อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2 วันที่ 23 มี.ค. 56


อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2 วันที่ 23 มี.ค. 56

เนียนลืมตาเห็นแต่หน้าขุนภักดี ก็ตกใจมาก กลัวโดนกอดจูบอีก หวีดลั่น
“ว๊าย อย่านะ”
ทองจันทร์กับเรียมร้องเรียกพร้อมกัน “เนียน”
พอเนียนได้ยินเสียงสองคนตะลีตะลานคลานไปหา แล้วหลบไปอยู่ด้านหลัง ดูท่าทีว่ากลัวขุนภักดีมาก
“เนียนเขาตกใจกลัวท่านขุนจนเป็นลมเจ้าค่ะ ตัวสั่นงันงก เหมือนผีโดนข้าวสารเสกอาคมสาดใส่เลยเจ้าค่ะ” กบบอก

ทองจันทร์กับเรียมหันไปมองเนียน เป็นจริงดังกบว่ายิ่งสงสัย
“เมื่อสักครู่เอ็งร้องหวีดว่าอย่า...อย่าอะไรของเอ็งบอกมาสิ”


ถูกคุณนายถามเนียนยิ่งไม่กล้าเอ่ยปากก้มหน้างุด ท่านขุนหัวเราะขำปนเอ็นดูพลางยิ้มกริ่ม
“แม่เนียนของคุณแม่ ตกใจที่ผมไปทึกทักเขาว่าเป็นเรียม เพราะเขายืนหันหลัง แถมใส่เสื้อใส่ซิ่นของเรียม ตัวก็เท่ากับเรียม ผมก็เลย...”
“ทักผิดแค่นี้เอ็งตกใจขนาดเป็นลมเลยรึ ขวัญอ่อนเหลือเกินนะเนียน” ทองจันทร์ว่า
สีหน้าแววตาของขุนภักดีบ่งบอกชัดเจน จนเรียม ทองจันทร์และกบรู้สึกได้ว่า ท่านขุนพอใจเนียนที่เอาแต่ก้มหน้า

น้อมอาการดูไม่ดีมากๆ มีโพล้งกำลังดูแล
“เนียนของพ่อ พ่อได้ทำหน้าพ่อที่ดีสำเร็จแล้ว ที่นาสิบไร่จะตกเป็นของเอ็งและต่อไปถึงแดงน้อย” น้อมไอจนเลือดกระจาย หายใจหอบถี่ๆ “เหนื่อย...เหนื่อยเหลือเกิน”
“เหตุก็เพราะลุงน้อมพายเรือกลับมาจากบ้านท่านขุน ตั้งไกลโขนั่นแหละ จึงหมดเรี่ยวหมดแรง ถึงลมใส่ ข้าไปบอกเนียนมันนะ ว่าลุงป่วยมาก”
น้อมร้องห้ามเสียงหลง
“อย่านะ ถ้าเอ็งไปบอกเนียน ก็เท่ากับว่าเอ็งกำลังทำลายอนาคตของเนียนกับแดงน้อย เนียนมันมีคนอุปถัมภ์ค้ำชู ที่ใจบุญเมตตาปราณี คุณนายเรียมท่านยกย่องให้มันเป็นน้องสาวท่าน ข้าไม่ยอมให้มันกลับมาจมปลักอยู่ที่นี่อีกแน่ ไปตามนางแพรมาข้าจะให้มันเขียนพินัยกรรม”
โพล้งพยักหน้ารับคำ

บนชานเรือนหลังใหญ่ ขุนภักดีกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ท่าทีสดชื่น อยู่กับเรียมและทองจันทร์ มีกบ และเนียนคอยดูแล
เนียนนั้นก้มหน้าไม่กล้าสบตาท่านขุน ที่แอบชำเลืองมาบ่อยๆ ส่วนกบคิกคักร่าเริง
“วันนี้พ่อเทพเจริญอาหารมากกว่าทุกวันนะเรียม” ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้น
“ค่ะ...โดยเฉพาะอาหารที่เนียนเขาทำ” เรียมว่า
ท่านขุนยิ้มพอใจ
“เนียนเขาทำอะไรหรือจ้ะ...เรียม”
“ต้มยำพุงปลาช่อนค่ะ...พี่เทพ”

ขุนภักดียิ้มย่อง มองเนียนที่ยังคงก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ด้วยแววตาหวานฉ่ำ
ระหว่างนั้นสนกับช้อยพากันเดินขึ้นมาบนเรือน พร้อมด้วยสำรับอาหาร ช้อยเดินแทบจะเหยียบกบที่รีบหลบจนหน้าแทบคะมำ

สนจงใจเดินเหยียบมือเนียนที่นั่งก้มหน้าเท้าแขนอยู่ เนียนตกใจรีบชักแขนหนี โดยไม่มีใครทันเห็นนอกจากช้อย
“พี่ขุนขา...สนทำแกงเผ็ดตะพาบน้ำที่พี่ขุนสั่งไว้มาให้รับประทานค่ะ”
“มาช้าไป พ่อเทพเขากินต้มยำพุงปลาช่อนฝีมือเนียนไปแล้ว และที่ชั้นจำได้ วันนี้วันศุกร์ แม่สนไม่มีหน้าที่มาป้วนเปี้ยนที่นี่” ทองจันทร์แดกดัน
“สนก็แค่เจตนาดี เพราะพี่ขุนสั่งให้ทำแกงเผ็ดตะพาบน้ำให้ แต่ถ้าพี่ขุนรับประทานไปแล้ว...สนเอากลับนะคะ”
สนไม่ยอมวางอาหาร แต่ทำส่งให้ช้อย ที่ยืนอยู่ใกล้ตรงที่เนียนนั่งพอดี สนสบตาบ่าว ช้อยสบตารู้ใจ รับชามแกงตะพาบน้ำพลาดทำให้ถาดตกลงไปบนหัวเนียนข้าวของหกกระจาย
เนียนตกใจร้อง “อุ๊ย”
เรียมเองก็ตกใจ “ตายจริง เนียน เลอะเทอะหมดแล้ว”
“แม่สนซุ่มซ่ามจริงๆ นางช้อยก็เซ่อซ่าตาบอด นั่นหัวคนนะหัวตอ” ทองจันทร์ฉุน
“สนขอประทานโทษค่ะ...ช้อยมันโง่เง่าเต่าตุ่น กลับไปสนจะไปหักนิ้วสั่งสอนมัน ขอโทษด้วยนะเนียน พี่ขุนขา สนเอ้อ…”
ขุนภักดีตัดบททันที “จะกลับเรือน... รีบไปเถอะ”
สนผิดหวังนัก ส่งสายตาออดอ้อนไปทางขุนภักดี ที่เอาแต่มองไปทางเนียน
“พริกเข้าหูเข้าตาแสบหมดแล้ว รีบไปล้างหน้าล้างตาซะ”
“ไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วขึ้นมารอชั้นที่ห้องพระ จะสอนให้จัดดอกไม้ไหว้พระ” เรียมบอก
“ค่ะ”
เนียนถดถอยหลังออกไป ท่านขุน และทองจันทร์มองตาม สงสารเนียนมากๆ
สนมองแล้วไม่พอใจอย่างยิ่ง
“อ้าว...แม่สนไหนว่าจะกลับเรือน มายืนทำตาเถลือกถลนอยู่ทำไม” ทองจันทร์ว่า
สนจึงถอยออกไปแอบจ้องเนียนตาแทบถลน
กบเห็นรีบกระซิบบอกเนียน “ตาคุณสนถลนยังกะตางูตอนจะปล่อยพิษฉกเหยื่อ”
เนียนไม่อยากดู รีบถอยตัวออกไปให้พ้นโดยเร็ว มีสายตาของขุนภักดีมองตามบ่งบอกความรู้สึกรักและเป็นห่วงอย่างไม่ปิดบัง
ทองจันทร์เห็นจึงกระแอม นั่นแหละท่านขุนจึงหันมากินอาหารต่อ

ฟากสนกลับมาถึงเรือน ก็เอาแต่นอนร้องไห้คร่ำครวญ มีช้อยนั่งพูดประจบเอาอกเอาใจ
“พี่ขุน มองนางเนียนตาเป็นมัน เหมือนอยากจะกินมัน”
“ใช่เจ้าค่ะ...วันนี้กินพุงปลาของมัน อีกไม่นานท่านขุนกินพุงนางเนียนแน่”
“ข้าทนไม่ได้ ข้าเจ็บที่นี่” สนชี้ใจตัวเอง ยิ่งคิดยิ่งแค้น “นางเนียนมันแกล้งทำเซ่อซ่าเงอะงะให้ดูน่าสงสาร น่าหมั่นไส้แท้ๆ”
“ใช่แต่ท่านขุนเท่านั้นที่มองมันอย่างเอ็นดู ทองจันทร์ คุณนายเรียมก็ให้เอ็นดูมัน ช้อยบอกแล้วไงเจ้าคะ ว่าสองคุณนายนั่น วางแผนแก้ลำคุณสน วางแผนดึงท่านขุนกลับ โดยใช้นางเนียนเป็นเหยื่อล่อ”
“แล้วก็ดูท่าว่าพี่ขุนก็เต็มใจจะฮุบเหยื่อด้วยสิ ช้อยเอ็งต้องช่วยข้าดึงพี่ขุนกลับมาหาข้า”
“ต้องตัดไฟแต่ต้นลมเจ้าค่ะ...ของแบบนี้ขืนรอนานไปจะกลายเป็นว่า กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ คุณสนตกกระป๋องแน่นอน”
สนโมโหมาก “โอ๊ย...หยุดพูด เอ็งอย่าเอาลูกกำนันอย่างข้าไปเปรียบลูกชาวนาอย่างมันใครเป็นถั่วใครเป็นงาบ้าบอคอโป่ง”
“คุณสนลูกกำนันก็เป็นงาสิเจ้าคะงา...ส่วนนางเนียนลูกชาวนามันก็เป็นถั่ว งามันแพงถั่วมันถูกกว่าเจ้าค่ะ”
สนยิ้มร้ายออกมา “พอที...ข้าอยากรู้เรื่องตัดไฟแต่ต้นลมของเอ็ง”
“ทำร้าย ทำลาย กลั่นแกล้ง เสือกไสไล่ถีบนางเนียนมันทุกวิถีทาง ก่อนที่มันจะกลายเป็นเมียของท่านขุนเจ้าค่ะ แต่ช้อยละหวั่นใจว่าจะไม่พ้นคืนนี้”
สนยิ่งแค้นแทบกระอัก “โอ๊ย...ช้อยเอ็งอย่าพูดให้ข้าใจหาย เอ็งต้องรีบทำอะไรก็ได้ตอนนี้เดี๋ยวนี้ ให้พี่ขุนมาเรือนข้า”
“เจ้าค่ะ…เพื่อคุณสน ช้อยจะตะลีตะลานไป บอกท่านขุนว่าคุณสนตัวร้อนเหมือนไฟลน”
“แต่ข้าร้อนที่ใจ ไม่ใช่ที่ตัว พี่ขุนจะมาหรือ”
“เชื่อหัวอีช้อยเถิดเจ้าค่ะ ท่านขุนตะลีตะลานมาหาคุณสนแน่นอนเจ้าค่ะ นอนครางฮือๆ..เข้าไว้อย่าหยุด เดี๋ยวช้อยจะให้พวกในครัวต้มน้ำร้อนมาให้คุณสน”
สนนอนครางฮือๆๆ ช้อยรีบออกไป

เนียนจัดดอกไม้สวยงาม เรียมมองยิ้มอย่างพอใจ ทองจันทร์ที่อยู่ด้วยก็พยักหน้าเห็นงามตามกัน
“แค่แนะให้ดูที่ปักอยู่นิดหน่อยก็จัดดอกไม้ใช้ได้แล้วนี่เนียน”
“มะนาวกลมเกลี้ยงไม่ต้องมีคนคลึง เห็นตัวอย่างของเก่าที่มีอยู่ ก็ทำได้” คุณนายว่า
ระหว่างนั้นขุนภักดีโผล่หน้าเข้ามาในห้องพระ
“เรียมจ๋า...พี่มาขอกราบพระด้วยคนนะจ้ะ”
ทองจันทร์รู้ทันลูกชายหันไปค้อนขวับ
“พ่อเทพจะมากราบขออะไรพระ”
“ขอให้คุณแม่สุขภาพแข็งแรง ขอให้เรียมกับผมมีลูกสักคน”
เรียมทำหน้าเฉยๆ ส่วนเนียนรีบก้มหน้างุด
“มาสิคะ พี่เทพ เนียนเขยิบให้ท่านขุนนั่งสิ”
เนียนเขยิบทำให้ท่านขุนต้องนั่งแปะใกล้เนียน
จังหวะนั้นช้อยโผล่พรวด คลานกระหืดกระหอบเข้ามา มีกบพยายามทัดทาน
“ท่านขุนเจ้าขา คือว่า…”
“ช้อยเอ็งกล้าสาระแนมาถึงห้องพระเรือนข้าทำไม” คุณนายนึกฉุน ไม่พอใจมาก
“กบห้ามแล้วเจ้าค่ะ แต่ช้อยเขาว่าเรื่องใหญ่เจ้าค่ะ”
“มีเรื่องใหญ่อะไรรึ...ช้อย” เรียมถาม
“คุณสนเจ้าค่ะ...ตัวร้อนจี๋ยังกับถูกไฟลน” ช้อยบอก
“ป่วยไวยังกับเล่นกล เมื่อตอนเย็นยังเห็นลอยหน้าลอยตาเถลือกถลนเหมือนตางูเห่า” หญิงชราแขวะอย่างรู้ทัน
“พี่เทพไปดูแม่สนเถิดค่ะ” เรียมบอก
ท่านขุนส่ายหน้า
“พี่ไม่ใช่หมอ ช้อยเอ็งไปบอกนายเอก ให้มันไปตามหมอสุขศาลา บอกว่าข้าให้มาดูอาการแม่สน”
ช้อยแทบทรุด แผนไม่เป็นไปดั่งคาด
“นางช้อย ท่านขุนให้ตามหมอยามารักษาทำไมเอ็งทำหน้าจะเป็นจะตาย หรือว่าเอ็งอยากได้หมอตำแยไปรักษาอาการไข้นายเอ็ง” ทองจันทร์ตะเพิด

ช้อยรีบถอยถดตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
ด้านสนกำลังเอาลูกปะคบร้อนๆ ปะคบตามหน้าตาเนื้อตัวและแขน ยินเสียงประตูห้องเปิด สนยิ้มย่อง

“แผนการสำเร็จ พี่ขุนมาแล้ว”
สนรีบกระโดดกลับนอนห่มผ้าคลุมโปงครางฮือๆ
ช้อยเดินเข้ามาหน้าตาหงุดหงิดทำท่าขัดใจ มองไปที่สนนอนคลุมโปง รู้ว่าเจอด่าแน่ ช้อยเดินมานั่งทรุดตัวข้างๆ สน แตะไปที่ผ้าห่ม สนทำเป็นสั่นสะเทิ้ม
“หนาว..โอ๊ยหนาว ฮือๆ พี่ขุนขาสนหนาวใจจะขาด”
ครู่ต่อมา เอกเดินนำหมอจากสุขศาลาถือกระเป๋าหมอตามเข้ามา
“คุณสนเจ้าขาช้อยเองเจ้าค่ะ”
สนดึงผ้าคลุมหัวออก ทำสั่นสะเทิ้ม มองไปกลายเป็นเอกพาหมอจากสุขศาลามา
“นางช้อย เอ๊ะ” สนมองช้อยอย่างโกรธขึ้ง แล้วหันไปว่าเอก “ไอ้เอก เอ็งทะลึ่งเข้ามาในห้องข้าทำไมนางช้อยไหนเอ็งว่าจะไปตาม...”
“เจ้าค่ะ...ช้อยไปตามท่านขุน ท่านขุนให้ช้อยไปตามนายเอก สั่งให้นายเอกไปตามหมอจากสุขศาลามาเจ้าค่ะ”
สนกริ้ว “อีช้อย...”
“กระผมขออนุญาตตรวจอาการคุณสนนะขอรับ”
“ไม่ให้ตรวจ ข้าหายแล้ว ช้อยเอ็งไล่นายเอกกับหมอไปให้พ้นจากเรือนข้าเดี๋ยวนี้”
หมองง แต่เอกยิ้มพยักหน้ากับหมอ
“หายเพราะตัวเชื้อไข้คุณสนมันกลัวหัวหดเพราะเจอหมอน่ะขอรับ”
สนตวาด “บอกให้ไป”
เอกยิ้มอย่างรู้ทัน
พอหมอออกไปจากห้องกับเอกแล้ว สนลุกพรวด เอาหม้อดินที่ช้อยใส่น้ำร้อนทุ่มโครมลงกับพื้นน้ำร้อนกระจาย ระบายอารมณ์ ช้อยกระโดดหลบแทบไม่ทัน สนไล่ทุบตีช้อยพัลวัน
“คุณสนเจ้าขาช้อยทำสุดฝืมือแล้วนะเจ้าคะ...แต่ทำไมมันกลับตาลปัตร”
“เพราะเอ็งเอาฝีตีนทำต่างหาก มันถึงเป็นอย่างนี้” สนโมโหมาก
ช้อยไม่วายเสี้ยมหาเรื่องเนียน “ฟังนี่ดีกว่าเจ้าค่ะ อยู่ดีๆ...ท่านขุนอยากจะกราบพระขึ้นมา เพราะนางเนียนมันทำดอกไม้ถวายพระแน่ๆ เจ้าค่ะ”
“โอ๊ย...ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากฟังชื่อมันอีกแล้ว นางตัวกากี”
“ฟังอีกนิดเดียวเจ้าค่ะ นี่ขนาดมันเหยียบบ้านท่านขุนไม่ทันข้ามคืน คุณสนยังตกกระป๋องแล้วนะเจ้าคะ ไม่ถีบก็เหมือนถีบ”
“อีช้อย...กูจะถีบมึง”
สนถีบช้อยโครมใหญ่

ฝ่ายท่านขุนไหว้พระเสร็จแล้ว
“แม่ไหว้พระเสร็จแล้ว แม่จะเข้านอนก่อนละ พ่อเทพแม่เรียม” ทองจันทร์บอก
“เชิญเจ้าค่ะ...คุณแม่ เนียนจ๊ะ ช่วยนั่งรอจนธูปไหม้หมดก้าน แล้วค่อยกลับห้องนะ”
“เจ้าค่ะ” เนียนก้มหน้าพูด
“ไปกันเถิดเจ้าค่ะ พี่เทพ”
เรียมกับท่านขุนพากันเดินออกไป เนียนแอบเงยหน้าปรายตามองตาม ท่านขุนหันมาพอดี เนียนรีบก้มหน้างุดต่อ

ส่วนที่บ้านแพน พินัยกรรมของน้อมเขียนเสร็จ โดยแพร มีโพล้งอุ้มแดงน้อยเอาไว้
“จะเซ็นชื่อยังไงกันล่ะ ลุงน้อม เขียนหนังสือไม่เป็นนางแพร”
“ใครเขาเซ็นชื่อกัน เขาปั้มนิ้วมือกันตะหาก ตาโพล้ง นี่หมึกปั๊มนิ้วให้ลุงน้อมปั๊มมือแทนการเซ็นชื่อ”
แพรจับนิ้วน้อมมาจุ่มหมึกกดลงไปบนกระดาษพินัยกรรม
“พวกข้าอ่านไม่ออก แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าเอ็งเขียนตามที่ลุงน้อมบอก” โพล้งตั้งแง่เอากับเมีย
“ไอ้โพล้ง วอนโดนถีบตกเรือนจริงๆ เอ็งนั่นแหละปั๊มนิ้วเป็นพยานซะ”
โพล้งเอานิ้วจุ่มหมึกกดลงไปบนกระดาษ น้อมยิ้มสมใจ มองแดงน้อยอย่างเอ็นดู
“แดงน้อยเอ๊ย...ตา ไม่ห่วงอะไรแล้ว ตาตายตาหลับแน่ๆ”
“อ้าว แล้วจะหลับสนิทได้ยังไง ไม่ห่วงพี่หนักบ้างหรอกรึ” โพล้งว่า
แพรแอบทุบโพล้ง น้อมถอนใจ
“อย่าได้เอ่ยชื่อมันให้กูได้ยินอีก กรรมใดที่มันก่อให้เป็นไปตามเวรตามกรรมของมัน ไอ้หนักมันทำให้กูช้ำใจที่สุด”
น้อมพูดไปน้ำตาก็ไหล

ภายในห้องนอนของเนียน ด้านหลังเรือนใหญ่ ซึ่งเป็นเรือนแถวชั้นเดียวของพวกคนงานและคนใช้
กบนอนหลับอยู่ในมุ้ง ส่วนเนียนให้นึกห่วงพ่อห่วงลูกห่วงคนที่บ้านแพน ผุดลุกผุดนั่ง จนกบตื่น
“เป็นอะไรเนียน เดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่ง”
“ชั้นเป็นห่วงพ่อจ้ะ แกไม่สบายเรื้อรัง ยังจะพายเรือกลับบ้านแพนตามลำพังคงจะเหนื่อยแย่ ดีไม่ดีจะป่วยเอา”
“ป่วยจริง เขาก็ส่งข่าวมาเองแหละน่า นี่ ถามจริง หน้าตาสวยๆ อย่างนี้มี มีคู่รักรออยู่ที่บ้านแพนใช่ไหม”
คำพูดซื่อๆ เล่นเอาเนียนสะดุ้ง เสียงผู้เป็นพ่อดังก้องในหู
“เนียน จำคำพ่อเอาไว้ อย่าได้บอกใครว่าเอ็งมีผัวมีลูก มีพี่ชื่อ..ไอ้เสือหนัก”
เนียนเลยส่ายหน้า
“ไม่มีใครมาเหลือบแลผู้หญิงยากจนมอมแมมอย่างชั้นหรอกพี่กบ”
“เนียนเป็นเพชรในตม ถูกค้นพบโดยคุณนายเรียม ตอนนี้กำลังส่องประกายที่นี่ ถามจริงๆ ท่านขุนท่านพูดอะไรหรือทำอะไรเนียนมากกว่าเรียกชื่อผิด จำเสื้อผ้าผิด” กบเล่นโวหาร แล้ววกกลับมาเรื่องเมื่อเย็น
“เอ้อ เปล่าจ้ะ”
“ตอบไม่เต็มเสียง ชั้นเคยแอบเอ๊ยบังเอิญเห็น ท่านขุน ท่านย่องไปด้านหลังคุณนายเรียมแล้วขโมยกอดจูบ”
กบหัวเราะคิกคัก เนียนสุดจะเขินอาย จึงลุกไปยืนที่หน้าต่างห้อง นึกถึงตอนที่ท่านขุนมาโอบกอดจากด้านหลัง แถมหอมแก้มเรียกชื่อแม่เรียมจ๋า
เนียนคิดแล้วใจเต้นไม่เป็นส่ำ

ขณะเดียวกันเรียมนอนสงบนิ่ง แต่ไม่หลับ ส่วนท่านขุนเริ่มจากนอนหงาย ทอดถอนใจ เพราะในหัวเห็นแต่ภาพเนียนตกใจตอนโดนขโมยกอดจูบจากด้านหลัง
ท่านขุนพลิกซ้าย ทอดถอนใจ เรียมปรายตามองเงียบๆ
ภาพเนียนภาพเดิมตามมารบกวนขุนภักดีอีก
ท่านขุนทอดถอนใจซ้ำ เรียมปรายตามอง ท่านขุนพลิกขวา เรียมหันมามองแอบถอนใจเบาที่สุด
ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีแต่ภาพเนียนตามมารบกวนอีก จนท่านขุนลุกขึ้นมานั่งสลัดหัวแรงๆ
“พี่เทพไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“เปล่าจ้ะ ขอโทษนะเนียน เอ๊ยเรียม พี่นี่แย่จริง พลิกตัวจนเรียมนอนไม่หลับ”
“เรียมยังไม่หลับต่างหากเจ้าค่ะ”
“เรียมหลับเถิด พี่จะออกไปนั่งรับลมที่หน้าเรือนสักครู่”
ขุนภักดีหันมาโอบกอดเรียมก้มลงหอมแก้ม แล้วผละเดินออกไป เรียมมองตามครุ่นคิด เริ่มปะติดปะต่อว่าอะไรทำให้ท่านขุนนอนกระสับกระส่าย
เรียมเผลอตัวอุทานออกมา “เนียน”
แต่สีหน้าของเรียมยังคงสงบนิ่งเช่นเดิม

ทางด้านสนยัง ไม่เลิกคลุ้มคลั่ง อาละวาดและไปลงที่ช้อย ช้อยก็หาทางช่วยสุดฝีมือ
“นางเนียนมันก็แค่ลูกชาวนาไม่มีปัญญาเอาเงินมาไถ่ที่นาดอก”
“นั่นสิเจ้าเจ้าคะ คุณสนลูกสาวกำนันมีแต่พวกมันจะเอานามาจำนอง จะพ่ายแพ้มันไม่ได้เจ้าค่ะ”
“มันบริสุทธ์ผุดผาดมาหรือเปล่า หรือว่าพ่อมันจับใส่ตะกร้าล้างน้ำมาตบตาผู้คน”
“นั่นสิเจ้าคะ ไม่อยากจะเชื่อว่ามันบริสุทธิ์ผุดผาดไม่เคยต้องมือชายมาก่อน”
“ข้าจะทำยังไงให้พี่ขุนคิดว่ามันโดนจับใส่ตะกร้าล้างน้ำมาเล่า”
“แหม คุณสนเจ้าขา ก็ไอ้บริสุทธิ์นี่มันร่อนใส่ตะกร้าล้างน้ำมา ใคร้จะไปจับได้ คุณสนเองก็รู้อยู่แก่ใจตัวนี่เจ้าคะ ว่ามันมองกันไม่ออก
สนตวาดแว้ด “อีช้อย หยุดนะ” ที่แท้สนเคยมาก่อน “เอ็งสาบานไว้ว่ายังไง”
“ช้อยไม่ทวนคำสาบานหรอกเจ้าค่ะ ช้อยจะให้มันตายไปกับช้อยเจ้าค่ะ”
ช้อยเงียบงันไป แล้วสนก็ตื่นเต้นมองไปที่นอกหน้าต่าง
“จำคำพูดเอ็งไว้ ว้าย...ช้อย เอ็งรีบไปเอาน้ำร้อนมาประคบหน้าข้าใหม่ ไวไวเข้า”
“จะปะคบไปตบตาใครอีกล่ะเจ้าค่ะ”
สนชี้ลงไปข้างล่าง “โน่น พี่ขุนเดินมาโน่นแล้ว กำลังตรงมาทางเรือนข้า”
สนรีบนอนลง ช้อยวิ่งให้วุ่นไปหมด
ขุนภักดีเดินมาทางเรือนของสนจริงๆ แต่มาหยุดห่างออกไป ช้อยวิ่งพรวดพราดยกหม้อน้ำร้อนมาเจอเอาท่านขุนช้อยหยุดกึก
“ช้อย แม่สนเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่ค่อยดีเจ้าค่ะ เออ... ตัวยังร้อนจี๋”
“ข้าสั่งให้ไปตามหมอเอ็งไม่ได้บอกไอ้เอกให้ไปตามหรือ”
“บอกแล้วเจ้าค่ะหมอเอ้อ ก็มาแล้วเจ้าค่ะ”
“มาแล้วก็ดีแล้ว เดี๋ยวก็หายเอง”
“เอ้อ เชิญเจ้าค่ะ ท่านขุน คุณสนรออยู่เจ้าค่ะ”
“ไม่ต้องรอข้า”
พูดจบท่านขุนก็เดินเลี้ยวไปทางท่าน้ำ

ช้อยยืนงงอ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก เผลอทำหม้อน้ำร้อนหล่นใส่เท้าตัวเองจนต้องกระโดดเหยง
สนนอนป่วยการเมืองรอช้อยรอท่านขุนอยู่ในห้อง ครู่หนึ่งเห็นช้อยเดินเขยกเท้าขึ้นมา

“เร็ว ไหนเล่าน้ำร้อน”
“ตกแตกไปแล้วเจ้าค่ะ”
“เอ็งนี่โง่จริง เดี๋ยวพี่ขุนขึ้นมาก็จับได้ว่าข้าปดเอาหรอก”
“จับไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”
“ทำไม” สนงง
“ท่านไปแล้วเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ นี่นี่...”
“นี่สันนิษฐานได้ว่า คุณสนตกกระป๋องแล้วจริงๆ เจ้าค่ะ” ช้อยว่า

อ่านละคร อาญารัก ตอนที่ 2 วันที่ 23 มี.ค. 56

ละครเรื่อง อาญารัก บทประพันธ์ : จำลักษณ์
ละครเรื่อง อาญารัก บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
ละครเรื่อง อาญารัก กำกับการแสดง : จรูญ ธรรมศิลป์
ละครเรื่อง อาญารัก แนว ดราม่า
ละครเรื่อง อาญารัก ผลิต : บริษัทดีด้าวิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง อาญารัก ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง อาญารัก ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager