อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 13 วันที่ 8 มี.ค. 56
วันต่อมากระเต็นค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้นมา กระเต็นในสภาพขมุกขมอมค่อยๆ ยันตัวเองขึ้นนั่ง มือกุมท้องเพราะยังปวดระบมจากการโดนบิดไส้ กระเต็นมองไปรอบๆ เห็นเป็นบริเวณหน้ารั้วบ้านตัวเองก็แปลกใจ“ทำไม ทำไมเราถึงกลับมาอยู่ที่นี่ได้” กระเต็นพยายามคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา กระเต็นค่อยๆ ยืนขึ้นพลางเรียกไปในบ้าน “รัก ยม”
ทันใดก็มีมือเข้ามาปิดปากกระเต็นเอาไว้ กระเต็นตกใจดิ้นใหญ่ ตัวกระเต็นถูกลากเข้ามุมลับตาข้างบ้านไปกระเต็นเอาศอกกระทุ้งท้องหาญมือหาญหลุด พลิกตัวกลับ ตั้งท่าจะสู้ แต่แล้วต้องแปลกใจ
“พ่อหาญ”
“ข้าเอง โชคดีที่ข้ากลับมาเอาตะกรุด ถึงได้เจอเอ็งเข้า เราต้องรีบไปจากที่นี่ ตอนนี้สายตำรวจมีอยู่เต็มเมือง”
“เป็นไงบ้าง ลูกสะใภ้”
กระเต็นหันมองไปตามเสียง เห็นยิ่งยศถึงกับอึ้ง
“ผู้การฯ ยิ่งยศ”
กระเต็นตะลึง
หาญกับยิ่งยศพากระเต็นมาที่กระท่อมกระถินหลังจากกระเต็นได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
“พ่อหาญไปที่ป่าอาถรรพ์ก็เพราะแบบนี้นี่เอง”
“แต่ข้ากลับมาช้าไป ไม่เช่นนั้นก็คงจะช่วยกล้าได้ทัน”
ยิ่งยศเข้ามา ยื่นถ้วยสมุนไพรให้กระเต็น
“ดื่มนี่ซะ อาคมที่ฉันกำกับไว้จะช่วยล้างพิษยาสั่งให้เธอได้” กระเต็นมองอย่างไม่ค่อยไว้ใจ ไม่กล้ารับมาดื่ม
“รับไปเถอะ ฉันไม่ใช่ยิ่งยศคนเดิมอีกต่อไปแล้ว”
กระเต็นรับถ้วยยาจากยิ่งยศ มองหาญ หาญพยักหน้าให้ กระเต็นตัดสินใจดื่ม ทันทีที่กระเต็นดื่มสมุนไพรเข้าไปก็เกิดแสงวาบขึ้นที่ท้องกระเต็น กระเต็นอ้วกออกมาเป็นน้ำสีดำ
“ยาสั่งจริงๆ”
“ไอ้พวกอวิชชา มันไม่รู้หรอกว่านรกน่ะน่ากลัวแค่ไหน”
“ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” หาญถามกระเต็นอย่างเป็นห่วง กระเต็นพยักหน้ารับ
“ขอบคุณนะคะ ผู้การฯ”
“กระเต็น ฉันรู้ว่าก่อนตายได้ทำผิดไว้มาก นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้ทำดีไถ่โทษ เชื่อฉัน ฉันกลับมาคราวนี้
ก็เพื่อช่วยหลานฉันให้ได้”
“พ่อหาญคะ แต่กล้าไม่ใช่...”
“ไม่ต้องกังวล เรื่องนั้นข้าบอกไอ้ยิ่งไปหมดแล้วว่ากล้าเป็นลูกเสือผาด”
กระเต็นมองไปที่ยิ่งยศ ยิ่งยศบอกกระเต็น
“มันไม่สำคัญหรอกว่ากล้ามันจะมาจากสายเลือดไหน ถ้ามันเป็นลูกเธอกับไอ้เพชรมันก็คือหลานของฉัน” กระเต็นได้ยินก็รู้สึกเชื่อใจยิ่งยศมากขึ้น “แต่ไอ้เพชรนี่สิไอ้ลูกตัวดี ถ้ามันยังอยู่ ฉันจะลากมาเตะมันซักป้าบ สองป้าบ มีบทเรียนที่เกศปิดบังว่ามันไม่ใช่ลูกของฉันอยู่แล้วแท้ๆ มันก็ยังจะทำแบบนี้อีก”
“นี่แหละมนุษย์ ทำผิดซ้ำผิดซากไม่รู้จักเรียนรู้ ถึงได้เวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่ใช่แค่เพชรหรอก ฉันเองก็ด้วยเหมือนกัน”
หาญเครียด กระเต็นกับยิ่งยศมองหาญอย่างเป็นห่วง ทันใดเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทั้งหมดเงียบ ระวังตัว หาญไปที่หลังประตู
“พวกเอ็งต้องการอะไร”
เสียงจุกดังเข้ามา
“ฉันมีผักสด แล้วก็ผลไม้มาขายจ๊ะ”
“พวกเราเอง” หาญบอกกระเต็นกับยิ่งยศแล้วเปิดประตู
จุกเดินนำเปี๊ยกและกระถินเข้ามา กระเต็นเห็นจุกก็ดีใจ
“ไอ้จุก”
จุกเห็นกระเต็นยืนอยู่ ดีใจมาก ทั้งสองเดินเข้าหากัน
“พี่เต็น พี่หนีพวกมันมาได้แล้ว พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วกล้าล่ะพี่ กล้าอยู่ไหน”
เปี๊ยกเข้ามาถามสมทบ
“พี่กล้าล่ะครับน้า”
กระเต็นน้ำตาคลอ ส่ายหน้า เปี๊ยกกับจุกอึ้ง กระเต็นรู้สึกแย่เป็นห่วงกล้ามาก
“น้าไม่รู้ น้ายังไม่ได้เจอกล้าเลย”
“คุณน้า”
กระเต็นเงยหน้ามองเห็นราชาวดีเดินเข้ามา
“ราชาวดี นี่มันอะไรกันคะ ทำไมยัยเด็กคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย”
“กระเต็น ใจเย็นก่อน”
กระเต็นจ้องราชาวดีด้วยความแค้นก่อนจะเดินปรี่เข้าไปตบราชาวดีทันที ทุกคนอึ้ง ราชาวดีน้ำตาคลอ “คุณน้า”
“ไม่ต้องมาสำออย แค่นี้มันยังน้อยไปกับสิ่งที่เธอทำกับลูกฉัน เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอเธอคนเดียว”
หาญเข้าไปขวางกระเต็นไว้
“ใจเย็นๆ ก่อน เอ็งจะไปโทษราชาวดีไม่ได้ อย่าลืมสิว่ากล้าเองมันก็วู่วาม ทำอะไรไม่ยั้งคิดเหมือนกัน”
กระเต็นขยับไปนั่งอย่างโมโห
“อย่าห้ามคุณน้าเลยค่ะ วดีโดนตบซะบ้างมันก็สมควรแล้ว”
หาญขยับออกมองราชาวดี
“วดี”
ราชาวดีนั่งลงแล้วก้มกราบที่ตักกระเต็น กระเต็นอึ้งแต่ก็ขยับตัวหนี มองโกรธๆ
“คุณน้าคะ หนูขอโทษ หนูมันอ่อนต่อโลกเหมือนอย่างที่คุณน้าว่า ถ้าหนูคิดให้ดีซักนิดก็คงไม่โง่ไปหลงเชื่อคนชั่วอย่างพ่อเลี้ยง แต่ตอนนี้ความดีของพี่กล้าทำให้หนูตาสว่าง หนูเชื่อในตัวเค้า เชื่อว่าเค้าจะไม่มีวันทำให้คนที่รักเค้า เสียใจเด็ดขาด”
ราชาวดีมองกระเต็นด้วยความจริงใจ น้ำตาไหลพราก ทุกคนเงียบกริบมองไปที่กระเต็นว่าจะเอายังไง กระเต็นเริ่มใจเย็นลง แต่ยังเชิดใส่ราชาวดี
ที่พักขุนโชติ กล้านั่งขัดสมาธิ ถอดเสื้อ หลับตา พนมมือ ขุนโชติจุดธูปเทียน บูชา มีผ้ายันต์ลายอิติปิโสแปดทิศวางอยู่บนพานตรงหน้า
“ข้าจำได้ว่าเอ็งมียันต์อิติปิโสแปดทิศคุ้มตัวอยู่ เมื่อเอ็งเป็นศิษย์ข้า ข้าจักเป่ายันต์นี้คืนให้แก่เอ็ง”
ขุนโชติพนมมือว่าคาถา เป่ามนต์ ลายยันต์ลอยออกจากผ้าหายเข้าไปในหน้าอกกล้า กล้าลืมตาขึ้น รู้สึกตัวว่ามีพละกำลัง
กล้ากับเสือไทวิ่งเข้ามาจากคนละข้างแล้วปะทะกันด้วยอาวุธ ทั้งคู่กำลังต่อสู้กันอยู่ต่อหน้าขุนโชติ เสือไทเหวี่ยงขวานโจมตีใส่กล้าอย่างดุดัน กล้าได้แต่ตั้งรับเพราะไม่ชินกับอาวุธ กล้าได้จังหวะถีบเสือไทผงะไปแล้วตามเข้าซ้ำ เสือไทม้วนตัวหลบฉิวเฉียด
กล้ายิ่งฟันยิ่งฮึกเหิมกับพลังของดาบ อักขระสีเลือดบนดาบเรืองแสงขึ้นแว่บนึง แววตากล้ากร้าว เหมือนขาดสติ คุมตัวเองไม่ได้ โจมตีใส่เสือไทอย่างดุดัน ขุนโชติรู้ว่ากล้าเริ่มถูกพลังของดาบควบคุมจึงยิ้มอย่างพอใจ เสือไทตั้งขวานขึ้นรับ ถูกดาบประจุพรายฟันจนขวานหักสองท่อน เสือไทตกใจคิดว่าไม่รอด ขุนโชติรีบห้าม
“หยุดได้แล้ว”
กล้าชะงัก ยั้งมือไว้ทัน อึ้ง ได้สติ สีหน้าเครียด รีบหันหลังกลับ แต่เสือไทยังโกรธและเสียหน้าจึงชักปืนที่เหน็บไว้ยิง กระสุนพุ่งเข้าหากล้า กล้าเซแต่กระสุนไม่ระคายผิว ขุนโชติตบเสือไทกระเด็น
“ข้าเกลียดนักพวกหมาลอบกัด”
“ถ้าออกปล้นจริง พวกโปลิศมันไม่ปรานีเราดอก พี่ก็แจ้งเรื่องนี้ดี”
ขุนโชติโมโหเงื้อกงเล็บจะตะปบเสือไท แต่กล้าดึงมือไว้ทัน
“ถึงจะแค่ประลองกัน แต่เสือไทก็พูดถูก ฉันจะประมาทไม่ได้แม้เสี้ยววินาที มีพวกลอบกัดก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้เก่งเร็วๆ”
“ฮ่ะๆ ดี สมเป็นเสือกล้า ต่อแต่นี้ ดาบประจุพรายคู่นี้จักเป็นอาวุธคู่กายของเอ็ง”
เสือไทอึ้ง แค้น
“ขอบคุณ อาจารย์”
“พี่โชติ ฝีมืออย่างมันยังไม่คู่ควรเป็นเจ้าของดาบ”
“หึหึ เอ็งไม่ต้องเดือดร้อน ไอ้ไท ข้าจักให้ไอ้กล้าได้สำแดงฝีมือ”
คืนนั้นที่บ้านเศรษฐีคนหนึ่ง เศรษฐีอยู่ในห้องทำงานเก็บของเสร็จ ดับไฟ แล้วปิดประตูห้องเดินออกไป กล้าสะพายดาบค่อยๆ ปรากฏร่างขึ้นด้วยคาถากำบังกาย แล้วเดินตรงไปยังตู้เซฟ กล้าร่ายคาถาสะเดาะห์กลอน ลูกบิดรหัสเซฟเคลื่อนที่ได้เอง จนกระทั่งดังคลิ๊ก เปิดออก
กล้าเห็นสมบัติมีค่าอยู่ภายในตู้เซฟ กล้ากวาดของมีค่าใส่ถุงผ้าจนหมด ทันใดประตูห้องก็เปิดออกไฟสว่าง เศรษฐีกลับเข้ามาในห้องพร้อมลูกน้อง
“แกเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง”
“ฉันเสือกล้า สมบัติทั้งหมดของแกฉันขอ”
“มันปล้นกันนี่หว่า เฮ้ยจัดการ”
ลูกน้องเศรษฐีพุ่งเข้ามาสู้กับกล้า แต่ถูกกล้าอัดกลับจนน่วม เศรษฐีชักปืนจะยิงแต่แล้วร่างของกล้าก็หายไปอีกครั้ง เศรษฐีกับลูกน้องงง มองหาแล้วเศรษฐีก็เห็นกล้าปรากฎร่างขึ้นนอกห้อง
“มันอยู่นั่น”
กล้าหนีวิ่งเข้ามาในโถง ลูกน้องเศรษฐีไล่ตามหลัง ยิงแต่กระสุนไม่เข้า ลูกน้องคว้าเก้าอี้ฟาด กล้าชักดาบรับขาดสะบั้น ลูกน้องผงะหลายหลัง กล้าจะฟันซ้ำอย่างเมามันแต่สำนึกดีแรงกว่าจึงชะงัก เปลี่ยนเป็นเอาด้ามดาบตีลูกน้องทรุด เศรษฐีวิ่งเข้ามา ยิงกล้าแต่ไม่ถูก
ทันใดนั้นขุนโชติกับเสือไทก็ปรากฎตัวขึ้น เสือไทซัดจนปืนในมือเศรษฐีกระเด็น เสือไทเงื้อขวานจะฟันแต่กล้าดึงห้ามเอาไว้
“อย่า เราตกลงกันแล้วว่าต้องไม่มีใครตาย”
เสือไทผลักเศรษฐีไปรวมกับลูกน้อง ทั้งสองหวาดกลัว
“แต่มันจำหน้าพวกเราได้ จะให้รอดได้เยี่ยงไร”
กล้าร่ายมนต์แล้วกวาดมือไปตรงหน้าเศรษฐีกับลูกน้อง สักพักทั้งคู่ก็หลับใหล
“คาถาลืมจิต เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ริเป็นโจรต้องใช้สมองด้วยไม่ใช่มีแต่กำลัง”
เสือไทขัดใจ โกรธกล้า
“นี่เอ็งด่าข้า”
แต่ขุนโชติกลับหัวเราะชอบใจ
“ที่ไอ้กล้าพูดมันก็ถูก สมกับเป็นศิษย์ข้า เอ็งอย่าเคืองมันเลย” ขุนโขติบอกเสือไท
“ฉันสัญญาว่าจะปล้น แต่จะไม่ยอมทำตามที่ใครบังคับ จะฆ่าคนก็ต่อเมื่อจำเป็น” กล้าจ้องหน้าเสือไทแล้วเดินออกไป เสือไทมองตามยิ่งแค้น ขุนโชติชื่นชม
ของมีค่าทั้งหมดถูกเทลงบนโต๊ะตรงหน้าอาจารย์ยอดกับภูมินทร์
“สมบัติพวกนี้พี่โชติยกให้เป็นของพวกเอ็ง”
อาจารย์ยอดยิ้มกริ่ม แล้วรีบเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
“แต่พวกข้าไม่ได้ไปปล้นด้วย”
“ถึงพวกเอ็งจะไม่ได้ออกปล้นกับข้า แต่มีที่พักพิงให้ข้าจึงต้องสนองคุณ”
“สมแล้วที่ท่านเป็นขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ น้ำใจท่านช่างไพศาลนัก”
ขุนโชติหัวเราะพอใจ ภูมินทร์หยิบของมีค่าขึ้นมาดู จ้องกล้าอย่างสะใจ
“ไม่เลวนี่เสือกล้า พ่อกับแม่ของแกคงภูมิใจในตัวลูกชายมาก”
กล้าเก็บความแค้นนิ่ง ไม่โต้ตอบอะไรแล้วหันไปพูดกับขุนโชติ
“งานของฉันเสร็จแล้ว ไม่อยากเสวนากับใครอีก” กล้าเหลือบมองภูมินทร์อย่างไม่แยแส “ฉันขอตัวไปพักผ่อน”
กล้ากลับออกไป ขุนโชติกับเสือไทตาม ภูมินทร์มองตามอย่างไม่พอใจ ปาของมีค่าในมือทิ้ง
“หนอย ผมไม่ต้องการของกระจอกพวกนี้ แต่ผมต้องการชีวิตไอ้กล้า”
“ไอ้กล้ามีขุนโชติคุ้มหัวอยู่ เราจะทำอะไรวู่วามตอนนี้คงไม่ได้”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ หรือว่าอาจารย์พอใจกับเศษสมบัติที่มันโยนให้”
“ไม่ใช่อย่างงั้นน่าพ่อเลี้ยง”
“อาจารย์จะยอมเป็นขี้ข้าไอ้โจรนั่นก็ตามใจ แต่ผมไม่ และถ้าผมหมดความอดทนขึ้นมาละก็ อย่าว่าผมใจร้าย”
ภูมินทร์ออกไป อาจารย์ยอดมองอย่างดูถูก
“ไอ้พ่อเลี้ยงกระจอก ข้าก็อยากจะรู้ว่าเอ็งจะมีปัญญาทำอะไรข้า”
วันต่อมาที่ห้องทำงานรองอำนวย รองอำนวยเปิดหีบไม้โบราณมีเงินอยู่ในหีบจนเต็ม มีจดหมายภูมินทร์อยู่ในหีบ
“ท่านตัดสินใจถูกแล้ว ต่อไปผมจะติดต่อกับท่านแทนเสี่ยไพบูลย์เอง ของนี่ถือว่าเป็นสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ”
รองอำนวยมองเงิน ยิ้มพอใจ เสียงเคาะประตูดังขึ้น รองอำนวยชะงัก อารมณ์เสีย หยิบหีบไม้ลงไปซ่อนในลิ้นชัก
“เข้ามา” ผู้บังคับการเปิดประตูเข้ามา “ที่กองปราบไม่มีคดีให้ทำแล้วรึไง”
“ท่านครับ ผมได้รับแจ้งว่ามีการออกหมายจับนายสิงห์แล้วก็คุณกระเต็นด้วย” ที่มือผู้บังคับการ มีประกาศจับที่มีรูปหาญอยู่ “ผมว่าเราอาจเข้าใจอะไรกันผิด นายสิงห์เป็น ญาติของคุณกระเต็น อีกอย่างผมว่าคุณกระเต็นคงไม่มีทางสมคบคิดกับนายกล้าแน่”
รองอำนวยมองผู้บังคับการอย่างไม่พอใจ
“นี่ลื้อกำลังจะว่าส่วนกลางทำงานผิดพลาดงั้นเหรอ แล้วรู้ไหมว่ามันบุกเข้ามาหาเรื่องอั๊วถึงที่นี่”
ผู้บังคับการหน้าซีด
“แต่ นายสิงค์คนนี้เคยช่วยผู้การสุพจน์คลี่คลายคดีมาหลายคดี ผมว่าเรื่องนี้มันแปลก .เราควรสอบสวนสมุนของ พ่อเลี้ยงภูมินทร์ให้ละเอียด”
“อั๊วให้ประกันตัวออกไปแล้ว”
“แต่ว่า”
รองอำนวยพูดแทรก
“ได้ข่าวว่าลูกลื้อป่วยเป็นลูคีเมียนี่”
ผู้บังคับการงงๆ
“เอ่อ ใช่ครับ” รองอำนวยเปิดลิ้นชัก หยิบปึกเงินจากหีบโยนไปบนโต๊ะ “นี่ นี่มันอะไรกันครับ”
“อั๊วะยังมีให้ลื้ออีกเยอะ คิดดูดีๆ ผู้บังคับการ ลูกสาวลื้อยังต้องการเงินรักษาตัวอีกมาก”
ผู้บังคับการมองเงินบนโต๊ะ ลำบากใจที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตลูกกับความถูกต้อง แต่แล้วผู้บังคับการก็เลือกหยิบเงินเก็บเข้ากระเป๋ารองอำนวยยิ้ม พอใจ ทันใดตำรวจก็เปิดประตูพรวดเข้ามา หน้าตื่น
“อั๊วบอกแล้วใช่ไหม ว่าให้เคาะประตูก่อน”
ตำรวจละล่ำละลัก
“ยะ ยะ แย่แล้วครับท่าน”
รองอำนวยหน้าเครียด
ที่หน้ากรมตำรวจ ตำรวจและผู้สื่อข่าวมุงดูของที่วางอยู่บนพื้น รองอำนวยกับผู้บังคับการหน้าเครียดรีบเดินเข้ามาแล้วตรงไปที่ผู้คนที่มุงกันอยู่ ตำรวจหันมาเห็นก็รีบตะเบ๊แล้วหลบทางให้ รองอำนวยเดินเข้าไปในวงล้อมแล้วมองไปที่พื้น พอเห็นภาพเบื้องหน้ารองอำนวยทำเป็นยืนนิ่งเครียด ผู้บังคับการตามเข้ามาจึงเห็นหัวของสุพจน์วางอยู่ในกล่อง พร้อมจดหมายเปื้อนเลือด ผู้บังคับการ อึ้ง เข่าทรุด
“ผู้การพจน์” ผู้บังคับการรีบหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านแล้วขยำด้วยความโมโห “ไอ้เสือกล้า”
รองอำนวยยืนนิ่งไม่ตกใจ เพราะรู้กันกับภูมินทร์
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ตามผนังตึกต่างๆ มีภาพประกาศจับเสือหาญ เสือกล้า กระเต็น และเปี๊ยก ติดเต็มไปหมดชาวบ้านต่างมุงดูรูป จุกกับเปี๊ยกซึ่งใส่หมวกพรางตัวเดินเข้ามาแล้วรีบหลบออกไป
เปี๊ยกกับจุกเข้ามานั่งในร้านกาแฟ เปี๊ยกหยิบหนังสือพิมพ์บนโต๊ะขึ้นมาอ่านสีหน้าเปี๊ยกตกใจมาก
“เฮ้ย”
ชาวบ้านที่นั่งอยู่ในร้านหันมามอง จุกที่พรางตัวนั่งอยู่ด้วยรีบตบหัวเปี๊ยกให้เงียบแล้วแย่งหนังสือพิมพ์มาอ่าน ก่อนจะวางหนังสือพิมพ์ลง
“เวรแล้ว”
หาญกับยิ่งยศกำลังจะออกไปข้างนอก ยิ่งยศเอาใบไม้วางเพื่อทำเป็นค่ายกล ราชาวดีกับกระถินยืนดูอยู่มุมหนึ่ง
“ข้าวางค่ายกลแล้วลงคาถากำกับ ใครก็เข้ามาไม่ได้”
“ให้หนูไปด้วยเถอะนะคะ หนูอยากเห็นกับตาว่ากล้าปลอดภัย”
“เอ็งไปด้วยจะทำให้พวกข้าห่วงหน้าพะวงหลัง เพราะร่างกายเอ็งยังไม่ฟื้นตัว รอฟังข่าวอยู่ที่นี่เถอะ”
“แต่ว่า...”
“เฮ้ย ทำไมเป็นอย่างงี้ไปได้”
“เอาแล้ว ไอ้เปี๊ยก นี่แกพาฉันเดินหลงมาที่ไหนวะ”
ทั้งหมดหันไปเห็นจุก เปี๊ยก มองรอบๆ อยู่ หน้ารั้วบ้าน
ที่หน้ารั้วจุกกับเปี๊ยกเดินหลงทางกันอยู่ เหมือนไม่ใช่บ้านกระถิน
“ไม่นะน้า ทางที่เราเดินเข้ามามันก็ทางเดิม แต่ทำไม มันไม่ใช่”
ยิ่งยศก้าวไปร่ายมนต์หยิบใบไม้ขึ้น ภาพลวงตาหายไปยิ่งยศยืนอยู่เกือบชิดหน้าจุก
“เฮ้ย อะไรกันนี่”
“มนต์พรางตา เด็ดดวงมากครับผู้การ”
“อย่าพูดมาก ลื้อรีบเข้ามาในบ้าน พวกอั๊วจะไปแล้ว”
เปี๊ยก จุกรีบเดินมาหากระเต็น
“พ่อหาญ พ่อยิ่งคะถ้าเจอสุพจน์ แล้วเค้ากลายเป็นพวกไอ้ขุนโชติจริงๆ หนูขอ อย่าทำร้ายเค้านะคะ เค้ามีบุญคุณกับครอบครัวหนูมาก”
“พี่เต็น ฉันว่าดูหนังสือพิมพ์นี่ก่อนดีกว่า”
กระเต็นเอาหนังสือพิมพ์มาดู มือสั่นเมื่อเห็นข่าวพาดหัว “เสือกล้าเหี้ยม เย้ยกฏหมาย บั่นคอผู้การกองปราบฯ”
กระเต็นมองไปที่รูปประกอบเป็นภาพหัวของสุพจน์วางอยู่ในกล่อง
“ไม่ ไม่ ไม่จริง กล้าต้องไม่ทำแบบนี้ไม่”
“ไหน มีอะไร”
หาญฉวยหนังสือไปดู ยิ่งยศกับราชาวดีดูด้วย
“หนูไม่เชื่อ ไม่ใช่ฝีมือพี่กล้าแน่นอน”
“แต่ในข่าวบอกว่ามีจดหมายจากพี่กล้าส่งไปพร้อมกับหัวผู้การ”
“จดหมายนั่น ใครเขียนก็ได้นะโว้ย”
กระเต็นช็อคยืนนิ่ง
“กระเต็นๆ”
“กรี๊ดดด” กระเต็นกรี๊ดสุดเสียง แล้วล้มตึงสลบไป ทุกคนตะลึง
ส่วนที่ปางไม้ภูมินทร์ คะนึงนิจถูกขังอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง คะนึงนิจปัดชามข้าวกระเด็นแตก เพล้ง! สภาพคะนึงนิจตอนนี้ถูกล่ามโซ่ที่ขา หน้าซีดเผือด ไม่มีแรง ภูมินทร์เป็นห่วงน้องมาก
“นิจ ทำไมถึงทำแบบนี้”
คะนึงนิจมองพี่ชาย ไม่ตอบ อ่อนแรง ร่างเอนไปมา สมุนกลัวนายด่า รีบรายงาน
“ผมพยายามแล้วนะครับนาย แต่หลายวันมานี้คุณนิจเธอไม่ยอมกินอะไรเลย ทั้งน้ำทั้งข้าว”
คะนิงนิจจ้องภูมินทร์ แววตาแข็งกร้าวขึ้น
“นิจยอมตาย ดีกว่าจะต้องรับรู้เรื่องชั่วๆ ของพี่ภู”
ภูมินทร์ได้ยินก็ทั้งเสียใจทั้งโมโห ลุกขึ้น
“ก็ดี ถ้านิจตาย พี่ก็จะได้ฆ่าไอ้กล้าซะ” คะนึงนิจได้ยินก็อึ้ง
“พี่กล้า นี่พี่กล้าอยู่ที่นี่งั้นเหรอ”
อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 13 วันที่ 8 มี.ค. 56
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง บทประพันธ์ : เพชรน้ำหนึ่งเสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง บทโทรทัศน์ : ดาวเหนือ
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง กำกับการแสดง : อนุวัฒน์ ถนอมรอด
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง แนวละคร : โรแมนติก - แอ็คชั่น - แฟนตาซี
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ผลิต : บ. กันตนา
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ