อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 14/3 วันที่ 10 มี.ค. 56


อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 14/3 วันที่ 10 มี.ค. 56

“ถ้าเอ็งกลับใจ ยอมสวามิภักดิ์เข้าชุมโจรข้า ข้าจักเว้นโทษตายให้แก่เอ็ง”
ยิ่งยศพยุงตัวลุก ปาดเลือดที่ปาก
“อั๊วยอมตายดีกว่าร่วมมือกับลื้อทำระยำตำบอน ได้ตายเพื่อเพื่อนรักอย่างไอ้หาญ ไม่น่าเสียใจซักนิด”
ยิ่งยศพุ่งเข้าไปรัวหมัดชุดใส่ขุนโชติไม่ยั้ง เกล็ดจระเข้ของขุนโชติรับพลังหมัดเอาไว้ได้หมด ขุนโชติตวัดกงเล็บโจมตียิ่งยศคืนกลับบ้าง จนยิ่งยศเลือดอาบไปทั้งตัว ยิ่งยศถึงกับทรุด ขุนโชติเข้าไปจิกผมให้เงยหน้าขึ้น
“ข้าจักให้เอ็งได้พบกับพญามัจจุราชสมดั่งใจ”

ขุนโชติง้างกงเล็บ หมายจะตวัดคอยิ่งยศให้ขาด แต่จู่ๆ ลมพายุก็พัดกระหน่ำอย่างแรง ฝนเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ขุนโชติแปลกใจผิดสังเกต ทันใดกิ่งไม้ท่อนหนึ่งหักปลิวเข้าหาขุนโชติ ขุนโชติตวัดกงเล็บฟันกระจุย ยิ่งยศฉวยโอกาสซัดหมัดเข้าที่ท้องน้อยขุนโชติจนผงะ แล้วร่ายคาถาย่นระยะทางหนีไป ขุนโชติมองตามอย่างเจ็บใจ


ขุนโชติวางร่างเสือไทที่บาดเจ็บลงที่เตียงก่อนจะว่าคาถาแล้ววางมืออยู่เหนือรอยช้ำที่ร่างของเสือไท รอยช้ำนั้นค่อยๆ เลือนหายไป เสือไทค่อยๆ ฟื้นขึ้น ลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆ

“พี่โชติ นี่ข้า”
“ข้าพบเอ็งนอนสลบอยู่ เกิดกระไรขึ้น”
เสือไทคิดไปถึงตอนที่สู้กับกล้าที่โพกหน้า
“มีคนมาช่วยไอ้หาญ มันลอบทำร้ายข้า ถึงมันพรางตัวมา แต่ข้ารู้ มันต้องเป็นไอ้กล้าแน่” ขุนโชติได้ยินก็คิดเครียด เสือไทรู้ขุนโชติเชื่อใจกล้ามากขึ้นทุกวัน “ข้ารู้ว่ามันเป็นศิษย์ของพี่ แต่มันก็เป็นหลานไอ้หลวงณรงค์เช่นกัน รีบไปที่เรือนมันเถิดจะได้รู้แจ้งว่าแท้จริงแล้วมันคือมิตรรึศัตรูกันแน่!”
ขุนโชติคิด ตัดสินใจ

หน้าที่พักกล้า ขุนโชติทุบประตูห้อง
“ไอ้กล้า เอ็งอยู่ข้างในใช่รึไม่”
กล้าในร่างใสๆ ยืนกำบังกายแอบมองขุนโชติกับเสือไทอยู่แล้วรีบหลบไปทางหลังที่พัก
ภายในห้องพักคะนึงนิจนอนหลับอยู่ เสียงขุนโชติทุบพลางเรียกดังเข้ามา
“ไอ้กล้า”
คะนึงนิจสะดุ้งตื่นจากมนต์สะกด รู้สึกงงๆ เมื่อมองไปเห็นตนนอนกอดกล้าที่หลับนิ่งอยู่ก็ทั้งตกใจ ทั้งโมโห
“พี่กล้า”
คะนึงนิจผลักกล้าทันที ร่างกล้าร่วงจากเตียง ตกลงพื้นแล้วกลายเป็นหุ่นพยนต์ไปทันที คะนึงนิจเห็นก็อึ้ง งงไปหมด
ที่หน้าห้องขุนโชติหยุดเคาะเรียก สงสัย
“นั่นกระไรพี่โชติ เงียบเช่นนี้ ต้องเป็นมันแน่”
ขุนโชติได้ยินก็เครียด
“ข้าจักสะเดาะกลอนเข้าไปดูให้รู้แจ้ง”
ขุนโชติกำลังจะร่ายอาคม
“ท่านขุนโชติ”
ขุนโชติชะงัก มองตามเสียง เห็นอาจารย์ยอดในสภาพเจ็บหนัก เนื้อตัวน่วมช้ำ ประคองตัวโซเซเข้ามา
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นที่หน้าต่างห้องด้านหลังค่อยๆ ถูกเปิดกว้างออกเบาๆ คะนึงนิจไม่รู้ตัวมองหุ่นพยนต์ที่อยู่ในมือ
“นี่มันเรื่องอะไรกัน”
ด้านหลังคะนึงนิจ กล้าดึงใบพลูออกจากกำบังกาย
ที่หน้าห้องขุนโชติกำลังถามอาจารย์ยอด
“เหตุใดเอ็งจึงเป็นเยี่ยงนี้”
อาจารย์ยอดทำพูดโกหก อ่อนแรง
“ไอ้โม่ง มีไอ้โม่งมาช่วยไอ้พวกหาญ พอมันทำร้ายเสือไทจนสลบ มันซัดข้าแล้วพาพวกไอ้หาญหนีไป อาคมของมันเหนือชั้นกว่าข้ามากจริงๆ”
“ไอ้ยอดเป็นพยานเยี่ยงนี้ พี่โชติเชื่อข้าเถิด ต้องเป็นไอ้กล้าแน่”
ขุนโชติสงสัยเรื่องพายุ
“อาคมระดับไอ้กล้า ไม่อาจเรียกลมเรียกฝนได้ เอ็งก็รู้” ขุนโชติจ้องอาจารย์ยอด “แต่หากฝีมือเช่นเอ็งจักเสกพายุสักลูกคงเป็นเรื่องธรรมดา ไอ้ยอด แน่ใจรึว่าสิ่งที่เอ็งพูดคือเรื่องจริง”
อาจารย์ยอดรู้ว่าขุนโชติสงสัย ตัดสินใจกัดลิ้นแกล้งทำกระอักเลือด ทรุดลงกับพื้น ขุนโชติกับเสือไทจ้องดูอาจารย์ยอด เชื่อว่าเจ็บหนักจริง
“เช่นนี้ มันคงพูดจริง” ขุนโชติคล้อยตามเสือไท “พี่โชติเรารีบเข้าไปดูในห้องให้รู้ดำรู้แดงกันเถิด”
เสือไทบอกอย่างร้อนใจ ขณะนั้นภายในห้องคะนึงนิจนั่งคิดสงสัยเรื่องหุ่นพยนต์อยู่ กล้าเดินย่องเข้ามาด้านหลัง แต่แล้วเสียงขุนโชติดังเข้ามา
“ไอ้กล้า หากเอ็งไม่ออกมา ข้าจักบุกเข้าไปบัดเดี๋ยวนี้”
คะนึงนิจได้ยินก็เดินถือหุ่นพยนต์ไปที่ประตูห้องจะเปิดโดยยังไม่เห็นกล้า กล้าเครียดจัดรีบคิด ขณะที่คะนึงนิจจะเปิดประตูได้นั้นเองกล้าก็รวบตัวคะนึงนิจจากด้านหลังเอามือปิดปาก คะนึงนิจดิ้นสู้ๆ หุ่นพยนต์ตกลงไปที่พื้นข้างเตียง
“ช่วยด้วยๆ”
คะนึงนิจพยายามโวยวายเสียงดังอู้อี้ ส่วนด้านนอกอาจารย์ยอดพยายามยื้อ ถ่วงเวลา
“เดี๋ยวก่อน ท่านทั้งสอง กล้าอาจจะกำลังพักผ่อนกับเมีย ข้าว่า...”
ขุนโชติตัดบท
“ไม่ใช่ธุระของเอ็ง เอ็งจงกลับไปพักเสีย”
“แต่...”
ขุนโชติจ้องอาจารย์ยอด โมโหมาก
“เอ็งอยากลองดีกับข้ากระนั้นรึ”

อาจารย์ยอดชะงัก
ในห้อง กล้าอุ้มตัวคะนึงนิจไปที่เตียงอย่างเร็ว คะนึงนิจสู้สุดแรงเกิด
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย” คะนึงนิจตบกล้าฉาดใหญ่ กล้าชะงักอึ้ง คะนึงนิจมองกล้าน้ำตานอง
ขุนโชติร่ายมนต์สะเดาะกลอนเสร็จก็ยกมือสะบัดมนต์ไปที่ประตูทันที กล้าเหลือบมองประตูเห็นกลอนกำลังเลื่อนออกจึงตัดสินใจถอดเสื้อทันที ขณะที่ประตูห้องถูกขุนโชติเปิดกล้าก็กดคะนึงนิจลงกับเตียงก่อนจะโน้มตัวลงจูบทันทีคะนึงนิจอึ้ง
ขุนโชติ เสือไท อาจารย์ยอด ที่เห็นก็พากันมองอึ้งกับภาพกล้าที่กำลังจูบคะนึงนิจอย่างหนักหน่วง คะนึงนิจขืนตัว พลางตบตัวกล้าใหญ่ กล้าทำเป็นผละออกแล้วแกล้งทำเป็นมองพวกขุนโชติ เขินๆ
“เอ่อ...อาจารย์ ฉันขอโทษ นังนี่มันเด็ดจริงๆ เล่นเอาฉันหยุดแทบไม่ได้ อาจารย์กลับกันมาเร็วจริงๆ เอ่อ จะรังเกียจไหม ถ้าฉันจะ(ต่อ)...”
อาจารย์ยอดแม้เจ็บก็พูดเพื่อช่วยกล้า
“ข้าว่าเราอย่าไปขวางความสุขมันเลยนะท่าน”
ขุนโชติเข้าใจว่ากล้าพลอดรักอยู่จริง เดินกลับออกไป เสือไทตาม อาจารย์ยอดรีบปิดประตูห้อง คะนึงนิจที่รออยู่ ก็ตบหน้ากล้าฉาดใหญ่แล้วจ้องมองด้วยความสะเทือนใจกับสิ่งที่กล้าทำอย่างมาก กล้าจับแก้มที่โดนตบกวนๆ
“ทำไม อยากโดนอีกรึไง” กล้าจับปากตัวเอง “รึว่าติดใจ”
คะนึงนิจน้ำตาร่วง
“เลว แกมันเลว”
กล้าทำหัวเราะเยาะชอบใจ
“เค้าว่าผู้หญิงด่า คือผู้หญิงรัก อย่าริบอกใครเรื่องฉันออกไปข้างนอกเป็นอันขาด แม้แต่กับพี่ชายเธอ ไม่งั้นคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
กล้าหยิบเสื้อก่อนจะทำเดินโมโหออกจากห้อง ปิดประตูปัง! คะนึงนิจนั่งร้องไห้ เสียใจที่โดนกล้าทำกับตนขนาดนี้

เสือไทกลับที่พักด้วยความรู้สึกหมั่นไส้กล้าสุด
“เฮอะ คนของตัวเองกำลังถูกไล่ฆ่า แต่ยังมีแก่ใจเล่นบทรัก มันทำได้เยี่ยงไรกัน คนเช่นนี้สันดานมันต้องเลวระยำยิ่งนัก”
ขุนโชติดุเสือไท
“หยุดได้แล้วไอ้ไท” ขุนโชตินึกถึงตอนที่ประมือกับกล้าแล้วเลือดกล้าซึมหายเข้าไปในดาบประจุพราย ขุนโชติพูดด้วยความพึงพอใจในกล้า “ข้าบอกแล้วว่ามันเกิดในฤกษ์ดาวโจร จิตใจมันเหี้ยมเยี่ยงนี้ ไม่เห็นจะแปลกกระไร หึ ศิษย์ข้าผู้นี้มันต้องได้เป็นขุนโจรที่เกรียงไกรไม่ต่างจากข้าแน่!”
เสือไทได้ยินก็ยิ่งริษยากล้าขณะนั้นกล้าเดินสะพายดาบประจุพรายมาจากอีกมุมหนึ่ง เสือไทเห็นก็พูดแดกดันทันที
“กระไรวะ นังนั่นมันหอมมันหวานจนลืมปู่เอ็งเสียสิ้นแล้วกระนั้นรึ”
กล้าแดกดันกลับ
“มันทั้งหวาน ทั้งหอมทีเดียวล่ะ ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ทำให้ฉันขึ้นสวรรค์ได้ขนาดนี้ ใครบางคนก็เลยต้อง“อด”
เสือไทมีน้ำโห ชักขวานจะเอาเรื่อง
“ไอ้กล้า”
“หยุดบัดเดี๋ยวนี้ ไอ้ไท” ขุนโชติตวาด
“แต่พี่โชติ ไอ้กล้ามัน”
“ก็ใยเอ็งต้องไปเหน็บแนมมัน อาการประหนึ่งสตรีเยี่ยงนี้ข้าไม่ชอบ”
เสือไทฮึดฮัด มองกล้าไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ กล้ารู้ว่าขุนโชติถือหางตน ยิ่งอยากทำให้แตกกันเข้าไปอีก
“ไม่เป็นไรครู” กล้าเหลือบไปทางเสือไท “ฉันคือเสือกล้า ไม่ใช่พวกคิดเล็กคิดน้อยหรอก แต่ถ้าครูจะเปลี่ยนใจ ยกนังนั่นเป็นเมียเสือไทฉันก็ไม่ว่า”
“คนอย่างข้าไม่กลืนน้ำลายตัวเอง รึเอ็งไม่พอใจข้า” ขุนโชติถามเสือไท
“เปล่าพี่ ข้าก็แล้วแต่พี่”
เสือไทมองกล้าราวจะกินเลือดกินเนื้อ กล้ายิ้มเย้ย แล้วทำเป็นพูด
“แล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหมอาจารย์”
ขุนโชติหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“พวกไอ้หลวงณรงค์มันไม่ครนามือข้าหรอก เสียดาย หากไม่มีคนเสกพายุช่วยมันไว้ ข้าต้องได้บั่นคอพวกมันทั้งหมดแน่”
กล้าทำเป็นคิดเครียดร่วมด้วย
“มันเป็นใครกันแน่นะ”
เสือไทมองกล้า สองคนจ้องตากันพอดี
“ข้าจักต้องรู้ให้ได้ ว่าไอ้โม่งนั่นคือผู้ใด” กล้าทำนิ่ง เสือไทเอาใจขุนโชติต่อ “พี่โชติ หากเราจัดไพร่พลทั้งหมดตามไล่ล่ามัน ข้าว่าเราต้องได้ฆ่าพวกมันไม่วันนี้ก็วันพรุ่งแน่”
ขุนโชติครุ่นคิด รู้สึกคล้อยตาม กล้าสังเกตได้และรู้ว่าพวกหาญอาจยังหนีได้ไม่ไกลจึงหาทางถ่วงเวลาโดยชมขุนโชติ แล้วเบี่ยงเบนความสนใจ
“ก็แค่พวกหมาจนตรอก ถึงจะมีคนมาช่วย แต่ถ้าเจอกับอาจารย์เข้ายังไงมันก็สู้ไม่ได้จะสนทำไม อย่าลืมสิว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการประกาศศักดาของ ขุนโชติแห่งทุ่งพระกาฬ”
ขุนโชติได้ยินก็สนใจขึ้นมา
“เอ็งมีแผนกระไร”
“ฉันว่าเราไปกินเหล้าแล้วค่อยๆ คุยเรื่องนี้กันดีกว่า”

กล้าเดินออกไป เสือไทมองตามหมั่นไส้กับมาดของกล้า ส่วนขุนโชติมองอย่างชื่นชอบ
ในป่าหาญนอนซมเพราะอาการบาดเจ็บอยู่ข้างกองไฟ ศรีแพรใช้เศษผ้าชุบน้ำซับเหงื่อและเช็ดหน้าให้หาญ

หาญเพ้อ
“ศรีแพร ศรีแพร ข้าขอโทษ ขอโทษ”
“ไม่ต้องขอโทษ เจ้าทำเพื่อข้า ข้าไม่โทษเจ้า”
ทันใดได้ยินเสียงฝีเท้าคนอยู่ไม่ห่างนัก ศรีแพรรีบดับกองไฟคว้าคชกุศป้องกันตัว เท้าชายลึกลับเดินเข้ามาศรีแพรอ้อมไปด้านหลังฟันด้วยคชกุศกลายเป็นยิ่งยศเบี่ยงหลบ
“เจ้า”
“ฉันเอง ไอ้หาญ”
“เค้าบาดเจ็บ”
ยิ่งยศเข้าไปดูหาญใกล้ๆ อย่างเป็นห่วง เห็นบาดแผลเป็นจุดไหม้
“กระสุนไฟ”
หาญรู้สึกตัว ดีใจที่ยิ่งยศไม่เป็นไร
“ไอ้ยิ่ง”
“แกมันดวงแข็งนี่หว่า ขนาดไม่มีอาคมโดนหนักอย่างนี้ยังไม่ตาย”
หาญจะลุก ศรีแพรต้องช่วยพยุง
“แกปลอดภัยดี ฉันเป็นห่วงแกแทบแย่”
“ก็เกือบไปเหมือนกัน แต่จู่ๆ ก็มีพายุจากไหนไม่รู้พัดกระหน่ำ ฉันถึงฉวยโอกาสหนีมาได้”
“พายุเหรอ”
“ฉันมั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ พายุนั่นต้องเกิดจากอาคม”
“หรือว่าจะเป็นคนเดียวกับคนที่ช่วยเรา” ยิ่งยศแปลกใจ “มีไอ้โม่งปรากฎตัวช่วยพวกเราไว้”
“ใครกัน มันต้องการอะไร”
“แต่น่าจะเป็นมิตรมากกว่าศัตรู”
ทันใดหาญก็ทรุด กระอักเลือด ยิ่งยศตกใจ
“หาญ หาญ เจ้าเป็นอะไร”
เส้นผมบนศีรษะของหาญค่อยๆ หงอกมากขึ้น ศรีแพรกับยิ่งยศต่างตกใจ

ส่วนที่โรงไม้ เสือไทกินเหล้าจนเมาแล้วปาไหเหล้าทิ้ง จากนั้นก็เดินเซไปกองอุปกรณ์โรงไม้ที่วางอยู่ มีพวกพร้า เลื่อย ที่วางอยู่ เสือไทคว้าพร้าเข้าไปหากล้าที่นั่งแกล้งทำเป็นจิบเหล้าอยู่
“ชักดาบออกมา ข้าจักวัดฝีมือกับเอ็ง”
ขุนโชติกับอาจารย์ยอดนั่งอยู่มุมหนึ่ง มีไหเหล้า มีกับวางอยู่ ทั้งสองต่างมองปฏิกริยาของกล้า กล้าลุกขึ้น
“เสือไท ถ้าเมาก็กลับที่พักไปนอนซะ”
“ไอ้กล้า”
เสือไทกระชากคอเสื้อกล้า กล้าพูดเบาๆ ตั้งใจยั่ว
“ครูบอกว่าให้ฉันเป็นมือขวาแทนแกแล้ว สะใจไหมล่ะ” กล้าปัดมือเสือไทออก “ครู ฉันขอตัวไปตรวจดูรอบๆปางไม้ก่อน”
ขุนโชติพยักหน้ารับ กล้าหันหลังเดินออกไป เสือไทแค้นกล้าที่ทำตัวเองหัวเน่า
“ไอ้กล้า”
เสือง้างพร้าฟันไล่หลัง กล้าเหลือบเห็น เบี่ยงตัวหลบ เสือไทเซไป แล้วไล่ฟันกล้าแบบเมาๆ อีก กล้าหลบตลอด เสือไทล้มหน้าคว่ำไป ก่อนจะหันมองกล้าด้วยความโมโหแล้วขว้างพร้าใส่เต็มแรงทันที พร้าพุ่งไปที่กล้า กล้าเบี่ยงหลบ พร้าลอยไปที่ตัวขุนโชติ ขุนโชติเอนหัวหลบ พร้าปักผนังข้างหัวขุนโชติ เสือไทมองไปเห็นขุนโชติมองอยู่ด้วยความโมโหก็หน้าซีด กลัว
“พี่โชติ”
ขุนโชติเคลื่อนตัวอย่างเร็วพุ่งไปประชิดเสือไท กระชากคอเสื้อ
“เห็นทีข้าต้องลงทัณฑ์เอ็งเสียบ้าง ไอ้ไท”
ขุนโชติง้างมือขึ้น เผยให้เห็นกงเล็บที่กำลังจะตวัดไปยังเสือไท แต่แล้วกล้ากลับเข้าขวางเสือไทไว้
“อย่า อาจารย์”
“ไอ้กล้า ถอยไป มันทำเอ็ง เหตุใดเอ็งต้องช่วยมัน”
“พวกเราเป็นเสือ เสือย่อมไม่กินเนื้อเสือด้วยกัน เสือไทเมาอาจารย์อย่าถือสาเลย เรากำลังจะสร้างปางไม้นี้ให้เป็นชุมโจรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถ้ามีเรื่องกันเอง คงไม่ดีแน่”
ขุนโชติใจเย็นลง
“สมแล้วที่เอ็งเป็นลูกศิษย์ข้า เอ็งเป็นเสืออย่าริทำตัวเป็นหมาให้ข้าเห็นอีก ไม่เช่นนั้น ข้าจักไม่เอาเอ็งไว้”
ขุนโชติบอกกับเสือไท เสือไทรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ขุนโชติเชื่อแต่กล้า
“พี่โชติ”
“ไป”
ขุนโชติตวาดลั่น กล้ายิ้มเยาะเย้ยใส่เสือไท เสือไทเห็นก็มองกล้าด้วยความแค้น แล้วโซเซออกไป ขุนโชติมองตามหลังอย่างเอือมระอา
“ข้าจักเข้าฌานเพื่อเพิ่มพลังสักพัก เอ็งจงดูแลที่นี่แทนข้า” ขุนโชติหันมาสั่งกล้า
“อาจารย์ไม่ต้องห่วง ฉันจะทำให้ดีที่สุด”

ขุนโชติออกไป กล้ากับอาจารย์ยอดเหลือบมองอย่างรู้กัน
เหตุการณ์ในป่าตอนที่อาจารย์ยอดรู้ว่าไอ้โม่งที่ช่วยหาญคือกล้า อาจารย์ยอดมองกล้าที่ปลดผ้าโพกหัวออกอย่างตะลึง

“ไอ้กล้า ที่แท้เอ็งก็แกล้งสวามิภักดิ์ต่อขุนโชตินี่เองเอ็งมีแผนอะไร”
กล้ายิ้มเยาะ
“คนฉลาดต้องรู้จักปรับตัว แค่เล่นละครนิดๆ หน่อยๆ ฉันก็ได้วิชาและดาบคู่ใจของขุนโชติ แล้วยังช่วยแม่กับปู่ไว้ได้อีก เทคนิคเอาตัวรอดแบบนี้ อาจารย์ยอดน่าจะเชี่ยวชาญดีไม่ใช่เหรอ”
“เอ็งมันร้ายกว่าที่ข้าคิด ข้าจะจับเอ็งกลับไปกระชากหน้ากากอสรพิษให้ขุนโชติได้เห็น”
อาจารย์ยอดเป่ามนต์ลงบนไม้ครู เตรียมจะสู้กับกล้า แต่กล้าไม่กลัว
“ถ้าขุนโชติรู้ความจริง แล้วอาจารย์จะได้อะไร อย่างมากฉันก็ถูกฆ่าตาย อาจารย์ก็แค่ได้เป็นขี้ข้าที่ถูกกดขี่”กล้าจ้องอาจารย์ยอด อย่างเย้ยหยัน “คิดไม่ถึงว่าอาจารย์ยอดผู้เกรียงไกรจะพอใจกับการเป็นสุนัขรับใช้โจรหลงยุคอย่างนั้น”
อาจารย์ยอดสะอึกที่กล้าพูดแทงใจดำ
“ไอ้กล้า เอ็งด่าข้า”
“ฉันแค่พูดความจริง ลองคิดให้ดี ฝีมือระดับขุนโชติตอนนี้จะฆ่าอาจารย์ทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ พ่อเลี้ยงภูมินทร์ก็เป็นขยะที่ไร้ประโยชน์ไปแล้วจะมีก็แต่พวกปู่หาญที่พอจะคานอำนาจของขุนโชติเอาไว้ได้” กล้าสบตาอาจารย์ยอด จริงจัง “ถ้าเราร่วมมือกัน การโค่นขุนโชติคงไม่ใช่เรื่องยาก”
“หึหึ อย่างนี้นี่เอง เอ็งถึงยอมเปิดเผยความลับให้ข้ารู้”
อาจารย์ยอดคิดหนักก่อนตัดสินใจร่ายมนต์เรียกพายุ แล้วเป่าใส่มือ พายุหมุนเล็กๆ ปรากฎขึ้นบนฝ่ามือ
“จะทำอะไร”
กล้าถามอย่างสงสัย อาจารย์ยอดสะบัดฝ่ามือออกไปพายุหมุนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าขยายวงกว้างขึ้น
“ในเมื่อเราเป็นพวกเดียวกัน ข้าก็ต้องช่วยปู่เอ็งก่อนนะสิ” กล้ายิ้มพอใจที่อาจารย์ยอดยอมร่วมมือด้วย ทันใดอาจารย์ยอดก็ใช้ฝ่ามือซัดพลังทำร้ายตัวเองจนบาดเจ็บกล้าตกใจ “ถ้าข้าไม่บาดเจ็บกลับไป ขุนโชติอาจระแวงได้”
กล้าอึ้ง รู้ว่าอาจารย์ยอดน่ากลัว ไว้ใจไม่ได้

“เอ็งนี่เก่งไม่เบาเล่นซะไอ้ไทตกกระป๋อง”
อาจารย์ยอดหลังจากขุนโชติไปแล้ว
“ช่วยไม่ได้ มันอยากโง่เอง ฉันรับรอง ถ้าเรื่องทั้งหมดสำเร็จเมื่อไหร่ สมบัติทั้งหมด แบ่งกันครึ่งครึ่ง”
“ดี! ข้าหมั่นไส้ไอ้ขุนโชติมันจริงๆ ทำเป็นจะแก้แค้น สุดท้ายก็ไม่พ้นสันดานโจร หลงแต่อำนาจเงินทอง อุตส่าห์กุเรื่องหลวงณรงค์บ้านั่นมาหลอกใช้มันแท้ๆ”
“หมายความว่าไง” กล้าหลอกถาม
“ก็มันคิดว่าปู่เอ็งคือหลวงณรงค์ ข้าก็เลยยุมันส่งไป ไอ้หาญปู่เอ็งมันโชคร้ายเองที่เกิดมาหน้าเหมือนศัตรูขุนโชติ ข้าแค่เพิ่มแค่เติมให้เชื้อแค้นมันปะทุกลายเป็นไฟอาฆาต เชอะ สุดท้ายก็เสียเวลาเปล่า” กล้าได้ยินความจริงก็นิ่งคิด รับรู้ว่าขุนโชติถูกหลอกจากเรื่องที่แต่งเพิ่มขึ้น อาจารย์ยอดคิดว่ากล้าหนักใจ “เอ็งไม่ต้องหนักใจ ถ้าเราร่วมมือกัน ไอ้ขุนโชติมันต้องถึงคราวสิ้นชื่อ”
“แล้วไอ้ตัวส่วนเกินล่ะ อาจารย์จะเอายังไง”
อาจารย์ยอดยิ้มนิดๆ ไม่ตอบ
ขณะนั้นภูมินทร์กำลังไขประตูห้องพักอาจารย์ยอดด้วยกุญแจสำรอง ภายใต้ห้องมีแต่แสงสลัวภูมินทร์ย่องเข้ามาในห้องแล้วเดินตรงไปที่เตียง
ภูมินทร์ออกมาจากห้องพัก มองซ้ายขวาระวังตัวแล้วรีบย่องออกไป

วันต่อมาขุนโชตินั่งสมาธิอยู่ที่โขดหินท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัด เท้าของภูมินทร์เดินปรี่ตรงเข้าหาขุนโชติ
มือภูมินทร์ถือขวานเข้าฟันขุนโชติจากด้านหลัง ขุนโชตินั่งสมาธิอยู่รู้ตัว กระโดดกลิ้งตัวไปข้างหน้า ดีดตัวขึ้นยืน หันมองภูมินทร์ ภูมินทร์ยืนจังก้าจ้องเขม็งอยู่ ตาเป็นสีเลือดเพราะเส้นเลือดฝอยในตาแตก เนื้อตัวมีรังสีแดงระเรื่อๆ เหมือนออร่าแผ่กระจาย
“ฉันจะสอนให้แกรู้จักฤทธิ์ของว่านเทวาเอง ย๊าก”
ภูมินทร์วิ่งถือขวานปรี่เข้าฟันขุนโชติ ขุนโชติตวัดกงเล็บทีเดียวขวานกระจุยไป ขุนโชติตวัดกงเล็บไปที่ภูมินทร์
ภูมินทร์หลบด้วยท่าทางที่คล่องแคล่ว แล้วซัดหมัดใส่ที่ท้องขุนโชติด้วยพละกำลังของว่าน ขุนโชติเกิดเกล็ดจระเข้ขึ้นกำบัง แต่พลังของหมัดกลับดันจนเกล็ดยุบลงไป
ขุนโชติถอยผงะจุก ภูมินทร์ตามซัด ขุนโชติเคลื่อนตัวหลบ หมัดเลยไปซัดที่ต้นไม้ ต้นไม้กระจุย ภูมินทร์ฮึกเหิมกับพละกำลังมหาศาล
“ฮ่าๆ วันนี้คือวันตายของแก”
ขุนโชติโมโห ร่ายมนต์กสินไฟ เกิดลูกไฟขึ้นที่มือแล้วสะบัดไป ภูมินทร์ไม่กลัว ต่อยลูกไฟกระจายก่อนจะวิ่งไปที่ขุนโชติประชิดตัว ขุนโชติตวัดกงเล็บ ภูมินทร์หลบแล้วซัดรัวเข้าที่ตัวขุนโชติอย่างสะใจจนเกล็ดจระเข้ที่เกิดขึ้นกำบังแตกกระจาย ขุนโชติทรุดกระอักเลือด ภูมินทร์มองขุนโชติทั้งสะใจทั้งแค้น
“ตาย”
ภูมินทร์กำหมัดจะซัด แต่แล้วกล้าเคลื่อนตัวอย่างเร็วเข้ามาขวาง พร้อมดาบประจุพรายหนึ่งเล่มในมือ
“หยุดนะ ไอ้ภูมินทร์”
“แกมาก็ดีแล้ว ตายไปพร้อมกันซะเลย”
“แกแน่ใจ”
ภูมินทร์พุ่งเข้าซัดกล้า กล้าเบี่ยงหลบเอามือรับหมัด ยิ้มเย้ย ก่อนจะแทงเข่า ภูมินทร์ผงะถอย งง มองเนื้อตัวตัวเอง มีผดสีแดงขึ้นเต็ม ภูมินทร์ตกใจ ก่อนจะเริ่มมึน ภูมินทร์เห็นภาพกล้าพร่ามัว เอียงไปมา กล้าปักดาบลงพื้นเดินเข้าซัดภูมินทร์ ภูมินทร์หน้าหัน เลือดกลบปาก
“นี่ยังน้อยไป สำหรับแก” กล้ากระชากคอเสื้อจะซัดอีก แต่ชะงักไว้ผลักภูมินทร์ออก “ไปซะ ถ้าไม่อยากตาย ไป”

ภูมินทร์ได้ยินก็รีบหันหลังวิ่งหนี แต่ก็ชะงักอึ้งเมื่อเกล็ดจระเข้นับร้อยปักหลังภูมินทร์อยู่ ภูมินทร์หันหลังกลับมามองเห็นขุนโชติเคลื่อนตัวเข้าหา ตวัดกงเล็บรัวใส่อย่างไร้ความปราณี ร่างภูมินทร์เต็มไปด้วยรอยกงเล็บทั้งร่าง เนื้อถูกเฉือนหั่นไปถึงกระดูก เลือดไหลอาบ ภูมินทร์ทรุดร่วง สลบไปเพราะความสาหัสของบาดแผล กล้าอึ้ง ขุนโชติบอกกล้า
“ในการศึกเอ็งจะใจอ่อนไม่ได้ อย่างไรก็ขอบใจเอ็งมาก” กล้ามองสภาพภูมินทร์ ทั้งสลดและเวทนา “ข้าจักให้คนลากเอาศพมันไปทิ้งเสีย”
“ข้าคือไอ้ไทแห่งทุ่งพระกาฬๆ”
ขุนโชติหันมองไปตามเสียง เห็นเสือไทเดินกอดไหเหล้าเมาผ่านเข้ามา ขุนโชติโมโห ตวาดเรียก
“ไอ้ไท”
เสือไทสะดุ้ง หันมองตาปรือเห็นขุนโชติก็เดินเซเข้ามาหา
“พี่โชติ มีกระไรให้ไอ้ไทรับใช้เหรอจ๊ะ” ขุนโชติโมโหถีบเสือไทหน้าหงาย “โอ๊ย ข้าเจ็บนะพี่โชติ”
“แต่ข้าเจ็บกว่า เอ็งเป็นมือขวาของข้าแท้ๆ แต่กลับหายไปยามคับขับ หากไม่ได้ไอ้กล้าช่วยไว้ รู้รึไม่ว่าข้าจะเป็นเยี่ยงไร”
เสือไทได้ยิน อารามเมาและน้อยใจจึงเถียง
“ข้าเสือไทอยู่ข้างพี่ คอยรับใช้พี่มาข้ามภพข้ามชาติ แต่พี่กลับเห็นมันดีกว่าข้า ก็ให้มันมาแทนข้าเลยสิ ต่อไปพี่จะเป็นจะตายข้าก็ไม่ต้องรับรู้”
ขุนโชติได้ยินก็โมโหมาก
“ไอ้ไท”
ขุนโชติตวัดกงเล็บข่วนไปที่หน้าเสือไท จนเป็นรอยเล็บ เลือดไหลซิบ เสือไทอึ้ง จับเลือดที่หน้าตัวเอง
“พี่โชติ”
ขุนโชติเองก็เจ็บไม่น้อย แต่ต้องสั่งสอน

อ่านละคร เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ตอนที่ 14/3 วันที่ 10 มี.ค. 56

เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง บทประพันธ์ : เพชรน้ำหนึ่ง
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง บทโทรทัศน์ : ดาวเหนือ
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง กำกับการแสดง : อนุวัฒน์ ถนอมรอด
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง แนวละคร : โรแมนติก - แอ็คชั่น - แฟนตาซี
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ผลิต : บ. กันตนา
เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา manager