อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2/6 วันที่ 26 มี.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2/6 วันที่ 26 มี.ค. 56

“เปล่าเจ้าค่ะ อิชั้นจะมาชื่นชมที่พี่น้อมแกใจร้อนเอาเงินมาไถ่ที่นา ทั้งที่บอกว่า จะไถ่เมื่อไหร่ก็ได้เจ้าค่ะ”
“ช่างบิดตะกรูด คำพูดได้เก่งแท้ๆ กลับไปซะ อย่าได้มายุ่งที่นี่อีก”
พูดจบขุนภักดีแตะแขนเนียน สองคนหันกลับ คุณนายมองตาม ใจแป้ว
“กลับไปซะ ได้ยินท่านบอกแล้วไม่ใช่รึ คุณนาย ขี้ปดมดเท็จ พูดจาเอาดี ใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น”

เอกด่าไม่ไว้หน้า
พระสวดเสร็จ แขกเหรื่อกำลังพักกินอาหารที่ทางเจ้าภาพจัดมาให้ เนียนนั่งใจคอไม่ดีห่วงหาลูกแดงน้อย แพรมานั่งข้างๆ อย่างรู้ใจ


“คิดถึงลูกละสิ” แพรกระซิบ “รอให้ดึกๆ ข้าจะพาเอ็งไปกอดไอ้แดงน้อย”
“ขอบใจจ้ะพี่แพร เอ้อ …”
“เอ็งจะเอ่ยถึงพี่หนักใช่ไหม” แพรรู้ทันอีก
“เอ้อ...”
“ใคร้มันจะกล้า แหกคุกหนีออกมาหาลุงน้อม ตอนป่วยหนักมันก็เจอลุงแกไล่เปิด มันให้เงินแกก็ไม่เอา”
โพล้งยื่นหน้ามา
“แต่ข้าเอา ขืนไม่เอาป่านนี้แดงน้อยมันตายไปแล้ว จะเอาเงินที่ไหนรักษา”
เนียนน้ำตาแทบร่วง
“เนียนห่วงพี่หนักเหลือเกิน”
แหวนเพื่อนบ้านเดินมากระซิบเบาๆ
“พี่เนียน พี่หนักมา”
เนียนสะดุ้งโหยงมองรอบตัว

ความมืดโรยตัวครอบคลุมไปทั่วบริเวณ ตรงมุมลับตา หนักกางแขนโอบเนียนไว้ สองคนพี่น้องกอดกันร้องไห้
“พี่ขอโทษ เนียน พี่ไม่ได้อยากเป็นโจร แต่พี่ พี่…”
“ไม่ต้องอธิบายดอก เนียนเข้าใจ เนียนขอบคุณพี่ เนียนห่วงพี่เนียนรักและคิดถึงพี่เสมอ”
“ขอบใจน้องรักของพี่ คืนนี้ดึกมาก ผู้คนกลับไปแล้ว พี่จะลอบมากราบเท้าพ่อขอขมา”
“ระวังตัวมากๆ ด้วย พี่หนัก ตำรวจมากันเต็ม”
“พี่รู้แล้ว พี่ดีใจที่ท่านขุนเมตตาเนียนมาก ฟังพี่นะเนียน ผู้ชายถ้าเมตตากันขนาดนี้ แปลความได้ว่า ท่านรักและต้องการได้เนียนเป็นเมียแน่นอน”
“อย่าพูดสิ พี่หนักจ๋า ท่านมีคุณนายแล้วถึงสองคน”
“ท่านก็มีคนที่สามได้ เพราะท่านมีปัญญาจะเลี้ยงดู ตกลงรับรักท่านซะ ลูกแดงน้อยของเนียน จะได้สบายไปด้วย พี่จะโดนจับโดนฆ่าวันใดก็ไม่อาจคาดเดา อนาคตของแดงน้อยฝากไว้กับเนียน” หนักกำชับหนักแน่น
เนียนยังน้ำตาไหล ไม่ทันได้รับคำ เสียงคนเอะอะดังเข้ามา
“ไหนใครว่าเห็นไอ้เสือหนักมาป้วนเปี้ยนแถวนี้”
หนักผละจากเนียนทันควัน เนียนผลักหนักออกไปทันที หนักกระโจนหายไป ตำรวจโผล่มาเจอ เนียนยังน้ำตาไหล
“คุณเนียน มาทำอะไรแถวนี้ครับ ไอ้เสือหนักมันมาดักปล้นทอง อยู่นะครับ มันเลวเหลือเกิน จับได้ละก้อ ประหารชีวิตแน่นอน” ตำรวจบอก
ขุนภักดีพรวดตามมา
“เนียน” ท่านขุนออกอาการห่วงเนียนมาก “ตามหาจะแย่ มาทำอะไรในที่มืดๆ เปลี่ยวอย่างนี้ไอ้เสือหนักมันมาดักปล้นรู้ไหม”
แพรโผล่มาช่วยไว้ เนียนตอบไม่ถูก
“เนียนเขาหน้ามืดเจ้าค่ะ แล้วก็ทำท่าจะอาเจียน เอ้อ อิชั้นเลยพาหลบมาไกลไปนิด”
“โถ เนียน เสียใจมาก ชั้นรู้ รีบกลับไปที่เต้นท์เถิด ที่นี่อันตราย”
ขุนภักดีประคองเนียนออกไป ตำรวจยังส่ายตามองไปรอบๆ แพรแอบถอนใจเฮือก
ที่แท้หนักอยู่บนต้นไม้ใหญ่เหนือหัวตำรวจนั่นเอง ตำรวจรีบเดินตามท่านขุนไป แพรมองไปบนต้นไม้ เห็นหนักมองลองมา
หนักกระซิบ “ฝากน้องฝากหลานชั้นด้วย”
แพรพยักหน้ารับ ตำรวจหันมาดุแพร
“ยังไม่รีบตามมา ไม่กลัวไอ้เสือหนักรึนั่น”
แพรวิ่งอ้าวทำทีเป็นตกใจกลัว
“กลัว ฉี่จะราดแล้วจ้ะ”

ขณะเดียวกัน สนอยู่ที่สวนรกหลังเรือนเล็ก กำลังสั่งการเหิมเรื่องแผน มีช้อยยืนระวังอยู่ด้านหลัง เหิมดูหวาดหวั่นมากๆ
“แม่สนจ๋า อยากจะเปลี่ยนใจไม่ทำงานนี้แล้วจ้ะ บอกตรงๆ กลัวท่านขุนจนหัวหดแล้ว” เหิมบอก
“เอ็งเปลี่ยนใจไม่ได้ ถ้าเอ็งเปลี่ยนใจ ข้าจะไปฟ้องพ่อกำนันว่าเอ็งผิดสัญญามายุ่มย่ามกับข้าอีก เอ็งตายแน่”
“โธ่ แม่สนจ๋า”
“ฟังข้า พรุ่งนี้นางเนียนมันเผาส่งตัวพ่อมันไปนรกแล้ว มะรืนนี้เอ็งมารอฉุดมันหลังสวนมะลิ”
“ขอต่อรองให้มันห่างไกลจากตรงนี้ได้ไหม บอกตรงๆ ระย่อท่านขุนเป็นที่สุด” เหิมโอดไม่หาย
“ตกลงเถิดเจ้าค่ะ คุณสน มันจะได้สะดวกในการฉุดคร่า โธ่เอ๊ยไอ้เหิม เสียแรงได้ชื่อว่าบ้าผู้หญิง” ช้อยแดกดัน
“ข้าบ้าจำเพาะผู้หญิงสวยเท่านั้น ผู้หญิงไม่สวยนิสัยไม่ดี อย่างแม่ช้อยให้กินเปล่า ข้าไม่เอาดอกจ้ะ”
ช้อยโกรธ “ไอ้เหิม”
“พวกเอ็งจะแหกปากด่ากันไปทำไมเดี๋ยวเถิด ใครในบ้านได้ยิน พินาศกันหมด เอ็งกลับไปซะไอ้เหิม”
เหิมแบมือขอเงิน
“ห้าชั่งจ้ะ แม่สนคนสวย”
สนควักส่งให้ แทนกับกบเดินมาพอดี
“เฮ้ย มีคนบุกรุกเข้ามา” แทนตะโกน
“เอามีดไล่แทงมันไปเลยไอ้พี่แทน ข้าจะรีบไปรายงานพวกในบ้าน”
กบว่าแล้ววิ่งกลับไป แทนถือมีดวิ่งพรวดมา แทบจะชนเอาสนกับช้อย
สนตวาด “ไอ้แทน นั่นเอ็งจะฟันข้ารึ”
“คุณสน” แทนตกใจ
“คุณสนมาพบคนที่มาจากศรีประจันต์มาบอกว่าพ่อกำนันป่วย เอ็งรีบไปให้พ้น ก่อนที่คุณสนจะฟ้องให้ท่านขุนมาโบยแกโทษฐานจะมาฟันคุณสน” ช้อยบอก
แทนจ๋อย ท่าทีงวยงง เหิมแอบมองอยู่ยิ่งใจคอไม่ดี

เนียนแอบมาที่บ้านแพรและโพล้ง กอดแดงน้อยเดี๋ยวกอดเดี๋ยวจูบวนเวียนปากก็พร่ำพูด
“ลูกแดงน้อยของแม่ แม่ห่วง แม่คิดถึงลูกใจจะขาด แม่อยากใกล้ชิดอยากให้นมอยากกอดอยากจูบ อยากทำทุกอย่างให้ลูก แต่แม่บุญน้อยไม่อาจทำอย่างที่ต้องการได้ อภัยให้แม่นะลูกรัก”
“เอ็งอย่าด่าว่าตัวเองเลยเนียน ชีวิตคนเรามันทำอะไรทุกอย่างที่ต้องการในเวลาเดียวกันไม่ได้ แต่ถ้าเอ็งมีความหวัง สักวันเวลาที่เอ็งหวังจะมาถึง”
“ข้าสัญญาว่าจะดูแลมันเหมือนหลานในไส้ของข้า เอ็งไปอยู่ตรงนั้น ใช่ว่าเอ็งจะไม่ได้ทำหน้าที่แม่ ที่หมายของความเป็นแม่ คือทำให้ลูกอยู่ดีมีสุข” โพล้งเสริม
“โตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีอนาคต มีการศึกษา ถ้าเอ็งทำได้สำเร็จ นั่นคือเอ็งได้ทำหน้าที่แม่ของเอ็งสมบูรณ์แล้ว ถึงแม้นว่า เอ็งจะไม่ได้อยู่กับลูก”
“แต่เนียนต้องปิดบังซ่อนเร้นความเป็นแม่ของเนียนกับทุกคนไปจนตลอดชีวิต ทำไมชีวิตมันโหดร้ายอย่างนี้” เนียนครวญคร่ำ
“ชีวิตที่รู้ว่าลูกอยู่ตรงนี้ ดีกว่าชีวิตที่ไม่รู้ว่าลูกเป็นตายร้ายดียังไง” โพล้งปลอบ
“เท่ากับเอ็งได้เสียสละเพื่อลูก เอ็งว่ามันไม่ดีดอกรึ” แพรว่า
เนียนกอดลูกแนบอกน้ำตาไหลลงรดหน้าลูก เนียนเช็ดน้ำตาให้ลูก
“จ้ะ เนียนเข้าใจ แดงน้อยจ๋า ลูกคือชีวิตคือลมหายใจคือแสงสว่างของแม่ ขอบคุณลูกที่ทำให้ชีวิตของแม่มีความหวัง ถ้าบุญแม่มีมากพอ สักวันเราแม่ลูกคงได้เปิดเผยให้ทุกคนรับรู้ว่าเราคือแม่ลูกกัน”

เนียนกอดลูกมองหน้าลูกไม่วางตา ราวกับว่าจะประทับไว้กลางดวงใจ
โลกกว้างทางแคบอะไรเช่นนั้น ไอ้เหิมกลัวงานพลาด เลยมาหาหนัก เพื่อจ้างไปฉุดผู้หญิงแทน โดยไม่รู้ว่าหนักเป็นพี่ชายของหญิงที่สนให้มันไปฉุดคร่า

“ในฐานะที่เราเป็นมิตรในหมู่โจรด้วยกัน วันนี้ข้าเอาลาภมาฝากเอ็งว่ะไอ้หนัก”
“ลาภอะไรวะ ไอ้เหิม”
“ผู้หญิง”
“เฮ้ย ข้าไม่เอาดอก ข้าหนีตำรวจหัวซุกหัวซุน จะเอาผู้หญิงมาถ่วงชีวิตข้าให้ตำรวจพบเจอง่ายขึ้นทำไม” หนักไม่เอาด้วย
“ไม่ได้ให้เอ็งเอามาเป็นเมีย แต่ให้ไปฉุดเอาเป็นเมียชั่วคราว ข่มขืนเล่นแล้วถีบหัวส่ง แถม เอ็งจะได้รับส่วนแบ่งสามชั่งเชียวนา”
“แล้วทำไมเอ็ง ไม่ข่มขืนเองเอาเงินสามชั่งมาแบ่งให้ข้าทำไม” หนักแปลกใจ
“ทีแรกข้าก็ว่าจะข่มขืนซะเองดอก แต่ว่าข้าเกิดปอดแหกขึ้นมา”
“ปอดแหก”
“ก้อผู้หญิงที่ว่านั่น เป็นผู้หญิงบ้านท่านขุนภักดีภูบาล”
หนักได้ฟังถึงกับลุกพรวดตื่นเต้น
“ไฮ้ ผู้หญิงบ้านท่านขุนภักดี ภูบาล ใครวะบังอาจมาจ้างเอ็งไปฉุดคร่า”
“อย่าพูดดีกว่าว่าใคร เอาเป็นว่า ผู้หญิงที่ให้ฉุด สวยงามปานเทพธิดา สาบานได้เลยนะไอ้หนัก”
หนักเริ่มสนใจเพราะเป็นผู้หญิงจากบ้านขุนภักดี แต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเนียน
“ขอคิดดูก่อน ข้าไม่อยากก่อกรรมทำเข็ญกับลูกสาวใครเขา”
เหิมยิ้ม รู้ว่า

วันต่อมาเนียนนั่งอยู่กับขุนภักดีในเรือ เอกอยู่ท้าย ด้านหน้าเป็นคนขับเรือ เรือแล่นมาตามลำน้ำมุ่งหน้ากลับบ้านภักดีภูบาล
ขุนภักดีมองเนียนที่นั่งหน้าหมองเศร้าน่าสงสารอยู่ ท่านขุนมองเอามองเอากำลังหาวิธีจะบอกรักเนียน ส่วนเนียนใจลอยคิดถึงลูกกับพี่ชาย สะท้อนใจเมื่อนึกถึงตอนกอดลูกไว้ในอ้อมกอดร้องไห้
เสียงขุนภักดีเรียกเนียนเบาๆ อย่างอ่อนโยน
“เนียนจ๊ะ”
เนียนยังไม่ได้ยินน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม ขุนภักดีสงสารยกผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาให้เนียน
“อุ๊ย”
เนียนถอยหลบ
เอกยิ้มรีบหันหน้าออกไปนอกเรือ
“ชั้นรู้ว่าเนียนไม่อาจหายเศร้าโศกเรื่องพ่อได้ง่ายๆ ชั้นเห็นใจเนียนสงสารเนียนเป็นที่สุด”
“ขอบพระคุณ เจ้าค่ะ เนียนขอโทษที่ทำให้ท่านขุนเป็นกังวล”
“ชั้นต้องกังวล ห่วงใยทุกข์สุขของเนียนสิ เพราะชั้นรักเนียน”
ขุนภักดีพูดตรงๆ เนียนตกตะลึงพูดไม่ออก
“รักมากด้วย รักจนอดใจไม่ไหว เชื่อใจ ไว้ใจชั้นนะเนียน ชั้นจะดูแลยกย่องเนียนให้เกียรติเนียน”
“เอ้อ...”
“เนียนห่วงความรู้สึกคุณเรียม ใช่ไหม”
ขุนภักดีเชยคางเนียนมาสบตา เนียนพยักหน้า
“เจ้าค่ะ เนียนไม่ต้องการอกตัญญู เนรคุณท่านนายเรียม”
“ช่างเป็นเด็กดี เด็กซื่อสมกับที่คุณเรียมรักใคร่เมตตา คุณเรียมเต็มใจรับเนียนมาเป็นคนในครอบครัวเราจ้ะ ชั้นจะไม่เร่งรัดเนียน ชั้นอยากให้เนียนเต็มใจและมีความรู้สึกอย่างเดียวกันกับที่ชั้นมีต่อเนียน กลับไปไตร่ตรองแล้วพรุ่งนี้ให้คำตอบชั้น”
เนียนเงียบนิ่งงันไป ขุนภักดีสบตา ส่งสายตาบอกรักเนียน จนเนียนเขินอายหันหน้าหลบสายตา

ฟากหนักอยู่ที่บ้านแหล่งกบดาน ได้ยินเสียงนกร้องสามที จึงแง้มประตูออกมา โพล้งรีบผลุบเข้ามาในเรือน
“รีบร้อนจะเป็นจะตาย มีอะไรไอ้โพล้ง”
“แดงน้อยไม่สบายมาก”
“อีกแล้วรึ โธ่ แดงน้อยเอ๊ย”
“เงินที่ เนียนให้ไว้ เกรงว่าจะไม่พอ เพราะนางแพรมันจะเอาแดงน้อยเข้าไปรักษาในเมือง ชั้นก็เลยมาบอกพี่หนัก”
หนักทอดถอนใจ ภาพเหิมชวนไปฉุดผู้หญิงบ้านท่านขุน จ่ายสามชั่งผุดขึ้นในหัว
หนักพึมพำ “เอาก็เอาวะ”
โพล้งงง “เอาอะไรพี่”
“เอาเอ็งไปช่วยกันฉุดคร่าผู้หญิง”
โพล้งตาเหลือก “ไฮ้”
“ก็พวกเราต้องการเงินไปรักษาไอ้แดงน้อยไม่ใช่รึ สามชั่งเชียวนา”
“สามชั่ง”
“ข้าไม่อยากทำแต่ต้องทำ ข้าไม่มีทางเลือกนี่หว่า”
“ว่าแต่ว่าพี่หนักจะไปฉุดคร่าใคร”
“ใครกูไม่สนใจแล้ว กูอยากได้เงินมารักษาหลานกู รู้เท่านี้พอ กูชั่วกูเลวมามากแล้ว ยังไงกูก้อไม่พ้นนรกไม่พ้นโดนยิงตาย ตายเป็นตาย"

หนักปลดปลงในความเลวและชะตากรรมของตนเอง
เช้าวันต่อมาเนียนลงมาเก็บดอกมะลิ สนเดินตามเขม็งถลึงใส่

“วันนี้มึงพินาศยับเยินแน่อีเนียน” สนคำรามในลำคอ
แต่พอเนียนเงยหน้าสนกลับยิ้มหวานมาให้
“คุณสน”
“เนียน เสียใจด้วยนะเรื่องพ่อน่ะ”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณสน”
“หายโกรธที่ข้าเข้าใจผิด คิดว่าเนียนขโมยของคุณพี่เรียมวันก่อนหรือยัง”
“เนียนไม่โกรธดอกเจ้าค่ะ เนียนไม่สมควรโกรธคุณสนเจ้าค่ะ”
“แหมช่างดีงามจริงๆ สมกับที่คุณพี่เรียมรัก ขอบใจนะเนียน”
“คุณสนเธอขวานผ่าซาก ปากร้ายใจดี ปากไว พูดไปแล้วก็นึกได้” ช้อยสร้างภาพ
“นึกได้ว่าไม่ควรไปต่อว่าเนียน วันก่อนนั่นจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่ข้าจะพูดจาบ้าบอคอโป่งกับเนียน”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ เนียนเก็บมะลิเสร็จแล้ว เนียนขอตัวนะเจ้าคะ”
เนียนหันกลับ ไม่ค่อยอยากจะอยู่ใกล้สนกับช้อยมากนัก
สนดึงมือเนียนไว้เต็มแรงจนเนียนถลา “เดี๋ยว”
ช้อยรีบบอกแก้ต่าง “ไม่ต้องตกใจ คุณสนเธอสะกิดเบาๆ เท่านั้นแต่เท้าดันสะดุดรากไม้จึงกลายเป็นกระชาก”
“คุณสนจะให้เนียนทำอะไรเจ้าคะ”
“ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับข้า ไปทำบุญเพลนี้เป็นเพื่อนข้าก่อนที่ข้าจะไปเยี่ยมพ่อที่ศรีประจันต์”
“เจ้าค่ะ” เนียนรับคำ
สนยอมปล่อยมือ เนียนออกเดินหนีใจคอไม่ดี สนกับช้อยมองตาม
“เสร็จกูแน่นางเนียน”
“นางเนียนเสร็จคุณสน ยังเหลือแต่...เอ้อ”
“นางเรียมกับอีนางทองจันทร์อีแก่ปากร้าย”
สนคำรามตาวาววับ สองนายบ่าวยิ้มให้กัน

เนียนมาขออนุญาตเรียมกับทองจันทร์
“เนียนมาขออนุญาตคุณท่านกับคุณนายเรียม ไปทำบุญกับคุณสนเจ้าค่ะ”
“แม่สนมันโดนอะไรสิงใจขึ้นมาถึงอยากจะทำบุญสุนทาน” ทองจันทร์ไม่อยากจะเชื่อ
สนเดินเข้ามาหาทองจันทร์
“พ่อกำนันของสนป่วยค่ะคุณแม่ สนอยากทำบุญสะเดาะเคราะห์พอดีสนเห็นพ่อของเนียนเขาตาย เลยชวนกันไปทำบุญให้พ่อเขาค่ะ”
เรียมมองมาสงสัยขึ้นมา
“ก็ดี เอ๊ะ เมื่อวานซืนแทนมันวิ่งตามผู้ชายคนหนึ่งไปที่หลังบ้านเรากบมันก็บอกว่า แม่สนกับช้อยอยู่ตรงนั้นเห็นใครบ้างหรือเปล่า”
“โอ๊ยมีรึสนจะไม่เห็น ก็มันเป็นคนของพ่อกำนัน มาตามสนให้ไปเยี่ยมพ่อนี่คะ”
“แล้วทำไมมันไปลับๆ ล่อๆ ที่หลังบ้าน แล้วทำไมแม่สนมาบอกวันนี้ ทำไมไม่บอกตั้งแต่เมื่อวาน”
“ก็พี่ขุนยังไม่กลับมาจากเผาศพนี่คะ สนไปลามาไหว้ค่ะ ต้องขออนุญาตพี่ขุนก่อนนี่คะ”
“เอาเถิด ชั้นอนุญาต แม่สนจะไปก็รีบไป เนียนถ้าเอ็งไม่เต็มใจก้อไม่ต้องไป”
ทีแรกสนยิ้มแย้มแต่ฟังจบสนก็ต้องชะงักหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“เนียนเต็มใจไปเจ้าค่ะ”
สนรีบดึงมือเนียนให้รีบออกไป ทองจันทร์มองตามแปลกใจนัก
“แม่สนมันดูลุกรี้ลุกลนพิลึกๆนะแม่เรียม”
“คงใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะพ่อป่วยน่ะค่ะ คุณแม่”
“ทำไมมันไม่ลุกรี้ลุกรนตอนเมื่อวานที่รู้ข่าว แปลกแท้ๆ แม่มองตามันไม่มีแววเศร้าโศกเหมือนเนียนตอนที่พ่อป่วยสักนิด”
ระหว่างนั้นขุนภักดีออกมาจากข้างในห้อง
“เนียนเล่าจ้ะเรียม”
“หยุดหายใจเข้าหายใจออกเป็นเนียนก่อนเถิดพ่อเทพ แม่เรียมนั่งหัวโด่ตรงนี้ เกรงใจกันบ้าง” ทองจันทร์ด่า
“เรียมกับพี่เทพพูดกันเรื่องเนียน ตกลงกันแล้วค่ะคุณแม่”
ทองจันทร์ตกใจ “ไฮ้”
ขุนภักดีพยักหน้ายืนคำ
“ครับคุณแม่”
ทองจันทร์ส่ายหน้าปวดหัว

ตอนสายๆ ตรงจุดนัดพบ เหิมส่งเงินสามชั่งให้หนัก
“สามชั่งของเอ็ง ขอบใจมากว่ะไอ้หนัก ข้าเผ่นก่อนละ”
“เดี๋ยว ผู้หญิงกี่คน”
“คนเดียว”
“ชื่ออะไร” หนักซักไซ้
“เดี๋ยวเอ็งก็รู้เองแหละวะ เพราะจะมีคนปล่อยผู้หญิงคนนั้นทิ้งไว้ตามลำพังให้เอ็งฉุดตรงโน้น รับรองว่าเอ็งไม่ผิดหวังแน่ๆ สวยเหมือนนางฟ้าว่ะ”
“สวยเหมือนนางฟ้า” หนักรำพึง
เหิมพูดจบรีบร้อนออกไปทันที หนักกับโพล้งมองหน้ากัน

สนกับช้อยพาเนียนเดินมาถึงจุดหมายที่นัดกับเหิม สนให้ช้อยหิ้วปิ่นโตอาหารเนียนช่วยหิ้ว
“เนียนไม่เคยมาแถวนี้เลยใช่ไหม”
“เจ้าค่ะ เนียนไม่เคยมาแถวนี้ วัดอยู่ที่ไหนเจ้าคะ คุณสน”
สนมองหน้าช้อยแล้วยิ้ม
“ตรงโน้น เดินไปอีกนิดก็เห็นหลังคาโบสถ์แล้ว”
สามคนเดินต่อไป

หนักกับโพล้งย่องมาแอบมองว่าใครที่เหิมให้มาฉุด สองคนย่องมา
“ขอแอบมาดูหน้านางคนที่ไอ้เหิมมันจ้างให้ฉุดทีวะว่าสวยแค่ไหน” หนักว่า
“ได้ยินเสียงหวานๆ ของผู้หญิงคุยกันกระหนุงกระหนิงมาแล้วพี่หนัก”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2/6 วันที่ 26 มี.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager