อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 6 วันที่ 8 ม.ค.62

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 6 วันที่ 8 ม.ค.62

พอคเชนทร์สั่งคัต แต้วแร้วก็ร้องเสียงดังให้พาอรนภามาทางนี้ตนเตรียมผ้ามารับแล้ว เสียงของแต้วแร้วทำให้ทุกคนหันมาสนใจ เลยไม่มีใครดูขวัญอุมาที่ตกน้ำและว่ายน้ำไม่เป็น

ลูกปลาเห็นขวัญอุมาตกน้ำก็เต้นเร่าๆให้คนช่วย ธีรัชกระโดดลงไปช่วย ทีมงานสองคนก็ผละจากอรนภาที่มีคนช่วยแล้วไปช่วยขวัญอุมากว่าจะควานเจอตัวขวัญอุมาเอาขึ้นมาได้ เธอก็หมดสติไปแล้ว

คเชนทร์หงุดหงิดถามว่าทำไมผิดคิว อรนภาใส่ไฟว่ายายขวัญเป็นบ้าอะไรไม่รู้โดดน้ำลงไปด้วย



แต้วแร้วผสมโรงทันทีว่า หรืออยากเรียกร้องความสนใจแล้วแสยะสบถ “ทุเรศ”

คเชนทร์รู้สึกว่าไม่ใช่อย่างที่สองคนพูด แต่ก็ไม่พูดอะไร อรนภากลัวจะถูกจับพิรุธได้สั่งแต้วแร้ว

“หยุด หยุด แต้วแร้ว”

ooooooo

ขวัญอุมาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ธีรัชตามไปดูแลอย่างใกล้ชิด จากเหตุการณ์นี้ทำให้ธีรัชเห็นใจ สงสารและกลายเป็นความรัก เผลอใจจูบหน้าผากปลอบขวัญอุมาบอกว่า “ขวัญ...ผมจะดูแลคุณเอง”

ลูกปลามาเห็นพอดีเรียกปรามถามว่า

“คุณรัช ทำอะไรน่ะ” ธีรัชผละออก บอกว่าขวัญฟื้นแล้ว “เห็นแล้ว...นี่แฟนคลับมากันเต็มโรงพยาบาลรอฟังข่าวขวัญ...อย่าให้ใครมาเห็นภาพอย่างนี้เชียว เป็นเรื่องแน่”

ลูกปลาบอกขวัญอุมาให้ทำหน้าดีหน่อยตนจะถ่ายรูปลงอินสตาแกรม แฟนคลับจะได้หายห่วง

พอคเชนทร์เห็นรูปขวัญอุมาในอินสตาแกรมก็บอกแต้วแร้วที่อยู่ใกล้ๆว่า ขวัญหน้าตาแจ่มใสลูกปลาขึ้นไอจีให้แล้ว

คุณจี๊ดโล่งใจที่ขวัญอุมาไม่เป็นอะไรมาก บอกให้เล่าซิว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อรนภาเล่าว่าตอนซ้อมก็ราบรื่นดี แต่พอถ่ายจริง ไม่รู้ยายขวัญสติเสียอะไร ลืมคิวหมด บ่นว่าเขาเป็นเอามากกับละครเรื่องนี้ น่าเป็นห่วงจริงๆ คเชนทร์ชี้แจงว่ามีผิดคิวนิดหน่อยตอนถ่ายจริงคงจะเกิดจากขวัญกลัวตกน้ำนั่นแหละ

“เอ้เองก็ไม่สบายใจเลยที่ขวัญตกน้ำซ้ำซากอย่างนี้ แต่ก็โล่งใจไปเปลาะนึงว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร มีคนช่วยทันอยู่เสมอ”

แต้วแร้วเสริมว่าคราวก่อนตกไปเองแต่คราวนี้ตกหน้ากล้องเลย เลยต้องลงไอจีกันใหญ่โตคงเป็นข่าวออกหลายช่อง ละครเลยพลอยดังไปด้วย คุณจี๊ดขัดทันทีว่า

“ดังแบบนี้ไม่ต้องหรอกจ้ะ ตลกเจ็บตัวกับดังทำลายตัวเองนี่ไม่ใช่วิถีของจี๊ด...” ถามคเชนทร์ว่า แล้วระหว่างนี้ถ่ายทำได้ไหม พอคเชนทร์บอกว่าได้ก็พยักหน้าขรึมๆ

ooooooo

นวลอนงค์ตัดชุดแต่งงานให้ฉัตรชนกเอง ฉัตรชนกชมว่าสวยจริงๆ นวลอนงค์ก็ชมว่าผ้านี่สวยมากคุณใหญ่เข้าใจเลือกผ้าและสีเข้ากับผิวของฉัตรทีเดียว

ฉัตรชนกปลื้ม บอกแม่ว่าชุดนี้ตนจะเก็บไว้อย่างดีถ้าตนมีลูกสาวจะให้ใส่วันแต่งงานของเขาด้วย อ้อนแม่ให้เล่าเรื่องพ่อให้ฟังอีก ตนอยากให้พ่อรับรู้บ้าง ถึงพ่อจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้วก็ตาม

“ไปถอดชุดออกเถอะ แม่จะมาสอยต่อ” นวลอนงค์ตัดบท “อย่าพูดเรื่องที่ไม่เป็นมงคลเลย ไปเปลี่ยนเสื้อออกเสีย”

ฉัตรชนกหน้าเสีย พอเดินไปด้านหลังนวลอนงค์ก็ทรุดนั่งอย่างสะเทือนใจ

ฉัตรชนกไม่ได้ฟังเรื่องพ่อจากแม่ จึงเดินไปที่หน้าต่างมองออกไปไกลยกมือไหว้ฝากเดือนฝากดาวและสายลมไปบอกพ่อว่า

“พ่อคะ...อีกไม่กี่วันฉัตรก็จะแต่งงานแล้ว ฉัตรไม่รู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน บนสวรรค์หรือส่วนไหนของโลก พ่ออวยพรกับชีวิตแต่งงานของฉัตรด้วยนะคะ”

ฉัตรชนกยืนอย่างอ้างว้าง...น้ำตาไหล

ooooooo

ก่อนวันแต่งงานของปภาคิน ท่านชายศักดินัยกับธิดาคือฐิติพา ไปที่บ้านนายพลปพน ระหว่างทาง สวนกับรถจักรยานของนวลอนงค์ที่จะเอาผักไปขายที่ตลาด จักรยานล้มผักหล่นกระจาย

ฐิติพาบอกว่าตนไม่ได้ชน แต่ท่านชายติงว่าไม่ได้ชนทำไมจักรยานจึงล้ม ผู้หญิงเสียด้วย ลงไปดูหน่อย ฐิติพาว่าเขาถีบรถลงข้างทางไปเองต่างหาก

“ก็ให้สบายใจว่าเขาไม่เจ็บหนัก ไปต่อได้ ถือว่าทำบุญให้ลูกนกลูกกา”

พอลงไปศักดินัยเข้าไปถามนวลอนงค์ว่าเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า พอนวลอนงค์เงยหน้ามองก็ตะลึง

“ฝ่าบาท!”

“นังนวล!”

นวลอนงค์เก็บผักแล้วจะไป ถูกศักดินัยขวางไว้ บอกว่า “ไม่รู้เลยว่าหนีมานี่มาปลูกผักขาย”

“เพคะ คนอย่างหม่อมฉันก็ทำได้เท่านี้แหละ”

ศักดินัยถามว่าแล้วผัวแกไปไหนเสียปล่อยให้แกมาถีบจักรยานส่งผักอย่างนี้ นวลอนงค์บอกว่าตายแล้ว

ศักดินัยถามว่าแกคงลำบากมากสินะแล้วควักเงินให้จำนวนหนึ่งแต่นวลอนงค์บอกว่าตนไม่ต้องการแล้วขี่จักรยานไปเลย

“นังนี่นี่...จองหองไม่เลิกเลย” ศักดินัยพึมพำ มองตามจักรยานไป

เมื่อกลับไปที่รถ ฐิติพาถามว่าคุยอะไรกันอยู่ตั้งนาน ศักดินัยบอกว่าเห็นว่ามันเจ็บนิดๆหน่อยๆ เลยให้เงินไปแต่มันไม่รับ ฐิติพาบอกว่าดีแล้วเพราะตนไม่ได้ชน ถามว่าแล้วจะไปทางไหนต่อ ศักดินัยบอกว่าต้องไปทางถนนที่จะไปทะเล ฐิติพาจึงออกรถไป

ooooooo

ครอบครัวปพนออกมาต้อนรับท่านชายศักดินัยที่หน้าบ้าน ปภาคินเชิญท่านชายเข้าประทับด้านใน

ปพนไหว้ท่านชายเอ่ยอย่างนอบน้อม

“ฝ่าบาท หม่อมฉันและทุกคนที่นี่ดีใจมาก ที่ฝ่าบาทกรุณาเสด็จมาเป็นประธานงานแต่งงานของปภาคิน”

“ไม่ได้สิ พอท่านนายพลส่งข่าวไป ฉันต้องยกเลิกงานอื่นๆหมดเลย เตรียมตัวมางานนี้เท่านั้น”

ปฐมาดีใจที่ท่านหญิงมาด้วย ศักดินัยถามปพนว่าจำได้ไหมฐิติพาลูกสาวตน ปพนชมว่าคุณหญิงงดงามมาก มีเค้าท่านชาย

“เสียดาย มีลูกสาวแค่คนเดียว ท่านนายพลยังมีทั้งลูกชายและลูกสาว”

“มาพอดีเพคะ ลูกสาว วรดา” วรดาเดินเข้ามา ปฐมาแนะนำ วรดาไหว้ศักดินัยอย่างอ่อนน้อม น่ารัก

เมื่อบ่าวพาฐิติพาเข้าพักในห้องพักแขกมีบ่าวหญิงคอยรับใช้อยู่ ฐิติพาสั่งให้รื้อเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า

ศักดินัยทักว่าถ้าหญิงต้องเดินทางไปเรียนเมืองนอกอาจจะต้องเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองมากกว่านี้ ฐิติพาบอกว่าตนไม่ไป ไม่ชอบนั่งเรือไกลๆ กลัวเมาเรือ แล้วเปลี่ยนเรื่องถามอย่างข้องใจว่า

“ท่านพ่อคะ นายปภาคินนี่ ที่ท่านพ่อว่าเคยดูแลตอนเขาไปอังกฤษใหม่ๆ ทำไมท่านพ่อไม่แนะนำหญิงให้รู้จักก่อนหน้านี้ ท่าทีน่าเอ็นดูมาก หญิงเห็นหน้าแล้วนึกชอบเลย”

“เห็นจะช้าไปแล้วลูกพ่อ มะรืนนี้ก็จะถึงวันแต่งงานของเขาแล้ว”

“การแต่งงานก็คือพิธีอย่างหนึ่ง อาจจะไม่ได้ผูกพันความรักของคนได้สักเท่าไหร่มิใช่หรือคะ”

“จริง การแต่งงานกำหนดเส้นทางชีวิตรักของคนเราไม่ได้หรอก เพราะจิตใจของคนเรามันเตลิดเปิดเปิงได้ง่าย อยากมี อยากเป็นก็ระงับดับได้ยาก แต่ถ้าเรารักตัวเองพอ รักศักดิ์ศรีของเราให้มาก ก็ทำให้เรารู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรได้ลูก”

ศักดินัยพูดเหมือนเตือนสติ ถูกฐิติพาค้อนอย่างขัดใจ ตัดบทว่าตนไปดูเขารื้อของจากกระเป๋าดีกว่า เดี๋ยวชุดที่เตรียมมาจะสวยไม่พอ แล้วเดินเปรี้ยวเข้าไปในห้อง

ooooooo

วันนี้ฉัตรชนกกลับบ้านค่ำกว่าปกติเพราะทำงานวันสุดท้ายแล้วต้องทำทุกอย่างให้เรียบร้อย บ่นว่าสงสารนักเรียน แต่ตนเลือกแล้ว กระนั้นก็ยังตัดใจยาก

ฉัตรชนกเห็นแม่มีแผล ถามว่าแผลอะไร นวลอนงค์บอกว่ารถล้มถลอกนิดหน่อย ฉัตรชนกขอให้แม่เลิกทำงาน นวลอนงค์ถามว่าคุณปภาคินแต่งงานกับฉัตรจะให้เขาเลี้ยงเราทั้งครอบครัวได้ยังไง เกรงใจเขา

ฉัตรชนกถามว่าจะให้ตนนอนสบายอยู่ได้ยังไง ในเมื่อไม่รู้ว่าวันนี้แม่กลับบ้านหรือยัง เป็นยังไงบ้าง บอกแม่ให้ฝากผักไปขายกับป้าที่ตลาด และแม่ก็ไม่ต้องไปทำอาหารแล้ว เพราะคุณใหญ่จะให้เงินตนทุกเดือนตนจะแบ่งให้แม่ นวลอนงค์บอกว่า แม่อยากพึ่งกำลังของตัวเอง

ฉัตรชนกขอร้องแม่ให้รับปากได้ไหมว่าแม่จะเลิกทำงาน รู้ว่าแม่ตัดใจยาก แต่เมื่อคนที่เรารักมากที่สุดคนหนึ่งขอร้อง ตนก็ต้องเลือก ฉัตรชนกขอร้องจนนวลอนงค์รับปากว่า พรุ่งนี้แม่จะไปลาออกกับทางนายห้าง

ooooooo

กานติมาไปเคาะประตูห้องเรียกกนกแขให้ออกมาลองชุดที่ส่งมาจากพระนคร กนกแขเปิดประตูมาบอกว่าตนไม่อยากไปงานแต่งงานนี่เลย กานติมาบอกว่าถ้าไม่ไปทางโน้นได้ยิ้มเยาะกันสนุกไปเท่านั้น

กนกแขกระทืบเท้ากลับไปกระแทกตัวลงที่เตียง กานติมาตามมาบอกว่ามะรืนนี้พ่อใหญ่ก็จะแต่งงานแล้ว ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเขาได้แล้ว กนกแขถามเสียงสะท้านว่าแม่อยากให้ลูกไปยืนดูนังฉัตรมันชนะลูกใช่ไหม

“อย่าพูดอย่างนี้อีกนะแข ใครจะมาชนะลูกได้ ไม่ใช่เรื่องชนะหรือแพ้ ป้าปัทให้ลูกไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว ออกค่าเสื้อให้ทั้งชุดรดน้ำ ชุดกินเลี้ยง แม่สั่งร้านที่ตัดให้เราประจำจากกรุงเทพฯ ลูกไม่น้อยหน้าใครหรอก คนทั้งศรีราชาต้องเห็นว่าลูกเด่นที่สุดในวันงานแน่นอน”

กนกแขฟังแล้วเงยหน้ามองแม่อย่างมีความหวัง

คืนนี้ ขณะที่ฉัตรชนกกับแม่กำลังกินข้าว ธนาก็มาหาพร้อมห่อของ ฉัตรชนกกับนวลอนงค์ชวนกินข้าวด้วยกัน ธนาบอกว่าตนกินแล้วให้ฉัตรกินให้อิ่มก่อนตนรอได้

ธนาเพิ่งรู้ว่าฉัตรชนกลาออกแล้วเพราะคุณใหญ่ขอร้อง ธนาพยักหน้าบอกว่าสำหรับความรักของปภาคินฉัตรทำถูกแล้ว ต่อไปนี้ฉัตรคงสบาย ถามว่า พาแม่ไปอยู่ตึกเย็นด้วยไหม

“แม่ไม่ยอมไปจ้ะ อยู่ที่นี่แม่น่าจะสบายใจกว่า

ธนาแวะมาเยี่ยมแม่บ้างก็ได้ ฉัตรก็ว่าจะแวะมาค้างกับแม่บ่อยๆเหมือนกัน” ธนาพึมพำว่าเราคงได้เจอกันอีก “เราเป็นเพื่อนกันตลอดไปจ้ะธนา”

ธนาส่งห่อของที่ถือมาให้บอกว่าเป็นของขวัญแต่งงานของฉัตรกับหมอปภาคิน ฉัตรชนกถามว่าทำไมไม่เอาให้ที่งานล่ะ ธนาบอกว่าตนติดอยู่เวรที่โรงเรียน แล้วลากลับมอบกล่องไม้ที่ทำด้วยมือสองกล่องให้

ฉัตรชนกเดินมาส่งและอวยพร “ขอให้ธนาโชคดีนะ”

เมื่อกลับมาที่โต๊ะอาหารแม่กินอิ่มแล้วเพราะฉัตรมัวคุยเสียนาน ฉัตรชนกบอกว่าหมู่นี้ไม่ค่อยได้เจอธนาแต่แปลกใจว่าทำไมเขาไม่เอาของขวัญไปให้ที่งาน แม่ถามว่าเขาเชิญธนาหรือเปล่าล่ะ

“เรื่องการ์ดเชิญ คุณแม่ของคุณใหญ่บอกว่าจัดการส่งให้หมดแล้วค่ะ”

แม่ว่าเขาอาจไม่ได้ส่งให้ธนา ฉัตรชนกว่าวันเลี้ยงวันเกิดคุณใหญ่กลับจากเมืองนอกยังเชิญธนาเลย

“แต่นี่เป็นงานแต่งงานระหว่างคุณใหญ่กับลูก ฉัตร...ใครๆก็รู้ว่าธนากับลูกเคยชอบพอกัน”

“แต่มันนานมาแล้วนะคะ ตอนนี้ธนาก็รักอยู่กับกนกแข”

“แม่กับลูกรู้ตรงกัน แต่เราไม่รู้หรอกว่าคนอื่น รับรู้อะไรบ้าง แม่ว่าบางทีลูกอาจจะต้องห่างๆ ธนาเอาไว้บ้าง กันคนเข้าใจผิด...” ฉัตรชนกถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแล้วตักข้าวกินข้าวต่อ

ooooooo

ขวัญอุมายังอยู่ที่โรงพยาบาล ธีรัชเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะเขาเอาผ้าชุบน้ำลูบหน้าลูบแขนให้อยู่นั้น ขวัญอุมาก็เพ้อ...

“ใจร้าย...คนใจร้าย...” ธีรัชพยายามเรียกให้รู้สึกตัว ขวัญอุมายังเพ้อ “คุณใหญ่...ฉัตรรักคุณใหญ่...” มือก็ไขว่คว้ามือธีรัชไปแนบแก้ม “อย่าทิ้ง...อย่าทิ้งฉัตร...คุณใหญ่”

ธีรัชเหมือนถูกดึงเข้าสู่อีกมิติหนึ่ง รู้สึกผูกพันลึกซึ้งกับเธอตอบไปในอารมณ์นั้นโดยไม่รู้ตัวว่า

“พี่ใหญ่ก็รักฉัตรค่ะ...”

ทั้งขวัญอุมาและธีรัชเหมือนก้าวข้ามประตูมิติกลับไปสู่อดีตอันเนิ่นนานในครั้งนั้น...

เช้าวันต่อมาธีรัชขับรถพาขวัญอุมากลับบ้าน สุดใจไปบอกวิยาดา วิยาดาสั่งให้ไปเรียกแป้นมาเผื่อช่วยกันขนของ ตัวเองรีบไปรับขวัญอุมาพาขึ้นไปพักข้างบน

วิยาดาชมว่าขวัญอุมาหน้าตาแจ่มใสเหมือนเดิมแล้วเล่าว่า ธีรัชเป็นห่วงมากตกน้ำถึงสองครั้งเลยตามไปเฝ้าไข้ ตนก็อยากไปเยี่ยมแต่เมื่อวานถ่ายทำที่นี่กันทั้งวัน วันนี้ก็ว่าไปถ่ายที่ไหนใกล้ๆนี่แหละ

ขวัญอุมาถามลูกปลาว่าคิวของตนอีกทีเมื่อไหร่ ลูกปลาบอกว่าอาทิตย์หน้าแต่ยังไม่รู้ว่าถ่ายที่ไหน

ขวัญอุมาบอกว่าตนไม่อยากเป็นภาระของใคร ตนแข็งแรงแล้วแต่คงต้องขอว่าไม่ยุ่งอะไรกับสระบัวจะดีกว่า

“ขวัญ...แต่ริมสระบัวอากาศดีมากนะ เช้าๆอย่างนี้มันไม่น่ากลัวอะไรสักนิด เดี๋ยวผมจะพาไปเดินดู”

ขวัญอุมาท่าทีหวาดหวั่น ธีรัชบอกว่าไปออกกำลังสักนิดจะดีไหม ลูกปลาได้ทีฝากธีรัชให้ดูแลขวัญด้วยตนขอนอนพักหน่อยเพราะเฝ้าขวัญที่โรงพยาบาลไฟสว่างนอนไม่เต็มอิ่ม ธีรัชบอกลูกปลาไปพักเลย ตนจะดูแลขวัญเอง และวิยาดาก็จะไปเตรียมน้ำชาไว้ให้

ธีรัชพาขวัญอุมาไปที่ริมสระบัวแดง ชี้ชวนให้ดูบัวแดงที่กำลังบานเต็มสระมีทั้งนกและแมลงบินถลารื่นรมย์ ขวัญอุมารำพึงว่าสวยเหมือนที่เคยฝันถึงเลย ธีรัชถามว่า

“ฝันถึงคุณใหญ่ใช่ไหม คุณอินมากเกินไป จนผมคิดว่าคุณกำลังตกหลุมรักเขา...” แล้วธีรัชก็เอ่ย

“พี่ใหญ่ก็รักฉัตรค่ะ...”

ทั้งสองเหมือนถูกดูดเข้าไปเป็นตัวพี่ใหญ่และฉัตร ต่างตกอยู่ในอารมณ์รักที่แสนหวาน แต่แล้วก็หลุดจากภวังค์เมื่อเสียงยายชุ่มแม่ของสุดใจไอแค่กๆ เดินมาที่สระบัวเหมือนจะเดินลงไปในสระบัว

ธีรัชรีบไปจับตัวไว้บอกให้ยายกลับไปที่ห้องก่อน ยายชุ่มสะบัดแขนอย่างไว้ตัวด้วยกิริยาสาววัยขบเผาะบอกว่าตนเพิ่งอายุ 17 จนธีรัชหัวเราะ บอกว่าสระตรงนี้ลึกเดี๋ยวตกน้ำตกท่าไป

ยายชุ่มในกิริยาของเด็กสาวบ่นว่านัดไว้กับนังป่านลูกน้าฉัตรที่ขายผักขายขนมที่ตลาดจะมาเก็บสายบัวทำไมถึงยังไม่มา ขวัญอุมาถามว่าตลาดไหน

“เอ๊า...ถามได้ตลาดปากน้ำโพนี่ไงล่ะ...ฉันขายปลามานานแล้วที่ตลาดปากน้ำโพ...แต่นังป่านมันเพิ่งจะย้ายมาอยู่ไม่นานหรอก ฉันก็ช่วยเก็บผักให้มันไปขายที่ตลาด มันเจ็บออดๆแอดๆทำงานไม่ได้ ยายมันก็แก่ สงสารมัน...นังป่านนี่สวยนะ สวยมาก พวกหนุ่มๆติดกันเกรียว แต่มันไม่สนใจใครเลย มันว่าผู้ชายเหมือนกันหมด หาดีไม่ได้”

“โถ...คุณป่านนี่อกหักหรือคะ”

“ไม่ใช่มัน แม่มัน มันว่าแม่มันถูกพ่อมันทิ้ง เขาว่าเป็นผู้ลากมากดีมีเงินด้วยนะ” ขวัญอุมาถามว่าคุณป่านก็ต้องเสียใจมากสินะ “ตอนนั้นเหรอ มันเป็นวุ้นอยู่ไม่รู้อะไรหรอก มารู้ทีหลังว่าแม่มันหนีพ่อมันมา ทนความร้ายไม่ได้ ไอ้ผู้ชายหลายใจเอาเมียน้อยขี้โกหกมาอยู่ในบ้านจนบ้านลุกเป็นไฟ พ่อมันคงไม่รู้ว่ามีลูกแล้ว”

ยายชุ่มยังเล่าอย่างติดลมว่า “มันเคยชวนฉันเป็นเพื่อนไปหาพ่อมันเพราะได้ยินแม่กับยายมันคุยกัน รู้ชื่อ...รู้บ้าน” ขวัญอุมาถามว่าชื่ออะไร บ้านอยู่ไหน “ชื่อ...ปะ...”

“แม่! มาอยู่นี่เอง โอย...ตกใจตามหาเกือบแย่” เสียงสุดใจขัดจังหวะขึ้น ยายชุ่มแหวใส่ว่าเรียกใครแม่ สุดใจบอกว่าก็แม่นี่ไง แล้วเอากระจกส่องหน้าให้ดู

ยายชุ่มเห็นหน้าในกระจกเป็นคนแก่ก็ตกใจ กลับมาเป็นปัจจุบัน ด่าสุดใจว่าทะลึ่ง สุดใจจึงประคองแม่พากลับบ้าน

ขวัญอุมากลับถึงห้องพักก็ปิดประตูปัง เอาสมุดบันทึกของตัวเองออกมา ลูกปลาถามว่าจะทำอะไร

“ต้องบันทึกมั่ง มีเรื่องที่น่าสนใจ น่าติดตามต่อไป” ลูกปลาแซวว่าตกลงจะเป็นนักเขียนหรือนักข่าวดี

ขวัญอุมาพูดจริงจังว่า “เป็นนักค้นหาความจริง” ลูกปลาถามว่าได้ข้อมูลอะไรมาอีกหรือ

“ชื่อจริงๆของโฉมเฉลาตามบันทึกของปภาคินที่เขียนไว้เธอชื่อฉัตรชนกต้องเป็นคนเดียวกันแน่ๆ วันนี้ฉันเห็นยายชุ่มแม่ของสุดใจแม่บ้านของที่นี่พูดถึงฉัตร ฉัตรอะไรก็ไม่รู้ เลยจดไว้ก่อน...แกพูดถึงคนชื่อฉัตร ชื่อป่าน และปากน้ำโพ จดไว้ก่อนเผื่อเกี่ยวกัน”

วันแต่งงานของปภาคินกับฉัตรชนกมาถึงแล้ว พิธีจัดอย่างพิถีพิถันและอลังการ

ปภาคินกับฉัตรชนกเดินเข้ามาในห้องพิธีด้วยกันโดยมีกนกแขกับวรดาเป็นเพื่อนเจ้าสาว

ศักดินัยเป็นประธานในพิธี มองนวลอนงค์ที่เดินตามปฐมาเข้ามาคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นคนที่เจอกันเมื่อวาน วรดาเชิญนวลอนงค์ไปนั่งและแนะนำแก่ศักดินัยว่าเป็นคุณแม่ของครูฉัตร และแนะนำนวลอนงค์ว่า

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 6 วันที่ 8 ม.ค.62

ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินิน
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ