อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 5/2 วันที่ 1 เม.ย. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 5/2 วันที่ 1 เม.ย. 56

“เออมึงผิด มึงพลาดอีกแล้ว มึงทำให้มันรู้ว่ามีสารหนูในยาหม้อจนได้ สายตาไอ้เอกกับอีอ่อนนางเนียนก็รู้ว่ามันสงสัยกูกับมึง”
“สงสัยแล้วทำไมมันไม่พูดออกมาเจ้าคะ”
“ไม่พูดนั่นแหละยิ่งน่ากลัว เพราะมันรู้ตัว มันยิ่งระวังใหญ่ อีเนียนมันน้ำนิ่งไหลลึก”
“โอ๊ย เจ็บเจ้าค่ะ ช้อยพยายามทำดีที่สุดแล้วนะเจ้าคะ แต่ช้อยบอกแล้วว่ามันเสี่ยงคุณสนใจร้อนไม่ฟังช้อย แต่ถ้าความแตก อีแก่นั่น มันก็ผิดเต็มประตู”

“ทำไมมันไม่พูดนะ” สนคาใจไม่หาย
ช้อยพอเดาออก “อีเนียนมันคงสงสารอีแก่ มันจะเอาไว้เป็นพวก ส่วนไอ้เอกมันร้ายที่สุด มันถือว่ามันคือคนสนิทของท่านขุน ท่านขุนรักมันมาก มันไม่กลัวเราเลยเจ้าค่ะ ไอ้นี่มันคอยปกป้องอีเนียน”
สนมีท่าทีอ่อนลง นั่งหอบ
“เมื่อไหร่นะโอกาสและเวลาของข้าจะมาถึงสักที จับตาดูอีเนียนไว้ ติดตามมันทุกฝีก้าว ฆ่าได้เป็นฆ่า”

ถึงคืนวันแรมสิบห้าค่ำ เดือนมืด ท้องฟ้ามืดมิด ทั่วบริเวณพื้นบ้านมืดสนิท เนียนยืนมองไปนอกหน้าต่าง ครุ่นคิดถึงคืนเดือนมืดเช่นนี้ในอดีต

คืนนั้นสองพี่น้อง เนียนและหนักที่ยังเป็นเด็ก พากันออกไปจับกบในทุ่งนา หนักถือไฟฉายอันหนึ่ง
“เนียนนั่งรอพี่ตรงนี้ พอพี่ฉายไฟแว่บๆ สามที เนียนวิ่งมาช่วยพี่จับกบตรงที่พี่ฉายไฟนะเนียน”
“จ้ะ พี่หนัก”



เนียนลงนั่งรอพี่ชาย เงียบๆ

เนียนยืนนึกถึงความหลังของตัวกับพี่ชายในวัยเด็กอยู่เพลิน จู่ๆ มีแสงไฟฉายกระพริบสามทีจากท่าน้ำ
“ไฟฉายแว่บๆ สามที”
เนียนดูตื่นเต้นมาก

บริเวณริมท่าน้ำ ตรงที่มีต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น แลเห็นชายผู้หนึ่ง ใส่หมวกหลุบปิดบังใบหน้า กำลังผูกเรือเล็กๆ ไว้กับต้นไม้

เนียนมองซ้ายมองขวา พึมพำเอ่ยแต่ชื่อแดงน้อย
“แม่ทำครั้งนี้เพื่อแดงน้อยของแม่ แดงน้อยของแม่ พี่ขุนเจ้าขาเนียนขอโทษที่ต้องทำเพื่อลูก”
เนียนเดินร้องไห้ไปด้วยตลอดทาง โดยไม่รู้ว่าช้อยบ่าวใจทรามแอบมองอยู่
“อีเนียนมึงเดินร้องไห้ไปไหนของมึง”

เนียนเดินหายไปทางท่าน้ำ ช้อยวิ่งตื้อกลับไปที่เรือนสนทันที
หนักไต่ขึ้นมาที่ท่าน้ำมองหาน้องสาว ยินเสียงเนียนเรียกเบาๆ ดังแว่วมา

“พี่หนัก ทางนี้จ้ะ”
หนักปราดไปตามเสียง
“เนียน”
สองพี่น้องจับมือกัน พลางสวมกอดกันแน่น
“พี่หนักจ๋า”
“เนียนน้องรัก”

สองคนแอบมองเห็นหน้าหนักรำไรไม่ชัดนัก แต่ได้ยินเนียนเรียกหนักว่าพี่ และหนักเรียกเนียนน้อง
“อีเนียนมารอไอ้เสือหนัก” สนบอก
“ไอ้เสือหนักเรียกมันว่าน้อง” ช้อยว่า
สองคนตาเหลือก ตกใจมาก “มันเป็นพี่น้องกัน”

ส่วนสองคนพี่น้องยังคงพูดคุยกันต่อ
“เนียนท้องกี่เดือนแล้ว”
“สี่จ้ะ”
“ดูแลตัวเองดีๆ นะเนียน”
“ช่างเถิดพี่หนัก เอาไว้พูดทีหลัง พี่เอาแหวนนี่ไปขายเอาเงินมารักษาแดงน้อยก่อน”
“พี่ไม่อยากทำเช่นนี้เลย ถ้าท่านขุนถามถึงแหวนเนียนจะทำอย่างไร”
“เนียนคิดไม่ออก ตอนนี้เนียนคิดอย่างเดียวเท่านั้น ลูกของเนียนต้องมีเงินรักษาตัว ชีวิตเนียนจะพังพินาศอย่างไรก็ช่าง ก็ให้ชีวิตลูกของเนียนปลอดภัย พี่รีบกลับไปไวๆเถิด ก่อนที่จะมีใครเห็นเราสองคน แถมพี่ยังมีคดีติดตัว ถ้าพี่เอาตัวไม่รอดไปอีกคนแดงน้อยจะแย่นะจ๊ะ”
“ขอบใจมากน้องรักของพี่ พี่จะมาส่งข่าวหลาน คืนแรมสิบห้าค่ำหน้า”
หนักนัดหมายแล้วผละไป

สองบ่าวนายจิตใจหยาบช้าดีใจกันมากที่ได้รู้ความลับของเนียน
“อีเนียนมีลูก มีผัวแล้ว พ่อมันจับใส่ตะกร้าล้างน้ำมาหลอกพี่ขุนจริงๆ อย่างที่เราเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าเอาไว้”
“ถ้าไอ้หนักคือพี่มัน แล้วใครคือผัวมันน้อ...”
“เอ็งก็กระโจนน้ำลงไปถามไอ้หนักมันสิ อีนี่ถามโง่แท้ๆ”
สนผลักช้อยจะลงน้ำ ช้อยฝืนไว้หน้าแหยๆ

ท่ามกลางความมืดสลัว เนียนยืนมองพี่ชายพายเรือจากไปจนลับสายตา ป้ายน้ำตา ที่ไหลไม่หยุดหย่อน

ฟากสองคนกำลังวางแผนเล่นงานเนียน
“โชคดีแท้ๆ ที่อีเนียนพลาดให้เราเห็น ขอบใจเอ็งมากช้อย”
“ทีนี้ละก้อ ชีวิตอีเนียนอยู่ใต้ฝ่าเท้าอีสนแน่ๆ”
“อ้าว อีช้อย มึงเรียกใครอี” สนจ้องหน้าช้อย
“ผีมันผลักปากช้อยให้พูดเพลินไปหน่อย ช้อยขออภัยเจ้าค่ะ”
“ไอ้หนักมันจะกลับมาส่งข่าวเรื่องลูกอีเนียนเจ็บหนัก ทีนี้แหละ อีเนียนมึงเสร็จกูแน่”
“เสร็จอย่างไรหรือเจ้าคะ”
“ตายทั้งเป็น ตกนรกทั้งลืมตาตื่น หันซ้ายก็นรก หันขวาก็นรก”
สนยิ้มย่อง
“เสียท่าเห็นหน้าไอ้เสือหนักไม่ถนัดอีกแล้วนะเจ้าคะ จะดูสิว่าตามันเหมือนคุณหนูจริงรึ”
“อีช้อย หุบปาก กูไม่อยากเห็นหน้ามัน กูไม่อยากจะจดจำหน้ามัน”

สนยังแค้นหนักไม่หาย
ขณะที่เนียนกำลังจะก้าวเข้าบริเวณเรือน เอกโผล่มาเรียก สองคนอยู่ตรงหลังบ้าน

“คุณเนียนไปไหนมาขอรับ
เนียนตกใจมาก “พี่เอก”
“จุ๊ๆ อย่าอึงขอรับ ไม่ต้องตกใจ กระผมไม่บอกใครดอกว่าคุณเนียนออกมานอกเรือนกลางดึกอย่างนี้ แต่ที่กระผมกลัวก็คือคนอื่นที่ประสงค์ร้ายมันจะเห็นแล้วเอาไปใส่ความขยายความ กระไรคุณเนียนช่างไม่ระวังตัวเลย” เอกเตือนอย่างห่วงใย
เนียนพูดไม่ออกได้แต่ส่ายหน้าน้ำตาคลอ
“เนียน จำเป็นจ้ะ พี่เอก”
“มีความลับคับอกที่ไม่ยอมบอกใคร เก็บไว้ลำพัง มันอาจทำให้ลำบากมากขึ้นภายหลัง ถ้าบอกกระผม กระผมอาจช่วยไม่ให้ลำบากได้ไม่มากก็น้อย”
“เนียนบอกไม่ได้ ตายไปแล้วก็บอกไม่ได้ มันคงต้องตายไปกับเนียนนั่นแหละจ้ะ”
“งั้นกระผมก็จนใจ จำไว้ดูแลตัวเองให้ดีๆ ให้มากๆ อีกไม่กี่เดือนก็จะคลอดแล้ว”
เนียนยกมือไหว้เอก
“ขอบคุณพี่เอกจ้ะ”
เอกหันกลับเนียนรีบกลับขึ้นเรือนไป

เนียนนอนร้องไห้ตั้งแต่ดึกยันถึงเช้า จวบจนพระอาทิตย์ขึ้นเนียนยังคงนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้น
ขุนภักดีมาเคาะห้องแล้วเข้ามาหาเนียนที่ยังนอนร้องไห้
พอท่านขุนเห็นก็ตกใจปราดไปประคอง “เนียน เป็นอะไรไป นอนร้องไห้ทำไมใครว่าอะไรเนียน เนียนอยากได้อะไรแล้วไม่ได้ พี่จะจัดการให้”
“ไม่มีใครว่า เนียนไม่อยากได้อะไร แต่เนียน ทำตัวเองค่ะ เนียน”
“เนียนทำตัวเองอย่างไร”
“เนียนสะดุด หกล้ม”
“มิน่า กลัวลูกในท้องของพี่จะเป็นอะไร ไหนมาจับท้องดูสิ”
ท่านขุนเอามือคลำท้องเนียนแล้วยิ้มออกมา
“เด็กเอ๊ยเด็กเกิดมาไม่เคยมีลูกกับเขา ตกใจไปได้ ลูกดิ้นเอาเท้ามาถีบมือพี่ นั่นนั่น เอามือมาตีมือพี่ด้วย”
เนียนฝืนยิ้มผละตัวออกมา ขุนภักดีบรรจงหอมหน้าผากเนียน
“ขอบพระคุณพี่ขุนมากค่ะ จะไปทำงานแล้วใช่ไหมคะ”
“จ้ะ พี่จะไปทำงานพี่แวะมาจูบลาลูกเมีย”
ขุนภักดีก้มลงไปหอมท้องเนียน เอาหูแนบฟังเสียงลูก
“หนูจ๋า พ่อรักหนูมาก เกิดมาหน้าตาสวยเหมือนแม่หนูนะจ้ะ พ่อไปทำงานก่อนนะจ้ะ”
ขุนภักดีออกไปแล้ว เนียนยิ่งเสียใจ
“พี่ขุนเจ้าขา พี่ยิ่งดีกับเนียนมากขึ้นเท่าใด เนียนก็ยิ่งสึกรู้ตัวว่าเลวลงเท่านั้น เนียนจะทำเช่นไรดีถึงจะแก้ปัญหาชีวิตของเนียนได้”

เนียนยังคงนั่งเหม่อเซื่องซึมเหม่อลอยอยู่เหมือนเดิม
สนอุ้มลูกมายืนรอส่งขุนภักดีหน้าแฉล้มเบิกบานยิ่งหนัก มีช้อยตามมาแหน

“คุณพ่อมาแล้ว ลูกเทิดศักดิ์”
“ตาหนูของพ่อ มาส่งพ่อไปทำงานอีกละสิ”
“ตาหนูต้องมาสิคะ วันไหนสนไม่พามาร้องไห้งอแงทั้งวัน รู้มากแท้ๆ เอ้อ คุณพี่จะกลับไวไหมคะ”
“ไม่กลับดอกจ้ะสน”
สนกะช้อยมองหน้ากันผิดหวัง
“อ้าว โถ ลูกเทิดศักดิ์ก็รอแย่สิคะ”
“พ่อไปทำงานที่บางกอกสามวันเองลูก ขากลับมาพ่อจะหาของเล่นติดมือมาฝากลูก”
“ขอบพระคุณคุณพ่อสิลูก พี่ขุนดูสิคะลูกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทีเดียว แหมแต่ว่า เฮ้อ ไม่เป็นไรดอก”
เอกนั้นจับสังเกตทีท่าสนตลอด
“สนมีอะไรจะบอกพี่รึ บอกตรงนี้ก็ได้จ้ะ”
“ไม่ได้ดอกค่ะ พี่ขุน มันสำคัญมาก”
“สำคัญมาก” ขุนภักดีฉงน
“มันต้องใช้เวลาและสถานที่ ที่เราคุยกันลำพังค่ะ กำแพงมีหูประตูมีช่องสนพูดไปตรงนี้ บ้านภักดีภูบาลจะเสียหายค่ะ”
“อะไรกันเล่า สนพูดแบบนี้ยิ่งทำให้พี่อยากรู้”
“เอาไว้พี่ขุนกลับมาสนค่อยบอกเถิดค่ะ อดใจสักนิด”
“ถ้างั้นนายเอก รอก่อนชั้นยังไม่ไป” ขุนภักดีหันไปสั่งเอก
สนแอบหยิกลูก ช้อยเห็นตกใจ
“ว๊าย”
เด็กน้อยร้องจ้า
“ได้เวลาตาหนูกินนมแล้วค่ะ พี่ขุนรีบไปทำงานเถิดค่ะ ไป โอ๋...โอ๋ ไม่ร้องไม่ร้องแม่จะพาไปกินนม”
สนเดินไปหน้าตาเฉย ขุนภักดีเริ่มประสาทเสีย
“นายเอก เอ็งระแคะระคายอะไรบ้างไหม”
เอกเริ่มไม่สบายใจมั่นใจว่าเกี่ยวกับเนียนแน่นอน
“ไม่ทราบสิขอรับ ท่านขุน คุณสนเธอมีเรื่องราวมากมายเสมอขอรับ”
“ก็จริง สนเขาหยุมหยิม คงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตดอก ไปกันเถิด”
ขุนภักดีจะลงเรือ เอกไม่วายหันไปมองทางเรือนที่เนียนพักอยู่ สีหน้ากังวลห่วงเนียน

ส่วนหนักยื่นทองให้โพล้งกับแพร ดึงแดงน้อยมาอุ้มหน้าตาหม่นหมอง
“หลานเอ๊ย แม่เอ็งเขาเสียสละเพื่อเองมากมาย ถอดแหวนมาให้เอ็งรักษาตัวทั้งที่ไม่รู้ว่าชะตาชีวิตข้างหน้า ถ้าโดนจับได้ จะเป็นเช่นไร”
“แดงน้อยเอ๊ย แม่เอ็งช่วยให้เอ็งรอดตายแล้ว”
“ข้าต้องรีบไปหาที่หลบซ่อนตัว ดูแลหลานข้าให้ดีที่สุดเถิด ไอ้โพล้ง นางแพร”
หนักกำชับ พลางส่งหลานคืนให้แพรกระโดดหายไปทางด้านหลังเรือน
“รีบเอาไปขายข้าจะไปรอที่โรงหมอ ไปแดงน้อย”

โพล้งเอาทองไป แพรอุ้มแดงน้อยมาห่อผ้าแล้วรีบออกไป
วันต่อมาสนกับช้อยวางแผนกันต่อ

“ตอนนี้ข้าเป็นต่ออีเรียมหลายร้อยขุม ดังนั้น ข้าต้องเล่นบทนางเอก...”
“นางเอกยี่เกผู้แสนดี โดนกระทำย่ำยียังยิ้มออก หรือเจ้าคะ คุณสนจะแสร้งทำดีกับมัน แต่อย่าเผลอ กูเอาตายใช่ไหมเจ้าคะ โอดตะเร็วเต่งตุม” ช้อยทำเสียงระนาดประกอบอย่างเบิกบาน
“อย่าล้น ให้มันมากนัก เอ็งก็เหมือนกัน ทำตัวปากปราศรัยน้ำใจเชือคคอมันให้สะบั้นลงตรงหน้า พี่ขุนกลับมาเมื่อไหร่ คอยดู ฉากจบของอีเนียน”
“โล่งหัวอกอีช้อยคนยาก ช้อยลงจากหลังเสือได้แล้วใช่ไหมเจ้าคะ”
“ชั่วคราวเท่านั้น มารอดูลิเกฉากจบ เอ็งรู้ไหม ไม่มีเรื่องราวใดในโลกที่ทำให้ผัวโกรธผัวแค้นเท่ากับเมียมีชู้ เมียหลอกลวงว่าไม่เคยมีผัว”

ช้อยกอดเท้าสนเอาหน้าแนบขาไว้อย่างเทิดทูนที่สุด
ขณะเดียวกันบนเรือนใหญ่ เนียนนั่งกังวลห่วงลูกและกลัวความผิดเรื่องเคยมีลูกผัว เรียมนั่งพิงมองเฉยๆ ไม่ได้ทำด้วย เนียนสลักผลไม้ใจลอยไป พร้อมกับที่ภาพเหตุการณ์ตอนหนักมาหาเนียนแล้วห่วงว่าขุนภักดีจะจับได้ และเนียนบอกว่าทำเพื่อลูก ผุดขึ้นมาในหัว

ทองจันทร์มองหน้าเนียน ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เนียน ใจลอยจริง ทุกวันสลักผลไม้ได้เป็นถาดๆ ไหงวันนี้ สลักมะม่วงกลายเป็นมะนาวไปซะได้”
เนียนตกใจ “อุ๊ย” เผลอทำมีดสะกิดนิ้วตัวเอง
เรียมตกใจ “เนียน เลือดไหลแล้ว
สนเดินยิ้มแย้มเข้ามา ถือถาดขนม มีช้อยอุ้มเทิดศักดิ์ตามหลังมา
“ขนมครองแครงค่ะคุณแม่ คุณเรียม เนียนด้วย สนทำมาฝาก อุ๊ยตายเนียน นั่นทำมีดบาดตัวเองหรือจ้ะ ตาย ๆ ตายจริง”
สนผวาไปหาเนียน จับนิ้วเนียนหยิบชายเสื้อซับเลือดให้ พร้อมกับส่งตายั่วไปให้
“เอ้อ เสื้อคุณสนเลอะเทอะหมดแล้วค่ะ” เนียนตกใจ
“ไฮ้...พูดอะไรกันเสื้อเลอะดีกว่าเลือดเนียนไหลไม่หยุดนะจ้ะ ข้าตกใจ เลยเอาเสื้อซับห่วงเนียนนะจ้ะ เสียเสิ้อตัวเดียวช่างมันปะไรไป”
“เนียนขอบพระคุณค่ะ เนียนขอตัวไปทำแผลก่อนนะคะ”
เนียนดึงมือออกจากสนคลานถอยหลังไป สนยิ้มมองตาม
“ทานขนมนะค่ะ คุณแม่ คุณเรียม”
“ขอบใจจ้ะ ไปหาซื้อมารึว่าทำเองล่ะจ้ะ” ทองจันทร์แกล้งถาม
กบแมวหัวเราะคิกคักเบาๆ มองหน้ากัน
“ซื้อจากแม่ค้า ที่พายเรือมาน่ะสิ” กบว่า
สนหันมาทำตาเขียว สองคนหยุด
“ขอบใจมาก เชิญคุณแม่ทานก่อนคะ เรียม ปวดหลัง ขอตัวไปพักก่อน”
เรียมเดินไปอีกคน สนได้ทีกระซิบพูดแหย่กับทองจันทร์
“คุณแม่คิดเช่นเดียวกับสนไหมคะ ว่าเนียนดูเศร้ามาก ผิดวิสัยคนกำลังจะมีลูก สนน่ะสงสารนะคะ อยากจะช่วยให้หายเศร้า แต่ไม่รู้ว่าจะอย่างไร”
สนกับช้อยแอบสบตากัน
“แม่สนเข้าใจไปเองหรือเปล่า เอ...แต่เมื่อสักครู่เนียนก็ดูเศร้าจริงๆ แหละ ขอบใจแทนเนียนเขานะ เห็นแม่สนแสดงน้ำใจแบบนี้ก็เบาใจแท้ๆ”
ช้อยปรายตามองสนอีกที กบกับแมวมองหน้ากัน
“แต่ข้าหนักใจแฮะนางกบ” แมวกระซิบ
สนหันมาทำตาเขียว แล้วส่งเด็กให้ทอง
“คุณพ่อไม่อยู่ หาคุณย่าก็ยังดีนะลูกนะ”
ทองจันทร์รับเด็กน้อยมาเล่นหัว สนกับช้อยนั่งยิ้มย่องผ่องใส เบิกบานใจสุดๆ

ขุนภักดีเดินทางถึงบางกอกโดยสวัสดิภาพ กำลังนั่งรอท่านพระยาเจ้าของเรือนอยู่ในห้องโถงใหญ่ มีเอกนั่งอยู่ข้างๆ
“นี่แหละคฤหาสน์ของเจ้านายพ่อข้าที่ข้าถูกส่งมาพักที่นี่ตอนมาเข้าโรงเรียนประจำวชิราวุธ เอ็งจำได้ไหมเอก”
“จำได้สิขอรับ คุณเทพร้องไห้งอแงจะยึดกระผมไว้ให้อยู่เป็นเพื่อนด้วย โดนท่านหมื่นกับคุณนายใหญ่เอ็ดตะโรเอาว่า เป็นลูกผู้ชาย ทำไมต้องมีพี่เลี้ยงเกาะติดเหมือนเห็บหมัด” เอกเล่าเรื่องหนหลัง ที่จำได้แม่น
“ข้าเศร้าอยู่สามวันแล้วข้าก็ลืมเอ็งเพราะที่นี่มีอะไรสนุกสนานให้ข้าเล่น เช่นขี่ม้า”
“ท่านขุนเลยได้รางวัลแส้ม้า เอาไปเก็บไว้ที่บ้าน จนทุกวันนี้ ใช่ไหมขอรับ”
ขุนภักดีชะงักกึก ไม่พูดต่อ
ท่านเจ้าพระยาเดินออกมา ท่านขุนก้มลงกราบ เอกทำตาม
“รู้ไหมว่าเรียกมาพบด้วยเหตุใด”
“พอทราบขอรับ เรื่องที่นาของท่านเจ้าพระยาที่ให้กระผมดูแลที่สุพรรณบุรีขอรับ”
“นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่ไม่สำคัญดอก ที่นาไม่มีปัญหา ค่าเช่าค่าออนผลประโยชน์ทั้งหลายก็ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่เพิ่งรู้ความจริง จึงต้องพูดกับพ่อขุนภักดี เรื่องส่วนตัวนะ”
ขุนภักดีหันไปมอง เอกรู้ทันที ถอยหลังกรูดออกไปพ้นห้อง
“เรื่อง เมียน้อยของชั้น แม่...บุหลัน”
ท่านขุนสะดุ้งเฮือกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
“กระผมได้รับโทษฐานบังอาจไปแล้วขอรับ”
เจ้าพระยาถอนใจ “ชั้นหูเบา หึงหวงจนไม่ฟังอีร้าค่าอีรม”
เจ้าพระยาแตะบ่าท่านขุน
“อย่าตกใจ”

ที่แท้เมื่อครั้งในอดีต สมัยขุนภักดีภูบาลยังเป็นวัยรุ่น อายุไม่ถึงยี่สิบ ร่ำเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย และมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเจ้าพระยา
เวลานั้นขุนภักดี หรือเทพกำลังคร่ำเคร่งอ่านตำราเรียนเอาเป็นเอาตายอยู่ในห้องพักบนเรือน จู่ๆ มีมือสวยเนียนขาวมาปิดตาไว้
“ช่างขยันแท้ๆ พ่อภักดีรูปงาม รู้ไหมใครเอ่ย”
ขุนภักดีสะดุ้งหันไปมอง ตกใจมากเมื่อเห็นเป็นบุหลัน รีบเอามือออก
“คุณบุหลัน” ภรรยาของเจ้าพระยา
“จุ๊ๆ อย่าอึงไป เดี๋ยวตาเฒ่าหัวงูมันได้ยินเอา เราจะโดนมันโบย”
“ถ้าเช่นนั้นกรุณากลับออกไปเถิดขอรับ ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับคุณจะเข้ามา”
“เหมาะสิ ภักดี เธอรู้ไหม ใจชั้นล่องลอยมาอยู่ในห้องของเธอทุกเช้าค่ำ นับแต่วันที่ชั้นถูกรับตัวมาอยู่ที่นี่ แม้ตัวชั้นต้องภักดีกับท่านเจ้าพระยา แต่ใจชั้นภักดีกับเธอตลอดเวลา ภักดีจ๋า ชั้นรักเธอ”
จากนั้นบุหลันก็โถมเข้ามากอดปล้ำขุนภักดีแบบเอาเป็นเอาตาย
“ไม่ ไม่นะขอรับ”
“ชั้นรักเธอชั้นปรารถนาเธอไม่ใช่ไอ้เฒ่าหัวงูนั่น”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 5/2 วันที่ 1 เม.ย. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager