อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 9 วันที่ 16 ม.ค.62

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 9 วันที่ 16 ม.ค.62

ขวัญอุมาแนะนำฉายฉานแก่แม่ชีป่านว่าเป็นคนที่แสดงเรื่องเดียวกันมาขอฟังเรื่องด้วย แล้วทุกคนก็เตรียมฟังและเก็บข้อมูลกันเต็มที่

“คราวที่แล้วคุณยายเล่าเรื่องที่ครูธนาพาฉัตรชนกมาปากน้ำโพ” ฉายฉานงงชื่อธนา ขวัญอุมาบอกว่าเป็นชื่อจริงของธนกฤตในหนังสือ ฉายฉานถามอีกว่าพามาปากน้ำโพไม่มีในเรื่องนี่

“ก็ไม่มีน่ะสิ แต่ในเรื่องจริงมันมี อย่ากลัวความจริง อีกคนล่ะ” ขวัญอุมาแขวะลอยๆแต่ตามองธีรัช



“ครูธนาเป็นห่วงว่าจะโดนพวกโจรตามมาทำร้ายอีก ก็เลยเดินทางตามมาเป็นเพื่อน ป้าอิ่มเขากลับไปอยู่กับญาติเขา คุณยายไม่อยากรบกวนเกาะเขาอยู่ จึงเช่าบ้าน อยู่กับแม่ด้วยเงินที่ท่านตาให้มา แม่ทยอยขายสมบัติไปเพื่อตั้งตัวให้ได้ แล้วก็มาขายผักขายขนมในตลาด”

ธีรัชถามว่าเท่ากับที่ธนากับฉัตรชนกหายตัวไปพร้อมกันหลังจากพวกโจรปล้นบ้านของปภาคิน แม่ชีบอกว่าแม่ไม่เคยรู้เรื่องโจรปล้นบ้านรมย์ฤดีเลย ตนก็เพิ่งทราบว่าในนิยายเขียนเอาไว้ ยังนึกน้อยใจเลยว่าไม่เคยได้ข่าวคราวจากบ้านโน้นเลยไม่เคยมีใครมาตาม

ฉายฉานถามว่าครูธนาก็ไม่เคยส่งข่าวมาให้ครูฉัตรรู้เรื่องทางโน้นบ้างเลยหรือ แม่ชีบอกว่าไม่มี แม่ตรอมใจมาก

“แล้วเมื่อไหร่ฉัตรชนกถึงทราบว่าตัวเองท้อง” ขวัญอุมาวกกลับมาถาม

“มาอยู่ปากน้ำโพได้สักพักค่ะ แม่เล่าว่าก็ไม่ได้แพ้ท้อง ตอนนั้นท้องได้สักสี่เดือนแล้ว เพิ่งสังเกตว่าท้องโตชัดขึ้น ก็อุ้มท้องไปทำงาน ฉันเกิดกลางตลาดเลยทีเดียวขณะที่แม่ไปขายของ”

“ถ้าคนที่เข้ามาปล้นบ้านปภาคินเป็นพวกของหม่อมยุพา จะเป็นพวกเดียวกับพวกที่ไปปล้นบ้านปภาคินหรือ ในเมื่อนายพลปพนก็เป็นเพื่อนกับท่านชาย” ธีรัช ตั้งประเด็น

“คงสรุปอย่างนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ที่ฉันเล่าเพื่อจะบอกว่าเรื่องมันเกิดเวลาใกล้เคียงกันทำให้ต่างฝ่ายไม่รู้เรื่องของกันและกัน” แม่ชีชี้แจง

ฉายฉานวิเคราะห์ว่าอาจเป็นโจรกลุ่มเดียวกันหรือคนละกลุ่มก็ได้ ธีรัชติงว่าถ้าเป็นกลุ่มเดียวกันมันก็ต้องวางแผนมาอย่างดี แล้วใครล่ะที่เป็นคนวางแผน น่าจะหาคนชั่วนั้นให้พบ

 “ทุกข์เกิดจากการไม่ได้สิ่งที่ต้องการ และได้สิ่งที่ไม่ต้องการ ถ้าเรื่องราวมันเฉลย คุณก็คงได้ทราบกันเองแหละค่ะ”

“เล่าเรื่องฉัตรชนกต่อเถอะค่ะ ชีวิตเธอเป็นอย่างไรหลังจากนั้น” ขวัญอุมาเร่งแม่ชีป่าน

พระยาสารประดิษฐ์และกานติมาพากนกแขในสภาพปํ้าเป๋อมางานศพปฐมา

เมื่อพระมา ปภาคินกราบพระแล้วอาราธนาศีล ทันใดนั้นกนกแขก็เหงื่อแตกหวาดกลัวพอพระเริ่มสวดก็ลุกพรวดวิ่งออกไปด้านนอกเหมือนกำลังจะอาเจียน กานติมารีบลุกตามไปดู ปภาคินกับวรดามองตามอย่างเป็นห่วง

กนกแขวิ่งออกไปอาเจียนเป็นเลือดท่าทางทุรนทุรายทุกข์ทรมานมาก กานติมาหันไปทางห้องพิธีเรียกหมอให้มาช่วย ปภาคินเห็นอาการไม่ดีจึงอุ้มพาส่งโรงพยาบาล

กนกแขในอ้อมแขนปภาคินลืมตาขึ้นกลอกตาที่แข็งกร้าวราวปีศาจ ปากเปื้อนเลือดอย่างน่าสยอง!

เวลาเดียวกันที่ห้องนั่งเล่นวังโสภณ ยุพานั่งอยู่กับฐิติพาและช่วง ยุพาสั่งช่วงว่าข้าวของที่ได้มายกให้มันทั้งหมดถือเป็นรางวัล มองหน้าช่วงพูดเชิงถามว่างานของเราคงสำเร็จด้วยดี ฐิติพากังวลถามแม่ว่าจะทำยังไงที่พวกนั้นพลั้งมือจนมีคนตาย ช่วงบอกว่า

“พวกนั้นมันว่านังแม่มันงกเจ้าค่ะ กำสายสร้อยจนตกบันไดตายเลย”

ยุพาพูดอย่างเลือดเย็นว่าตายแล้วก็แล้วไป แต่งานเรายังไม่เสร็จ บอกฐิติพาว่าเดี๋ยวหญิงต้องไปศรีราชาเพราะหญิงรู้จักคนตายต้องไปงานเขาและจัดการงานของเราให้สำเร็จ ฐิติพาถามว่าจะไปทำไมอีก?

“ไปทำให้มันกลับมาไม่ได้อย่างถาวรไงล่ะลูก ปภาคินต้องหย่าขาดจากมัน” ยุพาสั่งเลือดเย็น

คืนนี้...เมื่อพระสวดเสร็จ ปภาคินบอกหลวงพ่อว่าช่วงนี้ตนคงไม่สามารถเข้าไปท่องบทสวดเพื่อบวชได้ต้องเจียดเวลาดูแลพ่อ ท่านคงต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงจะกลับมาใช้ชีวิตได้ซึ่งก็คงไม่ปกตินัก

“สนองคุณพ่อกับแม่ก่อนเถิดโยม เรื่องร้ายต่างๆมันเริ่มถอยออกไปแล้ว ฟังอะไรอย่าเชื่อง่ายๆนะ หาเหตุหาผลหาข้อเท็จจริงให้ได้เสียก่อน”

หลวงพ่อเตือนราวกับจะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า

กลับถึงบ้านวรดาถามว่ามีใครส่งข่าวครูฉัตรหรือยังตอนนี้ครูฉัตรก็ยังเป็นเมียพี่ใหญ่เป็นสะใภ้ของแม่อยู่ ปภาคินนึกละอายใจกับเหตุการณ์ที่ตนปฏิบัติต่อฉัตรชนกที่ผ่านมาแม้จะรู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพไม่เป็นตัวของตัวเองทั้งหมด บอกวรดาว่า

“ดานอนเสีย แล้วพรุ่งนี้เราไปส่งข่าวให้ฉัตรกัน”

“ครูฉัตรคงจะมาช่วยจัดงานให้แม่ได้ดีกว่านี้” วรดายิ้มทั้งน้ำตาอย่างมีความหวัง

 ooooooo

เมื่อพระยาสารประดิษฐ์กับกานติมาพากนกแขที่เหมือนคนปํ้าเป๋อกลับบ้าน ตัวกนกแขมีกลิ่นสาบของมนตร์ดำจนพระยาสารประดิษฐ์ตกใจ กานติมาบอกว่าเดี๋ยวตนจะพาลูกไปอาบน้ำก่อน

“แล้วหมอว่ายังไงบ้าง”

“หมอไม่ว่าอะไรค่ะ ไปถึงโรงพยาบาลก็ไม่พบอะไรผิดปกติ หมอว่าแกอาจจะตกใจและเสียใจมากเกินไป เห็นสนิทสนมกับบ้านโน้นเป็นพิเศษมานาน”

พระยาสารประดิษฐ์พยักหน้าแต่ยังคลางแคลงใจกับกลิ่นสาบรุนแรงจากตัวกนกแขไม่หาย

คืนนี้เมื่อกานติมาพากนกแขเข้านอนแล้วเดินตามหาสามี พอเจอก็ถามว่าคุณพี่ได้กลิ่นนั่นเหมือนกันหรือ พระยาสารประดิษฐ์ที่เหม็นกลิ่นสาบจนต้องชงยาหอมกินถามว่ามันคืออะไร กานติมาบอกว่าตนก็ไม่รู้แต่ยัยแขแปลกไปไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมา

พระยาสารประดิษฐ์จึงเสนอว่าเห็นทีจะต้องพึ่งน้ำมนต์เหมือนปภาคินเสียแล้วกระมัง กานติมาหวังว่าพระสงฆ์จะช่วยป้องกันลูกเราจากมนตร์ดำยัยฉัตรได้ นัดพรุ่งนี้เราไปวัดกัน

ปภาคินกับวรดาไปหานวลอนงค์ที่บ้านสวนผัก เจอแต่สมที่ไปรดน้ำผักกลับมา จึงบอกว่าตนจะมาบอกฉัตรว่าแม่เสียชีวิตแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ขณะนี้ตั้งสวดอยู่ที่บ้าน มาแจ้งข่าวเผื่อฉัตรจะไปทำบุญให้แม่ด้วยกัน

วรดาถามว่าครูฉัตรไปไหนแล้วครูธนาอยู่บ้านหรือเปล่า สมบอกว่าครูธนาไปต่างจังหวัด ก็พอดีฐิติพาเดินมากับช่วงถามแทรกขึ้นอย่างจับผิดว่าครูธนากับฉัตรไปด้วยกันใช่ไหม

สมพยายามเลี่ยงที่จะตอบ แต่ฐิติพาถามวนไปเวียนมาว่าฉัตรไปพร้อมธนาใช่ไหม ไปเมื่อไหร่ สมบอกว่าไปเมื่อวานนี้ก็ตีขลุมทันทีว่า “ไปวันเดียวกับที่คุณแม่ของคุณใหญ่เสียชีวิตเลย” แล้วฐิติพาเรียกสมไปคุยเรื่องฉัตรชนกต่อ ช่วงตามไปด้วย

ฐิติพาพยายามจะสรุปว่าฉัตรชนกกับครูธนาหนีตามกันไป สมยืนยันว่าครูฉัตรกับครูธนาไม่ทำเรื่องเลวๆ อย่างนั้นแน่นอน ช่วงถามว่ารู้ใช่ไหมว่าเขาไปไหนกัน สมบอกว่าไม่รู้ รู้แต่เขาเดินทางไปพร้อมกันเท่านั้น

“ถ้าไม่รู้ก็ไม่ต้องพูด พูดมากไปจะเดือดร้อนมาถึงตัวเอง จำไว้นะอย่าพูดมากโดยเฉพาะเรื่องนี้ อย่าเที่ยวพูดให้ใครฟังทีเดียว ไม่ใช่จะเดือดร้อนเฉพาะตัวแกครูฉัตรกับครูธนาก็จะต้องเดือดร้อนมากๆแน่”

ช่วงขู่จนสมหน้าเสีย รับปากว่าจะไม่พูดเรื่องนี้เลย ช่วงเอานิ้วจิ้มหัวสมจนหน้าหงายปราม

“จำไว้ให้ดีอย่าหลุดพูดออกมาล่ะ” แล้วจับแขนฐิติพา “เราไปกันค่ะคุณหญิง”

ฐิติพากับช่วงกลับไปแล้ว สมเพิ่งได้สติ รู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจ

แล้ววันนี้ฐิติพากับช่วงก็ไปที่บ้านกานติมาบอกว่าไปงานศพคุณแม่ปภาคินเลยแวะมากราบคุณน้าและคิดถึงแขมากไม่ได้เจอกันนาน กานติมาบอกว่าแขไม่สบาย

ที่แท้ฐิติพามาเพื่อเป่าหูกุเรื่องว่าฉัตรชนกกับครูธนาหนีไปด้วยกัน ยุให้กานติมาบอกให้ปภาคินหย่ากับฉัตรชนกแล้วมาแต่งกับกนกแขแทน

ขณะนั้นเองกนกแขลงจากชั้นบนในชุดนอนท่าทางปํ้าเป๋อ พระยาสารประดิษฐ์ตามมาเรียกไว้บอกว่าแม่มีแขก

“แข!” ฐิติพาทัก กนกแขถามว่าไปไหนกันมา “แข...เดี๋ยวไปงานศพคุณป้าปฐมาไหมฉันจะไปด้วยกับเธอ” แต่กนกแขกลับถอยกรูดจนเกือบจะล้ม

“ยัยแขคงไม่ไปไหนหรอกครับวันนี้ บ้านเราคงไม่ไปเพราะยัยแขไม่ค่อยสบาย คงต้องขึ้นไปพักผ่อน”

พ่อออกตัวแทน กานติมาเสียงขุ่นถามว่าแล้วปล่อยให้ลงมาได้ยังไง พ่อบอกว่าตนออกมาจากห้องก็เห็นแขเดินลงบันไดมาแล้ว กานติมาจึงขอตัวไปดูแข ฐิติพาจึงลากลับ

พอออกมาถึงหน้าบ้านช่วงก็กระซิบขนลุกขนพองว่า

“อาการมนตร์ดำเข้าตัว มันจะเริ่มไม่รับรู้แล้วว่าตัวเป็นใคร”

ฐิติพากลืนน้ำลายฝืดคอ กลัวว่าตัวเองจะโดนแบบนี้เหมือนกัน

ขณะที่ฐิติพาเตรียมกลับแล้ว ยุพาก็เดินทางมาคนเดียวบอกว่ายังไงก็ยังกลับไม่ได้เพราะฉัตรชนกยังหายไป เชื่อว่าคงรู้ตัวจากนางอิ่มที่มาบอก ยุพาบอกว่ายังไงก็ต้องหาฉัตรชนกให้เจออย่าให้มันโผล่มาอีก เพราะยังมีที่ทางของท่านชายอีกมากที่ยังไม่ได้จัดการให้ครบถ้วน

ฐิติพาบอกว่ากนกแขคงไม่ได้เรื่องแล้ว ช่วงบอกว่ามนตร์ดำย้อนเข้าตัวดูบ้าบอเนื้อตัวก็มีกลิ่นเหม็นเน่า ยุพาบอกว่าเราไม่ต้องพึ่งกนกแขแล้ว พึ่งตัวเองนั่นแหละดีที่สุด ฐิติพากลัว บอกว่าตนไม่ทำอีกแล้วไม่อยากเป็นอย่างแข

“หญิงไม่ต้องเป็น หญิงไม่ต้องทำ เรื่องนี้แม่จัดการเอง เย็นนี้เราไปงานศพยัยปฐมาด้วยกัน”

ooooooo

ในงานศพ ยุพาขอคุยกับปภาคินอ้างว่าท่านชายคงจะทรงเห็นด้วยทุกข้อทีเดียว

ยุพาใส่ร้ายว่าฉัตรชนกรักกับธนาตั้งแต่สมัยเรียน ทำเสน่ห์ใส่คุณใหญ่จนแต่งงานด้วย แล้วร่วมมือกับธนามาปล้นบ้านคุณใหญ่ได้ของสมใจแล้วก็หนีไปเสวยสุขกับธนาที่ไหนก็ไม่รู้

“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน” ปภาคินแย้ง

“ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะทำได้ถึงเพียงนี้ คุณใหญ่คะพวกเราสกุลโสภณอับอายกับการกระทำของนังฉัตรมากเหลือเกิน พระวิญญาณของท่านชายคงจะไม่อาจพักผ่อนได้อย่างสันติหากคุณใหญ่ยังไม่ฟ้องหย่าขาดจากมันตัดมันเสียให้ขาดเถิด อย่าให้มันเอาชาติตระกูลของคุณใหญ่ไปแอบอ้างต่อที่ไหนเลย”

เมื่อเป่าหูจนปภาคินเริ่มเชื่อแล้ว ยุพาก็ส่งสัญญาณให้ฐิติพาเล่นต่อ ฐิติพายุว่า

“หญิงได้ยินทุกคำกล่าวที่มันอาฆาตคุณแม่ของคุณ มันว่าท่านกีดกันไม่ให้มันได้เข้าใกล้คุณง่ายๆ”

พอพูดถึงเรื่องคุณแม่ปภาคินก็ทนไม่ได้ ซบหน้ากับฝ่ามือ ขออยู่คนเดียวสักครู่ เขายืนหันหลังให้สองแม่ลูกอย่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ฝ่ายสองแม่ลูกสบตากันอย่างสมใจในชัยชนะแล้วเดินกระหยิ่มออกจากห้องไป

เมื่อกลับถึงที่พัก ฐิติพาบอกแม่ว่าตนเชื่อว่างานนี้เราต้องสำเร็จ พรุ่งนี้เราก็น่าจะกลับกันได้แล้ว แต่ยุพาบอกว่าไม่ได้ เราต้องอยู่จนจบงาน 7 วันก่อน ในยามนี้เราต้องอยู่ปลอบใจปภาคินเพื่อให้เขาเชื่อใจและไว้ใจเรา

ช่วงบอกว่าคุณหญิงเชื่อหม่อมท่านเถิด ท่านทำสำเร็จมาแล้วไม่มีใครรู้เรื่องนี้ดีกว่าหม่อมอีกแล้ว ฐิติพาจึงจำต้องยอม

ธนาพาฉัตรชนกกับนวลอนงค์มาถึงปากน้ำโพ ฉัตรชนกบอกว่าที่นี่มีคนพลุกพล่าน ธนาเห็นว่าที่นี่เหมาะกับการย้ายมาอยู่เพราะไม่มีใครสังเกตใคร เราสามารถค้าขายได้สะดวก ผู้คนซื้อของกันทุกวัน

ฉัตรชนกบอกให้ธนากลับไปเสียตนกับแม่อยู่กันได้ ธนาอยากอยู่เป็นเพื่อนแต่ฉัตรชนกไม่อยากให้เขาต้องเจ็บปวดเพราะตนยังรักและไม่อาจลืมปภาคินได้

ธนาจึงตัดใจแต่จะรอวันนั้น...วันที่ฉัตรลืมเขาได้เด็ดขาด

เมื่อธนากลับไปจึงรู้จากสมว่าระหว่างที่เขากับฉัตรชนกไม่อยู่มีเรื่องลือเลวร้ายเกี่ยวกับเขาและฉัตรชนก ธนาถามว่าทำไมลือกันได้ขนาดนี้และทำไมป้าไม่บอกปภาคิน สมบอกว่าตนกลัวว่าครูฉัตรจะไม่ปลอดภัย ธนาไม่พอใจเสียงเครียดว่า “เรื่องไม่จริงพูดกันไปได้ คงจะต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ”

“อิฉันว่าครูลองไปคุยกับคุณปภาคินดูก่อนเถอะค่ะ ถ้าคุณปภาคินแกเชื่อ ครูก็ให้แกไปรับครูฉัตรกลับมาอยู่ด้วยกัน เรื่องร้ายๆมันก็คงจะหายไปเอง”

ธนาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ooooooo

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 9 วันที่ 16 ม.ค.62

ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินิน
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ