อ่านละคร ภูผา ตอนที่ 2 วันที่ 25 ม.ค.62
เส็งถามว่าภูผาไปหลอกอะไรหรือเปล่า บอกว่าตนไล่มันออกไปแล้วถ้ามันไปทำอะไรไม่ดีตนไม่รับผิดชอบ ทอรุ้งบอกว่าภูผาไม่ได้ทำอะไร ถามว่าพอรู้ไหมว่าตอนนี้ภูผาอยู่ไหน“จะไปรู้มันเรอะ ช่างหัวมันปะไร” เส็งตัดบทเสียงกระด้างแล้วไม่สนใจอีกเลย
เย็นนี้ภูผาตามพ่อของสมคิดไปทำงานก่อสร้าง แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ภูมิใจตัวเอง
สมคิดมานั่งปาดเหงื่อถามว่า “อยากได้เงินเขาก็ต้องเอาเหงื่อแลกมาใช่ไหมวะ” ภูผาบอกว่าก็คิดได้นี่แล้วไปเข้าบ่อนทำไม “ก็เพิ่งคิดได้หลังโดนกระทืบนี่แหละ”
สมคิดตอบขำๆ ภูผาหัวเราะทั้งขำทั้งดีใจที่เพื่อนคิดได้
ทำงานเสร็จขณะเดินกลับบ้าน สมคิดบอกว่าพรุ่งนี้พ่อจะพาไปตัดหญ้าเพราะรับงานไว้
รุ่งขึ้นพ่อพาไปตัดหญ้าที่บ้าน “พิทักษ์กิจ”
ไม่มีใครรู้ว่าเป็นบ้านใคร จนกระทั่งสมคิดไปตัดหญ้าเจอเวหากำลังนั่งติวกับทอรักที่โต๊ะสนาม
ดารกามาเจอเวหาติวให้ทอรักอยู่ก็ชมว่าน่ารักมากถ้ามีเวลาก็ช่วยติวให้ทอรุ้งด้วย ดึงๆมาหน่อย ตนเป็นห่วงเรื่องคบเพื่อน
สมคิดไปตัดหญ้าใกล้ๆโต๊ะที่ทอรักกับเวหา
นั่งติวกันอยู่ ทอรักไล่อย่างรังเกียจให้ไปตัดไกลๆ สมคิดบอกว่าตรงนี้หญ้ามันยาว ทอรักโพล่งไปว่า “แต่ฉันรังเกียจ” สมคิดบ่นว่า “หน้าตาก็ดี...แต่นิสัย...”
“พูดจาให้มันดีๆนะ เป็นแค่คนตัดหญ้าอย่ามาลามปาม อยากโดนไล่กลับรึไง” เวหาปราม
ภูผาได้ยินเสียงโต้เถียงกันจึงเดินเข้ามาถามสมคิดว่ามีอะไร เวหาเห็นภูผาถึงกับอึ้งทำหน้าไม่ถูก ทอรักมองสมคิดกับภูผาจำได้ว่าคือคนที่ทอรุ้งพาไปที่คลินิกป้าหมอ ชื่อนายภูผา ตวาดถาม
“กล้ามาตามตื๊อน้องสาวฉันถึงบ้านเลยเหรอ!”
“นี่บ้านรุ้งเหรอ” ภูผางงๆ เวหาตัดบทบอกให้พาเพื่อนไปตัดหญ้าไกลๆ ตรงนี้เขาจะอ่านหนังสือกัน แอบบุ้ยใบ้ให้ภูผารีบไป ภูผาจึงลากสมคิดไป ทอรักลุกตามไปบอกเวหาว่า “เดี๋ยวรักมานะ”
เวหาจึงลุกตามไปเรียกภูผาแยกมาคุย กำชับเครียดว่า
“อย่าให้ใครรู้นะว่านายเป็นน้องฉัน” ภูผาถามว่าทำไม “ก็ดูสารรูปนายสิ รีบกลับไปได้แล้ว” มองเลิ่กลั่ก กลัวใครเห็น ปรามภูผาว่า “ฉันไม่รู้ว่านายรู้จักกับทอรุ้งได้ยังไง แต่นายควรจะเจียมตัวเอาไว้ เด็กเหลือขออย่างนายไม่ควรมายุ่งกับรุ้ง”
“ต้องเด็กดีอย่างนายใช่ไหมถึงจะยุ่งได้”
“ฉันไม่อยากมีเรื่องกับแกที่นี่ กลับไปซะ” ภูผาถามว่าทำไม อายที่มีน้องอย่างตนรึไง “ไอ้ภูผา!” เวหาคำรามเบาๆ กลัวใครได้ยิน พลันก็ได้ยินเสียงร้องทักอย่างดีใจ
“ภูผา”
ทั้งสองหันไปเห็นทอรุ้งยืนยิ้มดีใจอยู่!
ooooooo
ทอรักให้แม่บ้านไปดูทอรุ้งที่ห้อง แม่บ้านรายงานว่าคุณหนูไม่อยู่ห้อง ทอรักบอกให้ไปหาให้เจอ ตัวเองก็นั่งหนักใจว่าจะเอาไงดีเพราะแม่สั่งไว้ให้ดูแลน้อง
ที่สนาม...ทอรุ้งยืนมองภูผาถามอย่างตื่นเต้นว่ามาได้ยังไง เวหาอึดอัดทำหน้าไม่ถูกกลัวทอรุ้งรู้ว่าภูผาเป็นน้อง จึงเร่งทอรุ้งให้เข้าบ้านดีกว่าเดี๋ยวคุณแม่จะว่าเอา พวกนี้ตัดหญ้าเสร็จแล้วกำลังจะกลับ แอบใช้สายตาบีบคั้นภูผาพูดเบาๆ
“จำที่ฉันสั่งให้ดีนะ” ทอรุ้งได้ยินแว่วๆถามว่าสั่งอะไร “สั่งว่าเวลามาทำงานให้มารยาทดีๆหน่อย”
ภูผาหน่ายพี่ชายเลยตัดปัญหาเดินออกไป ทอรุ้งตามไปคว้าแขนแต่ไม่ทัน เวหาใจคอไม่ดีกลัวความแตก
ทอรุ้งตามไปทันภูผาที่พยายามเดินหนี บอกว่าตนรู้เรื่องที่เขาถูกไล่ออกจากบ้านแล้ว ถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนและยังไปเรียนหนังสือหรือเปล่า เผื่อมีอะไรตนจะช่วยได้บ้าง
ภูผาบอกว่าอยู่บ้านสมคิดและยังไปโรงเรียน
ทอรุ้งยิ้มออกสบายใจที่เขามีที่อยู่และดีใจที่เขายังไปเรียนหนังสือ ภูผาเห็นทอรุ้งยิ้มก็พลอยยิ้มไปด้วย ทอรุ้งถามว่ายิ้มอะไร ภูผาบอกว่ายิ้มดีใจที่มีคนเป็นห่วง
ขณะทั้งสองกำลังมีความรู้สึกดีๆต่อกันนั้น ก็ต้องสะดุ้งกับเสียงตวาดเรียกของดารกา
“ยัยรุ้ง!!”
ทั้งสองถูกเรียกไปที่ห้องโถงบ้าน ดารกาไปนั่งที่โซฟาเรียกทอรุ้งให้ไปนั่งข้างๆ ส่วนภูผายืนห่างๆก็ถูกตวาดถามว่าจะยืนค้ำหัวฉันอยู่อีกนานไหม ภูผารู้ว่ากำลังถูกดูถูกเลยนั่งกับพื้น ทอรุ้งเรียกแม่จะท้วงติงก็ถูกสั่งให้เงียบ ทอรุ้งจึงลุกไปนั่งกับพื้นข้างภูผา
“ทำอะไรยัยรุ้ง!!”
“ก็เพื่อนรุ้งนั่งพื้น รุ้งก็นั่งเป็นเพื่อนไงคะ”
“ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ” ดารกาลุกไปดึงทอรุ้งมานั่งข้างตน แล้วถามภูผา “เธอควรรู้นะ ว่าเธออยู่ในสถานะไหน คิดยังไงกล้ามาเป็นเพื่อนกับลูกสาวฉัน”
ทอรุ้งพยายามบอกแม่ว่าภูผาเป็นคนดี เขาช่วยตน ดารกาย้อนถามว่าถ้าเป็นคนดีแล้วต้องคบหา ถ้าเจอขอทานดีๆไม่ต้องคบเป็นเพื่อนเหรอ ภูผาสวนทันควันว่า “ผมไม่ใช่ขอทาน”
ดารกายิ้ม ควักเงินออกมาวางให้บอกว่าเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยยัยรุ้ง ภูผามองหน้าทอรุ้ง ย้ำว่า
“ผมบอกแล้วว่าผมไม่ใช่ขอทาน” พลางดันเงินคืนให้ “เก็บเงินของคุณไว้เถอะ มันไม่มีค่ากับผม”
“จนแล้วไม่รู้จักเจียม อย่ามาหยิ่งจองหองใส่ฉัน” ดารกาลุกยืนพูดเฉียบขาด “เอาเงินนี่ไปแล้วอย่ามายุ่งกับลูกสาวฉันอีก” ภูผามองหน้าก็พาลด่า “กล้าจ้องหน้าฉันเหรอ เนี่ยเหรอเพื่อนแกที่บอกว่านิสัยดี ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว”
ทอรุ้งตกใจกับท่าทีแข็งกระด้างของแม่ ภูผาพยายามข่มความรู้สึก แต่ข้างนอกทอรักกับเวหาแอบดูอยู่
ooooooo
เย็นวันต่อมาขณะสมคิดกับภูผาเดินผ่านตลาดจะกลับบ้าน สมคิดบอกว่าเราทำงานก่อสร้างสบายใจกว่าเยอะ ตัดหญ้าบ้านยัยคุณนายนั่นถูกจ้องอย่างกับเราจะไปขโมยของ
ทันใดนั้นทั้งสองก็หยุดกึกเมื่อถูกพวกเชิดมา
ขวางหน้า สมคิดถามว่าพวกแกจะจองล้างจองผลาญกันไปถึงไหน ซ้อมตนจนน่วมยังไม่พอใจ จะเอากันให้ตายเลยรึไง
เชิดมองภูผาถามว่าชื่อภูผาใช่ไหม อยากทำงานด้วยกันไหม เพราะตอนนี้ที่บ่อนขาดคน ตนเห็นภูผาใจสู้และหน่วยก้านดีน่าจะฝึกได้ไม่ยาก ภูผาตอบทันทีว่า
“ผมไม่สนใจ” เชิดบอกให้ไปคิดดูก่อน เอาเงิน
มาล่อว่าให้วันละ 20 บาท “เท่าไหร่ผมก็ไม่เอา”
สันต์หมั่นไส้ด่าว่าจองหอง เชิดบอกว่า “อย่างนี้แหละกูชอบ”
พอแยกมา สมคิดบอกภูผาว่าลองคิดดูเงินดีนะ งานก็ไม่หนัก ไม่ต้องทนให้ใครมาดูถูก ภูผาบอกว่าตนไม่อยากให้อาม่าเสียใจ สมคิดลุ้นว่าก็อย่าบอกให้แกรู้สิ ภูผาไม่ฟังเดินหนีไปเลย สมคิดวิ่งตามไปอยากลุ้นอีก
แต่พอไปถึงบ้านเห็นคนมุงกันหลายคน สมคิดนึกว่าเปิดบ่อนในบ้าน ที่แท้พ่อเป็นลมตกจากนั่งร้านยังไม่ได้สติ สมคิดถามว่าทำไมไม่พาไปโรงพยาบาล บุญถามว่าจะเอาเงินที่ไหนเพราะหัวหน้าคนงานเชิดเงินไปหมดแล้ว ศรีพี่สาวของสมคิดบ่นว่า
“ถ้าเมื่อเช้าพ่อไม่ต้องแบ่งข้าวให้เพื่อนแกกิน พ่อก็คงไม่เป็นลมหรอก”
ภูผารู้สึกผิด...เสียใจมาก เย็นนี้จึงไปขอให้อาม่าทำขนมให้ ตนจะเอาไปขายเพราะต้องการใช้เงินเอาไปช่วยเพื่อน พ่อเพื่อนไม่สบาย อาม่ารับปากทันที ภูผาบอกว่าเอาเยอะๆนะอาม่า
เย็นวันต่อมาภูผาเอากระจาดขนมเทินหัวไปเดินขายที่ตลาด ทอรุ้งเข้ามาขอซื้อเพื่อจะคุยด้วย ภูผาบอกให้หลีกไปไม่ขาย ทอรุ้งจึงเอาเงินให้เด็กๆไปซื้อจนขนมหมดกระจาด ทอรุ้งแอบดูเห็นภูผานับเงินเก็บใส่ถุงผ้าแดงอย่างมีความสุข ทอรุ้งพลอยยิ้มมีความสุขไปด้วย
อาการของพ่อสมคิดไม่ดีขึ้น ศรีบอกว่าหมอบอกต้องผ่าตัดต้องใช้เงินมากอยู่อาจเป็นพัน สมคิดหนักใจว่าเราจะทำยังไงดี ศรีเปรยว่าใครๆเขาลือกันว่าเพื่อนแกเป็นตัวซวย แต่พ่อไม่เชื่อ แล้วเป็นไง
“พี่พูดอย่างนี้ได้ไง ภูผามันก็หาเงินมาช่วยทุกวัน”
“แล้วมันพอไหมล่ะ แกต้องให้พ่อตายก่อนใช่ไหมถึงจะสำนึก นอนพะงาบๆอย่างนี้คงอีกไม่กี่วันหรอก”
ภูผาฟังแล้วไม่สบายใจ สมคิดหันมาเห็นบอกภูผาว่า “อย่าคิดมากนะ ไม่เกี่ยวกับแกหรอก”
แต่ภูผาคิดหนัก ในที่สุดเขาตัดสินใจเด็ดเดี่ยว
รุ่งขึ้นจึงไปหาเชิด รับที่จะทำงานแต่มีข้อแม้คือ
“ข้อแรก ผมมาทำแค่ชั่วคราว ถ้าเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งผมก็จะเลิก ข้อสอง ต้องรับเพื่อนผมด้วย”
เชิดบอกว่าไม่มีปัญหา ภูผาจึงตกลงทำงาน เชิดพาไปหานายทันที
นายของเชิดคือเจ๊จู พอเจ๊จูเห็นภูผาก็ร้อง “เฮีย!” บอกว่าภูผาหน้าเหมือนผัวที่ตายไป เชื่อว่าภูผาคือ
เฮียกลับชาติมาเกิดแน่ๆ เพราะตอนหนุ่มๆเฮียหน้าตาอย่างนี้เลย เจ๊จูตกลงรับภูผาทันที บอกว่า
“ได้อยู่ใกล้ลื้อก็เหมือนได้อยู่ใกล้เฮีย ไอ้เชิด
เดี๋ยวพาภูผาไปกินข้าว เสร็จแล้วพามาหาเจ๊”
เจ๊จูลูบไล้ใบหน้าภูผาอย่างหลงใหลจนสมคิด
เห็นแล้วสยองแทน...
ooooooo
ฝ่ายสร้อยที่หมั่นไส้ทอรักและหึงหวงเวหา วันนี้ขณะที่ชั้น มศ.5 ห้อง ข.กำลังอ่านขุนช้างขุนแผนพร้อมกัน สร้อยก็วิ่งเข้าไปจิกหัวทอรัก ทอรักจิกสู้ พอดีครูเข้ามาสั่งนักเรียนให้ไปแยกทั้งคู่ออกจากกัน
เมื่อเรียกคู่กรณีไปที่ห้องพักครู สร้อยบอกว่าทำร้ายทอรักเพราะทอรักแย่งเวหาจากตน ครูจึงเรียกเวหาไปถามต่อหน้าดารกาที่เป็นผู้ปกครองทอรัก เวหาบอกว่าตนไม่ได้เป็นอะไรกับสร้อย ดารกาถามว่าแล้วเป็นอะไรกับทอรัก เวหาอึกอักมองหน้าทอรักแล้วบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกัน
“เป็นแค่เพื่อนก็ดีแล้ว อย่าเพิ่งคิดเรื่องความรักเดี๋ยวจะเรียนไม่จบ”
เวหารับคำ ถามว่าแล้วสร้อยล่ะ ดารกาบอกว่า “ฉันให้ ผอ.ไล่ออกแล้ว” เวหาฟังแล้วหนาว...
ooooooo
เมื่อภูผากับสมคิดไปกินข้าวที่หลังบ่อนท่ามกลางพวกนักเลงคุมบ่อน สันต์เอาข้าวที่เหลือในจานกับเศษก้าง กระดูกไปเทใส่กะละมังบอกว่าลืมไปว่าวันนี้มีหมามาเพิ่มสองตัว แล้วทำเสียงเรียกหมามากิน
ภูผากับสมคิดพยายามอดกลั้น ภูผาชวนสมคิดออกไปกินข้างนอกกัน สันต์บอกว่าไม่ได้ อยู่ที่นี่ต้องกินที่นี่ แล้วสั่งพรรคพวกให้ไปลากทั้งสองมาให้กินเศษอาหารในกะละมังที่ใครต่อใครเอาไปเทใส่
ภูผาโต้ว่าตนมาทำงานไม่ได้มาเป็นหมาให้ใครรังแก ก็ถูกสันต์สั่งพรรคพวกให้สั่งสอนรุมตีภูผา สมคิดเห็นภูผาถูกยำก็ถอยกรูด แต่ทนเห็นภูผาถูกยำไม่ได้ ร้องบอกให้พอ แล้วตัวเองก็ไปกินเศษอาหารในกะละมัง สันต์จะให้ภูผากินด้วย แต่พอดีลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาบอกภูผาว่าเจ๊ให้มาตามไปกินข้าวกับเจ๊ที่ห้อง
พวกนักเลงมองหน้ากันอึ้งอย่างไม่เชื่อหู ภูผาเดินไปจับสมคิดบอกให้ไปด้วยกัน สมคิดบอกให้ภูผาไปเถอะ ตนกินตรงนี้ได้ เชิดบอกภูผาว่า “รีบไปเถอะ
ไอ้ภูผา อย่าให้เจ๊รอนาน กูอยู่นี่ เพื่อนมึงไม่เป็นไรหรอก” แล้วบอกลูกน้องว่า “พอแล้วพวกมึง รับน้องซะแรงเชียว หาข้าวให้มันกินหน่อย”
ขณะเจ๊จูกินข้าวกับภูผาอย่างมีความสุขบอกว่าอยู่กับเจ๊ไปนานๆทำให้เจ๊หายคิดถึงเฮียไปได้เยอะนั้น สันต์ก็เข้ามารายงานว่ามีคนโกงอีกแล้ว เจ๊จูจึงให้ภูผาไปเรียนรู้งานจากพวกพี่ๆ
คนโกงที่ถูกจับได้คือลุงแดงเพื่อนบ้านที่เห็นภูผามาตั้งแต่เด็กนั่นเอง! ลุงแดงอ้อนวอนภูผาอย่าทำอะไรลุงเลย ช่วยลุงสักครั้งเถิด ลุงต้องการมาหาเงินไปรักษาป้าที่กำลังไม่สบาย ภูผารับปากว่าได้ แต่ลุงต้องสัญญาว่าจะไม่มาเข้าบ่อนอีก ลุงแดงสัญญา ภูผาจึงปล่อยลุงแดงไป
เชิดให้ภูผาไปตามจับลุงแดง ภูผาขอร้องให้ปล่อยลุงแดงไปสักครั้งเถิด เชิดบอกว่าปล่อยแน่แต่มันต้องหลาบจำ แล้วให้ลูกน้องไปตามจับลุงแดงมาลงโทษตามกฎคือกระทืบ ลุงแดงขอร้องภูผาอย่าทำลุงเลยเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก เชิดเลยสั่งให้ภูผากระทืบ ภูผาไม่อยากทำ สมคิดบอกเชิดว่าผมเอง แต่เชิดสั่งภูผาว่า
“ไหนมึงบอกว่ามึงมาทำงานไง หรืออยากให้กูทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน”
เชิดกระชากคอเสื้อสมคิดมาต่อย ถามภูผาว่าอย่างนี้ทำได้ไหม ต่อยสมคิดซ้ำๆจนภูผาบอกให้พอแล้วเดินเข้าหาลุงแดง ลุงแดงไหว้ปลกๆกลัวจนตัวสั่น แต่ก็ถูกภูผาต่อยเปรี้ยงหน้าหงายแล้วหยุด สันต์ถามว่าหยุดทำไม หรือจะให้ตนกระทืบแทน ภูผาจำต้องรัวหมัดใส่ลุงแดงจนทั้งเชิดและสันต์พอใจ
ตกเย็นเจ๊ฟังรายงานจากเชิดกับสันต์แล้วชมว่าวันนี้พวกเธอทำงานดีมาก เรียกภูผาเข้าใกล้บอกว่า
ทำงานที่นี่จะใจดีไม่ได้ ต้องเด็ดขาด ดุดัน พวกมันถึงจะกลัว ย้ำว่า
“จำไว้นะภูผาใครทำผิดกฎก็ต้องมีการลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นคนรู้จักหรือไม่รู้จัก จะเป็นคนนอกหรือคนในและยิ่งถ้าคนไหนผิดซ้ำซาก จำเป็นต้องเก็บ...ก็ต้องเก็บ”
เจ๊เอาเงินให้ไปแบ่งกับสมคิด บอกว่าพรุ่งนี้ให้มาแต่เช้าจะให้คนสอนหมัดมวยและการใช้ปืนให้
สมคิดได้รับแบ่งเงินก็นับแล้วนับอีกบอกภูผาว่าได้จับเงินเยอะๆขอนับให้ชื่นใจหน่อย
“เงินที่ได้จากการทำร้ายคนมันน่าชื่นใจนักเหรอวะ”
สมคิดตะแบงว่ามันเป็นงานอย่าคิดมาก เราทำตามหน้าที่ แต่รู้ตัวเองดีว่าเราไม่ใช่คนใจร้าย
ตกเย็นภูผาไปเจอลุงแดงที่หน้าตาปูดบวมนั่งหลบคนที่ตลาด เขาตรงเข้าไปขอโทษลุงแดง ลุงแดงต่อว่าที่ต่อยตนขนาดนี้ ย้ำว่า “นี่ลุงนะเว้ย” สมคิดตามมาบอกลุงแดงว่า
“ถ้าให้ไอ้สันต์มันกระทืบ ลุงตายคาตีนไปแล้ว ถือว่าภูผามันช่วยลุงแล้วนะ”
ภูผาเอาเงินที่ได้จากเจ๊จูให้ลุงแดงไปซื้อยาแล้ววันหลังไม่ต้องมาเข้าบ่อนอีก ตนไม่อยากเห็นลุงเจ็บตัว ขอร้องลุงอย่าบอกที่บ้านว่าตนไปทำงานบ่อน ลุงแดงมองอย่างชั่งใจว่าจะบอกดีหรือไม่บอกดี?
การหายเงียบไปของภูผาทำให้อาม่าเป็นห่วงมากเที่ยวถามคนที่ตลาดว่าเห็นภูผาบ้างไหม ทุกคนบอกว่าไม่เห็นเลย คืนนี้อาม่านั่งเศร้าที่หน้าร้านจนเดือน
ถามว่าทำไมมานั่งตากยุงอยู่ อาม่าถามว่าเดือนเป็นแม่ไม่คิดห่วงภูผาบ้างหรือ เดือนบอกว่าภูผาไม่รักดีเอง
อาม่าว่า “ถ้าลื้อคิดอย่างนี้อั๊วก็ไม่มีอะไรจะคุยกับลื้อแล้ว”
“อั๊วจะทำอะไรล่ะม้า คิดว่าอั๊วสบายใจนักเหรอที่ลูกอั๊วไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ แต่บางทีการที่มันไปอาจจะเจ็บตัวและเสียใจน้อยกว่าที่มันอยู่ที่นี่ก็ได้ อั๊วคิดอย่างนี้คงไม่ผิดใช่ไหมม้า”
อาม่าฟังแล้วอึ้ง มองตามเดือนที่ลุกเดินไปก่อนน้ำตาจะร่วงอย่างเข้าใจและสงสาร...
ooooooo
เมื่อจันแม่ของสมคิดรู้ว่าลูกไปทำงานที่บ่อนก็เป็นห่วงถามว่ามันจะดีหรือ สมคิดถามว่ามันทำให้เรามีข้าวกินเยอะกว่าแต่ก่อนแม่ว่าดีไหมล่ะ ศรีปรามว่าอย่าให้เดือดร้อนมาถึงบ้านก็แล้วกัน ยิ่งตอนนี้มี
พี่บุญทำงานคนเดียวด้วย
“ไม่ต้องกลัวหรอกพี่ศรี ถ้าเราถูกจับเราก็มีตังค์ประกันตัวเอง อ้อ แล้วข้าวที่พี่กินอยู่ก็เงินภูผามันส่วนนึงนะ เลิกแขวะมันได้แล้ว”
สายวันนี้ลุงแดงไปที่ร้านโชคดีสั่งเส็งว่าเหมือนเดิม เส็งทักว่าวันนี้ทำไมมาสาย พอเห็นหน้าเต็มตาก็ถามว่าไปโดนอะไรมา ความเลยแตกว่าโดนนักเลงที่บ่อนชก เส็งถามว่ายังไม่เลิกเล่นถั่วเล่นโปอีกเหรอเดี๋ยวก็หมดตัวหรอก ลุงแดงย้อนว่าอย่าทำมาสอนคนอื่นเลย นังเดือนก็เล่นหวยเหมือนกันแหละ
เดือนบอกว่าตนเล่นแค่นิดหน่อย เส็งอวดว่า
สามวันก่อนก็ถูกหวย ตั้งแต่ไอ้ตัวซวยไม่อยู่ตนโชคดีขึ้นเยอะ ลุงแดงเลยเล่าว่าวันก่อนตนเล่นเสียแถมโดนจับได้ต้องเป็นเพราะไอ้ภูผาตัวซวยแน่ๆเลย ความเลยแตกว่าภูผาไปทำงานที่บ่อน และที่หน้าตาลุงแดงเจ่อช้ำแบบนี้ก็เพราะโดนภูผาชกนั่นแหละ
เดือนตกใจกลุ้มใจมากเมื่อรู้จากลุงแดงว่าภูผาไปทำงานที่บ่อน ส่วนเส็งโกรธจนหน้าแดงก่ำ
รุ่งขึ้นภูผากับสมคิดไปฝึกมวยและยิงปืนตามคำสั่งเจ๊จู เจ๊จูไปดูชมภูผาว่าหัวดีใช้ได้ แต่สมคิดให้ไปเป็นเด็กวิ่งซื้อกาแฟเพราะไม่เอาไหน ภูผาบอกว่าตนแค่มาคุมบ่อนไม่อยากจะยิงใคร เจ๊บอกว่าแค่ซ้อมไว้เผื่อจำเป็นต้องใช้อย่างน้อยก็ป้องกันตัว เชิดในฐานะครูสอนตอกย้ำว่า
“จำไว้ไอ้ภูผา มีปืนไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ถ้าชักปืนขึ้นมาแล้วต้องยิง มึงต้องยิง เพราะถ้าไม่ยิงมึงก็ถูกเขายิงตาย มันเป็นกฎของนักเลง แล้วเวลาปืนอยู่ในมือ มึงต้องจับให้แน่นอย่าให้หลุด อะ...เอาไป”
พอเชิดเอาปืนใส่มือภูผา สันต์ก็มารายงานว่าผู้กองอาละวาดอีกแล้ว เจ๊บ่นปวดหัว บอกภูผาไปกับเจ๊
ooooooo
อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง ภูผา ตอนที่ 2 วันที่ 25 ม.ค.62
บทประพันธ์โดย สลิลาบทโทรทัศน์โดย สลาลิ
กำกับการแสดงโดย ณัฏฐ์กรณ์ สุทธาวาส
ผลิตโดย บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ