อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 3-4 วันที่ 20 ส.ค. 56

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 3

หลังจากที่ได้รู้ความจริงที่บ้านเด็กกำพร้าทอ–ตะวันแล้ว บื้อขอโทษห่านที่เข้าใจเธอผิด

ระหว่างขึ้นรถเมล์กลับ รถแน่นมากห่านถูกชายร่างใหญ่ฉวยโอกาสแต๊ะอั๋ง บื้อเห็นเลยแทรกตัวไปกั้นกลาง พอดีรถเบรกหน้าบื้อเลยไปถูกแก้มห่าน ถูกห่านผลักออกด่าว่าฉวยโอกาส บื้อเซไปเหยียบเท้าชายคนนั้นเลยถูกมันชกเสียเลือดกำเดากระฉูด ด่าบื้อว่า “มึงเหยียบตาปลากู!”

ส่วนที่ห้างฯ แอปเปิ้ลกับปีโป้ฟ้องดาหลาว่าเมื่อวานฮันนี่มาที่นี่ ทั้งยังทำท่าสนิทสนมกับคุณชายมากด้วย ยุดาหลาว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่งั้นโดนฮันนี่แย่งคุณชายไปแน่ ดาหลากัดฟันคำรามแค้นว่า


“นังฮันนี่...เห็นทีแกกับฉันจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว”

พอกลับถึงห้างฯ ห่านดูแลบื้อที่เลือดกำเดาออกจนดีขึ้นแต่พอบื้อลุกจะเดินไป ห่านยังไม่หายเคืองที่ถูกบื้อหอมแก้มยกเท้าขัดขาหวังแค่ให้สะดุดแต่บื้อดันล้มทับปากกับปากเลยจุ๊บกันจังๆ

คราวนี้กลายเป็นเรื่อง เพราะแอปเปิ้ลกับปีโป้ที่หลงรักบื้อ มาเห็นปากกับปากจุ๊บกันพอดี ก็ด่าห่านว่าแย่งแฟนตนอ้างว่าบื้อเป็นของตน บื้อทนไม่ไหวประกาศว่า “ห่านเป็นแฟนบื้อ” แล้วชวนห่าน “ไปกันเถอะจ้ะที่รัก” ทำเอาทั้งสองตีโพยตีพายลั่นห้างฯ

จีจี้จอมสาระแนประเภทอยากแส่แต่ใจเสาะ แจ้นไปบอกเจ๊มะพร้าวว่าห่านกับบื้อเป็นแฟนกัน เจ๊กับแหม่มเลยจับห่านมาคาดคั้นถามว่าจริงไหม เป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไร สัมพันธ์กันถึงระดับไหนแล้ว ห่านบอกว่าตนกับบื้อไม่ได้เป็นอะไรกัน เอะใจถามเจ๊กับแหม่มว่าไปฟังอะไรที่ไหนมากันหรือถึงได้มาคาดคั้นเอากับตนแบบนี้

พอเจ๊บอกว่าจีจี้เล่าให้ฟัง ห่านเลยเล่าความจริงให้ฟังว่าบื้อบอกว่าเป็นแฟนกับตนเพื่อให้แอปเปิ้ลกับปีโป้เลิกตอแยเขา เจ๊กับแหม่มจึงค่อยสบายใจ แต่พอนึกขึ้นได้ว่า ถ้าจีจี้รู้เรื่องนี้ ป่านนี้แม่ฆ้องปากแตกนั่น ป่าวร้องรู้กันหมดทั้งห้างฯแล้ว ก็พากันเครียดขึ้นมาอีก

ooooooo

คืนนี้ที่บ้านเช่าของบื้อ....ขณะห่านรับใช้บื้อกับโย่งที่โต๊ะอาหารที่บ้านตามสัญญา ก็ได้รับโทรศัพท์จากแหม่มพูดไปร้องไห้ไปว่าตนถูกไล่ออกจากอพาร์ตเมนต์

ห่านเป็นห่วงเพื่อนบอกว่าจะไปหาเดี๋ยวนี้ บื้อเป็นห่วงห่านเพราะป่านนี้แล้วหารถยาก เลยไปหาลุงจ๊อด ปรากฏว่าลุงจ๊อดทั้งเมาทั้งง่วง เลยเอากุญแจรถตุ๊กๆให้ขับพาห่านไปเอง โจ๊กกับโย่งโดดติดรถไปด้วย

ไปถึงอพาร์ตเมนต์ เห็นข้าวของของแหม่มถูกเจ๊ที่ดูแลหอพักโยนออกมานอกห้อง เพราะแหม่มค้างค่าเช่ามา 3 เดือนแล้ว ห่านเข้าไปเจรจา เจ๊ยืนกระต่ายขาเดียวว่าต้องจ่ายค่าเช่าที่ค้าง 3 เดือนเป็นเงิน 9,000บาท รวมดอกเบี้ยก็ครบหมื่นก่อนถึงจะให้อยู่ต่อ

ห่านโมโหมาก ทั้งด่าทั้งแช่งเจ๊กับอพาร์ตเมนต์ให้ฉิบหายวายป่วง เจ๊ก็ไม่ยอมให้ด่าฟรีถลกแขนเสื้อจะสั่งสอน ห่านท้าให้เข้ามาเลย แต่เจ๊ก็ไม่เล่นเองสั่งลูกน้องกล้ามโตให้ “จัดการ!” ห่านเห็นนักเลงกล้ามโตก็ถอยมาหลบหลังบื้อผลักให้บื้อออกไปสู้แทน

กว่าบื้อจะพาห่าน แหม่ม และโย่งกับโจ๊กหนีออกมาได้ก็สะบักสะบอมพอดู พอกลับมาถึงบ้านเช่า ห่านบอกให้แหม่มอยู่กับตนที่นี่เสียเลย ส่วนเสื้อผ้าข้าวของก็ให้ใช้ของตนไปก่อน

โย่งแอบดีใจจนกลั้นยิ้มไม่อยู่เมื่อเห็นแหม่มได้มาอยู่ใกล้ๆ ถูกบื้อจับพิรุธได้เลยยอมรับว่าตนชอบแหม่ม

ห่านแปลกใจว่าทำไมแหม่มถึงค้างค่าเช่าตั้งสาม เดือน ถามแหม่มก็ไม่ยอมบอก จนรุ่งเช้าจึงรู้จากเจ๊มะพร้าวขณะเจอกันในห้องน้ำ ด้วยความซาบซึ้งสะเทือนใจว่า

“ที่นังแหม่มมันไม่มีเงินค่าเช่า เพราะมันเอาเงินซื้อรองเท้าคู่นั้นให้แก ทีแรกเจ๊ว่าจะช่วยกันออกคนละครึ่ง แต่เจ๊ดันต้องจ่ายค่าแชร์ นังแหม่มมันก็เลยออกค่ารองเท้าเองเกือบหมด แกก็รู้ว่ารองเท้าคู่นั้นมันเกือบเท่าเงินเดือนของพวกเราทั้งเดือน”

แหม่มมาเจอทั้งสองในห้องน้ำ ห่านโผเข้ากอดแหม่มพร่ำขอโทษที่ตนทำให้เพื่อนเดือดร้อนจนไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง

“เจ๊บอกมันทำไม” แหม่มต่อว่าเจ๊

“ฉันบังคับให้เจ๊เล่าเอง ขอบใจนะ ขอบใจ...ขอบใจจริงๆ ขอบคุณที่เราสามคนได้เจอกัน ได้เป็นเพื่อนกัน เจ๊กับแหม่มคือคนที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันเลยรู้ไหม”

“อย่าทำเจ๊ร้องไห้ เดี๋ยวมาสคาร่าเลอะ” เจ๊มะพร้าวพูดติดตลกแล้วหันส่องกระจก เห็นมาสคาร่าเลอะจริงๆ เลยพากันหัวเราะขำกันทั้งน้ำตา

ooooooo

ห่านได้ยินเสียงพนักงานหลายคนติฉินนินทาตนว่าแย่งแฟนเพื่อน แต่พอจะเอาเรื่องก็ไม่มีใครกล้ารับ เดินไปเจอบื้อเลยเข้าไปต่อว่า

“เพราะนายคนเดียว ตอนนี้คนทั้งห้างฯ เขาเม้าท์กันว่าฉันแย่งนายจากยัยแอปเปิ้ล นี่เป็นเรื่องเสื่อมเสียที่สุดตั้งแต่ฉันเกิดมา”

ห่านเสียงดังจนคนหันมองกัน บื้อเลยพาห่านออกไปคุยกันที่ลานจอดรถ

ที่ลานจอดรถนี่เอง ทั้งสองเห็นคุณชายที่เพิ่งลงจากรถ ถูกคนร้ายเอามีดจี้สั่งให้เอาของมีค่ามาให้หมด บื้อบอกห่านให้รีบไปตามคนมาช่วยเร็วๆ ส่วนตัวบื้อเองวิ่งเข้าไปช่วยก่อนถูกคนร้ายหันมีดมาจะแทงเลยต่อสู้แย่งมีดกัน บื้อถูกมีดบาดหลังมือ พอดีห่านไปตามโย่งมาช่วย โย่งเป่านกหวีดทำให้คนร้ายตกใจจะวิ่งหนี ถูกคุณชายกระโดดขวางมันเลยถูกรวบตัวไป

รื่นฤดี ดาหลาและดารัณรู้ข่าว ต่างพากันมาที่ห้องพยาบาลห้างฯ เห็นที่มุมปากคุณชายช้ำก็พากันคร่ำครวญราวกับคุณชายอาการสาหัสปางตาย

ปรากฏว่าคนร้ายเป็นพนักงานในห้างฯที่ถูกไล่ออกก่อนที่จะมีการประกาศให้คุณชายมาดำรงตำแหน่งผู้บริหาร รื่นฤดีจะเอาเรื่อง คุณชายติงว่า

“ปล่อยเขาไปเถอะครับคุณแม่ ให้อภัยเขา อโหสิ เลิกแล้วต่อกันดีกว่าจะได้ไม่เป็นข่าวใหญ่โตด้วย”

ดาหลาดราม่า ถามคุณชายว่าเจ็บมากไหม คุณชายตอบตัดรำคาญว่า “มีคนเจ็บมากกว่าผมอีกครับ” พอดีบื้อเดินมือถูกพันแผลออกมา คุณชายตรงไปหาเอ่ยอย่างซึ้งใจว่า

“ถ้าไม่ได้บื้อช่วยผมไว้ ผมคงโดนทำร้ายหนักมากกว่านี้ ขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตผม”

บื้อบอกว่าไม่เป็นไร รื่นฤดีควักเงินออกมาให้บื้อบอกว่า “สินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ”

“ผมรับไม่ได้ครับ” บื้อตอบอย่างสุภาพ ถูก

ดาหลาพูดลอยๆ ว่าทำเป็นหยิ่ง “ผมไม่ได้หยิ่ง การที่ผมช่วยคุณชายผมไม่ได้หวังอะไรตอบแทน และเงินก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนอย่างผม”

ดาหลารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง

“ไปทำงานต่อกันได้แล้วหฤทัย ดูแลแฟนเธอให้ดีล่ะ” พรเพ็ญตัดบทบอกห่าน

ห่านผงะ บื้อชะงัก พรเพ็ญขอตัวไปทำงานต่อ คุณชายขอตัวไปทำงานเช่นกัน ดาหลาส่งยิ้มให้ แต่คุณชายกลับเดินผ่านไปทำเหมือนไม่เห็น เธอเลยหน้าม้าน

กลับถึงบ้าน ดารัณวางแผนใหม่หวังให้ลูกสาวฉกคุณชายมาให้ได้

รุ่งขึ้นเธอจึงทำตามแผนของแม่เอาอาหารกลางวันไปให้คุณชายที่ห้องทำงาน คะยั้นคะยอกระทั่งป้อนให้คุณชายเห็นปากเปื้อนก็เอาทิชชูซับให้ ทั้งหมดนี้ถูกตุ๊กติ๊กแอบถ่ายรูปไว้หมด

เพียงเช้าวันถัดมา ก็มีคลิปในมือถือ มีภาพพร้อมเขียนแซวว่า ภาพหลุดคุณชายกับนางสาวไทยสยามปีล่าสุด ปีโป้กับแอปเปิ้ลดูคลิปนี้อย่างสะใจ ปีโป้ฟันธงว่า “แบบนี้นังฮันนี่อะไรนั่น ก็เป็นแค่กิ๊ก”

ส่วนแหม่มกับเจ๊พยายามกันไม่ให้ห่านดูคลิปนี้ แต่ห่านเห็นแล้วพูดอย่างเจียมตัวแต่เจ็บปวดว่า

“เขาสองคนเหมาะสมกันดี บางทีฉันอาจจะต้องตื่นจากความฝันเสียที”

เจ๊กับแหม่มยุให้โทร.หาคุณชายเลย แต่พอห่านจะ โทร.คุณชายก็โทร.เข้ามาพอดี ห่านไม่กล้ารับสาย พูดหน้าเจื่อนว่า

“เกิดคุณชายโทร.มาบอกว่าข่าวนั้นเป็นความจริงและไม่ต้องการเจอฉันอีกฉันจะทำยังไง”

รุ่งขึ้น ดารัณพาดาหลามาหารื่นฤดีที่บ้านแต่เช้าบอกว่าไม่สบายใจกับข่าวนี้ พอดีคุณชายจะไปทำงานรื่นฤดีเลยให้ดาหลาไปด้วยกัน แต่พอไปถึงห้างฯ ลงจากรถแล้วคุณชายเดินไปไม่สนใจดาหลา เธอเลยแกล้งทำเป็นเท้าพลิก คุณชายเลยต้องหันมาประคองพาเข้าห้างฯ

ห่านเห็นภาพนั้นถึงกับสะอื้นในอก น้ำตารื้น บื้อแอบดูอยู่ด้วยความเห็นใจ เดินเข้ามาบอกว่าตนไม่มีผ้าเช็ดหน้าจะเอาแขนเสื้อซับน้ำตาให้

“ฉันเห็นคุณชายกับคุณดาหลา...” บื้อเอ่ยขึ้นก่อน

“ฉันว่าฉันคงใกล้จะตื่นจากความฝันแล้วล่ะ” ห่านถอนใจหน้าเศร้าน้ำตารื้นขึ้นมาอีก

“อยากร้องไห้ก็ร้องมาเหอะ...ฉันไม่บอกใครหรอก”

เป็นคำปลอบใจที่ทำให้ห่านก้มหน้าร้องไห้อย่างหนัก บื้อได้แต่ยืนมองด้วยความเห็นใจ จะยกมือโอบปลอบก็ไม่กล้า ยืนเงอะๆ งะๆ เป็นบื้ออยู่อย่างนั้น...

ooooooo

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 4

ร้องไห้จนหนําใจแล้ว ห่านกับบื้อเดินกลับเข้าไปในห้างฯ บื้อถามว่ารู้สึกดีขึ้นรึยัง

“ยัง! สิ่งเดียวที่จะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ก็คือรองเท้า เวลาฉันมีเรื่องไม่สบายใจ ฉันต้องซื้อรองเท้า ไม่งั้นฉันบ้าตายแน่” พูดแล้วดูนาฬิกา “ว้าย...แต่เช้าอย่างนี้ตลาดนัดหลังห้างฯ ก็ยังไม่เปิด จะทำไงดี?” แล้วห่านก็ร้องอย่างดีใจว่า “นึกออกแล้ว...นายช่วยฉันทีนะ”

“อีกแล้วเหรอ??!!” บื้อทำหน้าสยอง เห็นห่านพยักหน้าก็ได้แต่ถอนใจพึมพำ “อะไรวะ?!!”

ห่าน บอกว่าเหลือเวลาอีก 15 นาทีห้างฯ จะเปิดตนขอเสพความสุขให้เต็มที่ก่อน เข้าไปในห้องเก็บสต๊อกรองเท้าแล้วให้บื้อช่วยเฝ้าต้นทางให้ บอกบื้อว่า ตนไม่อยากให้แอปเปิ้ลกับปีโป้เห็น บื้อถามว่าจะขโมยรองเท้าหรือ?!

ห่าน บอกว่าไม่ได้ขโมยแต่อยากใส่รองเท้าทุกคู่ที่อยากได้เท่านั้น เผื่อมันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น บื้อบอกว่าเธอบ้าไปแล้ว ห่านยืนยันว่าตนไม่ได้บ้า ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนบื้อใจสั่น ชี้แจงว่า

“สำหรับฉัน...การได้ใส่รองเท้าสวยๆก็เหมือนการได้ยืนอยู่ยอดเขาที่งดงาม รองเท้าคือชีวิตจิตใจของฉัน รีบออกไปดูต้นทางได้แล้ว”

ห่าน เข้าไปลองรองเท้าอยู่นานมากจนบื้อเห็นแอปเปิ้ลกับปีโป้เดินมา พยายามเรียกห่านออกมาแต่เธอก็ไม่ออกมาทั้งยังต่อรองว่าจะรับใช้บื้อเพิ่มอีก 5 วัน บื้อเลยยอม ทำเป็นเข้าไปทักสองสาวยอมเปลืองตัวจับมือถือแขนชวนไปดูหนังกัน พอแอปเปิ้ลบอกว่ารอบนี้เลยนะ บื้อกลับบอกว่า “หลังเลิกงาน วันพรุ่งนี้ดีกว่า”

บื้อหลอกล่อสองสาวถ่วงเวลาให้ห่านหลบออกไปได้ อย่างปลอดภัย พอห่านออกไปแล้ว บื้อก็ขอไปทำงานทันที ทำเอาสองสาวบ่นงงๆ “อะไรของเขาวะ?!” ตะโกนตามหลัง “อย่าลืมนะ!! พรุ่งนี้เลิกงานดูหนังนะ!!”

ooooooo

ฝ่าย คุณชายหลังจากโทร.หาฮันนี่แล้วเธอไม่รับสาย ก็โทร.ไปปรับทุกข์กับน้องนุช คุยกันจนต่างหลับไปทั้งคู่ รุ่งขึ้นเจอบื้อเลยขอบทเรียนการง้อคนรัก ถามบื้อว่า อย่างฮันนี่บื้อพอดูออกไหมว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไรตนจะได้ง้อได้ถูก

บื้อนึกถึงที่ห่านบอกว่ารองเท้าคือชีวิตจิตใจของเธอ บอกคุณชายไปว่า

“รองเท้าครับ...ผมว่าผู้หญิงอย่างคุณฮันนี่น่าจะชอบรองเท้า”

คุณชายบอกว่าตนไม่รู้ว่าฮันนี่ใส่รองเท้าเบอร์อะไร บื้อบอกว่าน่าจะเป็นเบอร์ 36

คุณชายดีใจมาก รีบจัดการและโทร.นัดพบฮัน–นี่ที่เดิม บอกว่าจะรออยู่ที่นั่นจนกว่าเธอจะมา

ห่านตกใจ ปรึกษาเจ๊กับแหม่ม ทั้งสองบอกว่าห่านต้องไปเพราะนั่นแสดงว่าคุณชายแคร์เธอมาก

“ตอน นี้บ่ายโมง แกไปหาคุณชายหลังเลิกงานคือตอนเย็น ถ้าแกไปถึงและเขายังรอแกอยู่ก็แสดงว่าเขาจริงใจกับแก” ห่านถามว่าแล้วถ้าเขาไม่รอล่ะ “แกก็จะได้รู้ว่าผู้ชายอย่างคุณชายไม่ได้คิดจริงจังกับแก เพราะถ้าเขาคิดจะจีบแกจริง...เขาต้องรอ!!”

พอเลิกงาน ห่านมาตามนัด เจอคุณชายยังรออยู่ ห่านดีใจมาก คุยกันครู่หนึ่งเธอถามว่าคุณชายไม่ได้เป็นอะไรกับดาหลาหรือ

“ครับ...นัก ข่าวเขานั่งเทียนเขียน ไม่เป็นความจริงสักนิด คุณฮันนี่เชื่อผมนะครับ” ห่านตอบทันทีว่าตนเชื่อ คุณชายพึมพำอึ้งๆว่า “คุณฮันนี่เชื่อเร็วมากครับ เอ่อ...คือผมนึกว่าผมต้องอธิบายมากกว่านี้”

“ก็ฮันนี่เห็นความจริงใจของคุณชายแล้วนี่คะ ที่บอกว่าจะนั่งรอจนกว่าฮันนี่จะมา”

คุณชาย ยิ้มปลื้ม นึกได้บอกว่ามีของบางอย่างให้เธอ หยิบถุงรองเท้าบนพื้นให้บอกให้เปิดดู ห่านใจเต้นไม่เป็นส่ำ หยิบกล่องออกมา พอเปิดดูเห็นเป็นรองเท้าแก้ว เธอตะลึงนิ่งงันไป คุณชายถามว่าไม่ชอบหรือ

“ชอบ สิคะ...ชอบมากที่สุด ฮันนี่ฝันอยากมีรองเท้าสวยๆแบบนี้มานานแล้ว คุณชายรู้ใจฮันนี่จริงๆ ต๊าย แถมยังรู้ไซส์รองเท้าฮันนี่ด้วย” เธอตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ ขอใส่เลยได้ไหม

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อรองเท้าคู่นี้เป็นของคุณฮันนี่แล้ว”

ห่าน หยิบรองเท้าจะวางที่พื้นแล้วชะงักเอากระดาษบนโต๊ะมาปูก่อนตามความเคยชินขณะ ขายรองเท้า แล้วจึงวางรองเท้าแก้วบนกระดาษ ถอดรองเท้าตัวเองค่อยๆสอดเท้าเข้าไป แต่ปรากฏว่าแน่นไปหน่อยใส่เข้ายาก

พลัน คุณชายก็ทำให้ท่านปลื้มปีติจนจิตฟุ้งซ่าน เมื่อคุณชายย่อตัวช่วยใส่รองเท้าให้ นาทีนั้น ห่านนึกในใจ เหมือนตกอยู่ในความฝัน “ซินเดอเรลล่าชัดๆ....ฉันรู้สึกตัวเองเป็นซินเดอเรลล่าที่มีเจ้าชายมาสวม รองเท้าแก้วให้เลยอ่ะ...” ปลื้มปีติจนน้ำตาจะไหล คุณชายใส่รองเท้าให้เสร็จเห็นน้ำตาห่านก็ตกใจถามว่า ตนทำให้เจ็บหรือ “ไม่ใช่ค่ะ...ฝุ่นมันเข้าตาน่ะค่ะ...”

ห่านยิ้มให้คุณชายตาเป็นประกายแล้ว ก้มมองรองเท้าแก้วที่ใส่อยู่อย่างตื้นตันใจเป็นที่สุด...

หลังจากนั้น คุณชายยังเชิญเธอในฐานะคนพิเศษไปร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 50 ปีของห้างฯ เป็นงานภายในห่านยิ่งปลื้มตอบรับทันที

“ค่ะ...ได้ค่ะ...ฮันนี่จะไปค่ะ!”

ooooooo

เพราะบื้อรับปากกับแอปเปิ้ลกับปีโป้ว่าเย็นวันนี้จะพาไปดูหนัง พอเจอกันแอปเปิ้ลก็ทวงและเตือนว่าเย็นนี้อย่าลืมที่นัดกันไว้ ห่านได้ยินถามว่านัดอะไรกัน?

“ถ้าไม่ใช่เพราะฉันช่วยเธอเมื่อวานก็คงไม่ต้องซวยไปดูหนังกับยัยสองคนนั่น ฉันจะเสียตัวไหมเนี่ย” บื้อครวญ

“นายเองก็ช่วยฉันหลายครั้งแล้ว เพราะฉะนั้นครั้งนี้ฉันจะช่วยนาย” ห่านนึกถึงความดีของบื้อรับปากจะช่วย

นับ วันรื่นฤดีกับดารัณก็สนิทชิดเชื้อและวางแผนจะดองกันให้เร็วที่สุด วันนี้ไปทานอาหารกันที่ร้าน โดยที่ชนะศึกร่วมโต๊ะด้วย คุยกันถึงงานฉลอง 50 ปี ของห้างฯ รื่นฤดีเชิญสองแม่ลูกไปด้วย นัดไปพร้อมกันเลย หันไปบอกดาหลาว่า

“ป้าอยากให้หนูดาหลาเข้างานพร้อมกับชาย เพราะไหนๆอีกไม่นาน หนูกับคุณชายก็ต้องหมั้นกัน”

ดารัณอุทานอย่างคาดไม่ถึง รื่นฤดีถามว่า หรือดาหลายังไม่พร้อม เธอรีบตอบว่า “พร้อมค่ะ...พร้อม...”

“ถ้า อย่างนั้นก็ดี ป้าจะรีบหาฤกษ์ที่เร็วที่สุด หมั้นกันไว้ก่อน ใครๆจะได้รู้ว่าชายมีเจ้าของแล้ว อ้อ...อีกอย่างต่อไปนี้หนูดาหลาเรียกป้าว่าแม่ได้เลยนะจ๊ะ” พอดาหลารับคำว่า ค่ะคุณแม่ รื่นฤดีดี๊ด๊าใจหันไปถามชนะศึกว่า “คุณชนะศึกไม่พูดอะไรบ้างเหรอ เรามีลูกสาวเพิ่มมาอีกคนหนึ่งแล้วนะ”

“มันดีใจจนจุก...พูดไม่ออกน่ะจ้ะ” ชนะศึกเหน็บนิ่มๆ

รื่นฤดีค้อนที่โดนเหน็บ แล้วหันไปดี้ด๊ากับดารัณและดาหลา ส่วนชนะศึกหน้าเครียดเป็นห่วงคุณชายขึ้นมา

ตก เย็นชนะศึกแอบไปบอกคุณชายที่ห้างฯ คุณชายตกใจบอกว่า ตนไม่ได้รักดาหลา ชนะศึกบอกว่ารู้ ถึงได้แอบมาบอก แต่แม่เขานั้นลองได้ตั้งใจจะทำอะไรแล้วไม่มีทางเปลี่ยนใจง่ายๆ

“แต่ครั้งนี้ ผมจะไม่มีวันทำตามที่คุณแม่บอกเด็ดขาด เพราะผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วครับพ่อ...และผมจะพาเขามาพบคุณแม่”

คุณชายบอกชนะศึกด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

ooooooo

เพราะ คุณชายปรึกษากับพรเพ็ญไว้แล้วว่างานฉลอง 50 ปีของห้างฯ อยากให้พนักงานคิดการแสดงเพื่อโชว์ในงาน โดยตั้งรางวัลสำหรับทีมที่ทำการแสดงได้สนุกที่สุดเป็นเงินสด 50,000 บาท วันนี้พรเพ็ญจึงนำประกาศไปติดที่บอร์ด

พนักงานกลุ้มรุมกันมาดูอย่าง ตื่นเต้น พรเพ็ญประกาศหมดเขตการสมัครภายในวันพรุ่งนี้ เจ๊มะพร้าวสนใจถามว่าจำกัดจำนวนคนไหม พรเพ็ญบอกว่าไม่จำกัด จะมาเดี่ยว มาคู่ หรือมาหมู่ก็ได้

โย่งตาโตเพราะรางวัลตั้งห้าหมื่น แต่บื้อพูดอย่างไม่สนใจว่า “ไม่เอาอ่ะ...บ้าบอ!!”

เมื่อเจ๊มาชวนห่านกับแหม่ม ห่านบอกทันทีว่าตนไม่เอาเพราะวันนั้นตนต้องเป็นฮันนี่ แล้วถามเจ๊ว่า

“เย็นนี้เจ๊ว่างรึเปล่า ไอ้แหม่มด้วย”

“ทำไมวะ” ทั้งสองถามพร้อมกัน

พอ เลิกงาน แอปเปิ้ลกับปีโป้ก็แต่งตัวกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ประโคมทั้งเครื่องสำอางและเสื้อผ้าเต็มที่ พอเจอบื้อที่หน้าโรงหนังก็ตรงเข้าคล้องแขน แอปเปิ้ลชวนไปซื้อตั๋วกัน บื้อบอกว่า “มีคนซื้อตั๋วให้เราแล้ว”

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 3-4 วันที่ 20 ส.ค. 56

ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ บทประพันธ์โดย ภาคินัย บทโทรทัศน์โดย ปณธี
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ กำกับการแสดงโดย พีรพล เธียรเจริญ
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ สร้างสรรค์โดย อรพรรณ วัชรพล
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ เป็นละครโทรทัศน์แนว คอมเมดี้
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ