อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 14/5 วันที่ 11 มี.ค. 56


อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 14/5 วันที่ 11 มี.ค. 56

“ข้ามลำน้ำนี่ไปก็ถึงที่ที่พญาสมิงเหล็กสถิตอยู่แล้ว”
“งั้นก็รีบไปเลยสิวะ อย่าเสียเวลา”
ยิ่งยศนำหน้าหาญรีบข้ามลำธารไปทันที โดยเดินลอยข้ามไปเพราะเป็นกายทิพย์จะเห็นว่าน้ำในลำธารมีแสงเรืองขึ้นวูบหนึ่ง ทันใดผีพรายก็ผุดขึ้นมาจากน้ำ เป็นเงาลอยไปมาล้อมทั้งสองคนไว้ รุมโจมตีพร้อมกัน ยิ่งยศกับหาญหันหลังชนกัน หลบผีพรายไปมาแล้วฟาดตอบไป

“ไหวมั้ย ไอ้หาญ” หาญพยักหน้า “น่ารำคาญจริง เจอของจริงเลยแล้วกัน” ยิ่งยศพนมมือร่ายคาถาสาดพลังออกไป ผีพรายร้องกรี๊ด กระเด็นออกไป “ไอ้ผีกระจอก”


“ขอบใจ ไอ้ยิ่ง รีบไปเถอะ”
หาญกับยิ่งยศ กลายเป็นดวงจิตลอยวืดไปทางภูเขาที่เห็นอยู่ลิบๆ

วันต่อมาที่บ้านภูมินทร์ที่กรุงเทพ เสือไทร่ายคาถาสะเดาะกลอนแล้วเป่ามนต์ ลูกบิดรหัสเซฟเคลื่อนที่ได้เอง จนกระทั่งคลิ๊ก เปิดออก คมรอลุ้นอยู่ ยิ้มเมื่อเห็นสมบัติมีค่าทั้งทองคำ เพชรพลอย เงินสด อยู่เต็มในตู้เซฟ คมหยิบขึ้นมาดูด้วยความสะใจ แต่จู่ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นแค้น
“ไอ้ภูมินทร์ ฉันทำงานเสี่ยงตายให้มันทุกอย่าง แต่มันกลับหยิบยื่นให้แค่เศษเงินกระจอกๆ แล้วดูสมบัติที่มันเก็บไว้ เป็นของตัวเองสิ”
เสือไทเข้าใจหัวอกคม
“ข้าเข้าใจหัวอกเอ็ง แต่นับจากนี้สมบัติทั้งหมดจักเป็นของเอ็งกับข้า เราจักเป็นไทแก่ตัว ไม่มีใครเป็นนายเราอีก”
ทั้งสองคนสบตาแล้วระเบิดเสียงหัวเราะอย่างฮึกเหิม
“เหลือแต่ไอ้กล้า ฉันรู้ว่าแกแค้นมันจนแทบจะกินเลือดกินเนื้อมันได้”
“รึเอ็งไม่หมั่นไส้มัน ถ้าไม่ได้ฆ่ามันกับมือ ข้าคงตายตาไม่หลับ”
“หึ เราต้องกำจัดมันทิ้งแน่ แต่ตอนนี้ฉันมีวิธีเอาคืนมันให้สาแก่ใจก่อน”
เสือไทกระเหี้ยนกระหือรือทันที

อีกด้านหนึ่งที่กระท่อมกระถิน ราชาวดีเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเช็ดหน้าให้กระเต็นที่ยังหลับ กระถินเดินถือแหเข้ามา มีเปี๊ยกถือถังใส่ปลาตามเข้ามา
“โอย เหนื่อยๆ ทำไมกว่าจะได้น้ำซักถังมันยากเย็นขนาดนี้”
“ตักน้ำแค่นี้ทำมาบ่น หนูทำของหนูมาตั้งแต่เด็กไม่เห็นตายเลย ผู้ใหญ่อะไร ไม่อดทนซะเลย”
“มาแล้วเหรอ ได้ปลาเยอะมั้ย”
“เยอะจ้ะ วันนี้ว่าคาถาเที่ยวเดียว ปลาก็มากันเต็มเลย”
“โม้ คาถงคาถาอะไร นึกว่าเล่นเรื่องสังข์ทองอยู่เหรอไง”
“โอ๊ย ไม่อยากจะคุย นี่ถ้าลุงโชติยังอยู่นะ หนูจะให้เสกหนังควายเข้าท้องพี่จริงๆ ด้วย”
“กระถิน” ราชาวดีปรามกระถิน
“ขอโทษจ้ะ ก็พี่เปี๊ยกชอบมาว่าหนูอยู่เรื่อย”
“ใคร ใครว่าใครกันแน่ เราน่ะแหละ ใช้พี่อยู่คนเดียว ทีน้าจุกไม่เห็นไปใช้เค้ามั่ง”
“อ้าว น้าจุกไม่ได้ไปกับเปี๊ยกเหรอ”
“เปล่านี่”
“แล้วเค้าหายไปไหนของเค้า”
เปี๊ยกแบกน้ำไปเทใส่ตุ่ม กระถินคุกเข่าข้างกระเต็น
“ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มนต์นิทราจะคลายซักที หลับนิ่งๆ นานๆ แบบนี้ มันเหมือน... เหมือนตอนที่แม่หนูตายไป ไม่มีผิด”
ราชาวดีเห็นก็รีบปลอบ
“เหมือนที่ไหนกัน ดูสิคุณน้ายังหายใจอยู่เลย เดี๋ยวพอพวกปู่หาญกลับมา คุณน้าก็ตื่นแล้ว เชื่อพี่นะจ๊ะ”
“แล้วถ้าปู่หาญไม่กลับมาล่ะจ๊ะ เราจะทำยังไง”
“พี่ก็จะปกป้องกระถินกับน้ากระเต็นเอง พี่สัญญา”
กระถินกอดราชาวดี

เปี๊ยกออกมาหน้ากระท่อมเทน้ำใส่ตุ่ม ทันใดน้ำกระเพื่อมแผ่นดินสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว เปี๊ยกเซไปมา กระป๋องหลุดจากมือ ปากทางที่ยิ่งยศพรางเอาไว้กำลังถูกแยกออก เสียงดัง พื้นสั่นไหว
เปี๊ยกมองไปข้างหน้าเห็นว่ากำแพงมนต์ที่ยิ่งยศพรางไว้แยกออก เสือไทกับคมปรากฏตัวขึ้น
“แย่แล้ว พวกไอ้พ่อเลี้ยง”
ราชาวดีวิ่งออกมา
“เกิดอะไรขึ้น”
ราชาวดีชะงักเมื่อเห็นเสือไทกับคม
“พวกเอ็งคิดว่ามนต์พรางตาจักช่วยให้รอดพ้นได้กระนั้นรึ”
“ฉันคิดไม่ผิด พวกแกมารวมตัวอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย”
“หนีเร็ว”
เปี๊ยกกระโดดเข้ากระท่อม ฉุดราชาวดีเข้าไปแล้วปิดประตู
“ถ้านังราชาวดีอยู่นี่ แม่ไอ้กล้าก็ต้องอยู่เหมือนกัน”
“ดี! ข้าจะฆ่าแม่มัน แล้วเอาเมียมันเป็นเมียข้า ฮ่าๆ”

“มีอะไรจ๊ะ พวกผู้ร้ายมันมาเหรอ”
กระถิมถามราชาวดีกับเปี๊ยก
“ใช่”
“ทำยังไงดี น้ากระเต็นก็ยังไม่ฟื้น”
“เปี๊ยกพากระถินกับน้ากระเต็นหนีไป วดีจะถ่วงเวลาพวกมันไว้เอง” ราชาวดีรีบถอดตะกรุดคล้องคอกระเต็น
“เร็วซิ”

คมกับเสือไทหยุดยืนอยู่ข้างหน้ากระท่อมอย่างใจเย็น
“ราชาวดี เธอจะหนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอก ออกมาเถอะอย่าให้ฉันต้องใช้กำลังเลย”
ขณะนั้นเปี๊ยกกำลังรีบแบกกระเต็นปีนหน้าต่าง กระถินปีนไปรออยู่ข้างล่างพร้อมรถเข็นราชาวดีช่วยดันก้นให้พ้นอย่างทุลักทุเล
“จะพูดไปใยให้มากความ เสียเวลา”
เสือไทถีบประตูเปิดออก เห็นราชาวดียืนอยู่คนเดียว
“พวกแกต้องการอะไร”

“ข้าก็ต้องการตัวเอ็งน่ะซิ นังคนสวย”
“แม่ไอ้กล้าล่ะ”
“ไม่มีใครทั้งนั้น ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว”
“โกหก”
คมมองฟูกที่กระเต็นนอนกับชุดเครื่องนอนหมอนอีกสองสามใบ ของใช้อื่นๆ แล้วมองไปที่หน้าต่าง ราชาวดีซ่อนมีดไว้ข้างหลัง เงื้อแทงคมข้างหลังแต่ถูกไหล่เฉียดไปเพราะคมไหวตัว คมหันมาตบราชาวดีกระเด็น มีดหลุดมือ
เปี๊ยกกับกระถินช่วยกันเข็นกระเต็นไปตามทางในสวน
“หนูเป็นห่วงพี่วดี หนูจะกลับไปช่วยพี่เค้า พี่พาน้ากระเต็นหนีไปเถอะ”
“จะบ้าเหรอ ตัวเท่าเมี่ยงจะไปทำอะไรได้”
“แล้วเราจะปล่อยให้พี่เค้าสู้กับผู้ร้ายอยู่คนเดียวเหรอ ถ้าพี่กล้ารู้จะว่ายังไง พี่เค้าฝากพี่วดีไว้กับเรานะ”
เปี๊ยกลังเล กระถินคว้าพร้าที่อยู่ในรถเข็นจะไป เปี๊ยกดึงไว้ แย่งมีดไป
“เธอพาน้ากระเต็นไปหลบอยู่ที่ท้ายสวน พี่จะไปช่วยวดีเอง”
“แล้วพี่จะไหวเหรอ”
“พี่น่ะ เปี๊ยก ศิษย์กล้านะ ธรรมดาที่ไหน” เปี๊ยกวิ่งไป
“พี่เปี๊ยก หนูรอพี่ที่ท้ายสวนนะ”
เปี๊ยกทำมือว่าโอเค กระถินมองตามใจหาย

ราชาวดีกระเถิบหนี คมหยิบมีดเข้าไปกระชากผมราชาวดีจะแทง เสือไทจับไว้
“ปล่อย อีนี่มันจะฆ่าฉันไม่เห็นเหรอ”
“แต่นังคนนี้มันเป็นผู้หญิงของข้า เอ็งมันประมาทไม่ปลุกตะกรุดเอง”
ราชาวดีหยิบของใกล้มือได้ก็ขว้างใส่แล้วทำท่าจะวิ่งหนีออกประตู เสือไทคว้าตัวได้ ราชาวดีดิ้นสุดชีวิต เสือไทต่อยท้องตัวงอแบกขึ้นบ่าจะออกไป แต่เปี๊ยกถือมีดพร้าเข้ามา
“หยุดนะโว้ย ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้”
“แก เพื่อนไอ้กล้า ฉันจำได้”
“จำได้ก็ดีแล้ว วางวดีลง ไม่งั้น เห็นดีกันแน่”
“ไอ้กระจอกนี่ ข้ายกให้เอ็ง”
คมแค้นอยู่แล้ว เดินเข้าหาเปี๊ยก เปี๊ยกฟันใส่ คมหลบไปมา แล้วถีบเปี๊ยกเซ
“ฝีมือไม่เลวนี่”
เปี๊ยกร้องสุดเสียง วิ่งเข้าใส่ สู้สุดชีวิต คราวนี้ถูกอัดจนพร้าหลุดจากมือ คมอัดแหลก เสือไทยิ้มสะใจแบกราชาวดีเดินไปจากกระท่อม ราชาวดีเห็นคมกระทืบเปี๊ยกจนหมอบแล้วชักปืนจะยิง
“บอกมาแม่ไอ้กล้าอยู่ที่ไหน”
“ฉันไม่รู้”
“อย่า อย่าทำเค้า ฉันขอร้อง” ราชาวดีขอร้องทั้งที่ยังจุก
“ได้”
คมเตะเปี๊ยกสลบแล้วปิดประตูกระท่อมเดินออกไป เอาระเบิดที่พกมาถอดสลักโยนไปที่หลังคากระท่อม กระท่อมระเบิดเป็นจุลทันที ราชาวดีกรีดร้องก่อนจะสลบไป เสือไทกับคมหัวเราะสะใจ ก่อนจะหันหลังเดินออกมา ขณะที่กระท่อมกำลังถูกไฟลุกโชน

กล้าสะดุ้งตื่นกลางดึก เหงื่อแตกเพราะฝันร้าย กล้าลูบหน้าเรียกสติ มองข้างๆ เห็นคะนึงนิจหลับ กล้ามองไปที่นาฬิกาเห็นเป็นเวลาตีสองก็รีบค่อยๆ ลุกจากที่นอน คว้าดาบที่แขวนไว้เดินออกไป หลังจากหันมาเช็คว่าคะนึงนิจหลับแน่ แต่พอกล้าออกไปแล้ว คะนึงนิจก็ลืมตาขึ้น

หลังปางไม้กล้าและอาจารย์ยอดนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงข้ามกัน โดยมีคัมภีร์นาคราชอยู่ระหว่างคนทั้งสอง
“คัมภีร์นาคราชเป็นคัมภีร์โบราณเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ไม่ใช่ทุกคนที่จะฝึกมันได้ เอ็งจงทำสมาธิให้มั่น ตั้งใจให้ดี นะมามิ ลิละ สาเข ปัตถะ ละปะ ธัมเม สะคะลับตี สะเยตานาคะ ลาเชนะยะปิสะโตฯ ข้าขออัญเชิญท่านพญานาคราชมา ณ ที่นี้ ด้วยเถิด”
เกิดลมแรงขึ้น คัมภีร์ใบลานแผ่ออก พร้อมแสงเรืองรอง เหล่าอักขระโบราณลอยขึ้น ก่อนจะกลายเป็นผงสีทองปลิวเข้าไปที่ตัวอาจารย์ยอด อาจารย์ยอดผงะ ลุกขึ้น จ้องกล้าด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปกลายเป็นคนขึงขังแววตาดูน่าเกรงขาม
อาจารย์ยอดถูกพญานาคราชสิง พูดด้วยอีกเสียงที่ต่างออกไป และก้องกังวาน
“เราพญานาคราช เจ้าเชิญเรามาด้วยเหตุใด”
กล้าอึ้งๆ พยายามอธิบาย
“ผมขออโหสิหากล่วงเกินท่าน ผมเชิญท่านมาเพื่อหยุดโจรชั่วอย่างขุนโชติ ไม่งั้นจะต้องมีคนตายอีกมาก”
“เรารู้ เจ้าจิตใจดีมีคุณธรรม ต่างกับเจ้าของร่างนี้ที่ช่างโลภโมโทสันนัก หากเจ้าประสงค์เช่นนั้นก็ลองดู แต่จะผ่านวิชานาคราชทั้ง 3 ขั้นรึได้ไม่ ก็ขึ้นกับตัวเจ้าเอง”
นาคราชภาวนาคาถา เคลื่อนตัวอย่างเร็วเข้าหากล้า กระหน่ำซัดหมัด กล้าตั้งรับแทบไม่ทัน กล้าเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด กล้าหอบเหนื่อย ทรุดกองกับพื้น เนื้อตัวน่วม นาคราชเคลื่อนกายอาศัยความว่องไวของจิตเป็นหลัก กล้าลุกขึ้น ตั้งการ์ด หลับตานิ่ง นาคราชเคลื่อนตัวเร็วรอบกล้าแล้วหายวับไป
กล้าหลับตาแต่ลูกตาเคลื่อนไปมา นาคราชพุ่งเข้าหากล้าทางด้านหลัง กล้าเคลื่อนกายอย่างเร็ว หันกลับ โต้ด้วยหมัด หมัดกับหมัดชนกันพอดี เกิดพลัง ผลักให้ร่างทั้งสองถอยออกจากกัน กล้าลืมตาขึ้น แปลกใจที่ตัวเองทำได้ นาคราชพยักหน้าให้
กล้าหลบหมัดนาคราชที่พุ่งซัดเข้ามา โดยเคลื่อนตัวขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ อย่างว่องไว กล้าตีลังกาลงมายืนมาดมั่น นาคราชยิ้มให้อย่างพอใจ

กล้าค่อยๆ เปิดประตูห้องเข้ามา เดินไปที่เตียงแต่ชะงัก เพราะที่เตียงไม่มีคน
“นิจ”
กล้าหันไปที่ประตู คะนึงนิจก้าวออกมาจากหลังประตู
“ตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็เมื่อตอนที่พี่กล้าออกไปข้างนอกนั่นแหละ พี่กล้ากำลังจะทำอะไร”
“ทำไมกลัวพี่ออกไปหาผู้หญิงคนอื่นเหรอจ๊ะ”
“อย่ามานอกเรื่อง พี่ต้องมีแผนชั่วอะไรแน่ๆ”
“คนชั่วอย่างฉันมันคงไม่มีแผนดีดีหรอก เธอนอนได้แล้ว”
“ไม่”
“บอกให้นอน” กล้ากระชากคะนึงนิจ
“บอกว่าไม่ไง ปล่อย นิจไม่อยากนอนร่วมเตียงกับฆาตกร” คะนึงนิจดิ้นๆๆ “ปล่อย” คะนึงนิจสะบัด แล้วเซเสียหลักหัวชนขอบเตียง “โอ๊ย”
“นิจ เป็นอะไรรึเปล่า” กล้าเข้าไปประคอง ดูแผลอย่างห่วงใย “ทำไมดื้อแบบนี้”
กล้าฉุดคะนึงนิจมานั่งแล้ว เอาผ้าขนหนูมาม้วนๆ เอาปากเป่าให้ร้อนๆ ประคบ คะนึงนิจมองอึ้งๆ
“พี่ฆ่าพี่ภูจริงๆ เหรอ” กล้าชะงัก “นิจรู้ว่าพี่กล้าไม่ใช่คนจิตใจเหี้ยมโหด นิจขอร้อง พี่กล้าบอกความจริงนิจมาเถอะนะ พี่กล้าไม่ใช่โจรแต่ที่ทำไปก็เพราะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง ใช่ไหม”
กล้าอึ้งที่คะนึงนิจอ่านตัวเองออก แม้อยากจะบอก แต่ก็จำต้องเก็บความจริงไว้ กล้าเสียงแข็งทำหงุดหงิดขึ้นมาทันที ขว้างผ้าทิ้ง
“ฉันไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น”
“พี่กล้า”
คะนึงนิจดึงกล้าไว้
“ฉันจะไปอาบน้ำ แล้วถ้าฉันเห็นเธอสะกดรอยตามฉันอีกละก็ เธอได้เป็นเมียพวกคนงานขนไม้แน่”
กล้าถอดเสื้อโยนแล้วออกไป คะนึงนิจแค้น

ที่ป่าอาถรรพ์ ดวงจิตของยิ่งยศกับหาญลอยมาถึงเชิงเขา แต่เปลวไฟลอยออกมาปะทะ ดวงจิตลอยผงะไปกลายเป็นร่างกลิ้งหลบลูกไฟ พญานาค(งูยักษ์มีหงอน) ชูหัวอยู่หน้าถ้ำ พ่นไฟออกมาเป็นระยะ
“เราจะมาอัญเชิญพญาสมิงเหล็กไปช่วยคน อย่าขวางเราดีกว่า”
เสียงพญานาคพูดออกมา
“ผู้มีบุญบารมีเท่านั้นที่จะเข้าไปอัญเชิญ พญาสมิงเหล็กได้จงกลับไปเสีย”
“แม้ข้าทั้งสองไม่คู่ควร แต่ความตั้งใจที่จะช่วยให้ เพื่อนมนุษย์รอดพ้นจากอันตรายมีอยู่เต็มเปี่ยม ขอให้ท่านโปรดเห็นใจ เปิดทางให้ข้า”
“อย่าเสียเวลาเจรจาเลยไอ้หาญ จัดการเลยเถอะ”
ยิ่งยศชักมีดหมอที่พกมากระโดดเข้าไป จะจ้วงแทง หาญเข้าไปจับไว้
“อย่ายิ่ง อย่าทำร้ายท่าน”
“ทำไมวะ ปล่อย”
ยิ่งยศสะบัดโดดเข้าไป พญานาคพ่นไฟอีก หาญเข้าขวาง ถูกเปลวไฟ
“อ้าก”
“ไอ้หาญ ทำอะไรวะ กายทิพย์อาจจะสลายได้นะโว้ย”
“เรามาดี ไม่ได้มาเพื่อมุ่งร้ายหมายชีวิตใคร”
ร่างพญานาค กลายเป็นพ่อปู่ลอยอยู่ หาญกับยิ่งตะลึง
“พ่อปู่”

หาญ ยิ่งยศ ก้มลงกราบพ่อปู่ซึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่างเรืองแสง
“ขอบพระคุณครับ พ่อปู่ที่ช่วย”
“เจ้าผิดแล้ว จิตที่มีเมตตาธรรมของเจ้าต่างหากที่ทำให้พญาสมิงเหล็กเปิดทางให้”
“แบบนี้เราก็ต้องปราบไอ้ขุนโชติได้แน่ ใช่มั้ยครับพ่อปู่”
“เจ้าคิดว่า ทุกอย่างจบสิ้นแค่ได้สังหารขุนโชติเท่านั้นหรือเจ้าหาญ เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เราควรจะฆ่าคืออะไร”
“ผมทราบครับ”
“รู้แล้วไม่ปฏิบัติก็เท่ากับไม่รู้อะไรเลย”
“ผมขอพยายามครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายครับ”
“หาญ พ่อปู่หมายความว่ายังไงวะ เราควรจะฆ่าใคร” ยิ่งยศกระซิบถามหาญ
“สิ่งที่เราต้องฆ่าไม่ใช่คน แต่เป็นกิเลส กิเลสในใจเราเอง” หาญบอก
“โห ขืนมัวมานั่งฆ่ากิเลส เราก็คงโดนไอ้วายร้ายพวกนั้นมันฆ่าตายก่อนแหละครับพ่อปู่”
“เจ้าตายมาแล้วเจ้ายิ่ง และอาจจะต้องตายอีกหลายภพหลายชาติ หากไม่หยุดเสียแต่ตอนนี้ เราเตือนเจ้าได้แค่นี้”
ยิ่งยศอึ้งไป ขณะที่หาญเข้าใจทุกอย่าง ไม่สามารถแก้ตัวได้ พ่อปู่เลือนหายไป
“พ่อปู่ๆๆ หาญนี่ตกลงพ่อปู่จะเปิดทางให้เราไปอัญเชิญพญาสมิงเหล็กหรือเปล่านี่” หาญลุกขึ้น
“ท่านให้เราตัดสินใจเลือกทางเดินของเราเอง ไอ้ยิ่ง”
หาญคิดหนักว่าจะเดินหน้าหรือหยุดดี
“งั้นจะรออะไร ก็ไปเลยซิวะ”
ยิ่งยศไม่ฟัง รีบเดินไปทางภูเขา หาญสูดลมหายใจจำต้องลุยต่อ

หาญกับยิ่งยศปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางหมอกควัน มองไม่เห็นทาง

“อะไรวะ ทำไมถึงหลงวนเวียนอยู่แถวนี้ หาทางขึ้นเขาไม่ได้”
“ใจเย็นๆ ยิ่ง ถ้าเราตามหาพญาสมิงเหล็กด้วยความโลภ เราจะไม่มีทางหาพบ ลองช่วยกันทำจิตเป็นสมาธิ อัญเชิญท่านเถอะ” ทั้งคู่พนมมือ “ข้าแต่เทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกปักรักษาพญาสมิงเหล็ก ข้ามาอัญเชิญพญาสมิงเหล็กด้วยใจบริสุทธิ์ หากบุญบารมีของข้ายังพอมี ขอเปิดทางให้ข้าได้พบพญาสมิงเหล็กด้วย”
แสงจากพญาสมิงเหล็กเรืองรอง ยิ่งยศมองไป ควันจางลงจึงเห็นเหล็กไหลลอยอยู่
“พญาสมิงเหล็ก อยู่นั่น”
“สะกะพะจะ ปูชาจะ อิสะวาสุ อิติปิโส ภะคะวา”
แสงจากเหล็กไหลเรืองรอง ลอยมาอยู่หน้าหาญกับยิ่งยศ

ที่ชายป่าหน้าถ้ำ ศรีแพรกำลังตัดฟืนเตรียมไว้สำหรับก่อไฟตอนกลางคืน ทันใดมีลมพัดวูบผ่านไป ศรีแพรหนาว รู้สึกเสียวสันหลัง หันมองรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ ศรีแพรหอบฟืนกลับถ้ำ ผีทับปรากฏตัวขึ้น
“นังชาวป่า พวกไอ้หาญ ไอ้กล้า”
ศรีแพรหอบฟืนมาที่หน้าถ้ำ แล้วก็รู้สึกอีกว่ามีคนสะกดรอย เลยชักคชกุศ
“ใคร ออกมานะ” เงียบ “หรือเราหูแว่วไป”
ผีทับปรากฏตัวขึ้น แววตาแค้น ศรีแพรหันขวับ
“แก แกเป็นใคร”
“เสือทับ สหายร่วมชุมโจรของเสือหาญ ไอ้หาญอยู่ที่นี่ใช่มั้ย”
“ข้าไม่มีวันให้เจ้าทำร้ายหาญ”
ศรีแพรขวางปากถ้ำ
“แสดงว่าไอ้หาญอยู่ในนั้นจริงๆ”
ศรีแพรพุ่งเข้าเล่นงานผีทับ ผีทับรับมืออย่างไม่ยากเย็นอัดศรีแพรกระเด็น ศรีแพรเป่าลูกดอกซัดใส่ แต่ลูกดอกทะลุร่างผีทับไป ผีทับหายตัว
“เอ็งจะทำอะไรข้าได้ ฮ่าๆๆ”
ศรีแพรตกใจ เสียงกระพรวนเตือนภัยดังขึ้น ศรีแพรหันขวับไป เป่าลูกดอก พบแต่ความว่างเปล่า ทันใดร่างศรีแพรก็ถูกแรงลึกลับรัดคอไว้ ศรีแพรดิ้นรน หายใจไม่ออก ผีทับรัดคอศรีแพร ศรีแพรดิ้นจนหมดแรงล้มลง ผีทับพุ่งเข้าสิงศรีแพร

ศรีแพรเดินมาอยู่ตรงหน้าหาญกับยิ่งยศที่นั่งสมาธิอยู่
“ไอ้ยิ่งยศ! นี่เอ็งก็คืนชีพมาอีกคนเหรอดี จะได้ไม่เสียเวลาตามหา ข้าจะส่งเอ็งกลับลงนรกพร้อมไอ้หาญเดี๋ยวนี้เลย”
ศรีแพรซึ่งถูกผีทับสิงจะใช้คชกุศแทง แต่ยิ่งยศลืมตาขึ้น ใช้มือรับไว้ได้ทันแล้วผลักศรีแพรออกไป
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกไอ้ทับ” ศรีแพรไม่สน พุ่งเข้ามาแทงอีก และสู้ไม่ยั้ง “ไอ้ขี้ขลาด อาศัยร่างผู้หญิง คิดว่าอั๊วจะไม่กล้าลงมือรึไงวะ”
“ถ้าไม่กลัวว่านังคนสวยนี่จะตายไปด้วยก็เอาสิวะ”
ยิ่งยศชะงัก ทำให้ศรีแพรเป็นต่อไล่ฟันยิ่งยศ แล้วถีบยิ่งยศกระเด็น ศรีแพรโดดเข้ามา ตรงหน้าหาญ ใช้คชกุชฟันลงที่ไหล่ แต่คชกุศเด้งกลับเหมือนฟันเหล็กเสียงดัง
“อะไรกันวะ”
หาญลืมตา ร่างเรืองแสง สีเป็นทองแดง ลูกสะกดที่อกก็เรืองแสงวูบวาบ ศรีแพรฟันอีก หาญเอาแขนรับ ดังเคล้ง เหมือนถูกเหล็ก แล้วหาญก็จับคชกุศบิดออกจากมือศรีแพรก่อนจะเอามือจับกระหม่อม แสงที่สว่างเจิดจ้าค่อยๆ ดับลง หาญยืนตระหง่านอยู่ผมกลับเป็นสีดำเหมือนเดิม
“ไอ้ทับ เอ็งหยุดพยาบาทจองเวรซะที ความอาฆาตไม่เคยให้คุณกับผู้ใด ปล่อยวางซะบ้างเถอะ”
“นี่เอ็งผสานร่างเข้ากับพญาสมิงเหล็กได้แล้วเหรอ”
“ใช่ เพราะฉะนั้น สัมภเวสีอย่างเอ็งอย่าหวังมาต่อกร”
หาญร่ายคาถา
“อิสะวาสุ”
ที่ปลายนิ้วของหาญเรืองแสงขึ้น หาญใช้นิ้วเขียนยันต์บนหน้าผากศรีแพร
“อ๊าก”
ควันดำลอยออกจากหน้าผากศรีแพรไป กลายเป็นผีทับกลิ้งออกมา ศรีแพรสลบ
“ไอ้หาญ เราสะกดวิญญาณไอ้ทับเถอะ ไม่งั้น มันคงก่อเวรไม่จบสิ้น” ยิ่งยศบอก
“ไม่ อย่าสะกดวิญญาณข้า”
“ได้งั้นเอ็งบอกข้ามา กล้าหลานข้าเป็นยังไงบ้าง”
“ข้าไม่รู้ ไอ้ยอดมันหลอกใช้ข้า มันบอกว่าจะชุบชีวิตข้า แต่มันก็ไม่ทำ ข้าก็เลยไม่อยู่กับมันอีก”
“คนชั่วอย่างเอ็ง จะฟื้นคืนขึ้นมาให้หนักแผ่นดินทำไม”
“แล้วเอ็งมันดีนักหรือไง ไอ้ยิ่งยศ เมื่อมีชีวิตอยู่เอ็งก็เคยหลอกใช้ข้า ข้าตายแล้ว เอ็งก็ยังสะกดวิญญาณข้าไว้ เอ็งมันก็ชั่วพอกัน”
ยิ่งยศโมโห ว่าคาถาสะบัดใส่ผีทับ
“อ๊ากก”
“ยิ่ง อย่า” ผีทับร่างเลือนไป หาญกลุ้ม ศรีแพรค่อยฟื้นขึ้น “ศรีแพร” ศรีแพรรู้สึกตัว “เอ็งเป็นยังไงบ้าง”
“ข้า ข้าสู้กับผีร้าย”
“วิญญาณไอ้ทับ มันไปแล้ว เจ้าปลอดภัยแล้ว”
ศรีแพรเห็นสีผมของหาญกลับเป็นปกติ

“สีผมของเจ้า นี่เจ้าหายแล้ว” หาญพยักหน้ารับ ศรีแพรดีใจกอดหาญแน่น “ข้าดีใจที่สุดเลย เจ้าไม่ตายแล้ว”
“ตอนนี้ข้ากลับมาแข็งแรงดั่งเดิมแล้ว ขอบใจมากศรีแพรที่ช่วยป้องกันร่างของเราสองคน”
“งั้นเราก็ไปแก้แค้นให้พ่อข้าได้แล้วสิ”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ เราต้องหาวิธีรับมือกุมภีร์พิฆาตของขุนโชติให้ได้ซะก่อน”
“ฉันว่าเราควรกลับไปตั้งหลักที่กรุงเทพก่อน”

อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 14/5 วันที่ 11 มี.ค. 56

เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง บทประพันธ์ : เพชรน้ำหนึ่ง
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง บทโทรทัศน์ : ดาวเหนือ
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง กำกับการแสดง : อนุวัฒน์ ถนอมรอด
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง แนวละคร : โรแมนติก - แอ็คชั่น - แฟนตาซี
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ผลิต : บ. กันตนา
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา manager