อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 1/2 วันที่ 20 มี.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 1/2 วันที่ 20 มี.ค. 56

“ไม่ต้องมารับใช้กันเอง พวกเรามีหน้าที่รับใช้ชาวบ้านร่วมกันต่างหาก ที่มานี่ก็มาดูแลทุกข์สุขของชาวบ้าน แล้วก็ถือโอกาสแวะมาขอข้าวขอน้ำกำนันแสงกิน” ท่านขุนว่า
“ท่านขุนท่านถือเป็นโชคทีเดียวแหละที่ได้มาแวะกินข้าวกินน้ำบ้านกำนัน”
เอกบอกพลางปรายตาไปมองสน สลับกับมองท่านขุนเหมือนรู้ใจ สนทำเอียงอาย
ช้อยกระซิบบอกนายสาวคนสวย “น้ำขึ้นต้องรีบตักเจ้าค่ะ คุณสน รีบไปเข้าครัวตักน้ำทำ แกงเจ้าค่ะ”
สนกระซิบตอบ “นางช้อยเอ็งจะบ้า เกิดมาข้าเคยทำที่ไหน”

ช้อยกะซิบอีก “ทำเป็นพิธี ว่าข้าวมื้อนี้ฝีมือคุณสนไงเจ้าค่ะ ขุดบ่อล่อปลา หน่อยสิเจ้าคะ” พลางกระทุ้งสีข้างสน
“สนจะเข้าครัว ทำอาหารให้ท่านขุนรับประทานเองค่ะ” สนเอ่ยขึ้นเสียงหวาน
กำนันแสงร้อง “เฮ่ย” ไม่อยากจะเชื่อ เอามือไชหูป้อยๆ



ขุนภักดี สบตากับสนอีกครั้ง สนทำท่าสะเทิ้นอายส่งสายตาชมดชม้อย
ส่วนที่ตลาดบ้านแพน หนักพาแดงมาเลือกของมากมาย แต่ยังไม่ได้หยิบสักชิ้น คนขายชักสีหน้า เมียงมองท่าทีไม่พอใจ

“เราจะเอาเงินที่ไหนซื้อ พี่หนัก” แดงหารือ
“กูตัดใจแล้ว ว่าวันนี้เป็นไงเป็นกัน” หนักว่า
“พี่หนักพูดอะไรข้าฟังไม่เข้าใจ” แดงฟังแล้วงง
“มึงไม่ต้องเข้าใจ มึงเลือกของใช้ที่จำเป็นไปให้มากที่สุด”
“เลือกของอยู่เป็นนานสองนาน หยิบอันโน้นชี้อันนี้ นี่จะมาซื้อของหรือว่าจะมาชี้ของ” คนขายบ่นอุบ
“ซื้อสิวะ ไอ้แดงมึงไปรอหน้าร้าน กูจะไปเอาเงินมาจ่ายค่าของพวกนี้”
หนักดึงแดงออกไปนอกร้าน คนขายมองแล้วด่าตามหลังอย่างไม่พอใจ
“ไอ้ขี้โม้ น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง มีเงินจริงทำไมไม่รีบจ่ายวะ”
หนักขยับหมัดจะชก แดงดึงรั้งไว้
“อย่ามีเรื่องเลยพี่หนัก”
“บอกว่าจะซื้อก็ซื้อซิวะ” หนักบอก
แล้วสองคนก็พากันออกไป

ด้านน้อมกับโพล้งเดินวนไปวนมาอยู่นอกชาน ท่าทีเป็นกังวล มีเสียงเนียนร้องโอดโอยดังออกมาจากในห้อง
“ยัยแพรมันทำคลอดเป็นแน่นา ไอ้โพล้ง”
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน มันบอกว่ามันทำคลอดเนียนนี่แหละคนแรก” โพล้งว่า
น้อมตาเหลือก “หา”
มีเสียงเนียนกรีดร้องดังสุดเสียง ผสมกับเสียงแพรบอกให้เบ่งเป็นระยะ
“เบ่ง เนียนเบ่ง นั่น มันมุดหัวออกมาแล้ว”
น้อมกะโพล้งประสานเสียง “มุดหัวออกมาแล้ว”
สองคนตื่นเต้น ดีใจมาก

เนียนกรีดร้องต่อแล้วหยุด พร้อมกับมีเสียงเด็กทารกร้องอุแว้สวนออกมา
“ออกมาทั้งตัวแล้ว” แพรร้องลั่น
เนียน ถอนใจเฮือกน้ำตานองหน้า ความเจ็บปวดคลายลง
“ขอดูลูกแดงน้อย หน่อยสิพี่แพร ผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย”
แพรเอาผ้าห่อเด็ก แล้วยกมาให้เนียนดูใกล้ๆ พลางคลี่ผ้าให้เห็น พูดยิ้มๆ
“ดูเอาเองสิ”
เนียนเห็นหน้าก็เด็กดีใจมาก ร้องให้โฮๆ
“ผู้ชาย ลูกแดงน้อยของชั้น เป็นผู้ชาย ชั้นอยากกอดลูกใจจะขาดแล้วพี่แพร”
เนียนเอาเด็กวางบนท้องของตัวเองโอบกอดไว้ เนียนมองลูกแล้วเป็นลมพับไปเพราะอ่อนแรง

แดงยืนชะเง้อรอหนักอยู่ในชุมชนที่หนักพามา
“พี่หนักไปเอาที่ไหนนะ”
ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับเสียงหวีดร้องอย่างหวาดกลัวของผู้คน
แดงตกใจหันซ้ายหันขวา ผู้คนวิ่งกันอลหม่าน ตะโกนบอกกัน
“โจรโพกหน้ามาปล้นร้านทอง แม่นกเอี้ยง” ชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้น
อีกคนตะโกนตาม “โจรใจทรามมันยิงแม่นกเอี้ยงเลือดกระจาย”
“ใครไปมองหน้ามัน มันไล่ยิงดะ” คนแรกโพนทะนาอีก
“แย่แล้ว”
แดงตกใจทำท่าจะวิ่งหนี มีมือมากระชากบ่า
“ไอ้แดง จะไปไหน”
แดงหันมา เจอหนักยืนอยู่
“ไปตามหาพี่หนัก รีบหนีกันเถิด มีโจรโพกหน้ามาปล้นร้านทองแม่นกเอี้ยง”
“นางคนรวยใจดำ ช่างมันปะไร เอ็งเอาเงินนี่รีบไป ซื้อของ ส่วนสร้อยให้ไอ้โพล้งเอาไปขายให้พ่อข้าไปรักษาตัว”
หนักยัดเงินใส่มือแดง พร้อมกับถุงสร้อย แดงยืนตะลึง
“พี่หนัก ไปเอาเงินกับทองมาจากไหน”
หนักไม่ตอบวิ่งปะปนไปกับผู้คนหายไป

ขุนภักดีกำลังจะกลับ เดินมาที่รถม้า กำนันแสงตามมาส่ง พร้อมสน กับช้อย และบริวารในบ้าน
“ขอบใจมากกำนันแสง ฝีมือทำอาหารแม่สนร่อยมาก”
สนอึกอัก ช้อยกระแทกสีข้าง
“คุณสนเธอเบญจกัลยาณีแท้ๆ เจ้าค่ะ”
“สวย เก่ง ฉลาด แสนดี แม่ศรีเรือน เพียบพร้อมไปหมดทุกประการ” เอกพูดลอยๆ
“ขอบพระคุณท่านขุนมากค่ะ สนก็แค่ฝีมือชาวบ้าน ธรรมดา” สนยิ้มหวาน
“แม่สนถ่อมตัว” ขุนภักดีว่า สองคนมองสบตากัน
“วันหน้าเชิญอีกนะขอรับท่านขุน” กำนันแสงบอก
เอกตอบแทนอย่างรู้ใจนาย “ขอรับท่านขุนท่านมาแน่”
ท่านขุนสบตากับสน
“แม่สนจะทำอาหารอร่อยให้พี่เอ๊ย ข้ากินอีกไหม”
สนทำเป็นเขินอาย ช้อยกระทุ้งสีข้างอีก
“ด้านได้อายอดนะเจ้าคะ เวลาวารีไม่เคยคอยใคร” ช้อยกระซิบพูดไม่ขยับปาก “รับปากเจ้าค่ะ คุณสน”
“ค่ะ รับปากค่ะ เอ๊ยสนยินดีทำอาหารให้คุณพี่ เอ๊ยท่านขุนรับประทานอีกค่ะ”
จู่ๆ มีคนวิ่งหน้าตื่นมารายงาน
“กำนันแสง แย่แล้ว มีโจรโพกหน้าปล้นทองแม่นกเอี้ยง ที่บ้านแพน เขาว่ามันอาจหนีตำรวจมาทางตำบลเรา”
“ขอให้มันมาเถิด จะจับตัวไปเข้าตะรางให้เข็ด” ขุนภักดีบอก
“สนห่วงท่านขุนจะไปเจอโจรกลางทางแล้วโดนมันทำร้าย เหลือเกินค่ะ” สนเอ่ยขึ้น สีหน้ากังวล
“พี่ก็ห่วงว่า มันจะมาที่นี่แล้วมาทำร้ายแม่สนน่ะสิ”
เอกสรุปให้ “ถ้าอย่างนั้น ท่านขุนอยู่รอดูจนแน่ใจว่ามันมาที่นี่จริงไหมดีไหมขอรับ”
“สนจะทำอาหารเย็นให้ท่านขุนรับประทานอีกมื้อดีไหมคะ หรือว่าท่านขุนต้องรีบกลับไปรับประทานมื้อเย็นที่บ้านคะ” สนใส่จริตขณะพูด
“เรื่องกินเรื่องเล็ก เรื่องหน้าที่การดูแลชาวบ้านต้องมาก่อน ข้ามีหน้าที่รับใช้ชาวบ้าน ไม่ได้มีหน้าที่ใช้ชาวบ้าน ข้าจะออกไปลาดตระเวนหาโจรจนแน่ใจว่ามันไม่ได้บุกมาที่ศรีประจันต์ จึงจะกลับมา” ท่านขุนบอก
“แม่สนคนดีของพ่อ ไปตระเตรียมน้ำท่าขนมแห้งให้ท่านขุนกับพ่อกินระหว่างทางตามหาโจร”
“จ้ะ...พ่อกำนัน”
สนเหลียวมามองสบตาขุนภักดีอีก
“ขอบใจมากแม่สนคนดี”
สนเป็นปลื้มแทบจะลอยจากพื้นให้ได้ กำนันแสงดูอาการลูกสาวกับท่านขุนออก เข้าใจและพึงพอใจมาก

ฟากเนียนฟื้นแล้วอุ้มลูกเห่กล่อมอยู่ในอ้อมกอด มีโพล้ง แพร และน้อมมุงดู
“ลูกแดงน้อยคลอดก่อนกำหนด เขาจะแข็งแรงเหมือนเด็กอื่นไหมจ้ะพ่อ” เนียนเอ่ยขึ้น
“ก็ภาวนาขอให้มันแข็งแรง เถิดนะ รอดมาได้เป็นดวงตาดวงใจของเราก็บุญของเด็กมันหนักหนาแล้วเนียนเอ๊ย” น้อมบอก
เนียนนึกได้ “พี่แดงหายไปไหน นานเหลือเกิน”
“ข้าเห็นมันฉีกผ้าขาวม้าทำผ้าอ้อม อยู่ใต้ถุนเรือน ตอนเนียนจะคลอด” โพล้งบอก
“พี่แดงไม่สบาย จะไปเป็นลมเป็นแล้งหรือเปล่า พี่โพล้งรีบไปดูสิ” เนียนห่วงผัวมาก
“ไอ้หนักพามันไปน่ะ รึมันจะพากันไปกู้เงินใครเขาไปซื้อของมาให้ลูก แต่ทำไมมันสองคนหายไปนานนัก” น้อมว่า
ทุกคนแปลกใจและรอคอยแดงกับหนัก

แดงเดินหอบหิ้วของมาตามถนนหน้าบ้าน ใจคอไม่ดี เดินใจลอย ไม่ทันเห็นว่ามีรถมอเตอร์ไซค์พ่วงของตำรวจ รถบรรทุกกำลังวิ่งสวนมาอีกทาง
“พี่หนักเอาเงินจากไหนมาซื้อของ เอาทองจากไหนมาให้พี่โพล้งเอาไปขาย มาจ่ายค่ารักษาพ่อน้อม”
แดงชะเง้อรอหนัก นึกถึงเหตุการณ์ในตลาด ตั้งแต่ยินเสียงปืนดังปัง ตามมาด้วยเสียงผู้คนร้องวี้ดว้าย และพากันพูดแต่เรื่องโจรโพกผ้ามาปล้นยิงแม่นกเอี้ยงจนเอาเงินมาให้แดง
แดงยิ่งคิดยิ่งหวาดกลัว
“รึว่า...พี่หนักแกไป...”
จู่ๆ เสียงใครคนหนึ่งเป่าปากอยู่ฝั่งตรงกันข้ามแดงสะดุ้งเหลียวมองไปในอาการตกใจมาก เมื่อเห็นหนักแอบอยู่หลังพุ่มไม้ข้างทาง ยื่นหน้ามาเรียก
“ไอ้แดง กูอยู่นี่”
“พี่หนัก”
แดงกำลังจะข้ามไปหาหนัก แต่มองไปเห็นตำรวจขี่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงกำลังจะผ่านมา ก็ยิ่งตกใจจะข้ามไปหาหนัก
“ตำรวจมา”
แดงวิ่งตัดหน้ารถพ่วงของตำรวจซึ่งเบรกทัน แต่รถบรรทุกอีกคันตามมาติดๆ เบรกไม่ทัน ชนร่างแดงกระเด็นกระดอนแล้วฟาดลงกับพื้น โพล้งมาถึงพอดี
“ไอ้แดง ไม่ไม่นะ”
ข้าวของในมือแดงกระจายไปทั่ว แดงนอนเลือดสาด หนักพรวดออกมาจากที่ซ่อน ตกใจมาก
“ไอ้แดง”
ตำรวจคนหนึ่ง ลงมาจากรถจะไปดูแดง เห็นหนักชะงัก ถาม
“บ้านนายหนักอยู่ที่ไหน ใครรู้บ้าง”
หนักส่ายหน้าแล้วหันกลับ โพล้งเห็นหนักก็ตื่นเต้นรีบบอก
“ไอ้แดงโดนรถชน เร็วพี่หนัก”
ตำรวจที่กำลังจะมาช่วยแดง ได้ยิน พากันมองไปที่หนัก ที่หันตัวกลับทันที
“นายหนัก อยู่นั่น”
ตำรวจสองคนวิ่งตาม หนักวิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว โพล้งยืนตะลึง

ไม่นานต่อมาที่หน้าบ้านของเนียนมีเสียงร้องไห้ของเนียนกับแพรดังระงม พร้อมกับเสียงทารกแดงน้อยร้องจ้า ส่วนในบ้าน เนียนประคองกอดแดงที่นอนกำลังจะตายเต็มที ของที่แดงซื้อมาวางกองรวมกัน ข้าวของเปื้อนเลือดของแดงไปหมด
“พี่แดงจ๋า อย่าทำอย่างนี้กับเนียนและลูก พี่แดงอย่าทิ้งเนียนกับลูก” เนียนร้องครวญคร่ำ ใจจะขาดตาม
“พี่เสียใจ พี่ขอโทษ” แดงพูดเสียงตะกุกตะกัก “พี่บุญน้อย ไม่มีวาสนาดูแลเนียนกับลูก ให้พี่สวัสดีและบอกลาลูกเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายด้วยเถิด”
แดงน้ำตาไหลพราก แพรและทุกคนน้ำตาซึม แพรส่งแดงน้อยให้เนียน เนียนยกลูกชายให้แดงดู เอาลูกน้อยวาง
แนบอกผัว พร้อมกับเอามือของแดงมาโอบกอดลูกและประคองจับไว้
“สวัสดีลูกแดงน้อยของพ่อ ขอให้เลี้ยงง่าย ไม่งอแง โตขึ้นให้เป็นที่พึ่งของแม่นะลูกนะ พ่อ พ่อขอโทษที่อยู่ดูแลลูกไม่ได้ พ่อ.. ลาก่อน”
แล้วแดงก็สิ้นใจตายในอ้อมกอดของเนียน ที่โอบประคองให้แดงกอดลูกน้อยไว้
“พี่แดง”

เนียนเอาหน้าแนบหน้าของแดงด้วยความอาลัยรักอย่างที่สุด ทุกคนหน้าเศร้า มองดูภาพสามคนอย่างเวทนา สลดหดหู่ใจตามๆ กัน
ดึกมากแล้วคุณเรียมนั่งคาสำรับอาหาร รอท่านขุน มีกบบ่าวบนเรือนคอยพัดวีอาหารไม่ให้แมลงหวี่แมลงวันตอม เสียงนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน คุณนายทองจันทร์โผล่มามองเรียม บ่นว่าตามประสา

“แม่เรียม นั่นไม่ยอมกินข้าวกินปลา นั่งรอท่าผัวจนสองยาม แม่เจ้าประคุณเอ๊ย เดี๋ยวก็เจ็บไข้ได้ป่วยไปหรอกแบบนี้สิลูกถึงไม่ติดสักที”
“เรียมไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณแม่ เรียมห่วงพี่เทพ กลัวจะไปเจอเหตุร้ายน่ะค่ะ”
“พ่อเทพเขาดวงแข็ง พระท่านดูดวงให้ตั้งแต่เกิดว่าพ่อเทพ จะแคล้วคลาด จากเหตุร้ายทางร่างกาย แต่จะไม่แคล้วคลาดจากเหตุร้ายอันเนื่องมาแต่ เอ้อ...”
“อันเนื่องมาแต่อะไรคะ คุณแม่”
คุณนายทองจันทร์คิดในใจ “เรื่องผัวๆ เมียๆ ลูกๆ เต้าๆ” แล้วตัดสิใจพูดออกมา “แม่ขอเตือนแม่เรียมนะว่า…”
คุณเรียมรอฟัง “ว่าอะไรคะ คุณแม่”
“แม่เรียม อย่าใจดีมีเมตตามากเกินไป ผู้หญิงสมัยนี้ มันอยากมีหน้ามีตามีผัวรวย”
“หมายถึงเรียมหรือคะ คุณแม่”
คุณนายขัดอกขัดใจ “ไฮ้...ใครจะไปหมายถึงแม่เรียม แม่เรียมเป็นลูกชาติลูกตระกูล มั่งมีศรีสุขผู้ชายดีๆ ที่ไหนก็อยากได้มาเชิดหน้าชูตา แม่หมายถึงผู้หญิงอื่นน่ะ”
“อ้อ ไม่เป็นไรดอกค่ะ คุณแม่ อะไรที่เป็นความพอใจของพี่เทพ เรียมยินดีค่ะ”
“เอ๊ะแม่เรียม เพิ่งเตือนไปหยกๆ ไม่ฟังกันเลยรึ”
ยินเสียงม้าร้องดังแว่วมา เรียมกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
“เสียงม้าร้อง พี่เทพกลับมาแล้วค่ะคุณแม่”
“หน้าบานเป็นจานเชิงเลยนะแม่เรียม เอาเหอะ กลับมาช้ายังดีกว่าไม่กลับมาไปหาที่อื่นนอกบ้าน”
คุณนายทองจันทร์พลอยดีใจไปด้วย เรียมรีบฉวยขันเงินลอยน้ำดอกมะลิ ลุกไปรอรับท่านขุน กบรีบผวาตามไป

ท่านขุนลงจากหลังม้า เอกถือบังเหียนม้าทั้งสองไว้จะพาม้าเข้าคอก
“นายเอก เอ็งเย็บปากเรื่องราวที่เราไปบ้านกำนันแสงวันนี้ให้สนิททีเดียวเชียว” ท่านขุนกำชับ
“ขอรับ ไม่สั่งก็ไม่บังอาจเปิดแผลเอ๊ยเปิดปากดอกขอรับ เรื่องคอขาดบาดใจแท้ๆ”
เรียมเดินออกมารอที่หัวบันไดเรือน
“พี่เทพ”
“แม่เรียมรอพี่จนป่านนี้ แย่จริง พี่ เอ้อ พี่…”
กบสอดขึ้น “คุณนายเรียม รอท่านขุนรับประทานอาหารอยู่นะเจ้าค่ะ”
ท่านขุนหน้าเสียสบตาเอกพูดไม่ออก เรียมสังเกตเห็นแต่เป็นคนไม่พูดมาก
“โถ แม่เรียมยังไมได้รับประทานอาหารหรือ พี่ก็หิวโซมาพอดี”
เอกกระแอมเบาๆขำๆ แต่เจอท่านขุนแอบเหยียบเท้าเป็นเชิงปราม
“ไอ้เอกรีบเอาม้าไปพักผ่อนป้อนน้ำป้อนท่า ชั้นจะรีบไปกินข้าวกับ แม่เรียม”
ท่านขุนรีบเดินไปหาเรียมรับน้ำมาดื่ม โอบกอดเรียมเข้าไปในชานเรือน เสียงอะไรบางอย่างตก ท่านขุนหันไป
มอง รีบชี้ให้เอกเก็บ กบมองไป เห็นห่อใบตองอาหาร มีเศษอาหารเหลือหลุดมาจากห่อ
นายเอกรีบเก็บ กบชี้หน้าเอก เอกจุ๊ปากส่ายหน้าห้ามพูด กบค้อนขวับ

เช้าวันต่อมาแพรแกะของที่โพล้งรวบรวมมาเอามากองไว้ตรงหน้าเนียนที่อุ้มลูกหน้าหมอง
“เอ๊ย...ไอ้แดง มันอุตส่าห์ไปหาของมาให้ไอ้แดงน้อยจนได้”
“ไอ้หนักพามันไปกู้เงินใครมาก็ไม่รู้” น้อมแปลกใจ
“เอ้อ ...ชั้นว่าพี่หนักไม่ได้พามันไปกู้เงินที่ไหนดอก” โพล้งว่า
“นี่เอ็งจะบอกว่าพี่หนักเขาเสกเงินมารึ ตาโพล้ง” แพรฉงน
“ยังมีเงินเหลือ มีสร้อยคอทองคำอีกเส้น” น้อมว่าอีก
ทุกคนตกใจ ไม่อยากเชื่อ “สร้อยคอทองคำ”
“นั่นน่ะสิให้กู้เงินก็ยังพอทำเนา แต่เอาทองมาให้กู้นี่มันประหลาดเกิน” โพล้งแปลกใจ
น้อมชักฉุน “ไอ้โพล้ง ใครพูดอะไรเอ็งก็ขัดคออยู่เรื่อย คนเขากำลังทุกข์โศก เลิกทะลึ่ง ได้ไหม”
“ก็ได้ ชั้นพูดแล้วอย่าตกใจเศร้ามากขึ้นละกัน”
“เอ็งจะพูดอะไร” น้อมสงสัย
“ตอนชั้นไปตามหาไอ้แดง ชั้นเห็นตำรวจขับรถพ่วงกันมา เห็นไอ้แดง กำลังวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถไป ก็เลย...”
“โดนรถตำรวจชนเอา เวรกรรมแท้ๆ แล้วมันจะรีบร้อนข้ามไปทำไม” แพรแปลกใจเช่นกัน
“ชั้นเห็นพี่หนักโผล่หน้ามาจากหลังต้นไม้ฝั่งตรงกันข้าม จะข้ามมาช่วยไอ้แดง แล้วตำรวจก็ปรี่มาถามหาบ้านนายหนักกับพี่หนัก”
“ไม่เห็นจะเป็นไง” น้อมว่า ยังงงอยู่
“ชั้นก็ว่างั้นแหละ แต่พี่หนักเอ็งส่ายหน้า ส่วนไอ้ชั้นก็ดันเซ่อ ตะโกนเรียก พี่หนัก” โพล้งโทษตัวเอง
“ก็ไม่เห็นจะเป็นไง” แพรว่า
“ตำรวจก็เลยรู้ว่าพี่หนักคือพี่หนัก” โพล้งพูดชวนงง
ทุกคนงวยงง “แล้วไง”

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 1/2 วันที่ 20 มี.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager