อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 5 วันที่ 21 ส.ค. 56

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 5 วันที่ 21 ส.ค. 56

หมอผีเฒ่าขี่ม้ารอนแรมในทะเลทรายจะไปตามตำรวจมาจับตัวชารีฟกลับพบแต่พวกเบดูอินเร่ร่อน จึงขอให้พวกนั้นช่วยพาไปที่ไหนก็ได้ที่มีกองตำรวจทะเลทราย พวกนั้นอยากรู้ว่าเขาจะไปพบตำรวจทำไม
ชารีฟซึ้งใจที่มิเชลล์เชื่อมั่นในตัวเขา อดโทษตัวเองไม่ได้ที่พาเธอสู่ความตาย ทั้งๆ ที่พวกกบฏต้องการชีวิตเขาเพียงคนเดียว แล้วถามเธอว่ากลัวความตายไหม เธอไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นตราบที่เขาอยู่เคียงข้าง ทั้งคู่แยกย้ายกันตรวจดูข้าวของเผื่อจะเหลืออะไรบ้าง พวกโจรขนเสบียงอาหารไปหมด เหลือเพียงผ้าห่มกับเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้น

มิเชลล์เดินโขยกเขยกสำรวจรอบๆอีกครั้ง ถึงกับยิ้มออกเมื่อเห็นถุงใส่ส้มที่ซื้อมาจากตลาดในเมืองซากากาหมกอยู่ในทราย รีบคว้าไปนั่งกินด้วยกัน ชารีฟช่วยตรวจดูข้อเท้าที่บาดเจ็บของเธอให้ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์


“ขาของเธอสวยเหลือเกินมิเชลล์” ชารีฟพึมพำเบาๆ มิเชลล์ดึงขากลับต่อว่า ว่าเรากำลังจะตายอยู่แล้วเขายังมีอารมณ์แบบนี้อีก ชารีฟรู้ดีว่ากำลังจะตายถึงพยายามตักตวงทุกอย่างท่ีเรียกว่าความสุขให้กับตัวเองแล้วเกิดฮึดสู้ขึ้นมา ตัดสินใจจะไม่นั่งรอความตายอยู่ตรงนี้ จะเดินทางไปให้ถึงโอเอซิสใกล้เมืองอานาอิชาให้ได้

ooooooo

หลังจากเดินเท้ามาทั้งคืนจนสว่างคาตา ชารีฟกับมิเชลล์หยุดตั้งกระโจมนอนพักเอาแรง กว่าจะตื่นอีกทีพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว มิเชลล์อยากให้ขาของตัวเองหายเร็วๆ จะได้เดินทางได้คล่องตัวขึ้น แต่คงจะไปได้ไม่ไกลอยู่ดี เพราะเรามีเพียงส้มไม่กี่ลูกที่ใช้ประทังชีวิต เขามองสบตาเธอก่อนจะรั้งตัวมากอด

“ถ้าเราจะตายที่นี่ ก็ขอให้สมใจในความรักเถอะมิเชลล์ ถ้าเราโชคดีได้หลุดพ้นขุมนรกแห่งนี้ เธอยังจะกลับฝรั่งเศสอีกหรือเปล่า”

มิเชลล์ทนกับประเพณีที่จะให้ฝ่ายชายมีเมียอีกสามคนนอกจากเธอไม่ได้ ถ้าพ้นไปจากที่นี่ได้เธอจะกลับปารีส แล้วขอร้องให้ชารีฟปล่อย เขาไม่ยอมให้เธอจากไปไหนเด็ดขาด พรมจูบไปทั่วตัวพลางถามเสียงเครือว่ารักเขาแล้วใช่ไหม หญิงสาวหลับตานิ่งไม่ยอมตอบ ชารีฟให้สัญญาด้วยเกียรติยศของตัวเองว่าครอบครัวของเราจะมีเพียงพ่อ แม่ และลูก จะไม่มีคนอื่น มิเชลล์ตาเป็นประกายด้วยความพอใจ

“ดิฉันขอโทษที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่ดิฉันเป็นคนขาดความรัก แล้วก็กลัวว่าความรักที่ได้ไปจะไม่ยั่งยืน ถึงจะรู้ว่าทุกคนจะต้องเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น เพราะคำมั่นสัญญาของท่านขณะนี้อาจจะเป็นสิ่งไร้ค่าในอนาคต”

ชารีฟจับไหล่มิเชลล์ให้นอนลงอย่างทะนุถนอม ความรักที่ล้นหัวใจพาให้ทั้งคู่สมปรารถนาในที่สุด...

ขณะที่มิเชลล์รับรักจากชารีฟด้วยความเต็มใจ องค์โอมานถึงกับตบโต๊ะอย่างโกรธเกรี้ยวที่ยังหาตัว

ชารีฟไม่พบ เก็บความแค้นคับอกไประบายใส่เจ้าหญิงสุไบดากับไบคาน แต่เธอหาเกรงกลัวเขาไม่ ยังคงปิดปากสนิทไม่ยอมบอกว่าลูกชายอยู่ไหน...

ทางด้านมิเชลล์เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ยิ่งขาดทั้งน้ำและอาหารยิ่งทำให้ร่างกายเธอแทบไม่มีแรงจะยืนด้วยซ้ำ ชารีฟขอให้เธออดทนอีกหน่อย พ้นเนินใหญ่ข้างหน้าจะถึงเมืองร้าง มีตึกเก่าๆ พอให้เราสองคนได้หลบลมหนาว หญิงสาวพยักหน้าทั้งที่ยังหลับตา แล้วนิ่งเงียบไป ชารีฟใจไม่ดีพยายามเรียกให้เธอได้สติ

“ดิฉันยังอยู่ ยังไม่เป็นอะไร” มิเชลล์พยายามปรือตามอง แต่สุดท้ายก็นิ่งไปอีก ชารีฟกัดฟันประคองหญิงคนรักเดินทางต่อไป เธอขอให้ทิ้งเธอไว้ที่นี่ เขายังมีภาระที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติ อย่าให้เธอต้องเป็นตัวถ่วง

“ไม่ได้ เราจะต้องไปด้วยกัน เธอจะให้ฉันทิ้งเมียของตัวเองได้ยังไง” ชารีฟกัดฟันพาหญิงคนรักไปถึงเมืองร้างจนได้ เทพแห่งโชคยังเข้าข้างทั้งคู่ ที่นั่นมีกองคาราวานตั้งค่ายพักอยู่ ติเยาะซึ่งอยู่ในกองคาราวานด้วย จำคุณครูใจดีที่ให้เงินเธอกับลูกได้ ขอร้องอาลีพี่ชายของเธอให้ช่วยเหลือ

อาลีคิดว่ามิเชลล์เป็นผู้ชายไม่ยอมให้น้องสาวเข้าไปช่วยทั้งๆ ที่เธอยืนยันว่าคุณครูเป็นผู้หญิง ชารีฟต้องช่วยยืนยันอีกแรงหนึ่งว่าคนที่หมดสติคนนั้นเป็นเมียของเขาเอง...

ในที่สุดอาลีก็ยินยอมให้มิเชลล์กับชารีฟมากับกองคาราวานของตนจนถึงโอเอซิสใหญ่ใกล้เมืองอานา–อิชาแม้จะได้ปันอาหารและน้ำดื่มจากติเยาะ แต่ไม่เพียงพอทำให้อาการของมิเชลล์ดีขึ้นจนชารีฟอดเป็นกังวลไม่ได้ โชคร้ายของทั้งคู่ยังไม่หมด อาลีไม่ต้องการให้สองผัวเมียเดินทางต่อไปกับกองคาราวานของพวกตน จะทิ้งทั้งคู่ไว้ที่โอเอซิสแห่งนี้ ติเยาะพยายามขอร้อง แต่อาลียืนกรานคำเดิม เธอจึงนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้ชารีฟทราบ

“ข้าเสียใจนัก ข้าไม่มีปัญญาช่วยอะไรครูได้เลย ยกโทษให้ติเยาะด้วยนะครู”

ชารีฟถอนใจหนักใจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเช็ดตัวให้มิเชลล์ซึ่งนอนซมด้วยพิษไข้ เหรียญตราที่ห้อยคอเขาหลุดออกจากเสื้อ ติเยาะมองเห็นชัดเจน พรวดพราดกลับไปหาพี่ชาย เล่าเรื่องที่เห็นเหรียญตราและมีดสั้นที่มีลวดลายเหมือนของที่ใช้ในวังหลวงให้ฟัง สองพี่น้องรีบตรงไปยังกระโจมหลังใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ด้านในสุดของโอเอซิส ครู่ต่อมา ทหารนำตัวทั้งคู่เข้าพบหัวหน้าของที่นั่นซึ่งนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ในกระโจม รายล้อมด้วยเหล่าทหาร

อาลีกับติเยาะรู้สึกถึงอำนาจในตัวชายผู้นี้ ทรุดตัวคุกเข่าตรงหน้า อาลีรายงานว่าพวกตนได้อุปการะชายคนหนึ่งกับเมียของเขาซึ่งถูกปล้นหมดตัว เมียเป็นคนนอกศาสนา ไม่ได้คลุมหน้าเพราะเธอแต่งตัวเป็นผู้ชาย

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 5 วันที่ 21 ส.ค. 56

ละครฟ้าจรดทราย ประพันธ์โดย โสภาค สุวรรณ
ละครฟ้าจรดทราย บทโทรทัศน์โดย ศัลยา สุขะนิวัตต์
ละครฟ้าจรดทราย กำกับการแสดงโดย สยาม สังวริบุตร
ละครฟ้าจรดทราย ผลิตโดย ค่าย ดาราวิดีโอ
ละครฟ้าจรดทราย ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี
ละครฟ้าจรดทราย เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2556
ที่มา ไทยรัฐ