อ่านละคร ภูผา ตอนที่ 4 วันที่ 29 ม.ค.62

อ่านละคร ภูผา ตอนที่ 4 วันที่ 29 ม.ค.62

ทอรุ้งนัดอาม่าแล้วกลับไปที่คลินิกนุสรา เล่าเรื่องภูผาต่อยปากเวหาให้ฟัง นุสราบอกว่าคนอย่างภูผาไม่น่าทำ ป้าว่ามันต้องมีเรื่องอะไรกันแน่ๆ ทอรักฟังอยู่ด้วยแก้ต่างให้เวหาว่าคนอย่างเขาจะไปมีเรื่องอะไรกับใครได้ เลิกเห็นภูผาเป็นเด็กดีเสียทีเถิด นักเลงก็คือนักเลงวันยังค่ำ ทอรุ้งถามว่าพี่รักรู้เรื่องได้ยังไง

ทอรักบอกว่าเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟัง

ทอรุ้งจะบอกว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกันแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ บอกแต่ว่าวันนี้ตนนัดอาม่ามาเจอกับภูผาตอน 5 โมงเย็น ทอรักฟ้องป้านุสว่ายัยรุ้งยังไปคบกับเขาอีก ป้านุส



บอกว่านัดแล้วยังไงก็ต้องไป แต่ป้าเห็นเขาเป็นเด็กดีนะถ้าไม่ติดว่าไปเป็นนักเลง แล้วพูดกับทอรุ้งว่า

“ป้ารู้ว่ารุ้งบริสุทธิ์ใจในการคบหากับภูผา และรู้ว่าภูผาเป็นคนดี แต่ป้าก็ไม่ได้สนับสนุนรุ้ง ตราบใดที่เขายังเป็นนักเลง รู้ไหม” ทอรุ้งรับคำอย่างเด็กหัวอ่อน

ทอรุ้งไปรอที่ศาลาริมน้ำก่อนเวลานัดมากเพราะมีเรื่องอยากถามภูผา อาม่าก็มาก่อนเช่นกัน อาม่าเอาขนมมาฝากทอรุ้งกับภูผาด้วย จึงให้ทอรุ้งกินรอไปก่อน อาม่าดีใจที่เห็นทอรุ้งกินขนมอย่างอร่อยมาก

ฝ่ายภูผาจำต้องไปเล่นกับผู้กองให้ครบขา แต่ผู้กองเล่นเสียตาแล้วตาเล่า ภูผาเห็นเลยเวลานัดกับทอรุ้งแล้วจึงขอเลิก ผู้กองไม่ยอมให้เลิก ระหว่างนั้นสันต์ก็ส่งสัญญาณให้ลูกน้องทำตามแผน พอภูผาลุกมันก็โยนไพ่ 3-4 ใบไปที่พื้น ผู้กองเห็นก็โวยวายว่าภูผาซ่อนไพ่ พอภูผาบอกว่าไม่ใช่ของตนก็ถูกผู้กองใช้ด้ามปืนตบหน้า ภูผาสวนหมัดไปจนผู้กองคว่ำไม่เป็นท่า

ผู้กองยิงปืนขึ้นฟ้าประกาศใครไม่เกี่ยวออกไปแล้วยิงขึ้นฟ้าอีกนัดผู้คนหนีกันกระเจิง ภูผากับสมคิดได้จังหวะจะออกไป สันต์แกล้งขัดขาภูผาล้มลง ผู้กองถือปืนเดินเข้าหาคำราม

“มึงตายแน่ไอ้ภูผา” ทั้งผู้กองและภูผาต่างจ้องปืนใส่กัน ทันใดเจ๊จูก็เข้ามาตะโกน

“หยุดนะผู้กอง ผู้กองจะใหญ่มาจากไหนฉันไม่สน แต่ในบ่อนนี่ฉันใหญ่ที่สุด ออกไปได้แล้ว!”

“กล้าลองดีกับกูเหรออีนี่” ผู้กองชี้ปืนไปที่เจ๊ ภูผาโดดเตะมือผู้กองแต่ปืนไม่หลุดเสียงปืนลั่นเปรี้ยง ผู้กองหันปืนจะยิงภูผา สมคิดปาของใส่เพื่อให้ภูผาวิ่งหนี ผู้กองถือปืนวิ่งตามถูกภูผาเตะล้ม ภูผาชี้ปืนใส่ผู้กอง ทันใดนั้นเสียงปืนลั่นเปรี้ยง ลูกปืนทะลุอกผู้กองล้มจมกองเลือดในขณะที่ภูผายังถือปืนจ้องใส่ผู้กองอยู่

สมทรงที่มากับผู้กองวิ่งเข้ามาดู ร้องกรี๊ดว่าผู้กองตายแล้ว ผู้กองถูกยิงตาย! สมคิดวิ่งมาคว้ามือภูผาบอกให้หนีเร็ว เจ๊ตกใจที่ตำรวจถูกยิงตาย สั่งเชิดให้พวกเราแยกย้ายกันไปก่อน เรียกภูผากับสมคิดให้ตามเจ๊มา

เชิดสั่งลูกน้องให้สลายตัวแล้วไปเจอที่บ้านตน พวกนักเลงวิ่งหนีกัน ทิ้งศพผู้กองเป็นปริศนาคาบ่อน

เจ๊จูพาภูผากับสมคิดไปขึ้นรถหนีลงทางใต้บอกให้กบดานที่นั่นจนกว่าเรื่องจะเงียบ ภูผาขอไปลาอาม่าก่อนได้ไหม สมคิดบอกว่า “ไม่ทันแล้วไอ้ภูผา พ่อมึงมาแล้ว ขึ้นรถ” แล้วดันภูผาขึ้นรถไป

ทอรุ้งเห็นเลยเวลานัดนานจึงไปตามหาภูผา เห็นเขากำลังขึ้นรถพอดี พยายามร้องเรียกแต่รถก็ตะบึงออกไปแล้ว ทอรุ้งได้แต่ยืนตะลึง!

ooooooo

อาม่านั่งรออยู่ที่ศาลาริมน้ำนานมาก นึกเป็นห่วงชะเง้อมองแล้วมองเล่าก็ไม่เห็นทอรุ้งกับภูผากลับมา

ทอรุ้งเห็นภูผาขึ้นรถออกไปแล้วก็เดินย้อนกลับมา ผ่านตลาดได้ยินชาวบ้านคุยกันว่าผู้กองถูกยิงตายในบ่อนตอนนี้ตำรวจมาเต็มหน้าบ่อนแต่ยังหาคนยิงไม่เจอ

“ภูผา!” ทอรุ้งฉุกคิดขึ้นมาทันที

เจ๊จูพาภูผากับสมคิดนั่งรถมุ่งไปทางใต้บอกว่าที่นั่นเส้นสายเจ๊ทั้งนั้น เรื่องคดีที่กรุงเทพฯเดี๋ยวเจ๊จัดการเอง

ภูผาบอกสมคิดว่าตนไม่ได้ยิงผู้กอง สมคิดบอกว่าตนเป็นคนยิงเอง บอกว่าถ้าเราไม่ยิงมัน มันก็ยิงนาย

ภูผาอึ้งพูดไม่ออก ต่างคนต่างนิ่ง

ที่ร้านโชคดีกำลังตื่นเต้นยินดีที่เวหาสอบเข้าเตรียมแพทย์ได้ เส็งดีใจมากจนเมื่อแดงมาซื้อแปรงสีฟันก็ให้ฟรีฉลองที่เวหาสอบได้

ทอรุ้งเฝ้าครุ่นคิดว่าภูผาหายไปไหน ทอรักเข้ามาบอกว่าพรุ่งนี้จะกลับอเมริกาแล้ว ทอรุ้งถามว่าทำไมกลับเร็ว ไหนบอกว่าจะมาอยู่ช่วงซัมเมอร์ นี่แค่เดือนเดียวก็จะกลับแล้ว เกิดอะไรขึ้น ทอรักมองไปรอบบ้านถอนใจ บอกว่า

“บ้านเราสวยนะรุ้ง สวยมาก แต่มันเยือกเย็นเหมือนสวรรค์ที่มันหนาวเหน็บ พี่กลับบ้านเดือนนึงได้เจอหน้าแม่ 4 ครั้ง ส่วนพ่อแค่ครั้งเดียว ถ้าไม่ไปหาก็คงไม่เจอ รุ้งเก่งนะที่ยังร่าเริงอยู่ได้ แต่พี่เป็นอย่างรุ้งไม่ได้หรอก”

ทอรุ้งมองหน้าพี่สาวเต็มตา จนทอรักต้องเบือนหน้าหนี

ooooooo

5 ปีผ่านไป...ภูผากับสมคิดทำงานอยู่ในแปลงผัก ทั้งสองโตเป็นหนุ่มเต็มตัว หน้าตากร้านแดดแข็งแรง หล่อเข้ม ภูผามองแปลงผักอย่างสนใจ หยิบถุงผ้าแดงที่อาม่าเย็บให้ขึ้นมา พลิกดูด้านหลังที่อาม่าปักตัวหนังสือสีเหลืองไว้ว่า “คุณธรรม”

สมคิดเดินมาถามภูผาว่าคิดอะไรอยู่ คิดถึงสาวหรือ ภูผาบอกว่าตนอยากเลิกเป็นนักเลง อยากจะไปทำมาค้าขายสินค้าเกษตรก็ได้ สมคิดถามว่าเอาจริงหรือ เห็นบ่นแบบนี้มาหลายทีแล้ว ภูผายืนยันว่า “เอาจริงสิวะ”

“เอาจริงก็เอาจริง เบื่ออยู่ที่นี่แล้วเหมือนกัน แล้วนายวางแผนยังไง จะไปเริ่มต้นที่ไหน” ภูผาบอกว่าอยากกลับกรุงเทพฯ “สุดยอด! คิดเหมือนกันเลย...คิดถึงบ้านแล้วว่ะ...ตกลงเราจะกลับกรุงเทพฯกันเลยใช่ไหม”

ภูผายิ้มพยักหน้า เพราะคิดถึงคนที่กรุงเทพฯเหมือนกัน

ฝ่ายเวหาเป็นนักเรียนแพทย์ปี 3 แล้ว เวหาตั้งอกตั้งใจเรียนจริงจัง

วันนี้หลังเลิกเรียนเพื่อนมาชวนเวหาว่าวันนี้ไม่ไปเลี้ยงเหล้าหรือ เวหาบอกว่าวันนี้ไม่ได้เพราะนัดสาวไว้เพื่อนถามแซวๆว่าอีกแล้วหรือ เวหายิ้มกริ่มบอกว่าต้องเร่งทำคะแนนหน่อย ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน

ทอรุ้งเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว เธอโตเป็นสาวสวยร่าเริง เลิกเรียนแล้วเดินออกมากับเพื่อนสองสามคนเห็นเวหายืนยิ้มอยู่ ทักว่าพี่เวหามารอรับรุ้งถึงนี่เลย เรานัดกันวันนี้หรือ เวหาปากหวานว่าอยากรีบมาติวให้ รุ้งขอไว้ไม่ใช่หรือ ทอรุ้งชวนไปที่บ้านกันดีกว่า

“ก็ดีเหมือนกันนะ พี่มัวแต่เรียนหนักไม่ได้ไปสวัสดีคุณแม่รุ้งตั้งนานแล้ว”

หนุ่มสาวยิ้มให้กันแล้วเดินออกไป

ภูผากับสมคิดกลับมาถึงตลาดที่คุ้นเคยแล้ว บอกกันว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากเลย มีตำรวจสองคนผ่านมามองทั้งสองอย่างไม่ไว้ใจเพราะเห็นท่าทางแปลกๆ จึงสะกดรอยตาม

สมคิดเห็นหมอนุสราคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็น แต่ภูผาจำได้ว่าหมอเคยทำแผลให้เราไง สมคิดพูดติดตลกว่าในกระเป๋าเขาต้องมีเงินเป็นฟ่อนแน่ๆ

พอจะเข้าไปทักก็ถูกตำรวจตะครุบไว้ทันที ซ้ำพอดิ้นยังถูกกระบองเคาะหัวอย่างแรง

หมอนุสราตกใจถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจบอกว่าสองคนนี้กำลังจะปล้นคุณ หมอนุสรามองเต็มตาก็จำได้บอกตำรวจว่าตนรู้จักสองคนนี้

เมื่อพากันเข้าไปนั่งคุยกันในคลินิก นุสราถามว่าไม่เจอกันตั้ง 5 ปี ไปทำอะไรที่ไหนมา

“พวกเราลงใต้ครับ ทีแรกว่าจะไปกรีดยาง แต่เขาว่าแถวสวนยางเสือมันชุม เรากลัวถูกเสือคาบไปกินเลยไปคุมบ่อนดีกว่า...งานถนัด” สมคิดเล่าติดตลก

นุสราถามว่าอย่าบอกนะว่าจะมาเป็นนักเลงต่อ ภูผาบอกว่าเราเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งเลยคิดจะลงทุนค้าขาย นุสราบอกว่าคิดค้าขายก็ดีเพราะสองคนไม่ได้เรียนสูง คงไปทำราชการไม่ได้

ภูผาถามว่าแล้วหลานสาวคุณหมอตอนนี้เป็นยังไงบ้าง นุสราถามว่าทอรักกับทอรุ้งน่ะเหรอ สองคนนั้น...

นุสรากำลังจะเล่า พอดีผู้ช่วยมาบอกว่ามีคนไข้ จึงขอตัวก่อนเดี๋ยวจะมาคุยด้วย

สมคิดบอกว่าไม่เป็นไร ตนกับภูผาไปก่อนดีกว่าอยากกลับบ้านมากแล้ว วันหลังค่อยมาคุยใหม่

สมคิดจะเข้าบ้านก่อน ชวนภูผาพักที่บ้านตนก่อนไหม ภูผาอยากแวะไปที่บ้านแต่ก็ลังเลไม่แน่ใจว่าที่บ้านจะต้อนรับตนหรือไม่ ทั้งสองจึงแยกกัน

สันต์วนเวียนอยู่แถวนั้นเห็นภูผาเดินผ่านมาบอกดำให้ช่วยดูว่าใช่ภูผาหรือเปล่า ดำจำได้ว่าใช่

ภูผาบ่ายหน้าไปที่ร้านโชคดีทันที เห็นประตูบ้านปิดก็หาร่องรูส่องดูข้างใน ลุงแดงมาเห็นถามว่าจะเช่าบ้านหรือ ภูผาหันมองดีใจบอกว่า “ลุงแดง ผมเอง” แต่ลุงแดงจำไม่ได้ ภูผาจึงถอดแว่นออก ลุงแดงจำได้ทันที ถามไถ่กันจึงรู้ว่าเส็งกับเดือนย้ายไปได้ 3 ปีกว่าแล้ว วาดแผนที่บ้านเส็งให้พลางเล่าว่า

อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง ภูผา ตอนที่ 4 วันที่ 29 ม.ค.62

บทประพันธ์โดย สลิลา
บทโทรทัศน์โดย สลาลิ
กำกับการแสดงโดย ณัฏฐ์กรณ์ สุทธาวาส
ผลิตโดย บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ