อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 5 วันที่ 31 มี.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 5 วันที่ 31 มี.ค. 56

“สืบราคาไว้ก่อน แล้วจะหาให้ครบ ลูกชายชั้นมันอยากได้มาก” ยายอ่อนบอก
“จะไปหาเงินที่ไหนล่ะ” โพล้งสงสัย
“แถวบ้านของท่านขุนภักดีภูบาลนั่นแหละ”
โพล้งตกใจระคนตื่นเต้น “ยาย..นี่ยาย...”

หลายวันผ่านไปสนกำลังอุ้มเทิดศักดิ์ลุกเดินนวยนาดอยู่ในบริเวณบ้าน มีช้อยเดินถือผ้าอ้อมถือร่มเดินกางตามหลัง

“ช้อย อีเนียนกับอีเรียมมันเลิกแพ้ท้องหรือยัง”
“คุณสนเจ้าขา พูดจาให้มันเพราะสิเจ้าคะ ขึ้นนังขึ้นอี คุณหนูเทิดศักดิ์จะจำเอาไปพูดเจ้าค่ะ” ช้อยบอก
“นางช้อย เอ็งจะบ้ากันใหญ่รึ คุณเทิดศักดิ์อายุสามสี่เดือน จะมาจำคำพูด ได้อย่างไร เอ็งอย่าล้น”


มีเสียงทักมาจากท่าน้ำ
“คุณสนเจ้าขา”
สนกับช้อยมองไปสะดุ้งโหยง
“ยายอ่อน”
“เอ็งมาทำไม” สนถาม
ระหว่างนั้นกบกับแมวเดินมาพอดี สองคนชะงักมองหน้ากัน
“ยายอ่อนกลับมาแล้ว”

ยายอ่อนฉวยโอกาสรีดไถเอาเงินจากสน
“คุณสนเจ้าขา อิชั้นกลับมาเพื่อจะมาเอ้อ... มาขอยืมเงินคุณสนสักยี่สิบชั่ง”
สนเหลียวขวับ “ว่ากระไรนะยายอ่อน พูดอะไรออกมารู้ตัวไหม”
“รู้สิเจ้าคะ อิชั้นจำได้ว่าคุณสนใจดีมีเมตตา ให้เงินยายไปทำทุนตั้งหนึ่งชั่ง เพียงแค่อย่าบอกใครว่าคุณสนท้องแล้วสองเดือนกว่าๆ” ยายอ่อนว่า
“อย่าพูดคำนี้อีก แล้วทำไมเอ็งไม่เอาไปทำทุนทำมาหากิน”
“มันทำทุนไม่พอดอกเจ้าค่ะ อิชั้นจะเอาไปซื้อที่นา แต่ราคามันตั้งยี่สิบสามสิบชั่ง”
สนดักคอ “ก็เลยคิดจะมาขู่ข้ารึ”
“หามิได้เจ้าค่ะ อิชั้นมาขอความช่วยเหลือ แต่ถ้าคุณสน...”
ช้อยอุ้มเด็กเดินเข้ามาหา
“คุณสนเจ้าขา คุณท่านให้มาตามยายอ่อนไปดูอาการ คนท้องบ้านโน้นเจ้าค่ะ”
ยายอ่อนแปลกใจ “คนท้อง ใครท้องรึ”
“ไม่ต้องไป” สนสั่ง
ทองจันทร์พรวดมาถึงชานเรือนพอดี
“ใครเป็นใหญ่ที่สุดในบ้านนี้ แม่สนรึว่าชั้น”
สนมองไปเห็นทองจันทร์ยืนอยู่ มีแมวกับกบอยู่ด้านหลัง
“ที่สนบอกว่าไม่ให้ยายอ่อนไปน่ะ สนจะพาไปเองค่ะคุณแม่ ใช่ไหมยายอ่อน”
สนจ้องยายอ่อนเป็นการสำทับ
“เจ้าค่ะ คุณนายทองจันทร์” แล้วยายอ่อนก็มองไปที่เด็กในมือช้อย พูดลอยๆ “ต๊ายน่ารัก น่าชัง หน้าไม่เหมือนแม่ หน้าแบบนี้เคยเห็นที่ไหนน้อ...”
ช้อยกับสนอึ้งพูดไม่ออก ยายอ่อนรีบตามทองจันทร์ไปทันที ทิ้งคำพูดให้สองคนคลั่ง
สนมองหน้าเทิดศักดิ๋แล้วเมินหนี เพราะภาพแววตาของหนักในผ้าขาวม้าที่มองมายังสนผุดซ้อนขึ้นมาหลังดวงตาของเทิดศักดิ์
สนคิดแล้วเครียด
“ไม่ต้องมองหน้าแม่ ไม่อยากจะสบตา เด็กบ้าไม่ยอมหน้าตาเหมือนแม่ ดันไพล่ไปเหมือนศัตรูของแม่ ช้อยเอาไปนอนซะ”
“เอาอีกแล้วเจ้าค่ะ ท่องไว้เทิดทูนเชิดชูคุณหนูเทิดศักดิ์เจ้าค่ะ ดูสิเกิดมาไม่กี่เดือน สร้างบุญวาสนาให้คนหงอคุณสนกันทั้งบ้าน ยกเว้น คุณนายทองจันทร์”
ช้อย พาเด็กออกไป สนมองตามหลังยายอ่อน แค้นเคืองขัดใจไปหมด
“อีแก่ทองจันทร์อีแก่หมอตำแย มึงมาก่อกวนจิตใจกูให้ขุ่นมัวทำไม”

ไม่นานต่อมายายอ่อนคลำท้องเนียนบีบๆ จับๆ ดูไป ยิ้มไป
“นั่นปะไรว่าเคยเห็นตาและเค้าหน้าอย่างนี้ที่ไหนก็หน้าก็ตาคุณเนียนนี่เอง”
“ยายอ่อนพูดเรื่องอะไรจ๊ะ”
“ลูกชายคุณนายสนน่ะสิคะ หน้าโดยเฉพาะตาเหมือนยังกะเป็นลูกคุณเนียน”
“ยายอ่อนจ๋า พูดจาอะไรระวังคำพูดด้วยจ้ะ คุณสนเธอจะเคืองเอา”
“เธอเคืองไปแล้วแหละเจ้าค่ะ” ยายบอก
“อย่าพูดถึงคนอื่น พูดถึงลูกของชั้นเป็นอย่างไรบ้างเถิดจ้ะยาย”
“ดิ้นแล้วเจ้าค่ะ ดิ้นแรงซะด้วย สุขภาพแข็งแรงทีเดียว ผิดกับของคุณนายเรียมนะเจ้าคะ ดิ้นอ่อนแรงเหลือเกิน ท่าทางจะไม่ค่อยแข็งแรง จะคลอดยากซะก็ไม่รู้” ยายอ่อนว่า เพราะไปตรวจท้องเรียมก่อนจะมาตรวจเนียน
“ยายบอกแล้วไงจ้ะ พูดจาระวังหน่อย” เนียนปราม
“ก็แค่พูดกับคุณเนียน เท่านั้นแหละเจ้าค่ะ”
“ขอบใจมาก ที่มาตรวจให้ ชั้นดีใจนะจ้ะที่ยายกลับมา”
“อันที่จริงไม่ได้อยากจะไปดอกจ้ะคุณเนียน แต่รับปากคนเขาเอาไว้เฮ้อ...พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทองดีกว่านะคะ อ้อ...อิชั้นเกือบลืม มานี่ไม่ได้มาเรื่อยเปื่อยนะเจ้าคะ ยายมีจอมอมาให้คุณเนียน”
“จดหมาย”
ยายอ่อนกระซิบบอก “อิชั้นไปอยู่บ้านแพนมา”
ยายอ่อนค่อยๆ เม้มจดหมายออกมาจากชายพก เป็นกระดาษแผ่นเล็กๆ

พร้อมๆ กับที่เปิดจดหมายออก อ่านภาพแดงน้อยนอนป่วย ซ้อนขึ้นมาจนเนียนนึกเป็นภาพ ว่าอาการดูแย่ลงมาก ร้องครางเบาๆ แบบไม่มีเรี่ยวแรง แพรนั่งร้องไห้โพล้งนั่งน้ำตาซึม
ยินเสียงแพรอ่านตะกุกตะกักอ่านไม่เก่ง
“แดงน้อยป่วยหนักมาก เงินค่ารักษาไม่พอ เดือนแรมสิบห้าค่ำที่จะถึงจะส่งคนมาหา เตรียมเงินไว้ได้ไหม...แพร”

อ่านจบเนียนน้ำตาร่วงพรู ยายอ่อนตกใจ
“คุณเนียน ร้องไห้เรื่องอะไรเจ้าคะ”
เนียนส่ายหน้า ไม่ตอบ มือกำจดหมายแน่น ยายอ่อนนึกเอาเอง
“อ้อ...คุณเนียนสงสารคุณนายเรียมว่าลูกในท้องอ่อนแอ กลัวเธอจะซ้ำอีหรอบเดิมใช่ไหมคะ โถแม่คุณช่างจิตใจอ่อนโยน ขี้สงสาร”
เสียงกบเรียกยายอ่อนดังเข้ามา
“ยายอ่อน คุณท่านให้มาตามอยากถามอาการหลาน”
“ยายไปก่อนเถิดจ้ะ ขอบคุณยายมาก นี่จ้ะเงิน ไม่มากไม่มาย แค่เป็นสินน้ำใจ”
เนียนส่งเงินให้ยายอ่อน
“แหมช่างเมตตาต่อคนชรา อิชั้นไม่บอกใครเรื่องจอมอดอกจ้ะ จะเหยียบเอาไว้จ้ะ คนเฝ้าที่นาเขาบอกว่าห้ามพูดจ้ะ”
ยายอ่อนรีบออกไป เนียนซบหน้าสะอื้นไห้ สงสารลูกชายจับใจ
“ลูกแดงน้อยของแม่ อย่าเป็นอะไรนะ ถ้าแม่หายตัวได้แม่จะแล่นไปหาลูกทันที แต่ แม่...แม่ทำไม่ได้ ทำไมชีวิตเราแม่ลูกมันถึงอาภัพเช่นนี้”

เนียนร้องไห้สะอึกสะอื้น เศร้า และเสียใจสุดๆ
ขณะเดียวกันที่ชานเรือนขุนภักดี และทองจันทร์นั่งพูดคุยท่าทีเบิกบานเรื่องลูกๆ หลานๆ

“คุณแม่จะว่าอย่างไร ถ้าผมจะทำสนามเด็กเล่นตรงหน้าเรือนเรา เอาไว้ให้ลูกๆ ผมวิ่งเล่นประสาพี่ๆ น้องๆ แล้วพวกเราก็นั่งดู นั่งฟังเด็กๆ เล่นกัน”
“พ่อเทพอยากทำอะไรก็ทำไป พ่อเทพน่ะลูกท่านหมื่น มีพ่อแม่เป็นเศรษฐีนี่ยะ แม่มันลูกคนธรรมดา ไม่มีปัญญาคิดดอกจ้ะ” ทองจันทร์เย้าลูกชาย
“คุณแม่เย้าผมเล่นอีกแล้ว อ้าวสน ไหนเทิดศักด์มาให้พ่ออุ้มหน่อยสิลูก”
สนอุ้มพาลูกมามีช้อยเดินตาม ที่แท้สนมาสืบเรื่องยายอ่อน กลัวเอาความลับมาปูด
“สนจะมาถามเรื่องหลานในท้องของเนียนกับคุณนายเรียมน่ะค่ะ สนเป็นห่วง”
“ไม่มีกระไรดอก แข็งแรงดีทั้งสองคน ตอนนี้ สี่เดือนเด็กดิ้นแล้ว ไม่เหมือนตาหนูเทิดศักดิ์รูปงามของย่าดอก เด็กอะไรดิ้นเอาตอนหกเดือนกว่าๆ ย่าใจหายใจคว่ำหมด”
“นี่ยายอ่อนกลับไปแล้วหรือคะ พี่เทพ” ลับหลังสนหันไปพึมพำ “อยากจะหามะนาวยัดปากอีแก่”
เอกขึ้นเรือนมาพอดี
“เรียบร้อยแล้วขอรับ ท่านขุน คุณท่าน”
“ไปส่งยายอ่อนเรียบร้อยแล้วรึ นายเอก” สนถาม
“ครับ คุณสน ไปส่งให้อยู่เรือนเล็ก ห้องที่คุณเนียนเคยอยู่ตอนมาใหม่ๆ”
สนหันไปสบตาช้อย แต่ถามเอก “ใครสั่งเอ็ง”
“ชั้นเอง” ทองจันทร์บอก
“พี่ก็สั่ง พี่เป็นห่วงลูกกลัวจะเกิดปัญหาเหมือนตอนสนคลอด พี่ก็เลยจ้างให้ยายอ่อนแกอยู่บ้านเรา นัยว่าแกจะเก็บเงินไปซื้อที่นา”
“ยายอ่อนปากไม่ดี นะคะ ยายอ่อนอาจเที่ยวป้ายสีให้เกิดเรื่องเกิดราวได้”
“ไม่มีเรื่องดอกจ้ะ...แม่สน ตราบใดที่ชั้นไม่ใช่คนหูเบา ฟังความข้างเดียว”
สนรีบพูดเปลี่ยนเรื่องใหม่
“ลูกเทิดศักดิ๋จ๋า...หนูร้องไห้จะหาคุณพ่อใช่ไหม ตัวแค่นี้ รู้มากแท้ๆ ร้องหน้าดำหน้าแดง พอสนบอกว่า จะพามาหาคุณพ่อ มารับคุณพ่อไปนอนด้วย แหม...หัวร่อเอิ๊กอ๊ากหยุดร้องทันที ช่างรักช่างติดคุณพ่อเหลือเกิน นี่ขนาดพูดไม่เป็นนะคะ”
“ก็มีแม่มันพูดแทนแล้วไง ใช่ไหมตาหนู”
ทองจันทร์ทำหน้าเบื่อๆ นิดหนึ่ง ส่วนขุนภักดีปลื้มจนตัวลอยอุ้มหนูน้อยออกเดินไปบ้านสนทันที
“พ่อก็รักก็ติดหนูที่สุด พ่อจะไปนอนกับตาหนู นะลูกนะ”
สนยิ้มอุ้มลูกคลอเคลียกลับเรือนไปกับขุนภักดี

วันต่อมายายอ่อนกำลังต้มยาหม้อ ที่โรงครัว มีกบกับแมวคอยช่วยเหลือ 3 คนไม่รู้ว่าช้อยมาแอบมอง
“ยานี่ทำให้ลมเดินสะดวก เหมาะสำหรับคนท้อง ลูกในท้องจะแข็งแรงไปด้วย”
“ยายไปเอาตำรามาจากไหนรึ” กบถาม
“ต้นตระกูลข้าน่ะสิ .. พูดแล้วจะหาว่าคุยโม้ โคตรเง้าข้านะหมอตำแยมีชื่อนะ”
“อ้อ มิน่ายายจึงเก่งอย่างนี้ แล้วนี่เมื่อไหร่จะใช้ได้ล่ะยาย”
“เคี่ยวไว้สักพัก พวกเอ็งไปรับใช้คุณเนียนกับคุณนายเรียมเถิด แล้วค่อยมารับยาไปให้พวกท่านรับประทาน ข้าจะไปอาบน้ำอาบท่าก่อน”
ทุกคนแยกย้ายกันไป

สนอยู่บนเรือนรับฟังเรื่อแงราวใบหน้าสวยนั้นเครียดเคร่ง ยิ้มโหดเหี้ยมออกมา ขณะพูด
“ยิงนกทีเดียวได้สามตัว”
“หนังสติ๊กอะไรเจ้าคะ ยิงนกได้ทีเดียวสามตัว”
สนด่า “อย่าล้น” แล้วส่งสารหนูให้พลางสั่ง “รีบเอาไปใส่ในหม้อยาของอียายอ่อนเจ้าเล่ห์”
“จะทำกันซึ่งๆ หน้าในบ้านท่านขุนเลยหรือเจ้าคะ”
“แล้วจะทำที่ไหน โอกาสมันมาถึงที่นี่ ใครจะไปสงสัย”
“มีคนโดนยาพิษตายสองคนนะเจ้าคะ” ช้อยท้วง
“ก็ให้ยายอ่อนเจ้าเล่ห์มันรับเคราะห์ เป็นแพะรับบาปไปสิ ว่าวางยาเมียท่านขุนตายท้องกลมทีเดียวสองคน อีแก่นี่เอาไว้นานไม่ได้ดอก” สนบอก
“ถ้าเช่นนั้นไม่ใช่ยิงนกทีเดียวสามตัวแล้วเจ้าค่ะ ยิงห้าตัวตะหาก มีนกอ่อนๆ ในท้องอีกสองตัว แต่ช้อยก็ยังผวา ว่าใครจะมาเห็นช้อยตอนโรยยา ช้อยก็กลัวนะเจ้าคะ” ช้อยออกอาการหวาดผวา เพราะต้องฆ่าทีเดียวถึง 5
“ที่ทำมาตายไปต่อหน้าต่อตาพี่ขุน มีใครเห็นบ้าง จำไว้ว่าถ้าโดนจับได้ เอ็งคือแพะรับบาปแทนข้า ข้าจะบอกว่าเอ็งจัดการโดยลำพัง ข้าไม่รู้ไม่เห็น” สนกำชับ
“คุณสน” ช้อยตกใจ
“เอ็งมีหน้าที่ทำตามเท่านั้น เพราะเอ็งกำลังขี่อยู่บนหลังเสือ”
ช้อยพยักหน้ารับคำท่าทีจ๋อยๆ

ขณะเดียวกันกบแมวเดินเข้ามาหา ทองจันทร์หันไปเห็น
“ไหนเล่ายาหม้ออย่างดีของยายอ่อน นางแมว นางกบ”
“ยายอ่อนแกว่าตัวยายังไม่ออกฤทธิ์ต้องเคี่ยวนาน สรรพคุณจะดีมากเจ้าค่ะ” แมวบอก
กบเสริม “แกว่าให้เคี่ยวต่อไปอีกสักพัก แล้วค่อยไปตักมาให้คุณนายเรียม กับคุณเนียนรับประทานได้ทันทีเจ้าค่ะ”
“แล้วกลับมาทำไมเล่า แมว กบ ทำไมไม่นั่งเฝ้าเอาไว้”
เรียมทำท่าไม่ค่อยสบาย จะลุกไม่ไหว ทองจันทร์ตกใจ
“แม่เรียม”
“คุณเรียมขา เนียนไปตักมาเองค่ะ ให้กบกับแมวอยู่ดูแลคุณเรียมเถิดค่ะ” เนียนอาสา
“ถูกของเนียน แม่ว่าแม่เรียมควรพักผ่อนมากๆ นะ” ทองจันทร์บอก
เนียนเดินออกไป มองคนประคองเรียมที่ดูอ่อนแอเข้าห้องไป

หม้อยาเดือดปุดๆ อยู่บนเตา ช้อยยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ตรงนั้น
“กูขี่หลังเสือ เชื่อคุณสนแสนดุร้าย กูจะลงก็ตาย กูไม่ลงก็ตาย ก็ขอให้มึงสองคนตายกันไปไวๆ ก็แล้วกัน เสือจะได้หยุดให้กูลง”
ช้อยหยิบห่อยาที่ใส่ชายพกขยับออก เนียนมาถึงพอดี
“อ้าวช้อย จะมาเอายาไปให้คุณสนรับประทานด้วยรึ”
“คุณสนเธอมีลูกชายรูปงาม เป็นขวัญใจคุณพ่อคุณย่าแล้ว คุณสนเธอไม่อยากกินยาหม้ออะไรนี่ดอก”
ยายอ่อนเดินออกมาจากด้านในอีกคน
“อ้าวแม่ช้อย คุณสนให้มาเอาอะไรรึ”
“ให้มาดูว่ายายอ่อนปากไม่ดีหรือเปล่าน่ะสิ ระวังจะตายเพราะปาก”
ช้อยขู่อยู่ในที แล้วรีบเดินออกไป ยายอ่อนมองตามแปลกใจ ไม่ไว้ใจเท่าไหร่นัก
“ชั้นมาตักยาไปให้คุณนายเรียมกับตัวเองกินจ้ะยาย กลิ่นหอมน่ากินจริงๆ”
ช้อยที่กำลังเดินออกชะงัก ยิ้มสะใจ
“ได้ที่แล้วแหละ เดี๋ยวยอิชั้นจะไปเอาชามมาก่อนนะเจ้าคะ”
ยายอ่อนเดินไป เนียนมองยากลิ่นหอมน่ากินเนียนยืนมอง เอกเดินเข้ามามองยาในหม้อ
“ยาบำรุงหรือขอรับ คุณเนียน”
“จ้ะ พี่เอก คุณท่านสั่งให้ยายอ่อนแกทำให้เนียนกับคุณเรียมรับประทาน”
“เมื่อกี้เดินสวนกับนางช้อยเห็นมันทำหน้าทำตาร่าเริงราวกับสุขเต็มประดา มันมาว่าอะไรคุณเนียนหรือเปล่า”
“ไม่ได้ว่าดอกจ้ะ”
“นางนี่ไว้ใจไม่ได้ดอก” เอกไม่ไว้ใจช้อยเอาเลย
ยายอ่อนกลับมาพร้อมด้วยถ้วยในมือสองใบ
“มาแล้วเจ้าค่ะ คุณเนียน”
อ่อนเริ่มตักยาใส่ทีละชาม จากนั้นยกชามเดินมาหาเนียน แต่กลับสะดุดอะไรสักอย่างที่พื้น
“ว๊าย” ยายอ่อนร้องลั่น
เนียนตกใจ “ยายอ่อน”
เอกผวาไปรับยายอ่อนไว้ไม่ให้หน้าทิ่มไปในหม้อ ยาในชามหกกระจายลงพื้น จิ้งจกตัวหนึ่ง ผ่านมาเลียน้ำ
จากยาที่หกรดพื้น แล้วก็มีอันชัก
“ดู จิ้งจกนั่น”
เอกชี้ที่จิ้งจก ที่นอนหงายท้องตายสนิท ยายอ่อนร้องหวีด
“ทำไม ทำไม…”
เนียนตกใจมากยายอ่อนแทบเสียสติกลัวตัวสั่น หน้าเครียด
“มีคนใส่ยาพิษลงไปในหม้อยาของยายอ่อน”

สนกับช้อยได้ยินเสียงกรีดร้องของยายอ่อน
“เสียงอีเนียน อีเรียมร้องโหยหวนกำลังจะตายรึ”
“เสียงยายอ่อนต่างหากเจ้าค่ะ แต่มันทำร้องทำไม ช้อยไปแอบดูดีไหมเจ้าคะ” ช้อยสาระแน
“ไม่ต้องไป ทำไม่รู้ไม่ชี้ เดี๋ยวจะมีพิรุธ ถ้ามันตายจริง เดี๋ยวก็โกลาหลทั้งบ้าน”

ช้อยยังไม่วายกังวลชะเง้อแลไปทางนั้น
ฟากยายอ่อนนั่งพนมมือทรุดตัวกลิ้งเกลือกกับพื้น

“อิชั้นไม่ได้วางยาคุณทั้งสองนะเจ้าคะคุณเนียน อิชั้นไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นเช่นนี้ไปได้ อิชั้นสาบาน อิชั้นไม่มีวันคิดชั่วคิดเลวเช่นนี้ดอกค่ะ อิชั้นแก่แล้วไม่อยากตายในตะราง”
“แต่ยายรู้ไหมว่าถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูท่านขุน ตะรางแน่ยายเอ๊ย” เอกบอก
“แต่ชั้นไม่เชื่อดอกจ้ะ ว่ายายจะกล้าถึงเพียงนี้ คนที่ทำเขาเกลียดชั้นเกลียดคุณเรียมมาก”
“ใครเล่า” เอกฉงน
“อิชั้นว่า...อิชั้นพอจะเดาออกนะเจ้าคะ แต่อิชั้นกลัวจะกลายเป็นปลาหมอตายเพราะปาก”
ยายอ่อนตัวสั่นเทา กลัวจนจับจิตจับใจ
“ให้มันเงียบไปตรงนี้เถิดจ้ะ พี่เอก ไม่ว่าจะพูดเช่นไร มันก็ไม่พ้นยายอ่อนต้อง รับผิดแทนคนที่ทำ”
ยายอ่อนตื้นตัน ก้มลงกราบเนียน “แม่เจ้าประคูนทูนหัว เกิดมาเพิ่งเห็นที่โบราณว่าคนใจพระ ก็วันนี้แหละ อีอ่อนคนนี้จะไม่ลืมพระคุณที่ช่วยชีวิตเอาไว้ จะทดแทนให้สาสม”
เอกท้วง “แต่ถ้าคนทำผิดไม่โดนเสียบ้าง หาไม่เช่นนั้นมันจะทำต่อเนื่องไปอีก”
“ใครจะเชื่อพี่เอก เชื่อยายอ่อน หรือแม้แต่เชื่อเนียน ให้เรื่องวันนี้มันตายไปกับเราสามคนเถิดจ้ะ สู้ระวังตัวเองกันเอาไว้ให้ดี ดีกว่าจ้ะ”
“กระผมห่วงคุณเนียนเหลือเกิน พ่อเราคือเพื่อนกัน ลุงน้อมแกเอ่ยปากฝากกระผมดูแลคุณเนียนไว้นะขอรับ”
“ขอบใจมากจ้ะ เนียนจะระวังตัวจ้ะ”
“รอวันอีอ่อนได้เงินซื้อที่นา วันนั้น อีอ่อนจะเปิดปากเปิดโปง แม้แลกกับความตายก็ยอมเพื่อทดแทนพระคุณคุณเนียนที่ให้ชีวิตอีอ่อนในวันนี้”
เนียนหน้าตาหม่นหมอง เอกนิ่งงัน ห่วงเนียน ส่วนยายอ่อนป้ายน้ำตาป้อยๆ

ค่ำนั้นขุนภักดีนั่งเอกเขนกเฮฮาอารมณ์ดีอยู่กับทองจันทร์ เรียม และเนียน หลังทานอาหารมื้อค่ำผ่านไป กบกะแมวนั่งประกบ คอยส่งถ้วยของหวานให้คุณๆ ทาน
“ยายอ่อนแกว่าสุขภาพเด็กดีมากทั้งคู่เลยหรือครับ คุณแม่”
“ใช่จ้ะพ่อเทพ แกกำลังต้มยาหม้อบำรุงเลือดลมมาให้กินกัน” ทองจันทร์ว่า
ระหว่างนั้นสนอุ้มลูกชายมา มีช้อยตามหลัง สองคนมีสีหน้าแปลกใจมาก
สนกระซิบ “นางช้อยดูพวกมันสิ ทำไม...”
ช้อยกระซิบตอบ “อย่าอึ้งเจ้าค่ะ อย่ามีพิรุธเจ้าค่ะ”
สนรีบนั่งลงพลางส่งลูกชายให้ขุนภักดี
“ได้เวลาทีไรร้องไห้หาคุณพ่อทุกที ช่างรู้เวลาเหลือเกินว่าคุณพ่อกลับมาบ้านแล้ว หาคุณพ่อนะลูกนะ”
เท่านั้น ขุนภักดีก็เลิกสนใจคนอื่น นอกจากลูก
“พ่อรูปหล่อของพ่อ”
“ได้ยินช้อยมันว่ายายอ่อนต้มยาหม้อมาให้รับประทาน สนจะมาขอแบ่งบ้าง” สนว่า
“ยายอ่อนแกทำหกหมดค่ะ แกเลยต้มหม้อใหม่” เนียนเอ่ยขึ้น
“ต้มหม้อใหม่” สนตกใจนิดๆ
ระหว่างนั้น ยายอ่อนเดินเข้ามากับเอก ยกหม้อยามาวางตรงหน้าทุกคน ช้อยกับสนมองหน้ากันแปลกใจ
“มาพอดีเลย คุณสนอยากรับประทาน อิชั้นเอาให้คุณสนก่อนเลยเจ้าคะ” ยายอ่อนจงใจแดกดัน
สนกับช้อยสะดุ้งมองหน้ากัน เอกรีบส่งให้สน สนไม่กล้ารับ ทำอึกอักลังเล
ยายอ่อนเหน็บขึ้นอีก “คุณสนคงเกรงว่าอิชั้นจะใส่ยาพิษ จึงลังเล”
ช้อยกับสนมองหน้ากัน เอกทำยิ้มๆ เนียนทำไม่รู้ไม่ชี้
“ยายอ่อนเอ็งพูดจาไม่เอาอ่าว ยาพงยาพิษที่ไหนกัน” ทองจันทร์บ่น
“อิชั้นต้องระวังเจ้าค่ะ หาไม่เกิดอะไรไม่ดีขึ้นมา อิชั้นจะติดตะรางตอนแก่”
ว่าแล้วยายอ่อนก็ยกถ้วยหนึ่งขึ้นดื่มอั่กๆ ต่อหน้าทุกคน สนกับช้อยมองหน้ากัน
“เชิญคุณนายเรียม กับคุณเนียนขอรับ นี่ขอรับของคุณสน”
“ข้าเปลี่ยนใจไม่ดื่มแล้ว” สนบอก
เนียนกับเรียมดื่มเรียบร้อยไม่มีปัญหา สนหงุดหงิดจ้องช้อยจะเอาเรื่อง

ครั้นพอสนกลับมาถึงเรือน ก็อาละวาดจิกหัวช้อยทุบตี ตบหน้า ช้อยปัดป้องร้องโอดโอย
“กรรมของช้อยอีกแล้ว ช้อยผิดอีกแล้ว”
“เออมึงผิด มึงพลาดอีกแล้ว มึงทำให้มันรู้ว่ามีสารหนูในยาหม้อจนได้ สายตาไอ้เอกกับอีอ่อนนางเนียนก็รู้ว่ามันสงสัยกูกับมึง”
“สงสัยแล้วทำไมมันไม่พูดออกมาเจ้าคะ”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 5 วันที่ 31 มี.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager