อ่านละคร ภูผา ตอนที่ 1 วันที่ 22 ม.ค.62

อ่านละคร ภูผา ตอนที่ 1 วันที่ 22 ม.ค.62

ในอดีต...เส็งหรือศักดิ์สิทธิ์กับเดือนมีลูกชายคนแรกชื่อเวหาอายุได้สองขวบ ครอบครัวมีอาม่าสุ่ย อยู่ด้วยช่วยดูแล และวันนี้เดือนก็คลอดลูกชายอีกคน ทั้งสองตั้งชื่อให้ว่าภูผา

แต่ในวันที่เดือนคลอดภูผาเกิดไฟไหม้บ้านจนต้องหนีไฟกันแทบเอาชีวิตไม่รอด เส็งอุ้มภูผาออกมาส่งให้เวหาเฝ้าน้องแล้ววิ่งกลับไปอุ้มเดือนที่เพิ่งคลอดลูกวิ่งทะลุไฟออกมาในสภาพหมดสติ

5 ปีผ่านไป...เส็งไปอยู่บ้านใหม่เปิดเป็นร้านขายกาแฟและขนมหวาน ตั้งชื่อเอาเคล็ดว่าร้าน “โชคดี”



วันนี้ขณะเส็งเก็บของปิดร้าน ลุงแดงมาซื้อของเห็นภูผานั่งเล่นอยู่ก็ทัก

“ไอ้ภูผา เอ็งรีบโตมาช่วยพ่อกับแม่เอ็งทำงานเลยนะ คนเขาจะได้เลิกลือว่าเอ็งน่ะเป็นตัวซวย เกิดมา บ้านก็ไฟไหม้ ไม่เบาแต่เกิดเลยนะเอ็งเนี่ย”

เส็งหยิบของมาขายได้ยินก็มองหน้าลุงแดง ลุงแดงจ่ายเงินรับของแล้วรีบออกไป เดือนเห็นสีหน้าเส็งก็เรียกอย่างไม่สบายใจ “พี่เส็ง...”

“ไม่เกี่ยวกับมันหรอก” เส็งบอก เดือนเปรยว่าตั้งแต่มีมัน ตนก็ไม่เคยถูกหวยอีกเลยนะ “นี่ลูกเอ็งนะอีเดือน” เส็งปรามจนเดือนหน้าจ๋อยเงียบไป อาม่าทำงานอยู่ข้างหลังเดือนลุกขึ้นตบปากเดือนเบาๆ ปรามสำทับ

คืนนี้...เดือนกับเส็งเข้านอนแล้ว อาม่ากำลังอาบน้ำ เวหานั่งอ่านหนังสืออยู่ และภูผานั่งเล่นบนลังไม้อยู่ข้างๆ ด้วยความซนประสาเด็กภูผาลุกขึ้นปีนป่ายชนตะเกียงล้มน้ำมันหกไฟลุก เวหาเห็นไฟไหม้ก็ร้องตะโกนบอกพ่อกับแม่

เส็ง เดือน และอาม่าวิ่งมาช่วยกันดับไฟ แม้จะตกใจเหน็ดเหนื่อยกันแทบขาดใจ แต่ก็สามารถดับไฟได้

“ใคร ใครเป็นคนทำไฟไหม้บ้าน อาม่าเหรอ!” เส็งถามหน้าถมึงทึง อาม่าสายหน้าดิก เส็งมองหน้าเวหา เวหาตกใจกลัวชี้ไปที่ภูผา ภูผาทำหน้าบ้องแบ๊ว เส็งมองภูผาขวับ อาม่ารีบปัดมือเวหาที่ชี้ภูผา

“ไอ้ภูผา!!!”

จากนั้นเสียงร้องห้ามจับทึ้งกันก็โวยวายขึ้นแข่งกับเสียงตะโกนของเส็งที่กำลังโกรธจัด

“ปล่อยกู กูจะตีมันให้ตาย”

เสียงเด็กร้องไห้จ้าด้วยความหวาดกลัว

ooooooo

วันนี้เป็นวันอาทิตย์...เวหาโตเป็นหนุ่มหล่อและเรียนเก่งจนเป็นที่กล่าวขวัญของคนละแวกบ้าน เป็นที่ภูมิใจของพ่อแม่ เวหากำลังเรียนชั้น ม.8 สอบได้ที่ 1 ทุกเทอม วันนี้กำลังจะไปเรียนพิเศษ

แม่จะจัดปิ่นโตให้ เวหาไม่เอาอายเพื่อนที่หิ้วปิ่นโตไป พ่อจึงให้เงินไปแทน เวหาอวยพรให้พ่อขายดี แล้วออกไป

“แล้วนี่ภูผามันออกไปขายไอติมรึยังล่ะพี่เส็ง”

“พูดถึงมันทำไม!! เดี๋ยวก็ได้ซวยกันทั้งวัน!” เส็งปราม

เส็งพูดไม่ทันขาดคำ ความซวยก็มาทันที เมื่อเชิดหัวหน้านักเลงคุมบ่อนกับสันต์และดำลูกน้องสองคนมาตะโกนอยู่หน้าร้าน

“ไอ้ชัย!! มึงกล้ามากที่มายุ่งกับเด็กของเฮียหมง”

ชัยที่กินกาแฟอยู่ในร้านกับเพื่อนมองหน้ากัน พลันชัยก็ถูกลูกน้องเชิดเข้าไปกระชากโยนออกไปนอกร้าน เส็งเห็นความหายนะก็ขอร้อง อ้อนวอน อย่ามีเรื่องกันในร้านเลย เชิดตวาดว่ามึงไม่เกี่ยวแล้วไล่เพื่อนชัยให้ออกไปนอกร้าน สั่งลูกน้อง “เอาตัวมันไปให้เฮีย”

ชัยเอาขวดในมือฟาดหัวดำจนขวดแตกกระจาย แต่ดำไม่สะดุ้งสะเทือน เพื่อนชัยก็ถีบสันต์กระเด็นสองฝ่ายเลยตะลุมบอนกัน ลูกค้าในร้านหนีกระเจิง ข้าวของแตกกระจาย เส็งกับเดือนได้แต่ตะโกนห้าม ชัยกับเพื่อนสู้ไม่ได้วิ่งหนีไป เชิด สันต์ และดำกวดตามทันที

ชัยกับเพื่อนวิ่งไปในซอยแคบๆ พ่อค้าแม่ขายบ้างวางของขายแบกะดิน บ้างวางหน้าร้าน ข้าวของถูกลุยจนเละ เสียงเอะอะโวยวายทำให้ภูผาที่เดินขายไอติมอยู่หันมอง

เชิด สันต์และดำไล่ทันพวกชัยเลยถูกรุมยำ กระทืบไปท้าไป

“เก่งนักใช่ไหม! ลุกขึ้นมาเก่งอีกสิวะ!”

“พอแล้ว มึงจำไว้นะ อย่ามาซ่าในถิ่นกู” เชิดสำทับ สันต์ตะคอกว่าให้มันรู้ซะมั่งว่าพวกกูเป็นใคร ถ้ามีคราวหน้า ...มันทำท่ายิงปืนใส่ก่อนตามลูกพี่ไป ทิ้งให้ชัยกับเพื่อนนอนร้องโอดโอยกันที่ข้างถนน

ภูผาตามมาเห็นการตะลุมบอนและพวกเชิดเดินกร่างกันไป ก็สะพายกระติกไอติมวิ่งไปดัก เจอพวกชัยเดินมา ภูผาออกไปยืนสั่นกระดิ่งขายไอติม

“ไอติมไหมครับ...ไอติม แก้กระหายน้ำดีนะครับพี่”

เชิดกับพวกกำลังเหนื่อยและหิวน้ำสั่งเอามาสามแท่ง ภูผาถามเอารสอะไรดี นม โกโก้ ถั่วดำ เชิดสั่งถั่วดำ สันต์บอกเอาถั่วดำสามแท่ง พอภูผาจะหยิบให้ สันต์ถามว่า

“เดี๋ยว ถ้าได้ไม้แดงจะได้กินฟรีอีกแท่งใช่ไหม” ภูผาบอกใช่ครับ “งั้นมึงต้องหยิบให้ได้ไม้แดงนะ”

ภูผาบอกไม่ได้ครับ สันต์กระชากคอเสื้อถาม “ทำไมไม่ได้ กูจะเอาก็ต้องได้” ภูผาบอกว่าตนไม่รู้ว่าแท่งไหนไม้แดง เชิดตัดบทให้รีบหยิบมาเถอะ

พอภูผาหยิบให้คนละแท่ง ทุกคนกัดดูปลายไม้ว่าได้สีแดงหรือเปล่า พอเห็นไม้ไม่มีสี สันต์ก็ล้วงกระติกหยิบไอติมขึ้นมากัดปลายหาไม้แดง หยิบกัดสี่แท่งก็ยังไม่เจอไม้แดง มันตะคอกถามว่า ในนี้มีไม้แดงไหมเนี่ย พอภูผาบอกว่ามี มันส่งไอติมในมือให้ดำถือแล้วหยิบไอติมในกระติกกัดดู เป็นไม้ธรรมดาอีก!

“โว้ยยยย!!” สันต์สบถ เชิดบอกให้พอเถอะ “ไม่ได้ลูกพี่ ถ้าไม่ได้ไม้แดงฉันไม่ยอม” แล้วมันก็หยิบไอติมขึ้นมากัดที่หัวแท่งแล้วแท่งเล่า ไม่เจอไม้แดงมันก็ส่งให้ดำกิน ดำรับไปจนกระเดือกไม่ทัน พอหยิบอีกอันมันดีใจที่ได้ไม้แดง ยื่นไปอวดลูกพี่ แล้วสั่งภูผา

“เอามาเลยฟรีหนึ่งแท่ง”

“ผมก็อยากให้พี่นะครับ...แต่ว่ามันหมดพอดีครับ วันหลังผมแถมให้แล้วกัน”

สันต์ไม่ยอม เชิดปรามว่ากะแค่ไอติมแท่งเดียวทำโวยวายไม่อายเขาหรือ ถามภูผาว่าเท่าไหร่ ภูผาบอกว่าแท่งละสลึง 10 แท่งก็ 2 บาท 50 เชิดสั่งไอ้สันต์จ่ายไป สันต์รับคำเสียงอ่อย ควักเงินจ่ายโดยดี

ภูผามานั่งพัก หยิบถุงผ้าหูรูดสีแดงมอๆขนาดเท่าฝ่ามือมีปักลายปลาคู่ออกจากกระเป๋ากางเกง เอาเหรียญรวมใส่ถุง เหรียญหนึ่งหลุดกลิ้งหลุนๆไป ภูผายัดถุงแดงใส่กระเป๋ากางเกงแต่ลืมรูดปิดปากถุง ไล่ตะครุบเหรียญที่กลิ้งไปเอาเป็นเอาตาย

“เกือบซวยแล้วไหมล่ะ”

ภูผาโล่งอกเมื่อตะครุบเหรียญไว้ได้ที่ปากท่อระบายน้ำพอดี รีบดึงถุงผ้าออกจากกระเป๋ากางเกง แต่ถุงไม่ได้รูดปิดปากถุง เหรียญจึงร่วงกราวลงท่อระบายน้ำเกลี้ยง!

“โว้ยยย...ซวยจนได้!!” ภูผาสบถหัวเสีย แล้วก้มส่องดูในท่อ...

ภูผาเห็นน้ำครำดำปี๋ในท่อ...แต่ในซีรีส์ลูกผู้ชาย ภูผากำลังก้าวสู่อีกมิติคือ...

“ฝากรักที่ปลายรุ้ง”

ooooooo

สายวันนี้ที่ตลาดสด อาม่าสุ่ยเดินหาซื้อผัก หยิบตะกร้าผักที่เหลือเลือกขึ้นมาถามแช่มว่านี่เท่าไหร่ แช่มมองแว่บเดียวบอก “สองหลึงแล้วกัน”

อาม่าต่อเหลือสลึงเดียวเพราะเป็นของเหลือเลือกแล้ว อาม่ายื่นตังค์ให้สลึงเดียว แช่มหยวนๆ แต่บ่นตามประสาว่า คิดราคาเอาเอง ทีหลังก็ไม่ต้องถามว่าเท่าไหร่ จะให้เท่าไหร่ก็แล้วแต่เลย

อาม่าพอใจที่ได้ราคาที่ต่อรอง เดินไม่ต่อปากต่อคำ ไปที่แผงขายผลไม้ของลำไยถามว่า องุ่นนี่ขายยังไง

ลำไยบอกว่าขีดละหกสลึง อาม่าถามว่าแล้วที่มีตำหนิล่ะ ลำไยบอกว่าไม่มี มีแต่ที่สวยๆสดๆ ขายราคาเต็ม

อาม่าทำหน้ารังเกียจว่าผลไม้ฝรั่งอั๊วไม่ชอบ แล้วจะเดินไป พอดีภูผาเดินยิ้มร่าเข้ามาบอก

“ป้าลำไย เอาองุ่นพวงนึง”

อาม่ารีบบอกว่าอย่าเอา ขีดละตั้งหกหลึง ภูผาบอกว่าวันนี้อั๊วรวยมาขอกินซักพวงน่าม่า อาม่าบอกว่ารวยก็เก็บไว้ทำอย่างอื่น แล้วลากให้กลับบ้าน อาม่ามองสภาพมอมแมมของภูผาถามว่าไปทำอะไรมา

“ไปงมเหรียญในท่อมา แต่วันนี้อั๊วโชคดี ขายไอติมได้ตั้งสามกระติกแน่ะ”

“ดีแล้ว ขยันทำมาหากินต่อไปเอ็งเรียนจบแล้วค้าขายเก่งๆ ชีวิตเอ็งจะได้ไม่ลำบาก อย่านอนตื่นสาย”

“อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา” ภูผาพูดต่ออย่างจำแม่นเพราะอาม่าสอนทุกวัน

กลับร้านโชคดี ภูผากับอาม่าตกใจเมื่อเห็นเส็งกับเดือนกำลังเก็บร้านที่ถูกแก๊งอันธพาลทำลายป่นปี้

อาม่าถามว่าเกิดอะไรขึ้น เส็งพูดอย่างฝังใจว่า

“แค่เดือนมันเอ่ยชื่อไอ้ภูผา ความซวยก็เข้ามาเลย”

“ลื้อซี้ซั้วต่านาอาเส็ง” อาม่าไม่ชอบใจ ภูผาได้แต่ถอนใจเพราะเคยชินกับข้อกล่าวหานี้ เอาเงินยื่นให้ป๊าบอกว่าน่าจะพอค่าซ่อมเก้าอี้

เส็งจ้องหน้าภูผาแล้วมองเงินในมือ แต่ไม่ทัน จะทำอะไร มือของเต็กหลีก็ยื่นเข้ามาคว้าเงินไปบอกว่า

“ยังขาดอีก 10 บาท ลื้อค้างค่าน้ำตาลอั๊วมานาน แล้วนะอาเส็ง จ่ายมาซะดีๆ”

เส็งพยายามต่อรองขอเอาเงินไปซ่อมร้านก่อน

“พรุ่งนี้ลื้อต้องมาจ่ายให้อั๊ว ไม่งั้นอั๊วจะไม่ขายน้ำตาลให้ลื้อ ลื้อจะได้ขายกาแฟจืดๆ เมียลื้อก็จะได้ขายขนมจืดๆแน่”

พอเต็กหลีไป เส็งก็ด่าภูผา “ไอ้ตัวซวย มึงโง่ไม่เห็นไอ้เต็กหลีมันเดินเข้ามาเรอะถึงควักเงินออกมา แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซ่อมเก้าอี้ ฮะ!”

อาม่าพยายามปกป้องภูผา แต่เส็งก็ยังโทษว่าไม่ใช่เพราะมันหรือเราถึงต้องลำบากกันแบบนี้ มีแต่เอาความฉิบหายมาให้ อาม่าเลยเรียกภูผาให้ไปช่วยทำกับข้าวไปให้พ้นหน้าเส็งเสีย แต่เส็งก็ยังระบายอารมณ์ว่า

“กูน่าจะปล่อยให้มันตายในกองไฟตั้งแต่วันนั้นแล้ว”

เลยถูกอาม่าหันกลับปราดเข้าตบปากเส็ง เพียะ!!

ooooooo

เช้านี้...เวหาไปถึงโรงเรียนก็นั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้คนเดียว พอเงยขึ้นก็สะดุดตานักเรียนสาวสวยที่กำลังนั่งแกะห่อของขวัญเล็กๆ เพียงแว่บเดียวที่เห็น เวหาก็หลงรักทันที

สาวสวยนั้นคือทอรัก เธอเป็นลูกสาวของคุณหญิงดารกากับคุณหมอเจ้าของโรงพยาบาล เพื่อนหญิงพาเพื่อนชายที่ท่าทางเขินๆ เอาของขวัญวันเกิดมามอบให้ทอรัก ทอรักยิ้มหวานน่ารัก ทำให้ดูยิ่งน่าหลงใหล

“เวหา ติวหนังสือให้หน่อยได้ไหม” สร้อยกับเพื่อนเดินเข้ามานั่งร่วมโต๊ะ เห็นสายตาเวหามองอะไรอยู่ สร้อยมองตามไปเห็นทอรักหันมาสบตาเวหาพอดี เธอยิ้มเขินๆให้ สร้อยชักสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก

ที่บ้านพิทักษ์กิจ ดารกาแม่ของทอรักกำลังเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุดที่ใส่ แต่งให้นวลฉวีเลขาของตนดู นวลฉวีชมว่าเข้ากันที่สุดเลย ดารกาสั่งให้นวลฉวีไปหยิบรองเท้าสีที่เข้ากับชุดมาให้ พลันก็ชะงักเมื่อเห็นทินราชเดินเข้ามา นวลฉวีรีบหลบไปอย่างรู้หน้าที่ ดารกาชักสีหน้าถามทันทีว่า

“ฉันว่าคุณเก็บของใช้ส่วนตัวคุณไปหมดแล้วนะ แล้วนี่กลับมาทำไม ลืมอะไรอีกเหรอ”

ทินราชเงียบอย่างไม่อยากต่อปากต่อคำด้วย ดารกาเหน็บตามหลังว่า

“อย่าบอกนะว่าไม่ทันไรนังเมียน้อยมันทิ้งคุณไปแล้ว แล้วจะกลับมาขอคืนดีกับฉัน”

ทินราชบอกว่าตนมาหาลูกสาว ดารกาเสียงสูงเหน็บว่า เพิ่งรู้ว่าคุณคิดถึงลูกเป็น

“วันนี้เป็นวันเกิดยัยรัก” ทินราชบอก เห็นดารกาชะงักก็เหน็บคืนว่า มัวแต่ออกงานสังคมจนลืมวันเกิดลูกล่ะสิ เป็นแม่ประสาอะไร อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ แต่ไม่เคยใส่ใจลูกเลย

“หยุดนะ! คนที่ทิ้งลูกทิ้งเมียไปมีชู้ ไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้...ก็คุณไม่เคยอยู่บ้านเลยจะรู้ได้ยังไงว่าฉันดูแลลูกยังไงบ้าง ออกไปได้แล้ว ฉันไม่อยากให้ลูกต้องมาเจอพ่อเลวๆอย่างคุณอีก”

พอดีนวลฉวีเอารองเท้าเข้ามาสวนกันจนเกือบชนกับทินราชที่หุนหันเดินออกไป ดารกาสั่งนวลฉวีให้สั่งเค้กมาให้ยัยรักด้วย แล้วเฉิดฉายออกไปงานเลย

ทอรักแต่งตัวสวยในวันเกิด รอรุ้งมาจ๊ะเอ๋อวยพรวันเกิด ทอรักถามว่าพ่อโทร.มาหรือเปล่า ทอรุ้งบอกว่าเดี๋ยวคงมาละมั้ง พ่อสัญญาว่าจะมาก็ต้องมาสิ ทอรักถามว่าคุณแม่อยู่ข้างล่างใช่ไหม ทอรุ้งบอกว่าเมื่อกี๊ถามป้าสาย ป้าบอกว่าคุณแม่ออกไปงานแล้ว

“ลืมวันเกิดพี่อีกแล้วสิ” ทอรักบ่นน้อยใจ ทอรุ้งปลอบว่าอย่าคิดมาก เดี๋ยวจะไม่สวย

ฝ่ายดารกาให้นวลฉวีสั่งเค้กวันเกิดแล้วก็ไปเบิกบานในงานสังคม รับรางวัลที่ให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษาตลอดมาท่ามกลางเสียงยกยอปอปั้น

จนกระทั่งเย็นทอรุ้งยืนมองอาหารบนโต๊ะเซ็งๆ ที่แม่ก็ไม่อยู่พ่อก็ไม่มา ทอรักบอกว่าคุณพ่ออาจจะมีเคสผ่าตัดด่วนก็ได้ เวลาไม่แน่นอน ทอรักถามว่า “ไม่แน่นอน แม้แต่วันเกิดพี่เหรอ”

ครู่หนึ่งเสียงออดดังขึ้น ทอรุ้งดีใจบอกว่าคุณพ่อมาแล้ว ทอรักวิ่งนำออกไปทันที แต่พอถึงหน้าบ้านก็จ๋อยสนิท เมื่อเจอป้าสายแม่บ้านถือกล่องเค้กกลับมา พร้อมคำอวยพร...

“สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณหนูรัก คุณผู้หญิงสั่งเค้กมาให้ค่ะ”

ทอรุ้งรับเค้กยิ้มแย้มดีใจจะเปิดให้พี่สาวดู แต่ทอรักวิ่งเข้าบ้านไปแล้ว...

ooooooo

เช้านี้ภูผาสะพายกระติกใส่ไอติมไปขายที่ข้างสนามฟุตบอลโรงเรียน เพื่อนๆซื้อกันหลายคน ธนากร อยู่ในสนามตะโกนถามว่าเสร็จหรือยัง ลงมาเตะบอล เถอะ ภูผาวางกระติกไอติมวิ่งลงสนามไปเล่นกับเพื่อนๆ

ภูผากับเพื่อนไล่เตะฟุตบอลกันอย่างเมามัน รุนแรง ภูผาเล่นจริงจังพอเตะเข้าก็ร้องดีใจกับเพื่อนๆ สมคิดเพื่อนของภูผาที่มีฐานะและชีวิตใกล้เคียงกันไม่พอใจจึงแกล้งเข้าเสียบข้อเท้าธนากรจนล้มคะมำ ภูผาไม่พอใจถามว่าเล่นแบบนี้ได้ยังไง นักกีฬาเขาไม่ทำร้ายเพื่อนกันหรอก

สมคิดบอกว่า กูไม่ได้ตั้งใจ และพ่อกูสอนว่าในสนามไม่มีเพื่อน มีแต่ศัตรู ภูผาทำเสียงหัวเราะในคอพูดใส่หน้าสมคิดว่า “เพราะพ่อสอนมาแบบนี้นี่เอง” สมคิดคว้าคอเสื้อภูผาต่อยเปรี้ยง

ธนากรเข้าห้ามถามว่าต่อยภูผาทำไม สมคิดอ้างว่ามันด่าพ่อกู แม้ภูผาจะเจ็บแต่สะกดกลั้นอารมณ์เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกัน บอกเพื่อนๆว่าแยกย้ายกันไปเถอะ ทุกคนจึงแยกย้ายออกมา สมคิดยังตะโกนด่า...

“ไอ้พวกกระจอกเอ้ย”

ธนากรหยุดกึก ภูผากระตุกมือไม่อยากให้มีเรื่อง แต่สมคิดพุ่งเข้าถีบธนากรล้ม ภูผาเลยหันไปซัดสมคิดต่างซัดกันนัวเสียจนถุงเงินขายไอติมของภูผาหล่นไม่รู้ตัว ต่อยกันอุตลุดอยู่ครู่หนึ่งครูพละวิ่งมาเป่านกหวีดปรี๊ด! กองเชียร์จึงหยุด แต่ภูผากับสมคิดยังซัดกันไม่เลิก

ooooooo

เพราะเรียนเก่งสอบได้ที่ 1 มาตลอด ครูอนงค์จึงให้เวหาช่วยตรวจการบ้านนักเรียนให้ ตรวจห้อง ก.เสร็จก็ให้ตรวจห้อง ข. และห้อง ค. ต่อด้วย...แล้วครูอนงค์ก็แว่บไป บอกว่าเดี๋ยวครูมา

เวหาตรวจไปถึง ม.8 ห้อง ข. ก็เจอสมุดของทอรัก พิทักษ์กิจ วิชาคณิตศาสตร์ เวหาใจเต้นแรง คิดถึงเจ้าของสมุด ตรวจไปยิ้มไป เพียงข้อแรกก็ผิดแล้ว เวหาไม่กากบาทแต่กลับเขียน “ยังไม่ถูกครับ” แทน แล้วเขียนวิธีทำที่ถูกต้องลงไปในสมุด เสร็จแล้วปิดสมุด นั่งยิ้มอยู่คนเดียวพลันก็ได้ยินเสียง

“พี่ทอรัก...”

เวหาหันมองอย่างเร็ว เห็นทอรักหยุดหันไปหาน้องแล้วพากันเดินผ่านไป เวหาตื่นเต้นมาก คว้าสมุดของทอรักวิ่งออกจากห้องตามไปดักหน้า ยื่นสมุดไปตรงหน้ายิ้มหวานบอก

“ทอรัก...เราเอาสมุดการบ้านมาคืน”

ทอรักรับสมุดด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก แต่พอเห็นความหล่อของเวหาสีหน้าก็คลายลง แต่ก็ยังรู้สึกถึง บุคลิกที่เฉิ่มเชยของเขา

พอดีมีเด็กสองคนวิ่งไล่กันมาชนทอรุ้งอย่างแรงจนทอรุ้งตัวหมุน เวหารีบเอามือรับไว้ก่อนที่ทอรุ้งจะล้ม

“เป็นอะไรไหม”

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ” ทอรุ้งรีบถอยออก

ทอรักมองเวหาอย่างน่าสนใจและยิ้มให้ แล้วชวนทอรุ้ง “ไปกันเถอะยัยรุ้ง”

เวหามองสองสาวที่เดินไปอย่างหลงใหล ขาอ่อน ดีใจสุดๆที่ทอรักยิ้มให้

ตกเย็นเวหานั่งติวหนังสือให้เพื่อนชายสองคนอยู่ที่ลานอ่านหนังสือ ทอรักเดินผ่านมาหยุดมองจะหาที่นั่งอ่านหนังสือ เวหาดีใจรีบถาม

“ทอรัก...อยากให้เราติวหนังสือให้ไหม”

ทอรักดูหนังสือในมือแล้วเดินเข้าไป เพื่อนชายสองคนรีบขยับที่ให้นั่ง เวหายิ้มกว้างดีใจ

ooooooo

คืนนี้เมื่อเข้าห้องนอนที่เวหากับภูผานอนห้องเดียวกันแต่แบ่งอยู่คนละซีกห้อง

ฟากของเวหามีทั้งโต๊ะเขียนหนังสือ โคมไฟและเตียงดูเรียบร้อย ที่ชั้นวางหนังสือมีหนังสือค่อนข้างเยอะ แต่ฟากของภูผาไม่มีข้าวของมากนักและค่อนข้างรก แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

เวหานั่งยิ้ม...ยังเคลิ้มกับการได้เจอทอรักเมื่อเย็นนี้ ที่สมุดมีแต่คำว่า “ทอรัก” เต็มไปหมด เวหาสะดุดเมื่อเสียงเคาะประตูดังแล้วภูผาเปิดประตูเข้ามา ทันทีที่เห็นภูผาที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนและฟกช้ำ ก็ถามดักคอว่า

“หน้าไปโดนอะไรมา...ไปมีเรื่องมาอีกล่ะสิ” ภูผาไม่ตอบ เวหาถามรุก “พ่อรู้รึยัง”

ภูผาไม่ตอบ เดินไปจะถอดกางเกง นึกถึงถุงเงินรีบคลำ ไม่มี! ตกใจปลิ้นกระเป๋ากางเกงออกดูไม่มีจริงๆ

ภูผานึกถึงตอนที่ชกกับสมคิด เชื่อว่าถุงเงินคงร่วงไปตอนนั้น เขาหลับตาเซ็ง...ซวยได้ทุกวัน

เวหามองน้องชายอย่างเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาลุกไปเปิดประตูตะโกน

“พ่อ!!!”

ภูผาตกใจมองขวับ

ooooooo    

อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง "ภูผา" ตอนที่ 1 วันที่ 22 ม.ค.62

บทประพันธ์โดย สลิลา
บทโทรทัศน์โดย สลาลิ
กำกับการแสดงโดย ณัฏฐ์กรณ์ สุทธาวาส
ผลิตโดย บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ