อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 9 วันที่ 20 ม.ค.62
เอ้จ๋า...เยี่ยมมาก...ฉากต่อไปเลยคร้าบ...”กลับถึงบริษัท วราชมกับคเชนทร์ว่าเยี่ยมมาก ถามว่านี่เป็นฉากที่นลินเขียนตามข้อมูลของยัยขวัญใช่ไหม บอกว่าทำให้เราเข้าใจและเห็นใจตัวละครมากขึ้น บอกคเชนทร์ว่าเรามาถูกทางแล้ว
คเชนทร์บอกวราว่าคิวนี้เฮียประโคมไปที่กองด้วย ไปถามเรื่องบท เรื่องการปรับแก้บท วราถามอย่างรำคาญว่า “จะถามไปทำไม”
“เขาว่ากันว่ามีดาราไปขอแก้ ผมกลัวว่าพูดกันมากไปจะมีคนตีกันอีกรอบ”
วราบอกให้จัดแถลงข่าวเลยตนไม่ชอบคลุมเครือ ไม่ชอบให้เข้าใจผิดกัน คเชนทร์บอกว่าดี จัดเลย
ooooooo
วรานั่งที่โต๊ะแถลงข่าว กล่าวขอบคุณนักข่าวทุกท่านที่ให้ความสนใจความคืบหน้าของละครรอยอดีต ละครของเราหยุดถ่ายไปช่วงหนึ่ง ประโคมได้ช่องถามทันทีว่าแก้บทใหม่ใช่ไหม ทำไมถึงแก้
“ตามที่เราส่งข่าวในตอนแรกว่ารอยอดีตนี่เป็นนวนิยายที่ผู้เขียนบอกไว้ว่าเขียนจากเรื่องจริง”
“ถ้าเขียนจากเรื่องจริงแล้วเกิดการแก้ไข เจ้าของบทประพันธ์เขาจะไม่ว่าเอาหรือครับ”
ขวัญอุมาเดินควงแขนภารดีกับเนื้อเย็นออกมาจากด้านใน นักข่าวมองเป็นตาเดียวว่าเป็นใคร คเชนทร์ลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้ภารดีกับเนื้อเย็นนั่ง คเชนทร์แนะนำทั้งสองแก่ที่แถลงข่าวว่า คุณภารดีกับคุณเนื้อเย็น บุตรสาวและภรรยาของปรานหรือคุณภิรมย์ผู้ประพันธ์รอยอดีต
วราเสริมว่าเนื่องจากคุณภิรมย์เสียชีวิตแล้วลิขสิทธิ์ของเรื่องรอยอดีตจึงตกอยู่กับลูกสาวและภรรยาแล้ว
วราก็ขอให้ลองฟังความเป็นมาของรอยอดีตที่พวกท่านไม่เคยรู้มาก่อนดีไหม ภารดีเล่าว่า
“พ่อดิฉันเป็นนักเขียนค่ะ เขียนหนังสือหลายเรื่อง ใช้ชื่อว่าภิรมย์ มีแต่รอยอดีตเท่านั้นที่ใช้นามปากกาว่าปราน พ่อเขียนนวนิยายเล่มนี้จากเรื่องราวบันทึกของคุณลุงของท่าน แต่คุณลุงปภาคินของคุณพ่อ เขียนบันทึกไว้สองเล่มค่ะ คุณพ่อได้อ่านเพียงเล่มแรกเล่มเดียว เรื่องราวหลังจากนั้นท่านก็แต่งเพิ่มเติมขึ้นเอง”
ขวัญอุมากับวราเสริมว่า จนกระทั่งเราได้พบบันทึกเล่มที่สองโดยบังเอิญ ทีมงานเลยตกลงกันว่าเรื่องราวของละครควรจะดำเนินไปอย่างไร พวกเราเห็นว่า การเดินเรื่องตามบันทึกมันน่าสนใจมากกว่านิยาย ภารดีเห็นด้วย คเชนทร์บอกว่าเราได้เซ็นข้อตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้ว
ประโคมถามว่า แปลว่าคุณพอใจพล็อตเรื่องใหม่นี้ ภารดีกับเนื้อเย็นบอกว่าพอใจและยินดีมากนักแสดงอื่นก็แสดงความพอใจรวมทั้งอรนภาก็เออออด้วยทั้งที่ไม่ปลื้มนัก
คเชนทร์สรุปว่านี่ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการนวนิยายหรือในวงการละครเลย
วราเสริมว่า “ซึ่งเราก็ยินดีที่จะลองทำดูค่ะ เห็นไหมคะว่ารอยอดีตน่าติดตามแค่ไหน”
ทีมงานปรบมือกราว นักข่าวปรบมือตาม แล้วกรูกันมาถ่ายรูปนักแสดงและสัมภาษณ์
ooooooo
การถ่ายฉากตลาดปากน้ำโพดำเนินต่อไปเป็นฉากแผงขายผัก แต่เวลาผ่านไป 8 ปีแล้ว ขวัญอุมาที่แสดงเป็นโฉมเฉลาก็คลอดลูกสาวให้ชื่อว่า ป่าน อยู่ในวัยกำลังน่ารักมาช่วยแม่เฝ้าแผงผักได้แล้ว
ส่วนปรานก็กลับมาที่บ้านเป็นครั้งแรกและพาหลานคือภิรมย์ลูกของน้องสาวมาเรียนหนังสือที่ศรีราชาด้วย
ปรากฏว่าพิมพ์แขที่แสดงโดยอรนภาได้ข่าวจึงมารอปรานที่บ้านแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของปรานเตรียมสร้างครอบครัวขึ้นใหม่ พรรณนาว่าเราจะสร้างรมย์ฤดีขึ้นใหม่ ล้างอดีตที่เศร้าหมองเราจะจับมือก้าวไปด้วยกัน พรรณนาจนปรานเคลิ้มไปกับเธอ
แต่แล้วธนกฤตที่แสดงโดยฉายฉานได้ข่าวว่าปรานกลับมาแล้วก็วิ่งเข้ามา ปรานถามอย่างไม่พอใจว่านายมาทำไม ธนกฤตเตือนสติปรานว่าจะสร้างชีวิตใหม่กับใครเคยคิดถึงเมียคิดถึงลูกของตัวเองบ้างหรือเปล่า
พิมพ์แขร้องกรี๊ด ถามว่ามันจะเป็นลูกปรานได้ยังไง มันเป็นชู้กับแกถ้านังโฉมมันมีลูกก็มีกับแกนั่นแหละ
ธนกฤตยินดีที่ปรานกลับมา โรงพยาบาลก็คงยินดี แต่เขาต้องรับรู้ความจริงว่าโฉมเฉลามีลูกกับเขา
โฉมเฉลาโถมเข้าใส่ทุบตีธนกฤตเพื่อไม่ให้เขาพูดอะไรมากไปกว่านี้ ธนกฤตปัดป้องพิมพ์แขร้องวี้ดว้ายจนเหมือนถูกธนกฤตทำร้าย ปรานจึงพุ่งเข้าต่อยธนกฤตจนนุงนังเหมือนต่อสู้กันเอาเป็นเอาตาย
พิมพ์แขลุกขึ้นหลบออกมายืนดูอย่างสะใจที่ปรานต่อสู้ปกป้องตน
ธนกฤตถูกปรานชกต่อยจนหมดรูป ปรานไล่ไปให้พ้นแล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก ธนกฤตเห็นว่าหมดทางสู้แล้วจึงเล่าให้ปรานฟังเรื่องพิมพ์แขทำเสน่ห์ใส่เขาที่ทางสามแพร่ง คนที่ทำเสน่ห์คือพิมพ์แขไม่ใช่โฉมเฉลา
พิมพ์แขโต้ว่าคนที่ถูกมนตร์เสน่ห์คือเขาต่างหาก หลงรักงมงายจนเห็นโฉมเฉลาคือนางฟ้า
ปรานหาว่าธนกฤตปั่นหัวตน กระนั้นธนกฤตก็ยังบอกว่าโฉมมีลูก ให้ปรานไปรับกลับมาเถิด
ปรานไม่เชื่อ เมื่อไล่ไม่ไปจึงวิ่งเข้าไปในบ้านคว้าปืนยาวออกมายิงไล่จนธนกฤตต้องวิ่งหนีไป
“ไม่มีวันหรอกนังโฉม แกจะต้องกระเด็นออกจากชีวิตของฉันและปรานตลอดไป” พิมพ์แขสะใจมาก
ooooooo
ผ่านไปสิบกว่าปีท่านชายศักดินัยที่มีข่าวว่าเครื่องบินตกเสียชีวิตก็กลับมาเพราะนั่นเป็นเพียงข่าวลือเพื่อลวงฝ่ายตรงข้าม
แต่พอเข้าไปในวังโสภณ ท่านชายรู้สึกถึงความทรุดโทรม ว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัด ช่วงวิ่งออกมาเจอท่านชายก็ตกใจนึกว่าเห็นผี ท่านชายถามว่ายุพากับหญิงอยู่ไหน ช่วงบอกว่าอยู่ข้างบน พอท่านชายจะขึ้นไปก็เจอยุพากับฐิติพาเดินลงมาพอดี ทั้งสองอุทานตื่นตกใจ จนเมื่อท่านชายทักว่า
“ยังอยู่กันดีทุกคน ดีใจจังที่บ้านเราไม่เสียหายจากบอมบ์ แต่ทำไมเงียบเหลือเกิน”
ยุพาคร่ำครวญถึงสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดเมื่อท่านชายไม่อยู่ ทุกคนออกไปหมดเหลือแต่ช่วงที่ยังภักดีอยู่กับตน ท่านชายถามถึงนวลอนงค์กับฉัตรว่าอพยพไปอยู่ไหน
“จะไปไหนก็ไม่รู้เพคะ นังลูกสาวนั่นหนีตามชู้ไป ที่เป็นครูอยู่ด้วยกันนั่นอย่างไร”
ท่านชายไม่เชื่อ ยุพาใส่ไฟว่าข้าวยากหมากแพงฉัตรชนกเลยพาชู้ไปปล้นบ้านผัว ฆ่าแม่ผัวตายแล้วหนีไปไหนกับชู้ก็ไม่รู้ ท่านชายถามถึงนวลอนงค์ ยุพาบอกว่าหนีไปด้วยกันคบชู้ไปตามทางของมัน
“ไม่มีใครอยู่แล้วค่ะท่านพ่อ วังโสภณเป็นของหญิงเพราะเขาบอกว่าท่านพ่อสูญหายไปแล้วหลายปี หญิงกำลังจะขายที่วังนี้ให้กับคนที่มาขอซื้อ”
ท่านชายตกใจมากวังก็จะถูกขาย ทรัพย์สินในวังก็ถูกขายกินจนหมด เวลานี้กำลังจะย้ายไปอยู่ที่อื่นบอกท่านชายว่าอย่ามัวเสียเวลาใฝ่หาเมียมากชู้ของท่านเลย
“วังโสภณเป็นของฉัน ใครจะเอาไปทำอะไรไม่ได้ ขอให้รู้ไว้ด้วย”
สิ้นเสียงประกาศของท่านชาย ทั้งยุพา ฐิติพาและช่วง ก็พากันสะบัดขึ้นข้างบนไป
ooooooo
ธนกฤตไปหาโฉมเฉลาให้ไปอยู่กับปภาคินเพื่อลูกจะได้มีชีวิตที่ดีและได้รับการศึกษา โฉมเฉลาบอกว่าการศึกษาสูงไม่ได้หมายความว่าจะมีชีวิตสุขสบาย ยืนยันว่าตนยอมตายที่นี่ดีกว่า ธนกฤตถามว่า
“เธอจะรอ รออยู่ที่นี่จนกว่าเขาจะมาง้อเธอใช่ไหม”
โฉมเฉลาอึ้ง เพราะนั่นคือสิ่งที่ตนรอคอยอยู่
ฝ่ายพิมพ์แขก็มารยาออดอ้อนปราน ยุให้ปรานหย่ากับฉัตรกนกเสียและมาแต่งกับตนที่เฝ้ารออยู่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแม้ว่าจะเป็นการรออย่างไม่มีหวังก็ตาม
ในที่สุดปรานก็รับปากว่าจะหย่ากับโฉมเฉลาแล้วมาแต่งกับเธอ
ฉากนี้ได้รับคำชมเชยจากคเชนทร์ว่าเยี่ยมมาก แล้วให้เริ่มฉากต่อไป
หลังจากกลับมาวังโสภณและรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว จากนั้นไม่นานท่านชายก็เก็บของใส่กระเป๋าลากลงบันได ยุพาถามว่าท่านจะไปไหน ท่านชายบอกว่าจะไปตามหาฉัตรกับนวลอนงค์
“จะเอามันกลับมาอยู่ที่นี่อีกหรือเพคะ คงจะต้องตายกันไปข้างนึง”
“ผลงานของเธอทั้งนั้น ความบ้านแตกสาแหรกขาดที่เกิดขึ้น ถ้าฉันเจอนวลอนงค์ฉันจะไม่พากลับมาที่นี่ เราคงต้องไปอยู่กันในที่ที่ไม่มีเธอ”
“ดีจริง วังโสภณจะต้องเป็นของลูกหญิงเท่านั้น”
“วันนี้ อดีตวังโสภณจะตกเป็นของเถ้าแก่เล้งแล้ว เขาให้เวลา 7 วันในการเก็บของ ฉันขอบอกเธอเอาบุญ” ยุพาถามว่าหมายความว่ายังไง ท่านชายบอกว่าหมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ แล้วลากกระเป๋าออกไปเลย ขณะยุพายังอึ้งอยู่ ช่วงก็มาบอกว่ามีคนงานเข้ามาเป็นสิบคนบอกว่าเถ้าแก่ให้มารื้อด้านหลัง
ยุพาถามว่าไหนลูกหญิงบอกว่าไปทำเรื่องโอนเป็นของลูกหญิงแล้วไง ฐิติพาเดินลงมาพอดี ชี้แจงว่า
“หญิงไปทำเรื่องโอนเป็นของหญิงตอนที่ท่านพ่อหายไปแต่เมื่อท่านกลับมาท่านคงไปแจ้งทุกที่ยกเลิกการเป็นคนสาบสูญที่นี่จึงกลับมาเป็นชื่อของท่านพ่ออีก”
ยุพาถามว่าแล้วเงินที่ซื้อวังไปไหน ฐิติพาบอกว่าเถ้าแก่ซื้อกับท่านพ่อ ช่วงเร่งให้ยุพารีบตามท่านชายไปคุยกันให้รู้เรื่อง ยุพาชี้ไปที่ประตูบอกว่า “ไปแล้ว...จะไปหานังนวลอนงค์”
พอดีเถ้าแก่เข้ามาแสดงตัวเข้ายึดวังและเชิญทั้งหมดให้ออกไปเลย ไม่อย่างนั้นจะถือว่าบุกรุก
ทั้งยุพา ฐิติพาและช่วงจึงรู้ตัวว่า ตนแพ้อย่างหมดรูปแล้ว...
ooooooo
ยุพา ฐิติพากับช่วง หิ้วของพะรุงพะรังเดินตุปัดตุเป๋ออกจากวังโสภณโดยมีลูกน้องเถ้าแก่ 3 คนคุมไป ลูกน้องบอกเถ้าแก่ว่าในกระเป๋าท่าจะมีสมบัติอยู่เยอะ เถ้าแก่บอกว่าจะทำอะไรก็รีบไปทำแต่อย่าให้เดือดร้อนมาถึงตนก็แล้วกัน
ยุพา ฐิติพากับช่วงเดินมาถึงทางเปลี่ยวก็ถูกโจรบุกปล้นเอาข้าวของไปหมด เมื่อหมดเนื้อหมดตัวแล้วช่วงก็ลาออกกลางทางขอกลับไปอยู่บ้าน แต่พอช่วงแยกไปครู่เดียวก็หลบเข้าที่ลับตาล้วงสร้อยทอง 2-3 เส้นจากอกเสื้อมาดูโล่งใจว่ายังพออยู่ได้อีกหลายวัน
แต่ไม่ทันที่ช่วงจะซ่อนสร้อยก็ถูกโจรมาปล้นไปจนสิ้นเนื้อประดาตัวซ้ำถูกทำร้ายจนสลบเลือดกบปาก
เวลาเดียวกันที่บ้านปรานกำลังจัดฉากพิธีแต่งงานของปรานกับพิมพ์แขอย่างเริ่ดหรูอลังการ จนแต้วแร้วที่ยืนดูการตบแต่งอยู่ชมว่าสมเป็นงานแต่งงานนางเอกตัวจริงของเรื่องตามสไตล์คุณวราจริงๆ
วราเรียกคเชนทร์มาดูถามว่าสวยไหม คเชนทร์บอกว่าเป็นฉากจบที่สุดจะงดงามน่าประทับใจ วราถามว่าบทแก้ใหม่ล่าสุดเมื่อวานเห็นหรือยัง สงสัยวันนี้กว่าจะถ่ายเสร็จคงดึก
คเชนทร์ติงว่ามีฉากเพิ่มที่ต้องตามตัวพ่อของโฉมเฉลามา...พ่อเขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ
“ยัง ประวัติมาใหม่ล่าสุด พ่อเขาไปทำงานช่วงสงครามให้กับสัมพันธมิตร หลังสงครามก็กลับมา”
“พิมพ์แขก็ไม่ตาย อยู่จนจบเรื่อง อันนี้คุณวราแต่งให้แล้วเรื่องของโฉมเฉลาก็...” วราพูดต่อให้ว่า...
“...ก็ต้องแฮปปี้เอนดิ้งเหมือนกัน ฉันทนความเศร้า ความผิดหวัง ความเจ็บปวดข้ามภพข้ามชาติไม่ได้ให้ความสุขในชีวิตจริงไม่ได้ ก็ขอให้ความสุขผ่านทางละครก็แล้วกัน”
“งานดี ประทับใจผู้ชม ผมคเชนทร์และนักแสดงทุ่มเต็มที่ครับ”
“นะ...งานเราต้องสนุก ประทับใจ แล้วก็...งดงาม อลังการ ตามสไตล์คุณวรา”
ประโยคหลังสองคนพูดพร้อมกันอย่างคนใจตรงกัน แล้วหัวเราะอย่างร่าเริง มีความสุข
ooooooo
ที่ห้องแต่งตัวนักแสดง เกิดกรณีแย่งชุดเจ้าสาวกัน ระหว่างอรนภากับขวัญอุมา ต่างคนจะเอาชุดยาวหรู จนวราต้องเข้ามาเอาชุดยาวให้ขวัญอุมาและชุดสั้นกว่าให้อรนภา แล้วไล่ให้รีบไปเปลี่ยนชุดกัน ศึกจึงสงบ
วราถามว่าพวกผู้ชายไปไหน ให้ไปตามมาแต่งตัวจะได้เริ่มถ่ายกันเสียที ต้อยติ่งถามมีใครบ้าง คุณธีรัชกับคุณฉายฉาน? วราบอกว่า “ไม่ใช่ รัชกับพ่อนางเอกที่เล่นเป็นท่านชาย”
เอ็ดดี้ถามว่ามีท่านชายอีกเหรอ มาได้ยังไงก็เป็นประธานงานแต่งไม่ใช่เหรอ วราบอกว่า
“ก็เป็นพ่อโฉมเฉลาด้วย ความจริงที่ค้นพบใหม่ เลยเอามาใส่ไว้ในละครยังไงล่ะยะ”
วราพูดแล้วอมยิ้มเดินเชิดออกไปอย่างมีดี
ในพิธีแต่งงานที่เลิศหรูอลังการนั้น ปรานกับพิพม์แขได้รับคำอวยพรจากแขกให้มีความสุข ให้ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร
ขณะนั้นเองธนกฤตเข้ามาบอกปรานให้ดูสิใครมา พอปรานหันมองก็ตะลึงงัน พิมพ์แขมองตามก็ถึงกับช็อกไม่เชื่อว่าจะมีการเพิ่มบทถึงขนาดนี้
“ท่าน...” ปรานอุทานเมื่อเห็นท่านชายศักดินัยเดินพาโฉมเฉลาในชุดแต่งงานที่สวยกว่าพิมพ์แขและนวลอนงค์เข้ามาหาปราน เอ่ย “ลูกสาวผม ผมพามาคืนให้กับคุณ เธอเป็นภรรยาของคุณโดยถูกต้องทั้งตามกฎหมายและประเพณี”
“คุณปรานสัญญาว่าจะรักและจะดูแลโฉมจนกว่าชีวิตจะหาไม่” นวลอนงค์เอ่ย ปรานตอบเหมือนฝันว่า
“ผมได้สัญญาเช่นนั้นจริง ด้วยความรักทั้งหัวใจที่ให้กับเธอ”
“ไม่ได้นะคะ นี่งานแต่งงานของเรา คุณจะไปรักคนอื่นได้ยังไง” พิมพ์แขโวย โฉมเฉลาเอ่ยอย่างสงบว่า
“ทั้งหมดอยู่ที่ใจของคุณคนเดียวปราน ใครคือคนที่คุณคิดว่าเขาคือคู่ชีวิตของคุณ ขอให้คุณมั่นคงในความรักนั้นเพียงรักเดียว”
“ผมรักคุณเพียงคนเดียว โฉมเฉลา” ปรานเดินเข้าหาโฉมเฉลาเหมือนโลกนี้มีกันเพียงสองคน
น้ำตาแห่งความปลื้มปีติของโฉมเฉลาไหลรินอาบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
ooooooo
อรนภาที่แสดงเป็นพิมพ์แขในชุดแต่งงานไปยืนร้องไห้อยู่ที่ระเบียง ฉายฉานที่แสดงเป็นธนกฤตเดินเข้าไปปลอบ ถามว่าเป็นอะไร ไม่ได้โกรธตนใช่ไหม
อรนภารับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลง งานแต่งงานของพิมพ์แขแท้ๆแต่โฉมเฉลาโผล่มาพร้อมพ่อที่ตายไปนานแล้ว ฉายฉานบอกว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องไม่ให้เศร้า ตนว่าไม่น่าแปลกใจ เพราะบทเปลี่ยนแปลงไปจากเรื่องจริงตามสไตล์คุณวรากับพี่คเชนทร์ ตัวพิมพ์แขยังอยู่จนจบเรื่องและเกือบสมหวังในรักเกือบจะได้แต่งงานกับปราน แต่ไม่ว่าฉายฉานจะชี้แจงอย่างไร อรนภาก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี
แต่วราพอใจมาก ชมกับคเชนทร์ว่าสวยงามมาก ต่อบทกันได้งดงาม สมเป็นฉากเซอร์ไพรส์ ขวัญอุมาขอบคุณวรากับคเชนทร์ที่สร้างฉากจบนี้ให้กับรอยอดีต ธีรัชจะขอดู วราบอกว่าขออีกฉากที่ให้พ่อแม่ลูกได้คุยกันส่วนตัวสั่งเสียกันก่อน
เมื่อถ่ายฉากนี้เสร็จ วราพูดอย่างปลื้มปีติว่า “เยี่ยมมาก ต้องให้มันมีความสุขกันแบบนี้ถึงจะเป็น แฮปปี้เอนดิ้งกันจริงๆ” คเชนทร์สั่งคัตแล้วเอ่ย
“รอยอดีตจบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว จบอย่างแฮปปี้เอนดิ้งแบบละครคุณวราจริงๆ”
ทุกคนปรบมือยินดีกับรอยอดีตที่ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการจนในที่สุดก็จบลงอย่างมีความสุข
ooooooo
ขวัญอุมาจะเดินทางกลับกรุงเทพฯทันที แต่ลูกปลายังมีงานติดพันจึงจะขับรถกลับเอง เมื่อไปลาวิยาดา วิยาดาจึงให้ธีรัชไปส่งที่รถจะให้ช่วยขับรถไปส่งถึงกรุงเทพฯเลยก็ได้เพราะรู้ว่าขวัญไม่ชอบขับรถ
เมื่อธีรัชเดินไปส่ง ขวัญอุมาขอบคุณสำหรับทุกอย่างโดยเฉพาะที่ช่วยหาเรื่องชีวิตจริงของฉัตรชนก บอกว่าป่านนี้วิญญาณของเธอคงเป็นอิสระจากตราบาปที่เธอไม่ได้ทำ ธีรัชบอกว่าเธอได้กลับมาทุกอย่างรวมทั้งความรักที่ควรจะเป็นของฉัตรชนกแต่เพียงผู้เดียว
“แต่ความรักเดินทางช้าจังนะคะ สงสารฉัตรชนกจังที่เชื่อมั่นในความรักเสียเหลือเกิน ถ้าเธอเกิดมาในยุคนี้เธอคงเข้าใจเรื่องความรักและผู้ชายดีขึ้น...ลาก่อนค่ะ”
ธีรัชถามว่าแล้วเราจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่
ขวัญอุมาไม่ตอบแต่ขึ้นรถขับออกไปเลย เมื่อธีรัชกลับเข้าบ้าน วิยาดาเอ่ยแซวๆว่า
“แม่นึกว่ารัชจะตามไปส่งขวัญถึงกรุงเทพฯ” ธีรัชติงแม่เขินๆ วิยาดาพูดให้ได้คิดว่า “โอกาสเลือกเดินในชีวิตของเราน้อยนะ อย่าเลือกผิดซ้ำอีกล่ะ”
ooooooo
อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 9 วันที่ 20 ม.ค.62
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินินละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ