อ่านละคร ภูผา ตอนที่ 2 วันที่ 23 ม.ค.62

อ่านละคร ภูผา ตอนที่ 2 วันที่ 23 ม.ค.62

ภูผาถูกพ่อใช้ไม้เรียวหวดไม่ยั้ง ตีไปด่าไปว่าริเป็นนักเลงแต่เด็ก ไม่รักดี ทำตัวนอกคอกให้ตนอับอาย  เดือนพยายามห้ามก็ไม่ฟัง จนอาม่าอาบน้ำเสร็จออกมาบอกเส็งให้หยุด ปรี่เข้าปกป้องภูผา

อาม่าเอ็ดเส็งว่าทำไมไม่ถามไถ่กันดีๆ เอะอะก็ตีมัน เส็งบอกว่าตนเป็นพ่อทำไมจะตีสั่งสอนไม่ได้

ถ้าสอนมันไม่ได้ก็จะตีให้ตายคาไม้เรียวนี่แหละ



“ได้ อั๊วก็เป็นแม่ลื้อ งั้นอั๊วก็จะตีลื้อให้ตายเหมือนกัน” อาม่ากระชากไม้จากเส็งหวดจนเส็งร้องลั่นว่าเจ็บ “แล้วที่ลื้อตีลูกลื้อมันไม่เจ็บรึไง ลื้อจะได้รู้ซะบ้าง”

“ไอ้ตัวซวย เรียนก็โง่ แล้วยังอยากเป็นนักเลง แบบนี้จะทำมาหากินอะไรวะ หรือเอ็งอยากเป็นนักเลงคุมบ่อน คุมซ่อง หา! ข้าจะได้ไปลาออกจากโรงเรียนให้”

เส็งโมโหเดินออกไป ภูผาเจ็บทั้งกายและใจแต่พยายามกลั้นความรู้สึกไว้ ไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว

เช้าวันนี้...ภูผาไปนั่งเศร้าในตลาด ธนากรมาเจอเห็นรอยที่ถูกพ่อเฆี่ยนเมื่อวาน ถามว่าไปได้แผลจากไหนมาอีก ภูผาไม่ตอบแต่ธนากรเดาได้นั่งลงปลอบว่า “ถึงจะโดนตี นายก็ยังดีที่มีพ่อแม่นะภูผา”

ภูผาเอาไอติมให้แท่งหนึ่ง ธนากรบอกว่าตนไม่มีเงินซื้อหรอก ภูผาบอกว่าให้ ได้ฟรีมาไม้นึง ธนากรรับไปกัดกินด้วยความซึ้งน้ำใจเพื่อน

สมคิดที่ชีวิตคลุกคลีอยู่กับอบายมุข วันนี้ถือถุงเงินของภูผาที่เก็บไป เดินเดาะสบายใจเข้าบ่อน แต่ถูกสันต์จับได้ว่าโกงไพ่ เชิดตรงเข้าหักมือและสันต์ถีบยอดอกสมคิดหงายไปกองกับพื้น เชิดสั่งให้เอามีดมาตนจะตัดมือมัน สมคิดยกมือไหว้อ้อนวอนอย่าทำเลยตนจะไม่ทำอีกแล้ว แล้วโกยเงินคืนให้

“คิดว่าคืนเงินแล้วจะหมดเรื่องเหรอวะ” สันต์ตะคอก สมคิดตกใจกอบเงินปาหน้าสันต์แล้วโกยแน่บ เชิดกับสันต์ตามไป ดำเห็นจึงวิ่งตามไปอีกคน

สมคิดวิ่งไปเจอภูผาเดินขายไอติมอยู่ก็ร้องให้ช่วยด้วย ภูผาเห็นพวกเชิดวิ่งกวดสมคิดผ่านหน้าไป

ก็คิดว่าจะช่วยดีไหม?

พวกเชิดวิ่งหาสมคิดไม่เจอ เห็นภูผาก็ร้อง “ไอ้เด็กขายไอติม” สันต์ชักมีดออกมา ภูผารีบปิดกระติกหยิบไอติมมาแท่งหนึ่งบอก “ผมเอาไอติมที่ติดไว้มาให้ครับ”

“มึงเป็นเพื่อนกับมันเหรอ” เชิดตะคอก ภูผารีบบอกว่าผมไม่รู้จักมัน เชิดถามว่า “มึงรู้เหรอกูพูดถึงใคร” ภูผาหน้าซีดเผือด สันต์บอกให้จับมันไว้ ภูผาเหวี่ยงกระติกไอติมแล้ววิ่งหนีสุดชีวิต สันต์กับดำพยักหน้ากันแล้ววิ่งตามไป เชิดมองหาสมคิดแต่หาไม่เจอ

ภูผาวิ่งมาชนทอรุ้งที่เพิ่งแยกกับทอรักที่บอกให้ทอรุ้งกลับบ้านไปก่อนตนจะชวนเวหาเป็นเพื่อนไปกิน น้ำแข็งไสกัน ทอรุ้งถูกภูผาชนอย่างจังจนล้มตึง ภูผาขอโทษแล้วจะวิ่งต่อ ถูกทอรุ้งต่อว่าที่ทำตนเจ็บแล้วไม่คิดจะช่วย คว้าขาภูผาไว้จนล้มไปอีกคน ภูผาพยายามลุกขึ้นถูกทอรุ้งกระชากเสื้อไว้

“นายหน้าลิง นายยังไปไม่ได้”

ภูผาหันไปเห็นพวกสันต์วิ่งตามมาก็คว้ามือทอรุ้งลากปลิวติดมือเข้าซอยไป ทอรุ้งถามว่าจะพาตนไปไหน ภูผาบอกว่าหนีพวกนักเลง ทอรุ้งโวยวายว่าทำไมตนต้องมาเดือดร้อนกับเขาด้วย

ภูผาลากทอรุ้งตัดไปสองซอยแล้วพวกเชิดยังไล่ตามมาอีก ภูผาจึงลากทอรุ้งไปเบียดกันในซอกตึก พวก สันต์ตามมามองหาไม่เห็นจึงพากันวิ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง

ทอรุ้งยังไม่หายตกใจ ภูผาแกล้งบอกว่านักเลงไปแล้วก็ถอยไปสิแม่คุณ มายืนติดใจอะไรตรงนี้ ทอรุ้งได้สติอายจนหน้าแดง ถูกภูผาแซวว่าพูดแค่นี้ก็หน้าแดงเลยหรือ ทอรุ้งกำหมัดซัดอกภูผาเต็มแรง ด่าแก้เขิน

“หน้าลิงแล้วยังปากหมาอีก”

ทอรุ้งจะด่าอีกแต่นึกคำด่าไม่ออกเลยขู่ว่าฉันจะฟ้องพ่อ ถูกภูผายั่วอีกว่า “เด็กน้อยเอ๊ย...” ทอรุ้งตวาดว่าตนไม่เด็กแล้ว ภูผาเร่งให้รีบตามมาเดี๋ยวจะไปส่งที่เดิม

พอไปส่งที่เดิมเจอลุงใจยืนกระวนกระวายอยู่

พอเห็นทอรุ้งก็ถามว่าหายไปไหนมาตนมารอรับ  แล้ว

คุณรักล่ะ ทอรุ้งบอกว่าเดี๋ยวพี่รักกลับเอง ทำท่าจะฟ้องลุงใจเรื่องภูผาแต่แล้วก็เปลี่ยนใจปรามภูผาว่า ครั้งนี้จะปล่อยไปก่อน ถูกภูผาปรามาสสมเพชก่อนเดินไปว่า

“ยัยคุณหนูกระจอก”

“ไอ้หน้าลิงงงง เก่งจริงก็กลับมาเลยนะ ทำคนอื่นเดือดร้อนแล้วยังกล้ามาด่าเขาอีก”

ภูผาขำคำด่าของทอรุ้ง แต่พอเดินมาแล้วนึกได้ว่าไหล่โล่งๆ ตกใจร้อง “กระติกไอติม” แล้ววิ่งอ้าวกลับไป ที่เจอพวกเชิด กระติกไอติมหายไปแล้ว ภูผากลับมาบอกเต็กหลีว่ากระติกไอติมหาย ถูกเต็กหลีด่า

“ลื้อนี่มันเฮงซวย อุตส่าห์เห็นว่าเป็นเด็กขยัน ถึงยอม ให้เอาไปขาย พอแล้ว ขืนให้ขายต่ออั๊วคงซวยตาม ลื้อไปแน่” ภูผาอ้อนวอนว่าตนอยากขายจริงๆ “อาภูผา ลื้อมันไม่มีดวง มันก็แพ้ตั้งแต่แรกแล้ว การค้ามันไม่ได้มีแค่ความขยันนะ เก่งอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องเฮงด้วย”

ภูผาอ้อนวอนว่าตนขยันมันก็ต้องสำเร็จสักวัน เต็กหลีบอกว่าไม่ใช่วันนี้ แล้วไล่ให้กลับไปบอกเส็งให้เอาค่าน้ำตาลมาจ่ายด้วย

ทอรุ้งกลับถึงบ้านโล่งใจที่แม่ยังไม่กลับจากงานสันนิบาต เพราะถ้าแม่รู้ว่าพี่รักยังไม่กลับเป็นเรื่องแน่

ฝ่ายทอรักชวนเวหาไปกินน้ำแข็งไส เวหาตื่นเต้นเขินไม่รู้จะคุยอะไร เลยบอกว่าถ้าเธอสงสัยเรื่องแคลคูลัสอีกถามเราได้ตลอดเลยนะ ทอรักพูดขำๆว่าในหัวนายคงมีแต่เรื่องเรียนเพราะชวนคุยทีไรก็เรื่องวิชาการทุกที ลองชวนคุย เรื่องอื่นดูบ้างสิ

“เอ่อ...น้ำแข็งไสอร่อยไหม” เวหาถามได้แค่นั้น ทอรักถอนใจดังๆกับความไม่เอาไหนของเขา

ที่โต๊ะข้างๆ สร้อยกับเพื่อนมองอยู่ เพื่อนพูดอย่างหมั่นไส้ทอรักว่า  ทำหยิ่งแต่ระริกระรี้ใส่ผู้ชาย อีกคนว่ามันชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว สร้อยที่แอบชอบเวหาอยู่จ้องทอรักเขม็ง จิกใส่...

“มันจะไปหว่านกับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่เวหา”

ooooooo

เพราะเวหาเคยบอกเส็งว่าตนอยากเรียนหมอ ทั้งเส็งและเดือนตื่นเต้น เส็งปลื้มว่าเวหาไม่เคยทำให้ตนผิดหวัง ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ส่งเรียนโรงเรียนดีๆ

อาม่าถามว่าเรียนหมอต้องใช้เงินเยอะ พวกลื้อมีปัญญาส่งหรือ วันนั้นทุกคนเงียบไป จนวันนี้เส็งอ้อนวอนขอโฉนดที่เตี่ยทิ้งไว้ให้ม้าจะเอาไปจำนองเอาเงินมาให้เวหาเรียนหมอ อาม่าน้ำตาคลอบอกว่า

“มันเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เตี่ยลื้อทิ้งไว้ให้ ถ้าอั๊วรักษาไว้ไม่ได้ อั๊วจะไปตอบเตี่ยลื้อว่ายังไง”

“โธ่ม้า...อั๊วสัญญาว่าอั๊วจะรักษามันให้ได้ แล้วแถมเงินให้ม้าอีก 10 ใบเลยเอ้า”

อาม่าไม่เอา เอาแต่ปาดน้ำตาป้อยๆ เวหาตัดสินใจบอกเส็งว่า

“ถ้าอาม่าไม่ยอมอั๊วไม่เรียนหมอก็ได้...อั๊วก็ต้องยอมรับกรรมที่อั๊วมันเกิดมาจน”

ในที่สุดอาม่าก็ใจอ่อนยอมให้โฉนดไปจำนองแต่ขอให้เวหาสัญญาว่าจะเป็นคนดีแล้วก็ไม่ทิ้งน้อง เวหารับคำทันทีว่าแน่นอน  ตนจะทิ้งน้องได้ยังไง ขณะนั้นเองภูผาเดินเข้าบ้านมาเงียบๆหยุดฟังทุกคนคุยกัน

พออาม่าให้โฉนดไปแล้ว เส็งก็บอกอาม่าว่า

“มีอีกเรื่องม้า...อั๊วปรึกษากับเดือนแล้วว่าอั๊วส่งลูกสองคนไม่ไหว เลยว่าจะให้ภูผามันออกจากโรงเรียนมาช่วยค้าขาย”

อาม่าตกใจ เมื่อเส็งยืนยันก็หันถามเดือนว่า

ลื้อก็เห็นด้วยหรือ อาม่าโมโหมากบอกว่าทุกวันนี้ภูผาก็ส่งตัวเองเรียนอยู่แล้ว ถามว่ามันเคยขอเงินพวกลื้อหรือ เส็งตะแบงว่า

“แต่มันก็ควรออกมาช่วยทำงานเพื่อส่งพี่ชายมันเรียน” อาม่าด่าว่าลื้อมันรักลูกลำเอียง “จะไม่ให้ลำเอียงได้ยังไง ก็ไอ้ภูผามันเกเรม้าก็เห็น เรียนก็ไม่ดีเหมือนพี่มัน แล้วมันจะเรียนไปทำไม”

“ก็มันเป็นเพราะลื้อนั่นแหละ ถ้าลูกลื้อเลวมันก็เป็นเพราะลื้อ”

“มันเลวอั๊วก็จะไม่เลี้ยงมัน”

“ก็เอาสิ ถ้าอาภูผาไม่ได้เรียน อาเวหาก็ไม่ต้องเรียน เอาโฉนดอั๊วคืนมา!!!”

“ม้าให้อั๊วมาแล้วนะ” เส็งรีบเก็บโฉนดใส่ในอกเสื้อ ทันที

ภูผาเสียใจมากที่พ่อไม่ให้ตนเรียนหนังสืออีก เวหาบอกว่าจะช่วยพูดกับพ่อให้แต่เขาต้องไม่ไปก่อเรื่องอีก

“ถ้านายทำตัวดีๆเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ เพราะนายมันชอบหาเรื่อง พ่อถึงได้เกลียดนาย”

ภูผากำมือแน่น มองพี่ชายอย่างเจ็บปวดที่ย้ำว่าพ่อเกลียดตน เวหามองหน้าถามว่าตนพูดอะไรผิดหรือ

ภูผาไม่ตอบแต่ชกกำแพงผ่านหน้าเวหาไปอย่างเจ็บปวดใจจนมือแตก แล้วหุนหันเดินออกจากห้องไป

ภูผาวิ่งไปที่ลานโล่ง ทิ้งตัวลงนอนกับพื้นหญ้าน้ำตาไหล คิดถึงคำสอนของอาม่าตอนตัวเองเพิ่งสิบขวบ

“...อาภูผา อดทนไว้นะ ลื้อต้องเอาความดีและความขยัน พิสูจน์ตัวเองให้ป๊าลื้อเห็น แล้ววันนึงป๊าลื้อ จะเข้าใจ ว่าลื้อไม่ใช่ตัวซวย”

ภูผาหลับตาลง แต่น้ำตายังไหลไม่หยุด...

เช้าวันรุ่งขึ้น ภูผาไปก้มๆเงยๆหาถุงเงินที่สนามฟุตบอล ธนากรมาเจอถามว่ามีเงินเยอะหรือ ภูผาบอกว่าไม่เยอะ แต่เป็นถุงที่อาม่าเย็บให้

ต่อมาเจอสมคิดที่แถวก๊อกน้ำโรงเรียน สมคิดขอบใจเรื่องเมื่อวาน แล้วเอาถุงเงินเปล่าคืนให้ภูผา

บอกว่าเงินเอาไว้วันหลังจะคืนให้ ภูผาโมโหว่าสมคิดเอาเงินตนไปใช้ สมคิดวิ่งหนีท้าว่าอยากได้ก็จับตนให้ได้ ภูผาไล่กวดสมคิดด้วยความโมโห เพื่อนนักเรียนที่ห้องต่างโผล่หน้าต่างดูกันสลอน

สุดท้ายทั้งสองถูกครูลงโทษไปยืนขาเดียวกางแขนคาบไม้บรรทัดที่หน้าห้อง...

ooooooo

เวหาเดินมากับทอรัก ผ่านห้องน้ำทอรักบอกให้รอเดี๋ยวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป สร้อยกับเพื่อนที่จ้องหาเรื่องทอรักบอกเวหาว่าทอรักให้มาบอกว่าไม่ต้องรอแล้วเพราะเธอปวดท้องมากคงเข้านาน

ตนจะรอทอรักเอง

สร้อยเข้าห้องน้ำไปขู่ทอรักว่าให้เลิกยุ่งกับเวหาเสีย ด่าว่าทอรักให้ท่าเขา ทอรักด่าคืนว่าเธอก็เหมือนกันแต่ทำไมเวหาถึงไม่สนล่ะ สร้อยโกรธพุ่งเข้าผลักทอรักจนติดข้างฝา ตะคอก

“นังทอรัก ฉันรู้ว่าแกไม่ได้ชอบเวหาแต่แกแค่จะเอาชนะฉัน!”

ทันใดก็ได้ยินเสียงเวหาตะโกนถามว่า “ทอรักยังอยู่ข้างในรึเปล่า...ทอรัก” ทอรักตะโกนตอบไปทันทีว่ายังอยู่ และร้องขอความช่วยเหลืออย่างหวาดกลัว ดึง

ที่รัดผมออกสลัดผมให้ยุ่งเหยิง เวหาได้ยินทอรักร้องขอความช่วยเหลือก็ผลักประตูเข้าไป เห็นทอรักกับสร้อยกำลังมีเรื่องกันก็ด่าสร้อยว่าไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ แล้วพาทอรักออกไป สร้อยรีบตาม เพื่อนๆเลยตามกันไปเป็นพรวน

สร้อยตามไปบอกเวหาว่าตนยังไม่ได้ทำอะไรเลย เวหาตวาดกลับมาว่าไม่ต้องพูดแล้ว ขอร้องอย่ามายุ่งกับทอรักอีกไม่งั้นตนจะฟ้องครู เดินไปสองก้าวก็หันมาสำทับว่า “แล้วก็อย่ามายุ่งกับเราด้วย”

สร้อยถูกเวหาตัดสัมพันธ์ก็น้อยใจ มองตามเวหาที่ไปกับทอรักก็กลายเป็นความเจ็บแค้น

ooooooo

วันนี้หลังเลิกเรียน ภูผาไปที่บ้านสมคิดที่เป็นบ้านเก่าๆคับแคบ แอบมองเข้าไปในบ้านที่ไม่มีข้าวของอะไรมากนัก มีเสื่อม้วนๆพิงข้างฝาและครอบครัวกำลังล้อมวงกินข้าวที่มีแต่ผักน้ำพริกและไข่ต้มสองฟองผ่าเป็นหลายซีก

มวลพ่อสมคิดเหลือบเห็นภูผาร้องทักและเรียกมากินข้าวด้วยกัน ต้อยติ่งน้องสาวสมคิดที่เรียนโรงเรียน เดียวกับภูผากุลีกุจอลุกไปตักข้าวให้ แต่ข้าวหมด มวลจึงยกจานของตนให้บอกว่ากินของพ่อก็ได้ ภูผาสะเทือนใจบอกว่าเดี๋ยวตนกลับไปกินบ้านก็ได้

สมคิดออกมาส่งภูผาขอร้องอย่าพูดเรื่องเงินให้พ่อรู้ ภูผาถามว่าแล้วทำไมถึงไปมีเรื่องกับพวกนักเลง สมคิดยอมรับว่าตนไปโกงในบ่อนถูกจับได้ ตนเข้าบ่อนเพราะอยากหาเงินมาช่วยทางบ้าน

“ทีหลังก็อย่าเข้าบ่อนอีก การพนันมันไม่ดีหรอก แล้วยังไปโกงเขา เขาถึงตามมากระทืบนาย”

สมคิดรับปากภูผาว่าจะหาเงินมาคืนให้ พอภูผารู้ว่าเงินของตนก็หายไปในบ่อน โมโหจะถีบสมคิด

“เฮ้ย...ก็ขอโทษแล้ว” สมคิดร้องพลางวิ่งให้พ้นรัศมีเท้าของภูผา

เพื่อนย่อมเป็นเพื่อนเสมอ สมคิดกับภูผาพากันไปที่ท่าน้ำ สมคิดเล่าว่าเดิมครอบครัวตนอยู่อยุธยา

เป็นหนี้จนที่นาถูกยึดเลยอพยพเข้าพระนครหวังหาเงินไปไถ่ที่นาคืนเพื่อจะกลับไปอยู่อยุธยาอีก ทุกคนช่วยกันหาเงินแต่ก็ได้ไม่ทันใจ ตนไม่รู้จะไปทางไหนเลยเข้าบ่อน

“ฉันว่าอันดับแรกนายเลิกเข้าบ่อนก่อนเลย แล้วเดี๋ยวช่วยกันหาว่าทำอะไรกันดีที่จะได้เงินเยอะๆ”

“อืม...” สมคิดทำเสียงในคอ

อาม่ามีฝีมือทางทำขนม จึงทำปลากริมให้ภูผาพายเรือไปขาย อาม่าคุยสนุกว่าปลากริมของอาม่าอร่อยมาก เพราะได้ภูผาช่วยนวดแป้งให้ พอยกหม้อดินใส่ปลากริมพร้อมอุปกรณ์การขายลงเรือ อาม่าเร่งให้รีบไปขายเถอะ เดือนเตือนว่า

“แล้วอย่าไปทำหก ทำเรือล่มล่ะ ไม่งั้นป๊าตีตายแน่”

ภูผาถอนใจแล้วผลักเรือออกจากท่า อาม่าเอ็ดเดือนเบาๆว่า “แล้วพูดเป็นลางทำไมอาเดือน” เดือนตบปากตัวเองเคาะๆแล้วโยนไปแก้เคล็ด ถูกอาม่าโวยว่า “เฮ้ย...อย่าโยนมาทางนี้สิวะ”

ภูผาพายเรือขายปลากริมไปจนถึงท่าน้ำคลินิกหมอนุสราซึ่งเป็นป้าของทอรักกับทอรุ้ง ซึ่งทั้งสองมาเยี่ยมพอดี แต่หมอมีงานจึงออกไปเล่นที่ท่าน้ำ ทอรุ้งชวนพี่สาว เล่นน้ำกัน ทอรักไม่เอาเพราะกลัวแดด

ขณะทอรุ้งแกว่งเท้าเล่นน้ำอยู่นั่นเองก็เห็นหญิงสาวสามคนมีถุงกระดาษคลุมหัวเจาะตรงตาไว้มอง ตรงเข้าจะจับทอรุ้ง พอดีเสียงร้องขายปลากริมของภูผาแว่วมา ทอรุ้งวิ่งไปร้องขอความช่วยเหลือ เห็นเรือภูผาก็กระโดดลงไปเร่งให้รีบพายออกไป

ที่แท้หญิงสามคนนั้นคือสร้อยกับเพื่อนจะมาดักทำร้ายทอรักแต่เจอทอรุ้งและยังหนีไปได้

“เกือบอยู่แล้วเชียว!” สร้อยกับเพื่อนถอดถุงคลุมหัวบ่นเสียดาย

ooooooo

ภูผาถามทอรุ้งว่าหนีอะไรมา ทอรุ้งบอกว่าพวกนั้นมีเรื่องกับพี่สาวตนต่างหาก  แต่มาหาเรื่องลงที่ตนแทน ภูผาบอกว่าวันก่อนตนทำให้เธอเดือดร้อนวันนี้ตนช่วยเธอถือว่าเจ๊ากันไปนะ

ทอรุ้งพยักหน้าถามว่าแล้ววันก่อนเขาหนีอะไรมาเป็นนักเลงหรือเป็นโจร ภูผาบอกว่าเปล่า ตนก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ ทอรุ้งถามว่าคนขายปลากริมหรือ ภูผาเลยชวนชิมสักถ้วยไหม  ลงเรือตนแล้วก็อุดหนุน

สักหน่อย ตักปลากริมให้พลางคุยอวดว่า แป้งเราก็นวดเอง กะทิเราก็คั้นเองนะ

ทอรุ้งกินแล้วอร่อยแต่ไม่อยากชมบอกว่าพอกินได้ ภูผาทวงค่าขนม ทอรุ้งต่อรองว่าเขาต้องพายเรือไปส่งตนที่เดิม คลินิกนุสราเป็นคลินิกป้าตน ภูผาจำได้ว่าเป็นคลินิกเปิดใหม่รับปากจะพายเรือไปส่ง มองหน้าแล้วบอกให้อยู่นิ่งๆเพราะขนมเลอะปาก แล้วหยิบผ้าเช็ดปากให้ ทอรุ้งเห็นผ้าสีมอๆ ถามว่าผ้าอะไร

“ผ้าขี้ริ้ว” ภูผาพูดหน้าตาย ทอรุ้งด่าไอ้บ้า แล้วฟาดภูผาจนเรือโคลง เขาร้องขู่ “เฮ้ยๆๆเดี๋ยวเรือล่ม” ทอรุ้งจึงหยุด

มาถึงท่าน้ำคลินิกนุสรา ทอรุ้งก้าวขึ้นท่าน้ำบอกว่าตนชื่อทอรุ้ง เธอชื่ออะไร พอภูผาบอกว่าชื่อภูผา เธอ

ขำพรืด

“ชื่อภูผา...แต่หน้าเหมือนลิง” ภูผาเอาคืนสวนทันทีว่าก็ดีกว่าชื่อทอรุ้ง แต่หน้าเหมือน...“หยุด พอแล้วไม่ต้องพูดต่อ คอยตรงนี้นะ จะไปเอาเงินมาจ่ายค่าขนม แต่พอทอรุ้งหันไปก็ร้องกรี๊ด ภูผามองตามเห็นสมคิดเลือดอาบหน้าวิ่งมา

“เฮ้ย ไอ้คิด!”

ooooooo

สมคิดถูกพวกเชิดไล่ตีเลือดอาบหน้าวิ่งหนีมา พวกเชิดวิ่งตามรอยเลือดมาแต่ไม่เจอตัวแล้ว พวกมันบอกกันว่าถ้าลงน้ำก็ไม่น่ารอดโดนตีหัวแตกเสียขนาดนั้น เชิดเดินไปดูเรือภูผาเชื่อว่าต้องมีคนช่วยสมคิดไว้แน่ๆ

ภูผากับทอรุ้งหิ้วปีกสมคิดเข้าไปในคลินิก นุสราตกใจถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทอรุ้งบอกว่าโดนนักเลง

ตีหัวมา คุณป้าช่วยทำแผลให้ที นุสราบอกให้เอาเข้าไปในห้องเลย

จากการซักถาม สมคิดรับว่าตนเข้าบ่อนและถูกจับได้ว่าโกง ภูผาถามว่าไปโกงมาอีกแล้วหรือ บอกแล้วว่าอย่าเข้าไปเล่น สมคิดเสียงอ่อยว่า “ถ้าไม่ไปเล่นแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาคืนนายล่ะ”

“ก็บอกแล้วไงว่ายกให้ ไม่ต้องคืนแล้ว ฉันต้องไปแล้วนะ”

พอภูผาจะไป นุสรากับทอรุ้งมองหน้ากันรู้สึกว่าภูผาเป็นคนดี นุสราเอ่ยกับสมคิดว่า

“เธอมีเพื่อนที่ดีนะ เธอน่าจะฟังเพื่อนเธอบ้าง” เมื่อภูผาเอ่ยลา นุสราถามว่า “ไม่ล้างเสื้อก่อนเหรอ ใครเห็น เข้าจะตกใจ”

“ผมต้องรีบไปครับ เป็นห่วงเรือ”

ทอรุ้งหายไปครู่หนึ่งก็หิ้วหม้อใบเล็กจ้ำตามภูผาไปร้องบอกให้รอด้วย ภูผาถามว่าตามมาทำไม

อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง "ภูผา" ตอนที่ 2 วันที่ 23 ม.ค.62

บทประพันธ์โดย สลิลา
บทโทรทัศน์โดย สลาลิ
กำกับการแสดงโดย ณัฏฐ์กรณ์ สุทธาวาส
ผลิตโดย บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ