อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 14/4 วันที่ 10 มี.ค. 56
ขุนโชติเองก็เจ็บไม่น้อย แต่ต้องสั่งสอน“หากมิใช่เอ็ง มันผู้นั้นต้องตายไปแล้ว ไป ไปคิดทบทวนให้ดี ว่าสิ่งที่เอ็งทำมันสมควรรึไม่ ไป”
เสือไทมองกล้าด้วยความเคียดแค้น ก่อนจะเมาโซซัดโซเซออกไป ขุนโชติมองตามเครียด กล้าสะใจที่ทั้งสองแตกแยก เหลือบไปมองสบตากับอาจารย์ยอดที่ซุ่มอยู่ ทั้งสองพยักหน้าให้กัน
ยิ่งยศกับศรีแพรพยุงหาญเข้ามาในถ้ำ ประคองให้นั่ง สภาพหาญตอนนี้มีผมขาวหลายปอย ปากซีดเซียว ผิวหนังเริ่มเหี่ยวย่น
“เรามาที่นี่กันทำไม ทำไมไม่พาหาญไปหาหมอ”
“หมอเทวดาที่ไหนก็รักษาไม่ได้หรอก ไอ้หาญกำลังจะตายเพราะพลังชีพใกล้หมดเต็มทีแล้ว”
ศรีแพรถึงกับช็อค
“ไม่ ไม่จริง ไม่จริงใช่มั้ย”
“ที่ไอ้ยิ่งพูดเป็นความจริง ข้าละเมิดกฎเหล็กของอมฤตเทวาพลังชีพของข้าจะถดถอยลงเรื่อยๆ”
“ยิ่งบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ เท่ากับเร่งวันเวลาของไอ้หาญ ให้หมดลงเร็วขึ้น”
“เพราะอย่างนี้ใช่มั้ย เจ้าถึงไม่ยอมออกเรือนไปกับข้า” หาญหลบตา พยักหน้า “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าตั้งแต่แรก”
ศรีแพรน้ำตาไหล รู้สึกผิด “เพราะข้า ข้าทำให้เจ้าต้องตาย”
“เอ็งไม่ได้ทำอะไรผิด ข้าทำบุญมาเพียงแค่นี้ ไม่มีใครฝืนชะตาได้หรอก เสียดายก็แต่ข้ายังช่วยกล้าไม่สำเร็จ”
“ต้องได้สิ ขุนโชติกับผู้การยิ่งยศยังกลับฟื้นคืนชีพมาได้ เจ้าก็ต้องรักษาได้”
ยิ่งยศนึกถึงคำสอนของพ่อปู่บุญทา
“ยังมีอีกวิธี แกจำคำที่พ่อปู่เคยบอกเราได้มั้ย” ยิ่งยศถามหาญ “อานุภาพของเหล็กไหล พญาสมิงเหล็ก สามารถต่อชีวิตได้”
“ฉันคืนพญาสมิงเหล็กสู่ป่าอาถรรพ์ไปแล้ว สภาพฉันตอนนี้คงเดินทางไปไม่ถึงป่าอาถรรพ์แน่”
“ข้าจะไปเอง ยังไงข้าก็ไม่ยอมให้เจ้าตาย” ศรีแพรบอก หาญสบตาศรีแพร ซาบซึ้ง
“ไม่มีใครต้องไปไหนทั้งนั้น ฉันกับไอ้หาญจะทำพิธีอัญเชิญพญาสมิงเหล็กมาผสานร่างกับไอ้หาญที่นี่ แต่เธอต้องเฝ้าปากถ้ำไว้ให้ดี นับจากนี้ไปอีกเจ็ดวัน ห้ามไม่ให้ใครเข้ามารบกวนเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นฉันกับไอ้หาญอาจมีอันตรายถึงชีวิต”
ยิ่งยศบอก ศรีแพรกุมมือหาญ
“เจ้ามอบชีวิตตัวเองให้ข้า ถึงเวลาที่ข้าต้องตอบแทน ข้าให้คำมั่น จะไม่ให้ใครกล้ำกรายเข้ามาในถ้ำนี้เด็ดขาด”
ศรีแพรเดินออกมาจากในถ้ำสีหน้าเครียด หันกลับไปมองข้างในเป็นห่วงหาญ ระหว่างนั้นมีสัตว์ร้ายมองมาจากหลังแนวป่า ศรีแพรดึงคชกุศที่เหน็บหลังไว้ออกมาท่าทางมุ่งมั่น ยืนระแวดระวังอยู่หน้าถ้ำตามลำพัง
สมุนชายเอาข้าวมาวางให้คะนึงนิจที่โต๊ะแล้วรีบเดินออกไป คะนึงนิจเห็นท่าทีก็ไม่พอใจนัก
“เดี๋ยวก่อน” สมุนหันกลับ มองคะนึงนิจอย่างไม่ยำเกรง “พี่ภูล่ะ อยู่ไหน”
คะนึงนิจรอฟังคำตอบ
อีกด้านหนึ่งของปางไม้ อาจารย์ยอดกำลังหัวเราะอย่างสะใจ
“ไอ้ขุนโชติมันให้คนเอาร่างไอ้พ่อเลี้ยงไปทิ้งที่เหวฮะๆ สะใจข้าจริงๆ ในที่สุดแผนเราก็สำเร็จไปหนึ่ง”
“แผนของอาจารย์เยี่ยมมากจริงๆ”
กล้าบอกอาจารย์ยอดยิ้มเหี้ยม
“หึ คนโลภอย่างมันวางแผนกำจัดได้ไม่ยาก แค่เปิดโอกาสให้มันมาขโมยว่านไปเท่านั้นเอง”
“แล้วว่านนั่น” กล้าทำหน้าสงสัย
“มันคือว่านอสูร คนที่กินจะมีพลังและฮึกเหิมในตอนต้นแต่เมื่อพลังในร่างทั้งหมดถูกใช้ พิษของมันก็จะสำแดง
เรี่ยวแรงอ่อนล้า มึนงง ถึงมันไม่ตายเพราะไอ้ขุนโชติ มันก็ตายเพราะพิษเข้าสู่หัวใจอยู่ดี”
กล้ารู้สึกถึงความเหี้ยมของอาจารย์ยอด แต่ทำพูดดี
“ถ้าไม่ได้อาจารย์ช่วย เราคงกำจัดไอ้ภูมินทร์ไม่ได้เร็วขนาดนี้ตอนนี้ก็เหลือแค่ขุนโชติเท่านั้น แต่นาทีนี้ ใครจะไปสู้มันได้ล่ะ จริงไหม”
“แล้วถ้าข้ามีของที่ทำให้เอ็งสู้มันได้ เอ็งจะกล้าใช้มันไหม” กล้าพยักหน้ารับจริงจัง “แล้วไม่กลัวจะโดนข้าหลอกเหมือนไอ้พ่อเลี้ยงรึไง”
“อาจารย์อย่าลืมสิ ว่าฉันชื่ออะไร”
สองคนมองกันอย่างวัดใจ อาจารย์ยอดหัวเราะชอบใจ
“มันต้องแบบนี้สิวะ”
กล้ายิ้มทำเหมือนชอบใจไปด้วย
อาจารย์ยอดพากล้ามาที่ห้องพัก พอเข้ามาในห้องอาจารย์ยอดดึงลิ้นชักโต๊ะออกแต่เห็นเป็นลิ้นชักเปล่า อาจารย์ยอดว่าคาถาแล้วสะบัดมนต์ คลื่นมนต์ปะทะลิ้นชักจึงห่อผ้าโบราณวางอยู่ อาจารย์ยอดหยิบออกมา
“สิ่งที่ข้าจะมอบให้เอ็ง เป็นสิ่งที่ทำให้เอ็งคว่ำไอ้ขุนโชติได้แน่” อาจารย์ยอดเปิดห่อผ้าเผยให้เห็นคัมภีร์ใบลานเก่าแก่อยู่ภายใน “นี่คือคัมภีร์นาคราช หากเอ็งฝึกมันจนถึงขั้นสุดท้ายแล้วล่ะก็กุมภีร์พิฆาตจะเป็นเพียงแค่วิชกระจอกๆ สำหรับเอ็ง”
อาจารย์ยอดยิ้มเหี้ยมกล้ามองคัมภีร์ในมือยอด พอใจที่ตนจะได้วิชาจัดการกับขุนโชติ
กล้ากลับมายังห้องพักแล้วต้องอึ้งเครียดเมื่อเห็นจานข้าวหล่นแตกอยู่ ข้าวร่วงเต็มพื้น กล้าเครียดรีบเดินเข้าที่พักมา มองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นคะนึงนิจ ทันใดประตูก็ปิดปึ้ง!คะนึงนิจที่ซ่อนอยู่หลังประตูพุ่งเข้าเอาขวดปากฉลามจะแทงกล้าด้วยความคลั่งแค้น หน้าคะนึงนิจเต็มไปด้วยคราบน้ำตา กล้าหลบได้อย่างฉิวเฉียด คะนึงนิจพุ่งเข้าแทงอีก
กล้าหลบถอยออก พยายามไม่ทำร้ายคะนึงนิจ
“นิจ นี่มันอะไรกัน วางมีดซะ”
คะนึงนิจจ้องกล้า น้ำตาร่วงด้วยความแค้น
“แกฆ่าพี่ภู อย่าอยู่เลย”
คะนึงนิจพุ่งเข้าจะแทงกล้า กล้าหลบๆ แล้วสับมือคะนึงนิจ มีดร่วง กล้าจะคว้าตัวคะนึงนิจ คะนึงนิจหลบได้ ถอยไปคว้าของที่ใกล้มือในห้องขว้างใส่กล้าอย่างบ้าคลั่ง ข้าวของแตกกระจายเต็มห้อง
“ไอ้ชั่ว ไอ้เลว แกมันเลวๆๆ”
กล้าพยายามไม่สู้ทั้งหลบทั้งปัดของออก พลางปรี่เข้าไปหาคะนึงนิจ พอใกล้ตัวก็พุ่งเข้ากอดคะนึงนิจไว้
“หยุดได้แล้วนิจ พี่บอกให้หยุด มีดนั่นทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก”
คะนึงนิจดิ้นสุดแรงเกิด คะนึงนิจเอาศอกกระทุ้งท้องกล้าสุดแรง กล้าจุกกุมท้อง คะนึงนิจได้ทีหยิบมีดจะแทงซ้ำ ทันใดประตูถูกเปิด สมุนถือปืนเล็งเดินเข้ามา
“หยุดนะ”
คะนึงนิจชะงัก
“มันอาละวาด ผมก็เลยออกไปตามนายครับ นายกล้า” สมุนบอกกล้า
คะนึงนิจลดมือที่ถือมีดลง น้ำตาร่วงเผาะ มองกล้าเจ็บปวด
“ที่นี่คงไม่ใช่บ้านของฉันอีกต่อไปแล้วสินะ ขอบคุณที่สอนให้ฉันได้รู้ว่าธาตุแท้ของคนมันเป็นยังไง” กล้ามองสมุนที่เล็งปืนอยู่ จะอธิบายก็ไม่ได้ “ในเมื่อฉันไม่เหลือใคร มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อไป”
คะนึงนิจจะจ้วงแทงตัวเอง กล้ารีบวิ่งเข้าไปดึงไว้ มีการยื้อแย่ง กล้าแรงมากกว่าได้ขวดไปอยู่ในมือ แต่คะนึงนิจรีบคว้าแย่งกลับ มือคะนึงนิจกำมือกล้าที่ถือขวดและไปโดนคมส่วนหนึ่งด้วยจนเลือดออก กล้าเห็นเข้าก็ตกใจ
“นิจ ปล่อย”
คะนึงนิจแม้เจ็บมือแต่ก็ไม่ปล่อย จ้องกล้า
“ไม่ ฉันอยากตาย”
กล้าเครียดจัดเอาอีกมือออกแรงดึงมือคะนึงนิจที่กำมีดออก สมุนเก็บปืนแล้วรีบมาช่วยรวบตัวคะนึงนิจ จับล็อคแขนกดตัวลงนั่ง กล้าโยนมีดทิ้ง พลางมองคะนึงนิจ เห็นเลือดที่มือไหลซึมออกมาก็เป็นห่วงแต่ต้องทำเหี้ยม
“สิ้นฤทธิ์ซักที นังตัวดี”
คะนึงนิจนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ถูกมัดขาติดกับเก้าอี้ แขนทั้งสองถูกมัดกับพนักพิงส่วนมือถูกทำแผลเรียบร้อยแล้ว
คะนึงนิจน้ำตาร่วงมองกล้า
“ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย”
สมุนอยู่ด้วย กล้าจึงทำยิ้มเยาะ
“เพิ่งเป็นเมียฉันได้ไม่นาน จะรีบตายไปไหนล่ะ ฮะ”
“แก แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย จำได้ไหมว่าแกพูดอะไรไว้ ไหนแกบอกจะไม่ฆ่าพี่ภู แกผิดสัญญาด้วย”
กล้าอึ้งๆ จำได้ว่าให้สัญญาไว้ แต่สมุนอยู่จำต้องทำให้ตายใจ กล้ายิ้มเหี้ยม
“ฮะๆๆ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะโง่ขนาดนี้ สัจจะน่ะมันไม่มีในหมู่โจรหรอก รู้ไว้ซะด้วย”
คะนึงนิจได้ยินก็อึ้ง
“เลว แกมันไอ้สารเลว คนอย่างแกมันไม่ตายดีแน่”
กล้าบีบหน้าคะนึงนิจ
“ถ้างั้นเธอก็จะรีบตายไปทำไม ถ้าอยากเห็นกรรมสนองฉันนักก็อยู่รอดูก่อนสิ” กล้ายิ้ม เอามือตบหน้าคะนึงนิจเบาๆ แล้วสั่งสมุนเสียงเข้ม “มัดมันไว้”
“ครับนายกล้า”
กล้าทำเดินหัวเราะสะใจ ออกไปจากห้อง
กล้าปิดประตู แล้วยืนเครียดอยู่หน้าห้อง
“พี่ขอโทษ...นิจ”
กล้ายืนน้ำตาคลอ รู้สึกแย่มากที่ต้องทำกับคะนึงนิจแบบนี้
ภายในห้องแคบๆ อับๆ มีแสงสลัวๆ จากหลอดไฟสีชมพูคมถอดเสื้อ กำลังกอดซุกไซร้สาวบาร์ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขัดจังหวะ
“พี่คม พี่คม แย่แล้ว”
คมหงุดหงิดลุกไปเปิดประตู
“อะไรวะไอ้บัติ”
“มีคนอาละวาดในบาร์เราพี่”
ทันใดเสียงปืนก็ดังขึ้น เปรี้ยง คมหน้าเครียด รีบใส่เสื้อ คว้าปืนแล้วเดินออกไป
คมเดินออกมาเสียงปืนดังอีกเปรี้ยง สาวบาร์อีกคนถูกยิงกระเด็นเข้ามานอนตายแทบเท้า เสือไทถือปืนในมือ อยู่ในอาการเมามายกวาดของบนโต๊ะร่วง
“มีไอ้อีหน้าไหน กล้าหยามว่าข้าโง่อีก”
เสือไทแกว่งปืนไปรอบๆ สาวบาร์กับบ๋อยมุดใต้โต๊ะตัวสั่นงันงก
“ไม่รู้มันเป็นบ้าหรือเปล่า พูดจาเหมือนลิเก เงินก็ไม่ยอมจ่าย”
เสือไทจ้องปืนมาที่กัปตัน
“อยากได้อัฐก็มาเอา มา”
คมจับข้อมือเสือไท
“ไอ้ไทหยุดได้แล้ว”
“ไอ้คม”
เสือไทหันขวับมามองคม จำได้
เสือไทสร่างเมาขึ้นบ้าง
“ข้านึกว่าเอ็งหายหัวไปทำงานให้ไอ้พ่อเลี้ยง ที่แท้ก็มากบดานอยู่กับพวกนังผู้หญิงโคมเขียวนี่เอง”
“หึ แล้วแกล่ะมาทำอะไรที่นี่ ปกติแกเป็นเงาติดตัวขุนโชติไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าขุนโชติมาปล้นแถวนี้”
เสือไททั้งเจ็บใจทั้งน้อยใจ
“เป็นไอ้กล้าต่างหากที่กำลังขึ้นหม้อ ข้ามันเขลาเอง หลงซื่อสัตย์มาเนิ่นนาน เพลานี้พี่โชติเขาไม่เห็นหัวข้าแล้ว”
คมหัวเราะเยาะ
“แกก็เลยกลายเป็นหมาหัวเน่า”
เสือไทตบโต๊ะ อย่างโมโห
“อุ๊บ๊ะ เอ็งอยากเป็นผีเฝ้าซ่องรึกระไร” เสือไทนึกได้เยาะกลับ “เอ็งก็ไม่ต่างจากข้านักดอก แต่ก่อนเห็นเป็นหมาคอยเฝ้าเจ้านาย เพลานี้เอ็งจักตามเลียแข้งขาผู้ใดในเมื่อไอ้พ่อเลี้ยงนายเอ็งมันตายไปแล้ว” คมตกใจ
“หา แกพูดจริงเหรอ”
“นายของเอ็งถูกพี่โชติกับไอ้กล้าฆ่าตาย เอ็งมัวแต่มุดหัวอยู่ในนี้ ไม่รู้เรื่องเลยกระนั้นรึ”
จู่ๆ คมหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ
“ฮ่าๆๆๆ มันสมควรตายตั้งนานแล้ว”
“เอ็งว่ากระไรวะ”
“ฉันแช่งให้มันตายทุกวัน ต่อจากนี้ฉันจะได้เป็นใหญ่แทนมันซะที” คมสบตาเสือไท “ถ้าเอ็งอยากเป็นอิสระ มีอำนาจ เงินทอง ก็ไม่ต้องกลับไปหาขุนโชติอีก”
เสือไทเข้าใจความหมายของคมดีจึงลังเล
วันต่อมาขุนโชติเตรียมออกปล้น นั่งรอเสือไทอยู่กับสมุนที่อาวุธครบมือ กล้าดูไม่สบายใจ
“วันนี้เราอย่าเพิ่งออกปล้นเลยนะอาจารย์ เสือไทหายไปแบบนี้น่าเป็นห่วง ฉันจะไปตามหาก่อน”
“ไม่ต้อง มันคงไปเมาหัวราน้ำตามเคย เมื่อมันกล้ากระด้างกระเดื่องกับข้า ข้าก็ไม่เลี้ยง” ขุนโชติเดินออกไปหาพวกสมุน “ไอ้เสือทั้งหลาย จงฟัง วันนี้เราจะออกไปประกาศให้ไอ้พวกโปลิศมันรู้ว่า ชุมเสือทุ่งพระกาฬยิ่งใหญ่แกร่งกล้าเพียงใด หากไอ้โปลิศคนใดกล้ามาต่อกรก็กุดหัวมันเสีย ข้าจักมีรางวัลให้อย่างงาม”
สมุนเฮกัน ขุนโชติหันมาหา กล้าต้องทำเป็นขึงขัง
“ขอผมแสดงฝีมือเองนะครับอาจารย์”
“ข้าจักคอยดูฝีมือเอง ศิษย์รัก”
กล้ากระโดดขึ้นรถ
“ไอ้เสือบุก”
กล้านำพวกสมุนขึ้นรถ ขุนโชติขึ้นนั่งคู่คนขับ
“พ่อครับ พ่อสอนผมเสมอให้ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าพ่อมองอยู่บนฟ้า ผมอยากให้พ่อรู้ว่า นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าถูกต้องที่สุด”
รถขุนโชติแล่นเข้ามาในตลาด พวกสมุนยิงปืนขึ้นฟ้า สนั่นหวั่นไหว คนในตลาดตกใจพากันหลบ กล้าถือปืนสั้น สะพายดาบ กระโดดลงจากรถ
“ห้ามฆ่าใครก่อนที่ฉันจะสั่ง”
กล้าสั่งสมุน
ประตูโกดังเปิดออก กล้าต้อนชาวบ้านเข้าไป เด็กร้องไห้จ้า แม่กอดเด็กตัวสั่น
“วิธีของผมอาจจะไม่ขาวสะอาด แต่มันก็เป็นทางที่ผมเลือกแล้ว ผมเลือกที่จะอยู่ใกล้ศัตรูเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์”
กล้าเดินเข้าไปยื่นมือ แม่นึกว่าจะฆ่าเด็กเพราะรำคาญจึงหลับตาปี๋กอดเด็กแน่น กล้าเหน็บปืนที่เอวยื่นมือไปลูบหัวเด็ก
“ไม่ต้องตกใจ ฉันไม่ทำอะไรหนูหรอก”
เด็กหยุดร้อง ชาวบ้านมองงงๆ
สมุนเอาทรัพย์สิน ของมีค่ามากองรวมต่อหน้าขุนโชติ ขุนโชติมองอย่างพอใจ ตำรวจ 3 นายวิ่งเข้ามา
“หยุดนะ”
กล้าออกมาพอดีเห็นขุนโชติเดินเข้าหา ตำรวจยิงใส่ไม่ระคายผิว ขุนโชติสะบัดกรงเล็บใส่ ตำรวจโดนจังๆ ล้มไป 1 คน อีกสองคนบาดเจ็บ ตกใจวิ่งหนี กล้ารีบวิ่งไปบอกขุนโชติ
“ฉันจัดการพวกมันเอง”
กล้าวิ่งตามไป ขุนโชติมองตามอย่างไม่วางใจ
ตำรวจวิ่งหนีมาถึงทางตัน กล้าตามมา ตำรวจหันมายิงใส่ กล้าหยุดกระสุนตกลง ตำรวจเข้าสู้กับกล้าด้วยมือเปล่า กล้าอัดตำรวจลงไปนอนทั้งคู่แล้วชักดาบประจุพรายออกมาทั้งสองเล่ม แววตากล้าเริ่มแข็งกร้าว แสงจากดาบวาบขึ้น
ขุนโชติเดินเข้ามามองหา ได้ยินเสียงจึงเลี้ยวตามไป แล้วขุนโชติก็เห็นกล้าเงื้อดาบฟันตำรวจล้มตายทั้งคู่ ขุนโชติยิ้มถอยออก กล้าเหลือบตาเห็นขุนโชติไปแล้วจึงเอาดาบใส่ฝัก มองไปที่ตำรวจที่นอนตายแล้วเดินออก ตำรวจทั้งคู่กลายเป็นหุ่นพยนต์ ตำรวจตัวจริงสลบอยู่มีกระสอบคลุมใกล้ๆ แถวนั้น ตำรวจฟื้นเปิดกระสอบออกมางงๆ
“ถ้าพ่อไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ ผมจะไม่ขอให้พ่อคุ้มครองผมแต่ผมขอให้พ่อช่วยคุ้มครองคนดีทุกคนให้รอดจากเงื้อมมือของขุนโจรชั่วช้าอย่างขุนโชติด้วย”
เมื่อกลับมาที่ปางไม้ ขุนโชติชนแก้วกับกล้าหัวเราะร่า สมุนเมากันเละ ขุนโชติกอดคอกล้าแบบรักใคร่มาก
“จนกว่าผมจะฆ่ามันด้วยมือ ของผมเอง”
ขุนโชติชื่นชมของมีค่า ทองแท่งและสร้อยทองที่กองตรงหน้า
“ไอ้กล้า เห็นรึยัง เอ็งเห็นรึยังว่าไม่มีผู้ใดต้านทานข้าได้ ฮ่าๆ”
กล้าอยู่ข้างๆ แกล้งทำเป็นเมารินเหล้าใส่แก้วให้ขุนโชติ
“โห เห็นซะยิ่งกว่าเห็นอีกอาจารย์ ฉันสารภาพตามตรง ว่านับถือ นับถืออาจารย์จริงๆ เพราะอาจารย์แท้ๆ ไอ้เสือกล้าถึงได้โด่งได้ดัง มีเงิน มีทอง แถมยังได้มีเมียสวยๆ เด็ดๆ อีก”
ขุนโชติได้ยินพอใจ
“ข้าดีใจ ที่เอ็งเลือกติดตามข้า ไอ้กล้า” แต่แล้วขุนโชติก็ชะงัก คิดถึงลูกเมียตนเอง “นังสร้อย แลทุกคน ทุกคนที่เคยติดตามข้าจากข้าไปหมด ไม่เหลือแม้แต่ไอ้ดำ ไอ้ไท”
กล้าสัมผัสถึงความว้าเหว่ในใจขุนโชติก็อึ้ง สงสาร
“แต่อาจารย์ก็ยังมีฉัน”
ขุนโชติมองกล้า ซึ้งใจ จับไหล่กล้า
“ข้าซึ้งน้ำใจเอ็งยิ่งนักไอ้กล้า”
สองคนรู้สึกถึงความผูกพันกัน ขุนโชติตบไหล่กล้าแบบแมนๆ แล้วซดเหล้าอีก กล้ารู้ตัวว่าเผลอเห็นใจขุนโชติ กลับมาเอาใจต่อ
“อาจารย์ อาจารย์รู้ไหม ตอนนี้ชุมเรายิ่งใหญ่ที่สุด อยากได้อะไรเราก็ได้ สุดยอด คิดดูสิ มัน ไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว จริงไหม”
ขุนโชติได้ยินก็ชอบใจมาก
“เออสิวะ ต่อไปข้าจักทำให้ทุกคนได้รู้ รู้ว่าไอ้ขุนโชติมันคือใครแลมันยิ่งใหญ่เพียงใด ฮ่าๆๆ” แต่กล้าทำเป็นเครียด ขุนโชติสังเกตเห็น “เอ็งมีกระไร”
“ก็ฉันมันงั้นๆ ไม่ได้เก่งกาจอะไร เดี๋ยวจะเป็นจุดอ่อนให้อาจารย์ลำบากซะเปล่าๆ น่ะสิ”
ขุนโชติจับไหล่กล้า
“เอ็งห่วงข้าเยี่ยงนี้เชียวรึ” กล้าทำเมาพยักหน้ารับหงึกๆ “ฟังข้า ไอ้หลวงณรงค์แพ้แลหนีเยี่ยงหมาก็เพราะเอ็งช่วยข้า ข้าเพลี่ยงพล้ำต่อไอ้พ่อเลี้ยง เอ็งก็ช่วยข้า ผิดกับไอ้ดำไอ้ไทที่หักหลังแลทอดทิ้งข้า”
“อาจารย์”
“ข้าทำให้เอ็งเจ็บช้ำน้ำใจมาไม่น้อย ทำไมเอ็งยังภักดีต่อข้า”
“ฉันคงเกิดมาเพื่อเป็นโจรอย่างที่อาจารย์ว่านั่นแหละ อีกอย่างชาติก่อนฉันอาจจะเคยเป็นลูกหลานอาจารย์ก็ได้”
“ไอ้กล้า ข้าก็รู้สึกเยี่ยงเอ็ง มันก็มีบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้ข้าเชื่อใจเอ็ง เอ็งไม่ต้องกังวล ข้าจักถ่ายทอดเพลงดาบและวิชาอาคมทั้งหมดให้เอ็ง ไอ้ลูกชาย”
กล้าได้ยินก็อึ้ง ไม่คิดว่าขุนโชติจะจริงใจกับตนถึงเพียงนี้
สมุนแยกย้ายกันไปหมดแล้วเหลือเพียงขุนโชติที่นอนเมาหลับอยู่ กล้าคายว่านออกมาถือในมือ เก็บใส่กระเป๋า ก่อนจะมองขุนโชติแล้วชักดาบประจุพรายขึ้นมาเงื้อมมือจะฟัน แต่แล้วกล้ากลับชะงัก คิดถึงความผูกพันที่ผ่านมาตั้งแต่ตอนที่กล้าเจอขุนโชติครั้งแรกแล้วช่วยเสือไทไว้ ตอนที่กล้าเจอกับขุนโชติที่ห้องขัง ตอนขุนโชติบุกโรงพัก ตอนที่ขุนโชติมาช่วยกล้าจากสมุนภูมินทร์ ตอนที่อาบน้ำช้างด้วยกัน กล้ากับขุนโชติ มองบุญช่วย บุญช่วยยื่นงวงมาหยอกล้อกล้า ทั้งสองขำ ขุนโชติมองไปรอบๆ ใจคิดถึงลูกเมีย
“ที่แบบนี้ ช่างทำให้ข้านึกถึงที่ที่เคยอยู่นัก” ขุนโชติมองสายน้ำ เศร้าใจ “สายน้ำไม่อาจไหลกลับ เฉกเช่นอดีตที่ไม่อาจหวนคืน”
ขุนโชติเห็นใบไม้เล็กๆ ลอยตามน้ำมา ขุนโชติหยิบขึ้นมาแล้วเป่าเป็นเพลง กล้ามอง ก่อนคว้าเด็ดใบไม้ที่กิ่งยื่นมาใกล้ๆ บ้าง และเป่าคลอไปกับขุนโชติ ขุนโชติกับกล้าเหลือบมองกัน รู้สึกสนิทกันมากขึ้น
“ที่ข้าทำก็เพื่อทวงคืนความเป็นธรรม ไม่มีผู้ใดดอก ที่อยากจะกลายโจร เรื่องนี้เอ็งก็น่าจะแจ้งแก่ใจ”
ขุนโชติเศร้าใจนัก กล้าสะท้อนใจ
“ข้าทำให้เอ็งเจ็บช้ำน้ำใจมาไม่น้อย เอ็งก็ยังภักดีต่อข้า ไอ้กล้า ถึงเอ็งจักเป็นลูกหลานไอ้หลวงณรงค์ แต่มันก็มีบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้ข้าเชื่อใจเอ็ง เอ็งไม่ต้องกังวล ข้าจักถ่ายทอดเพลงดาบและวิชาอาคมทั้งหมดให้เอ็ง ไอ้ลูกชาย”
ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้กล้าเปลี่ยนใจเก็บดาบเข้าฝักแล้วเอาเสื้อมาคลุมให้ขุนโชติ ก่อนจะเดินออกจากไป
“เสียดาย เอ็งไม่น่าใจอ่อน ไอ้ขุนโชติเมาไม่มีสติแบบนั้น ไม่ทันปลุกวิชาในตัว เอ็งอาจฆ่ามัน ได้”
อาจารย์ยอดบอกอย่างเสียดายเมื่อรู้ว่ากล้าไม่จัดการกับขุนโชติทั้งที่มีโอกาส
“อาจารย์ยอด ฉันอยากจะกำจัดขุนโชติก็จริง แต่ต้องไม่ใช่ด้วยการลอบกัด เราเริ่มฝึกคัมภีร์นาคราชดีกว่า”
อีกด้านหนึ่งภายในถ้ำ หาญนั่งสมาธิกับยิ่งยศ ยื่นมือแตะถ่ายพลังซึ่งกันและกัน หาญกระอักเลือดออกมาอีก
“ไอ้หาญ”
ที่หน้าถ้ำศรีแพรนั่งอยู่หน้ากองไฟ ใช้มีดพกเหลาไม้แหลมให้เป็นลูกดอก ศรีแพร สะดุ้งได้ยินเสียงวิ่งเข้าไปในถ้ำ
“เกิดอะไรขึ้น” ศรีแพรถามอย่างตกใจ
“ไม่มีอะไร ข้าสมาธิไม่ดีเอง” หาญบอก
“การถอดจิตต้องใช้พลังมาก ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน พักก่อน”
“ไม่ เราไม่มีเวลาแล้ว”
“แต่หน้าเจ้าซีดมากนะ”
“ข้าไม่เป็นไรศรีแพร ไม่ต้องห่วง เอ็งไปเฝ้าหน้าถ้ำเถอะ” ศรีแพรจำต้องเดินออกไป “เราลองอีกครั้งเถอะ”
ยิ่งยศพยักหน้า ทั้งคู่พึมพำคาถาจนเห็นดวงไฟซึ่งเป็นดวงจิตปรากฏขึ้นที่หน้าผากทั้งคู่ แล้วลอยออกมาก่อนจะกลายเป็นร่างโปร่งแสงของหาญและยิ่งยศ
“สำเร็จแล้ว”
“คาถาถอดจิตมีเวลาจำกัด เรารีบไปเชิญพญาสมิงเหล็กกันเถอะ”
ยิ่งยศเห็นด้วย กายละเอียดของทั้งคู่กลายเป็นดวงจิตลอยขึ้นสูงก่อนจะเลือนหายไปเหลือเพียงกายหยาบที่นั่งสมาธิอยู่ในถ้ำ
ในป่าอาถรรพ์มีหมอกปกคลุมอยู่ทั่วไปหมด จะเห็นดวงจิตของหาญกับยิ่งยศลอยออกมาจากกลุ่มหมอก
แล้วกลายเป็นร่างคนมองไปทั่วๆ บริเวณ
“ข้ามลำน้ำนี่ไปก็ถึงที่ที่พญาสมิงเหล็กสถิตอยู่แล้ว”
“งั้นก็รีบไปเลยสิวะ อย่าเสียเวลา”
อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 14/4 วันที่ 10 มี.ค. 56
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง บทประพันธ์ : เพชรน้ำหนึ่งเสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง บทโทรทัศน์ : ดาวเหนือ
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง กำกับการแสดง : อนุวัฒน์ ถนอมรอด
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง แนวละคร : โรแมนติก - แอ็คชั่น - แฟนตาซี
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ผลิต : บ. กันตนา
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา manager