อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 4/4 วันที่ 30 มี.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 4/4 วันที่ 30 มี.ค. 56

“สนมาระรานหรือล่วงเกินเนียนอีกรึเปล่า”
เนียนส่ายหน้า
“ไม่มีเลยค่ะ เธออยู่ของเธอที่เรือน เนียนผ่านไป เธอก็ทักทายยิ้มแย้ม แต่ดวงตาเธอหมองหม่น” เนียนบอก
“ดูดู๋ กลัวพ่อเทพจะไม่ไป เนียนเลย ออกแรงดันใหญ่” ทองจันทร์สัพยอก
ขุนภักดีพยักหน้ารับรู้
“พรุ่งนี้พี่จะไป”

ส่วนสนหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมจริงดังเนียนว่า กำลังทำท่าขย้อนไปมา
“ช้อย ข้า ข้าอยากอาเจียน”
“คุณสนอยากอาเจียน ไฮ้ นี่นี่มันยังไงกันเจ้าคะ” ช้อยตื่นเต้น
“นางช้อย ข้าอยากอาเจียน”
“นั่นปะไร ช้อยสังเกตมาพักแล้วว่าคุณสนทำท่าขยอกขย้อน เหมือนแม่นกขยอกอาหารใส่ปากลูกนก” ช้อยเจื้อยแจ้วไป


“อี...ช้อยกูจะอาเจียน”
ขาดคำ สนก็พ่นอาเจียนใส่หน้าช้อย
“ว๊าย”
สนตวาด
“กูบอกแล้วมึงไม่ฟัง”
“ช้อยขอโทษเจ้าค่ะ...”

ช้อยแทบจะร้องไห้ สนฟุบหน้าหมอบ ร้องอาเจียนโอ๊กๆ
ขณะเดียวกัน เนียนหอบดอกไม้เดินผ่านเรือนของสน มีกบกับแมวถือดอกไม้ตามมาด้วย ได้ยินเสียงคล้ายคนอาเจียน เนียนชะงักนิดหนึ่ง

“เสียงคนแพ้ท้องร้องโอ้กอ๊าก” กบบอก
“ท้องกับพระพายน่ะสิ ท่านขุนท่านไม่ได้มาหาตั้งนานสองนาน” แมวว่า
เนียนปราม “กบ แมว อย่าพูดจาให้ผู้อื่นเสียหาย”
“เสียที่ไหนเจ้าคะ คุณเนียน ได้ตะหาก” กบบอกอีก
“ได้เด็กตั้งคน” แมวว่า
“ไปกันเถิด” เนียนบอก
“น่าจะขึ้นไปเยี่ยมนะเจ้าคะ ไหนไหนเธอก็ญาติดีกับคุณเนียนแล้ว” กบว่า
“ไปดีใจกับเธอไงเจ้าคะ” แมวบอก
เนียนชะงัก ท่าทีลังเล

ช้อยดูแลสน ที่กำลังอาเจียน จู่ๆ ช้อยร้องลั่น
“คุณสน ท้อง ไชโย”
“หุบปาก” สนด่า
“ทำไมเล่าเจ้าคะ”
“ข้ากำลังกลัว”
“กลัวอะไรเจ้าคะ กำลังจะขึ้นหม้อมีลูกชายรูปงามตามที่ฝันเอาไว้ให้ท่านขุน”
“นางโง่ คิดเลขเป็นบ้างไหม พี่ขุนไม่ได้มาที่นี่กว่าสองเดือนแล้ว แล้วจะเป็นลูกพี่ขุนได้อย่างไร”
“ไอ้เสือหนัก ลูกไอ้เสือหนัก” ช้อยนึกออก เผลอหลุดปากเสียงดัง
สนตบหน้าช้อยเรียกสติ
“แหกปากพูดชื่อนี้อีกคำเดียวกู จะตบซ้ำ รีบไปตามยายอ่อนมาไวไว
ช้อยพยักหน้า ขณะที่สนเริ่มร้องไห้น้ำตาไหล หวาดกลัวจริงๆ

ฝ่ายเนียนทำท่าจะหันกลับ
“อย่าดีกว่า เธออาจจะไม่ชอบ”
ช้อยโผล่ลงบันไดมาเจอเอาสามคนชะงัก แล้วปรี๊ดใส่แทนนาย
“วันนี้หมามากับจ่าฝูงแน่ะเว๊ยเฮ้ย”
“นางช้อยพูดจาให้ไว้หน้าคุณเนียนบ้าง” แมวนึกโมโห
“ระวังเถิดท่านขุนรู้เข้า หน้าจะไม่มีที่ไว้” กบด่า
“ใครกันแน่ที่จะไม่เหลือหน้า ใครกันแน่ที่ได้หน้าได้ตา ไปให้พ้น อย่ามาเกะกะขวางทางท่านขุนแถวนี้” ช้อยอวดเบ่ง
“ช้อยรู้เร็วดีจัง พี่ขุนจะมา เยี่ยมวันพรุ่งนี้” เนียนเยื้อนยิ้ม
“ท่านคงไม่รอให้ถึงวันพรุ่งนี้ดอก คุณเนียน อิชั้นจะไปตามยายอ่อน”
ช้อยเดินเฉียดปั้นปึ่งออกไป เนียนกับพวกแปลกใจ
“ยายอ่อน หมอนวด สงสัยจะเรียกมานวดคุณสน” กบออกความเห็น
“ยายอ่อนเป็นหมอตำแยด้วย ก็ไม่แน่ว่ามันจะมาตรวจอะไร” แมวว่า
เนียนไม่อยากจะอยู่ตรงนั้น รีบเดินออกไป มีเสียงสนสะอื้นดังลอดมาจากในบ้านสามคนชะงัก
“คุณสนร้องไห้” สามคนอุทานพร้อมกัน
“ร้องไห้ดีใจที่ท้อง” กบว่า
“แต่ทำไมเสียงร้องไห้เหมือนเสียใจ” แมวตั้งข้อสังเกต
“ถ้าจะท้องก็ต้องร่วม สองเดือนกว่า ทำไมรู้ตัวช้าจัง” กบออกความเห็น
เนียนตัดบท “กบ แมว รีบไปเรือนโน้น คุณท่านรออยู่”
สองคนจึงรีบเดินออกไป

ไม่นานต่อมา ยายอ่อนกำลังคลำท้องสนอยู่บนเรือน บีบจับตรงโน้นตรงนี้ไปมา สนนอนลุ้นใจคอไม่ดี
“คุณนายสนท้องแน่นอนเจ้าค่ะ”
“ไม่มีเป็นอย่างอื่นแน่นะยายอ่อน”
“แน่สิเจ้าคะ ดีใจเข้าสิเจ้าคะ อย่าทำหน้าเหมือนใจคอห่อเหี่ยว ลูกออกมาจะไม่งาม”
“ข้าตื่นเต้นเต้นน่ะ เอ้อ ยายอ่อนมีใครเคยท้องสักสิบเอ็ดสิบสองเดือนบ้างไหม”
“มีเจ้าค่ะ”
“ใครล่ะ”
“ไม่ใช่คนดอกเจ้าค่ะพวกวัวพวกควาย พวกม้า หรือว่าลา แต่คนเก้าเดือนแน่นอนเจ้าค่ะ” อ่อนบอก
“โอ๊ย พอแล้ว นี่เงิน หนึ่งตำลึง ไปซะ ให้ไวไว”
อ่อนตาลุก ไหว้อย่างดีใจ รับเงินแล้วรีบออกไป สนมองตามร้องไห้ต่อ
“กูจะทำยังไงดี พี่ขุนฆ่าตายแน่ โธ่”

ทองจันทร์แปลกใจแทนที่จะดีใจ พอรู้เรื่องจากอ่อนที่แวะมาบอกข่าวสน
“แน่นะว่าแม่สนท้อง ยายอ่อน”
“แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอีกเจ้าค่ะ คุณท่าน”
“กี่เดือนแล้ว”
“ยังประมาณมิได้เจ้าค่ะ เด็กดิ้นเมื่อใด ก็ประมาณได้ว่าสี่เดือน เจ้าค่ะ”
ทองจันทร์ยังไม่หายหงุดหงิดสงสัยว่าสนท้องทำไมไม่บอกกล่าวใคร
“นี่ถ้าจะนับเดือนก็ต้องย้อนไปสองเดือนกว่า แม่สนก็ช่างกระไรน่าจะรู้มาตั้งนานว่าท้อง จะได้รู้กัน”
“ท้องสาว ก็แบบนี้แหละเจ้าค่ะ บางคนนะเจ้าค่ะ ลูกดิ้นยังนึกว่าโดนผีผลักหนังควายเข้าทองซะงั้น บางรายก็เข้าใจว่าเป็นโรคท้องมาน”
ทองจันทร์โบกมือให้ยายอ่อนรีบไปไวๆ

ฟากช้อยตื่นเต้นมา หลังฟังสนพูดจบ
“ยายอ่อนมันว่าคุณสนท้องจริงๆ จะลูกใครก็ช่างหัวมันปะไร คุณสนไม่ต้องกลัวเจ้าค่ะ ลูกเป็นโซ่ท้องคล้องรักคล้องใจคุณสนกับท่านขุน ลูกคนแรก นี่ต้องเป็นลูกชายรูปงามตามฝันของคุณสน ช้อยจะรีบไปแจ้งข่าวที่เรือนคุณท่าน”
“อย่าไปนะ อีแก่ทองจันท์มันจ้องจับผิดสงสัยข้าตลอดเวลา แล้วถ้าอีกหกเดือนเศษ ข้าคลอดลูกพี่ขุนจับได้แน่ว่าข้าไม่ได้ท้องกับเขา”
“ก็บอกไปสิเจ้าคะ ว่าคุณสนท้องได้สามเดือนแล้วก่อนที่อีเนียนมันจะมาคุณสนของช้อยเรื่องมดเท็จ เป็นเอกเสมอเจ้าค่ะ”
ช้อยเหมือนจะชม สนยังคงเครียดน้ำตาไหล

ด้านเนียนมารายงานเรียมเรื่องสนคงไม่สบายมาก
“คุณสนเธอไม่สบายมากจริงๆ นะคะ คุณเรียม เนียนเห็นยายอ่อนมานวดให้ เธอค่ะ”
“ตายจริง รีบไปบอกพี่เทพให้ไปดูอาการแม่สนไม่ต้องรอถึงวันพรุ่งนี้ดอก”
ขุนภักดีเดินยิ้มเผล่เข้ามา
“พี่น้องสองสาว ร่วมหัวกันจะขับจะต้อนอะไรพี่อีกแน่ๆ”
“เนียนบอกว่าแม่สนไม่สบายมากค่ะ เราสองคนก็เลยดำริห์ว่า เนียนพูดสิ”
“พี่ขุนน่าจะรีบไปดูอาการเธอตอนนี้นะคะ”
ทองจันทร์โผล่มา หน้าตาไม่พอใจมาก
“แม่สนมันบ้าอยากจะด่าให้เจ็บแสบ”
สามคนหันไปมองแปลกใจ
“สนทำอะไรให้คุณแม่ไม่พอใจหรือครับ”
“มันท้องสองสามเดือนแต่ไม่ยอมบอกใคร” ทองจันทร์บอก
“สนท้อง” ขุนภักดีอุทาน
ตามด้วยเรียม “แม่สนท้อง”
และเนียน “คุณสนท้อง”
ขุนภักดีมีสีหน้าปิติมาก “ผมจะไปดูลูก” แล้วเผ่นอ้าวออกไป เนียนกับเรียมสบตากับจับมือดีใจ
“เนียนดีใจกับพี่ขุน เหลือเกินค่ะ”
“พี่ก็ดีใจกับพี่เทพเป็นที่สุด”
“แต่แม่หมั่นไส้แม่สนเป็นที่สุด มันเป็นคนอาฆาตแค้น มันคงตั้งใจจะปิดบังเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ ไม่ให้ดีใจกับมัน เพราะพ่อเทพไม่ไปหามันสองเดือนกว่าแล้ว ประหลาดล้ำเหลือเกิน คนอะไรท้องแล้วไม่บอกผัว”

เรียมก็แปลกใจแต่เงียบไว้รวมทั้งเนียนด้วย
ฟากสองนายบ่าวช้อยกับสน ยังคงปวดหัวเรื่องท้องของสนอยู่ไม่วายเว้น

“กรรมของคุณสนแท้ๆ กรรมของช้อย แพ้หลุดลุ่ยแล้วเจ้าค่ะ”
“ข้าโกหกพี่ขุนว่าท้องสองเดือนกว่าสามเดือนได้ แต่ยายอ่อนมันเป็นหมอตำแยโกหกมันไม่ได้ดอก”
“มันงกมันชอบเงินตะเภาเดียวกับไอ้เหิม เพียงแค่ไม่ใช่ฆาตกร พูดง่ายกว่า เอาเงินฟาดหัวมันไปเจ้าค่ะ ไสหัวมันไปไกลๆ อย่าได้กลับมาที่นี่อีก คนที่ไหนมันมีลูกให้มันทำคลอดทั้งนั้น”
“เงินข้าเกือบหมดกำปั่นแล้ว เพราะเอาไปจ้างไอ้เหิม ไอ้หมอเสน่ห์ พี่ขุนก็หมางเมิน เอ็งไปเปิดดูสิ”
ช้อยเปิดแล้วพยักหน้า
“เหลืออยู่ชั่งหนึ่งเจ้าค่ะ”
“รีบไปเอาให้มัน บอกให้มันไปหากินที่อื่นอย่ากลับมาที่นี่อีก”
ช้อยรีบไปทันที สนเศร้าเอาหน้าแนบหมอนน้ำตาซึม
“ทำไมต้องเป็นลูกไอ้เสือหนัก โธ่”

สามคนยังยินดีที่สนท้องกันต่อไป
“พี่อยากรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่ในวินาทีที่พบหน้าลูกเหลือเกิน”
เรียมพูดไปน้ำตาซึม
เนียนคิดภาพวันที่ตัวเองคลอดลูก โดยให้แพรเอาแดงน้อยมาวางบนอกมองลูกน้ำตาไหล
คิดแล้วเนียนพาลน้ำตาซึมไปด้วย
“แม่เรียม ลืมมันซะเถิด ลางดีมันตั้งเค้าแล้ว แม่สังหรณ์ว่าอีกไม่ช้าไม่นานบ้านเราจะได้ฉลองใหญ่ เพราะได้หลานสามคน” ทองจันทร์บอก
“ค่ะ เรียมก็หวังเช่นนั้น แต่ความหวังของเรียมมันหมดสิ้นไปสองครั้งจนเรียมไม่กล้าหวังอีกแล้วค่ะ คุณแม่ เนียนรู้ไหมจ้ะ ว่าพี่อยู่กินกับพี่คุณมาแปดปีกว่า แท้งลูกไปสองครั้ง” เรียมสะท้อนใจ น้อยใจ เริ่มน้ำตาไหลเมินหน้าหนี
เนียนจับมือเรียมเอาไว้ปลอบใจ
“คุณเรียมขา อย่าเพิ่งสิ้นหวังค่ะ คนแถวบ้านเนียน อยู่กินกันมา สิบกว่าปีจนเลิกหวัง แล้ววันหนึ่ง ลูกก็มา แข็งแรงน่ารักฉลาดด้วยค่ะ”
“ขอบใจที่ให้กำลังใจพี่ เนียนนั่นแหละ ยังอายุไม่ถึงยี่สิบ น่าจะได้ลูกไวไวอย่างที่คุณแม่ว่า”
“ลูกใครจะมาแม่รับได้ทั้งนั้น ขอให้มาเถิด ย่าทองจันทร์เหมาหมด”
ทองจันทร์พูดอย่างมีความสุข

ขณะที่สนนอนตะแคง หน้าแนบหมอนน้ำตาไหลสะอื้นหวั่นกลัวอยู่นั้น ขุนภักดีย่องเข้ามาเงียบๆ มองสนที่นอนหันหลัง กลัวสะอื้นจนตัวสั่น
ขุนภักดีรู้สึกผิดที่ละเลยสน พึมพำออกมา
“โธ่เอ๊ยสน พี่ละเลยสนขนาดนี้ได้อย่างไร”
ท่านขุนเดินเงียบเชียบมาด้านหลัง นั่งลงเงียบๆ และเบาที่สุด ก้มลงโอบกอดจะหอมแก้มสนปลอบขวัญ
ทว่าสนที่กำลังอยู่ในภวังค์กรีดร้องละเมอไปว่าไอ้เสือหนักมาข่มขืน
“อ๊ายยย”
ขุนภักดีตกใจ “สน”
“ไปนะ อย่าข่มขืนกูนะ ไป ไปให้พ้น”
ขุนภักดีรวบตัวสนไว้ สนหลับหูหลับตาทุบตีท่านขุนพัลวัน
“สน สน สนนี่พี่ พี่เองพี่เทพ พี่ขุน”
ขุนภักดีเขย่าตัวสนเรียกสติ สนลืมตามอง เห็นหน้าท่านขุนใกล้ชิดมาก มองมาสายตาอ่อนโยน ยินดี และขอบคุณ ชัดเจนขึ้นจนแจ่มใสไปหมด
สนดีใจมาก “พี่ขุน” แต่แล้วก็เริ่มระแวง เพราะตัวทำผิดจึงเบี่ยงตัวออก “แส้ม้าอยู่ที่ไหนคะ เนียนมาด้วยใช่ไหมคะ”
“ไม่มีแส้มา ไม่มีเนียน มีแต่พี่ มีแต่ความยินดีและขอบคุณที่สนกำลังให้ลูกกับพี่”
สนเริ่มมีกำลังใจมา “พี่ขุนรู้ได้ยังไงคะ”
“คุณแม่บอกพี่ คุณเรียมกับเนียนดีใจกันใหญ่ แต่คุณแม่หงุดหงิดเพราะน้อยใจที่สนปิดบังเอาไว้”
“ถ้าสนเปิดเผยแล้วจะมีใครใยดีสนบ้างคะ ตลอดเวลา ร่วมสามเดือนพี่ขุนเคยชายตามาแลสนบ้างหรือก็เปล่า มาคราใดพี่ขุนก็มาตำหนิมาขู่สนด้วยแส้ แล้วสนจะมีแก่ใจอะไรไปบอกข่าวดี สนเข้าใจเอาเองว่าก็แค่ข่าวดีของสนคนเดียว หาใช่ของพี่ขุนกับคนอื่นไม่” สนสบโอกาส
ขุนภักดียิ่งกอดสนแน่นขึ้นอีก
“พี่ขอโทษ พี่ผิดไปแล้ว อภัยให้พี่ ต่อไปนี้ไม่อีกแล้ว เลิกน้อยใจแล้วหันมามองหน้าพี่ บอกพี่ว่าลูกของเราอายุกี่เดือนแล้ว”
“ยายอ่อนแกประมาณว่าน่าจะสองเดือนกว่าค่ะ”
สนหันไปแอบยิ้มที่ท่านขุนหลงเชื่อ มีกำลังใจโกหกต่อไป

ส่วนยายอ่อนรับเงินจากช้อยไหว้ปลกๆ
“ขอให้เจริญเจริญ ได้ลูกชายงามๆ เถิด คุณนายสน ช่างเมตตาคนจนอย่างยายแท้ๆ ให้เงินไปลงทุนทำกิน ชาตินี้หาใครดีอย่างนี้ไม่เจออีกแล้ว”
“ใช่จ้ะ ยายอ่อน ยายจงรีบเอาเงินไปทำทุนไวๆ อย่าได้กลับมาเป็นหมอตำแย ไปอยู่ที่อื่นจะดีกว่า ระยะนี้ที่นี่มันโจรชุกชุม อันตรายรอบด้านนะจ้ะยาย”
ยายอ่อนปลาบปลื้มพร้อมทำตามทุกสิ่งอย่าง

ฝ่ายสนได้จังหวะออดอ้อนขุนภักดีเต็มที่ ท่านขุนถอดสร้อยคอคล้องให้สนมีพระเครื่องติดอยู่ด้วย
“ขอให้พระคุ้มครองทั้งสนและลูกจ้ะ”
“ขอบพระคุณพี่ขุนมากค่ะ” สนไหว้
“รักษาตัวดูแลตัวเองให้ดีนะ มีอะไรบอกพี่อย่าปิดบังกันอีก”
ช้อยส่งเสียงมาก่อนตัว ไม่รู้ว่าขุนภักดีอยู่
“คุณสนเจ้าขา ยายอ่อน”
สนใจหายวาบ ตะโกนบอกใบ้
“นางช้อย ช่างไม่มีกาลเทศะ ตะโกนข้ามหัวพี่ขุนได้รึ จะเข้ามา ก็เข้ามา”
ช้อยจึงเข้ามา สบตาแอบพยักหน้าว่าสำเร็จ เพราะช้อยอยู่หลังท่านขุน จากนั้นนั่งทรุดอยู่กับที่ทำท่าดีใจทำท่าทางให้สนดู
“เอ็งพูดอะไรถึงยายอ่อนนางช้อย”
“อ๋อ คือ ช้อย คือ”
“คือสนให้ช้อยไปตามยายอ่อนมาอีกครั้ง จะมายืนยันว่าสนท้องแน่ๆจะได้ขอยาหม้อแกมาต้มให้ลูกแข็งแรงค่ะ” สนบอก
“ดีจ้ะ แล้วทำไมมันไม่มา”
“เอ้อ ยายอ่อนไปแล้วเจ้าค่ะ”
“ไปไหน”
“ไปเอ้อ..งานศพมารดาของพ่อแกเจ้าค่ะ”
ขุนภักดีอึ้งนับญาติไม่ถูก
“นางช้อย ทำไมเอ็งต้องพูดให้มันเข้าใจยากด้วย”
“ช้อยจำคำพูดยายอ่อนมาเจ้าค่ะ”
สนเห็นท่าว่าช้อยท่าจะไม่ดี รีบออดอ้อน
“โอ๊ย สนคลื่นไส้ สนเวียนหัว สน สนอยาก...อยาก”
“สนอยากอะไรรึ”
“อยากกินของเปรี๊ยวๆ อยากกินส้มมะขาม มะม่วง”
“มะม่วงหาวมะนาวโห่” ช้อย
“นางช้อยอย่าล้น นั่นมันพระรถเมรี นี่ข้าอารมณ์ดีเพราะจะมีลูกดอกนะ หาไม่เช่นนั้น เอ็งโดนแน่”

ช้อยทำท่าดีอกดีใจ เอกที่ตามมาภายหลังแอบมองมาจากด้านหลัง เห็นขุนภักดียิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ไม่นานต่อมา ขุนภักดีเรียกประชุม และกำลังออกคำสั่งกับคนใช้ในเรือนทุกคน

“ทุกคนฟังไว้ ให้รีบไปช่วยกันหา ผลไม้เปรี้ยวๆ กะปิอย่างดี ต่างๆ นานาให้คุณสนกินแก้แพ้ท้อง ต้องหาให้ได้ โค่นต้นไม้ก็ต้องทำ”
ทุกคนขานรับคำพร้อมเพรียง
“เจ้าค่ะ” / “ขอรับ”
กบแมวมองหน้ากัน กระซิบกัน
“เป็นเอามาก” กบว่า
“เป็นลมดีกว่า” แมวเสริม
เอกไม่ค่อยสบายใจ พึมพำ
“มันยังไง ยังไงอยู่นา คนช่างโพทะนาอย่างนายบ่าวคู่นั้นเก็บความลับได้อย่างไรตั้งเกือบสามเดือน”
กบกับแมวบังเอิญได้ยิน หันมาสมทบ
“ถึงว่าละสิ พี่เอก”
แต่เอกคิดไม่ออก

ช้อยลิงโลด โผเข้ากอดเท้าสนด้วยความดีใจ
“เห็นไหมเจ้าคะ ว่าท่านขุนรักหลงคุณสนแค่เพียงชั่วกระพริบตาไปแล้ว เชื่อสนิทว่าลูกในท้องเป็นลูกของท่าน ผู้ชายก็โง่เช่นนี้แหละเจ้าค่ะ”
“อีช้อย”
“ขอประทานโทษเจ้าค่ะ ช้อยดีใจจนลืมตัว คอยดูนะเจ้าคะ ลูกเกิดมาท่านอุ้มไม่วางมือแน่ ลูกคนแรก ที่ท่านรอคอย คุณสนจะขึ้นแท่นเป็นอับดับหนึ่ง เป็นเมียคนโปรด คุณเรียมกับคุณนายเนียน ตกกระป๋องไปแล้ว”
“แต่ข้าจะละเลยนางเนียนไม่ได้ ข้าต้องหาทางให้มันตกนรกไม่ใช่แค่ตกกระป๋อง”
สนไม่ยอมรามือเรื่องเนียน

เวลาผ่านไป แลเห็นกองผลไม้เปรี้ยวสารพัดชนิดบนตั่ง และที่พื้นสูงท่วมจนน่าตกใจ เรียมชวนเนียนพากันจะไปร่วมดีใจกับสน
“ไปเถิดเนียน แม่สนคงดีใจที่เราจะไปยินดีด้วย ไอ้นั่นอะไรน่ะ” เรียมถามเอก
“ผลไม้ มากมาย จะเอาไปทำอะไรกัน” เนียนถามตาม
“เอาไปให้คุณสนรับประทานแก้แพ้ท้องขอรับ” เอกบอก
ทองจันทร์โผล่มาอีกคน
“ไฮ้ คนท้องคนเดียวนี่กินจนท้องลูกคนที่สองกระมัง”
“โค่นมะขามมาสองต้นเลยขอรับ คุณท่าน” เอกว่า
ขุนภักดียิ้มแย้มเดินโอบสนมา มีช้อยเดินเชิดตามหลัง
“มันต้องเตรียมพร้อมครับคุณแม่ หากขาดมือเมื่อไหร่ สนจะหงุดหงิดอารมณ์เสีย ผมไม่ต้องการให้สนอารมณ์เสีย เดี๋ยวลูกผมจะเกิดมาโมโหร้ายไม่น่ารัก”
“ขอบพระคุณค่ะ พี่ขุน และทุกคนนะจ้ะ คุณแม่ขา สนขอโทษที่ไม่เอ่ยปากบอกเรื่องนี้ สนน้อยใจค่ะ อีกอย่างสนไม่มั่นใจด้วยว่าท้องหรือเปล่า” สนจีบปาก
ช้อยรีบผสมโรง “คุณสนจึงให้ช้อยไปตามยายอ่อนมายืนยันเจ้าค่ะ”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 4/4 วันที่ 30 มี.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager