน ทำไมอิฉันจะดูถูกไม่ได้ คุณพี่หลงมันหัวปักหัวปําจนไม่เห็นหัวอิฉันแล้ว รู้ตัวไหมเจ้าคะ”
หญิงดาวกับหญิงเดือนฟังอยู่ ต่างทำหน้าไม่ถูกที่เห็นเจ้าคุณกับคุณหญิงมีปากเสียงกันต่อหน้าตน แต่เจ้าคุณไม่สนใจ พูดอย่างหมดความอดทนว่า
“หากไม่คุยด้วยเหตุผล ก็หมดประโยชน์จะพูดจากัน หากคุณหญิงแตะคนของฉันอีกฉันก็จะปกป้องคนของฉันโดยไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น”
“อิฉันก็ไม่ไว้หน้ามันเหมือนกัน ดูไปเถอะเจ้าค่ะ อิฉันจะทำให้มันทนอยู่ไม่ได้ มันต้องรุ่มร้อนยิ่งกว่าอิฉัน”
คุณหญิงสะบัดออกไปอย่างถือดี สร้อยรีบสะกิดให้หญิงเดือนกับหญิงดาวตามคุณหญิงไป
เจ้าคุณพิชัยมองตามคุณหญิงไปอย่างกังวล ไม่รู้ว่าคุณหญิงจะมีแผนอะไรอีก
พอไปถึงศาลากลางสวน คุณหญิงก็บอกหญิงดาวกับหญิงเดือนว่าให้ประกาศให้ทุกคนรู้ไปเลยว่านังคนปี่มันถูกกระทำย่ำยีอย่างไร หญิงดาวบอกว่าตนจะกระพือข่าวให้แม่นั่นอับอายจนออกงานที่ไหนไม่ได้เลย
คุณหญิงมองไปที่ตึกใหญ่เห็นเจ้าคุณยังมองมาอยู่ก็เชิดใส่พูดอย่างสาแก่ใจว่า
“อิฉันจะคอยดูว่าคนของคุณพี่มันจะมีน้ำอด น้ำทนได้ถึงไหน ถ้าไม่แจ้นกลับบ้านนอกก็ให้มันรู้ไป”
ooooooo
พุดกรองได้หนูตะเภามาเลี้ยง ป้อนหญ้าให้มันกิน อวดนิ่มว่ามันน่ารักน่าชังเหลือเกิน นิ่มบอกว่าเลี้ยงให้ดีอย่าให้หลุดเพ่นพ่านที่ไหน พุดกรองถามแม่ว่าจะเอาไปอวดคุณสารภีดีไหม คุณสารภีต้องชอบแน่
นิ่มติงว่าเดี๋ยวเขาจะรำคาญเอา แต่เห็นลูกสีหน้าผิดหวังก็ใจอ่อนพยักหน้าอนุญาต และจับตาดูปฏิกิริยาของสารภี ปรากฏว่าสารภีตวาดให้เอาออกไป สกปรก!
กลางวันวันนี้ สารภีให้ชบานวดเท้าให้ แต่สีหน้าเคร่งเครียดเพราะยังอารมณ์ค้างจากหลวงราช ชบาคิดว่าตนนวดไม่แรงพอจึงกดลงไปอีกจนสารภีชักเท้าออกตวาด “เอาตีนนวดหรือไง!”
สารภีเอากล่องใส่ผ้าปักขว้างใส่ชบาระบายอารมณ์ แค่นั้นไม่พอ ให้ไปหยิบไม้นวดเท้ามา สั่งให้อ้าปากแล้วเอาไม้นวดเท้ายัดปากชบา แต่มีบางอย่างสะดุดตา สารภีชะงักมองเห็นหนูตะเภาของพุดกรองอยู่มุมห้อง สารภีไม่รู้ว่ามันเข้ามาได้ยังไง แต่มองหนูตะเภาอย่างหมายมาดแล้วมองชบายิ้มเย็น ชบาเสียววาบไม่รู้ว่าสารภีจะทำอะไรตน
ที่บ้านเจ้าคุณพิชัย...พิกุลไปที่ท่าน้ำเพราะคนของหลวงราชบอกว่าให้ไปพบท่านเจ้าคุณ แต่กลายเป็นหลวงราช พิกุลหน้าตึงรู้ว่าถูกหลอก หลวงราชชี้แจงยิ้มแย้มว่าตนอ้างคุณพ่อเพราะเกรงจางวางจะไม่อนุญาตไม่ได้หมายจะหลอกแม้แต่น้อย ตัดพ้อ “ไม่เห็นใจฉันรึ”
พิกุลบอกว่าเห็นใจที่คุณหลวงถูกปลดจากราชการ ถามว่าจะให้ชดใช้อย่างไรรึ หลวงราชบอกว่าหล่อนไม่ได้ทำอะไรผิดจะต้องชดใช้เรื่องอะไร บอกว่าตนทวงให้หล่อน “ห่วงใย” ตนบ้าง ไม่ใช่แค่ “เห็นใจ”
ถูกหลวงราชรุก พิกุลตอบรับเขินๆ ถามว่ามีเรื่องคุยเท่านี้หรือ หลวงราชย้ำถามว่าห่วงตนหรือไม่ห่วง
“ห่วง...เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้น ฉันก็ขอโทษที่ทำให้หล่อนเป็นห่วง” หลวงราชจ้องตาลึกซึ้ง “วางใจเถิดว่าไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเรื่องหน้าที่การงานแม้แต่น้อย แล้วฉันจะอธิบายทุกอย่างเมื่อถึงเวลา โปรดแน่ใจเถิดว่า ฉันไม่ได้เต็มใจจะปดใคร โดยเฉพาะหล่อน”
“เจ้าค่ะ อิฉันเชื่อใจคุณหลวง”
“เชื่อใจฉัน ไม่แต่เรื่องนี้ใช่รึไม่”
พิกุลรู้สึกถึงความหมายในคำถาม เมื่อหลวงราชขยับเข้าใกล้ พิกุลยิ้มให้ตายใจ แล้วจึงตอบ
“เชื่อใจแต่เรื่องนี้เจ้าค่ะ” แล้วเดินจากท่าน้ำไปเลย
หลวงราชผิดหวังในคำตอบ แต่ก็ยิ้มพอใจที่ได้ใกล้ชิดพิกุลตามลำพัง...แม้เพียงน้อยนิด...
ooooooo
อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 5 วันที่ 31 ต.ค.61
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุนละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ