อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 7 วันที่ 10 ม.ค.62

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 7 วันที่ 10 ม.ค.62

กนกแขกลับมาเปิดกล่องไม้ดูจดหมายเก่าๆที่ธนาเขียนให้อีก จดหมายฉบับสุดท้ายธนาลงท้ายว่า “รักแขที่สุด” กนกแขจิกตาพึมพำ “ทำไมฉันจะต้องแพ้...ไม่ได้ ฉันแพ้ไม่ได้”

กนกแขไปหาธนาที่บ้านเช่า ธนาตกใจถามว่ามาทำไมต้องการอะไรอีกหรือ กนกแขทำจริตว่าคิดถึง ธนาพูดอย่างไม่หายเจ็บว่าพอเถอะ ตนไม่ใช่ของเล่นของใคร นึกสนุกก็หยิบมาเล่นพอเบื่อก็ขว้างทิ้ง

กนกแขมารยาว่าตนไม่เคยลืมเขา โทษว่าเป็นเพราะพ่อกับแม่ตกลงกับคุณพ่อคุณแม่พี่ใหญ่ไว้ และฉัตรก็ต้องการจับพี่ใหญ่เพื่อเอาชนะตนจึงมาบอกตนทุกวันว่าธนารักตนอย่างนั้นอย่างนี้ ความจริงแล้วธนาไม่เคยรักตนเลย



ธนายืนยันว่าตนรักแข รักมากกว่าผู้หญิงคนไหน ตนเชื่อว่าแขมีใจให้ตนจริง แต่ไม่ใช่ ใจของแขเปลี่ยนง่ายเหลือเกิน กนกแขโทษว่าตนเชื่อฉัตร ถึงได้มอบใจรักให้ธนาจริงๆ ไม่อย่างนั้นตนจะ...

กนกแขทิ้งไว้อย่างรู้กัน แล้วโผเข้าจะกอดธนา ถูกธนายึดแขนดันออกไป ตัดใจบอกให้แขกลับไปเสีย

กนกแขถามว่าเขาจะกลับไปหาฉัตรหรือ ฉัตรแต่งงานแล้วจะกลับมาหาธนาหรือ แล้วหลอกล่อธนาว่า เรื่องรักกับเรื่องแต่งงานมันคนละเรื่องกัน เขาเป็นคนสอนตนเอง ตนจำได้ขึ้นใจ แล้วทำเป็นตัดใจว่า

“ไม่เป็นไรค่ะ แขรู้ว่าวันนี้แขแพ้ฉัตร แพ้ทุกอย่าง ฉัตรได้ความรักจากทุกคนไปหมด ฉัตรเก่งเหลือเกิน เก่งไม่มีใครเท่า”

“แขจะแต่งงานกับผมหรือ ถ้าผมเดินเข้าไปขอแขวันนี้”

“ถ้าคนที่คุณรักคือฉัตร แล้วคุณจะมาแต่งงานกับแขทำไม ที่แขเคารพพี่ใหญ่ได้ทุกวันนี้เพราะเขาไม่หลอกแข เขารักฉัตร ก็แต่งงงานกับฉัตร อย่าให้แขต้องเจ็บปวดทุกวันต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักแขจริง แขอยากรู้จริงๆว่าฉัตรมีดีอะไร บอกหน่อยได้ไหมถึงได้รักถึงได้หลงกันนัก”

“กลับไป กลับไปซะแข”

แต่กนกแขให้รถกลับไปแล้ว ธนาจึงให้ซ้อนท้ายจักรยานตนไปส่ง ป้าสมมาเห็นยืนมองอย่างแปลกใจ กนกแขถามว่ายายนั่นเป็นใคร ธนาบอกว่าเจ้าของบ้านเช่า แล้วปั่นจักรยานออกไป ป้าสมยังยืนมองจนลับตา

รุ่งขึ้นกนกแขเอากล่องไม้ที่ธนาต่อให้ใส่ห่อกระดาษไปหาฉัตรชนกที่บ้านปภาคิน บอกว่าธนาฝากของมาให้ ฉัตรชนกรับไปเปิดดูเห็นกล่องไม้ที่ธนาชอบทำบอกว่า ธนาให้เป็นของขวัญแต่งงานตนกับพี่ใหญ่คนละกล่อง กนกแขทำเป็นสงสัยว่าแล้วจะให้ซ้ำมาทำไมอีก บอกให้ฉัตรชนกเปิดดูว่าข้างในมีอะไร

แต่พอฉัตรชนกจะเปิดก็บอกว่าธนาให้เธอเป็นการส่วนตัวอย่าเปิดต่อหน้าตนเลยเก็บไว้ก่อน แต่เย็นนี้ เลี้ยงข้าวเย็นตนด้วยนะ ฉัตรชนกยินดีแต่ตอนนี้ให้กนกแขไปกราบคุณแม่ก่อนดีกว่าท่านกำลังสั่งเรื่องอาหารเย็นอยู่ในห้องเตรียมอาหาร

พอกนกแขออกไป ฉัตรชนกเปิดกล่องดู เห็นรูปวาดหัวใจสองดวงที่ถูกเสียบไว้ด้วยธนูดอกเดียวกัน ฉัตรชนกมองอย่างแปลกใจมาก

กนกแขไปที่ห้องเตรียมอาหาร ปฐมาถามว่ามานานแล้วหรือ กนกแขบอกมาสักพักแล้ว ธนาฝากของมาให้ฉัตร พอดีฉัตรชนกถือกล่องเดินผ่านไป ปฐมาสะดุดใจนิดหนึ่งแต่ไม่ได้พูดอะไร

ooooooo

วันนี้มีถ่ายละครต่อ ขวัญอุมาไปแต่งหน้าแต่งผมเสร็จแล้วถามลูกปลาว่าวันนี้ฉากอะไร ลูกปลาบอกว่าฉาก 5 ตอน 8 ต้อยติ่งเสริมว่า “ฉากที่ฟ้องว่าหักหลังสามีไงคะ”

“ขวัญอุมาหักหลังสามีหรือว่าถูกสามีหักหลัง” อรนภาสบตาแต้วแร้วอย่างรู้กัน แต้วแร้วฉอดๆทันทีว่า

“อ้าว ก็แม่โฉมเฉลาตัวละครที่คุณขวัญแสดงน่ะ เขารู้กันทั้งกองแล้วนะคะว่าหักหลังเพื่อน หักหลังผัว เรื่องนี้ออกอากาศเมื่อไหร่นางต้องได้ฉายาจอมหักหลังแน่นอน”

“ไม่จริง โฉมเฉลาต่างหากที่ถูกหักหลัง” ขวัญอุมาแย้งเบาๆ

แต่อรนภาหัวเราะคิกนำขึ้น แต้วแร้วหัวเราะตามทันที ขวัญอุมารู้สึกเหมือนตัวเองถูกด่าถูกเยาะเย้ย เสียงหัวเราะเหมือนสะท้อนก้องอยู่รอบตัวจนรู้สึกจะเป็นลม ลูกปลาตกใจเรียก ลุกขึ้นทุบโต๊ะตวาด

“นี่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ ขำอะไรนักหนา ทำร้ายจิตใจคนอื่นนี่มันตลกนักหรือ”

แต้วแร้วถามเย้ยว่าทำร้ายอะไร? ใคร? เราพูดเรื่องละครต่างหาก ต้อยติ่งติงว่าเราพูดกันหลายหนแล้วว่าเรื่องนี้มันเรื่องจริง คุณขวัญเขาอินกับบทของเขา

“ขวัญเขาอินจัดจ้ะ บทนี้ใครวิจารณ์ไม่ได้เลย” อรนภาแทรกขึ้น

แต้วแร้วถือโอกาสโวยว่าตนผิดอีกแล้วหรือ ทำยังไงดี ไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัวละครก็ว่าไม่ได้ วิจารณ์ไม่ได้เลย ตนทำอะไรไม่ถูกแล้ว

ขวัญอุมายืนโงนเงนเพราะยังไม่หายดี ซ้ำมาสะเทือนใจซ้ำอีก ต้อยติ่งอยู่ใกล้กว่าเพื่อนรีบเข้าประคองบอกให้ไปพักก่อน ฉายฉานที่สังเกตมาแต่ต้นแต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วยเห็นขวัญจะเป็นลมก็พรวดเข้าประคองเต็มมือ บอกให้ไปนั่งพักก่อน บอกต้อยติ่งให้รีบไปหายาดมให้

อรนภาเห็นทุกคนโดยเฉพาะฉายฉานตกใจเป็นห่วงขวัญอุมาก็ไม่พอใจพูดประชดลอยๆ

“ได้หนุ่มดูแล เดี๋ยวคงจะหายเร็วหรอก”

เอ็ดดี้กับต้อยติ่งรู้สึกถึงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ไม่อยากเข้าไปยุ่ง มองหน้ากันแล้วทำท่ารูดซิปปากหันไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

ooooooo

คืนนี้ขวัญอุมาฝันร้ายอีกแล้ว ตื่นเช้ามาเล่าให้ลูกปลาฟังว่า ตนฝันเห็นคนนั้นอีกแล้ว มันจะทำร้ายตน

ลูกปลางัวเงียตื่นมาบอกว่ามันก็แค่ฝัน แต่ขวัญอุมาบอกว่ามันฝันบ่อยจนตนไม่สบายใจ ลูกปลาถามว่าจะใส่บาตรไหม ขวัญอุมาบอกว่าไม่ได้เตรียมของไว้

“ก็ไปขอใส่กับคุณวิสิ คุณวิแกบอกว่าใส่บาตรทุกเช้า แล้ววันหลังก็หาของมาใส่เองบ้าง”

ขวัญอุมารีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปเจอวิยาดาถือของใส่บาตรไปหน้าบ้านพอดี วิยาดาจึงชวนไปใส่บาตรด้วยกัน

เมื่อเดินไปถึงหน้าบ้านเจอธีรัชยืนรออยู่ก่อนแล้วและพระมาพอดี พอธีรัชนิมนต์พระ วิยาดากับขวัญอุมาจึงช่วยกันส่งของให้ธีรัช แต่เขาเบี่ยงตัวหลบขวัญอุมาจึงใส่บาตรเอง วางดอกไม้บนฝาบาตรธีรัชจึงเอามือแตะดอกไม้คล้ายใส่บาตรด้วยกัน พระมองดอกไม้แล้วมองหน้าธีรัชอย่างเมตตาเอ่ย...

“เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะโยม”

พูดแล้วพระเดินผ่านไปเลย ขวัญอุมามองหน้าธีรัชเอ่ยอย่างแปลกใจว่า นึกว่าท่านจะให้พร สงสัยว่าทำไมพระท่านไม่พูดกับตนเลยบอกแต่เขาคนเดียว

วิยาดาบอกว่าพระที่นี่ท่านไม่ให้พรหลังรับบาตร ท่านจะไม่ยืนแสดงธรรม

“แต่ท่านพูดกับผมนี่ฮะแม่ ท่านบอกว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร...มันหมายถึงอะไร”

วิยาดาอึ้ง สังหรณ์ใจว่า...เหมือนมีความลับอะไรกำลังจะเปิดออกแล้ว

ฝ่ายธีรัชเฝ้าครุ่นคิดว่าทำไมพระท่านจึงเลือกที่จะพูดประโยคนั้นกับตนคนเดียว ทั้งที่ตนก็ไม่ใช่คนอย่างนั้นเลย วิยาดาปลอบว่าท่านคงอยากให้เขาไปเจออะไรที่อาจจะคิดแค้นผูกใจเจ็บจะได้หัดตัดใจหัดปล่อยวาง ซึ่งอาจผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน

ธีรัชสังหรณ์ใจว่าหรือจะเป็นสิ่งที่เขาฝันถึงเสมอ ในฝันที่คิดว่าตัวเองเป็นปภาคิน? สับสนว่ามันคือความฝันหรือความจริงที่ข้ามชาติข้ามภพมาถึงปัจจุบัน?

ooooooo

วันนี้ฉัตรชนกกับปภาคินมาเยี่ยมนวลอนงค์ มีอาหารกระป๋องและผลไม้ติดมือมาฝากด้วย

นวลอนงค์ในชุดทำสวนถือตะกร้าผักกับธนา ป้าสมถือมีดและเสียมเตรียมไปสวนผักกัน เมื่อฉัตรชนกกับปภาคินมาจึงชวนกันเข้าบ้าน ป้าสมเห็นฉัตรชนกกับปภาคินมาจึงขอตัว ปภาคินเรียกไว้ปรึกษาว่าฉัตรชนกบอกว่าอยากมาค้างกับแม่ บางทีตนจะมาค้างด้วย จึงขออนุญาตป้าสมปรับปรุงบ้านให้เป็นสัดส่วนกว่านี้

ป้าสมยินดี ชมว่าปภาคินเอาใจฉัตรชนกมาก ปภาคินบอกว่า “เพราะผมรักเขามากที่สุดนี่ครับ...”

“ฉัตรโชคดีมากที่สามีเอาใจใส่มาถึงครอบครัวด้วยนะ” ธนาชื่นชม แล้วบอกป้าสมกับนวลอนงค์ว่ามีอะไรจะให้ตนช่วยบอกได้เลย แต่วันนี้ขอตัวกลับก่อน ปภาคินบอกว่าอย่าเพิ่งกลับมาถ่ายรูปด้วยกันก่อนเพราะวันนี้ตนเอากล้องถ่ายรูปมาด้วย

ปภาคินถ่ายรูปหมู่ให้แล้ว ธนาบอกให้เขาเข้ามายืนตนจะกดกล้องให้ พอธนานับถึงสาม ปภาคินก็เอามือโอบเอวฉัตรชนกไว้อย่างรักใคร่

หลังจากอัดรูปขนาด 8 คูณ 10 นิ้วมาพร้อมซองสีน้ำตาลหลายใบมาแล้ว ปภาคินบอกให้ฉัตรชนกเอารูปใส่ซองให้น้าสม คุณแม่ฉัตรและครูธนาบ้านละสองใบ

ฉัตรชนกบอกว่าเดี๋ยวจัดให้ มองรูปอย่างยินดีที่เป็นของทันสมัยในยุคนั้น

ไม่นานช่างก็ปรับปรุงบ้านเสร็จ ดูใหม่งดงามใหญ่โตจนนวลอนงค์บอกว่าเกรงใจคุณใหญ่จัง

จู่ๆกนกแขก็โผล่มา ทักตื่นเต้นเสียงดังว่าบ้านหลังใหม่ของฉัตรหรือ ปภาคินชิงตอบว่าบ้านใหม่ของคุณแม่ กนกแขถามว่าพี่ใหญ่สร้างให้ใหม่หรือ

“ปรับปรุงให้อยู่สบายขึ้นเท่านั้น บางทีฉัตรจะมาค้างกับแม่บ้าง”

ฉัตรชนกถามกนกแขว่าเป็นอย่างไรบ้าง เธอบอกว่าเรียนจบชั้น 8 แล้ว มองปภาคินถามว่าตนอยากเรียนหมอ จะขอให้พี่ใหญ่ช่วยติวให้ได้ไหม ปภาคินบอกยินดี นวลอนงค์จึงเชิญทุกคนเข้าบ้าน

กนกแขเห็นปภาคินหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าและตะกร้าเครื่องถักของฉัตรจะเอาเข้าบ้าน กนกแขเห็นปภาคินหิ้วตระกร้ากระเป๋าให้ฉัตรชนกก็ริษยาที่เขาเอาใจฉัตรมาก ยิ่งเห็นว่าในตะกร้าเป็นเสื้อผู้ชายก็ยิ่งทนไม่ได้ เมื่อนวลอนงค์จับแขนชวนเข้าบ้าน กนกแขสะบัดมือออกอย่างรังเกียจ

“ไม่เป็นไรค่ะ แขผ่านมาเห็นรถพี่ใหญ่เลยแวะเข้ามาดู แขจะกลับก่อน วันหลังจะไปหาพี่ใหญ่ที่รมย์ฤดีค่ะ” กนกแขไหว้ลาปภาคินคนเดียวแล้วหมุนตัวเดินไปที่รถที่จอดอยู่ถนนใหญ่ทันที

ooooooo

กนกแขกลับถึงบ้านอารมณ์พลุ่งพล่านด้วยแรงริษยา เล่าให้กานติมาฟังว่า เชื่อว่าปภาคินคงโดน ของอะไร หน้ามืดตามัวสร้างบ้านใหม่ให้นวลอนงค์ใหญ่โตสวยงามจนไม่เห็นร่องรอยของแม่ค้าขายผักเลย

กานติมาถามว่าป้าปัทรู้ไหม กนกแขบอกว่าตนยังไม่ได้คุยกับป้าปัท พูดไม่ออกเหมือนน้ำท่วมปากแต่นี่สังหรณ์เลยตามไปดู บอกแม่ว่า

“แขสงสารพี่ใหญ่...แขเสียใจจริงๆที่วันนั้นยอมให้พี่ใหญ่ตกไปอยู่ในมือฉัตร แขรักเพื่อน ไม่อยากต่อสู้เพื่อแย่งผู้ชายกับเพื่อน” กนกแขรำพึงรำพันความดีของตน แต่กานติมามัวแต่คิดว่าจะทำอย่างไรดีเลยไม่ได้ฟัง

คืนนี้เองกนกแขเขียนจดหมายสั่งเสื้อหนาวผู้ชายจากกรุงเทพฯ เขียนเสร็จใส่ซองแต่ไม่ปิดซองวิ่งออกไปถามกานติมาว่าแม่จะสั่งซื้อเสื้อผ้าจากห้างอีกไหม

กานติมาถามว่าลูกจะซื้ออะไรหรือ

กนกแขบอกว่าตนจะซื้อเสื้อสเวตเตอร์ถักไหมพรมนิ่มๆเป็นของขวัญให้พี่ใหญ่ สงสารพี่ใหญ่เพราะฉัตรเอาไหมพรมหยาบๆราคาถูกมาถักเสื้อให้พี่ใหญ่ฝีมือก็ไม่เข้าท่า พูดเหยียดว่า

“พี่ใหญ่เป็นถึงหมอ จะแต่งตัวไม่เข้าท่าเหมือนคนทำสวนผักอย่างนั้นได้ยังไง”

กนกแขบอกว่าตนเจตนาดีช่วยรักษาหน้าพี่ใหญ่และฉัตรด้วย ตนยินดีปิดทองหลังพระ ตนให้ไปใครๆก็ต้องคิดว่าเมียพี่ใหญ่หาให้ กนกแขพูดจนกานติมาบอกว่าเดี๋ยวแม่จะไปหยิบเงินให้

กนกแขยิ้มในหน้า ที่แผนก้าวแรกของตนสำเร็จแล้ว

เมื่อไปให้ปภาคินติวเพื่อสอบเรียนแพทย์ ปภาคินปวดหัวมากเมื่อเห็นว่ากนกแขไม่ไปเอาเสียเลย กนกแขอ้อนว่าตนท่องแล้วแต่มันไม่เข้าหัว ปภาคินบอกว่าถ้าแขไม่ท่องก็สอบไม่ได้ ตนช่วยไม่ได้เลย จะเสียเวลาเปล่าทั้งสองคน กนกแขถามว่าพี่ใหญ่กลัวฉัตรหรือ

“พี่ให้เกียรติฉัตรจ้ะ ฉัตรคือภรรยาของพี่ แต่เรื่องการเรียนของแขเป็นเรื่องของแข ไม่เกี่ยวกับฉัตรนะจ๊ะ”

กนกแขรำพันว่าตนคิดถึงพี่ใหญ่เสมอทุกวัน แม้จะรู้ว่าเป็นสามีของเพื่อนและไม่เคยคิดจะแย่ง แต่ก็ตัดใจไม่ได้ เพราะตนยังหวังดีกับพี่ใหญ่เสมอ แล้วเอาเสื้อที่สั่งซื้อมาให้ บอกว่าตั้งใจให้เพราะเหมาะกับพี่ใหญ่จริงๆ แต่ถ้าพี่ใหญ่ไม่สบายใจตนก็จะไม่มาให้สอนอีก แล้วรำพึงรำพันว่า

“ทั้งๆที่แขหัวไม่ดี แต่ยังหวังสูงอยากเรียนแพทย์ เพราะพ่อกับแม่ก็อายุมากขึ้นทุกวัน พ่อกับแม่มีแขเป็นลูกคนเดียว ตอนนี้แขจึงอยากเป็นหมอจริงๆ เพราะรู้ว่าไม่มีใครรักเรามากกว่าพ่อกับแม่”

 กนกแขรำพึงรำพันจนปภาคินบอกว่าแขคิดอย่างนี้ดีมากถูกต้องแล้ว กนกแขอ้อนให้เขารับเสื้อนี้ไว้เป็นการยอมรับความตั้งใจดีของตนและอย่าถือโทษโกรธตนเลย

ปภาคินรับปาก กนกแขดีใจมากที่แผนที่สองของตนสำเร็จแล้ว!

ooooooo

ฉัตรชนกถักเสื้อให้ปภาคินจนเสร็จ แม้รูปทรงและไหมจะกระด้าง ไม่หรูและสวยเนียนเท่าของกนกแขที่สั่งมาจากพระนคร แต่ฉัตรชนกก็ภูมิใจที่ได้ทำให้ปภาคินและตั้งใจให้เขาใส่ในวันแรกที่อากาศหนาว

แต่พอเช้านี้อากาศหนาวปภาคินแต่งตัวจะไปทำงานก็บอกฉัตรชนกให้ไปหยิบเสื้อหนาวที่กนกแขซื้อให้วันก่อน ฉัตรชนกกลืนความเจ็บปวดไปหยิบและเอามาสวมให้ ปภาคินยืนมองตัวเองในกระจกเอ่ยปลื้ม

“เสื้อตัวนี้เหมาะทีเดียว แล้วพี่ยังสัญญาไว้

กับแขด้วยนะว่าจะใส่ให้ครบ 7 วัน”

ปภาคินหอมแก้มฉัตรชนกก่อนออกไปทำงานเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ฉัตรชนกกลับรู้สึกเย็นชาเมื่อปภาคิน ออกไปก็กอดเสื้อที่ตัวเองถักน้ำตาร่วงอย่างเจ็บปวดที่ปภาคินรู้อยู่เต็มอกว่าตนตั้งใจถักให้เขาใส่วันแรกที่หนาว แต่เขากลับเลือกใส่ตัวที่กนกแขซื้อให้อย่างชื่นชม

ที่บ้านวิยาดา...วันนี้มีการถ่ายละครตามที่นัดกันไว้ เมื่อทุกอย่างพร้อม คเชนทร์ออกคำสั่งโดยมีดาวรายคอยจดคำสั่งต่างๆ เป็นฉากที่โฉมเฉลาชวนธนกฤตไปดูสวน

แต่พอพูดบท ขวัญอุมาที่แสดงเป็นโฉมเฉลาก็พูดถึงความรักความคิดถึงของตนกับธนกฤตที่แสดงโดยฉายฉานอย่างแห้งแล้ง ซังกะตาย ธนกฤตก็ตอบเขินๆ เพราะโฉมเฉลาไม่ค่อยส่งบทให้

ทั้งสองโต้บทรักกันอย่างจืดชืดจนคเชนทร์ยกมือกุมหัว บอกขวัญอุมาว่า

“เดี๋ยวก่อนขวัญ ฉากนี้เป็นฉากที่ผู้ชมทั้งหมดจะได้รู้ความจริงว่าโฉมเฉลายังรักธนกฤตอยู่ ขวัญต้องแสดงความรักธนกฤตจริงๆและแสดงความร้ายกาจของโฉมให้คนดูรู้”

“ตอนนี้โฉมแต่งงานแล้ว เธอจะรักธนกฤตมากกว่าสามีได้ยังไงคะ”

“เอ้า...ก็ธนกฤตเป็นรักแรกของเธอไง”

“โอ๊ย...ไม่รักแล้วไปแต่งงานกับเขาอยู่กับเขาเป็นเดือนๆได้ยังไงคะ รักแรกน่ะใช่ แต่ไม่ใช่สามีคนแรกค่ะ เวลานี้โฉมไม่ได้รักธนกฤตแล้ว โฉมเฉลารักปรานคนเดียว” ขวัญอุมาเถียงอย่างรู้เรื่องดี

ดาวรายติงว่าก็คุณปรานเขาเขียนไว้ในนิยายอย่างนี้ ย้ำว่าในตอนนี้โฉมเฉลายังรักธนกฤตอยู่ สองคนจึงได้สมคบกันหักหลังปราน ขวัญอุมาโต้ทันควันว่า

“ไม่จริงค่ะ สองคนนี้คบชู้กัน แล้วป้ายความผิดมาให้คนอื่น ปรานต่างหากที่เป็นคนโลเลเปลี่ยนใจ”

ดาวรายถามเพื่อเตือนสติว่าคุณขวัญรู้ได้ยังไง ขวัญอุมาไม่อยากตอบเพราะตอบไปดาวรายก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ตัดบทว่ารู้ก็แล้วกัน ดาวรายชักสีหน้า คเชนทร์ก็ปรี๊ด แต่พอดีลูกปลาวิ่งเข้ามาโวยว่าสงสัยน้องขวัญจะไข้ขึ้นอีกแล้วขอเบรกกินยาสัก 10 นาทีได้ไหม

“เบรกกอง 15 นาที” คเชนทร์ประชด ตะโกนแถมเวลาให้

เมื่อได้เวลาทำงานต่อ ธีรัชกับอรนภาแต่งชุดเตรียมเข้าฉากเรียบร้อยแล้วกำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้องแต่งตัว ลูกปลาจูงขวัญอุมาเข้ามา บ่นเชิงปรามว่าเราทำดีมาหลายคิวแล้วเป็นอะไรถึงอาละวาดขึ้นมาอีก

“ก็มันไม่ใช่อย่างนี้นี่พี่ลูกปลา เรื่องบ้าๆอย่างนี้มันไม่จริง” ลูกปลาถามว่าอะไรที่มันไม่จริง “ก็เรื่องที่โฉมเฉลานอกใจปรานน่ะสิไม่จริง โฉมเฉลารักปรานคนเดียวไม่ได้รักธนกฤตแล้ว”

อรนภาเห็นลูกปลากับขวัญอุมาเดินเข้ามาใกล้ก็ส่งสัญญาณให้แต้วแร้ว แต้วแร้วทำเป็นเดินไปทางห้องน้ำแล้ววกมาแอบฟังลูกปลากับขวัญอุมาคุยกัน

ลูกปลาไหว้ขอร้องขวัญอุมาว่าอย่าเถียงคนแต่งเรื่องเลย เล่นให้จบๆไปอย่าทำให้ทุกคนอารมณ์เสียไปหมดอย่างนี้ ขวัญอุมาเถียงว่ามันไม่จริง เชื่อไม่ได้ ตนถึงเล่นไม่ได้

“ทูนหัว...ไอ้เรื่องความจริงในชาติไหนก็ไม่รู้ของใครก็ไม่รู้น่ะ ฉันขอได้ไหม เวลานี้ขวัญเป็นนักแสดง หน้าที่ของเธอคือเล่นละครเรื่องนี้ให้จบ”

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 7 วันที่ 10 ม.ค.62

ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินิน
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ