อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 4 วันที่ 16 ส.ค. 56

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 4 วันที่ 16 ส.ค. 56

ครู่ต่อมา ชารีฟเดินนำมิเชลล์ในคราบตาฟามาถึงหน้าตึกใหญ่ เขาฝากรหัสคำว่า “อวีเซ็นน่า” ให้ยามเฝ้าระวังหน้าตึกไปแจ้งต่อชีคอัสมัน ยามหายเข้าไปข้างในพักหนึ่งก็กลับออกมาเชิญทั้งคู่เข้าพบชีคอัสมันได้ แล้วเดินนำไปยังห้องโถงใหญ่ซึ่งมีเหล่านักรบเบดูอินยืนถือปืนเรียงรายกันเป็นระยะๆ ส่วนที่มุมห้องซึ่งเป็นพื้นยกสูงมีเด็กหนุ่มสองคนนั่งเฝ้าชีคอัสมันที่นอนร้องโอดโอยอยู่ แต่พอเห็นชารีฟเท่านั้น ร้องทักด้วยความดีใจ

“ใครจะคิดบ้างว่าเราสองคนจะมาพบกันอีก ฮิลฟารากับจาอุฟนั้นอยู่ไกลกันคนละขอบโลกทีเดียว”


ชารีฟถามชีคอัสมันด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นอะไร ได้ความว่าเขาป่วยหนักเป็นไข้ตัวร้อนเหมือนถูกไฟสุมกินไม่ได้นอนไม่หลับ ชารีฟเข้าไปตรวจดูอาการให้ ก่อนจะบอกว่าแค่เป็นฝีเท่านั้น แล้วหันไปลากแขนมิเชลล์เข้ามาแนะนำว่านี่คือตาฟาคนสนิทของเขา ชีคอัสมันมองอย่างสำรวจ

“หล่อเหลามากเหลือเกิน ทั้งที่ยังสกปรกอย่างกับซากศพ มันยังไม่มีเมียรึท่าน”

ชารีฟพูดติดตลกว่าตนเองยังไม่มีแล้วตาฟาจะมีได้อย่างไร คนในห้องโถงพากันหัวเราะชอบใจ ชีคอัสมันสั่งให้คนจัดที่พักให้ชารีฟอยู่ด้านโน้นแล้ว ส่วนเด็กของเขาจะให้นอนรวมกับหนุ่มน้อยพวกนั้นไปก่อน มิเชลล์ถึงกับหน้าเสีย พยายามจะขอไปนอนกับชารีฟ แต่เขาแกล้งไม่รู้ไม่ชี้ทิ้งเธอไว้กับพวกเด็กหนุ่ม แล้วออกไปกับชีคอัสมันที่เดินตัวงอกุมฝีไปตลอดทาง มิเชลล์ทำท่าจะร้องไห้ให้ได้ แต่อึดใจต่อมา ชารีฟกลับมารับเธอไปนอนด้วยอ้างว่าชีคอัสมันอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้เขาเอาเด็กรับใช้ไปนอนด้วยได้ มิเชลล์ถึงกับถอนใจโล่งอก...

ฝ่ายชีคอัสมันเจ็บฝีมากขอร้องให้ชารีฟช่วยจัดการโดยด่วน เขาขออาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดเสียก่อน จึงจะจัดการก้อนเนื้อนั้นให้ ชีคอัสมันสั่งการให้ยูซุฟไปเตรียมเสื้อผ้าสะอาดๆมาให้สองหนุ่ม โดยไม่รู้ว่าหมอแผนโบราณของเผ่าจ้องตามชารีฟอย่างไม่สบอารมณ์นัก

ooooooo

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ชารีฟขอมีดสั้นจากมิเชลล์ ซึ่งทีแรกจะไม่ยอมให้ เขาแค่จะเอามาตัดผมเธอเท่านั้น เพราะเริ่มยาวอีกแล้วอาจทำให้เป็นที่สงสัยของผู้คนได้ เธอส่งมีดสั้นให้อย่างเสียไม่ได้ ชารีฟลงมือตัดผมให้ ความใกล้ชิดทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก เมื่อตัดผมเสร็จ ชารีฟสั่งให้มิเชลล์โพกหัวไว้

“อย่าลืมว่าชีคอัสมันช่างสังเกต ทำตัวให้สมเป็นชายเข้าไว้ อ้อ...ประเดี๋ยวเธอต้องเป็นผู้ช่วยฉัน เธอเป็นพยาบาล ส่วนฉันทำหน้าที่แพทย์”...

ทางด้านหมอผีประจำตัวชีคอัสมันพยายามจะให้เขารักษาอาการป่วยแบบดั้งเดิม คือใช้วิธีสวดมนต์วิงวอน แต่ชีคอัสมันทนรักษาแบบนั้นต่อไปไม่ไหว ขอรักษาด้วยแพทย์แผนใหม่เผื่ออาการจะดีขึ้น สร้างความไม่พอใจให้หมอผีเป็นอย่างมาก...

ระหว่างเดินกลับมาที่ตัวตึกใหญ่ ชารีฟมองสำรวจมิเชลล์หัวจดเท้าอีกครั้งหนึ่ง ไม่สบายใจนัก ที่เธอดูสะอาดสะอ้านเกินไป ความจริงแล้วเขาอยากให้เธอมอมแมมมากกว่า มิเชลล์โวยใส่ทันทีว่า สะอาดตรงไหนในเมื่ออาบน้ำไม่มีสบู่ถูตัว

“หน้าเธอสวยเกินกว่าจะเป็นผู้ชาย ปากของเธอก็หวานราวกับน้ำผึ้ง ใครจะอดใจได้ รู้ไหมว่าฉันต้องระงับใจขนาดไหนที่ต้องอยู่ใกล้ผู้หญิงสาวสวยตลอดวันตลอดคืนอย่างนี้” ชารีฟยิ้มกรุ้มกริ่ม มิเชลล์ตะลึงรู้ดีว่าคำพูดนั้นออกมาจากใจของเขา ถอยหนีไปสองก้าว ชารีฟเดินเข้าไปจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้

“ฟังนะ แม่นักบุญ ฉันคงจะเป็นคนป่าเถื่อนในแถบนี้ แต่ก็ไม่เคยพูดกับผู้หญิงคนไหนด้วยคำพูดแบบนี้มาก่อน ฉันจะพูดกับผู้หญิงที่ฉันพอใจเท่านั้น” ชารีฟจ้องมิเชลล์เป็นการยืนยันคำพูดตัวเอง อีกฝ่ายก้มหน้าไม่กล้าสบตาด้วย ชายหนุ่มรู้สึกตัวว่าเผลอพูดความในใจออกไป รีบจ้ำพรวดๆไปยังตึกใหญ่...

ในเวลาต่อมา ชารีฟตรวจดูก้อนเนื้อของอัสมันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะหันไปสั่งการให้ยูซุฟเตรียมอุปกรณ์สำหรับผ่าฝีมาให้ โดยมีมิเชลล์คอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ ชารีฟนำมีดคมกริบมาเผาไฟฆ่าเชื้อ แล้วเอามากรีดก้อนเนื้อ บีบเบาๆให้หนองที่อยู่ข้างในไหลลงถาด มิเชลล์จะคอยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดรอบก้อนเนื้อซึ่งตอนนี้ยุบลงมากแล้ว หมอผีซึ่งยืนหลบมุมมองเหตุการณ์โดยตลอดชักสีหน้าไม่พอใจ

“เป็นฝีเท่านั้นเอง รับรองว่าไข้จะลด ไฟที่สุมในตัวท่านจะหายไปหมดสิ้น พรุ่งนี้จะไม่มีอาการปวดเลย”

ชีคอัสมันดีใจมากเพราะคิดว่าตัวเองคงไม่รอดจากอาการป่วยครั้งนี้ ขอบใจเพื่อนเก่าเพื่อนแก่อย่างชารีฟเป็นการใหญ่ หมอหนุ่มหันไปบอกมิเชลล์ให้ใช้ผ้าสะอาดๆปิดแผลไว้ ห้ามให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด ชีคอัสมันชมเขาไม่หยุดปาก ยืนยันจะดูแลตัวเองให้หายเร็วๆและจะจัดงานฉลองจากการหายป่วย มิเชลล์เหลือบมองไปทางที่หมอผีเฒ่าอยู่เห็นสายตาอาฆาตแค้นคู่นั้นแล้วอดหวั่นใจไม่ได้...

เมื่อได้อยู่กันตามลำพังในห้องพัก มิเชลล์เตือนชารีฟระวังตัวให้ดี หมอผีคนนั้นมองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขาเองก็เห็น เตือนให้เธอระวังตัวเช่นกัน เธออดเป็นกังวลไม่ได้ว่าจะเก็บความลับที่เป็นผู้หญิงไว้ไม่อยู่ชวนเขาไปจากที่นี่ ชารีฟยังไปไหนไม่ได้ ที่นี่เป็นที่พักที่วิเศษสุด เราสามารถปะปนอยู่กับพวกเบดูอินอื่นๆได้

จังหวะนั้น คนของชีคอัสมันเอาอาหารและนมแพะมาให้ พอมิเชลล์รู้ว่านมที่อยู่ตรงหน้าเป็นนมแพะ และเนื้อย่างชวนกินเป็นเนื้อแพะ ทำท่าจะไม่ยอมกิน ชารีฟต้องบังคับ หลังกินอาหารเสร็จ เขาชวนมิเชลล์มาดูดาวพร้อมกับสอนให้รู้จักว่าดวงไหนเป็นดาวอะไรกันบ้าง เธออดสงสัยไม่ได้ว่าคนที่ไปเรียนในประเทศที่เจริญแล้วอย่างเขาทำไมถึงกลับมาอยู่ทะเลทรายอีก

“ฉันรักผืนทราย รักความอิสระ ฉันมีความสุขมากเมื่อได้ยืนอยู่บนพื้นทราย ข้างบนมีดวงดาวเต็มฟ้า ฉันจะมีความสุขที่สุดถ้ามีใครสักคนที่รักผืนทรายเหมือนฉันมายืนดูดาวด้วยกัน” ชารีฟมองมิเชลล์ด้วยสายตาลึกซึ้ง เธอรับรู้ถึงความนัยของเขา รู้สึกเขินขึ้นมา แสร้งว่าง่วงแล้วก่อนจะเดินไปล้มตัวลงนอน เขามองตามชอบใจ...

ดึกคืนนั้น ชารีฟฝันว่าได้แต่งงานกับมิเชลล์ แต่แม่และพ่อของเขาไม่พอใจสะใภ้ต่างชาติ โวยวายไม่ยอมรับ และยังตะเพิดอีกด้วย ชารีฟตะโกนลั่นว่าเขารักมิเชลล์ แล้วสะดุ้งตกใจตื่น ลืมตามองไปรอบๆเห็นเจ้าสาวในฝันตัวเป็นๆนั่งอมยิ้มจ้องอยู่ บอกว่าเขานอนละเมอเรียกหาพ่อกับแม่ เขาซักว่าไม่ได้พูดอะไรนอกจากนี้ใช่ไหม เธอย้อนถามเขาคิดว่าตัวเองพูดอะไร ชารีฟจะไม่บอกเธอตอนนี้ แต่รับรองว่าบอกแน่นอนเมื่อถึงเวลา

ooooooo

เช้าวันต่อมา ชารีฟไปเยี่ยมชีคอัสมันที่นอนพักฟื้นอยู่ หัวหน้าเผ่าไล่เหล่าคนสนิทออกไปจากห้องเหลือเพียงยูซุฟเท่านั้น แล้วสั่งการให้เขาไปจัดหาม้า 20 ตัว และอูฐอีก 5 ตัวมอบให้ชารีฟ

“คนของข้าบอกว่าท่านจะมาดำเนินอาชีพเป็นพ่อค้าม้าที่นี่ ข้าเหมือนได้ยินเรื่องมหัศจรรย์เหลือเชื่อท่านช่วยเล่าให้ข้าหายข้องใจบ้างได้ไหม”

ชารีฟอ้างว่าจะมาค้าม้าจริงๆ ชีคอัสมันไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะมาใช้ชีวิตเร่ร่อนแบบนี้ น่าจะมีสาเหตุอื่นแล้วกระซิบเบาๆ ว่ามีเสียงร่ำลือกันว่าพระศพขององค์อาหเม็ดหายไปจากห้องบรรทม ชารีฟตกใจ

“เป็นไปไม่ได้ วิทยุประกาศว่าสิ้นพระชนม์ โอมานต้องเก็บพระศพอย่างดี”

ชีคอัสมันยุให้ชารีฟกลับไปฮิลราฟาเพื่อยึดอำนาจคืน หากมีใครเหมาะสมจะครองบัลลังก์แทนองค์อาหเม็ดต้องเป็นเขาไม่ใช่องค์โอมาน ชีคอัสมันกับพวกพ้องอีกหลายเผ่าพร้อมจะร่วมมือขอแค่เขาเอ่ยปากเท่านั้น ชารีฟไม่คิดว่าตัวเองเหมาะสม ชีคอัสมันไม่ละความพยายามยุอีกว่าแม้เขาจะไม่อยากได้บัลลังก์อย่างน้อยก็น่าจะเห็นแก่ประชาชนตาดำๆ ที่ต้องถูกปกครองโดยคนชั่วช้าเยี่ยงองค์โอมาน ชารีฟนิ่งคิดสีหน้าหนักใจ...

ครู่ต่อมา ชารีฟกลับมายังที่พัก มิเชลล์เห็นสีหน้าเขาแล้วถามว่าไม่สบายใจเรื่องอะไรให้ระบายออกมาเผื่อเธอจะช่วยได้ เขาถามเสียงเครียดว่าจะช่วยได้อย่างไร เธอตอบหน้าตายว่าจะช่วยรับฟัง เขาถึงกับยิ้มออก...

ทางฝ่ายองค์โอมานชั่วช้าอย่างที่ชีคอัสมันว่าไม่มีผิดเพี้ยน พ่อค้าคนใดที่ดื้อดึงไม่ยอมเสียภาษี เขาจับมายิงทิ้งเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ส่วนเงินที่ได้จากการขูดรีดภาษีและค้าน้ำมัน องค์โอมานนำไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยเตรียมไว้สำหรับยึดครองประเทศเพื่อนบ้านที่มีบ่อน้ำมันมาเป็นของตัว

แม้จะวุ่นวายกับการวางแผนรุกรานประเทศอื่น แต่องค์โอมานยังอยากได้ตัวชารีฟกลับมารับโทษ เพราะคิดว่าเขาอยู่เบื้องหลังการหายไปของพระศพองค์อาหเม็ด สั่งการให้ซาอิ๊บไปเค้นความจริงจากพวกนายพลฝ่ายต่อต้านมาให้ได้ เขาไม่รอช้านำตัวนายพลอัสตาฟามาซ้อมเพื่อให้บอกความจริงว่าใครเอาพระศพไป

นายพลอัสตาฟาอายุมากแล้วทนการทารุณไม่ไหวจำต้องเปิดปากว่านายพลมุสกัตเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และยังมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่อีกหลายนายที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อ

อ่านละคร ฟ้าจรดทราย ตอนที่ 4 วันที่ 16 ส.ค. 56

ละครฟ้าจรดทราย ประพันธ์โดย โสภาค สุวรรณ
ละครฟ้าจรดทราย บทโทรทัศน์โดย ศัลยา สุขะนิวัตต์
ละครฟ้าจรดทราย กำกับการแสดงโดย สยาม สังวริบุตร
ละครฟ้าจรดทราย ผลิตโดย ค่าย ดาราวิดีโอ
ละครฟ้าจรดทราย ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี
ละครฟ้าจรดทราย เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2556
ที่มา ไทยรัฐ