อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2/2 วันที่ 23 มี.ค. 56
“นี่สันนิษฐานได้ว่า คุณสนตกกระป๋องแล้วจริงๆ เจ้าค่ะ” ช้อยว่าสนของขึ้น “อีช้อย...”
“เจ้าขา คุณสนเจ้าขาอย่าเพิ่งคลั่ง ยังมีเวลา หาเรื่องใส่มันอีกแยะเจ้าค่ะ ใจเย็นๆ เจ้าค่ะ”
สนร้องไห้โฮๆๆ ส่ายหน้าไปมา ช้อยได้แต่ปลอบ
ฝ่ายขุนภักดีเดินมาถึงท่าน้ำ กำลังจะก้าวไปที่ศาลา ได้ยินเสียงถอนใจเฮือกเบาๆ ของเนียนนั่นเองที่นั่งเศร้าสร้อยอยู่
“พ่อจ๋า เนียนห่วงพ่อ แดงน้อยลูกแม่ แม่ห่วงหนูคิดถึงหนูใจแทบขาด..แต่แม่ไม่มีทางเลือก” เนียนพึมพำกับตัวเอง
“ถอนใจคิดถึงใครที่บ้านรึ”
เนียนสะดุ้งตกใจหันขวับมาไม่กล้าร้อง เอามือปิดปากไว้แน่น
“เห็นชั้นเป็นยักษ์เป็นมาร หรือยังไง ถึงทำท่ากลัวขนาดนั้น”
เนียนรีบทรุดตัวลงนั่งพับเพียบที่พื้น ก้มหน้านิ่ง
“หามิได้เจ้าค่ะ”
“ต่อไปเจอหน้าชั้นก็อย่าทำตัวสั่นงันงกอย่างนี้อีก รู้ไหม”
“ทราบเจ้าค่ะ เอ้อ อิชั้น เอ้อ ไปได้หรือยังเจ้าคะ”
ขุนภักดีหัวเราะขำๆ ปนเอ็นดู
“จะรีบลนลานไปไหน เพิ่งบอกไม่ให้กลัว เอาเถิดจะไปก็ไป เดินไปดีๆ ไม่ต้องวิ่งเดี๋ยวจะหกล้มหกลุก”
ขุนภักดียิ้มย่องอารมณ์ดี แล้วหันตัวกลับเดินไปจากท่าน้ำ แต่เนียนนั่นเอง หกล้มจนได้ เนียนพยายามตะเกียกตะกายลุก ท่านขุนยื่นมือไปตรงหน้า
“ลุกไหวไหม”
เนียนไม่กล้ายื่นมือไปจับตอบ หดไว้ด้านหลังแต่กลับคลานหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ชั้นน่าเกลียดน่าชังนักรึ เจ็บจุกจะแย่ยังไม่ยอมรับความช่วยเหลือเวรกรรม แท้ๆ”
จู่ๆ เอกโผล่มา จนท่านขุนตกใจ เอกพูดอย่างรู้ใจนาย
“แม่เนียน สะสวยไปหมดทั้งรูปร่างหน้าตา ยิ่งได้แต่งตัวงามๆ ที่คุณนายเรียมให้ อุเหม่ นางฟ้ามาจุติเราดีๆ นี่เองนะขอรับ คุณเทพ”
ขุนภักดีเตะก้นเอก หยอกเล่น
“ใครใช้ให้เอ็งมาแอบดูข้า”
“กระผมเป็นพ่อสื่อสวาทของท่านขุนนี่ขอรับ กระผมได้กลิ่นความรักลอยมาเตะจมูก”
ขุนภักดียกเท้าจะเตะอีก เอกหลบวูบ ท่านขุนหัวเราะขันอารมณ์ดี
“เตะก้นเอ็งนั่นแหละไม่ใช่เตะจมูก”
หลายวันต่อมา สนยังคงกลุ้มใจไม่เลิกเรื่องเนียน ปรับทุกข์กับช้อย
“ข้าไม่เจอหน้าพี่ขุนมาสามวันแล้วนะช้อย”
“คิดซะว่ามันไม่ใช่วันของคุณสนเถิดเจ้าค่ะ”
“ไม่ได้ ข้าเคยเห็นหน้าพี่ขุน ทุกเช้าค่ำ แต่ตอนนี้ ส่ายตาหาก็ไม่เห็นแม้แต่เงา เอ็งไปสืบมาหรือยังว่าพี่ขุนไปหลบอยู่ที่ไหน”
“หรือว่าท่านจะหลบไปอยู่ในห้องนางเนียน”
“นางช้อยเอ็งจะยั่วให้ข้าคลั่งใจตาย”
“ว่าได้หรือเจ้าคะ รอแป๊บ ช้อยไปสืบให้นะเจ้าคะ”
ช้อยวิ่งลงเรือนไป สนแทบคลั่งเอามือทุบอก
“อีเนียน มึงทำกูอกจะแตกตาย”
ไม่นานช้อยวิ่งกลับมา หอบแฮ่กๆ
“ได้การแล้วเจ้าค่ะ ไอ้แทนมันบอกว่าพวกในครัวมันหัวเราะคิกคักซุบซิบนินทากันว่า ท่านขุนท่านติดอยู่กับคุณนายเรียมแจบนเรือน”
“แปลว่าไม่ได้อยู่กับนางเนียน” สนว่า
“ก้อเพระนางเนียนมันติดอยู่กับคุณนายเรียมน่ะสิเจ้าคะ” ช้อยบอก
สนตบอกผาง แค้นอกแทบระเบิด
“อีเนียน อีมารหัวใจ”
“หาทางแก้เจ้าค่ะ ยังไงวันนี้วันจันทร์ วันของคุณสน ผัดหน้าทารูดให้สวยกว่านางเนียน แล้วรีบไปทวงข้อตกลงกันเจ้าค่ะ”
ช้อยรีบไปเอากระจกเอาแป้งเอาเครื่องประทินโฉมมาให้นายหญิง สนรีบทำตามที่ช้อยจัดแจง
ขณะที่ขุนภักดีกำลังจะไปทำงาน นายเอกมายืนรอรับกระเป๋าเอกสาร เรียมเดินมาส่ง มีเนียนเดินตามหลัง ถือกระเป๋าเอกสาร ถือรองเท้าตามหลังมาด้วย
“เย็นนี้พี่จะกินอาหารเรือนนี้ จะมีใครทำต้มยำพุงปลาให้พี่กินไหมจ้ะเรียม” ขุนภักดีเปรยขึ้น
“คุณพี่กินต้มยำพุงปลาช่อนมาสามวันติดกันแล้วนะคะ” เรียมว่า
“พี่อยากกินทุกวันนี่จ้ะเรียม”
“แต่วันนี้ เป็นวัน...”
ขุนภักดีสวนขึ้น “วันอะไรไม่สำคัญ พี่จะกินต้มยำพุงปลาช่อนกินที่นี่”
“ค่ะ เนียน ส่งกระเป๋าเอกสารของท่านขุนให้นายเอก”
“นี่เจ้าค่ะ”
เนียนส่งให้เอก ขุนภักดียื่นมือมารับแทนจนมือชนมือเนียนจังๆ เนียนสะดุ้ง ท่านขุนทำไม่รู้ไม่ชี้มองรองเท้าที่มือเนียนพลางบอก
“รองเท้าด้วย”
เนียนก้มลงวางรองเท้าที่หน้าเท้าของขุนภุกดี ท่านขุนสอดเท้าลงไปยิ้มย่อง เนียนกำลังจะผูกเชือกรองเท้าให้ สนกับช้อยมาถึง สนมองอย่างไม่พอใจ
“พี่คุณเจ้าขา วันนี้วันจันทร์ หน้าที่สนดูแลพี่ขุนค่ะ”
ช้อยรีบกระซิบ “มันกำลังแย่งหน้าที่คุณสนเจ้าค่ะ”
สนกระซิบตอบ “แต่...”
“ด้านได้อายอดเจ้าค่ะ”
สนรีบปราดไปก้มลงกระแทกเอาเนียนเซไป
“หน้าที่สนใส่รองเท้าให้พี่ขุน เนียนเอ็งถอยไป”
ทว่าขุนภักดีกลับชักเท้าหนีมือสนที่แย่งรองเท้าอีกข้างมาจากมือเนียน
“แม่สน จ๋า เนียนเขาใส่จนเสร็จไปข้างหนึ่งแล้ว ให้เขาใส่อีกข้างให้เสร็จ”
สนถึงพูดไม่ออก สบตาช้อยพยักหน้าให้สู้ต่อ
“พี่ขุนเจ้าขา เย็นนี้ สนรอพี่ขุนกลับมากินแกงตะพาบน้ำที่เรือนสนนะคะ คุณพี่เรียมเตือนพี่ขุนแทนสนด้วยนะคะ”
เรียมมองหน้าขุนภักดีที่ทำหน้าดื้ออยู่ ก่อนจะหันมาทางสน
“ไม่ต้องเตือน พี่เทพก็ได้ยินแม่สนพูดแล้วขอตัวก่อน เนียนรีบไปย้ายของมาไว้บนเรือนใหญ่สิ”
สนกับช้อยมองหน้ากัน
เนียนรีบลุกตามเรียมไป ขุนภักดีมองตามไม่อยากให้เนียนไปเร็ว สนแทบคลั่งมองเนียนอย่างกับจะเลือดกินเนื้อ
กลับมาถึงหน้าเรือนเรือนสนร้องกรี๊ดๆ อาละวาดใส่ช้อย
“นางเนียนมันย้ายไปอยู่บนเรือนใหญ่ ไหนเอ็งว่าด้านได้อายอด นี่ข้าด้านข้าอายมาหลายครั้งหลายคราข้าก็ยังอด อดทุกอย่าง”
“นั่นสิเจ้าคะ มันน่าแค้นใจแทนคุณสนจริงๆ ทีนางเนียนท่านขุนยิ้มแต้ ยื่นตีนให้มันใส่รองเท้าให้ พอคุณสนจะใส่ให้หดตีนหนีเอาดื้อๆ ช้อยว่าท่านขุนทำกับคุณสนเกินไปแล้ว คุณสนไม่ใช่เมียขัดดอกนะเจ้าคะ” ช้อยยุเป็นการใหญ่
“เอ็งต้องช่วยข้า ทำให้นางเนียนมีอันต้องโดนเฉดหัวไปจากบ้านนี้”
“เชื่อหัวอีช้อยเถิดเจ้าค่ะ”
“เชื่อหัวอีช้อย ข้าเคยเชื่อหัวเอ็งมาแล้ว พินาศอับเฉามาก็เพราะหัวเอ็งเป็นปี”
“แต่ช้อยก็แก้ตัวได้ จนคุณสนกลายมาเป็นคุณนายที่สองของท่านขุนมีเงินมีทองมีบุญวาสนานะเจ้าคะ”
“เอ็งไม่ต้องมาทวงบุญคุณ”
“ช้อยแค่เตือนความจำ ขึ้นไปวางแผนบนเรือนนะเจ้าคะ กำแพงมีหูประตูมีช่องเจ้าค่ะ”
ช้อยดึงแขนสนขึ้นเรือนไป
ขึ้นมาบนเรือนแล้ว ช้อยกระชากลากเสื้อผ้าออกมาจากตู้มาขยำแล้วโยนลงพื้น สนมองอย่างแปลกใจ
“กระทืบเลยเจ้าค่ะ”
“เอ็งบ้ารึ เอ็งกระชากเสื้อข้ามาขยำลงโยนลงพื้น แล้วยังให้ข้ากระทืบซ้ำ ไม่เอาหรอกเสื้อผ้าข้าสวยๆ แพงๆ ทั้งนั้น”
“ยิ่งแพงยิ่งดี ยิ่งต้องทำให้มันยับเยินสกปรกที่สุด”
“เพื่ออะไร”
“เพื่อเอาไปโยนให้นางเนียนมันซักให้ไงเจ้าคะ มันต้องซักรีดเสื้อผ้าคุณสน ให้เรี่ยมที่สุด”
สนพยักหน้าตาม แต่ยังค้าน
“เสื้อผ้าข้ามิพังหมดรึ เสียดายน่ะ”
“ก็ฟ้องท่านขุนสิเจ้าคะ ว่ามันทำเสื้อผ้าคุณสนพัง”
“จริง...ด้วย พี่ขุนจะได้เฆี่ยนมัน เอ...ถ้าพี่ขุนไม่เชื่อไม่เฆี่ยนมันล่ะ”
“ก็เฆี่ยนคุณสนแทนสิเจ้าคะ”
“นางช้อยบ้า”
“ช้อยหยอกเล่นหรอกเจ้าค่ะ ท่านขุนไม่กล้าเฆี่ยนคุณสนดอกเจ้าค่ะ ท่านสัญญากับพ่อกำนันไว้ดิบดี”
สองนายบ่าวเข้าใจกัน
ไม่นานต่อมา เสื้อผ้าของสนจมอยู่ในกะละมังที่มีแต่ดินโคลนเลอะเทอะไปหมด สองคนยืนมองยิ้มพอใจ
“เลอะเทอะเละเทะได้ทีแล้วเจ้าค่ะคุณสน”
“รีบไปจิกหัวนางเนียนให้มันมาเอาเสื้อผ้าของข้าไปซัก”
ช้อยรีบวิ่งออกไป สนเอาเท้าเกี่ยวกางเกงในหลายตัวย่ำลงไปในกะละมัง
เนียนกำลังกวาดบ้านถูบ้านช่อง เช็ดขอบหน้าต่าง จัดข้าวของทำสารพัด โดยมีทองจันทร์กับเรียมมองอย่างพึงพอใจ
“เนียนมันขยันมากแบบนี้ นางกบสบายแฮไปเลย” ทองจันทร์ว่า
“กบมันถึงได้รักเนียนไงคะ เนียนไม่พูดมากไม่ลามปามด้วยนะคะ คุณแม่”
“ดี...แม่เบื่อพวกไม่รู้กาลเทศะจุ้นจ้าน เหมือนนายบ่าวเรือนเล็กโน่น”
เนียนหิ้วถังน้ำทรุดลงนั่งถอยหลังผ่านหลังสองคนไป
“วันนี้พอก่อนเนียน ไปพักผ่อนนั่งเล่นซะบ้าง” เรียมยิ้มบอก
“เอ็งทำงานเหมือนวัวเหมือนควาย พ่อเอ็งรู้เข้าจะหาว่าข้าเอาเอ็งมาเลี้ยงแทนวัวควาย” ทองจันทร์เสริม
“พ่อไม่คิดอย่างนั้นดอกเจ้าค่ะ พ่อสั่งเนียนเอาไว้ว่าให้ทำดีที่สุดสมกับที่ท่านเมตตาเนียนเจ้าค่ะ”
“ไม่สบายใจอะไรหรือเนียน ดูหน้าตาเศร้าๆ คิดถึงบ้านรึ” เรียมถาม
เนียนอึกอักนิ่งไปไม่กล้าพูด
“หัดกล้าเอาไว้บ้างเนียน ไม่งั้นเอ็งจะโดนคนใจร้ายมันข่มเหงเอาลับหลังข้ากับเรียม เอ็งเศร้าสร้อยเพราะห่วงพ่อเอ็งใช่ไหม”
“เจ้าค่ะ”
“โถ...ชั้นจะให้คนพาเนียนไปเยี่ยมพ่อ” เรียมสงสาร
เนียนยกมือไหว้ดีใจจนออกนอกหน้า เผลอตัว “จริงหรือเจ้าคะ”
“เอ๊ะ แก่ปูนนี้จะพูดเล่นกับเอ็งรึ” ทองจันทร์เย้า
“เนียนขอประทานโทษ เนียนขอบพระคุณคุณนายกับคุณนายเรียมมากเจ้าค่ะ”
เนียนรีบหิ้วถังคลานออกไป
“ชั้นบอกให้เรียกชั้นว่าคุณพี่ ทำไมไม่ยอมเรียกสักที”
“เนียนไม่กล้าตีตัวเสมอคุณนายเรียมดอกเจ้าค่ะ”
“เอ็งนี่แปลก มีคนอย่างคุณนายเรียมลูกสาวนายอำเภอเก่า เมียท่านขุนภักดีภูบาลขอนับญาติด้วยเอ็งยังกล้าปฏิเสธ” ทองจันทร์ว่า
“เนียนถือเป็นเกียรติ แต่เป็นเกียรติที่เนียนไม่สมควรได้รับเจ้าค่ะ เนียนต่ำต้อยติดดิน แต่ท่านสูงส่งเกินกว่าเนียนจะไปเทียบเทียม” เนียนพูดจากใจ
“เวลากล้าพูดขึ้นมา เอ็งก็พูดได้จับใจแท้ๆ”
ทองจันทร์ส่ายหน้าระอา แต่เรียมยิ้มเอ็นดูพยักหน้าให้เนียนออกไป
น้อมอาการแย่ลงกว่าเดิมอีก
“ไอ้โพล้ง ข้าต้องรีบไปหาทองจันทร์กับคุณนายเรียม ก่อนที่ข้าจะตาย”
“อ้าว ก็ให้ชั้นไปรับเนียนมามิสะดวกกว่าหรือลุงน้อม”
“ข้าเกรงใจท่าน ทำให้เนียนเสียเวลารับใช้ท่าน มันไม่สมควร และข้ามีเรื่องสำคัญจะขอร้องพวกท่าน”
น้อมทำสีหน้าขึงขัง โพล้งพยักหน้าทำตาม แล้วน้อมก็ตกตะลึง เมื่อเห็นหนักยืนตระหง่านกำลังทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเท้า ก้มลงกราบเท้าน้อม
“พ่อจ๋า”
น้อมหดเท้าหนี หนักพยายามจะกอดเท้าพ่อ
“มึงอย่ามาเรียกกูว่าพ่อ กูไม่มีลูกเป็นโจร มึงเป็นต้นเหตุให้ไอ้แดงพ่อของไอ้แดงน้อยหลานกูตาย”
หนักร้องไห้ “พ่อจ๋า ชั้นผิดชั้นเลว แต่ชั้นก็คือลูกของพ่อ ชั้นตัดสินใจทำไปเพราะชั้นทนเห็นความยากแค้นของทุกคนไม่ได้”
“กูไม่ต้องการฟัง กูไม่อยากเห็นหน้ามึง ไปให้พ้น ตราบใดที่กูยังไม่ตาย ห้ามมึงมาเหยียบที่นี่อีก”
น้อมพูดไปหอบไป หนักร้องไห้ โพล้งกระซิบบอก
“ทำตามที่ลุงบอกเถิด เอ็งโกรธมากอาการจะหนักขึ้น”
หนักร้องไห้ไปแล้วยัดถุงเงินใส่กระเป๋าให้โพล้ง ก่อนจะร้องไห้วิ่งถอยหลังออกไปทางหลังเรือน ตะโกนเข้ามาบอก
“พ่อจ๋า ชั้นขอโทษ ชั้นรักพ่อ รักน้อง รักหลาน”
น้อมเองก็ร้องไห้ น้ำตาไหลพรากๆ เสียงของหนักค่อยๆ จางหายไป
ขณะที่เนียนกำลังนั่งรำพึงคิดถึงพ่อกับแดงน้อยอยู่ตรงท่าน้ำ
“พ่อจ๋า แดงน้อยลูกแม่ อีกไม่กี่วัน แม่จะได้พบหน้าลูก”
ช้อยเดินมาตะโกนข้างหูเนียนดังๆ
“กระตู้วู้”
เนียนสะดุ้งตกใจ
“ช้อย ตกใจหมด”
“ตกใจเพราะกลัวใครเขาจะจับได้ว่ามานั่งตาลอยใจลอยคิดถึงผัวที่บ้านรึ” ช้อยอำ
เนียนเสียววูบ “ช้อยพูดอะไรน่าเกลียด”
“พูดน่ารักก็ได้ ถามจริงโดนจับใส่ตะกร้าล้างน้ำมาหรือเปล่า”
เนียนยิ่งตกใจ เอกเดินเข้ามาพอดี
“เนียน คุณนายเรียมมาบอกให้ชั้นพาเนียนไปเยี่ยมพ่อที่บ้านแพน”
“แต่คุณสนต้องการให้เนียนไปซักรีดเสื้อผ้าให้คุณสน” ช้อยขัดขึ้น
“นี่เป็นคำสั่งของคุณนายเรียม ใครกล้าขัด” เอกขึ้นเสียง
“อยู่บ้านเดียวกัน ไม่คิดจะปรองดองกันหรือยังไง” ช้อยไม่ยอม
“พี่เอกจ๊ะ วันนี้ให้เนียนไปซักผ้าให้คุณสนก่อนเถิดจ้ะ” เนียนไม่อยากมีปัญหา
เอกเซ็ง ช้อยยิ้มสะใจ
ฟากสนนั่งกระดิกเท้าทำไขว่ห้าง มีช้อยกำลังขัดเท้าให้ ชี้ชวนให้ชม
“เอ็งเก่งมากช้อย ดูสิว่านางน้องสาวคนสวยของคุณนายเรียมมันจะซักผ้าของข้าให้สะอาดได้ไหม”
“ได้เจ้าค่ะ ถ้ามันซักไปสักอาทิตย์หนึ่ง”
สองคนหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ ชี้ชวนกันให้ดูเนียน
ตรงบริเวณลานที่เนียนมานั่งซักผ้าของสนริมคลอง เนียนนั่งเอามือขยี้ผ้าแต่ไม่สะอาด เนียนเปลี่ยน เอาผ้าวางบนไม้ใช้แปรงไถไปมา
เวลาผ่านไป จากสายเป็นเที่ยงแดดเปรี้ยง เนียนยังซักผ้าไม่เสร็จ เหงื่อโทรมกายไปหมด เอกเดินมาหาเนียน
“ไฮ้..เนียน ทำไมคุณสนใช้ให้เนียนซักผ้ามากมายเยอะแยะขนาดนี้”
“ไม่เป็นไรจ้ะ พี่เอก”
“นี่มันมากยังกับผ้าของคนทั้งบ้านมารวมกัน แกล้งกันชัดๆ” เอกบ่น
“ไม่เป็นไรจ้ะพี่เอก เนียน ทำได้”
เอกลงนั่งข้างๆ
“พี่ช่วยเอง”
“ไม่ต้อง พี่เอกอย่าทำจ้ะ คือว่ามัน มัน มี...”
เนียนพูดไม่ทันจบ เอกควานลงไปหยิบเอากางเกงในขึ้นมา
“ไฮ้ กางเกงในก็เอามาให้ซักด้วยรึนั่น”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
“มัวแต่ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวก็เป็นลมหรอกนะจ๊ะ”
“ตากแดดไถนาเป็นวัน มันยังหนักกว่านี้”
เอกพึมพำอย่างรู้ทันสน “คุณสนเริ่มก่อสงครามสวาทกับเนียนแล้ว เฮ้อ...”
เนียนทำเป็นไม่ได้ยิน ก้มหน้าก้มตาซักผ้าที่ริมคลองต่อไป
ไม่นานต่อมา เนียนกำลังตากผ้าใกล้เสร็จ ผ้าของสนสะอาดสะอ้าน พาดเต็มราว
สนกับช้อยแอบมองจากบนหน้าต่างหลังบ้าน
“ไม่น่าเชื่อ มันซักจนเสร็จ แถมสะอาดด้วยช้อย”
“ก็มันพวกเดียวกับวัวควายไถนาทั้งวันมันก็ไหวไงเจ้าคะ”
“ก็ข้าอยากให้มันทำไม่ไหว ทำยังไงดีล่ะ”
“ทำอย่างนี้สิเจ้าคะ คุณสนเจ้าขา สะอาดได้ก็สกปรกได้อีกเจ้าค่ะ”
ช้อยยกน้ำอะไรสักอย่างที่ดูสกปรกเลอะเทอะ ง้างขึ้นแล้วสาดโครมลงไปที่ราวผ้า
ขณะที่เนียนตากผ้าเสร็จ ก้มลงหยิบตะกร้าผ้า จู่ๆ มีน้ำ สาดโครมลงมาเป็นน้ำสกปรกด้วย สาดมาใส่ทั้งเนียนและ
บนเสื้อผ้า เนียนเงยหน้าขึ้นไปมอง
สนกับช้อยยืนยิ้มไม่มีถังที่เทน้ำแล้ว และทำไม่รู้ไม่ชี้สีหน้าสะใจ
“อ้าว...เอ็งเอาผ้าข้ามาตากขวางทางน้ำทำไม” สนว่า
“ดูสิ เอ็งทำเสื้อผ้าคุณสนเปียกปอนเลอะเทอะหมดแล้ว”
“เอ็งต้องซักคืนให้ข้าให้สะอาดเหมือนเดิมรู้ไหม” สนบอก
“ทราบเจ้าค่ะ คุณสน แต่…”
“แต่อะไร” สนแว้ด
“วันนี้เย็นแล้ว เนียนต้องไปทำอาหารเจ้าค่ะ”
อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2/2 วันที่ 23 มี.ค. 56
ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager