อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 3 วันที่ 13 ส.ค. 56

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 3 วันที่ 13 ส.ค. 56

พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ขบวนคาราวานของฟูรอออกเดินทางอีกครั้ง ฟูรอเห็นเด็กหนุ่มเอาแต่นั่งบนหลังอูฐตั้งแต่ออกจากโอเอซิสก็ไม่พอใจ หันไปตำหนิชารีฟว่าตกลงจะเลี้ยงเด็กรับใช้ให้เป็นเจ้านายหรือถึงไม่ยอมให้ลงเดิน ทำราวกับเป็นเมียของเขา แล้วแกล้งถ่มน้ำลายเฉียดหน้ามิเชลล์ ชารีฟจำต้องเออออไปด้วยเพื่อไม่ให้มีพิรุธ

“จริงด้วย เฮ้ย เจ้าตาฟาลงมาเดินเสียดีๆมันจะสบายไปหน่อยแล้วเว้ย ไอ้ไก่อ่อน”


มิเชลล์ลงจากหลังอูฐอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากนั่งมานานพอทิ้งน้ำหนักตัวลงเท้า เข่าก็อ่อนทรุดลงไปกองกับพื้น ชารีฟอดสงสารไม่ได้ แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรได้แต่กระซิบให้อดทนอีกหน่อย ใกล้ถึงโอเอซิสซึ่งเราจะแยกทางกับฟูรอแล้ว มิเชลล์กัดฟันฮึดสู้ ลุกขึ้นเดินจูงอูฐตามขบวนคาราวานไป...

ในที่สุดขบวนคาราวานก็มาถึงโอเอซิสใกล้เมืองโฮไดดะ ฟูรอกับพวกกางกระโจมเพื่อตั้งที่พักแรมเนื่องจากอากาศเริ่มร้อน ชารีฟไม่พักด้วยจะขอแยกทางกับเขาตรงนี้เลย มิเชลล์มองชารีฟตาละห้อยทั้งเหนื่อยทั้งเมื่อย

อยากจะพักใจแทบขาด แต่เขาไม่ยอมสบตาด้วย หันไปเจรจาขอซื้ออูฐ เสบียงและอาวุธจากฟูรอ

“อูฐ 3 ตัว เสบียงกึ่งหนึ่งที่ท่านเหลือ รวมทั้งปืนยาว 6 กระบอก ลูกกระสุน 2 ลัง”

“ท่านรู้ว่าเรามีอาวุธขาย” ฟูรอสีหน้าฉงน

“ถ้าไม่ใช่อาวุธ คงไม่แบกมาอย่างทะนุถนอมแบบนี้หรอก” ชารีฟพยักพเยิดไปทางพวกที่ขนลังใส่อาวุธ ฟูรอตะโกนสั่งให้ลูกน้องของตนขนอาวุธเหล่านั้นมาให้ ชายหนุ่มเตือนให้ระวังพวกกองตำรวจทะเลทราย

“เฮ้ย ไม่กลัวหรอก เราซื้ออาวุธจากทหารของเจ้าชายโอมาน พอรับของแล้วพวกทหารยังตามคุ้มกันเราจนพ้นเขตลาดตระเวนของตำรวจ...ปลอดภัย”

ชารีฟขบกรามแน่น เมื่อรู้ว่าเจ้าชายโอมานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธเถื่อน...

หลังจากขนเสบียงและอาวุธขึ้นหลังอูฐเรียบร้อย ชารีฟและมิเชลล์ออกเดินทางต่อไปทันที พอพ้นระยะที่ฟูรอจะได้ยินเสียง เธอต่อว่าชารีฟว่าทำไมเราถึงไม่พักกันก่อน เธออยากอาบน้ำสระผม เหนียวตัวเต็มทีแล้ว เขาไม่เห็นด้วย ชักอูฐให้เร่งฝีเท้าขึ้นอีก มิเชลล์เริ่มออกฤทธิ์จะขอกลับไปอาบน้ำที่โอเอซิสเมื่อครู่ให้ได้ ชารีฟติงว่าผู้ชายไม่ค่อยชอบอาบน้ำกันเท่าใดนัก ตัวเหม็นแบบนี้ดีแล้ว เธอเถียงคอเป็นเอ็นว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชาย

“ดูโน่น แล้วยังจะอยากตัวหอมไหม” ชารีฟชี้ไปเบื้องหน้าเห็นทหาร 6 นายโพกหัวด้วยผ้ากัฟฟีเยลายแดงกับเขียวควบม้าตรงมาหา เขาสั่งให้เธอขยับผ้าคลุมให้

มิดชิด พยายามหลบๆหน้าแล้วทำเป็นใบ้หูหนวก มิเชลล์รีบทำตามสั่ง เป็นจังหวะเดียวกับทหารขี่ม้ามาถึงพอดี

ชารีฟลงจากหลังอูฐ คำนับนอบน้อมหัวแทบจะโขกพื้น หัวหน้าทหารสั่งให้มิเชลล์ในคราบเด็กหนุ่มลงจากหลังอูฐ เธอนั่งนิ่งทำท่าหงอเต็มที่ เขาชักเคืองตะโกนลั่น

“บอกว่าให้ลงจากหลังอูฐ หูหนวกหรือไง”

“ถูกต้องแล้วขอรับท่าน มันหูหนวกตั้งแต่เกิด เป็นใบ้ด้วย แถมปัญญาก็ยังทึบ มันเป็นเด็กของข้าเอง ชื่อตาฟาขอรับ” ชารีฟรับสำเนียงให้เหมือนพวกเบดูอิน หัวหน้าทหารสั่งให้ลูกน้องไปลากตัวไอ้เด็กหนุ่มนั่นลงมา ลูกน้องหยิบปืนขึ้นมาแล้วชักม้าเข้าหา ชารีฟใจเสียพยายามร้องขอชีวิตแทนเด็กรับใช้ แต่หัวหน้าทหารไม่สนใจ มิเชลล์ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าขยับ ลูกน้องลั่นไกเปรี้ยง ผ้าโพกหัวของเธอกระจุยควันโขมง

พวกทหารพากันหัวเราะชอบใจ ยิ่งเห็นเด็กหนุ่มท่าทางโง่เง่าดิ้นพราดๆร้องอู้อี้แบบคนเป็นใบ้ จะลุกหนีแต่ซวนเซหน้าคว่ำไปบนหลังอูฐเสียก่อน พวกนั้นยิ่งหัวร่องอหาย ชารีฟโล่งใจที่กระสุนถูกแค่ผ้าแสร้งหัวเราะตามแต่ในใจยังหวาดเสียวไม่หาย ลูกน้องชักม้าเข้าไปดูใกล้ๆ

เห็นมิเชลล์ในสภาพมอมแมมเหม็นสาบนอนตาเหลือกไม่ไหวติง ถ่มน้ำลายลงพื้นราวกับเห็นเศษสวะ แล้วควบม้ากลับไปรวมกลุ่ม บ่นกับหัวหน้าว่าซากศพเดินได้ชัดๆ

หัวหน้าสอบถามชารีฟว่าจะไปไหน เขาปั้นเรื่องว่ากำลังจะเอาเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆไปขายให้พวกผู้หญิงชาวเบดูอินตามหมู่บ้านแถบเชิงเขาจาบาลซัมมาร์

“เดินทางมานี่พบชายชาวฮิลฟาราบ้างไหม ข้าได้รับแจ้งจากกษัตริย์องค์ใหม่ โอมานที่หนึ่งว่ามีเชลยยศพันเอกหน้าตาหล่อเหลากับนังผู้หญิงฝรั่งต่างชาติหลบหนีมาทางนี้”

ชารีฟย้อนถามว่ากษัตริย์องค์ใหม่จะจับตัวพันเอกนายนั้นไปทำไม ได้ความว่าเขาทำผิดลักลอบพาพระสนมชาวต่างชาติหน้าตาสะสวยหนี มีคำสั่งให้จับตัวไปวังหลวง หัวหน้าทหารกำชับว่าถ้าเจอสองคนนั่นเมื่อไหร่ต้องรายงานพวกตนทันที แล้วพากันควบม้าไปทางโอเอซิสซึ่งเป็นที่ตั้งค่ายของฟูรอ ชารีฟรอจนพวกนั้นลับสายตา จึงวิ่งไปดูอาการมิเชลล์พร้อมกับใช้ผ้าชุบฉี่อูฐมาอังที่จมูก สักพักเธอค่อยๆ ปรือตาขึ้นมอง แต่พอรู้ว่าเขาให้ดมอะไรเท่านั้น มิเชลล์เป็นลมไปอีกรอบ

ooooooo

เจ้าชายโอมานตามไปรังควานเจ้าหญิงสุไบดามารดาของชารีฟถึงตำหนักของเธอ สั่งให้ทหารรื้อค้นให้ทั่วหาตัวชารีฟมาให้ได้ เจ้าหญิงสุไบดาไม่พอใจมาก บอกอย่างไม่เกรงกลัวว่าถ้าค้นเสร็จแล้วก็ให้รีบไปให้พ้นๆ

“เจ้าน้า อย่าคิดว่าชารีฟจะรอดพ้นเงื้อมมือของหลาน มันหนียังไงก็หนีไม่พ้น ทะเลทรายแค่นี้บินหาสักครึ่งวัน ไอ้มดไอ้ปลวกที่หนีอยู่ก็ไม่พ้นสายตา”

เจ้าหญิงสุไบดามั่นใจว่าเจ้าชายโอมานไม่มีวันหาชารีฟเจอ ถึงเจอก็ไม่มีทางจะยอมตายด้วยน้ำมือของเขาหรือคนของเขาเด็ดขาด เจ้าชายโอมานกระชากแขนเธอเข้ามาใกล้ตวาดใส่หน้าว่าปากอย่างนี้ไม่ตายดีแน่

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 3 วันที่ 13 ส.ค. 56

ละครฟ้าจรดทราย ประพันธ์โดย โสภาค สุวรรณ
ละครฟ้าจรดทราย บทโทรทัศน์โดย ศัลยา สุขะนิวัตต์
ละครฟ้าจรดทราย กำกับการแสดงโดย สยาม สังวริบุตร
ละครฟ้าจรดทราย ผลิตโดย ค่าย ดาราวิดีโอ
ละครฟ้าจรดทราย ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี
ละครฟ้าจรดทราย เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2556
ที่มา ไทยรัฐ