อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2/3 วันที่ 24 มี.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2/3 วันที่ 24 มี.ค. 56

“วันนี้เย็นแล้ว เนียนต้องไปทำอาหารเจ้าค่ะ”

“เอ็งจะทำอาหารให้พี่ขุนใช่ไหม อย่ามาสะเออะ วันนี้พี่ขุนจะกินข้าวเย็นที่นี่ คนเรือนโน้นไม่เกี่ยว ฟังนะพรุ่งนี้ เอ็งมาซักผ้าข้าให้สะอาดแต่เช้า และจำไว้ว่าอย่าสะเออะไปใส่รองเท้าให้พี่ขุนอีก”
“แต่ พรุ่งนี้เนียนจะไปเยี่ยมพ่อ พ่อเนียนป่วยเจ้าค่ะ”
“ใครห้ามเอ็ง เอ็งซักผ้าเสร็จเอ็งก็ไปสิ” สนบอก

“ยังไม่รีบขอบพระคุณคุณสนที่เมตตาอีก” ช้อยวางอำนาจใส่
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ คุณสน”
เนียนหน้าหมองเศร้า



เรียมถามเนียนทันทีที่เจอหน้า
“พ่อเป็นยังไงบ้างเนียน”
“เอ้อ...” เนียนน้ำตาจะหยด “ยังไม่ได้ไปเจ้าค่ะ”
“อ้าว นี่ไอ้เอกมันเกเรไม่ยอมไปส่งเอ็งหรือ” ทองจันทร์ฉุน
“เปล่าเจ้าค่ะ”
“อะไรอะไรก็เปล่า แล้วมันอะไรกันเล่า” เรียมซัก
“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ”
“อุบ๊ะ เนียน เอ็งเป็นอะไรของเอ็ง พูดจาวนเวียนสองสามประโยค”
พอดีขุนภักดีเดินเข้ามา ตามด้วยเอกหิ้วกระเป๋ายิ้มรื่นรมย์เข้ามาทั้งสองคน
“คุณแม่กับเรียมกำลังคุยอะไรกันครับ”
“ไม่ได้คุยกำลังสอบสวน เนียน คือแม่เรียมเขาอนุญาตให้มันไปเยี่ยมตาน้อมพ่อมัน แต่มันก็ไม่ยอมไป ถามอะไรก็ตอบว่าไม่มีอะไร”
“สรุปแล้วมีอะไรกันแน่” ขุนภักดีเป็นคนถาม
เอกมองหน้าเนียน ขยับปากจะพูด
เนียนรีบขัด “เอ้อ...”
“กระผมทราบขอรับ ว่ามีอะไร” เอกเอ่ยขึ้น
“มีอะไรไอ้เอก” สามคนถามพร้อมกัน
“เนียนไม่สบายพอดีเจ้าค่ะ” เนียนรีบชิงตอบ
เอกทำหน้าเซ็ง ทุกคนฟังเลยไม่ติดใจ ขุนภักดีเกิดอารมณ์ดีขึ้นมา
“เอกเอ็งไปหายามาให้เนียนกินสิ เอ้อคุณแม่ แม่เรียม วันนี้ผมอยากฟังดนตรีเพราะๆ ตอนมื้อเย็น เรียมจ๊ะ พี่อยากฟังเรียม เล่นจะเข้เพราะๆ”
“แม่สนจะรอแย่นะคะ” เรียมท้วง
“รอไปสิ พี่ไม่ไป พี่อยากฟังเรียมเล่นจะเข้ ไม่ได้ฟังมานานแล้ว”

ทุกคนจึงเงียบงันกันไป เพราะขุนภักดีพูดเสียงเข้ม
เย็นนั้นสองนายบ่าวตั้งสำรับรอที่ชานเรือน สนแต่งตัวสวยเต็มที่ รอแล้วรออีกก็ไม่เห็นแววขุนภักดี

“ทำไมคุณพี่ไม่มาสักที นี่พระอาทิตย์ตกดินแล้วนะ”
“เดี๋ยวก็มาเจ้าค่ะ ท่านขุนไม่ผิดข้อตกลงกับคุณสนหรอกเจ้าค่ะ”
“แล้วสามวันที่ผ่านมานั่นเล่า ใครผิดข้อตกลงกับข้า”
ระหว่างนั้น เสียงจะเข้ดังแว่วมาจากเรือนใหญ่ สองคนมองหน้ากัน
“ใครเล่นจะเข้”
นายแทนบ่าวอีกคนเดินผ่านมา
“ไอ้แทน มีแขกมาหรือ ถึงมีใครเล่นจะเข้ที่เรือนใหญ่”
“ไม่มีแขก มีแต่คุณนายเรียมท่านเล่นจะเข้ นัยว่า ท่านขุนท่านอยากฟัง เบิกบานกันใหญ่”
แทนพูดจบเดินไปอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ว่าสนโกรธแน่ มีเสียงเพล้งไล่หลัง ตามด้วยเสียงสน
“นี่แน่ะเบิกบานกันใหญ่”
ช้อย มองจานชามแตกกระจาย อาหารหกเลอะเทอะเต็มพื้นเรือน สนวิ่งเข้าห้องไป ช้อยนั่งทำหน้ากลุ้มใจ

เรียมเล่นจะเข้ มีขุนภักดีนั่งฟัง แต่สายตามองไปที่เนียน ที่นั่งเยื้องไปทางด้านหลังของเรียมตลอด ทองจันทร์ฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม เรียมเล่นจบ ท่านขุนปรบมือแต่ตามองเนียนที่แต่งตัวสวยหน้าแฉล้ม
“พี่มีความสุขเหลือเกิน เรียม ผมมีความสุขจริงๆ ครับ คุณแม่”

ด้านสนร้องไห้น้ำตาโชกหมอน ช้อยได้แต่ปลอบ
“อย่าร้องไห้เจ้าค่ะ คุณสนเจ้าขา ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นต่อไปเจ้าค่ะ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นเจ้าค่ะ ก็เพราะพยายามไงเจ้าคะ คุณสนของช้อยถึงมีวันนี้”
“เอ็งไม่รู้หรอกว่า ข้าขมขื่นแค่ไหน”
“รู้สิเจ้าคะ ความรู้สึกของคุณสนมันคือความรู้สึกเดียวกับที่คุณนายเรียม เคยรู้สึกมาก่อน คุณนายเรียมหวานอมขมกลืนแค่ไหนตอนที่ ท่านขุนไม่กลับไปเรือนใหญ่เลย กงกรรมกงเกวียน มันเวียนกลับเจ้าค่ะ” ช้อยเปรียบเปรย
“นี่เอ็งกำลังตำหนิว่าข้าทำบาปกับคุณนายเรียม เลยเจอกรรมสนอง”
“ไม่ใช่เจ้าค่ะ ช้อยเปรียบเปรยเจ้า ให้เห็นสัจธรรมเจ้าค่ะ เลิกร้องไห้มาช่วยกันคิดกำจัดนางมารหัวใจของคุณสนต่อนะเจ้าคะ ขืนนานไปคุณสนของช้อยจะโดนทิ้งให้แห้งเหี่ยวหัวโตเป็นแตงเถาตายคาเรือนเล็กนี่นะเจ้าคะ”
“โอ๊ย...เอ็งอย่ามาขู่ ข้าทนไม่ได้แล้ว เอ็งรีบไปตามไอ้เหิมมา”
“มาทำไมเจ้าคะ”
“มาฉุดนางเนียน”
ช้อยแทนที่จะตกใจ กลับดีใจผวากอดสน
“ไชโย คุณสนกลับมาฉลาดปราดเปรื่องเหมือนเดิมแล้วเจ้าค่ะ เอ...แต่ว่า จะดีหรือเจ้าคะ ก้อไอ้เหิมมั่นเป็นตัวกากีของคุณสน”
“แล้วเอ็งคิดว่าใครดี”
“ช้อยแค่กลัวมันเปิดโปง เรื่องของคุณสนกับตัวมัน”
“มันสาบานกับพ่อกำนันแล้ว ถ้ามันผิดคำสาบาน มันตายหยั่งเขียด”
ช้อยพยักหน้ารับหงึกๆ เห็นชั่วตามกัน

คืนนั้นเนียนนั่งพนมมือสวดมนต์เสร็จก้มลงกราบพระ เนียนใจคอไม่ดี
“พ่อจ๋า พ่ออย่าเป็นอะไรนะจ้ะ แดงน้อยของแม่ อย่าป่วยบ่อยนะลูก”
เนียนกราบพระจบ ลุกไปยืนที่หน้าต่าง นึกถึงภาพสายตาขุนภักดีที่มองข้ามหลังคุณนายเรียมมาที่ตนตลอดเวลา
ยิ่งคิดเนียนรู้สึกใจคอไม่ดี มองไปนอกห้องแต่เนียนต้องสะดุ้ง รีบหลบแอบทันที

ที่แท้ขุนภักดีนั่นเองที่เดินวนเวียนไปมารอบต้นไม้ ตาก็เหลือบไปที่หน้าต่างห้องเนียน เดินวนไปเจอเอากับเอกที่วนมาปะเอาหน้าท่านขุนเช่นกัน
“ไอ้เอก มาลอบดูข้ารึ”
“เปล่าขอรับ คือกระผมจะเดินกลับห้องเห็นอะไรไหวๆ วนเวียนรอบต้นมะขาม นึกว่าไอ้เสือหนักมาบุกบ้านท่านขุน”
“ไอ้ขี้โม้ ขี้ปด”
“ถ้าอย่างนั้นกระผมขอถามคุณเทพตรงๆ ก็ได้ ว่ามาหัดเดินจงกรม หรือคิดปริศนาโลกีย์ขอรับ”
“ไอ้มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก”
“กระผมไม่รบกวนคุณเทพแล้วขอรับ”
เอกแกล้งเดินหนีไป ท่านขุนมากระชากบ่ามา
“แต่ข้าต้องการรบกวน เอ็ง”
“ขอรางวัลค่ารบกวนเป็นกางเกงแพรเสื้อกุยเฮงผ้าขาวม้าไหมอย่างดีก็พอขอรับ” เอกรู้ทัน
“หนอยแน่ะเดี๋ยวเตะก้านคอหัก”
“ขืนเตะ เถ้าแก่สื่อสวาทก้านคอหักตาย คุณเทพก็สิ้นสวาทที่มาดหมายสิขอรับ”
“แหม เอ็งนี่มันวอน อย่าเดาสุ่มนะ”
“กระผมเดาผิดหรือขอรับ” เอกย้อนขำๆ
“เปล่า เอ็งเดาถูก”
“กระผมเดาต่อนะขอรับ ถ้าท่านขุนรักเธอจริงกระผมก็ยินดีเป็นพ่อสื่อ”
“เอ็งจะสื่อยังไง”
“ปากสิขอรับ กระผมน่ะปากเป็นเอก เรื่องสื่อรัก กระผมกล่อมได้เสมอ” เอกคุยโว
“แต่ ข้าไม่ต้องการให้เขาพอใจข้าเพราะการกล่อม ข้าต้องการให้เขาเต็มใจรักตอบข้า”
“ดักลอบต้องหมั่นกู้ เจ้าชู้ต้องหมั่นเกี้ยวขอรับ รับรองว่าเขายอมแน่” เอกสอนท่านขุน
“ถ้าเขายอม แต่แม่เรียมไม่ยอม” ขุนภักดีกังวล
“คุณนายเรียมเธอเคยไม่ยอมคุณเทพเรื่องนี้หรือขอรับ คำน้อยไม่เคยปริปากว่า ปากของท่านมีไว้สวดมนต์เท่านั้นแหละขอรับ ท่านสุดประเสริฐ”
“ก็เพราะเขาสุดประเสริฐอย่างนั้น ข้าถึงไม่อยากทำร้ายจิตใจเขา คราวแม่สน ข้าก็ต้องไปขออภัยเขา คราวนี้ถ้าข้ายังซ้ำรอยอีกทั้งที่บอกว่าสุดท้ายแล้ว ข้าจะมองหน้าเขาได้ยังไง”
ขุนภักดีหน้าหมอง เอกหัวร่องอหายขำเอามากๆ
“โบราณว่าเมียสองต้องห้าม เมียสามตามตำรา ริอ่านจะมีเมียมากอย่าออกปากสัญญากับเมีย ท่านต้องหัดพูดให้มันเลี่ยงๆ สิขอรับ”
“นี่เอ็งสอนให้ข้าโกหกเมีย บาปกรรม”
“โกหกพระบาปกรรม แต่โกหกเมียไม่บาปดอกขอรับ คุณนายเรียมท่านไม่ว่าแต่คนที่จะว่า น่ะคุณสนขอรับ” บ่าวจอมกะล่อนบอกอย่างรู้จริง
ขุนภักดีอึ้งไป
“ขอประทานโทษ คุณเทพยังไม่ได้เอ่ยชื่อเธอคนนั้นให้พ่อสื่อทราบนะขอรับ” เอกยิงมุก ทำเป็นไก๋ไม่รู้เรื่อง
“อย่ามาแกล้งถาม เอ็งรู้แล้วว่าหมายถึงใคร”
“แม่ช้อย”

เอกแกล้งยั่ว เลยโดนขุนภักดีเตะโครมจริงๆ
เช้าวันต่อมา ขณะที่เนียนนั่งซักผ้าของเก่าเมื่อวาน เอกเริ่มทำตัวเป็นพ่อสื่อสวาทตามที่รับปากขุนภักดีเมื่อคืน ปราดมานั่งช่วยซัก หยิบกางเกงในขึ้นมาทำหน้าเบ้

“นี่มันเหมือนกางเกงในเมื่อวานกับผ้าเมื่อวาน เอามาซักอีกทำไม”
“มันเลอะอีกนี่จ้ะพี่เอก”
“นี่กลั่นแกล้งกันขนาดนี้เลยหรือ แล้วยอมทำไม”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
“เนียนนี่สมกับที่คุณนายเรียมท่านรับเป็นน้องสาวจริงๆนะ ไม่เคยปริปากว่าใครสักที เอ้อ เนียนจ๊ะ” เอกมองซ้ายขวาก่อนจะกระซิบ “พี่มีอะไรจะบอก”
“บอกมาสิจ๊ะ”
“ท่านขุนท่านรักเนียน อยากจะยกย่องให้เป็นเมีย วาสนามาถึงแล้ว”
เนียนตะลึงอึ้งไป แล้วรีบส่ายหน้าร้องไห้ออกมา
“ชั้นรับวาสนานี้ไม่ได้ดอกจ้ะ พี่เอก”
“เอาละวา เจอคนใจกล้าผลักราชรถที่มาเกยเข้าให้แล้ว ทำไมเล่าเนียน”
“เนียนเป็นดอกหญ้าต่ำต้อยตามท้องนา ท่านขุนเปรียบเสมือนแจกันทองในคฤหาสน์ ต่างกันราวฟ้ากับดิน และพ่อก็บอกว่าสักวันจะมารับเนียนกลับบ้านจ้ะ”
“หมายความว่า เนียน ไม่ได้จะอยู่ที่นี่ตลอดไป”
“จ้ะ”
เนียนร้องไห้ไปซักผ้าไปอยู่อย่างนั้น

ฝ่ายขุนภักดีเดินวุ่นทั่วเรือน เจตนาหาเนียน แต่เจอเอากับเรียม ไม่กล้าถามตรง
“พี่เทพชะเง้อหาอะไรคะ”
“เปล่า เอ้อ เรียมอยู่คนเดียวหรือจ้ะ”
กบเสนอหน้า “กบอยู่ด้วยเจ้าค่ะ”
“อ้อ เอ้อ ไอ้เอกมันพาเนียนไปเยี่ยมพ่อที่บ้านแพนแล้วละสิ”
“ยังเจ้าค่ะ”
“ทำไมยังไม่รีบไป เห็นแอบร้องไห้ร้องห่ม มัวไปทำอะไรอยู่” เรียมแปลกใจ
“ซักผ้าเจ้าค่ะ” กบบอก
“ซักผ้า” สองคนงงอุทานพร้อมกัน
“ผ้าของใคร” ขุนภักดีสงสัย
“เอ้อ ของคุณสนเจ้าค่ะ”
เท่านั้นเอง ขุนภักดีก็หน้าตึงหัน พรวดลงเรือนไป กบทำท่าเสียวไส้ เรียมมองตามสงบนิ่ง

เนียนยกแขนป้ายน้ำตา เอกแปลกใจไม่หาย
“ทำไมเนียนถึงร้องไห้มากมายขนาดนี้ มีอะไรปิดบังพี่ไว้หรือ”
“ไม่มี อะไรจ้ะ”
ระหว่างนั้นสนเดินนำช้อยที่ หอบผ้าห่มผ้าปูที่นอนหมอน ปลอกหมอน ลากตามพื้นจนสกปรกมากเข้ามา
“โยนลงไปช้อย โยนลงไปให้เนียนมันซักให้หมดภายในวันนี้ห้ามไปไหนถ้าซักไม่หมด”
“เจ้าค่ะ” เนียนรับคำ
“คงไม่ได้แล้วขอรับ คุณสน วันนี้ยังไงซะ เนียนเขาก็ต้องไปเยี่ยมพ่อพ่อเขาป่วยหนัก” เอกเอ่ยขึ้น
“ก็พ่อมันใช่พ่อคุณสนซะเมื่อไหร่” ช้อยสาระแน
“ไม่เป็นไรจ้ะพี่เอก” เนียนบอก
“เจ้าตัวมันยังไม่เป็นไร แล้วไอ้เอกจะมาทำตัวเป็นทนายหน้าหอ กางปีกปกป้องมันทำไม มีนอกมีใน มีสินบนอะไรกันหรือ” สนหันมาเอาเรื่องเอก
“ไม่มีดอกขอรับ คุณสน มีแต่ความจริงที่ว่า อีกไม่ช้า เนียนเขาอาจมีฐานะเสมอหรือเหนือกว่าคุณสน จะเป็นรองก็แต่คุณนายเรียม” เอกจงใจพูดใส่
“ไอ้เอก”
สนกรี๊ดใส่ ตกใจผสมด้วย
“ข้าจะไปฟ้องคุณแม่ทองจันทร์”
“ช้อยไปฟ้องด้วยเจ้าค่ะ”
สองนายบ่าววิ่งตะลุยออกมาเจอเอาขุนภักดียืนจังก้าขวางหน้าอยู่ สองคนชะงัก ท่านขุนมองมาตาเขียวปัดที่สน
“จะไปไหนแม่สน”
“จะไปเอ้อ...” สนอึกอัก
“ไปซื้อตะพาบน้ำมาทำแกงให้ท่านขุนรับประทานเจ้าค่ะ”
สองคนทำท่าจะชิ่งไป
“ไม่ต้องไปหยุดอยู่ตรงนั้น”
ขุนภักดีสั่งเสียงเข้ม มองไปที่เนียนกับผ้าล้นกะละมังแถมมีอีกหอบใหญ่โปะอยู่แทบจะท่วมหัวเนียน
“ไอ้เอก ข้าได้ยินแม่เรียมบอกว่าเอ็งจะพาเนียนไปเยี่ยมพ่อที่บ้านแพน แล้วมานั่งทำอะไรกันที่นี่”
“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ” เนียนรีบบอกไม่อยากให้มีเรื่อง
“มีขอรับ เนียนมานั่งซักผ้า กระผมก็ช่วยเนียนซักผ้าขอรับ” เอกบอก
“ผ้าของ...ใคร...” ขุนภักดีเน้นคำ
“คุณสนขอรับ” เอกบอก
ขุนภักดีเหลียวมาจ้องสน ช้อยกระซิบ
“โทษมันเลยเจ้าค่ะ”
“สนสั่งให้ช้อยเอาไปให้พวกเรือนหลังบ้านซัก แต่เนียนอาสาซักให้เองนะคะ”
ขุนภักดีอารมณ์ขุ่น พูดอย่างไม่ไว้หน้า “แม่สนปดพี่ ทีหลังอย่าให้น้องสาวของแม่เรียมซักผ้า ใช้เขาทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น คนรับใช้มีเป็นโขยง ให้ใช้ ใช้ไปสิ”
“แต่เนียนเป็นคนทำเสื้อผ้าสนเลอะเทอะนะคะ”
“ให้มันเลอะเทอะต่อไป” ขุนภักดีเสียงดัง แล้วสั่งเอก “ไอ้เอก”
“ขอรับ”
“เอาเสื้อผ้าที่นอนหมอนมุ้งพวกนั้นโยนลงน้ำคลำ ตรงนั้น ให้หมด”
สนกับช้อยตะลึง เนียนตกใจ เอกยิ้มแฉ่งสะใจ
“พี่ขุน อย่านะคะ” สนร้องลั่น
“อย่าทำอย่างนี้กับเนียนอีก จำไว้ โยนลงไปไอ้เอก”
เอกจัดการโยนเสื้อผ้าลงไปด้วยความเต็มใจ ขุนภักดีมองเนียนอย่างสงสารยิ่งหลงยิ่งรักเต็มใจ
สนเสียใจร้องไห้วิ่งหนีไป ช้อยลนลานตามหลังติดๆ

ตอนสายวันเดียวกันนั้น โพล้งพายเรืออยู่กลางคลอง พาน้อมมาใกล้ถึงบ้านขุนภักดีภูบาลแล้ว
“ใกล้ถึงหรือยัง ไอ้โพล้ง”
“เกือบแล้ว ลุงน้อม ไหวไหมล่ะ”
“ต้องไหวสิวะ ยังไงก็ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนข้าตาย”

โพล้งจ้วงพายเรือต่อไป
ส่วนที่บนเรือนใหญ่ ทองจันทร์กำลังฟังสนฟ้องเรื่องเนียน สีหน้าพลอยหงุดหงิดไปด้วย แต่ไม่มากมายดังที่สนหวัง

“ฮ้า...อะไรมันจะหลงรักกันราดเร็วปานกามนิตหนุ่มถึงเพียงนี้”
“สนถึงว่าสิคะ คุณแม่ ยังไม่ทันข้ามเดือน พี่ขุนทั้งรักทั้งหลงเนียนหัวปักหัวปำเลยนะคะ เนียนมันยั่วพี่ขุน มันทำเสน่ห์เล่ห์กลสารพัดสารพัน”
“ชั้นเห็นมันออกจะสงบเสงี่ยมเจียมตัว” ทองจันทร์ว่า
“แหม..มันเป็นพวกข้างนอกสุกใส ข้างในต๊ะติ๊งโหน่งเหมือนผลมะเดื่อค่ะ”
“แต่ชั้นก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าจริง
“จริงสิค่ะ คุณแม่ สนแว่วมาว่า พ่อมันเอาใส่ตะกร้าล้างน้ำมาตบตาคุณแม่ค่ะ มันกำลังจะหาทางลัดมาเป็นคุณนายที่นี่ค่ะ คุณแม่”
“อืม ถ้างั้นแม่สนไปเรียกเนียนมาให้แม่สอบถามสิ” ทองจันทร์บอก
สนหันกลับ เจอเรียมยืนทำหน้าสงบนิ่งอยู่
“คุณพี่ สนขอทางไปตามเนียนมาพบคุณแม่หน่อยค่ะ”
“เนียนเขาไปเยี่ยมพ่อ และอยากจะบอกว่า เนียนเขาไม่ได้จะอยู่ที่นี่ตลอดไปดอกนะ พ่อเขาฝากไว้เพราะไม่มีหลักประกันเงินกู้ แม่สนกลับเรือนเถิดนะจ๊ะ เห็นวิ่งไปวิ่งมา เดี๋ยวจะเป็นลมน่ะจ้ะ”
สนสะบัดหน้าเดินพรืดออกไป เรียมหันมาทางทองจันทร์
“แม่เรียม ที่แม่สนเขามาฟ้องว่าพ่อเทพจะเอาเนียนมาเป็นเมีย จริงรึ”
“เรียมว่าคุณแม่สอบถามจากพี่เทพเองดีกว่าค่ะ”
ทองจันทร์พยักหน้าเห็นด้วย

เนียนลงเรือเรียบร้อย เอกกำลังจะพายออกไป แต่แล้วเขม้นมองไปเบื้องหน้า
“กว่าจะไปได้ ไฮ้ นั่น เรือใครหว่า พายเข้ามาทางบ้านเรา”
เนียนชะเง้อมอง เห็นโพล้งเปิดผ้าขาวม้าที่โพกหัวออก
“พี่โพล้ง”
“เนียน ลุงน้อมแกมาเยี่ยม” โพล้งตะโกนบอก
“พ่อ”
เนียนดีใจน้ำตาไหลพราก

ทางด้านสนโกรธขึ้งจนพาลไปหมด
“คุณแม่ ไม่เห็นจะโกรธมันมากมายอย่างที่ข้าต้องการ”
“น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อนเจ้าค่ะ ค่อยๆ ใส่ร้ายไปเรื่อยเดี๋ยวคุณท่านก็เกลียดมันสักวันเจ้าค่ะ”
“กว่าจะถึงวันนั้น ข้าโดนมันแย่งตำแหน่งแน่”
สนหงุดหงิด

ฝ่ายทองจันทร์กำลังต่อว่าขุนภักดี
“พ่อเทพ คิดจะมีเมียสามรึนี่ พ่อเทพเป็นสมภารกินไก่วัด มันจะโดนติฉินนินทานะอายไปทั่วเมืองสุพรรณนะพ่อเทพ”
“คุณแม่ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนครับ”
“แม่สนเขามาฟ้องฉอดๆ เป็นฉากๆ ว่าพ่อเทพทั้งรักทั้งหลงเนียนมันถึงขั้นไม่พอใจ สั่งให้เอาเสื้อผ้าที่นอนหมอนมุ้งของแม่สนไปขว้างลงน้ำครำ”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2/3 วันที่ 24 มี.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager