อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 4 วันที่ 29 มี.ค. 56
เนียนมองไปรอบๆ เห็นบ้านหมอเสน่ห์ แต่ไม่รู้ว่าบ้านใครอยู่ห่างออกไป“แถวนี้ไม่ค่อยมีบ้านผู้คนเลยนะคะ”
“มี นั่นไงล่ะ บ้านหมอเสน่ห์ที่ว่า อยากแวะไปหาบ้างไหม” สนทำเป็นชวน
“ไม่ละคะ รีบไปวัดกันเถิดค่ะเดี๋ยวไม่ทันพระฉันท์เพล” เนียนบอก
“ใช่เจ้าค่ะ รีบไปเจ้าค่ะคุณสน อย่าสิคะ พระฉันท์เพล มันเป็นเวลาสำคัญนะเจ้าคะ”
สนหันมายิ้มให้ช้อยอย่างรู้กัน
ทางด้านหมอเสน่ห์กำลังหอบหิ้วข้าวของรีบร้อนลงเรือน เจอเอากับเหิมที่ยืนขวางหน้า
“เพลอย่างนี้มันเป็นเวลาสำคัญ ตะวันตรงหัว แดดเปรี๊ยงร้อนฉ่าจะรีบไปไหน หมอ”
“ไปงานศพมารดาของพ่อจ้ะ” หมอบอก ไม่รู้จักเหิม
“ไปงานศพแต่ทำยังกะจะย้ายบ้านงั้นเหละ” เหิมดักคอ
“เราไม่รู้จักกัน พ่อมีธุระอะไรกับชั้นเล่าถ้าไม่มีก็ขอทางด้วยจ้ะ”
“ไม่รู้จักดอก แต่ว่ามีธุระสำคัญ มีอะไรไหม”
หมอฉุนกึก “อุบ๊ะ ข่มขู่กันนี่หว่า”
“กูมาเอาของที่มึงต้องทำให้คุณสนให้เสร็จ มึงรีบเอามา” เหิมบอก
“ของมันหายากยังกะงมเข็มในมหาสมุทร ต้องรอก่อนจ้ะ”
“รอมึงกลับจากงานศพมารดาของพ่อมึงรึ มึงรีบกลับเข้าไปทำของเดี๋ยวนี้”
เหิมชักมีดออกมาหมอใจตัวสั่น
“กลัวแล้วจ้ะ”
ทางด้านทองจันทร์มาถามหาเนียน
“คุณเนียนไม่อยู่รึ นางแมว นางกบ”
“ไม่เห็นเลยตั้งแต่ช่วงสายๆ แล้วเจ้าค่ะ” แมวว่า
“เห็นเจ้าค่ะ เห็นเดินไปทางเรือนคุณสนเจ้าค่ะ” กบบอก
“ตายละวา เดินไปทางเรือนนั้น แล้วทำไมเอ็งไม่เดินตามไปเป็นเพื่อนคุณเนียน คนเรือนนั้นแค่เผลอกระพริบตาแผล่บมันก็แทงฉึกเข้าให้ไม่ทันรู้ตัวซะแล้ว คุณเนียนก็ซื่อจนไม่ทันผู้ทันคน ไปตามคุณเนียนมา”
“เจ้าค่ะ” สองคนวิ่งลงเรือนไปตามเนียนทันที
“อ๊ะๆ พวกเอ็งสองคนตัวติดกันรึ เอ็งไปสองคนแล้วใครจะอยู่กับข้า”
สองคนชะงักเท้า มองหน้ากันชี้กันเอง พูดพร้อมกัน
“เอ็งไป”
“นางกบ นางแมว” ทองจันทร์ชักโมโห
สองคนยังชี้กันอยู่ “ข้าอยู่”
“ยังอีก นางแมวไปนางกบอยู่”
เรียมเดินเข้ามาพอดี
“มีอะไรกันหรือคะ คุณแม่”
“เนียนหายไปไหนไม่รู้”
“อ้อ เห็นเดินไปทางเรือนแม่สนค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไร”
“คุณเรียมมาแล้ว งั้นเอ็งสองคนไป” ทองจันทร์บอก
สองบ่าวรีบลงเรือนไป ทองจันทร์กับเรียมแปลกใจว่าเนียนไปทำอะไรที่เรือนเล็กของสน
เวลาต่อมาสามคนเดินกลับจากวัด สนกับช้อยพยายามเลี้ยวลดไปทางเรือนหมอเสน่ห์ให้ใกล้ที่สุด
“เมื่อตอนขามาเราไม่ได้เดินมาทางนี้นี่คะคุณสน” เนียนท้วง
“ทางที่เราเดินมาแดดมันร้อน ทางนี้แหละร่มดี” สนบอก
“ชั้นมีร่มค่ะ”
เนียนยกร่มขึ้นมากางให้ ช้อยกับสนสบตา แล้วช้อยก็ทำตื่นเต้นตกใจชี้ไป
“ไฟไหม้ ไฟไหม้บ้านหมอเสน่ห์”
ที่แท้หมอโดนมัดอยู่ในบ้าน และไฟกำลังลุกท่วม หมอตาเหลือกร้องโวยวาย
“ช่วยด้วย...ช่วยด้วย”
เนียนตกใจมาก สนทำตกใจไปด้วย
สนกับช้อยสบตากัน
“เราไปช่วยดับไฟกันดีกว่า”
สนกระชากเนียนวิ่งไปยังบ้านหมอ มีช้อยวิ่งตามหน้าระรื่น
สามคนวิ่งมาถึงหน้าบ้านหมอ เสียงหมอร้องโอดโอยดังมาจากในเรือน
“ตายแล้ว คุณสนเจ้าขา มีคนติดอยู่ในเรือนค่ะ”
สนกับช้อยมองหน้ากันอีก
“ตายจริงๆแน่ ช้อย เอ็งอยู่ช่วยคุณเนียนดับไฟ ข้าจะไปตามคนมาช่วยดับไฟ” สนบอก
“จะทันหรือคะ บ้านเราอยู่ห่างนะคะ” เนียนงงๆ
“ยังดีกว่าไม่ทำอะไรนี่นา” สนอ้าง
ว่าแล้วสนก็วิ่งออก ไม่สนทีท่าเงอะงะของเนียน
“น้ำอยู่ที่ไหนเล่าช้อยรู้ไหม”
ช้อยชี้ไปหลังบ้าน
“บ่อน้ำหลังบ้านนั่นไง คุณเนียนก็ไปตักเอาสิ อิชั้นเป็นห่วงคุณสน จะรีบไปตามไปดูแลคุณสน”
“เดี๋ยวสิ..ช้อย...”
ว่าแล้วช้อยก็วิ่งไปอีก เนียนยืนงง เสียงหมอยังร้องโอดโอยดังแว่วออกมา
“โธ่ ช่างน่าเวทนาเหลือเกิน”
เนียนตัดสินใจวิ่งไปทางหลังบ้าน
เนียนวิ่งมาท่าทีตื่นตระหนก หันรีหันขวาง
“โธ่ โธ่ จะช่วยเขาได้ยังไง”
เนียนมาเจอถังน้ำขอบบ่อ รีบโยนลงไป แล้วสาวถังขึ้นมาก่อนจะหิ้วถังไปรดน้ำทางด้านหลัง แต่แทบไม่ทำ ให้ไฟลดลงไป
เนียนวิ่งกลับมาใหม่อีกครั้ง และกำลังยกถังน้ำสาดลงไป สักสามครั้ง เหิมกระโจนมาจากทางด้านหลังเนียน เข้ามารัดร่างเนียนเอาไว้
“แม่เนียนคนสวย สวยจนอดใจไม่ไหว”
เนียนตกใจมาก
“ว๊าย ปล่อยนะปล่อยชั้น”
“ปล่อยไม่ได้ดอก ครั้งก่อนใจไม่กล้าพอ แต่ครั้งนี้ โอกาสมันเหมาะเหม็ง จะข่มขืนแล้วโยนเข้ากองไฟให้ตายตามไอ้หมอลามกนั่นซะ”
เหิมไม่ฟังลากเนียนไปข้างบ่อน้ำ เนียนกรีดร้องลั่น เหิมเหวี่ยงเนียนลงไปกอง
“ปล่อยชั้นไปนะ ชั้นเป็นเมียท่านขุนภักดีภูบาล ถ้าพี่ชายทำร้ายชั้น พี่ชายต้องโดนจับเข้าตะราง”
เนียนขอร้อง เหิมส่ายหน้า
“อะไรก็ห้ามไอ้เหิมไม่อยู่แล้ว”
เหิมกระโดดคร่อมร่างเนียนทันที
ช้อยวิ่งมาทันสนที่ยืนรออยู่ ห่างบ้านหมอมาอีกหน่อย
“เป็นอย่างไรบ้าง”
“เป็นผู้หญิงสวยที่โง่ที่สุดที่ช้อยเคยพบมา มันคงตักน้ำจนหมดบ่อกระมังเจ้าคะ”
“แต่ข้าว่ามันคงแค่ตักน้ำสามถังเท่านั้น ถ้าไอ้เหิมมันไม่ทันไปไหน มันจะถูกหวยโดยไม่รู้ตัว”
“จริงสิเจ้าคะ ไอ้เหิมหวยออกแน่เจ้าค่ะ”
“เอ็งว่าถ้ามันเจออีเนียนมันจะทำยังไงน้อ” สนสะใจนัก
“ก้มลงกราบกระมังเจ้าคะ คุณสน ช่างถามได้ มันก็ปล้ำสิเจ้าคะ อีเนียนมันก็ร้องว่าว๊าย อย่าทำชั้น ว๊ายอย่าทำชั้น” ช้อยหัวร่อร่า
“คนเลวอย่างไอ้เหิมมันก็หาฟังไม่”
“เหมือนที่มันไม่ฟัง ตอนที่คุณสนร้อง ว๊าย อย่าทำข้า ใช่ไหมเจ้าคะ”
“อีช้อย”
ช้อยหุบปาก เงียบในทันที
ส่วนที่หลังบ้านหมอเสน่ห์ เหิมกำลังก้มลงไปหาเนียน ทำท่าจะกระชากเสื้อแล้ว ทันใดเหิมก็โดนจิกหัวจนหน้าหงายจากด้านหลัง แล้วตบด้วยด้ามปืนกลับไปกลับมา
“ไอ้เดียรฉาน”
“ใครวะ”
“กูเอง” หนักคำราม
เหิมหันไปเห็น “ไอ้หนัก”
หนักซ้อมต่อเต็มแรง จนเหิมสลบคาที่
“ไอ้ใจเดียรฉานในร่างคน มึงไม่สมควรอยู่เป็นผู้คนอีกต่อไป มึงตาย”
เนียนเห็นคนที่มาช่วยดีใจเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
“พี่...”
“จุ๊ๆ อย่าเรียกชื่อพี่ อย่าให้ใครรู้ว่าเนียนเป็นน้องสาวของพี่ รีบกลับบ้านไปให้ไวที่สุด ไม่ต้องบอกเรื่องที่พบเห็นพี่กับใครเด็ดขาด”
“เนียนสงสารคนที่โดนไฟครอกเนียนไหว้ละพี่ ช่วยเขาเถิด เขาร้องโอดโอยน่าเวทนาเหลือเกิน” เนียนอุตส่าห์เป็นห่วงหมอ
“พี่ต้องฆ่าไอ้เดียรฉานตัวนี้ก่อนเอามันไว้ไม่ได้แล้ว มันจะข่มขืนเนียน”
“ช่วยชีวิตคนกำลังจะตาย สำคัญกว่าการฆ่าคนเลวคนนึงนะจ้ะ น้องกราบ น้องเวทนาเขา”
“น้องดีเกินไป มีใจมีปากเอาไว้เวทนาคนอื่น แต่คนอื่นมีใครเวทนาเมตตาน้องไหม จำไว้อย่าไว้ใจนางคุณสนคนนั้น กับอีบ่าวสอพลอคอสั้นนั่น”
เนียนตกใจ “พี่รู้จักคุณสน”
“ใครบ้างไม่รู้จักคุณสนคนสวย นิสัยเลวเมียท่านขุนภักดีภูบาล รีบกลับบ้านซะ ถ้าท่านขุนถามว่าไปโดนอะไรมา ก็บอกไปว่าโดนคนชื่อไอ้เหิมไล่ฉุดคร่าแต่ว่ามีคนมาช่วยเอาไว้ ถ้ามันโดนจับได้ความจริงชั่วๆ ที่มันทำจะหลุดออกมาจากปากชั่วๆ ของมันเอง”
หนักผลักไสเนียนให้ไป เนียนโผเข้ากอดพี่ชาย
“พี่หนักจ๋า ถึงไอ้เหิมคนนี้มันจะเลว สมควรตาย แต่ไม่ใช่หน้าที่ของพี่จะตัดสินประหารมัน ถึงกฎหมายยังไม่ไปถึงสักวันกฎแห่งกรรมก็ต้องไปถึง เนียนไม่อยากให้พี่ฆ่าใครตาย แดงน้อยก็คงไม่อยากมีลุงฆ่าคนตาย พี่ก็คงเสียใจมาก” ช้อยขอร้อง
สองพี่น้องกอดกันร้องไห้ หนักพยักหน้า
“พี่จะทำตามที่น้องขอร้อง ไปสิจ้ะน้องรัก”
เนียนผละวิ่งจากไปทั้งน้ำตา หนักน้ำตานองหน้า
“เพื่อพ่อ เพื่อน้อง เพื่อหลานของกู”
หนักหันมากระชากคอเหิมเอาน้ำสาดให้ฟื้น
“อย่า อย่าฆ่าชั้น” เหิมได้สติก็ร้องลั่น
“กูฆ่ามึงแน่ ถ้าผู้หญิงใจพระที่มึงจะฆ่าข่มขืนเขาไม่ขอร้องกูให้ไว้ชีวิตมึง”
“เนียนพูดเช่นนั้นจริงหรือ” เหิมอึ้ง
“กูอยากฆ่ามึงใจจะขาด ไม่เช่นนั้นก็จะไว้ชีวิตมึงเรอะ” หนักกระชากคอเหิม “ลุกขึ้นมา ตักน้ำ สาดเข้าไปให้มากที่สุดกูจะเข้าไปช่วยคนในบ้าน”
“เนียน ผู้หญิงใจพระ เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอ”
เหิมยืนงงไม่อยากเชื่อ หนักถีบส่ง เหิมวิ่งไปจ้วงน้ำมาสาด ส่วนหนักวิ่งลุยเข้าไปในบ้านทางด้านหลัง
ขณะที่สนกับช้อย เดินกลับมาถึงตรงท้ายบ้าน เจอกบ แทน และแมวที่กำลังจะไปตามหาเนียน แทนเห็นก่อน
“เจ้านายมาแล้ว คุณสนขอรับ คุณสนไปกับคุณเนียนใช่ไหมขอรับ”
“แล้วมันหนักหัวใคร หนักหัวเอ็งเร๊อะ เป็นคนรับใช้อย่าได้สะเออะมาสอบสวนเจ้านายไอ้แทน” สนโมโห
“คือคุณท่านกับคุณนายเรียม ให้เรามาตามคุณเนียนเจ้าค่ะ” แมวบอก
“แล้วอย่างไร เอ็งก็เชิญไปตามสิ เจ้านายคนโปรดของพวกเอ็งนี่” สนเยาะ
“คือว่าคุณนายเรียม ท่านเห็นคุณเนียนไปทางเรือนคุณสนเจ้าคะ” กบบอกอีก
“เจ้าแทนมันบอกว่า...” แมวพูดไม่ทันจบ
สนสวนขึ้นมา ตาเขียวปัดจ้องใส่แทน “ไอ้แทน”
แทนรีบส่ายหน้าลนลาน “กระผมไม่ได้บอกอะไรขอรับ ไม่ได้บอก ไม่เคยบอก”
“จำคำพูดของเอ็งไว้ให้ดี พูดแล้วอย่ากลับคำ ตามข้ามานี่ไอ้แทน”
สนกับช้อยเดินเชิดไป โดยมีแทนเดินตามหลัง แมวกับกบ ยืนงงมองหน้ากัน
“ก็ไอ้แทนมันบอกว่า คุณเนียนไปกับคุณสนไปถวายอาหารเพลพระ” กบบอก
“แล้วทำไมคุณเนียนไปไหนกับคุณสน ถึงไม่ได้กลับมาด้วยกันสักที” แมวว่า
“ประหลาดแท้”
สองคนประสานเสียง ชะเง้อรอหาเนียน
สนเดินมาถึงหน้าเรือน มองสบตากับช้อย
“เจ้าแทน เอ็งอยากได้เงินให้สักตำลึงสองตำลึงไหม” ช้อยถาม
“ใคร้จะไม่อยากได้เงิน” แทนว่า
“เอ็งต้องทำงานถึงจะได้เงิน” ช้อยบอก
“ข้าเป็นห่วงคุณเนียน จู่ๆ ก็พลัดหลงกันซะงั้น เอ็งช่วยไปตามหาคุณเนียนทางหลังบ้านทีรึ นางช้อยเอาให้ไอ้แทนสองตำลึง”
แทนยืนตะลึง ช้อยส่งเงินให้แทนจะตะครุบ
“ฟังข้าก่อน เรื่องไปตามหาคุณเนียนน่ะเล่าได้ แต่เรื่องเงินที่ให้เอ็งบอกใครไม่ได้ เพราะคุณท่านรู้เข้าโกรธตาย ว่าคุณสนสุรุ่ยสุร่ายใจดีมากเกินไป”
“ขอรับ คุณสน กระผมจะไม่เป็นปลาหมอตายเพราะปากขอรับ”
แทนดีใจ รีบออกไปทันที
“อ้อ ไอ้แทน ตอนฉันเดินตามหาคุณเนียนเห็นเหมือนไฟไหม้บ้านหมอเสน่ห์ ข้าตกใจกลัววิ่งหนีมา เอ็งลองไปดูสิ เผื่อจะเจอ คุณเนียนแถวนั้น”
สนพูดจบก็หันไปยิ้มให้ช้อย
ด้านเนียนวิ่งมา ยังไม่หายตื่นตกใจ
“ช่างน่ากลัวจริงๆ ขอให้พี่หนักช่วยคนที่อยู่ในบ้านได้ด้วยเถิด เจ้าประคู้นเอ๊ย อย่าเป็นอะไรนะ”
เนียนวิ่งไปหันไปมองทางด้านหลังไปด้วย แล้วเนียนก็สะดุดหกล้ม ฟากแทนวิ่งตะโกนมาเรื่อยๆ
“คุณเนียนขอรับ คุณเนียนขอรับ”
เนียนกระโผลกกระเผลกลุกขึ้น เสื้อผ้าเนื้อตัวยับเยินไปหมด ได้ยินเสียง แทนตะโกนเรียก
“คุณเนียนขอรับ คุณเนียนขอรับ”
เนียนวิ่งไปตามเสียง
“แทน”
“คุณเนียน นั่นนั่น ไปโดนอะไรมาขอรับ”
เนียนส่ายหน้าพูดไม่ออก
“ชั้นอยากกลับบ้าน”
เนียนไม่พูดเดินกลับบ้าน แทนเดินตาม คิดไปต่างๆ นานา
ด้านช้อยคุยกับสนเรื่องหมอเสน่ห์
“รายที่สองแล้วนะเจ้าคะคุณสน นี่คุณสนถลำเถลือกลงไปทุกทีแล้วจริงๆ นะเจ้าคะ”
“กูหยุดไม่ได้แล้วไอ้เหิมก็อีกคน เสร็จนาคราวนี้เห็นทีต้องฆ่าโคทิ้งซะแล้ว”
“คุณสน” ช้อยตกใจ
“เอ็งอย่าพูดมาก รีบไปทำตามแผนการน้ำหยดลงหินของข้าต่อไป”
“ทำยังไงเจ้าคะ คุณสน”
“รีบไปเรือนใหญ่ ใครพูดก่อนคำพูดคนนั้นน่าเชื่อกว่า”
“คุณสนจะไปพูดอะไรเจ้าคะ”
สนไม่ตอบช้อยเดินตามมาโดยเร็ว
เวลานั้นสนกำลังลอยหน้าอารมณ์ดีรายงานเท็จกับทองจันทร์และเรียม
“เนียนเขาอยากเอาของไปถวายเพลที่วัด ทดแทนที่วันก่อนไปไม่ถึง สนก็เลยจะแก้ตัวที่ทำผิดไว้กับเขา รีบตกปากรับคำไปเป็นเพื่อนค่ะ”
“แต่พอขากลับสิเจ้าคะ คุณเนียนขอเดินไปถ่ายทุกข์แล้วหายไปเลย” ช้อยสาระแนบอก
“ใครถามเอ็งนางช้อย อย่าสอด เวลานายพูดกัน” ทองจันทร์ด่า
“แหมมาตะเภาเดียวกับแม่สนเรื่องถ่ายทุกข์ทีเดียวนะ” เรียมดักคอ
“สนก็รออยู่เดินวนหาก็ไม่พบ พอดีสนเห็นบ้านไอ้หมอเสน่ห์มันไฟไหม้สนตกใจกลัว วิ่งหนีกลับบ้านมากับนางช้อยค่ะ สนมาถึงบ้าน ก็เลยจ้างเอ๊ย บังคับให้ไอ้แทนมันไปตามเนียนค่ะ”
แทนคลานเข่าเข้ามา ตามด้วยกบและแมวที่ตื่นเต้นตกใจ เนียนเดินตามมาสีหน้ายังตื่นตระหนก สนกับช้อยสบตากันแอบยิ้ม
“เนียน” ทองจันทร์กับเรียมอุทานพร้อมกัน
เนียนทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ เรียม แล้วเป็นลมล้มพับไป
“เนียน” ทองจันทร์กับเรียมอุทานพร้อมกันอีก
สนรีบถาม “เอ็งไปเจอคุณเนียนที่ไหนไอ้แทน”
“ห่างจากบ้านที่ไฟไหม้นั่นแหละขอรับ กำลังวิ่งมาจากทางนั้นขอรับไม่ทราบว่าไปเจออะไรมา” แทนว่าตามที่เห็น
“จริงเจ้าค่ะ ยังกับโดดหมามากัดเจ้าค่ะ” ช้อยผสมโรง
“หมาจนตรอกกระมังเจ้าค่ะ ถึงบ้ามากัดคนอย่างคุณเนียน” กบแค้นแทน
“หยุดเจรจาเหลวไหลนะ” ทองจันทร์เอ็ดเอา
“กบ แมว ช่วยกันประคองคุณเนียนเข้าไปที่ห้อง” เรียมสั่ง
สองคนรีบประคองเนียนไปที่ห้อง
“สนเข้าไปช่วยนะคะ”
“ขอบใจมาก แต่ไม่รบกวนดอกจ้ะแม่สน” เรียมห้ามไว้
“คุณแม่จะสอบถามอะไรสนอีกไหมคะ เรื่องไฟไหม้” สนถาม
“เห็นจะไม่ก่อนละ ข้าห่วงเนียนมากกว่าว่าไปเจอเรื่องร้ายๆ อะไรมาอีก”
“แต่ก็อยากจะตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมไปกับแม่สนทีไรเนียนถึงประสปเหตุไม่ดีมาทุกที” เรียมดักคอ
“ค่ะ สนเองก็ตั้งข้อสังเกตกับตัวเองทุกที ว่าทำไมสนถึงโชคร้ายอย่างนี้ทุกที คล้ายกับว่าสนนำโชคร้ายมาให้เนียน” สนทำทีเป็นตัดพ้อ
“แม่สนไม่ใช่ตุ๊กแก อย่ากินปูนร้อนท้อง”
ทองจันทร์เดินตามเนียนและเรียมเข้าไปอีกคน
สนนั่งหัวเราะท้องคัดท้องแข็งอยู่บนเรือนมีช้อยกอดขาสนประจบ หัวเราะตาม
ช้อยยื่นหน้าไปล้อเลียนสนที่ถูกทองจันทร์ตำหนิ “ตุ๊กแก”
“สมน้ำหน้าอีเนียน สมมันคงเจอไอ้เหิมปล้ำเข้าให้แล้วละสิ ถึงรุ่งริ่งกลับมาขนาดนี้”
“ไอ้เหิมหวยออกสมใจอยากของมันแล้ว”
“อยากจะเห็นหน้าพี่ขุนนัก ตอนเจอสภาพเมียสุดที่รักสุดหวงโดนโทรมกลับมา”
“คุณสนเจ้าขา ช้อยว่าแววตาของคุณนายใหญ่ทองจันทร์เริ่มหวั่นไหวแล้วนะเจ้าคะ หินกร่อนแล้วเจ้าค่ะ”
สองคนกำลังหัวเราะร่วน แล้วมองไปเห็นขุนภักดี ทำให้สองคนหยุดหัวเราะค้างไปเลย
ขุนภักดีรีบเดินจ้ำอ้าวหน้าตาไม่สบาย หลังจากรู้เรื่องเนียนแล้ว เอกเดินตาม หลังต้อยๆ
“ทำไมถึงปล่อยให้เนียนไปกับสนจนได้ ต่อไปนี้ห้ามเด็ดขาด นายเอก”
“ขอรับ คุณเทพ”
สองคนรีบร้อนไปกันอย่างรวดเร็ว
สองคนอารมณ์เสียมากๆ
“ดูดู๋ ดู พี่เทพ กระหืดกระหอบ จะรีบไปดูอาการอีเนียน จะเหลือบตามาเรือนนี้ก็หามีไม่ กูอยากกัดลิ้นตาย”
“อย่าเพิ่งเจ้าค่ะ คุณสน คนที่จะตายไม่ใช่คุณสน แต่เป็นอีเนียนเจ้าค่ะ หนักแน่นไว้เจ้าค่ะ”
สนกัดฟันสะกดอารมณ์อย่างแรง
ขุนภักดีประคองเนียนเอาไว้แนบอก
“ไม่ต้องกลัวแล้วเนียน พี่จะส่งตำรวจไปตามจับไอ้คนที่มันมาทำร้ายเนียนของพี่มาลงโทษให้ได้ ไหนลองบอกชื่อมันมาสิ”
“เนียน เอ้อ เนียนได้ยินคนที่มาช่วยเนียนเรียกมันว่าไอ้เหิมค่ะ”
“ไอ้เหิม กูจะเอามึงเข้าตะราง พี่จะลงไปตรวจสุพรรณบุรีทุกตารางนิ้ว”
“ขอบพระคุณมากค่ะ พี่ขุน”
อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 4 วันที่ 29 มี.ค. 56
ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager