อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 2 วันที่ 9 ส.ค. 56

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 2 วันที่ 9 ส.ค. 56


เจ้าชายโอมานทำตามที่ลั่นวาจาไว้ สั่งให้ร้อยเอกหะยี ทหารในสังกัดนำกำลังส่วนหนึ่งซึ่งปลอมตัวเป็นกองโจรเบดูอินไปดักฆ่าชารีฟระหว่างเดินทางไปชายแดน ฝ่ายชารีฟและการิมทหารคนสนิทมีกำลังน้อยกว่าจึงเสียเปรียบถูกฆ่าตายเป็นเบือ แต่ทุกคนต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์

หะยีซึ่งแอบซุ่มอยู่รอบนอกใช้ปืนยาวเล็งไปที่ชารีฟ ขณะเหนี่ยวไกปืน หัวหน้าทหารลูกน้องของหะยีแสร้ง เสียหลักไปชนเต็มแรง แต่กระสุนยังคงพุ่งเข้าลำตัว ชารีฟถึงกับผงะล้มลง ก่อนที่ฝ่ายชารีฟจะเพลี่ยงพล้ำมากไปกว่านี้ ยูโซปคนของนายพลมุสกัตยกกำลังมาช่วยไว้ทัน หะยีตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบบ้างจำต้องล่าถอยไปในที่สุด


ไม่นานนัก ชารีฟถูกนำตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บยังบ้านพักของนายพลมุสกัตซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอานาอิชาส่วนหะยีกลับไปรายงานความล้มเหลวให้เจ้าชายโอมานซึ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อทราบเรื่อง...

ทันทีที่ชารีฟฟื้น การิมกับยูโซปพาหัวหน้าทหารของหะยีที่ช่วยชีวิตชารีฟมาเยี่ยมพร้อมกับรายงานว่าหัวหน้าคนนี้บอกว่าแผนการลอบฆ่าครั้งนี้เป็นฝีมือเจ้าชายโอมาน จังหวะนั้น นายพลมุสกัตตามมาสมทบ การิม ยูโซปและหัวหน้าทหารพากันออกไปรอข้างนอก นายพลมุสกัตกระซิบกับชารีฟว่า

“ข้ารู้เรื่องจากการิมแล้ว ข้าเองก็วิตกในความทะเยอทะยานของพระอนุชาโอมานอยู่เหมือนกัน”

ชารีฟมั่นใจว่าเจ้าชายโอมานต้องก่อกบฏแน่ นายพลมุสกัตรีบบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ทหารส่วนใหญ่ที่ชายแดนนี่ล้วนเลื่อมใสศรัทธาในตัวชารีฟ และการที่เจ้าชายโอมานแกล้งส่งตนมาอยู่ชายแดนอย่างนี้ดีแล้ว ตนจะได้คอยรวบรวมผู้คนอยู่ทางนี้ ชารีฟรู้จากอะมีนาแค่ว่าท่านนายพลสบายดี

“ข้าติดต่อกับอะมีนาลูกสาวข้าไม่ได้ขาด รู้เรื่องราวภายในดี พระอนุชาทรยศแน่นอน เชื่่อคำคนแก่เถิด”

ooooooo

เมื่อกลับมาถึงวังในหลายวันถัดมา ชารีฟไม่ได้รายงานเรื่องที่เจ้าชายโอมานส่งคนไปลอบสังหารตนเองให้องค์อาหเม็ดทราบ ได้แต่เตือนพระองค์ให้ระวังตัวเท่านั้น แต่องค์อาหเม็ดกลับไม่ใส่ใจ บอกว่าทีหน้าทีหลังไม่ต้องไปพบนายพลมุสกัตบ่อยๆก็ได้ บ้านเมืองสงบดีแล้ว ฝากไปบอกทางนั้นด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง

“ถึงอย่างนั้นก็ต้องระวังและเตรียมพร้อมอยู่เสมอพระเจ้าข้า”

“ตามใจ อ้อ...เราจะไปเมืองอิชฟาอัคพรุ่งนี้นะชารีฟ เอ่อ มีอะไรจะให้ช่วยหน่อย ช่วยไปรับมาดมัวแซลล์ เดอลาโรนีส์มาหาเราหน่อย”

แม้สีหน้าของชารีฟจะนิ่งเฉย แต่ภายในกลับปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก...

ขณะชารีฟกับการิมออกมาที่หน้าพระราชวัง เจอเจ้าชายโอมานเดินมากับหะยีพอดี เจ้าชายรู้ดีว่าชารีฟไม่กล้าโวยวายเรื่องที่ถูกลอบฆ่า แกล้งใช้ดาบตีไปตามตัวเขาเพื่อให้โดนแผลที่ถูกยิง ชารีฟกลับยืนนิ่งไม่แสดงอาการใดๆ ทั้งที่เจ็บมาก แต่พอเจ้าชายโอมานลับสายตา ชารีฟถึงกับทรุดฮวบ การิมต้องเข้าไปช่วยประคอง...

ในเวลาต่อมา เจ้าหญิงฟารีดาเรียกให้มิเชลล์มาพบที่ห้องประทับ เพื่อแจ้งว่าคืนนี้สี่ทุ่มองค์อาหเม็ดรับสั่งให้เธอเข้าเฝ้า มิเชลล์พยายามถามว่าพระองค์เรียกตนเข้าไปพบด้วยเรื่องอะไร เจ้าหญิงฟารีดาไม่ยอมตอบคำถาม ได้แต่บอกว่าแต่งตัวเสร็จเมื่อไหร่ให้แวะมาให้ท่านดูก่อน...

ฝ่ายมิเชลล์กลับมายังห้องพักตัวเองด้วยความกลัดกลุ้ม เมื่ออะมีนาเข้ามาหา จึงเล่าให้ฟังว่าคืนนี้เธอต้องไปเข้าเฝ้าองค์อาหเม็ด อะมีนาตบมือดีใจเพราะรู้ดีว่า ถ้าหญิงใดถูกสั่งให้เข้าเฝ้ายามค่ำคืนก็แสดงว่าจะได้เป็นพระสนม แล้วเล่าเรื่องที่หมอดูในราชสำนักเคยทำนายไว้ว่า จะมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในวัง เธอคนนี้มาจากดวงดาวที่มีจักรราศีซึ่งอุดมฤกษ์วิเศษสุด เธอจะนำโชคมาให้และจะมีบุตรชายถึง 6 คน บุตรแต่ละคนของเธอจะมีความสำคัญต่อประเทศฮิลฟาราอย่างยิ่งในอนาคต

“ไม่หรอกอะมีนา ฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น”

“องค์อาหเม็ดพระชนมายุห้าสิบเอ็ด แต่ยังไม่แก่นะคะครู แล้วยังไม่มีโอรส”

จังหวะนั้นนางกำนัลของเจ้าหญิงฟารีดาเข้ามาแจ้งว่าเจ้าหญิงรับสั่งให้พาครูมิเชลล์ไปที่ตำหนัก...

ครู่ต่อมา มิเชลล์มาถึงห้องแต่งตัวที่ทั้งโอ่อ่าและโก้หรู นางกำนัลใบ้ 2 คนเข้ามาช่วยชำระเนื้อตัวเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า จากนั้นก็พาไปแต่งตัวในชุดสวยงาม สวมเครื่องประดับพราวไปทั้งตัว ก่อนจะใช้ผ้าโปร่งสีดำคลุมหน้าเธอไว้ เมื่อแต่งตัวเสร็จนางกำนัลพามิเชลล์ไปให้เจ้าหญิงฟารีดาตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ท่านถึงกับทึ่งในความงดงามของเธอ หยิบเครื่องประดับเป็นสร้อยคอห้อยอุบะทองคำที่ประดับด้วยหินสีไข่นกการะเวกเป็นช่อลดหลั่นกันลงมาจนกระทั่งเป็นรูปแหลมที่หว่างอกมาสวมให้

“หินชนิดนี้เป็นเครื่องรางป้องกันทั้งภัยอันตรายและทั้งคนคิดร้าย ทั้งยังนำโชคมาสู่เจ้าของ ฉันให้ครูในคืนอันเป็นสิริมงคลนี้ รักษาให้ดีนะแล้วจะมีโชคลาภอันประเสริฐ ใครคิดร้ายก็จะแพ้ภัยตนเอง หินนี้เรียกว่าเปียรุส เป็นของขลังของพวกเราชาวทะเลทราย”

มิเชลล์คะยั้นคะยอให้เจ้าหญิงฟารีดาบอกความจริงอีกครั้งหนึ่งว่าเหตุใดองค์อาหเม็ดจึงเรียกตนไปพบ แต่ท่านยังคงไม่ปริปากบอกอะไรได้แต่ยิ้มๆ แล้วสั่งให้ไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านหลังตำหนัก...

ชารีฟเป็นคนมารับมิเชลล์ด้วยตัวเอง เธอชวนเขาพูดคุยถามโน่นถามนี่แต่เขากลับตัดไมตรี บอกด้วยเสียงเย็นชาว่า ขณะนี้เธอเป็นแขกในองค์อาหเม็ด เขาไม่มีสิทธิ์จะพูดด้วย หญิงสาวถึงกับอึ้งไปพักหนึ่ง แต่ไม่ละความพยายามที่จะชวนชารีฟคุย เขายังคงปิดปากเงียบ จนมาถึงกลางห้องประทับขององค์อาหเม็ด ชารีฟค้อมหัวให้มิเชลล์แล้วขยับจะไป เธอปราดเข้าไปขวางไว้

“จะบอกได้สักนิดไหมว่า ทานคิดว่าฉันสมควรต้องมาที่นี่หรือ”

ราชองครักษ์หนุ่มไม่ตอบ หันหลังกลับออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย มิเชลล์มองประตูที่ปิดลงอย่างสิ้นหวัง

ooooooo

ขณะที่มิเชลล์ยืนน้ำตาคลออย่างอับจนหนทาง องค์อาหเม็ดก้าวออกมาจากหลังม่าน เดินเข้าไปเลิกผ้าคลุมหน้าเธอออก มิเชลล์สั่นไปทั้งตัวก้มหน้าไม่กล้าสบตาด้วย พระองค์เชยคางเธอขึ้น

“เจ้า เป็นผู้หญิงที่งามยิ่ง ความงามของตะวันตกและตะวันออกผสานกันอย่างพอดิบพอดี ดวงตาของเจ้าทำให้ผู้ชายคลั่งไคล้ โหรยังทำนายอีกว่าเจ้าจะมีลูกชายถึง 6 คนในอนาคต และลูกชายเจ้าจะมีความสำคัญยิ่งต่อฮิลฟารา...น่าเสียดายที่เจ้าเป็นสตรีต่าง ชาติต่างศาสนา ลูกที่เกิดมาจะไม่มีสิทธิ์ในการเป็นกษัตริย์ที่นี่ แต่ฉันก็ยังอยากจะได้เจ้ามาเป็นของฉันอยู่นั่นเอง”

องค์อาหเม็ดเห็น มิเชลล์อิดออด จึงทวงบุญคุณว่าเป็นคนคืนชีวิตให้ เธอจะปฏิเสธพระองค์หรือ แล้วพาเธอไปยังห้องข้างๆ ส่วนที่หน้าห้องประทับนั้น ชารีฟยืนจ้องประตูอยู่อึดใจ ก่อนจะเดินจากไปอย่างปวดใจ...

ฝ่ายมิ เชลล์ถึงกับตัวแข็งทื่อเมื่อเข้ามาเห็นเตียงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง องค์อาหเม็ดเห็นท่าทางของเธอแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู บอกว่าไม่ชอบบังคับฝืนใจใคร ถ้าเธอมีคนอื่นอยู่ในใจก็ขอให้บอก มิเชลล์อ้อนวอนขอความเมตตาให้เวลาตนไตร่ตรองสักสามวันก่อนได้หรือไม่ องค์อาหเม็ดชักจะไม่พอใจทำไมถึงต้องให้รอ

“หม่อมฉันทราบดีว่าพระองค์ ไม่โปรดฝืนใจสตรี พระกรุณาธิคุณในข้อนี้เป็นที่ประจักษ์ทั่วไปนับตั้งแต่หม่อมฉันเหยียบย่างมา ที่นี่ ด้วยเหตุนี้หม่อมฉันจึงปรารถนาจะขอเวลาเพื่อตัดสินใจว่าจะสนองพระประสงค์ของ พระองค์หรือไม่” มิเชลล์อธิบาย องค์อาหเม็ดไม่ขัดข้อง อนุญาตให้เธอกลับไปคิดดูก่อน...

ครู่ต่อมา ชารีฟพามิเชลล์มายังรถที่จอดรออยู่ อดถามไม่ได้ว่าเหตุใดต้องรออีก 3 วัน หญิงสาวปลดผ้าคลุมหน้าออก หันมาเผชิญหน้าด้วยบอกว่าเธอเป็นคนทูลพระองค์เองว่าต้องการเวลาตัดสินใจ

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 2 วันที่ 9 ส.ค. 56

ละครฟ้าจรดทราย ประพันธ์โดย โสภาค สุวรรณ
ละครฟ้าจรดทราย บทโทรทัศน์โดย ศัลยา สุขะนิวัตต์
ละครฟ้าจรดทราย กำกับการแสดงโดย สยาม สังวริบุตร
ละครฟ้าจรดทราย ผลิตโดย ค่าย ดาราวิดีโอ
ละครฟ้าจรดทราย ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี
ละครฟ้าจรดทราย เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2556
ที่มา ไทยรัฐ