อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 5 วันที่ 6 ม.ค.62

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 5 วันที่ 6 ม.ค.62

ในการอ่านบทด้วยกันวันนี้ ขวัญอุมาอ่านถึงตอนที่โฉมเฉลากดดันปรานว่าเขาเทียวไปเทียวมาบ้านตนไม่กลัวว่าเสียงนินทาจะกระหึ่มสร้างความอับอายจนตนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้หรือ อ่านแล้วทำเสียงสยองว่า

“อูย...สมัยก่อนนี้ ผู้หญิงเขากดดันให้ผู้ชายแต่งงานด้วยแบบนี้มีแล้วหรือ” ลูกปลาบอกว่ามีทุกสมัยแหละ ขวัญอุมาถามธีรัชว่า “ถ้าผู้หญิงคนไหนมาพูดกับคุณอย่างนี้ ในฐานะที่คุณเป็นปราน คุณจะแต่งงานกับเขาไหม”

ธีรัชบอกว่าต้องดูว่าการแต่งงานเริ่มไปถึงไหนแล้วถ้าแจกการ์ดแล้วทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ต้องแต่ง



ขวัญอุมาถามว่าแปลว่าแต่งงานตามหน้าที่ ธีรัชบอกว่าถ้าตกลงใจแต่งแล้วเลิกกลางคันมันจะเสียหายมากกว่า ส่วนแต่งไปแล้วชีวิตยุ่งยากก็จัดการได้ แล้วอ่านบทว่า

“โฉมอย่ากังวลไปเลย ผมจะแต่งงานกับโฉมเราจะจัดงานแต่งงานที่บ้านผม เชิญข้าราชการ พ่อค้าและแขกที่ครอบครัวผมนับถือมาจากกรุงเทพฯเลยทีเดียวโฉมจะเคียงข้างผมไปจนตลอดชีวิต”

“แล้วอีกไม่นานคุณก็เอาพิมพ์แขมาเป็นเมียอีกคน เพื่อนเราเผาเรือนจริงๆ” ขวัญอุมาหันไปพูดกับลูกปลา “แปลว่าปรานก็รักพิมพ์แขด้วยใช่ไหม รักมากกว่าโฉมเฉลาหรือเปล่า”

“ผมไม่ทราบ ผมไม่ได้เป็นปราน เราน่าจะหาความรู้สึกของปรานได้จากบันทึกของปภาคิน”

“อ๊ะๆ ยังอ่านต่อไม่ได้นะ เหลืออีก 8 ฉาก อ่านให้จบก่อน อย่าลืมว่าพรุ่งนี้จะถ่ายแล้ว” ลูกปลาขัดขึ้น

รุ่งขึ้น รถทีมงานขนอุปกรณ์ต่างๆเข้ามาที่บ้านวิยาดา คเชนทร์นิมนต์หลวงพ่อลงจากรถ ไปที่ห้องรับแขกที่จัดเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว วิยาดากล่าวในฐานะเจ้าของบ้านว่า

“ดิฉันเป็นเจ้าของบ้านค่ะ คุณคเชนทร์กับทีมงานมาขอใช้บ้านของดิฉันเป็นสถานที่ถ่ายทำละคร พอดีบ้านนี้เป็นบ้านโบราณ ดิฉันเองก็ไม่ได้เป็นลูกหลานของที่นี่ เพื่อความเป็นสิริมงคล ขวัญและกำลังใจของทีมงาน จึงอยากทำบุญและถวายภัตตาหารค่ะ”

“ผมไปที่วัดพอดีพบหลวงพ่อท่านอยู่ที่วัดเพียงรูปเดียว เลยนิมนต์ท่าน” คเชนทร์เอ่ย

“ค่ะ ทางนี้เลย เตรียมจัดทุกอย่างได้ทันเวลาพอดี”

พระเข้านั่งที่พระและกราบพระพุทธรูป คเชนทร์จึงเข้าไปอาราธนาศีล...

เมื่อทำพิธีในห้องเสร็จแล้ว ขวัญอุมาเดินนำวิยาดา คเชนทร์และพระเข้ามาที่ทีมงานมีคนช่วยถือบาตรน้ำมนต์มาด้วย ขวัญอุมาอยากให้พระพรมน้ำมนต์ที่สระน้ำและที่สวนราตรีด้วย

คเชนทร์รู้สึกแปลก แต่วิยาดาบอกว่า ทำเพื่อความสบายใจ คเชนทร์จึงนิมนต์หลวงพ่อไปตามที่ขวัญอุมาบอก พระบริกรรมคาถาและประพรมน้ำมนต์ไปรอบๆที่ตรงนั้น

ooooooo

ที่บริเวณแต่งตัวนักแสดง อรนภากำลังนั่งให้ช่างแต่งหน้าทำผมย้อนยุคอยู่ ถามแต้วแร้วเพื่อนำไปสู่การหาเรื่องว่าฉากแรกมีอะไรบ้าง พอแต้วแร้วบอกว่ามีเข้าฉากคือ ปราน พิมพ์แข และโฉมเฉลา แล้วทำเป็นอุทานตำหนิคนอื่นว่า “ตายจริง แต่งตัวพร้อมแสดง มีแต่คุณเอ้คนเดียวเอง”

ลูกปลาบอกว่าขวัญกับคุณรัชนำพระไปพรมน้ำมนต์อยู่ อรนภาแขวะว่าแต่งตัวแต่งหน้าเสร็จแล้วยายขวัญยังพาพระพรมน้ำมนต์ไม่เสร็จ เปิดประเด็นให้ลูกปลากับแต้วแร้วกระแนะกระแหนอีกฝ่ายและปกป้องคนของตนไปตามหน้าที่

แต้วแร้วหาว่าที่เราสะดุดกันบ่อยๆเพราะใครหรือ ตอนนี้เรารอพระเอกกับนางร้ายพาพระไปพรมน้ำมนต์ไล่อาถรรพณ์ ฉายฉานแทรกขึ้นว่า เพราะขวัญเขารับกระแสได้กว่าใครๆ ให้เขาพาไปทุกกองน่ะถูกแล้ว อรนภาเหน็บว่า “ฉันว่าปกป้องรับไปได้มากที่สุด ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลเลยเนี่ย”

“คุณฉายคะ ขวัญไม่ใช่คนที่รับผลกระทบค่ะแต่ขวัญเขามีสัมผัสรู้สึกได้ว่าตรงไหนแปลก” ลูกปลาแย้ง ถูกอรนภาหาว่าเล่นไสยศาสตร์ ลูกปลาโต้ทันทีว่า “ไม่มีใครตั้งใจเล่นอะไรหรอกค่ะ ยุคนี้แล้ว ขวัญไม่ใช่คนเชื่อเรื่องงมงายแบบนั้น ลูกปลาเองก็ไม่เชื่อค่ะ แต่เข้าใจว่าสิ่งเหนือธรรมชาติหรือมิติที่หกมีอยู่ จึงไม่ควรลบหลู่ค่ะ อะไรที่ทำแล้วดีก็ทำไปเถอะค่ะ จะได้มีมงคลกับตัวเองบ้าง”

อรนภาไม่วายพูดแขวะว่าธีรัชคงจะแสดงได้ดีเพราะติวเข้มกันมาทั้งอาทิตย์ ฉายฉานอวยอรนภาว่าต้องดีแน่เพราะเขาแสดงคู่กับเอ้ เอ้นั่นแหละที่จะต้องดูแลเขามากกว่าใครๆ อรนภายิ้มปลื้มที่ฉายฉานอวยตน

ooooooo

ละครที่จะถ่ายวันนี้เป็นฉากเลี้ยงน้ำชาที่สนาม มีโต๊ะขนมบุฟเฟต์ ที่หัวโต๊ะวางกาน้ำชาและแก้วเปล่าเพื่อให้แขกบริการตนเอง

นักแสดงมีปราน พิมพ์แข และโฉมเฉลา ทุกคนถือบทเตรียมพร้อม คเชนทร์กล่าวขณะกำกับว่า

“ฉากนี้สวยมากเลย ได้ข่าวว่าเรายืมชุดน้ำชาจากคุณวิยาดาใช่ไหม ช่วยกันดูแลให้ดีด้วยนะ เขาว่าเป็นของเก่าจริง เอ้า...ขวัญมานี่”

คเชนทร์ซ้อมคิวที่โฉมเฉลาต้องรินน้ำชาถือกลับไปที่โต๊ะเห็นปรานลุกขึ้นก็กะจะเข้าไปชน และสาดน้ำชาเข้าใส่พิมพ์แขที่จะเข้าไปห้ามโฉมเฉลาที่จะเข้าไปชนปรานเลยถูกสาดน้ำชาเข้าใส่ พิมพ์แขก็จะทำเป็นร้อนดิ้นเร่าๆ พระเอกจะเข้าอุ้มไปเปลี่ยนเสื้อ โฉมเฉลาก็ถลันเข้าไปในอ้อมแขนปรานเลย

พอบอกบทเสร็จ คเชนทร์ก็สั่งซ้อม พอซ้อมผ่าน คเชนทร์บอกให้เอาจริงเลย

แต่พอถ่ายจริง โฉมเฉลาเข้าไปด้านหลังของปรานช้าๆและมองพิมพ์แขอย่างท้าทาย พิมพ์แขมองโฉมเฉลาอย่างไม่เข้าใจแล้วมองไปที่โต๊ะอาหาร ปรานเข้าใจว่าพิมพ์แขอยากได้อาหารแต่ไม่อยากลุกเลยอาสาจะไปเอาให้ พอลุกขึ้นโฉมเฉลาก็ก้าวพรวดเข้าไป

ปรานหันมาเห็นโฉมเฉลาก็ตกใจ เป็นจังหวะที่โฉมเฉลาถลาเข้าไปในอ้อมกอดของปรานอย่างลงตัว เธอเงยหน้าขึ้นมองปรานอย่างเชิญชวน แต่ขณะพิมพ์แขขยับจะลุกขึ้นก็ถูกโฉมเฉลาสาดน้ำชาเข้าใส่หน้าเต็มๆ

พิมพ์แขร้อง “ว้าย...” ปัดน้ำออกจากตัวพัลวัน ส่วนโฉมเฉลายังคงแสดงต่อเนียนๆ

“ถ่ายต่อไปอย่าเพิ่งคัตนะ เก็บไว้” คเชนทร์สั่งอรนภาที่แสดงเป็นพิมพ์แขหลุดจากบทเป็นตัวเองเต้นเร่าๆตวาด

“นี่เธอเอาชามาสาดฉันทำไม”

ขวัญอุมายกมือปิดปากทำหน้าตกใจ ธีรัชตกใจจริงๆผละจากขวัญเอาผ้าเช็ดมือซับหน้ากับผมให้อรนภา คเชนทร์เดินเข้ามาสั่งคัต!

อรนภาโวยวายว่าเล่นกันแบบนี้ตนไม่เล่นแล้ว ตอนซ้อมให้สาดใส่เสื้อแต่เล่นจริงสาดใส่หน้า ขวัญอุมาอ้างว่าตนสาดตามคิว นึกว่าเธอจะลุกขึ้นมาเร็วกว่านี้ตามคิว พี่คเชนทร์ก็บอกให้มองหน้าปรานเอาไว้

คเชนทร์เห็นท่าจะเป็นเรื่องเลยบอกว่าไม่เป็นไร ดีมาก ให้อรนภาไปพัก ล้างหน้าล้างตาก่อน อรนภาสะบัดไปอย่างไม่พอใจมาก ขวัญอุมาทำหน้างงว่าตนทำอะไรผิดหรือ ธีรัชถามว่าตกลงต้องทำยังไงต่อไป คเชนทร์บอกว่าไม่ต้องทำอะไร เมื่อกี๊ได้แล้ว ธีรัชติงว่า แต่มันไม่ตรงกับที่ซ้อมเอาไว้

“ไม่เป็นไรครับ คงต้องผ่านไป ผมว่าเอ้ไม่ยอมกลับมาเล่นฉากนี้ใหม่อีกเป็นแน่ สำหรับคุณธีรัช ผมว่าคุณสวมบทบาทนักเรียนอังกฤษได้อย่างดีเลยครับ ขอแสดงความยินดี”

คเชนทร์จับมือแสดงความยินดีกับธีรัช แต่เจ้าตัวยังงงๆ

ooooooo

อรนภากับแต้วแร้วพูดกระแนะกระแหนขวัญอุมากับแอ๊ดดี้และต้อยติ่งที่มาช่วยทำผมแต่งหน้าให้ใหม่ ขวัญอุมานั่งคุยกับธีรัชอยู่รู้ว่าถูกจิกตามองอยู่แต่ไม่อยากมีเรื่องจึงทำไม่รู้ไม่ชี้

ธีรัชถามขวัญอุมาว่าที่ถ่ายไปเมื่อกี๊ใช้ได้จริงๆหรือ เพราะตนรู้สึกเหมือนไม่ได้แสดงอะไรเลย

“พี่คเชนทร์เป็นผู้กำกับ เขาว่าใช้ได้ก็ต้องใช้ได้สิ ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องแสดง ไม่ต้องทำอะไรให้มันมากมาย แค่ทำอย่างที่ปรานทำ คิดอย่างที่ปรานคิด เป็นปราน เท่านั้นก็พอแล้ว”

“เล่นผิดคิว ทำคนอื่นเสียหายยังไม่ขอโทษ”

อรนภาจงใจพูดเสียงดังหาเรื่องให้ได้

ได้เรื่องจริงๆ! ขวัญอุมามองขวับถามว่าใครผิดคิว ตนเล่นไปตามคิว กับคุณรัชไม่มีปัญหาอะไรเลย

“อย่ามาถือโอกาสแบบนี้นะยัยขวัญ อินกับบทจนถอดหน้ากากไม่ออกเลยหรือ”

“ฉันเป็นนักแสดงอาชีพจ้ะ เวลาแสดงเราก็อยู่กับบท พอผู้กำกับสั่งคัตเราก็กลับมาเป็นตัวเรา ไม่ได้เอาความคิด ไม่ได้เอาอารมณ์จากฉากละครติดตัวมาด้วย แล้วเราก็ยังมีชีวิตเป็นตัวเรา อย่าเอามาปะปนกัน ไม่อย่างนั้น เราจะเป็นนางร้ายทั้งในละครและชีวิตจริง”

“ยัยขวัญ!” อรนภาเหมือนถูกไฟจี้ลุกพรวดขึ้น ฉายฉานรีบจับตัวไว้บอกให้ใจเย็นๆ แต่แต้วแร้วกับลูกปลาต่างสะอึกมาเผชิญหน้าทำท่าจะใช้กำลังกัน แต่ก็แค่ด่า ปรามาสกันไปมาเท่านั้น

ธีรัชที่มากองถ่ายวันแรกถามขวัญอุมางงๆว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาด้วยหรือเปล่า ขวัญอุมารู้สึกตัวว่าควรทำตัวเป็นคนดีในสายตาคนอื่น จึงหันไปยิ้มกับอรนภาพูดหวาน

“เอ้จ๋า เราเสียใจจริงๆที่มีการผิดคิวเกิดขึ้น ไม่มีใครอยากจะทำให้เกิดเรื่องเสียหายหรอก ก็ต้องระวังกันให้ดีกว่านี้นะจ๊ะ ใครจะอยากเกิดเรื่องแบบนี้ กองต้องหยุดรอเธออาบน้ำสระผมแต่งตัวอีกสองชั่วโมง”

อรนภาอยากจะกรี๊ด แต่เมื่อขวัญอุมาเล่นบทนางเอกก็กลัวภาพลักษณ์ตัวเองจะเสียจึงเดินไปหาช่างผม

ฉายฉานจึงเดินไปหาธีรัชแสดงความยินดีที่เขาเล่นได้ดีเทกเดียวผ่าน ได้เล่นบทดีๆกับนางเอกยอดนิยมถึงสองคนอย่างนี้ เชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้เขาดังแน่

ธีรัชขอบคุณฉายฉานและทุกคนที่เอาใจช่วยตนโดยเฉพาะอย่างยิ่งขวัญอุมา ฉายฉานถามว่าขวัญผิดคิวหรือ เอ้เลยอารมณ์เสีย

ขวัญอุมาว่าใครๆก็ต้องอารมณ์เสีย เหตุการณ์อย่างนี้ตนเข้าใจ  แต่ถ้าเสียนานไปจะเป็นผลกับงานของเอ้เอง ฉายฉานบอกว่าตนห่วงเรื่องนี้จริงๆ เดี๋ยวคงต้องช่วยกันปลอบใจ ขวัญอุมายิ้มกับบทนางเอกของตน

ooooooo

บ่ายนี้มีเรื่องอีกจนได้ เมื่อขวัญอุมาอ่านบทอยู่กับฉายฉาน ขวัญอุมาในบทโฉมเฉลาตัดพ้อเรื่องแขกับปราน และฉายฉานในบทธนกฤตก็ปลอบและสัญญาว่าตนไม่เคยเปลี่ยนใจจากโฉม จะทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ความรักที่มีต่อเธอ

“แพศยาจริงๆ” อรนภาที่ยืนอยู่ข้างๆยิ้มเยาะด่าเบาๆ

“เธอว่าอะไรนะ” ขวัญอุมาตาขวางใส่ทันที

ฉายฉานพยายามดึงตัวไว้บอกว่าซ้อมกันต่อดีกว่า ขวัญอุมาสะบัดหลุดเดินเข้าหาอรนภา “เธอพูดแบบนั้นทำไม”

“ฉันไม่ได้ว่าอะไรเธอนะขวัญ ให้รู้บ้างสิ อันไหนละครอันไหนชีวิตจริง...คนที่ฉันว่าแพศยานั่นน่ะโฉมเฉลา ไม่ใช่เธอสักหน่อย” อรนภาตะแบงหน้าตาเฉย แต่ขวัญอุมาตาลุกจะเอาเรื่องจนฉายฉานต้องเข้ามาเตือนสติว่าอย่าหัวเสียเลย เดี๋ยวจะเสียสมาธิการแสดง ขวัญอุมาจึงสะกดสติอารมณ์

ฉายฉานดึงขวัญอุมาไปนั่งในฉากตามเดิม ขณะที่ทุกคนต่างอึ้งรวมทั้งคเชนทร์ด้วย

คืนนี้ขวัญอุมายังครุ่นคิดเรื่องบทละคร ถามหาบันทึกกับลูกปลาบอกว่าตนคงทนเล่นบทอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว มันไม่ใช่ ลูกปลาบอกว่าถ่ายเสร็จมะรืนนี้จะคืนให้ ตัวเองบอกไม่ใช่หรือว่าจะทำงานต้องมีสมาธิ

ขวัญอุมาบอกว่าแสดงกันไปเรื่องผิดๆมันจะเสียหายมากกว่า ลูกปลาบอกว่าบทเขาก็เขียนตามนิยาย ถามว่าไม่สงสารคุณภารดีหรือ เขาอุตส่าห์ช่วยเหลือซะขนาดนี้แล้วยังจะไปพิสูจน์ว่าพ่อเขาเขียนเรื่องผิด

“มิตรไมตรีก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องความถูกต้องก็เรื่องหนึ่ง แต่ก่อนอื่นฉันต้องหาความจริงเรื่องนี้ให้ได้ก่อน ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง อะไรเกิดขึ้นจริง เราต้องรู้ให้ได้” ลูกปลาถามว่ามัวแต่สืบสวนกันอยู่แล้วเมื่อไหร่จะถ่ายจบ “อ้อ...กลัวละครถ่ายไม่จบ พี่ลูกปลา ขวัญบอกแล้วนะ เรื่องผลประโยชน์ก็เรื่องหนึ่ง แต่การหาความจริงทั้งหมดให้ได้ มันจะยอดเยี่ยมที่สุดเลยนะ”

ขวัญอุมาเดินไปที่หน้าต่างเกิดแสงเงาขึ้นวาบหนึ่งเหมือนมีใครอีกคนซ้อนทับอยู่ ส่วนลูกปลาฟังขวัญอุมาแล้วก็หนักใจได้แต่หลับตาพนมมือสวดมนต์

ooooooo

รุ่งขึ้นขวัญอุมาไปกองแต่เช้าแต่นั่งเหม่ออยู่ใกล้ห้องแต่งหน้า ฉายฉานถามว่าเครียดกับบทหรือเปล่า ไม่เคยเห็นขวัญตั้งใจแสดงเรื่องไหนเท่ากับเรื่องนี้มาก่อน

ขวัญอุมาบอกว่าที่ตนอินกับเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่นคงเป็นเพราะว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ไม่เป็นความจริง อย่างที่เขียนในบท อย่างที่เขียนนิยาย ฉายฉานถามว่าขวัญพูดเหมือนรู้ความจริงหรือ ขวัญอุมาบอกว่าตนแค่สงสัย เพราะบางเรื่องพอผ่านคนหลายๆคน

คนผิดอาจกลายเป็นถูก คนถูกอาจกลายเป็นผู้ร้าย

ฉายฉานติงว่าเรื่องนี้มันก็แค่นิยายน้ำเน่าเรื่องหนึ่ง ขวัญอุมามองฉายฉานเต็มตา พูดจริงจังว่า

“ถ้าเราไม่ใช่คนที่จะแก้ไขได้ เราคงไม่ต้องสนใจมัน แต่ถ้ามีแต่เราเท่านั้นที่จะให้ความยุติธรรมกับคนในอดีตที่ไม่มีโอกาสจะแก้ตัวได้ ทำไมเราจะไม่ทำล่ะคะ”

“มีอะไรจะให้ผมช่วย ขวัญบอกผมได้เลย ผมอยากเห็นโลกนี้มีความยุติธรรมสำหรับทุกคน ไม่ว่าเขาจะยังอยู่หรือตายไปแล้ว”

“ขอบคุณฉาย ขอบคุณมาก ฉายดีกับขวัญเสมอ”

ขวัญอุมาดีใจ จับแขนฉายฉานอย่างคนใจเดียวกัน ฉายฉานยิ้มให้เธออย่างมีกำลังใจ

ดังนั้นเมื่อถ่ายฉากที่โฉมเฉลากลับจากกรุงเทพฯรู้ข่าวว่าปรานเปลี่ยนใจไปรักพิมพ์แข ธนกฤตจึงเข้าหา โฉมเฉลาเพื่อถามความจริง ปรานเข้าใจว่าธนกฤตกับโฉมเฉลารักกันและตนถูกสวมเขามาตลอด จึงเป็นฉากที่ผู้ชายสองคนจะต่อยกัน

คเชนทร์ทบทวนบทแล้วให้เข้าฉาก แต่กลับกลายเป็นปรานชกธนกฤตฝ่ายเดียว คเชนทร์บอกให้ฉายฉานสู้ไปตามคิว ฉายฉานถามงงๆว่า

“คือผมยังงงนิดนึงครับพี่คเชนทร์ คือจริงๆแล้วผมรักใครกันแน่ระหว่างโฉมเฉลากับพิมพ์แข ที่มาตรงนี้คือเพราะผมรักโฉมเฉลาใช่ไหม” คเชนทร์ตอบมึนๆว่า...ใช่ “แล้วพิมพ์แขล่ะครับ ตอนที่ 6 ผมยังบอกรักพิมพ์แขเลย หรือว่ารักทั้งสองคนเหมือนปราน”

“คือฉายครับ...อันนี้ให้ธนกฤตต่อยกับปรานไปก่อนครับ ประเดี๋ยวโฉมเฉลาจะได้เดินออกมาประคองคุณแล้วฉากนี้คุณก็จะได้แสดงความรักที่คุณมีต่อโฉมเฉลายังไงล่ะ”

ฉายฉานงงๆเพราะคเชนทร์ตอบไม่ตรงคำถาม แต่ขวัญอุมาเข้ามาบอกฉายฉานว่า “ตามนั้น...”

“โอเค...ขวัญ ผมจะร่วมมือกับคุณ” ฉายฉานตอบอย่างที่บอกขวัญอุมาไว้ว่าจะร่วมมือกันหาความจริง

ooooooo

ฉากย้อนไปที่ศรีราชาในปี 2474 เป็นฉากที่กนกแขตีตัวออกห่างจากธนาเพื่อกันฉัตรชนกกับปภาคินที่รักกันมากจนจะแต่งงานกัน วันนี้กนกแขถือกระเป๋านักเรียนไปยืนรอรถที่จะมารับ ธนาจึงขี่จักรยานไปหาเข้าไปใกล้แล้วจึงเรียก ถามว่ามีเวลาคุยกันหน่อยไหม กนกแขอ้างว่าช่วงนี้ถูกคุณแม่จับตาดูทุกฝีก้าว ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ตนจะเอาใบนัดใส่สมุดจดงานไปให้เหมือนเคย หรืออาจจะบอกผ่านฉัตรก็ได้ ธนาบอกว่าตนรอแขเสมอ มีอะไรให้ช่วยไหม

กนกแขใส่ไฟทันทีว่าที่ตนยุ่งทุกวันนี้เพราะฉัตร ถามว่าครูรู้ใช่ไหมว่าช่วงนี้ฉัตรเข้าไปพัวพันกับคุณปภาคินตลอดเวลา ตนเองทำตัวไม่ถูกเพราะผู้ใหญ่สองฝ่ายรักกันสนิทกัน ยังไงเขาก็เลือกตน ไม่เลือกฉัตรเป็นสะใภ้ แต่ตนยังไม่พร้อมไม่อยากแต่งาน...กับพี่ใหญ่ แล้วขอร้องธนาว่า

“ครูคะ ครูช่วยแขหน่อยได้ไหม ช่วยรักของเรา อย่าทำให้แขต้องสับสนไปมากกว่านี้เลย ครูช่วยไปบอกฉัตรทีเถอะค่ะ ออกมาให้ห่างๆคุณใหญ่ ตัดรักเธอไปก่อนก็ได้ บ้านคุณใหญ่ไม่มีใครต้องการฉัตรอยู่แล้วไม่รู้ว่าฉัตรจะดื้อไปทำไม”

ธนาให้บอกไปเลยว่าแขไม่ได้รักปภาคิน กนกแขอ้างว่าพวกผู้ใหญ่สนใจแต่เรื่องความเหมาะสม อีกประการถ้าตนไปบอกเรื่องตนกับครู ครูจะเดือดร้อนอะไรบ้าง ทั้งหมดที่ตนทำเพราะเป็นห่วงครู รอให้ตนเรียนจบเป็นผู้ใหญ่ตนจะพูดกับทุกคนด้วยเหตุผล อ้อนวอนธนาให้ช่วยตนด้วย ตนต้องการความช่วยเหลือจริงๆ

ธนาฟังแล้วอึ้งแต่ในที่สุดก็พยักหน้า กนกแขลิงโลดดีใจที่ความสำเร็จใกล้เข้ามาอีกก้าวแล้ว

ooooooo

กนกแขใช้เล่ห์เหลี่ยมมารยาด้านหนึ่งเป่าหูยุยงปฐมาให้รังเกียจและกีดกันฉัตรชนก แต่อีกด้านก็ทำเป็นนางเอกที่แสนดีเสียสละชายคนรักให้เพื่อนรัก เรียกร้องความสงสารจากปฐมา

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 5 วันที่ 6 ม.ค.62

ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินิน
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ