อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 4/3 วันที่ 30 มี.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 4/3 วันที่ 30 มี.ค. 56

ไม่นานต่อมา สถานที่สาบานของเหิมจัดเตรียมเรียบร้อย ตรงมุมหนึ่งหน้าโรงพัก เหิมนั่งอยู่ตรงหน้าองค์พระพุทธรูป มีตำรวจคุมเชิงโดยรอบๆ เหิมพึมพำเบาๆ
“กูจะพูดความจริงให้ครบถ้วน อีสน อีช้อย มึงหลอกกู มึงส่งไอ้หนักผัวเจ็ดวันของมึงมาเล่นงานกู มึงแจ้งตำรวจมาจับกู มึงหักหลังกู กูจะประจานมึงสองคน โดยเฉพาะอีสน มึงเคยโดนกูข่มขืนมาแล้วพ่อมึงจับใส่ตะกร้าร่อนน้ำมาตบตาท่านขุน”
เหิมรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา กระหายน้ำจนเหงื่อไหลไคลย้อยไปหมด
ผู้คนจับกลุ่มมองมาที่เหิมซุบซิบกันไปมา

สนกับช้อยแอบมองจดสายตาจับจ้องที่เหิม สองนายบ่าวแต่งตัวกลมกลืนทำตัวเป็นชาวบ้าน เอาผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้เห็นแต่ดวงตาแอบมองห่างออกมา
“ตอนนี้แหละนางช้อย รีบไป อย่าให้มีพิรุธทีเดียว” สนสั่ง


“เจ้าค่ะ คุณสน รับรองว่าครานี้ ไอ้เหิมประจานใครไม่ได้อีกต่อไป”
ช้อยขยับผ้าขาวม้ามาคลุมปิดไว้ครึ่งหน้า

ช้อยเดินนวยนาดถือกระบอกน้ำ ตรงไปยังตำรวจคนหนึ่งที่อยู่ใกล้เหิมที่สุด
“พี่ชาย จ๋า...”
“มีอะไรรึ”
ช้อยใช้ชื่อเนียนมาอ้าง “คุณนายเนียนท่านมีเมตตา ท่านเวทนาไอ้เหิม เอาน้ำตาลสดมาให้มันดื่มให้ชื่นใจก่อนทำพิธีสาบาน”
ตำรวจแปลกใจ “ท่านขุนอนุญาตแล้วรึ”
“ก็ลองไปเอ่ยปากถามดูเองรึ ถ้าไม่กลัวโดนตำหนิ ว่าขวางความเมตตาคุณนายของท่าน” ช้อยพูดขึงขังน่าเชื่อถือสมบทบาท
ตำรวจพยักหน้า รับกระบอกน้ำตาลสดมาจากช้อย
“ส่งมา”
“คุณเนียนให้บอกว่าท่านฝากมา มันจะได้ระลึกพระคุณท่านก่อนตาย”
ตำรวจงง “ตายรึ”
“ไฮ้ ไม่ใช่ ชั้นหมายถึงตายในคุก”

ว่าแล้วช้อยก็วิ่งตื๊อกลับไปที่สนแอบอยู่ สองบ่าวนายยืนลับๆ ล่อๆ ใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าเช่นเดิม
เวลาต่อมา มีเสียงระฆังบอกว่าเป็นเวลาบ่ายโมง ขุนภักดีเดินออกมาจากในโรงพักกับเนียน เอก และตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง

“แม้แต่ไอ้เหิมคนถ่อย ได้น้ำใจของเนียนไปใจมันยังอ่อนยวบ ยอมสารภาพโดยง่ายดาย” ขุนภักดีชื่นชมเนียน
“พี่ขุนให้เกียรติเนียนมากไปแล้วค่ะ คุณสนก็มีส่วนทำให้เขาอยากสาบานเพื่อแสดงความจริงใจนะคะ”
เอกมองไปเหิมนั่งอยู่ แลเห็นบางอย่าง “เอ๊ะ นั่นใครเอาอะไรไปให้ไอ้เหิมมันดื่มน่ะขอรับ”
ทุกคนมองไปตามเอก
“ไปห้ามมันไว้ก่อน” ขุนภักดีรีบบอกตำรวจลูกน้อง

ตำรวจเดินมาถึงเหิมแล้ว
“นายเหิม คุณนายเนียนท่านเมตตา เอาน้ำตาลสดมาให้ดื่มดับกระหาย”
เหิมไม่วางใจ “คุณนายเนียนแน่รึ”
“แน่สิ” ตำรวจยืนยันหนักแน่น
“ไม่ใช่คุณนายสนดอกรึ” เหิมถามย้ำ
“ไม่ใช่ดอก ถ้าจะดื่มจะยกป้อนให้ ถ้าไม่กระหายก็ไม่เป็นไร”
“ข้าจะดื่มน้ำใจจากคุณนายเนียน
ตำรวจยกกระบอกน้ำตาลสด ไปจ่อที่ปาก เหิมดื่มอั้กๆ กลืนลงคอไป เพราะกระหายน้ำมาก
ขณะดื่มไปเกือบหมดมีเสียงตะโกนมา
“ช้าก่อน
แต่ไม่ทันแล้ว เหิมดื่มไปเกือบหมด

สนกับช้อยสาสมใจ สองคนยิ้มพยักหน้าให้กัน ที่แผนการลุล่วง
“เก่งมาก อีช้อย”
“เก่งมากคุณสนตะหากเจ้าค่ะ ไอ้เหิมดื่มน้ำตาลสดผสมยาเบื่อหนู เข้าไปเต็มที่ เรากลับกันเถิดเจ้าค่ะ”
“ไม่กลับ คนอย่างคุณสน ใจกล้าชอบดูหน้าศัตรูตอนมันกำลังจะตายไป อีช้อย ไปดูไอ้เหิมหมดลมตรงหน้าเรา”
สนดึงช้อยไป ช้อยตกใจ
“คุณสน”
สนย้ำคำ “ไปสบตามัน ให้มันรู้ว่าเราฆ่าปิดปากมัน ให้มันสำนึกก่อนตายกว่าผลของการบังอาจต่อกรกับคุณนายสนเป็นเช่นไร”

พิษยาเริ่มออกฤทธิ์ เหิมพยายามยกมือที่โดนมัดมาเหมือนจะจับคอ อาการออกหน้าตาบิดเบี้ยว
“โอ๊ย กูโดนวางยา แสบ โอยร้อน”
ขุนภักดี เนียน และเอก รวมทั้งตำรวจพากันไปรุมมอง ชาวบ้านตกใจตื่นเต้นไปตามๆ กัน
“แก้มัดมันเดี๋ยวนี้ เอาน้ำมาให้มันดื่มให้มากที่สุด ไวไว”
ขุนภักดีสั่งเสียงดังลั่น พลางปราดไปหาเหิม ประคองเอาไว้ ตำรวจมาแก้มัดมือ
“ไอ้เหิมทำใจดีๆ ไว้” ท่านขุนใจคอไม่ดี
เนียนออกอาการตกใจมาก
“ทำไมเป็นเช่นนี้ ไปได้ โธ่ นายเหิม”
สนกับช้อยมาถึงแล้วเช่นกัน ยืนเยื้องอยู่ข้างหลังเนียนไป แต่ก็เห็นชัดเจน เพียงปิดหน้าเอาไว้ มีผู้หญิงชาวบ้านอีกหลายคนที่ปิดหน้าเช่นนั้น เพราะกลัวหน้าดำ
เหิมพยายามจะพูดอีก ใจจะขาดอยู่รอมร่อ “กระผม ผม สาบานไม่ทันแล้ว ท่า..น”
“บอกชื่อคนจ้างเอ็งมา”
เหิมพยายามจะพูด ตากลอกไปทั่วๆ แล้วไปหยุดที่เนียน เหิม ยกมืออันสั่นเทาชี้ไปทางเนียน ทุกคนหันไปมองทางเนียน
โดยไม่รู้ว่าเหิมมองเลยผ่านหลังเนียนไป สบตากับสนจังๆ สนสู้สายตาเหิม สมน้ำหน้า รู้กันเอง
ช้อยโพล่งขึ้นมา “มันชี้คุณนายเนียน”
“เอ็งเอาอะไรมาพูด” ขุนภักดีฉุน
ทุกคนต่างตกใจ แต่ไม่รู้ว่าคนพูดคือช้อย
เหิมพยายามกลั้นใจในเฮือกสุดท้าย “ไม่ ใช่ มัน มัน ข้าง...หล...”
เหิมชี้ให้เลยเนียนไป ขุนภักดีมองตาม สนกับช้อยตกใจ
เหิมอ้าปากจะบอกชื่อ “อี...”
สนรีบกระซิบบอกช้อย “ไอ้คนถ่อย มันชี้เรา รีบไปอีช้อย”
สนกับช้อยรีบทำตัวกลืนหายไปกับผู้คน
“ตามไปควบคุมผู้หญิงที่ไอ้เหิมชี้ข้างหลังคุณเนียน มาสอบสวน” ขุนภักดีสั่งการ
ตำรวจปราดไปล้อมไว้ ทุกคนตกใจยืนนิ่งแต่สนกับช้อยรอดไปก่อน
เหิมขาดใจตาย ตาที่เบิกโพลงยังมองมือตัวเอง และมือค่อยๆ ตกลงมา

สนกับช้อย เดินลิ่ว หลบรอดออกมาตรงมุมหนึ่ง รีบดึงผ้าขาวม้าออกจากหัว ยัดใส่พุ่มไม้ข้างๆ
“สมน้ำหน้า ไอ้เหิม แม้จะตายมึงยังกล้าดีกับกู ไปถ่มน้ำลายใส่หน้ามันครั้งสุดท้ายกันเถิดช้อย” สนยังไม่สะใจ
“คุณสนขาช้อยกลัวท่านขุนจับได้ นั่นตำรวจมาตามหาเราแล้วเจ้าค่ะ รีบไปเจ้าค่ะ”
“ไม่ไปให้เกิดพิรุธ ใครจะไปคิดว่าคนสั่งฆ่าปิดปากไอ้เหิมจะย้อนรอยกลับมาดูหน้ามัน”
สนก้าวเดินออกไปอย่างองอาจ ตำรวจเดินมาที่สองคน ช้อยมือสั่นไปหมด
“คุณนายสนขอรับ”
“มีอะไรรึ” สนทำทีเป็นสนใจ
“ท่านขุนให้มาตามหาผู้หญิงโพกผ้าข้าวม้าสีแดง ที่ไอ้เหิมชี้ไปสอบสวนครับ กระผมเห็นมันมาทางนี้” ตำรวจสอบถาม
สนหัวเราะร่วน
“ข้าก็เห็น เห็นมันวิ่งหลบไปทางโน้น รีบตามไปสิ”
สนชี้ไปทางหนึ่ง ตำรวจขอบคุณสนแล้วตามไปทันที ช้อยเอามือกุมอก
“ใจนิ่งจริงๆ หัวใจช้อยหล่นไปอยู่ที่แม่ตีนแล้วเจ้าค่ะ คุณสน”
“แต่หัวใจข้าพองโตคับอก”
สนบอกแล้วผุดยิ้มเหี้ยมโหดออกมา

ขุนภักดีหัวเสียมากกับการโดนวางยาของเหิมต่อหน้าต่อตา
“ใครสั่งให้เอาน้ำตาลสดมาให้มันกิน”
“ผู้หญิงโพกผ้าขาวม้าที่มันชี้นั่นแหละขอรับ บอกว่า คุณนายเนียนสั่งให้เอามาให้มันดื่ม มันยังถามซ้ำว่าคุณนายเนียนหรือคุณนายสนขอรับ” ตำรวจที่เฝ้าเหิมรายงาน
“นางคนชั่ว” ขุนภักดีโกรธจัด
ช้อยกับสนเดินนวยนาดหน้าแฉล้มแย้มยิ้มเข้ามา แสร้งทำเป็นถาม
“ไอ้เหิม อ้าว ตายซะแล้วรึนั่น โถ ช่างน่าสมเพช มันเป็นอะไรตายเจ้าคะ พี่ขุน”
ท่านขุน หัวเสียมาก “มันโดนวางยาพิษฆ่าปิดปากตาย”
“แหม...สนมัวแต่กลับบ้านตามที่พี่ขุนสั่ง เสียดายนะเจ้าคะ พี่ขุนมันไม่ทันได้สาบาน”
เอกถามขุนภักดีเบาๆ ได้ยินกันเองสองคน “คุณสนเพิ่งมาก็รู้เลยหรือครับ ว่ามันไม่ทันได้สาบาน”
“เนียนจ้ะ กลับบ้านก่อน พี่ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย” ขุนภักดีบอกกับเนียน
“กลับกับสนก็ได้เจ้าค่ะ ไปเนียน”
เนียนยืนนิ่ง เอกนึกรู้ “ไปกับกระผมเถิดขอรับ คุณเนียน”
เนียนจึงไปกับเอก สนกับช้อยเดินไปดุเหิมใกล้ๆ ถุยน้ำลายใส่หัว
“ถุย” สนคำรามในคอเบาๆ “ไปนรกซะเถิดไอ้คนถ่อย”
แทนเดินมาเสนอหน้าสะกิดช้อย
“นางช้อย เอ็งกับคุณสน ใส่ซิ่นเหมือนอีสาวที่ไอ้เหิมชี้เลยแหละ”
สองคนสะดุ้ง มองซิ่นตัวเอง
“อยากโดนน้ำลายอีช้อยลอยใส่หน้าไหมไอ้แทน” สนด่า
แทนรีบถอยฉากออกมาเร็วรี่
“ออกไปให้พ้นจากบริเวณนี้ทุกคน” ขุนภักดีสั่งเสียงดัง
ทุกคนจึงออกไป ท่านขุนมองไปที่เหิมพลางส่ายหน้า
“ข้าอโหสิให้เอ็งทั้งหมดไอ้เหิม แต่ข้าไม่อโหสิให้คนจ้างวานเอ็งดอก ตำรวจ ปิดตาให้ไอ้เหิมมันตายตาหลับซะ”
ขุนภักดีครุ่นคิดเรื่องนี้ไม่ตก

หลังจากนั้นไม่นาน คนรับใช้ในบ้านภักดีภูบาลต่างพากันนั่งซุบซิบอึงมี่ กบกับแมวตั้งตัวเป็นหัวโจก
“ชักตาตั้งค้างยังงี้ใช่ไหม นางกบ” แมวสาธยายทำท่าประกอบ “กระแด่วกระแด่ว”
กบท้วง “ไม่ใช่ดอก นอนหงายเอาเท้าชี้ฟ้าตะกุยไปตะกายมาตะหาก”
“อย่างนั้นเอ็งก็ทำให้ดูเป็นตัวอย่างสิ นางคนช่างรู้”
แมวทำท่าจะทำ แต่นึกได้ ตีแขนกบดังเผียะ
“นางกบบ้า จะมาหลอกให้ข้าโป๊ให้ดู”
ทุกคนพากันหัวเราะร่วน ทองจันทร์ชะโงกหน้ามามอง เอ็ดตะโรเอา
“เกาะกันเป็นผึ้ง สุมหัวหัวเราะต่อกระซิกระริกระรี้ เป็นปลากระดี่ได้น้ำกันเข้าไป งานการมีทำไม่แยกย้ายกันไปทำ มีเรื่องอะไรน่าหัวร่อหนักหนา”
“เรื่องไอ้เหิมมันโดนวางยาเบื่อตายเหมือนหมาเจ้าค่ะ” กบรายงาน
“ไฮ้ ใครวางยาเบื่อมัน ก็มันโดนจับเข้าตะรางไปแล้ว”
“ทั้งวางยาเบื่อทั้งโดนจับนั่นแหละเจ้าค่ะ นัยว่าเป็นคนบงการฆ่า วางยาปิดปากมัน ก่อนมันสาบานให้การเปิดโปงกับท่านขุนเจ้าค่ะ” แมวเสริม
“คนมันตาย แล้วมันน่าให้พวกเอ็งมาตั้งวงหัวร่อกันตรงไหน” ทองจันทร์ดุเอา
“ตรงที่มันเป็นไอ้เหิมจอมฉุดคร่าสิเจ้าค่ะ ประวัติมันหนักไปทางฉุดสาวเอาไปทำเมียเจ้าค่ะ” กบบอกอีก
“ตายซะได้ก็ดี รึพวกเอ็งว่า น่าจะโดนมันฉุดซะก่อนค่อยให้มันตาย ห๊ะ ห๊ะ”
ทั้งหมดมองหน้าไม่กล้าหัวเราะ ได้แต่ส่งสียงหึๆ ในลำคอ

ระหว่างนั้น ขุนภักดีเดินหน้าเครียดเข้ามา ทุกคนแตกฮือเหมือนผึ้งแตกรัง
ขุนภักดีกับคุณนายทองจันทร์เดินขึ้นเรือนมาด้วยกัน

“คุณแม่ครับ ผมไม่ชอบใจเหตุร้ายที่เกิดขึ้นนี่เลย มีความรู้สึกเหมือน มันมาเกี่ยวพันกับบ้านเราอย่างบอกไม่ถูก” ขุนภักดีปรารภ
“แม่ก็ทะแม่งๆ บอกไม่ถูกอยู่ดอกนะ จับตาดูคนของเราให้ดี อย่าให้มีเหตุไม่งามเกิดขึ้นที่นี่”
“ผมประหลาดใจ จู่ๆ มีนางผู้หญิงโพกผ้าขาวม้าคลุมหน้าเอาน้ำตาลสดไปปดตำรวจที่เฝ้าอยู่ว่าเนียนฝากไปให้ไอ้เหิมกิน ที่แท้ก็ยาพิษ”
“ผู้หญิงรึ มีผู้หญิงคนไหนที่ริษยาเกลียดชังเนียนบ้าง” ทองจันทร์ว่า
“ผมนึกไม่ออก”
“แม่สนคนนึงละ แต่แม่ไม่คิดว่ามันจะชั่วถึงขั้นนั้น”
“รึว่าเนียนเขาจะมีศัตรูเก่าจากบ้านแพน เช่นคุณนายใจอีกา ที่เอานาไปจำนอง” ขุนภักดีคิดเรื่อยเปื่อย
“วุ๊ย มันได้เงินคืนไปแล้วนี่นา เอาเป็นว่ามีคนปองร้ายเนียน ต้องระวัง” ผู้เป็นแม่สรุป
“ครับ ผมจะระวัง เนียนเล่าครับ”
เรียมออกมาจากห้องพอดี
“เห็นว่าไม่สบาย คงเจอแดดร้อนตอนเที่ยง กับตกใจภาพนายเหิมชักตาตั้งตายตรงหน้า เป็นเรียม เรียมก็ตกใจค่ะ ไม่อยากให้ใครตาย ไม่ว่าจะโจรหรือไม่ เอ้อ...พี่ขุนไปดูเนียนสิคะ” เรียมบอก
“วันนี้ พี่เสียเวลากับเรื่องบ้าๆนี่มานานมากแล้ว พี่ขอไปดูอาการเนียนแล้วจะกลับมาหาเรียมนะจ๊ะ”
“พี่เทพอยู่ดูแลเนียนเถิดค่ะ”
ขุนภักดีเดินตัวปลิวไปทางห้องเนียนก่อนแล้ว ทองจันทร์เอ็ดเอา
“แม่เรียมนี่ละก้อ มีปากเอาไว้พูดดีๆ กับสวดมนต์แท้ๆ อย่างที่ไอ้เอกมันแอบนินทาเอา อย่าได้ไปพูดให้ท่าให้ท้ายแบบนี้ ถ้าเป็นแม่สนทีเดียวมันได้ใจถึงขั้นจับพ่อเทพผูกไว้กับขาเตียงเลยนะ”
เรียมไม่โกรธ ยิ้มขำๆ
“เชื่อสิคะ คุณแม่ เนียนไม่ยอมให้พี่เทพอยู่ด้วยดอกค่ะ”
“อุเหม่...รู้ใจรอมชอมกันดีทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ แม่สนคิดได้หยั่งงี้อีกคนบ้านภักดีภูบาลสงบแน่”
คุณนายทองจันทร์มีความสุขที่สองสะใภ้ปรองดองกันเป็นอย่างดี

ขณะที่เนียนเอนตัวลงบนเตียง รู้สึกเพลียๆ ขุนภักดีเข้ามานั่งแตะหลังมือบนหน้าผาก
“ตัวยังรุมอยู่ กบ เอ็งออกไป ข้าจะดูแลคุณเนียนเอง”
“เจ้าค่ะ แต่...” กบตั้งท่าจะท้วง
“ออกไปสิ” ขุนภักดีไล่
“พี่ขุนขา อย่าทำเช่นนี้สิคะ ไม่ทันข้ามคืนเนียนก็หายแล้ว เนียนเกรงใจคุณเรียมมาก คุณเรียมเธอแสนดี ไม่เคยปริปาก
“เธออนุญาตพี่แล้ว”
“แต่พี่ขุนคือผู้รักษากฎและความยุติธรรม เหตุไฉนจะทำลายลงเองเล่าคะ ได้โปรดเถิดค่ะ..แค่มาดูอาการเรียม ก็เป็นพระคุณมากแล้วค่ะ”
“พี่น้องพูดจาเหมือนกันเปี๊ยบจริงๆ เอาละ พี่ยกธงขาวยอมแพ้”
“ขอบพระคุณค่ะ เอ้อ พี่ขุนแวะไปหาคุณสนเธอบ้างสิคะ”
“เนียนจ๋า คิดถึงตัวเองบ้างสิ อะไร นึกถึงแต่คนอื่น”
“แหม... เอ้อ... พี่ขุนคะ เรื่องนายเหิมเป็นยังไงคะ”
“ตามหาตัวนางคนชั่วนั่นไม่ทันมันหนีรอดไปได้ เหลือไว้แต่ผ้าขาวม้าสองผืน”
กบแอบอุทาน “สองผืนหมายความว่า มีสองคน”
“แน่นอน จะจับมั่วซั่วก็ไม่ได้ ไอ้ผ้าขาวม้าอีหรอบนั้นดาษดื่นเหมือนกันไปหมด”
“จับผ้าขาวม้าใครดมก็ไม่ได้” กบพูดกับตัวเองไม่ได้สอดให้ได้ยิน
“คนชั่วยังลอยนวล เนียนระวังตัวหน่อย มันพยายามใส่ร้ายเนียน พี่ไม่เข้าใจจริงๆ กบเอ็งดูแลคุณเนียนดีๆ ล่ะ”
“เจ้าค่ะ”
กบรู้งานหันตัวไปเพื่อเปิดโอกาสให้ผัวเมีย ขุนภักดีหอมแก้มเนียนแล้วยิ้มกริ่มออกไป
เนียนเขินกลัวกบเห็น กบหันกลับมา
“ไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรเลยเจ้าค่ะ คุณเนียน”
เนียนยิ่งเขินหันหน้าหนียิ้ม
“กบว่าไม่ช้าไม่นานคุณเนียนกับคุณเรียมมีน้องแน่ๆ”
“ไฮ้ เหลวไหลน่ากบ เป็นสาวเป็นแส้อย่ามาทำท่ารู้ดี”
กบหัวเราะเนียนก็ยิ้มมีความสุขไปด้วย

ทางฝั่งสนยังนอนไม่หลับครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้น ช้อยนวดมือนวดเท้าให้สน สัปหงกไปด้วย
“ช้อย”
“เจ้าขา”
“ในที่สุด เราก็ลอยนวล”
“ลอยที่คลองไหนเจ้าคะ”
“นางช้อย เอ็งไม่ฟังข้าพูด”
“ฟังเจ้าค่ะ แต่มันเลยสองยามจะล่วงเข้ายามหนึ่งแล้วนี่เจ้าคะ ไอ้เหิมไปนรกแล้ว คุณสนจะมานั่งคิดอะไรอีก”
“ข้าต้องปรับกระบวนท่าในการรบใหม่”
“คุณสนจะออกศึกบางระจันหรือเจ้าคะ”
“อีช้อย อีช้อยๆๆๆ ตื่นๆๆๆๆ”
สนเขย่าตัวช้อยไปมาให้ช้อยตื่น ไม่ได้โมโห
“ตื่นเต็มตาแล้วเจ้าค่ะ คุณสนว่ากระไรเจ้าคะ”
“ข้าจะสร้างสันติสุขในบ้านภักดีภูบาล” สนบอก
“สันติสุขสันติดิบอะไรคะ พูดซ้ำอีกทีสิเจ้าคะ” ช้อยเอามือแคะหูตัวเอง
“ต่อไปนี้บ้านภักดี ภูบาลจะมีแต่ความสุข ข้าจะอดทน ข้าจะเงียบข้าจะรอคอยโอกาสให้พี่ขุนมาหาข้าสักครั้ง แล้วข้าก็จะมีลูกชายรูปงามสืบทอดตระกูลให้พี่ขุน แล้วข้าจะเป็นใหญ่ในภักดี ภูบาล”
สนทำท่าฝันหวาน ช้อยหยุดบีบเท้าเอาหน้าแนบหน้าแข้งสนร่วมฝันหวานด้วยกัน

วันคืนล่วงผ่าน กาลเวลาผ่านไป
ขุนภักดียิ้มแย้มชื่นมื่นอยู่กับเนียนสลับกับเรียม วันหนึ่งขุนภักดีโอบกอดเรียมคลอเคลียกอดเล็กหอมน้อย วันต่อมาท่านขุนจูงมือเนียน เดินเล่นในสวน กอดหอมเนียน ขณะที่สนนั่งหง่าวชะเง้อคอยที่ชานเรือน
ขุนภักดีอยู่ในห้องนอนกับเรียม โอบกอดแล้วโน้มตัวลงบนเตียง แลเห็นนกคู่กันเกาะกิ่งไม้ นอกหน้าต่าง
อีกวันหนึ่งท่านขุนอุ้มเนียนวางลงบนเตียงแล้วก้มลงเชยชมกอดหอม ดอกไม้ในสวนเบ่งบานงดงาม
ส่วนสนอยู่คนเดียวในห้องนอน นั่งกอดเข่ารอบนฟูก และเริ่มคลั่ง ฉีกหมอนที่นอนนุ่นฟุ้งกระจาย
จู่ๆ สนก็เอามือกุมหัวเหมือนเวียนหัว เซไปนั่งอาการกุมหัวสะบัดไปมา ทุกสิ่งรอบตัวสนเหมือนหมุนได้

วันเวลาล่วงเลยไปอีก ทุกชีวิตในบ้านภักดีภูบาลต่างดำเนินไปตามครรลองแห่งตน

อยู่มาวันหนึ่งทั้งหมดกินอาหารว่างด้วยกัน เป็นขนมไทยๆ บรรยากาศสดชื่นเฮฮา
“ฝรั่งเขาต้องกินอาหารว่างตอนบ่ายกัน” ขุนภักดีปรารภ
“วุ๊ย พ่อเทพ ฝรั่งฝะเหริ่งอะไรกัน คนไทยเรากินมาตั้งนานโขแล้ว” ทองจันทร์ท้วง
“ว่าแต่ฝรั่งเขากินอะไรเป็นอาหารว่างคะพี่เทพ” เรียมบอก
“ก็ชาหรือกาแฟกับขนมเช่นบิสกิต หรือคุกกี้ ไพน์”
“ของเราเนียนเขาทำเอง สาคูไส้หมูแม่ชิมแล้วอร่อยจริงๆ”
“อะไร อะไรของเนียนก้อร่อยทั้งนั้น”
มีเสียงแอบหัวเราะที่พยายามกลั้นไว้ของแมวกับกบ ทองจันทร์หันไปมองตาเขียว
“นางปลาหมอ ไปกินกัญชาที่ไหนมา พูดอะไรก็จ้องจะหัวเราะ”
แมวกับกบเงียบกริบ
“เอ้อ พี่ขุนคะ เนียนผ่านเรือนคุณสน เห็นเธอดูซูบๆ หน้าก็เซียวๆ” เนียนว่า
“เนียนเขาจะบอกว่า พี่ขุนควรแวะไปดูแลแม่สนสักหน่อยน่ะค่ะ” เรียมบอก
ขุนภักดียิ้มพยักหน้า
“สนมาระรานหรือล่วงเกินเนียนอีกรึเปล่า”
เนียนส่ายหน้า

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 4/3 วันที่ 30 มี.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager